วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 7-20 เรื่องราวทั้งหมด




ตอนที่  7-20   เรื่องราวทั้งหมด

ภายในร้านอาหาร
เมื่อเห็นโยคีกลุ่มใหญ่ออกไปจากคฤหาสน์ของเคลย์  ลินลี่ย์ดีใจแทบคลั่ง แค่ชำเลืองมองลินลี่ย์สามารถบอกได้เลยว่าโยคีในกลุ่มนี้มีจำนวนเกินกว่าห้าสิบคน  สำหรับคนกลุ่มใหญ่ขนาดนั้นเมื่อจากไปก็มีแนวโน้นว่าพวกเขาอาจจากไปกันทั้งหมด

 “เป็นเวลาหกหรือเจ็ดวันได้แล้ว  ตอนนี้มีแนวโน้มแน่นอนว่าชาร์คคงบอกเคลย์เรื่องการพบกันของเรา และเป็นไปไปได้ว่าเคลย์คงเดาได้ว่าเราอยู่ใกล้ๆ นี้”
ลินลี่ย์โยนเหรียญทองสองสามเหรียญทิ้งไว้  ทันใดนั้นลมกระโชกรุนแรงเริ่มห้อมล้อมตัวเขา และเคลื่อนที่เหมือนลมพัด  ลินลี่ย์บินออกไปจากร้านอาหารอย่างคล่องแคล่ว
แม้จะแบกดาบหนักไว้บนหลัง แต่ด้วยความช่วยเหลือของเวทสายลม  เขายังก็เคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย  แต่นี่เป็นเพราะลินลี่ย์กลายเป็นจอมเวทระดับเจ็ด  ถ้าเป็นจอมเวทระดับสามร่ายเวทนี้ย่อมไม่ได้ผลรับที่ดีเท่าที่ควร  “บีบี, จับตาดูประตูหลังไว้”  ลินลี่ย์สั่งบีบีทางจิต
 “รับทราบแล้ว, เจ้านาย”
ขณะที่ลินลี่ย์พุ่งมาถึงด้านนอกกำแพงคฤหาสน์ของเคลย์  เขาเริ่มร่ายเวทวายุตรวจสอบ
 “วูบบบ”
โดยที่ตัวของลินลี่ย์เป็นศูนย์กลาง  พลังสายลมกระจายออกไปทุกตำแหน่ง  ลินลี่ย์หลับตาก็สามารถรู้สึกได้ถึงทุกสิ่งที่วายุตรวจสอบทำการตรวจเจอ
 “หืม?  รวมตัวกันอยู่ใกล้ประตูหลังหรือ?”
เวทสายลมตรวจสอบทำได้เพียงตรวจสอบเฉพาะร่างกายกับวัตถุ  ไม่สามารถตรวจหน้าได้ชัดเจน  อย่างไรก็ตาม แม้เพียงด้วยการใช้ลมตรวจสอบ ลินลี่ย์ก็สามารถพบได้ว่าคนภายในคฤหาสน์นั้นรีบเร่งไปรวมตัวกันที่หลังคฤหาสน์กันหมด  ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาทุกคนเตรียมตัวหนี
 “ฮึ่ม...เป็นไปตามที่คาดไว้”  ลินลี่ย์เคลื่อนไหวอย่างเงียบกริบ  ลอยตัวเข้าไปในคฤหาสน์ของเคลย์ มุ่งไปที่ลานด้านหน้าด้วยความเคลื่อนไหวแผ่วเบาดุจสายลม  เขาผ่านเข้าไปอย่างเงียบและรวดเร็วตั้งแต่หน้าคฤหาสน์จนถึงท้ายคฤหาสน์
 “เร็วๆ เข้า!  เคลย์ตะโกนอย่างโกรธเคือง
 “รีบออกไปทางประตูหลัง เราจะออกไปกันทันที  เราจะออกไปจากเมืองเฮส”  เคลย์พูดตรงๆ
พระสนมสับสน “ฝ่าบาท เราทุกคนอยู่ที่นี่กันหมดก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ?  ทำไม...”
