วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 544 ต้องตายกันข้างหนึ่ง



ตอนที่  544  ต้องตายกันข้างหนึ่ง

ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ผ่าหมวกเกราะระดับศักดิ์สิทธิ์ของเฮยหูเข้าถึงกระหม่อมของเขา
ขณะเดียวกันผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ก็หวดกระแทกเข้าที่ท้องของเขา

เฮยหูเพิ่งดิ้นรนหลุดพ้นจากทักษะแฝงเร้นโซ่ล่องหนของเสี่ยวเหวินหลี  เขาปลดปล่อยพลังของเขาในทันที ส่งผลให้เย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนลอยละลิ่วขึ้นไปในอากาศ  จักรพรรดินีราตรีปรากฏตัวทันที  เงาร่างที่งดงามของนางปรากฏอยู่ด้านหลังเย่ว์หยาง  นางโบกมือที่ละเอียดอ่อนทำให้ดวงดาวในสนามพลังดารานภากาศไหลมารวมอยู่ด้านหลังนาง ก่อเกิดเป็นดาวตกนับไม่ถ้วน  ดวงดาวเหล่านั้นสร้างแรงดึงดูดสนามพลังไม่มีสิ้นสุดและดูดซับพลังของเฮยหูไว้ได้ทั้งหมด  และดาวเหล่านั้นยังลากร่างหยาบของเฮยหูซึ่งถูกขนาบด้วยดาบเทพจักรพรรดิอวี้และผนึกเทพจักรพรรดิอวี้  เฮยหูสูญเสียการควบคุมพลังทั้งหมด  เกราะระดับศักดิ์สิทธิ์ของเขาเริ่มหลุดลุ่ยกระจายออกไปช้าๆ  ภายใต้พลังของอาวุธระดับเทพทั้งสองและพลังกดดันของสนามพลังดวงดาว
กล้ามเนื้อของเฮยหูแตกระเบิด แม้แต่กระดูกของเขาก็กำลังแตก
ครั้งหนึ่งเย่ว์หยางเคยมีประสบการณ์แรงโน้มถ่วงร้อยเท่าของซิวคงมาแล้ว  อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับสนามพลังดารานภากาศของจักรพรรดินีราตรี แรงดึงดูดของดวงดาว แรงโน้มถ่วงร้อยเท่าที่น่ากลัวดูเหมือนจะด้อยกว่าอยู่บ้าง
แน่นอน ขณะนั้นซิวคงเพิ่งจะเป็นอิสระจากผนึกเทพจักรพรรดิอวี้  ดังนั้นเขายังอ่อนแอและยังไม่ฟื้นคืนพลังที่แท้จริงของเขา  ถ้าไม่อย่างนั้น เย่ว์หยางอาจไม่เจอแค่เพียงแรงโน้มถ่วงร้อยเท่า  แต่อาจจะเป็นสองร้อยเท่า  สามร้อยเท่าหรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้
ส่วนแรงดึงดูดของดวงดาวที่จักรพรรดินีราตรีสร้างมีผลเพียงพอต่อเฮยหู ที่ถูกอาวุธระดับเทพถึงสองชิ้นขนาบอยู่
ความตั้งใจเดิมของจักรพรรดินีราตรี ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเฮยหู
สิ่งที่นางต้องการจริงๆ ก็คือความสำเร็จในการสร้างโอกาส
จื้อจุนเป็นยมทูตคนสุดท้ายอย่างแท้จริง
วงเวทอักษรรูนกับดวงดาวแพรวพราวหกดวงปรากฏอยู่บนหลังของเฮยหู  มิติค่อยๆ แตกแยก  ทุกอย่างรวมทั้งเกราะหมวกของเขา, ผิว เลือด เนื้อ รวมทั้งพลังงานด้วยเช่นกันถูกกระสุนดำสูบออกไป  กระสุนดำหลายลูกถูกควบแน่นให้เล็กกว่าเดิมและถูกยิงออกไปจากฝ่ามือของจื้อจุนขณะที่นางปล่อยออกไป
เฮยหูได้แต่มองดูกระสุนดำที่น่ากลัวยิงทะลุอกของเขา...
