ตอนที่ 7-9 แหวนมิติเก็บสมบัติ
“เอามันมา, เร็วเข้า!”
เคลย์เดือดดาลจัดจนหน้าและคอแดง
เขาคำรามลั่น “แหวน, เก็บแหวนนั่นมา
เอาแหวนคืนมา!
ใครก็ตามเอามันกลับมาได้จะได้รางวัลล้านเหรียญทอง!”
เมื่อสมาชิกกองกำลังพายุสายฟ้าได้ยินคำว่า
“ล้านเหรียญทอง” แววโลภปรากฏอยู่ในดวงตาพวกเขา
อัศวินผู้ทรงพละกำลังทั้งหมดเริ่มรวมกลุ่มโจมตีใส่ลินลี่ย์
และหัวหน้าหน่วยพายุสายฟ้าไกเซอร์เป็นคนแรกที่บุกจู่โจมใส่เขา
“แหวน, เอ่? ดูเหมือนจะมีค่ามากจริงๆ นะ” เมื่อเห็นว่าเคลย์แทบคลั่งเพียงไหน ลินลี่ย์อดหัวเราะเย็นชาไม่ได้ เขาถอยหลังด้วยพลังขาที่ทรงพลังอย่างรวดเร็ว ลินลี่ย์ดึงแหวนออกมาจากมือที่ถูกตัดจากนั้นสวมไว้ในนิ้วตนเอง
“ลินลี่ย์, นี่คือแหวนมิติเก็บสมบัติ!” เดลิน โคเวิร์ทตื่นเต้น ด้วยวิญญาณที่ทรงพลังของเขา เดลิน
โคเวิร์ทสัมผัสได้ถึงความพิเศษมากของแหวนนี้
แหวนมิติเก็บสมบัติเป็นสมบัติที่ประมาณค่ามิได้, ลินลี่ย์ก็ตกใจเช่นกัน
เขาคิดว่าแหวนวงนี้คือสิ่งที่คล้ายๆ
กับแหวนตกทอดประจำราชตระกูลเฟนไล
ไม่คิดเลยว่าจะเป็นมิติเก็บสมบัติจากในตำนานที่เล่าลือกัน
แหวนมิติเก็บสมบัติเป็นของที่หาได้ยากอย่างยิ่ง
แม้แต่คาร์ดินัลจากศาสนจักรเจิดจรัสก็มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ครอบครองแหวนมิติเก็บสมบัติ
ไม่มีใครโง่พอจะขายแหวนมิติเก็บสมบัติเป็นแน่
และเมื่อแหวนมิติเก็บสมบัตินี้ถูกทำสัญญาด้วยเลือดของเจ้าของแหวน
ก็ไม่มีทางที่ใครจะใช้แหวนนี้ได้
นี่คือที่เก็บสมบัติที่ดีที่สุด
แน่นอนว่ามีเพียงวิธีเดียวที่จะเปิดแหวนมิติเก็บสมบัติได้
ก็คือฆ่าเจ้าของแหวน เมื่อเจ้าของแหวนตาย
แหวนมิติเก็บสมบัติจะกลับคืนสู่สภาพเป็นวัตถุไร้พันธสัญญา เมื่อถึงตอนนั้น
ใครก็ตามที่ทำสัญญากับแหวนมิติเก็บสมบัติอีกครั้ง
ก็จะได้ครอบครองสมบัติภายในแหวนไปด้วย
“วืดดดด!”
ไกเซอร์ถือดาบยักษ์ในมือเล็งลินลี่ย์เขม็งราวกับจะแทงฝ่าอากาศ
พร้อมกับแรงระเบิดที่แทบถล่มทลายภูเขาได้ ดาบยักษ์แหวกผ่านอากาศและส่งเสียงหวีดหวิวน่ากลัวขณะที่พุ่งเข้าหาลินลี่ย์
ลินลี่ย์สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีแสงสีแดงไหลเวียนอาบผิวของดาบ
นี่คือพลังที่ไม่สามารถป้องกันได้
“วืดด” ลินลี่ย์กระโจนหลบไปอยู่ในตำแหน่งอื่นอย่างรวดเร็ว
“บึ้ม!”
