วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 330 การจัดการของปิง

ตอนที่  330  การจัดการของปิง

หัวใจของปิงแทบหยุดเต้น
ความเย็นของทะเลทรายยามราตรีดูเหมือนจะจางหายไปไม่ทิ้งร่องรอย และไม่มีความเงียบเหงาในราตรีอีกต่อไป

สายลมพัดฝุ่นทรายฟุ้งกระจายและเสียงแตรเดี่ยวดังขึ้นเรื่อยๆ
 “อากาศลอยตัว”
ปิงพึมพำกับตนเองเบาๆ สายลมได้จุดประกายไฟต่อสู้ในอกของเขาให้ลุกโชนช้าๆ
เขากวาดสายตามองทุกคน และทันใดนั้น ฉากข้างหน้าเหมือนกับหมอกควันจากเมื่อหมื่นปีที่แล้ว  ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏออกมาทั้งหมด
หึ.. คนเหล่านี้ต่อสู้เคียงข้างเจ้า
หึ.. นี่คือสหายศึกของเจ้า
หึ.. ความรู้สึกนี้ ช่างดีจริงๆ...
 “หวังว่าข้าคงไม่สายหรอกนะ”
เสียงสุภาพตะโกนดังขึ้น ขณะที่อาเฮ่อร่อนลงมาเหมือนกระเรียนดำตัวมหึมาและมาหยุดอยู่ต่อหน้าทุกคน  ชุดบนร่างของเขาฉีกขาดรุ่งริ่ง  พวกเขาสามารถจินตนาการได้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง
ทุกคนมองปิง
 “ลุง, จัดกำลังได้แล้ว”
คำพูดของอาเฮ่อได้รับอนุมัติจากทุกคนโดยปริยาย  นอกจากพวกเขาแล้ว มีเพียงปิงที่เป็นผู้นำทหาร และคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่สุด
ปิงสูดหายใจลึก  สายตาเขาเยือกเย็นทันที  “ก็ได้! ถังอี้, ทหารทางทิศตะวันออกจากค่ายหางแฉก ให้เจ้าเป็นคนรับมือ งานของเจ้าคือ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เจ้าต้องยันให้ได้หนึ่งชั่วโมง”
 “ขอรับ!  ถังอี้ตอบอย่างเฉยชาและหันไปรวบรวมและหารือกับกองทัพหมาป่าและเร่งรีบไปทางทิศตะวันออก
จากนั้นทุกคนถึงได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของถังอี้ และอดลอบชมเชยเขามิได้
 “หลิงซิ่วและอาเฮ่อ ข้าจะให้พวกเจ้ารับมือคนสองคนที่มาทางทิศเหนือ  เบื้องหลังของพวกเขายังไม่เป็นที่รู้กัน  ดังนั้นระมัดระวังด้วย”
หลิงซิ่วหยิบหอกเงินของเขาและพลิกตัวขึ้นนั่งหลังฟลามิงโก  นัยน์แดงเพลิงของเขาเป็นประกายลุกโชน  “ข้าคนเดียวก็พอแล้ว”
ฟลามิงโกกลายสภาพเป็นบอลเพลิงและเหินบินขึ้นไปทางทิศเหนือ
อาเฮ่อหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ เขาโบกมือลาพวกที่เหลือและเหมือนกับกระเรียนยักษ์ เขาเริ่มบินไล่ตามหลิงซิ่วไปอย่างรวดเร็ว
 “งานสำหรับพวกเราไม่กี่คนที่เหลือก็คือทหารด้านตะวันตก!  ปิงบอกทั้งสี่คน
อาโมรี่เสียดายเล็กน้อย  “น่าเสียดายจัง, ถังพื้นฐานยังไม่ออกมาเลย, น่าเสียดาย, หนุ่มชาวฟ้าไม่ได้เห็นหนุ่มห้าวร่าเริงต่อสู้  ดาบวายุปฐพี ไร้เทียมทาน!
