วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 7-21 ชะตากรรม




ตอนที่  7-21  ชะตากรรม

เมื่อได้ยินคำพูดของเคลย์  ลินลี่ย์ได้แต่เงียบ

 “ฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์, ตอนนี้เจ้าคงรู้แล้วว่าใครคือศัตรูที่แท้จริงใช่ไหม?  แต่เจ้าสามารถรับมือพวกวิหารเจิดจรัสได้ไหมเล่า?”  เคลย์หัวเราะอย่างบ้าคลั่งแทบจะคล้ายคนเป็นโรคจิตประสาท  เคลย์รู้ว่าเขากำลังจะตาย และทันทีที่รู้สึกว่าใกล้ความตาย เขาตัดสินใจก่อกวนปั่นป่วนโลกให้มากขึ้นเท่าที่เขาสามารถทำได้
 “ที่พูดมานี่จริงหรือเปล่า?”  เสียงของลินลี่ย์แหบแห้ง
ความจริงลินลี่ย์เชื่อเรื่องที่เคลย์บอกเล่าเขาแล้ว  เพราะนี่คือคำอธิบายที่เป็นไปได้ถึงเหตุผลที่ทางศาสนจักรเจิดจรัสมอบเกราะชะตาระดับเซียนให้เคลย์
 “ตัวเจ้าเองก็รู้ดีว่าข้าพูดจริงหรือไม่”  เคลย์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ลินลี่ย์เงียบอีกครั้ง
 “ลินลี่ย์, เจ้าควรจะคิดถึงความจริงที่ว่าเจ้าเป็นจอมเวทอัจฉริยะและเป็นนักรบเลือดมังกร  ในสายตาของศาสนจักรเจิดจรัส เจ้ามีศักยภาพมากมายกว่าข้าที่เป็นนักรบระดับเก้าด้วยวิธีการใช้เวทลับพิเศษ  ในอนาคต เจ้ามีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นทั้งสุดยอดนักรบระดับเซียนและมหาจอมเวทระดับเซียน  ถ้าไม่ใช่เพราะความลับที่ข้าเปิดเผยไปแล้วนี้  ต่อให้เจ้าฆ่าข้า ศาสนจักรเจิดจรัสอาจจะยอมทนไม่ดำเนินการอะไรกับเจ้าก็ได้”  เคลย์หัวเราะลั่น
ลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลนี้จนได้
 “ที่เคลย์พูดน่าจะเป็นความจริง”  เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังขึ้นในใจของลินลี่ย์  ประสบการณ์ของเดลิน โคเวิร์ท  ความสามารถในการตัดสินว่าสิ่งที่มีคนพูดออกมาจริงหรือไม่ ยังดีกว่าลินลี่ย์มาก
ลึกๆ แล้วลินลี่ย์เชื่อถือเดลิน โคเวิร์ท
…..

ขณะเดียวกันนี้ บนถนนคีนภายในเมืองเฮส  มีบุรุษหกคนลักษณะอำมหิตดุร้ายสวมชุดยาวสีม่วง  บุรุษชุดม่วงทั้งหกนี้ปลดปล่อยกลิ่นอายของยอดฝีมือที่หยิ่งเยือกเย็นทำให้คนรอบๆ ตัวพวกเขาต้องหลีกห่าง
พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของเคลย์
ตอนนี้พวกเขาไม่รู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่คฤหาสน์ของเคลย์
 “วิลเลทส์ (เหวยเท่อซือ), พวกโยคีอยู่ตรงนี้หรือ?” หนึ่งในบุรุษชุดม่วงพูดเสียงทุ้ม
หัวหน้าของพวกบุรุษชุดม่วงพยักหน้า  “ถูกแล้ว จากที่ข้าเข้าใจ พวกโยคีทั้งหมดพำนักอยู่ที่คฤหาสน์ของเคลย์  งานที่เราได้รับมอบหมายนี้สำคัญมาก จะให้ดีที่สุดก็คือออกไปพร้อมกับพวกโยคี”
ทั้งหกคนคือมือปราบพิเศษของศาลศาสนจักร
พวกเขาเพิ่งมาถึงเมืองเฮส และนี่คือที่อยู่ที่พวกเขามีอยู่ในมือ  พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี้ พวกโยคีเพิ่งจะออกไปกันหมด  พวกเขาเพิ่งจะคลาดกัน
 “หืม? ทำไมไม่มีใครอยู่ที่นี่สักคน?”