กำแพงที่ลินลี่ย์ยืนอยู่เมื่อครู่ถูกอัดกระแทกด้วยพลังที่น่ากลัวของดาบและกำแพงแถบหนึ่งระเบิดออกมาโดยมีจุดพลังดาบเป็นศูนย์กลาง กำแพงในระยะร้อยเมตรระเบิดถล่มทลาย
“ทรงพลังมาก!”
ลินลี่ย์ลอบทึ่ง
ห่างไกลออกไป
ภายใต้การปกป้องขององครักษ์ที่เหลือ
เคลย์ไม่สนใจความเจ็บปวดในมือของเขาที่ถูกตัด เขายังคงตะโกนสั่งการลั่น “เร็วเข้า,
เอาแหวนกลับมาให้ข้าเร็วๆ!”
เคลย์ใกล้จะบ้าเต็มที
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าลินลี่ย์จะไม่สามารถเปิดแหวนมิติเก็บสมบัติได้ก็ตาม ถ้าแหวนตกอยู่ในมือของลินลี่ย์
แม้ว่าเคลย์จะเป็นเจ้าของก็ตาม เขาก็ไม่สามารถเข้าถึงรายการต่างๆ ภายในแหวนได้
สองพันสองร้อยล้านเหรียญทอง! อัศจรรย์จริงๆ นั่นเป็นจำนวนเงินมหาศาล
สมบัติราชตระกูลที่สะสมมาหลายพันปี เพราะสมบัติและความมั่งคั่งเหล่านี้ถูกชิงไป
ยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้เขายิ่งกว่าถูกฆ่าเสียอีก
บึ้ม!
กำแพงถล่มไปแถบหนึ่ง
อสูรเวทขนาดมหึมาตัวหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในพื้นที่กลางวัง
มันเดินผ่านกำแพงราวกับว่ากำลังเดินบนพื้นที่ราบ กำแพงถล่มลงทีละแถบๆ เหมือนกับว่าถูกสร้างขึ้นมาจากโคลน
อสูรเวทตัวมหึมานี้สังเกตเห็นเคลย์และลินลี่ย์แล้ว และมันคำรามอย่างตื่นเต้น
“โกรววววว!”
“หมีลายม่วง!” เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคย
ลินลี่ย์ไม่ได้กลัวเท่าใดนัก
บางทีคงเป็นเพราะเขายังคงจำพลังที่น่ากลัวของหมีลายม่วงระดับเซียนในหุบเขาหมอกได้
ว่ากันในเรื่องของขนาด หมีลายม่วงตัวนี้มีขนาดพอๆ
กับหมีลายม่วงระดับเซียนที่เขาพบในหุบเขาหอก
แต่ลินลี่ย์รู้สึกว่ากลิ่นอายที่หมีตัวนี้แผ่ออกมายังไม่น่ากลัวเท่า
หมีลายม่วงตัวนี้เป็นตัวเดียวกับที่ฆ่าดยุคโบนัลท์และครอบครัวของเขา ตอนนี้มันเริ่มบุกโจมตีวัง
เมื่อได้เห็นลินลี่ย์และกลุ่มของเคลย์
ตอนนี้มันดีใจวิ่งทะลุวังตรงมาทางพวกเขาและคำรามอย่างมีความสุข
“ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ!”