อาโมรี่กวัดแกว่งดาบพายุปฐพีอย่างตื่นเต้น ฉีกอากาศออกเป็นระลอก
ทุกคนอดเหลือกตาไม่ได้
ซือหม่าเซียงซานบ่นเบาๆ  “อย่าเอาเจ้างั่งนี่รวมไปด้วยดีกว่า”
ปิงตอบเบาๆ “ข้ารู้น่ะ”
 “ไปกันเถอะ”
ปิงสวมเกราะพยัคฆ์ฟ้า
การต่อสู้บนกลุ่มดาวหมาป่าดึงดูดสายตานับไม่ถ้วน  แม้ว่าจะผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วก็ตาม  แต่ก็ยังมีคนหลายคนให้ความสนใจกลุ่มดาวหมาป่า  ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาก็คือถังเทียนผู้โผล่ออกมาอย่างฉับพลัน
บุคลิกที่ลึกลับขนาดนั้น
ด้วยกระบี่เซียนกักสมุทรในมือ  พลังของเขาไม่อาจหยั่งถึงได้  และยังมีขุนพลวิญญาณผู้นำทหารใต้บังคับบัญชาอีกสองนาย  และกลุ่มดาวหมาป่าอยู่ภายใต้เงื้อมมือของเขาเช่นกัน  นอกจากนี้ อนาคตของเขายังไม่มีขีดจำกัดในองค์กรที่ทรงอิทธิพลรู้จักกันมากที่สุดอย่างสมาพันธ์ชาวยุทธ
ทุกคนคิดว่าถังเทียนมีแนวโน้มจะศิษย์หลักรุ่นที่สาม
แต่เมื่อการคุกคามจากกลุ่มดาววาฬแพร่กระจายไป กลุ่มพลังต่างๆ ที่ได้ยินเรื่องนี้เข้าไม่เห็นด้วยเลย  แม้ว่ากลุ่มดาววาฬจะเป็นส่วนหนึ่งของสิบตำหนักระนาบกลาง, แต่สมาพันธ์ชาวยุทธกำลังมีปัญหากับกลุ่มดาวราชสีห์ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา  ดังนั้นพวกเขาจะใส่ใจกับกลุ่มดาววาฬได้อย่างไร?
แต่เหตุการณ์ที่ตามมาทำให้หลายคนเกิดความงุนงง
ผู้อาวุโสของสำนัก เย่จิ่วขอให้ถังเทียนส่งมอบกระบี่ปลอดสำเนียง และเนื่องจากถังเทียนอยู่ในกลุ่มระดับกลางๆ พวกเขาจึงไม่พยายามปกป้องเขา  นั่นเป็นสาเหตุให้หลายคนไม่เข้าใจ  ถังเทียนยังอายุน้อยมาก  แต่แสดงความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ขนาดนั้นออกมา  ทำไมสมาพันธ์ชาวยุทธจึงตัดสินใจทำเช่นนั้น?
สมาพันธ์ชาวยุทธไม่ใช่แผ่นเหล็ก  ทุกคนสามารถขุดคุ้ยพวกเขาได้  และมีข้อมูลปรากฏต่อคนอื่นมากยิ่งขึ้น
กลุ่มคณะกลางนั้นแข็งแกร่ง  แต่พวกเขาก็มีผู้ประสบความสำเร็จอยู่แล้วซึ่งก็คือจิ่งหาว  ถ้าถังเทียนมีตัวคนเดียว  พวกเขาอาจทำอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องเขาและตัดสินให้จิ่งหาวคอยช่วยเขา
แต่ถังเทียนไม่ได้มีตามลำพัง  เขาค่อยๆ สร้างกองทัพข้างตัว
หลิงซิ่วและอาเฮ่อคือสองอัจฉริยะ  กลุ่มของอาโมรี่สี่คนก็มีความสัมพันธ์กับถังเทียนดีมากกว่าสมาพันธ์เสียอีก นอกจากนี้ยังมีกระบี่เซียนกักสมุทร ขุนพลวิญญาณผู้นำทหารสองนาย  โดยเฉพาะปิง ซึ่งมีรังสีควบคุมที่น่าประหลาดใจสร้างความตกใจให้กับกลุ่มคณะกลาง
อย่าลืมว่ากลุ่มดาวเพอร์ซูสที่เริ่มฟื้นฟูได้แล้ว  พวกเขาล้วนสนับสนุนถังเทียนเช่นกัน