 “อ๊า...”
ความกลัวตายท่วมจับใจเขา
ในช่วงเวลานี้ เขาไม่ได้ตอบโต้คืน  ท่าทางของเฮยหูแค่ต้องการจะหนี
เขาตกลงไปในกับดักของศัตรู  ถ้าเขาไม่หลบหนีโดยเร็ว  เขาอาจต้องตายทันที  เฮยหูไม่ได้ใคร่ครวญถึงสาเหตุที่ศัตรูตัดสินใจล้อมเขาเป็นเป้าหมายแรกก่อน ไม่ได้ใคร่ครวญถึงเหตุผลที่ชางเหยียนไม่ได้รีบตามมาช่วยเขา  เขาไม่ได้คิดถึงเหตุผลที่คุณชายสามตระกูลเย่ว์มีอาวุธระดับเทพอยู่สองชิ้น ซึ่งตัวเขาเองไม่สามารถหามาได้  เขาไม่ได้คิดกระทั่งอาการบาดเจ็บของตัวเขาเอง
เขาไม่มีเวลาคิด  อาศัยแต่สัญชาตญาณล้วนๆ  เฮยหูโดดลงบนพื้นด้วยกำลังทั้งหมดของเขา
เอาดำลงไปในพื้นแข็ง
เขาพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อกำจัดพลังจากดาบเทพจักรพรรดิอวี้และผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ออกไป  เฮยหูไม่รู้ว่าอาวุธเทพทั้งสองอย่างนี้คืออะไร  แต่เขารู้ดีว่าถ้าอาวุธอย่างไหนก็ตามปล่อยพลังออกมาได้จะเป็นเรื่องที่ร้ายแรง
ในเศษเสี้ยววินาที พื้นถูกแทนที่เฮยหูและกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของพลังดึงดูดดวงดาว
ขณะที่เฮยหูยังคงขุดพื้นลงไปในใต้ดินอย่างบ้าคลั่งต่อไป
เฮยหูไม่เคยคิดว่าเขาต้องดิ้นรนหลบหนีเหมือนกับตัวตุ่น  อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เขาหลบหนีไปได้  ไม่ว่าตอนนี้เขาจะมีลักษณะน่าเกลียดเพียงไหนก็ตาม  แต่นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว! ใช่แล้ว มุดดินเป็นเรื่องน่าเกลียดเมื่อเทียบกับบินอยู่ในอากาศอย่างสง่างาม  บินหนีน่ะหรือ?  มุดดินเป็นเคล็ดเอาตัวรอดที่ดีที่สุด
นี่เป็นเพราะ นอกจากดาบเทพจักรพรรดิอวี้กำลังรอโจมตีใส่เขาอยู่แล้ว  ยังมีพลังแสงทำลายล้างที่น่ากลัวและแรงดึงดูดดวงดาวจากสนามพลังดารานภากาศอีกด้วย
ไม่ว่าเฮยหูจะโง่เพียงไหน แต่เขาจะไม่บินหนีทางอากาศซึ่งเขาอาจถูกโจมตีได้ง่ายกว่า
 “ย่ำเจ้าให้ตาย!  เด็กสาวยักษ์ไม่ทันตั้งตัวได้ก่อนนั้น  แต่ตอนนี้นางตั้งหลักได้แล้ว นางเห็นพื้นสั่นสะเทือนตรงไหนก็ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบย่ำลงไปตรงนั้น
 “โอ๊ย..” เฮยหูรู้สึกเหมือนกับว่าทั่วทั้งตัวของเขาถูกแมมม็อธยักษ์หมื่นตัวย่ำใส่  กระดูกของเขาลั่นด้วยความเจ็บปวด
 “เหยียบ เหยียบ เหยียบ เหยียบ เหยียบ เหยียบ...”  เด็กสาวยักษ์เหยียบย่ำพื้นอย่างบ้าคลั่ง  นางโจมตีใส่เฮยหูที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน  ความโกรธของนางและแรงกระทืบที่รุนแรงทำให้สมรภูมิโบราณสั่นสะเทือนไปหมด  ราวกับว่าแผ่นดินไหว 10 ริคเตอร์ ปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกและพะยูนนรกที่อ่อนแอที่สุดถึงกับเสียหลักแม้ว่าพวกมันจะสู้อยู่ในระยะไกล