หมีลายม่วงเป็นเหมือนเครื่องจักรที่สร้างขึ้นมาเพื่อสงคราม
ด้วยขนาดร่างสูงพอๆ กับอาคารสามชั้น กับอุ้งเท้าขนาดใหญ่และหนา
ต่อให้กำแพงที่ทนทานที่สุดก็ยังแตกกระจุยเมื่อมันใช้อุ้งเท้าตบใส่เพียงครั้งเดียว และในตอนนี้เป้าหมายของหมีก็คือลินลี่ย์และกลุ่มของเคลย์
“เคลย์, เจ้าต้องการแหวนใช่ไหม? ถ้าเจ้ามีความสามารถพอ ก็มาเอาไปได้เลย” ลินลี่ย์ตะโกนลั่นขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
“บีบี เจ้าไปรับมือนักรบคนอื่น ส่วนไกเซอร์ผู้นี้ ข้าจะรับมือเอง”
ลินลี่ย์สั่งทางจิต
“ได้เลยเจ้านาย, คอยดูข้าให้ดี” บีบีตื่นเต้นรีบพุ่งเข้าหากลุ่มนักรบนั้นทันที
การร่วมผนึกพลังโจมตีของนักรบเหล่านั้นส่วนใหญ่จะใช้กับศัตรูที่มีร่างมนุษย์โดยเน้นโจมตีที่ร่างกายของศัตรู พวกเขาไม่เคยใช้โจมตีกับอสูรเวทอย่างบีบีซึ่งมีร่างเล็กเลย
และมันมีความเร็วและทนได้อย่างน่าทึ่ง
บีบีสยายกรงเล็บที่ร้ายกาจของมันออกและตวัดใส่อย่างโหดเหี้ยม
“ฉัวะ” มันฟันใส่คอนักรบระดับแปดไปครึ่งคอ
เลือดฉีดพุ่งรุนแรง ศีรษะนักรบคนนั้นห้อยลงเหลือแต่หนังบางๆเชื่อมกับร่างกายเท่านั้น
“ฮึ่มมม”
ตาไกเซอร์กลายเป็นสีแดงและเขาตวาดด้วยความโกรธและใช้ดาบยักษ์ของเขาฟันใส่ลินลี่ย์
แค่เพียงก้มลงลินลี่ย์ก็หลบได้ ขณะเดียวกันเขาวาดขาเตะราวกับพายุหมุน
แฝงด้วยพลังแหลมคมเหมือนมีด
ขาของลินลี่ย์ตวัดฟันใส่คอของไกเซอร์
ไกเซอร์หงายศีรษะหลบ
ขณะที่จะตอบโต้กลับ ท่าเตะของลินลี่ย์กวาดเฉียดใส่หน้าของไกเซอร์
ถ้าเข้าใกล้มากกว่านี้เขาจะสามารถฆ่าไกเซอร์ได้
ขณะที่ไกเซอร์หงายศีรษะหลบ เขาเตะโต้ตอบใส่ลินลี่ย์สุดกำลังเช่นกัน
แต่ลินลี่ย์ที่อยู่ในกลางอากาศไม่ได้หลบแต่อยางใด
“ควั่บ!”
หางยาวของลินลี่ย์หวดแหวกอากาศส่งเสียงหวีดหวิวใส่ไกเซอร์
การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า
ถ้าไกเซอร์ยังคงโจมตีใส่ลินลี่ย์ต่อไป อย่างนั้นการโจมตีของลินลี่ย์ก็จะฟาดใส่เขาเช่นกัน “ฮึ่ม”
ไกเวอร์เตะพื้นอย่างแรงทำให้เขาพุ่งถอยหลังด้วยความเร็วสูง
ขณะเดียวกันเขาขวางดาบยักษ์ในมือต้านรับหางของลินลี่ย์ ความเร็วของไกเซอร์ไวขนาดที่ในพริบตาเขาถอยได้ไกลเป็นร้อยเมตร
“ควั่บ!”
เมื่อไกเซอร์พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูง ตอนนี้ดาบยักษ์ในมือของเขาสั่นสะเทือน
และกลายเป็นดาบลวงตาถึงหกเล่มทำให้ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าจะป้องกันได้อย่างไร
“อ๊า!”
