วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 319 ปันผลสงคราม

ตอนที่  319  ปันผลสงคราม

ถังอี้และหัวหม่าเอ้อเลือกเชลยและออกเดินทาง  พวกเขาเป็นบริวารฝีมือดีของอูเถี่ยหวี่  คนที่ได้รับเลือกเหล่านี้เป็นพวกมีพลังโดดเด่นและเป็นชาวบ้าน  ดังนั้นพวกเขาจะเข้าใจอีกฝ่าย  และสำหรับพวกเขาแล้ว กลุ่มอิทธิพลของกลุ่มดาวหมาป่าในปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ความทะเยอทะยานชิงบัลลังก์ในกลุ่มดาวหมาป่าไม่สามารถหยุดยั้งได้แล้ว

นอกจากนี้พวกเขายังเห็นกับตาตนเองถึงพลังที่น่ากลัวของถังเทียน  พวกเขาทุกคนได้รับความเชื่อถือจากเขามานานแล้ว
การได้พวกเขานำทางทำให้ถังอี้และหัวหม่าเอ๋อเดินทางได้สะดวก  ไม่ว่าคนจะโง่เขลาเพียงใด  พวกเขาก็สามารถบอกได้ว่ากลุ่มคนที่แข็งแกร่งทรงพลังกำลังขี่ม้าตรงมาที่พวกเขา  และถ้าพวกเขายังคงดื้อรั้นต่อต้าน  พวกเขาจะตายแน่นอน
เพียงแต่ว่ามีหลายคนต้องอิจฉาเผ่าทะเลทรายที่มีโชคดี และหลายคนอ่อนน้อมต่อถังเทียนโดยไม่ลังเล  ช่วงเวลาที่พวกเขาจะต้องร่วมกับผู้ทรงพลานุภาพขนาดนั้น  ใครก็ตามที่ช้าจะมีผลต่อตำแหน่งในอนาคต
ถังอี้และหัวหม่าเอ้อเพิ่งออกเดินทาง เมื่อพวกเขาทราบข่าวกลุ่มพลังต่างๆ ของกลุ่มดาวหมาป่าต้องการยอมรับทั้งหมด  วันแรกสามในสี่ของกลุ่มอิทธิพลทั้งดวงดาวยอมจำนนทันที  และวันที่สองกลุ่มอิทธิพลสุดท้ายที่รักษาการณ์ที่มั่นสุดในกลุ่มดาวก็ยอมแพ้
เรื่องถ่วงเวลาสมาพันธ์ชาวยุทธปล่อยให้ซือหม่าเซียงซานจัดการ  เขาเป็นคนที่ตีสองหน้าได้เก่ง ถือว่าเป็นงานที่เหมาะสมกับเขา
หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว ถังเทียนรู้ว่าผลเก็บเกี่ยวหลังจากต่อสู้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
สมบัติจากกลุ่มอิทธิพลใหญ่ทั้งสามของกลุ่มดาวหมาป่า  นอกจากของคานท์ตกอยู่ในเงื้อมมือถังเทียนหมด  และสมบัติของอันไป๋ผู้ถูกถังอี้ฆ่าก็ตกอยู่ในมือของถังเทียน  บวกกับสมบัติของหกองครักษ์ตระกูลถู ยิ่งไม่อาจจินตนาการได้
ทั้งสิบคนนี้เป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี  และทั้งสิบคนนี้ตายในการต่อสู้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว
สำหรับหลายคน มันกลายเป็นสงครามไปแล้ว
แม้ว่าจะเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี แต่ชีวิตของพวกเขาก็เหมือนต้นหญ้าในสงคราม  นักสู้ธรรมดาไม่ถือว่าคุ้มค่าเงิน