เย่ว์หยางไม่มีเวลาหันไปดูจักรพรรดินีราตรี มือข้างหนึ่งจับมือขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน และอีกข้างหนึ่งจับมือเสวี่ยอู๋เสีย
ปราณของกระบี่เทพจักรพรรดิอวี้ตัดขวางลงบนพื้นทำให้พื้นดินแตกแยกและมีรอยร้าว
ขณะที่เสวี่ยอู๋เสียหนุนเสริมผนึกเทพจักรพรรดิอวี้โดยใช้คัมภีร์โบราณ
หลังจากเพิ่งถูกโจมตี  นางค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบ นางรอโอกาสโจมตีรอบต่อไป
ผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ไม่เหมือนกับดาบเทพจักรพรรดิอวี้  มันไม่สามารถโจมตีเมื่อใดก็ได้  อย่างไรก็ตาม มันจะทรงพลังมากขึ้นทุกครั้งที่โจมตี
จักรพรรดินีราตรีซ่อนตัวนางเองอีกครั้ง และนางหายตัวไป
เหมือนกับว่านางไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน
จื้อจุนเหลือบมองชางเหยียนอย่างเย็นชา  เขายืนมองการต่อสู้จากในระยะไกล  นางค่อยๆ บินตรงไปหาศัตรูเจ้าเล่ห์ผู้นี้
ชางเหยียนไม่แสดงอารมณ์อะไรมากนัก  เหมือนกับว่าเขาไม่เห็นว่าสหายของเขากำลังถูกเล่นงาน  อย่างไรก็ตาม ลึกลงไปในใจเขา  เขามีอารมณ์พลุกพล่านหลากหลาย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการช่วยสหาย  แต่เขาเดาว่า  ถ้าเขาช่วย เขาอาจตกลงไปในกับดักของศัตรูและตกเป็นเป้าหมายโจมตีแทนเฮยหู
จื้อจุนนั้นและจักรพรรดินีราตรีไม่ทุ่มเทพลังฆ่าเฮยหู.. นี่หมายความว่ายังไง?
เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาต้องเป็นเขาแน่นอน
แค่เพียงเพราะเขาไม่ติดกับดัก  ดังนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนไปโจมตีเฮยหู!
ชางเหยียนสั่น และลอบอุทานกับตัวเองในใจว่าเขาช่างโชคดี  ถ้าเขาไม่สามารถคิดอย่างใจเย็นและวิ่งเข้าไปช่วยเฮยหูในตอนนี้  เขาคงจะลำบากหนักอย่างแน่นอน
 “พวกเจ้าภูมิใจในตัวเองมานานแล้วไม่ใช่หรือ”  จู่ๆ ชางเหยียนก็ชักไม้เท้าหวนกลับออกมา  แสงสายหนึ่งยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสแห่งตำหนักไฟ  ความจริงคือเขาทิ้งสหายและหลบหนีไปจากซากสมรภูมิโบราณตามลำพัง  การกระทำเช่นนี้ทำให้หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงตะลึง  ไม่ใช่เป็นเพราะไม่เคยมีทหารหนีทัพจากแดนสวรรค์  แต่นักสู้ปราณฟ้าระดับห้าผู้ทรงพลังหนีการต่อสู้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน
อาจกล่าวได้ว่าการหนีจากสังเวียนมรณะมาแดนสวรรค์อาจถูกมองได้ว่าเป็นการยืมอำนาจกฎรหัสโบราณเอาชนะศัตรู