 “เผียะ!
เคลย์ตบนางทันที
 “พูดเหลวไหลพอแล้ว”  เคลย์แค่นเสียง
 “เร็วเข้า ลืมเรื่องม้าไปซะ  พวกเจ้าทั้งสอง เจ้ารับผิดชอบคุ้มครององค์หญิงกับพระสนม”  เคลย์ออกคำสั่งอัศวินของเขา  จากนั้นให้คนที่สามเปิดประตูหลัง
ลินลี่ย์ซ่อนตัวอยู่หลังเนินเขาจำลองมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดขณะที่หัวเราะอย่างเยือกเย็น
 “เป็นอย่างที่คิด ไม่มีโยคีเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว”  ด้วยการกระโจนเพียงครั้งเดียว ลินลี่ย์ก็ถอยหลังเคลื่อนที่ไปอยู่ในจุดที่เคลย์กับไกเซอร์ไม่สามารถมองเห็นเขาได้  จากนั้นเขาแนบตัวกับกำแพง ลินลี่ย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไปที่ประตูหลัง  แต่ขณะที่ลินลี่ย์เลี้ยวที่หัวมุม เขาก็ต้องชะงักทันที
บีบีอยู่ติดกับประตูหลัง
 “แอ๊ดดดด” ประตูหลังเริ่มเปิดออก
บีบีวิ่งด้วยความเร็วสูงไปที่พงหญ้าใกล้ๆ เนื่องจากบีบียังมีขนาดเท่ากำปั้นจึงใช้พงหญ้าบดบังซ่อนร่างของมันได้
 “บีบี, เมื่อเคลย์ออกมา ช่วยบอกข้าทันทีด้วย”  ลินลี่ย์ซ่อนตัวอยู่หลังมุมและตลอดทั้งร่างของเขาเริ่มปกคลุมด้วยเกล็ดดำ “แครก” หน้าผาก, หลัง, ศอกและเข่าเริ่มมีหนามแหลมงอกออกมา
และหางเหล็กมังกรก็ยืดยาวออกมาด้วยเช่นกัน
ตาดำของลินลี่ย์กลายเป็นสีทองเข้ม สีเดียวกับตาของมังกรเกราะหนาม
ร่างมังกรเต็มพิกัด  “เวทสายลม – ความเร็วเสียง” ขณะเดียวกันลินลี่ย์เสริมพลังตนเองด้วยเวทสายลม  หลังจากแปลงเป็นร่างมังกรเต็มที่ ลินลี่ย์รู้สึกว่าร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังไม่มีขีดจำกัด
ตอนนี้ดาบหนักอาดาเมนเทียมไม่ส่งผลต่อลินลี่ย์แม้แต่น้อย
สำหรับนักรบที่เก่งกาจสามารถยกของหนักเป็นแสนปอนด์ได้ง่ายๆ น้ำหนัก 3600 ปอนด์จะนับว่ากระไรได้?  เมื่อพูดโดยเปรียบเทียบก็เหมือนกับขอให้คนธรรมดาที่สามารถยกน้ำหนัก 100 ปอนด์ได้ ช่วยถือของที่หนักแค่ปอนด์เดียวให้เขา  จะส่งผลอะไรกับเขาได้?
เคลย์ยังคงเร่งรัดคนของเขา และอัศวินพายุสายฟ้าคนหนึ่งเริ่มออกมาจากประตูหลัง
เคลย์เดินผ่านประตูโดยมีชาร์คเดินคู่ และจากนั้นก็เป็นองค์หญิงและพระสนมภายใต้การคุ้มกันของอัศวินพายุสายฟ้านำหน้าออกมาเช่นกัน  ขณะที่ไกเซอร์คอยรั้งท้าย  ทำหน้าที่ระวังภัยและคุ้มกันด้วย
 “เจ้านาย, เคลย์ออกมาแล้ว”
แค่เพียงเคลย์ก้าวเท้าออกมาจากคฤหาสน์  เสียงของบีบีดังขึ้นในใจของลินลี่ย์  ดวงตาของลินลี่ย์ซึ่งหลบมุมซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลาพลันเปล่งประกาย
 “ควั่บ!