เทียบกับจิ่งหาวแล้ว ถังเทียนแข็งแกร่งกว่ามาก เขาปีกกล้าขาแข็งและสามารถสร้างกลุ่มคณะของตนเองได้  กลุ่มคณะกลางไม่มีพื้นที่ให้ถังเทียนได้เติบโต  เว้นเสียแต่พวกเขาเลือกถังเทียนและทิ้งจิ่งหาว
แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น
เหล่าผู้อาวุโสของสำนักมองดูจิ่งหาวเติบโตและเขาก็เป็นลูกหม้อของพวกเขา  ขณะที่ถังเทียนมาจากดวงดาวข้างเคียง และมีความเกี่ยวข้องกับสมาพันธ์ชาวยุทธอย่างผิวเผิน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ หรือการต่อสู้ของกลุ่มภายในสมาพันธ์ชาวยุทธ  พวกเขาไม่มีทางเลือกถังเทียน
และเป็นเย่จิ่วที่มองเห็นตรงจุดนั้น  เขาเป็นคนโหดเหี้ยมและมีการกระทำที่แม่นยำเด็ดขาด
ดังนั้นทุกคนสงสัยว่าถังเทียนจะเลือกอะไร  ในเวลาอันรวดเร็วมาก  ข่าวของถังเทียนยินดีวางมือจากกระบี่ปลอดสำเนียง ทำให้คนที่รอดูการกระทำบางอย่างรู้สึกผิดหวัง
ขณะที่เวลาคืบคลานผ่านไป ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ บางคนคิดว่าคงจะมีเรื่องแปลกเกิดขึ้น
และมีข่าวว่า จักรพรรดินีกลุ่มดาวคนยิงธนูได้แสดงอำนาจครั้งใหญ่
มีเหตุผลสำหรับทุกอย่าง
ทุกคนตระหนักว่ามีการกระตุ้นและการผลักดัน
เมื่อกลุ่มดาวหมาป่าปิดประตูดวงดาวเข้าสู่กลุ่มดาววาฬ  ผู้คนทั้งหมดจับตามองกลุ่มดาวหมาป่าด้วยความตกใจ  ทุกคนหวังจะเห็นการต่อสู้,  แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง, ทุกคนกลับรู้สึกว่าถังเทียนโง่ประเมินตนเองสูงเกินไป
เขาคิดว่าด้วยพลังที่มีอยู่บางส่วน  เขาจะสามารถต่อสู้กับสมาพันธ์ชาวยุทธได้หรือ?
นั่นบ้าเกินไปแล้ว
แต่มีบางคนคาดหวังก็คือซือหม่าเซือหม่าเซี่ยว
 “ความจริงเกี่ยวกับเรื่องโอกาส  ถังเทียนมีเปรียบมากที่สุด  สมาพันธ์ชาวยุทธมีความขัดแย้งกับกลุ่มดาวสิงห์  เลโอนผู้บ้าคลั่งนั่นเป็นคนน่ากลัวมาก  ถ้าพวกเขาไม่สนใจ  พวกเขาอาจถูกเหยียบย่ำจนตาย  สมาพันธ์ชาวยุทธรู้ว่าสู้กับคนบ้าคลั่งเช่นนั้น เท่ากับหาความเดือดร้อน”
ซือหม่าเซี่ยวอดแปลกใจไม่ได้  ถ้ากลุ่มมหาอำนาจใหญ่สองสามกลุ่มจะเลือกคู่ต่อสู้ที่พวกเขาจะไม่ควรยุ่งด้วย  ราชสีห์เลโอนเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน  เลโอนคือคนบ้าคลั่ง  บริวารของเขาก็บ้าพอกัน  พวกเขาคือคนบ้าที่ตะโกนเสียงลั่นมีดวงตาเป็นประกาย ตราบเท่าที่มีคนพูดเรื่องการต่อสู้
กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุด ก็คือกองทัพที่มีผู้นำทหารมากที่สุด  กษัตริยที่บ้าที่สุดก็มาจากกลุ่มดาวสิงห์