ในเวลาเดียวกัน การแบ่งปันสินสงครามก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ
ในการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์  สมบัติที่โดดเด่นที่สุดไม่มีอะไรต้องสงสัย ก็คือกระบี่ปลอดสำเนียงของเหมิงเว่ยซึ่งเป็นสมบัติมืดระดับตำหนักระนาบกลาง  อาวุธสมบัติที่หายากนี้ไม่สามารถพบเห็นในตลาดใดๆ ได้  ถ้ามันถูกนำมาขาย ก็จะถูกขายออกไปได้ง่ายด้วยราคาที่สูงกว่าสองสามร้อยล้านและถ้าประชาสัมพันธ์ดีๆ คนอาจยอมซื้อในราคาเกินกว่าหมื่นล้าน
ชั้นต่อมาเป็นอาวุธสมบัติระดับแดนขั้วขอบฟ้าสองชิ้น คือคลื่นหมีปฐพีแห่งกลุ่มดาวหมีเล็กและมังกรฟ้าคำราม สมบัติของกลุ่มดาวมังกร  สมบัติชิ้นแรกได้มาจากมือของอูเถี่ยหวี่และชิ้นที่สองได้มาจากมือของหวยไป่หัว รวมมูลค่าสมบัติทั้งสองชิ้นราวๆ ห้าร้อยล้านเหรียญ
ยังคงมีสมบัติดวงดาวชั้นเงินคุณภาพกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือรวมแล้วหกสิบสี่ชิ้น
นอกจากนั้นยังมีอาวุธสมบัติอีกสิบชิ้น  อาวุธสมบัติเงินคุณภาพขอบฟ้าเหนือมีราคาทั้งหมดเกินกว่าสามสิบล้านเหรียญดาว  สมบัติชั้นเงินคุณภาพขอบฟ้าเหนือธรรมดาจะถูกกว่ามาก แต่ก็ยังคงมีราคาสองล้านเหรียญ
สมบัติดวงดาวทั้งหมดหกสิบสี่ชิ้นทำให้ถังเทียนมีมูลค่ารวมหกร้อยล้านเหรียญดาว
แม้แต่ถังเทียนก็ยังตะลึง  ทั้งหมดนี้แค่เฉพาะสมบัติดวงดาว
ยังมีอีกกองหนึ่ง เป็นการ์ดวิทยายุทธ
นักสู้สวรรค์วิถีทุกคนพกการ์ดวิญญาณไว้กับตัว  และการ์ดพวกนี้ไม่ใช่สินค้าธรรมดา การ์ดยี่สิบแปดใบเป็นการ์ดทองวิทยายุทธระดับแปดทั้งหมด และสิ่งที่ทำให้ถังเทียนทึ่งก็คือมีการ์ดชั้นม่วงทองอยู่สามใบ
การ์ดม่วงทองมีคุณสมบัติพอที่จะกลายเป็นการ์ดสุดยอดวิชาวิทยายุทธโดดเด่นได้  คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีถึงสามใบ
ถังเทียนใช้เงินมหาศาลซื้อการ์ดวิชาลมพรางและโล่อากาศโจมตี ไม่มีใครเข้าใจมูลค่าของการ์ดวิญญาณเหล่านี้ดี
หินดวงดาวระดับต่างๆ ถูกแยกไว้  ถังเทียนสังเกตว่ามีหินดวงดาวระดับสิบ แสงของมันสว่างเจิดจ้าจนตาถังเทียนพร่า
การ์ดเหรียญดาวรวมแล้วเกินกว่าพันล้านเหรียญ ส่วนใหญ่ได้มาจากอูเถี่ยหวี่และหัวไป่หัว ทั้งสองเป็นผู้ปกครองเทียบกับคนที่เหลือนับว่าร่ำรวยมากกว่า
ถังทียนและพวกเป็นเหมือนกับพวกบ้านนอกเข้ากรุง  พวกเขาไม่เคยเห็นเงินมากมายอย่างนี้มาก่อนจากที่แห่งไหนเลย?