เขากระโจนไปข้างหน้าสุดกำลังผสานกับพลังลมรอบๆ ตัวพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
 “ควั่บ”
ในพริบตา ร่างเงาเลือนรางขนาดเท่ามนุษย์ตัดผ่านระยะไกลเจ็ดสิบเมตรพุ่งตรงมายังประตูหลังของคฤหาสน์เคลย์  ความรู้สึกว่าบางอย่างไล่ตามทำให้เคลย์หันไปมอง เขาเห็นว่าร่างเลือนรางขนาดมนุษย์นี้มาถึงข้างตัวเขาเรียบร้อยแล้ว  ร่างที่คุ้นเคยนั่นทำให้เคลย์เสียขวัญ  ก่อนที่เขาจะมีโอกาสร้องหรือตั้งหลัก พลังที่แข็งแกร่งตรึงเขาไว้ทันที
 “อย่าขยับ มิฉะนั้น เจ้าตาย”  เสียงของลินลี่ย์ดังเข้าหูของเคลย์โดยตรง
 “กรี๊ดดดดด!” พระสนมก้าวเท้าออกมาจากประตู  เมื่อเห็นลินลี่ย์  นางกลัวจัดจนกรีดร้องทันที แต่ทันใดนั้นเสียงฉับดังขึ้น  ศีรษะของพระสนมขาดกระเด็น
ลินลี่ย์รั้งกรงเล็บกลับ
ศีรษะพระสนมที่ถูกตัดมีเลือดฉีดกระจายไปทุกที่  ขณะที่ร่างของนางล้มลงกับพื้น
 “ปะ...ปีศาจ!  องค์หญิงกลัวและเดินถอยหลัง
 “ปล่อยฝ่าบาท!  อัศวินพายุสายฟ้าผู้อยู่กับชาร์คพุ่งเข้ามาทันที  แต่ขณะที่เขาทำเช่นนั้น เงาร่างดำเลือนรางพุ่งตรงมาที่พวกเขา  หนูเงาน้อยบีบีแปลงร่างจนมีขนาดครึ่งเมตรแล้วกระโดดลงมาที่พื้น  ขณะที่มันลงมาบนพื้น  นักรบที่กำลังจะบุกจู่โจมล้มลงทันที  ที่คอของพวกเขาถูกฟันไปครึ่งหนึ่ง
 “พวกเจ้าไม่มีใครต้านทานได้  การต่อต้านเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์”  เสียงเยือกเย็นของลินลี่ย์ดังขึ้น
ขณะเดียวกัน ไกเซอร์ก็พุ่งตรงเข้ามาเช่นกัน
 “ใต้เท้าไกเซอร์  นั่น..สัตว์ประหลาดอะไร?”  องค์หญิงถูกขู่ขวัญหวาดกลัว  แต่ชาร์คได้รับคำอธิบายจากเคลย์ทุกอย่างแล้วรู้ว่าอสุรกายตนนี้ก็คือลินลี่ย์
ใบหน้าที่ไม่ปกตินั้นมีเกล็ดดำครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า และมีหนามแหลมงอกจากหน้าผาก เข่า ศอกและหลัง  เกล็ดของมันปกคลุมเท้าและกรงเล็บของมันคมกริบ
ที่ยิ่งกว่านั้น มันมีหางมังกรแส้เหล็ก
ตอนนี้หางมังกรรัดรอบตัวเคลย์ทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่ได้ แค่หางมังกรของลินลี่ย์เคลื่อนไหวเล็กน้อย  ตัวของเคลย์ก็ซวนเซตามไปด้วย
ภาพต่อหน้าครั้งนี้ทำให้ทุกคนตะลึง