เผชิญกับคู่ต่อสู้นี้  ไม่ว่าสมาพันธ์ชาวยุทธจะแข็งแกร่งเพียงไหน  พวกเขาก็กลัวอยู่ดี นักสู้ที่แข็งแกร่งของสมาพันธ์ชาวยุทธส่วนใหญ่ถูกระดมมาหมด  และนี่ไม่ใช่ความลับในสวรรค์วิถี
สามารถทำให้ศัตรูกลัวจัด นั่นคือเกียรติอย่างหนึ่ง
 “คำสั่งจากกลุ่มดาวคนยิงธนูเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”  ชิวจื่อจวินถาม
 “น่าจะใช่”  ซือหม่าเซี่ยวมีท่าทีไตร่ตรอง  “แต่สำหรับจักรพรรดินีที่รอบจัดมากอย่างนี้ นางคงจะไม่เสียเวลากับสิ่งเหล่านี้แน่ เมื่อกระทำเช่นนั้น นางต้องมีความเกี่ยวข้องบางอย่าง  เพียงแต่เรายังไม่รู้ว่าใครในกลุ่มของถังเทียนที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มดาวคนยิงธนูกันแน่  และตัวคำสั่งเองก็มีค่าควรแก่การพิจารณา  นางห้ามมิให้สมาพันธ์ชาวยุทธเข้ากลุ่มดาวหมาป่า  แต่อนุญาตให้เย่เฉาเกอเข้าไปได้  ดูเหมือนว่านางปฏิบัติกับเย่เฉาเกอเหมือนกับเป็นเครื่องทดสอบให้ใครบางคน เว้นเสียแต่ถังเทียนจะเป็นลูกหลานของนาง?  หรือว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นลูกหลานของนาง?  เราตรวจสอบดูก่อนดีกว่า”
 “ได้ยินศิษย์น้องพูดอย่างนั้น  ดูเหมือนจะเป็นไปได้เหมือนกัน” ชิวจื่อจวินผงกศีรษะ
 “เย่จิ่วไม่ใช่คนธรรมดา  วิธีการของเขาปกติจะอำมหิตและร้ายกาจ”  ซือหม่าเซี่ยวยกขาพาดกับโต๊ะ เขาเอนหลังหย่อนอาหารรสเลิศเข้าปากเขาต่อ  เขาพูดเสียงไม่ชัดเจน  “ค่ายหางแฉก กองทัพเหล็กสองในห้าของกองทัพของสิบเก้าดวงดาวขอบฟ้าเหนือก็มา  นอกจากนี้ยังเพิ่มกว่างอู๋และหย่งเซียนจง เขาอำมหิตจริงๆ!
ชิวจื่อจวินตื่นเต้น “แข็งแกร่งขนาดนั้น! แต่, ด้วยพลังขนาดนั้น เบื้องบนของสมาพันธ์ชาวยุทธจะไม่กดดันใส่เขาหรือ?”
ซือหม่าเซี่ยวแค่นเสียง  “ผู้คนคิดว่าระดับชั้นขององค์การวิญญาณมืดเข้มงวด แต่พวกเขาไม่รู้เรื่องสมาพันธ์ชาวยุทธเลยว่าไม่ด้อยไปกว่าองค์การวิญญาณมืด  เบื้องบนกดดันเบื้องล่างเป็นเรื่องธรรมดา  และข้ากล้ายืนยันได้เลยว่าหลังจากนี้เย่จิ่วจะประกาศว่าถังเทียนเป็นคนทรยศ”
ชิวจื่อจวินพูดไม่ออก
ซือหม่าเซี่ยวพึมพำ  “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนจะมีสมบัติที่ใช้ก่อกวนพลังงาน  ดังนั้นเราไม่มีทางจะเห็นการต่อสู้นี้ได้เลย  ข้าไม่ได้เรียกคนสังเกตการณ์ของข้ากลับมา,  ความจริง ข้าเสียเวลาของข้าไปกับศึกครั้งนี้  ตอนนี้เราได้แต่รอผลสุดท้าย  โอว ข้าเหนื่อยเสียแล้ว  ขอหลับสักนิดเถอะ”
จากนั้นซือหม่าเซี่ยวก็หลับอยู่บนเก้าอี้
ชิวจื่อจวินไม่หลับ และนั่งจมอยู่กับความคิดคำนึง  หลังจากนั้นชั่วครู่บริวารคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นว่าซือหม่าเซี่ยวงีบหลับ  เขายื่นรายงานให้กับชิวจื่อจวิน