พวกเขางุนงงทันที
 “โอวพระเจ้า!  อาโมรี่ยืนตะลึงกับที่  พยายามใช้นิ้วทั้งสิบนับ แต่ไม่สำเร็จ  “เรารวยแล้ว! เงินตั้งมากมาย  ถ้าเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธ เราจะต้องทำกี่ภารกิจถึงจะได้เงินมากขนาดนั้น”
 “แรงงานไร้ฝีมือ ถือเป็นกรรมของเจ้าเอง”  ซือหม่าเซียงซานพูดขณะลับดาบอยู่ด้านข้าง
เหลียงชิวก็ตะลึงเช่นกัน  “เงินนี้น่าจะพอซื้อดาวอู่อันได้ทั้งดวง”
ซือหม่าเซียงซานกล่าว  “เจ้าตีราคาดาวอู่อันสูงเกินไป”
 “เรารวยกันแล้ว”  เหมือนกับว่าถังเทียนกำลังก้าวเดินอยู่บนกองฝ้าย ย่างเท้าของเขานุ่มนวลไม่ได้ใช้กำลังใดๆ   เขารู้สึกว่าเสียงตัวเขาเองก้องกังวาน  เมื่อเขาได้ยินม่อเว่ยเทียนพูดเรื่องสิบหกพันล้าน  ถังเทียนไม่ได้รู้สึกอะไร  เพราะสำหรับเขา นั่นเป็นแค่จำนวนตัวเลข
แต่เมื่อสินสงครามมีราคาถึงสิบพันล้านวางอยู่ต่อหน้าเขา  เหมือนกับว่าเขาถูกต่อยที่ศีรษะจนมึนงงทำอะไรไม่ถูก
กองเหรียญดวงดาวเหมือนภูเขาเลากา เป็นประกายระยิบระยับ รวยมากจนเขาแทบมึนเมา
ประกายแสงของสมบัติเงินสว่างแพรวพราวกว่าดวงอาทิตย์
การ์ดวิทยายุทธวางเป็นแถวเรียงรายกระพริบอย่างต่อเนื่อง
นั่นมันสุดยอดจริงๆ!
 “มาแบ่งกันเถอะ”  ถังเทียนพูด
หลิงซิ่วกับอาเฮ่อไม่สนใจสมบัติดวงดาว
ฟลามิงโกของหลิงซิ่วไม่ช้าจะต้องมีการปรับปรุงรุ่นให้ดีขึ้น  ดังนั้นหินดวงดาวเป็นวัสดุที่มีค่าสำหรับเขา
อาเฮ่อไม่มองหาอะไรมาก เขากวาดมือทีเดียวก็เลือกการ์ดวิชากระบี่ออกมาสองสามใบ
คลื่นหมีปฐพีมอบให้อาโมรี่   เขาเป็นพวกบ้าพลังและในเวลาฝึกฝน เพื่อช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น  คลื่นหมีปฐพีจะช่วยเขาได้ทำให้เขามีพลังน่ากลัวมากขึ้น
มังกรฟ้าคำรามคือกระบี่เล่มหนึ่งมอบให้หานปิงหนิง ตลอดทั้งตัวกระบี่เป็นเงินกระพริบส่องแสง ด้ามกระบี่เป็นเหมือนหัวมังกร เพิ่มราศีเยือกเย็นให้หานปิงหนิง มันคมมาก  ความจริงถังเทียนต้องการจะมอบกระบี่ปลอดสำเนียงให้หานปิงหนิง  แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง  กระบี่ปลอดสำเนียงต่อต้าน  มันต้องการให้ถังเทียนใช้มันเท่านั้น
เหลียงชิวฝึกวิทยายุทธใช้มือเปล่า  และการ์ดวิชาระดับม่วงทองก็มีอยู่วิชาหนึ่งชื่อว่าผสานหยินหยาง
ซือหม่าเซียงซานเลือกวิชาตัวเบาการ์ดระดับม่วงทอง วิชาก้าวย่างภูตพราย
การ์ดม่วงทองที่เหลือเป็นวิชาหมัดนามว่าหมัดสำลี  มีแต่ถังเทียนที่ฝึกวิชาหมัด  และเมื่อเห็นชื่อแล้ว ถังเทียนขมวดคิ้ว  สำหรับเขาแล้ววิชาหมัดมวยควรจะแกร่งกร้าวดุดัน  หมัดสำลี มันคือวิชาหมัดอะไรกัน?