อย่างนั้นตอนนี้ การหนีไปขณะที่นักสู้ยังคงมีเปรียบก่อนที่สถานการณ์จะย่ำแย่ ถือเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ
 “รีบฆ่าเฮยหูเร็ว  เจ้านั่นกำลังไปเรียกกำลังเสริม”  เย่ว์หยางรู้ว่าชางเหยียนมีนิสัยชั่วร้าย ต้องการจะแก้แค้นอย่างแน่นอน  เย่ว์หยางรู้ว่าเฮยหูคงไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดายแน่  เขารีบเตือนทุกคน  “พวกที่เป็นปราณฟ้าระดับต่ำออกไปอยู่ห่างๆ  ระวังเฮยหูจะดิ้นรนเฮือกสุดท้าย”
 “เข้าใจแล้ว”  ไม่เพียงแต่จักรพรรดิใต้พิภพเท่านั้น  แม้แต่หวงฉวนและสหายของเขาก็เชื่อฟังคำพูดของเย่ว์หยางในเวลานี้
เด็กสาวยักษ์หยุดย่ำพื้น  ขณะที่นางจ้องดูพื้นอย่างระมัดระวัง
สีหน้าที่น่ารักของนางเหมือนกับเด็กหญิงน้อยกำลังสังเกตดูที่ๆ จะมีแมลงสาบออกมา
ของเหลวสีน้ำเงินเริ่มผุดออกมาจากพื้นที่เต็มไปด้วยร่องรอยที่เกิดจากดาบเทพจักรพรรดิอวี้  นี่ไม่ใช่น้ำพุไม่ใช่ทั้งน้ำทะเล...  เป็นน้ำที่ออกมาจากซากสมรภูมิโบราณ ต้องเป็นการกระทำของเฮยหูแน่นอน
น้ำสีน้ำเงินผุดออกมามากทุกที  ตอนแรกก็เหมือนกับน้ำพุ ยังมีไม่มาก  แต่บางครั้งก็ผุดขึ้นมามากเต็มพื้น  ในที่สุดในพื้นที่ก็เต็มไปด้วยของเหลวสีน้ำเงิน  จนดูเหมือนกับทะเลสาบน้ำลึก  ปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกและพะยูนนรกได้พลังรบเพิ่มขึ้นทันที
จื้อจุนขมวดคิ้วเล็กน้อย และยังคงเงียบอยู่
กลับเป็นจักรพรรดินีราตรีส่งเสียงเตือนอย่างไพเราะ  “นี่คือสนามพลัง และเป็นสนามพลังชนิดที่ช่วยให้เปลี่ยนสภาพร่างกายได้”
เย่ว์หยางชักดาบฮุยจินมาถือว่า บัวเพลิงฟ้าพิโรธลุกโชนเต็มท้องฟ้า  ดวงไฟพุ่งเข้าโจมตีใจกลางทะเลสาบน้ำเงินเหมือนกับอุกกาบาต
ทะเลสาบสีมืดไร้ชีวิตฉีดสายน้ำพุ่งรุนแรงสูงถึงสิบเมตร หยุดการโจมตีของบัวเพลิงฟ้าพิโรธไว้ได้
น้ำและไฟปะทะกันในอากาศ
มีเสียงประหลาดดังก้อง
ไอน้ำสีน้ำเงินมากมายพวยพุ่งออกมาจนเต็มไปทั่วสนามรบ
ภูตเพลิงดินผู้ไม่กลัวอะไรออกจากพื้นที่ทะเลสาบน้ำเงินด้วยความรังเกียจ  นางใช้พายุของนางพัดแก๊สสีน้ำเงินออกไปไม่ต้องการให้มันมาใกล้ตัวนาง
ร่างของเฮยหูลอยขึ้นมาจากทะเลสาบลึกสีน้ำเงิน
สารรูปของเขาโทรมและรุ่งริ่ง
เลือดไหลจากศีรษะของเขา มีรูใหญ่ที่หน้าอกของเขา  ใครๆ ก็สามารถเห็นได้ชัดจากด้านหน้ารูและด้านหลัง  อวัยวะภายในของเขาหายไป
แม้ว่าเฮยหูจะมีบาดแผลลึก  แต่เขาก็ยังไม่ตาย  เขาไม่ได้โกรธ แต่พูดตรงๆ กับจื้อจุนแทน  “ถ้าข้าไม่ตายวันนี้  อย่างนั้นข้าขอสาบานว่าจะกำจัดสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในทวีปมังกรทะยานให้หมดสิ้น”  จากนั้นเขาหันหน้ามาที่สนามพลังดารานภากาศและพูด “ข้าจดจำชื่อเจ้าได้แล้ว  จักรพรรดินีราตรี  เจ้าจะเป็นศัตรูที่ทำให้ข้าต้องระมัดระวังไปตลอดชีวิต  ใครก็ตามที่คิดข่มเหงเจ้า ล้วนเป็นตัวโง่ทั้งนั้น เหมือนกับข้าเมื่อก่อนนี้!  วันนี้เจ้าไม่ตายก็เป็นข้าสิ้น”