บีบีสังหารนักรบอีกคน นี่คือนักรบระดับเจ็ด
มันใช้เขี้ยวขย้ำกะโหลกของเขา
นี่คือเหยื่อสังหารรายที่เจ็ดของบีบี
ความตายของนักรบเหล่านี้ยิ่งมทำให้ไกเซอร์โกรธ
เขาอบรมสั่งสอนทหารในกองกำลังพายุสายฟ้าเหล่านี้เอง แต่ลินลี่ย์ยากจะรับมือได้
เขาไม่เพียงแต่โจมตีด้วยมือกับเท้าเท่านั้น แต่พลังโจมตีของหางเขาก็ยังน่ากลัวมาก และความทนทานของลินลี่ย์ก็สูงอย่างน่าทึ่งเช่นกัน
ยังนับว่าโชคดี....
ว่ากันในเรื่องประสบการณ์ต่อสู้และกลยุทธ
ลินลี่ย์ไม่อาจเทียบได้กับนักรบระดับเก้าที่แท้จริงซึ่งฝึกฝนมาเป็นเวลาเกินกว่าร้อยปี
“เร็ว เร็ว เอาแหวนคืนมาให้ได้!”
เคลย์ใกล้จะเสียสติเต็มที
ตอนนี้สถานการณ์โดยรวมไม่เป็นใจให้เขา ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาคงไม่มีโอกาสได้แหวนคืนมาแน่นอน
ภายในแหวนมิติเก็บสมบัติมีสมบัติที่ราชตระกูลสะสมไว้เป็นพันปี ต่อให้เขาตาย เขาก็จะไม่ยอมให้แหวนสูญหาย
“โกรววววว!”
ในที่สุดหมีลายม่วงก็มาถึง
และนักรบทุกคนกระจายตัวอยู่ใกล้ๆ แตกตื่น
ไม่มีใครกล้าบุกสู้กับมันก่อน การเข้าต่อกรกับอสูรเวททรงพลังระดับเก้าจำเป็นต้องได้นักรบระดับเก้าเป็นอย่างน้อย
และเนื่องจากอสูรเวทตามธรรมดาก็ทรงพลังมากยิ่งกว่ามนุษย์อยู่แล้ว
จึงมีแนวโน้มว่านักรบระดับเก้าคงได้แต่รับประกันว่าเขาจะไม่ตายเท่านั้น
ความจริงหมีลายม่วงตัวนั้นพอมาถึงก็ชะงักและเหลือบมองดูกลุ่มคนที่ปรากฏตัวในที่นั้น ปัญญาของอสูรเวทระดับสูงมิได้ด้อยกว่ามนุษย์แม้แต่น้อย
และอสูรเวทระดับเก้าอาจมีปัญญามากกว่ามนุษย์หลายคน
หมีลายม่วงตัวนี้สามารถบอกได้ว่าคนที่อยู่ต่อหน้ามันพวกนี้แบ่งแยกเป็นสองกลุ่ม
ฝ่ายหนึ่งมีเพียงคนเดียวและอสูรเวทตัวหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งเป็นอัศวินที่นำโดยบุรุษมือเดียว
และบุรุษมือเดียวดูเหมือนจะห่วงเรื่องแหวนมาก
หมีลายม่วงสามารถเข้าใจลิ้นภาษามนุษย์ แม้ว่ามันไม่สามารถพูดได้ แต่มันสามารถเข้าใจได้ แววตื่นต้นปรากฏอยู่ในดวงตาของหมีลายม่วง
“วู้ววว, วู้ววววว”