เมื่อเข้าไปในคฤหาสน์ที่ว่างเปล่าของเคลย์ พวกเขาอดมองดูรอบๆ อย่างสงสัยมิได้ มือปราบพิเศษอีกห้าคนมองดูวิลเลทส์  วิลเลทส์คือหัวหน้าปฏิบัติการในครั้งนี้
 “เข้าไปดูข้างในกันเถอะ”  วิลเลทส์พูดอย่างใจเย็น  ทั้งหกคนมุ่งหน้าเข้าไปในคฤหาสน์  แต่ภายในคฤหาสน์ว่างเปล่าไม่มีคนเช่นกัน
 “ลินลี่ย์!  ปล่อยพระบิดาข้า  พระบิดาข้าบอกเจ้าไปทุกอย่างแล้ว”  เสียงดังแว่วมาจากประตูด้านหลัง มือปราบพิเศษทั้งหกหันไปมองที่ลานหลังคฤหาสน์ทันที
สีหน้าของบุรุษทั้งหกเคร่งเครียดทันที
 “ลินลี่ย์?”
บุรุษทั้งหกต่างมองหน้ากันเอง
 “ลินลี่ย์? ชื่อของเขาขึ้นบัญชีแดงไว้, เป็นสัญลักษณ์ว่าต้องฆ่า”  มือปราบพิเศษทั้งหกคนรีบตรงไปที่ประตูหลังคฤหาสน์ทันที
ศาลศาสนจักรมีบัญชีพิเศษสองประเภทคือ หนึ่งบัญชีแดงซึ่งเป็นที่รู้จักกัน  และอีกหนึ่งคือบัญชีดำ
คนที่ถูกขึ้นบัญชีแดงถูกตราไว้ว่าต้องถูกฆ่า  แต่ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทความสามารถกับเป้าหมายเช่นนั้น  ส่วนพวกที่ขึ้นบัญชีดำนั้นจะต้องฆ่าให้ได้ ไม่ว่าต้องทุ่มเทเท่าใดก็ตาม
ความจริงว่ากันถึงเรื่องศักยภาพในอนาคตของลินลี่ย์แล้ว  การคุกคามที่เขาสามารถแสดงออกต่อศาสนจักรเจิดจรัสในอนาคตก็เพียงพอต่อการขึ้นบัญชีดำได้  อย่างไรก็ตาม ขณะที่เบื้องสูงของศาสนจักรเจิดจรัสยังอยู่ในระหว่างหลบหนี  พวกเขาเชื่อว่า เนื่องจากลินลี่ย์ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักรต่อไป  โอกาสที่เขาจะพบว่ามารดาของเขาถูกทางศาสนจักรฆ่าจึงมีน้อยมาก  ดังนั้นพวกเขาจึงเพียงแต่ขึ้นบัญชีแดงลินลี่ย์ไว้
มือปราบพิเศษของศาลศาสนจักรมีพลังที่แปลกประหลาดกันทุกคน  มือปราบพิเศษทั้งหกคนนี้เป็นนักรบระดับเก้า  พวกเขาเริ่มพลางตัวโอบล้อมลินลี่ย์ไว้
…..

ในตรอกเล็กด้านประตูหลังคฤหาสน์ของเคลย์
หางมังกรแส้เหล็กของลินลี่ย์ยังคงรัดตัวเคลย์ไว้แน่น
 “ปล่อยพระบิดาเจ้าน่ะหรือ?”  ลินลี่ย์จ้องมองชาร์ค  เขาหัวเราะเสียงเย็นชาและกล่าว “ข้าสามารถปล่อยพระบิดาเจ้าได้  แต่ท่านพ่อ ท่านแม่ข้าล่ะ?  แม้ว่าศาสนจักรเจิดจรัสเป็นผู้ฆ่าท่านแม่ข้า แต่ความรับผิดชอบครึ่งหนึ่งมาจากพระบิดาของเจ้า  และความรับผิดชอบเกินกว่าครึ่งหนึ่งที่ทำให้ท่านพ่อข้าตายก็เป็นของบิดาเจ้าด้วยเช่นกัน”
ขณะที่ลินลี่ย์กล่าว  เขาเริ่มใช้หางบีบหนักมากขึ้น
 “กร๊อบ, กร๊อบ” เสียงประหลาดดังออกมาจากทั่วตัวของเคลย์  เคลย์ตกอยู่ในความทุกข์ทรมานดังกล่าวจากพลังหางของลินลี่ย์ เขาเริ่มดิ้นทุรนทุรายอีกครั้ง
 “อ๊า, อ๊าคคคค ลินลี่ย์ ฆ่าข้าให้หมดจดทีเดียวซะ” เคลย์ครวญครางอย่างทรมาน
 “กร๊อบ”
แขนทั้งสองข้างของเคลย์หักหลุดออก  ตอนนี้ร่างของเคลย์ถูกหางลินลี่ย์รัดแน่นจนเอวเขาลีบเล็กกว่าสตรีเอวบางเสียอีก
 “ตาย”
ลินลี่ย์มองดูเคลย์ จากนั้นเพิ่มแรงบีบที่หางทีละนิดๆ
 “อั้ก..” เคลย์กระอักโลหิตออกจากปากมากมาย และหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง  ขณะที่กระอักโลหิตออกมาเขาไอไม่หยุด และอวัยวะภายในบางส่วนกระเด็นออกมาขณะไอ
ในตอนนี้...