เย่ว์หยางฟังอยู่ชั่วขณะ  เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดถึงเขาเลยแม้แต่น้อย  เขาตัดสินใจเตือนเขา  “เฮ้ๆ ลุง, ข้ามีพรสวรรค์มากที่สุด  จะไม่ยกยอข้าบ้างหรือไง”
 “ไม่มีปัญหา  หลังจากข้าสังหารเจ้าแล้ว  ข้าจะร่ายสรรเสริญที่หน้าหลุมศพของเจ้าเป็นประจำทุกปี”  เฮยหูพยักหน้าและตอบ  “ไม่เคยมีมนุษย์คนใดที่ยังไม่เข้าถึงระดับปราณฟ้าสามารถเล่นงานข้าจนอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้  คนผู้นั้นคู่ควรแล้ว  บางทีเจ้าอาจเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ก็ได้  ไม่ว่ายังไงก็ตาม ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไป”
 “นั่นจะเป็นใครกันแน่?”  เย่ว์หยางขมวดคิ้วถาม
 “ข้าจะตอบเจ้าหลังจากเจ้าตายไปแล้ว”  เฮยหูยืนขึ้นตรงกลางทะเลสาบลึก  ค่อยๆ เพิ่มพลังของเขา  เขายังคงก้มหน้า  ดวงตาทองที่ได้รับบาดเจ็บสูญเสียการมองเห็นตอนนี้มีประกายอีกครั้ง  ขณะที่อาการบาดเจ็บจากดาบเทพจักรพรรดิอวี้  ขณะที่รูแผลตรงหน้าอกก็สมานตัวอย่างรวดเร็ว  “พวกเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่มีพรสวรรค์กันทุกคน  อย่างไรก็ตาม  ข้าจะบอกข่าวร้ายพวกเจ้าสักอย่าง  นั่นก็คือ ระยะห่างของระดับ  ระยะห่างของพลังไม่ใช่เรื่องที่พวกเจ้าสามารถรับมือได้ด้วยกลยุทธและจำนวนคน”
คลื่นพลังงานกระจายในอากาศ ทำให้ของเหลวสีน้ำเงินขึ้นไปเต็มอากาศ  ยักษ์น้ำตัวหนึ่งสูงเกินกว่าสองร้อยเมตรปรากฏขึ้น
ยักษ์น้ำสีน้ำเงินนี้ยืนอยู่กลางทะเลสาบ
พลังโจมตีของมันเพิ่มขึ้นทุกทีจนถึงขั้นปราณฟ้าระดับห้า
แม้ว่าจักรพรรดิใต้พิภพ  ผู้เฒ่าหนานกงและคนที่เหลือจะถามห่างออกไปสองสามกิโลเมตร  พวกเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันได้จนยากจะหายใจ
หวงฉวนและสหายของพวกเขารีบถอยไปโดยเร็ว  พวกเขาไม่สามารถต่อสู้โดยตรงกับรัศมีพลังอย่างนั้น
เด็กสาวยักษ์ต้องการจะรั้งอยู่  แต่ยักษ์น้ำเงินยื่นมือของมันที่เหมือนกับงูน้ำ แขนขนาดมหึมารัดแขนของเด็กสาวยักษ์ไว้และบังคับลากนางออกไปและเหวี่ยงนางกระเด็นไปเป็นกิโลเมตร  ผลก็คือไม่เพียงคนที่เห็นจะตะลึงเท่านั้น  แม้แต่เด็กสาวยักษ์ก็ยังมึนงงจากการล้มกลิ้ง  ไม่มีใครอยากเชื่อเลยว่าเด็กสาวยักษ์จะพ่ายแพ้ง่ายๆ เมื่อเทียบพละกำลังกับคู่ต่อสู้
ในฐานะที่เป็นเผ่าไตตันโบราณที่มีเกราะศึกไตตันปกป้องตัวนาง  เป็นไปได้อย่างไรที่นางแพ้เจ้าพวกที่สร้างขึ้นจากน้ำ?