หมีลายม่วงปรบอุ้งเท้ามหึมาของมันเข้าด้วยกันอย่างตื่นเต้น จากนั้นมันพุ่งเข้าใส่ลินลี่ย์กับไกเซอร์ เมื่อเผชิญหน้ากับนักรบทุกคนในเส้นทาง
มันจะใช้อุ้งเท้าตบใส่อย่างไม่ปราณี
“อ๊า!” นักรบระดับแปดคนหนึ่งพยายามหลบอย่างเร่งร้อน ขณะเดียวกันแสงหยกเขียวปรากฏจากร่างของเขา
แต่แม้ว่าหมีลายม่วงจะไม่เคลื่อนไหว
อุ้งกรงเล็บของมันก็สามารถโจมตีด้วยความเร็วน่ากลัวได้ “ผลัวะ”
อุ้งเท้ามหึมาฟาดใส่นักรบระดับแปด
เสียงกระแทกที่ไม่น่าฟังดังขึ้นขณะที่ศีรษะของนักรบคนนั้นแตกกระจายทันที ปราณคุ้มครองของนักรบแตกสลายไปเช่นกัน
ร่างของเขาเหลือแต่เพียงก้อนเนื้อแหลกเหลวกองอยู่บนพื้น
แม้แต่พื้นใต้ศพบุรุษผู้นั้นก็มีรูลึกเป็นร่องใหญ่
รอยแยกปรากฏรอบรูนั้น
“ทำไมอสูรเวทระดับเก้าถึงได้มีพลังมากกว่ามนุษย์ในระดับเดียวกันมากมายนัก?” เมื่อเห็นแต่ไกล
หัวใจลินลี่ย์อดประหลาดใจไม่ได้ ไกเซอร์ยังคงสู้อยู่กับลินลี่ย์ก็เพิ่มความกดดันเช่นกัน
เขาไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยว่าจะรับมือหมีลายม่วงได้
หมีลายม่วงมีหนังที่หนาและทนทานมากและมีพลังมหาศาล
แม้แต่มังกรยักษ์ก็ยังอาจร่วงได้เมื่อถูกอุ้งเท้าใหญ่โตของมันตบใส่ เฉพาะอุ้งเท้าของมันก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว
ทั้งที่มันค่อนข้างช้า อย่างไรก็ตามความเร็วในการโจมตีของมันก็ยังมากอย่างน่าประหลาด
หมีลายม่วงอาจนับได้ว่าเป็นอสูรเวทที่ทรงพลังมากที่สุดของอสูรระดับเก้า
บึ้ม บึ้ม
บึ้ม
ลินลี่ย์กับไกเซอร์ผลัดกันรุกรับด้วยความเร็วสูงและแขน
ขา หางของลินลี่ย์ปะทะใส่ดาบยักษ์ไม่หยุด
ความเร็วในการต่อสู้โรมรันของพวกเขาสูงส่งจนน่าตกใจ ลินลี่ย์อาศัยการตั้งรับที่น่าทึ่ง กล้าสู้ในลักษณะเหมือนจะฆ่าตัวตาย แต่วิชาต่อสู้ของไกเซอร์มีประสิทธิภาพ
เขามีทั้งประสบการณ์และปราณที่แข็งแกร่งทรงพลัง
ระหว่างที่พวกเขาต่อสู้ไม่มีชัยชนะที่ชัดเจน
“โรววววว!”
หมีลายม่วงเข้ามาถึงลินลี่ย์และไกเซอร์และมันกวาดอุ้งมือฟาดใส่คนทั้งสอง
“ควั่บ!”
ลินลี่ย์และไกเซอร์ถอยหลังด้วยความเร็วสูง
“บึ้ม!”