เคลย์ถูกรัดเอวจนหลุดจากกัน  แม้แต่กระดูกสันหลังของเขาก็แตก มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังยึดร่างท่อนบนกับท่อนล่างไว้ก็คือชั้นผิวที่เปื้อนเลือด
เคลย์ร้องครวญครางอยู่สองสามครา  “อ๊า.. อ๊า...”  เขาหน้าแดงไปทั้งหน้า  สองสามนาทีต่อมา ลมหายใจเขาก็หยุดและวิญญาณหลุดลอยไปจากโลกนี้
แต่ตอนนี้ ลินลี่ย์ไม่ได้รู้สึกถึงความสุขหรือความสำเร็จเลย
สิ่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือความโศกเศร้าเสียใจลึกๆ
 “ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านเห็นข้าหรือไม่?”  ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
ชาร์ค ไกเซอร์ องค์หญิงและกองอัศวินพายุสายฟ้าทุกคนจ้องมองลินลี่ย์  หลายๆ คนกลัวจับจิต หลังจากเห็นว่าเคลย์ตายยังไง  พวกเขาไม่กล้าลองและแก้แค้นเขา  พวกเขาหวังแต่เพียงว่าลินลี่ย์จะจากไปในตอนนี้
ดวงตาสีทองเข้มเหลือบมองทุกคน
 “อะแฮ่ม”  ชาร์คกระแอมในลำคอ เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าผากเขา  พระบิดาเขาตาย แต่เขายังไม่อยากตาย
หางมังกรของลินลี่ย์สะบัดเล็กน้อย จากนั้นเขาหมุนตัวและเริ่มเดินจากไป
 “บีบี, ไปกันเถอะ” เขาเรียกบีบี
ขณะที่บีบีอยู่ห่างๆ ด้านข้างมาตลอดเตรียมจะหนีไปพร้อมกับเขา จู่ๆ บีบีก็ชะงัก ขนในตัวของมันลุกชัน หลังจากนั้นลินลี่ย์ก็รู้สึกได้ถึงอันตรายซึ่งมาจากทุกตำแหน่งทิศขึ้นมาทันที
 “ควับ”
ลมกระโชกแรงหลายสายจนได้ยิน ขณะที่ร่างในชุดยาวสีม่วงปรากฏตัวโอบล้อมลินลี่ย์ไว้จากหกด้าน ลินลี่ย์และบีบีติดอยู่ในวงล้อมของพวกเขา  สี่คนยืนอยู่บนหลังคาใกล้เคียง ขณะที่อีกสองคนยืนอยู่ในตรอกแต่ละด้านที่ลินลี่ย์อยู่ ไม่มีที่ให้ลินลี่ย์หนีได้แม้แต่น้อย
 “มือปราบพิเศษจากศาลศาสนจักร” ลินลี่ย์รู้ได้ทันทีว่าคนที่อยู่ในชุดเครื่องแบบนี้เป็นใคร
เมื่อเห็นการตั้งขบวนพยุหะนี้ ชาร์คและอัศวินวายุสายฟ้าหน้าซีดกันทุกคน  มือปราบพิเศษนี้ไม่เพียงแค่โอบล้อมลินลี่ย์กับบีบีเท่านั้น พวกเขายังคงโอบล้อมชาร์คและคนของเขาไว้ด้วย
 “ใต้เท้า  ข้าคือโอรสรองของราชวงศ์เฟนไล  โปรดให้ข้าจากไปก่อน” ชาร์คขอร้องทันที
ไกเซอร์จำมือปราบพิเศษได้จากเครื่องแบบพวกเขา  เขากล่าวทันทีเช่นกัน  “ใต้เท้ามือปราบพิเศษ,  ข้าชื่อไกเซอร์เป็นผู้รับใช้ของศาสนจักรเจิดจรัส ขอให้ข้าไปก่อนได้ไหม?”  ไกเซอร์รู้ดีเรื่องวิธีการพิเศษที่มือปราบพิเศษแห่งศาลศาสนจักรจะใช้  เมื่อว่าถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ไกเซอร์คงไม่มีประโยชน์ต่อไป และเขาคงไม่แสดงอาการขัดขวางแต่อย่างใด”
 “ไกเซอร์,  เจ้าไปได้”
หนึ่งในบุรุษชุดม่วงที่ยืนอยู่ท้ายตรอกพูดเสียงเย็นชา