ชิวจื่อจวินชำเลืองมอง และลอบชื่นชมศิษย์น้องของเขาที่คาดการณ์ได้ถูกต้อง  เย่จิ่วประกาศว่าถังเทียน, อาโมรี่และพวกที่เหลือคือคนทรยศของสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่สิ่งที่แปลกที่สุดก็คือพวกเขาไม่ประกาศค่าหัวพวกเขา
จากนั้นชิวจื่อจวินก็ตระหนักได้ว่า เย่จิ่วไม่กล้าต่อต้านจักรพรรดินี
เขาส่ายหัวด้วยความรู้สึกประหลาดใจ โลกหมุนรอบกำปั้นอย่างแท้จริง
มหาอำนาจหลายกลุ่มที่กำลังจับตาดูสงครามมีปัญหาอย่างหนึ่งซึ่งก็คือ “วังวนสามเหลี่ยมทอง” ของปิงมีผลรบกวนคลื่นพลังงานทั่วกลุ่มดาวหมาป่า  แม้ว่าจะมีผลไม่มาก  แต่สมบัติดวงดาวทั้งหมดที่ใช้ส่งข้อมูลและภาพล้วนแต่ไร้ประโยชน์
จากนั้นทุกคนจึงได้ตระหนัก  มันถูกเตรียมไว้เพื่อก่อกวนประตูเกียรติยศยศชาวยุทธของสมาพันธ์”
รวยจริงๆ
ที่สำคัญยิ่งกว่า นี่ก็หมายความว่าถังเทียนมีการเตรียมการไว้แล้ว  ทำให้ทุกคนรู้ได้ถึงความสามารถที่มากขึ้น  และพวกเขาเกลียดที่ไม่สามารถดูการถ่ายทอดสดได้
น่าเศร้า พวกเขาได้แต่รอผลสุดท้าย
*************

ถังอี้นั่งอยู่บนม้าคอยควบคุมความเร็ว  เขานำหน้าอย่างไม่สะทกทะท้าน  ด้านหลังเขาเป็นทัพหน้าของกองทัพหมาป่าที่สงบเงียบอย่างแท้จริง
เทียบกับการต่อสู้ครั้งล่าสุดกองทหารมือสมัครเล่นได้เปลี่ยนไปอย่างมิต้องสงสัย  ไม่ใช่แค่แตกต่างระหว่างต่อสู้  กองทัพก่อนหน้านี้และหลังจากเหตุการณ์นั้นมาเทียบกันแล้วต่างกันราวฟ้ากับดิน
กองทัพมีรังสีฆ่าฟันเป็นอันเดียวกัน
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาสองสามวันนี้  ถังอี้ยังคงฝึกฝนทหารอย่างเข้มงวด  และหลังจากผ่านความพยายามมาได้  ความก้าวหน้าของพวกเขาก้าวหน้าพรวดพราดเร็วกว่าอดีต  ทหารผู้ผ่านการต่อสู้ในครั้งก่อนเข้าใจว่าการฝึกก็คือการทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งกว่าแต่ก่อน  และพวกเขารู้เหตุผลที่เขาจำเป็นต้องฝึก  การฝึกฝนแบบนี้จะช่วยให้พวกเขาอยู่รอดตลอดสงครามได้
ถังอี้เลื่อนเป็นจ่าสิบเอกพิเศษ  ระดับการใช้กลยุทธของเขาสูงส่งกว่าในอดีตมากมาย  และผลการฝึกอบรมให้กองทัพทำให้มีความเข็มแข็งมากขึ้น
จู่ๆ เขาหยุดทันที
กองทหารหมาป่าด้านหลังเขาก็หยุดเช่นกัน
ในระยะไกลกลุ่มคนขนาดราวๆ กองทัพหนึ่งกำลังยาตราเข้ามาในสายตาของพวกเขาช้าๆ
 

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สนุกมากครับ รออ่านตอนต่อไปนะครับ

neng2006 กล่าวว่า...

รอติดตามตอนต่อไป ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น