อุ้งเท้าหมีฟาดใส่พื้นเกิดแรงสั่นสะเทือนลึกทำพื้นสั่นสะเทือนไปหมด
และพื้นในระยะสิบเมตรมีรอยร้าวปรากฏ
ไม่ว่าจะเป็นลินลี่ย์ หรือไกเซอร์ พวกเขาไม่พยายามฝืนป้องกันพลังโจมตีนี้
อุ้งเท้าของหมีลายม่วงบางทีอาจเป็นอวัยวะทรงพลังที่สุด
ทนทานที่สุดของตัวมันก็ได้
ถ้าพวกเขาพยายามต้านรับโดยตรง ทั้งสองคนคงไม่ต่างอะไรกับเลือดเนื้อเลอะเลือน
“โรววววว!” ด้วยเสียงคำรามดังลั่น
หมีลายม่วงหันมาโจมตีใส่ลินลี่ย์
“ทำไมเจ้าถึงได้ไล่ตามข้า?” อาศัยความเร็วสูง ลินลี่ย์เริ่มหนี หลังจากแปลงร่างเป็นมังกรเขามีความเร็วเท่านักรบระดับเก้า
และนักรบระดับเก้าก็เร็วขนาดนั้น
ขณะเดียวกัน จุดอ่อนของหมีลายม่วงก็คือความเร็วในการเคลื่อนไหว จึงไม่ยากสำหรับลินลี่ย์ที่จะสลัดมันให้พ้น
หมีลายม่วงยังคงไล่ตาม
และใครก็ตามที่ขวางทางมันจะถูกมันตบตาย
มันไล่ตามแต่เพียงลินลี่ย์
ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าหมีลายม่วงต้องการชิงแหวนนั้น
มันมีปัญญา มันเข้าใจภาษาของมนุษย์
หมีลายม่วงรู้ว่าแหวนมีอะไรบางอย่างที่มีค่าต่อคนทั้งสองฝ่าย
เป็นเรื่องปกติที่อสูรเวทระดับเก้าจะเข้าใจภาษามนุษย์ พวกมันเข้าใจได้ เพียงแต่ไม่สามารถพูดได้ เพราะร่างกายของมันไม่ได้ออกแบบให้พูดได้ แต่เมื่อถึงระดับเซียน พวกมันจะเป็นอิสระจากข้อจำกัดและพูดได้
“แหวน, แหวน!” เคลย์ยังคงร้อง”
“ฝ่าบาท” ไกเซอร์ยืนคุ้มกันอยู่หน้าเคลย์ “ฝ่าบาท, รีบหนีไปเดี๋ยวนี้จะดีที่สุด ถ้าเราไม่จากไป สถานการณ์จะอันตรายมาก”
สมาชิกกองกำลังพายุสายฟ้าถูกบีบีฆ่าตายไปสิบสี่คน สมาชิกที่เหลือเริ่มแตกตื่นเช่นกัน อสูรเวทข้างหน้าพวกเขาตัวเล็ก
แต่คล่องแคล่วน่าประหลาดและมีพลังโจมตีที่น่ากลัว
มันเหมาะจะรับมือกับมนุษย์หลายคน
“โรววววว!”
“โรวววว!”
ทันใดนั้นเสียงมังกรคำรามต่อเนื่องดังกระหึ่มมาจากท้องฟ้า
มังกรขนาดมหึมาเป็นร้อยตัวมีเกล็ดเขียวเหมือนหยก, เกล็ดแดงเพลิง,
เกล็ดเงินและมังกรที่ดูโหดร้ายอำมหิตเริ่มบินมาทางนี้
มังกรมีระดับปัญญาสูงมาก พวกมันรู้ว่าวังมีสมบัติมากมาย
และพวกมังกรก็ชอบสะสมสมบัติ
“โรวววว!” ผู้นำในการต่อสู้ครั้งนี้คือมังกรดำขนาดมหึมา
จับตามองเคลย์กับลินลี่ย์
พร้อมกับการคำราม มันนำฝูงมังกรฝูงใหญ่พุ่งตรงลงมาที่วัง
มังกรไฟและมังกรมรกตเป็นเพียงมังกรระดับแปด
แต่มังกรเงินและมังกรดำโดยทั่วไปเป็นมังกรระดับเก้า
เมื่อเห็นเช่นนี้ เคลย์
ไกเซอร์และคนอื่นๆ ตะลึง
อสูรเวทระดับเก้าตัวเดียวก็ยากจะรับมือแล้ว
และตอนนี้อสูรเวทยังมากันเป็นฝูงอีกหรือ?
“เจ้านาย, นี่ไม่ดีแน่
หนีกันเถอะ”
เสียงของบีบีดังขึ้นในหัวของ่ลินลี่ย์เช่นกัน แต่ตอนนี้ลินลี่ย์ยังคงถูกหมีลายม่วงไล่กวด มันต้องการชิงแหวนมิติเก็บสมบัติ
3 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคับ
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น