 “ขอรับ”  ไกเซอร์เริ่มวิ่งไปตามตรอกด้านหนึ่ง  บุรุษชุดม่วงไม่ได้ขัดขวางเขาแม้แต่น้อย ปล่อยให้เขาหนีผ่านพวกเขาไป  ไกเซอร์เป็นยอดฝีมือของอาณาจักรเฟนไลก็จริง  แต่เขาคืออัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักรเจิดจรัส
 “ใต้เท้า แล้วข้าเล่า?”  ชาร์คพูดทันที
 “ใต้เท้ามือปราบพิเศษ”  เจ้าหญิงขอร้องมือปราบพิเศษด้วยเช่นกัน
แต่หกมือปราบพิเศษไม่ชำเลืองมองพวกเขาแม้แต่น้อย  หกมือปราบพิเศษมีความตั้งใจชัดเจน  เมื่อไกเซอร์จากไป  เขาเป็นคนผู้เดียวที่เป็นนักรบระดับเก้า  ลินลี่ย์ไม่สามารถหาโอกาสเล็ดลอดหนี  แต่ถ้าพวกเขาให้ชาร์คและคนอื่นๆ จากไปด้วย เมื่อคำนึงถึงพลังในปัจจุบันของลินลี่ย์ เขาอาจจะหาหนทางหลุดรอดจากห้วงวิกฤติได้แน่นอน
ลินลี่ย์จ้องมองทั้งหกอย่างเย็นชา
 “พวกท่านต้องการฆ่าข้าใช่ไหม?”  ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น  เขารู้สึกมั่นใจในตัวเอง แม้แต่ตอนที่ถูกมังกรยักษ์กลุ่มใหญ่รุมล้อมโจมตี เขาก็ยังหลบหนีรอดมาได้
สำหรับมือปราบพิเศษทั้งหกนี้ คิดจะฆ่าเขากับบีบีให้ได้ย่อมไม่ใช่งานง่ายๆ เกล็ดที่ปกป้องร่างของลินลี่ย์ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
 “พวกที่ถูกขึ้นบัญชีแดงจะต้องถูกฆ่าเมื่อพบเห็น”  หัวหน้ามือปราบพิเศษหัวเราะเย็นชา
มือปราบพิเศษทั้งหกจ้องมองเขากับบีบีไม่สนใจอย่างอื่นทุกสิ่ง  ในฐานะเป็นสมาชิกระดับสูงของศาลศาสนจักร  เป็นธรรมดาที่พวกเขารู้ว่าลินลี่ย์คือนักรบเลือดมังกร  นักรบเลือดมังกรคือหนึ่งในสุดยอดนักรบ  พวกเขาไม่กล้าดูถูกเขา
 “โอว?  ฆ่าทันทีที่พบเห็น?”  หางมังกรของลินลี่ย์เริ่มสะบัด
 “ควั่บ!  หางมังกรของลินลี่ย์ที่เหมือนกับดาบเหล็กฟาดใส่พื้นตามปกติ สามารถตัดเป็นร่องลึกได้  ดวงตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จับจ้องเขม็งอยู่ที่คนกลุ่มนี้เช่นกัน
 “ใต้เท้ามือปราบพิเศษ”  ตอนนี้ชาร์คและคนของเขากลัวจริงๆ
 “ไปกันเถอะ”  หนึ่งในอัศวินพายุสายฟ้าคำรามลึกๆ และทันทีนั้นกลุ่มอัศวินก็พุ่งตรงออกไปทางออกในตรอกด้านหนึ่ง  อัศวินพายุสายฟ้าที่เหลืออยู่มากกว่าสิบคนเป็นนักรบระดับแปด  สำหรับพวกเขารวมพลังกันพุ่งออกไปแบบนี้  แม้แต่นักรบระดับเก้ายังยากจะหยุดพวกเขาได้
ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
ลินลี่ย์พุ่งตรงไปที่กำแพงด้านซ้ายเขาทันที  โดยไม่ต้องสนใจว่ามีกำแพงหรือไม่  ลินลี่ย์ทลายผ่านกำแพงได้เหมือนกับว่าตัวเขาเองเป็นอสูรเวทขนาดใหญ่
 “บึ้ม!  ลินลี่ย์ทลายกำแพงส่วนหนึ่ง  ขณะที่หนีไปทางเหนือด้วยความเร็วสูง
 “วูบบบ”
ร่างของมือปราบพิเศษทั้งหกเริ่มปล่อยแสงแสงเผาผลาญที่ร้อนแรงทันที แสงที่เปล่งออกมาจากมือปราบพิเศษทั้งหกนี้ก่อตัวประสานกันเป็นรูปดาวหกแฉกที่แปลกประหลาดสว่างไสว
ลินลี่ย์เพิ่งปะทะเข้ากับหนึ่งในขอบดาวหกแฉก
 “บึ้ม!
ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนว่าเขาถูกหมีลายม่วงตบใส่  ตลอดทั้งร่างของเขาสั่นขณะที่เขาปลิวกระเด็นถอยหลังกลับมา  เขายังคงตกอยู่ในวงล้อมของมือปราบพิเศษทั้งหก
 “อ๊า”
ร่างของอัศวินพายุสายฟ้าผู้ปะทะเข้ากับรัศมีดาวหกเหลี่ยมระเบิดทั้งหมด  พื้นย้อมไปด้วยโลหิตแดงฉาน  อัศวินพายุสายฟ้าแต่ละคนที่สัมผัสกับดาวหกเหลี่ยมที่สว่างโพลนล้วนตายกันหมด
 “อะไรกันนี่?”  ลินลี่ย์ตกใจ
 “ลินลี่ย์, เร็วเข้า เจ้าต้องพยายามให้สุดฝีมือหลบหนีให้ได้!  นี่น่าจะเป็นหนึ่งในวิธีรวมพลังโจมตีของศาลศาสนจักร”  เดลิน  โคเวิร์ทตระหนักได้ถึงอันตรายที่ลินลี่ย์และบีบีเผชิญอยู่ตอนนี้  ถ้าพวกเขายังคงติดอยู่ในลักษณะนี้  ก็มีแนวโน้มว่าลินลี่ย์กับบีบีจะไม่มีทางหลบหนีออกไปได้เลย
มือปราบพิเศษทั้งหกเข้าโจมตีลินลี่ย์กับบีบีด้วยประสบการณ์  และขณะที่พวกเขาทำเช่นนี้ พื้นที่เคลื่อนไหวภายในดาวหกเหลี่ยมเริ่มหดแคบลงอย่างรวดเร็ว
 “อ๊า”  “อ๊า”  “อ๊า”  “อ๊า”
ชาร์คและอัศวินที่ยังเหลืออยู่ไม่สามารถหลบวงล้อมดาวหกเหลี่ยมที่มือปราบพิเศษบีบพื้นที่เข้ามาใกล้ขึ้นๆ แต่ละคนถูกบังคับให้ต้องสัมผัสกับแสงดาวหกเหลี่ยม  และเมื่อพวกเขาสัมผัส ร่างของพวกเขาจะเริ่มสั่นและระเบิด
ในพริบตาคนในกลุ่มของชาร์คไม่มีผู้ใดเหลือรอดชีวิตอยู่เลย
แต่ลินลี่ย์และบีบีติดอยู่ในพื้นที่หดแคบมากขึ้นทุกที
 “เจ้านาย, เจ้าแสงสีขาวนี่มีพลังมากจริงๆ เราจะทำอย่างไรกันดี?”  บีบีแตกตื่น
ลินลี่ย์ทั้งรู้สึกได้ทั้งสัมผัสถึงพลังดาวหกเหลี่ยมสีขาว  เมื่อมันสัมผัสที่ตัวเขา  เขายังรู้สึกเจ็บปวดเหลือทน แม้ว่าพลังป้องกันในร่างกายของเขาจะมาก แต่โลหิตในตัวเขาปั่นป่วน
 “บีบี, เจ้าดำลงไปในดิน  ข้าจะบินขึ้นฟ้า  หนีไป”  ลินลี่ย์สื่อสารทางจิตกับบีบีโดยตรง
ลินลี่ย์ปรับเกล็ดสีดำ และหนูเงาประหลาดบีบีที่เป็นเหมือนสหายของเขาลงมือพร้อมกัน  ฝ่ายหนึ่งบินขึ้นฟ้าเหมือนกับธนูหลุดออกจากแล่ง  ขณะที่อีกหนึ่งขุดลึกลงไปในพื้นดิน

1 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น