 “ไกเซอร์  ครั้งนี้ ท่านไม่มีโอกาสแล้ว”  เสียงเยือกเย็นของลินลี่ย์ดังขึ้น
แววเจ็บปวดปรากฏบนสีหน้าไกเซอร์  เขารู้ว่าถ้าเขาสู้กันตัวต่อตัวกับลินลี่ย์ชัยชนะยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน  ยิ่งกว่านั้นลินลี่ย์ยังมีคู่หูเป็นอสูรเวทที่บ้าคลั่งซึ่งมีพลังระดับเดียวกับเขา
ไกเซอร์ไม่มั่นใจในความสามารถของเขาว่าจะจัดการลินลี่ย์หรืออสูรเวทบีบีได้หรือไม่
และตอนนี้เคลย์ถูกลินลี่ย์จับตัว   ไกเซอร์ไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย
 “ลิน...ลินลี่ย์!  ปล่อยพระบิดาข้า!  ชาร์คตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
ลินลี่ย์ชำเลืองมองชาร์คด้วยดวงตาสีทอง เย็นชา  ชาร์คตัวสั่นไม่กล้าพูดอีกต่อไป  ตอนนี้ลักษณะของลินลี่ย์ทำให้ทุกคนอับจนปัญญา  พวกอัศวินพายุสายฟ้าที่ติดตามเคลย์และได้รบและถูกลินลี่ย์กับบีบีฆ่าตายที่ผ่านมา  พวกเขารู้ว่าลินลี่ย์และอสูรเวทคู่หูของเขาแข็งแกร่งน่ากลัวเพียงไหน
 “ลินลี่ย์” ขณะที่เคลย์กำลังจะร้องขอความเมตตา...
 “กร๊อบ” “แครก!
ลินลี่ย์ฉีกนิ้วนางและนิ้วชี้จากนั้นโยนไปที่กลุ่มของเจ้าหญิงและไกเซอร์
 “อ๊า....” เคลย์ไม่อาจอดกลั้นได้  เขาส่งเสียงร้องโหยหวนจากการถูกตัดนิ้ว
 “เคลย์, ข้าจะบอกเจ้าในตอนนี้เลยก็ได้  เจ้าจะต้องตายแน่นอน”  ลินลี่ย์พูดตามปกติ
เคลย์มีสีหน้าดุร้ายเหมือนเสือขณะจ้องมองลินลี่ย์
แต่สิ่งที่ปรากฏในสายตาเขาก็คือดวงตาสีทองที่ไร้ความรู้สึกของลินลี่ย์
 “ตอนนี้เจ้ามีเพียงสองทางเลือก  ประการแรกถูกทรมานจนตาย  ประการที่สอง เล่าเรื่องท่านแม่ให้ข้าฟัง  ใครฆ่านาง และจากนั้นข้าจะยอมให้เจ้าตายสบาย”  ลินลี่ย์พูดอย่างสงบ
ลินลี่ย์รู้ดีว่าวิธีที่ดีที่สุดสำหรับใช้จัดการคนอย่างเคลย์ก็คือวางเงื่อนไขที่ชัดเจนกับเขา
มิฉะนั้น เคลย์จะคิดว่ายังมีความหวังจะรอดอยู่ได้  เขาคงจะกัดฟันและปฏิเสธที่จะตอบเพื่อรักษาความหวังนั้นไว้
 “ไม่! ถ้าเจ้าไม่ไว้ชีวิตข้า  อ๊า!!!  ลินลี่ย์ฉีกนิ้วของเคลย์อีกนิ้วหนึ่ง  “เจ้าจะตายแน่  คำถามเพียงอย่างเดียวคือจะบอกความจริงเร็วๆ และทำให้ตัวเจ้าไม่ต้องเจ็บปวดทรมานหรือไม่?”
 “ฝ่าบาท!