 “ฮ้า..”  เด็กสาวยักษ์พุ่งเข้ามาต้องการจะสู้กับเขาอีกครั้งหนึ่ง
 “อย่าใจร้อน  เขากำลังใช้ประโยชน์จากพลังของเจ้า”  เย่ว์หยางสามารถบอกได้ แม้ว่ายักษ์น้ำเงินในทะเลสาบสีดำจะทน  แต่มันไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับเด็กสาวยักษ์ชาวเผ่าไตตันโบราณแน่นอน  มันเป็นแค่ยักษ์ที่เกิดขึ้นจากของเหลวและสามารถกำจัดพลังของคู่ต่อสู้เอามาใช้กับพวกเขาได้  ร่างกายที่โดดเด่นของยักษ์ของเหลวนี้ก็เหมือนกับโจมตีใส่มหาสมุทร เป็นการกระทำที่ไม่มีประโยชน์เลย
 “....”  จื้อจุนยังคงเงียบ
 “ในช่วงนี้ข้ายังไม่มีวิธีแก้ดีๆ เลย  เย่ว์หยางน้อย  ข้าปล่อยให้เจ้าจัดการก็แล้วกัน”  จักรพรรดินีราตรีดูเหมือนไม่ต้องการเปลืองพลังงานจัดการกับยักษ์น้ำเงินซึ่งอยู่ในทะเลสาบดำ
 “ตกลง ก็ข้าเป็นหัวหน้าทีมนี่นา!  ความจริง เย่ว์หยางเป็นผู้เชี่ยวชาญต่อสู้ทางน้ำ
แน่นอนว่าความแข็งแกร่งเฉพาะตัวด้านนี้มีผู้รับรู้ไม่กี่คน  ทุกคนคิดว่าเย่ว์หยางครอบครองเพลิงอมฤตก็ย่อมถนัดในการใช้ไฟโจมตี
เขาโบกมือ
ไม่ใช่แค่เสี่ยวเหวินหลี เมดูซ่าศิลา นางเงือกวายุและอสูรอื่นๆ ปรากฏออกมา  เสวี่ยอู๋เสียที่ยืนสงบมาตลอดสามารถแสดงทักษะรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง  นางพลิกเปิดคัมภีร์โบราณชั้นแพลตตินัมของนางซึ่งได้ยกระดับจากชั้นทองและเรียกอสูรพิทักษ์ของนาง นางงามพายุหิมะผู้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับคัมภีร์โบราณ  ภายใต้ความช่วยเหลือพลังหยินของเย่ว์หยาง  สนามรบโบราณทั้งหมดกลายเป็นโลกหิมะน้ำแข็งทันที
สายลมพัดหวีดหวิว
หิมะเต็มท้องฟ้า
 

12 ความคิดเห็น:

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

chaidet076 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เฮียได้หมดทุกธาตุ น้ำ ไฟ ดิน สายฟ้า ฯลฯ

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

ฮิฮิ อยากเห็นยักษ์ทองกระทืบยักษ์น้ำจัง เพราะถ้าจำไม่ผิดยักษ์ทองก็สูง 200 เมตรเช่นกันนิ

aloha777 กล่าวว่า...

บทพี่เย่ว์โดนสาวๆกลบหมดจริงๆ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น