แต่เมื่อเห็นว่าเป็นวิชาการ์ดม่วงทอง  ถังเทียนเก็บไว้อย่างไม่เต็มใจ  ถังเทียนไม่ต้องการสมบัติดวงดาวมากนัก  ไม่มีเกราะเลย  ถ้าไม่อย่างนั้นเขาอาจจะสนใจอยู่บ้าง
เขาตื่นเต้นที่สุดสำหรับการฝึกฝนพิเศษของปิง
สองวันต่อมา จู่ๆ เขาก็เรียกหลิงซิ่ว, อาเฮ่อและพวกที่เหลือมาประชุมกัน
เมื่อถังเทียนดึงแผ่นไม้ออกอย่างมีความสุขและอวดหลุมทางเข้าสีดำ  ทำให้ทุกคนตกใจ
 “หวา, ถังพื้นฐาน!  เจ้าไปเรียนวิธีขุดรูมาตั้งแต่เมื่อไหร่?  เอ่, ทำได้ดีจริงๆ นะ กลมเป๊ะ”  อาโมรี่เบิกตา  เขารู้สึกประทับใจ
สีหน้าถังเทียนชะงักค้าง  เจ้าบ้าเอ๊ย ทุกครั้งที่ข้าต้องการแสดงความเท่ เป็นต้องพังทุกทีเพราะเจ้าวัวโง่นี่
 “ทุกคนตามลงมา”  ถังเทียนพูดอย่างเฉยเมยและกระโดดลงไปก่อน
ที่เหลือตามลงมาเป็นพรวน  และเมื่อพวกเขาลงไปยืนข้างล่างแล้ว  พวกเขาต้องประหลาดใจกันทุกคน
พื้นที่ข้างล่างกว้างใหญ่น่าประหลาดใจ  เครื่องจักรกลประหลาดสองสามเครื่องทำให้พวกเขาตื่นตระหนก  มันคือฐานใต้ดินจริงๆ
 “บรอนซ์?  อาเฮ่อก้มศีรษะและตรวจสอบพื้นและสะดุ้งตกใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนสัมผัสที่พื้นทันที และพากันตกใจทั้งหมด
 “ถังพื้นฐาน, ฐานนี้ไม่ได้สร้างจากบรอนซ์ล้วนๆ ใช่ไหม?  เหลียงชิวอดถามไม่ได้
เมื่อเห็นสีหน้าทุกคน ถังเทียนที่ตอนแรกไม่ค่อยพอใจ ถึงกับมีความสุขทันทีและกล่าวอย่างภูมิใจ  “ถูกแล้ว สร้างจากบรอนซ์ล้วนๆ ข้าใช้เวลาสองวันจึงสร้างได้ขนาดนี้  เหนื่อยมาก”
สองวัน...
ถ้าเป็นที่พัก ทุกคนคงเรียกถังเทียนว่าบ้าแน่  ฐานใต้ดินบรอนซ์ สร้างสำเร็จในสองวัน? นี่เขานึกว่าเราโง่อย่างนั้นหรือ?
อาเฮ่อและหลิงซิ่วมองหน้ากัน  พวกเขาตกใจพอๆ กัน  พวกเขารู้ว่าถังเทียนมีวิศวกรจักรกลที่ทำงานให้เขา  ถ้าไม่อย่างนั้นหลิงซิ่วจะได้ฟลามิงโกมาจากไหน?  แต่ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักว่าวิศวกรจักรกลที่ทำงานให้ถังเทียนไม่ใช่วิศวกรจักรกลธรรมดา
มีวิศวกรจักรกลที่มีความสามารถน่าทึ่งจริงๆ..
เขาหรือนางต้องมีความแข็งแกร่งมากแน่นอน
วิศวกรจักรกลแบบไหนที่สามารถสร้างฐานบรอนซ์ได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยภายในสองวัน?