ไกเซอร์เตรียมวิ่งเข้ามาทันที
 “ไกเซอร์!  ท่านต้องการให้ทุกคนตายใช่ไหม?”  นัยน์ตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จ้องมองไกเซอร์  ไกเซอร์ชะงักทันที  เขาเข้าใจว่าลินลี่ย์และบีบีมีพลังมากพอฆ่าทุกคนได้แน่นอน
แม้ว่าเขา, ไกเซอร์จะมีเพียงความสามารถหนีได้  แต่เมื่อเผชิญพลังโจมตีร่วมกันของทั้งลินลี่ย์และบีบี  เขาไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย  “อา...”  ไกเซอร์ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ
ลินลี่ย์หันกลับไปมองเคลย์
หน้าของเคลย์ซีดขาว  เหงื่อเม็ดโตเท่าเม็ดถั่วผุดขึ้นที่หน้าผาก  ตอนนี้ลินลี่ย์เชี่ยวชาญในการใช้พลังที่หางสูงมาก
 “คิดต่อไปเถอะ  ยิ่งเจ้าคิดนานขึ้นเท่าใด  ความเจ็บปวดก็จะเพิ่มขึ้น”  ลินลี่ย์ยื่นมือที่เต็มไปด้วยเกล็ดคว้าที่หูของเคลย์
เมื่อเดาได้ว่าลินลี่ย์เตรียมจะทำอะไร เคลย์ร้องเสียงหลง  “ไม่!
 “ควาก”
หูซ้ายของเคลย์ถูกลินลี่ย์ฉีกขาด เขาร้องโหยหวนพลางสบถด่า “ลินลี่ย์ เจ้าบัดซบ  เจ้ามันเป็นปีศาจร้าย!
 “ถ่วงเวลาต่อไปได้เลย!  ลินลี่ย์ค่อยๆ ยื่นกรงเล็บไปที่หน้าของเคลย์
 “คราวนี้จะเป็นดวงตาเจ้าบ้าง  บอกข้ามา  จะให้ข้าควักตาซ้ายหรือตาขวาดี?”  หน้าของลินลี่ย์เฉยชา  เมื่อเคลย์มองดูลินลี่ย์  ด้วยความหวังจะค้นหาอะไรบางอย่างจากดวงตาหรือสีหน้าของลินลี่ย์  แต่ทั้งหมดที่เขาเห็นก็คือ ใบหน้าที่มีเกล็ดปกคลุมไม่หวั่นไหวและเยือกเย็น  และดวงตาทองเข้มไร้ปราณี
 “ถ้าเจ้าไม่ตัดสินใจ  ข้าจะตัดสินใจให้เจ้าเอง, จากหูซ้ายของเจ้าไปแล้ว ตอนนี้ข้าจะควักตาขวาของเจ้า” ลินลี่ย์ยื่นกรงเล็บเข้ามาใกล้
 “ไม่!, ข้าจะบอก,  ข้าจะบอก”  เคลย์ร้องโหยหวนสุดเสียง
ลินลี่ย์รั้งกรงเล็บกลับ  “งั้นพูดไป”
 “ข้าจะพูด  ข้าจะพูด”  เคลย์น้ำตาคลอเบ้า พลังใจของเขาพังทลาย ลินลี่ย์ไม่มีเจตนาจะไว้ชีวิตเขา ไม่ว่าเขาจะทำยังไงก็ตาม เขาจะต้องตาย  ถ้าเขาพูดอย่างน้อยเขาก็ตายสบาย  ถ้าไม่ทำอย่างนั้นเขาจะตายอย่างทุกข์ทรมาน
ไม่มีอัศวินพายุสายฟ้าที่ยืนอยู่ห่างไกลกล้าพูดสักคำ  ลินลี่ย์และบีบี หนึ่งคนหนึ่งอสูรน่ากลัวเกินไป
เคลย์กำลังคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวในใจ  “ศาสนจักรเจิดจรัส ครั้งนี้พวกเจ้าไม่ได้ช่วยอะไรข้า กลับทิ้งข้าไว้เบื้องหลัง  อย่าตำหนิข้าก็แล้วกันที่สร้างศัตรูซึ่งจะกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวตามจัดการพวกเจ้าในอนาคต!
 “ลินลี่ย์, ข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้, ในแต่ละปีศาสนจักรเจิดจรัสจะต้องบูชายัญเป็นวิญญาณที่บริสุทธิ์มากแก่มหาเทพเจิดจรัส  มหาเทพเจิดจรัสต้องการเพียงสองสิ่งคือ ศรัทธาของเหล่าสาวกและวิญญาณที่บริสุทธิ์”  เคลย์พูดตามตรง
ลินลี่ย์จ้องมองเคลย์ด้วยสายตาเฉยชา  “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรด้วยกับท่านแม่ข้า?”
เคลย์พูดต่อ  “ยิ่งบูชายัญด้วยวิญญาณบริสุทธิ์มากแก่มหาเทพเจิดจรัส  องค์มหาเทพก็จะประทานของขวัญที่ยิ่งใหญ่แก่ศาสนจักร.. แพตเตอร์สันน้องข้าและข้าเพิ่งจะออกมาจากโบสถ์เจิดจรัส พอข้าเห็นมารดาเจ้า ข้าตะลึงทันที นางดูบริสุทธิ์สดใส เพียงแค่ชำเลืองดูมารดาเจ้าเพียงวับเดียว ข้าก็ตัดสินใจได้ทันที  ข้ารู้สึกว่าวิญญาณมารดาเจ้าต้องบริสุทธิ์มาก” หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ลินลี่ย์สามารถคาดเดาเรื่องที่เหลือได้
 “ข้าสามารถบอกได้ว่าบิดาของเจ้าเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา  ดังนั้นข้าจึงสั่งแพตเตอร์สันให้ไปชิงตัวมารดาเจ้า  วันต่อมาข้าส่งตัวมารดาเจ้าให้กับศาสนจักรเจิดจรัส”
เคลย์สูดหายใจลึก  “แน่นอนวิญญาณของมารดาเจ้าบริสุทธิ์อย่างเหลือเชื่อ  เมื่อศาสนจักรเจิดจรัสฆ่ามารดาของเจ้า ส่งวิญญาณนางเป็นเครื่องบูชายัญให้แก่มหาเทพเจิดจรัส  มหาเทพฯ ได้ประทานพรพร้อมกับของขวัญที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาเคยได้รับครั้งก่อนๆ”
 “และนี่คือสาเหตุที่ทางโบสถ์เจิดจรัสตัดสินใจให้รางวัลข้าด้วยพรของเทพเจ้าอย่างที่พวกเขาไม่เคยให้ผู้ใดมาก่อน  พรที่ช่วยยกระดับข้าจากนักรบระดับเจ็ดขึ้นเป็นนักรบระดับเก้าโดยตรง  แม้ว่าจะทำให้ความก้าวหน้าในอนาคตของข้ามิอาจเป็นไปได้อีก  แต่ข้าก็ยังพอใจ  นอกจากนี้วิหารเจิดจรัสยังได้มอบเกราะชะตาระดับเซียนให้กับข้า”
เคลย์มองดูลินลี่ย์  “วิญญาณของมารดาเจ้าโดดเด่นมากจริงๆ  โบสถ์เจิดจรัสมอบของขวัญให้ข้ามากมายก็เพราะนาง  จากจุดนี้ เจ้าคงนึกภาพออกว่ามหาเทพเจิดจรัสได้ให้รางวัลพวกเขามากมายเพียงไหน  เมื่อพวกเขาบูชายัญด้วยวิญญาณมารดาเจ้าให้กับพระองค์”
 

1 ความคิดเห็น:

KiattisakPleng กล่าวว่า...

ลัทธิโคตรเลว

แสดงความคิดเห็น