ตาของหลิงซิ่วเป็นประกาย  เมื่อเห็นเครื่องจักรกลลึกลับทรงพลังมากกว่าที่เขาคิด  อย่างนั้นฟลามิงโกของเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นได้แน่นอน  ไม่ว่าพลังอำนาจใดที่หนุนถังเทียนอยู่ เขาไม่สนทั้งนั้น
ถังเทียนพอใจมาก  เขาสามารถสร้างฐานใต้ดินเสร็จได้ภายในสองวัน  เขาทำงานหนักแทบตาย
ประสิทธิภาพงานของเซรีนเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง  อสูรจักรกลจำนวนมากถูกส่งเข้าประตูแสง และตามหยาหยาช่วยขุดที่ราบสูงในระดับที่เร็วขึ้น  ถังเทียนได้รับแรงบันดาลใจมากจึงขอให้เซรีนสร้างอสูรจักรกลสำหรับขุดอีกมากกว่าสิบ เนื่องจากเนินทรายอ่อนนุ่ม พวกมันจึงขุดได้อย่างง่ายดาย  และอสูรจักรกลทั้งสิบก็ขุดทั้งวันทั้งคืนสร้างพื้นที่ขนาดมหึมา  ขณะที่ชิ้นส่วนบรอนซ์ทั้งหมดถูกส่งมาจากเมืองสามวิญญาณจากนั้นใช้ตู้เก็บของอควาเรียสเคลื่อนย้ายมาติดตั้งทั้งหมด
แม้ว่าถังเทียนจะแข็งแกร่งมาก แต่การเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนบรอนซ์ทั้งหมดติดตั้งก็ทำให้เขาเกือบหมดแรง
มันสามารถถูกจัดอันดับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้  ด้วยความรู้สึกเกี่ยวกับมัน ทำให้ถังเทียนรู้สึกว่างานหนักที่เขาทำมานั้นไม่มีอะไร
 “แค่ก” ถังเทียนพูดขัดจังหวะความคิดของทุกคนและเริ่มอธิบาย  “เหตุผลที่ข้าสร้างฐานนี้ขึ้นมา ก็คือเพื่อช่วยในการฝึกฝนพิเศษของพวกเรา”
 “ฝึกฝนพิเศษ?
คำเหล่านี้ช่างดึงดูดทุกคนนัก
 “ถูกแล้ว”   เสียงของปิงดังออกมาจากเงามืดในฐาน ขณะที่เขาค่อยๆ ลอยออกมาให้ทุกคนเห็น  “การต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นเรื่องยากลำบากมาก  พวกเจ้าทุกคนรู้ว่าสมาพันธ์ชาวยุทธทำงานกันอย่างไร  พวกเขาจะต้องส่งคนมาฆ่าพวกเจ้าทุกคนแน่  ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนจำเป็นต้องฝึกบทฝึกพิเศษสนามมรณะนี้ให้สำเร็จในช่วงเวลานี้”
 “บทฝึกมรณะพิเศษ?  อาโมรี่สงสัย “มันคืออะไร?
 ฝึกมรณะพิเศษนี้หมายความว่า ถ้าพวกเจ้าทำไม่สำเร็จ พวกเจ้าก็จะตาย  ปิงกล่าวเฉื่อยชา
 ถ้าเราเราฝึกไม่สำเร็จ... เราจะตาย...  อาโมรี่แข็งค้างขณะตะกุกตะกักกล่าว
 ถูกแล้ว ปิงพูดเฉื่อยชา  กล่าวกันว่าสิ่งที่สามารถดึงศักยภาพเต็มที่ของมนุษย์ออกมาได้เต็มที่  อันดับหนึ่งมีเพียงสิ่งเดียว และนั่นก็คือความตาย  มีแต่เมื่อเผชิญกับความตายเท่านั้น พวกเจ้าจึงจะได้ตระหนักรับรู้  ทุกอย่างรอบตัวเจ้าจะเปลี่ยนไป  นั่นรวมทั้งทัศนคติของเจ้า  พลังใจของเจ้า วิทยายุทธ  ความตายจะช่วยให้พวกเจ้าเติบโตก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว  แต่ละคนจะเปลี่ยนแปลง หรือไม่ก็พังทลายไปเลย

4 ความคิดเห็น:

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

B กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ปิง โหด

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น