วันอังคารที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 367 เขาเสร็จแน่



ตอนที่  367  เขาเสร็จแน่
คฤหาสน์กุหลาบ
ม่านหน้าต่างถูกชักปิดไว้แน่นหนา ทำให้ห้องมืดมาก  ถังเทียนหลับตานั่งขัดสมาธิอยู่ที่มุมห้องและตั้งใจ ไม่ไกลจากเขา แอนเดรียนานั่งเท้าคางตั้งใจมองถังเทียนอย่างงวยงง

เมื่อคิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันนี้  ใจของนางรู้สึกว่างเปล่า
นางไม่สามารถรวบรวมความกล้าทะเลาะกับเขา
วิธีการของเขาน่ากลัวมาก เห็นประจักษ์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาแค่พลิกมือก็เปลี่ยนสถานการณ์ได้และพอพลิกมืออีกครั้ง ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นตามมา ทั่วทั้งนครเทพสตรีกลายเป็นของเล่นสนุกของเขาอย่างสิ้นเชิง
นครเทพสตรีในตอนนี้เกิดความสับสนอลหม่านและขาดคนที่มีชื่อเสียงออกมานำสถานการณ์ ในวันนั้น หัวหน้าผู้อาวุโสผู้กล่าวโทษและต้องการเล่นงานทาร์ตันในฐานะเป็นผู้ร้าย  ได้นำพาฝ่ายปกครองระดับสูงของนครเทพสตรีไปด้วยกันและเมื่อเกิดการระเบิด ไม่มีผู้ใดรอดออกมาได้
พวกเขาวิ่งเข้าไปในวังเทพธิดา และไม่มีเวลาส่งข้อความออกมา
ทั่วทั้งนครเทพสตรีไม่มีเจ้าหน้าที่ปกครองระดับสูงของนครเทพสตรี  ทุกคนถูกกวาดหายไปหมด และทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ถูกกวาดหายเช่นกัน
กฎหมายและคำสั่งในเมืองกลายเป็นความวุ่นวาย คนผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพลทุกคนต่างหวาดกลัว ขณะที่พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  สิ่งที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวที่สุดก็คือว่าผู้อาวุโสตระกูลของพวกเขาหายสาบสูญไปหมด   ทุกๆ ตระกูลทำได้แต่เพียงปิดประตูของพวกเขารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด  และส่งคนออกไปตามหาผู้อาวุโสของพวกเขาและผู้อาวุโสตระกูล
ถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่  พวกเขาต้องการจะพบพวกเขา  ถ้าพวกเขาตาย พวกเขาต้องการจะเห็นศพพวกเขา
ความสับสนวุ่นวาย ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ความสับสนและการฝ่าฝืนกฎหมายทำให้ฉีซานและคนของเขาค้นหาได้ยากขึ้น  เขามีกำลังคนจำกัด และเมื่อเผชิญกับความวุ่นวายสับสนดังกล่าว กำลังคนที่น้อยนิดนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร
และที่แย่คือสถานการณ์ดำเนินไปถึงจุดที่พวกเขาไม่ได้คาดไว้
หน้าของฉีซานซีดขาว  จูหนิงเข้ามารายงานต่อหน้าเขาอย่างระมัดระวัง
 “....ตอนนี้ที่ตลาดกำลังพูดกันว่าการระเบิดเกิดขึ้นเพราะเรา  พวกเขาบอกว่าพวกเขามีพยานกล่าวว่าเป็นเพราะอัสตาปฏิเสธร่วมมือกับเรา จึงทำให้เราโกรธและอาย...”
จูหนิงรู้สึกได้ว่าเจ้านายของเขากำลังปล่อยรังสีอำมหิตขนาดใหญ่  และรู้ว่าเจ้านายเขาโกรธมาก  แต่เรื่องนี้ร้ายแรงเกินไปและเขาไม่กล้าปกปิดไว้  ดังนั้นเขาต้องด้านหน้าดำเนินการต่อไป
 “พวกเขาบอกว่า นี่ไม่ใช่ระเบิดธรรมดา อำนาจทำลายล้างของมันสูงมาก  และมีแต่สมาพันธ์ชาวยุทธจึงจะสามารถทำอย่างนั้นได้สำเร็จ  นอกจากนี้เวลาระเบิดก็สมบูรณ์แบบเกินไป  เพิ่งจะระเบิดเมื่อเราออกไป....”
หน้าของคนที่อยู่รอบๆ ฉีซานเปลี่ยนไปทุกคน  พวกเขาไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหาเหล่านั้นได้  ข่าวลือแบบนั้นมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงและน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง
ถ้าไม่ใช่พวกเขาทำเอง  พวกเขาอาจไม่เชื่อข่าวลือเช่นนั้น  พฤติกรรมของพวกเขาจริงจังเกินไป และพอพวกเขาออกไป วังเทพธิดาเกิดการระเบิด และไม่ใช่ระเบิดธรรมดา แต่เป็นพลังระเบิดที่น่ากลัวมาก
พวกเขามองหน้ากันเองและฝืนยิ้ม
นี่เหมือนกับโคลนเหลืองเปื้อนอยู่บนกางเกงพวกเขา  ต่อให้มิได้ปัสสาวะ แต่คนอื่นกลับเชื่อว่าเป็นปัสสาวะ
ฉีซานสูดหายใจลึกบังคับตนเองให้สงบใจ  ไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธต่อไป เขากล่าว “เจ้าหาคนที่เป็นต้นตอปล่อยข่าวลือได้หรือเปล่า?”
จูหนิงลังเลชั่วขณะ จากนั้นตัดสินใจพูดความจริง  “เราติดต่อกับหัวหน้าผู้อาวุโส, แคทเธอรีนและปาฟุเท่านั้น  ตอนนี้เราไม่มีพันธมิตรท้องถิ่นอยู่เลย  ดังนั้นเราไม่มีหูตาอยู่เลย”
ใครบางคนเสนอแนะ  “อย่างนั้นเราสามารถจับพวกชาวธุรกิจท้องถิ่น ข้าสังเกตว่าทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อเราค่อนข้างดีในวันนั้น”
จูหนิงจ้องเขาและตอบ  “ถึงตอนนี้ ใครจะกล้าเสี่ยงกับการกล่าวโทษและติดต่อกับเรา?  ไม่มีใครยอมเชื่อถือเรา  และพวกผู้อาวุโสเกือบทั้งหมดของสมาคมการค้าใหญ่ในเมืองถูกระเบิดตายหมด”
 “ห่วงนางฟ้าอยู่ในมือของแอนเดรียนา” ฉีซานกล่าวเคร่งเครียด
จูหนิงเข้าใจความหมายของเจ้านายและส่ายหัวขณะฝืนหัวเราะ  “พวกเขากล่าวว่า  เป็นเพราะแรนดี้และแคทเธอรีนถูกเจ้ากลุ่มดาวฆ่าเพื่อปกป้องแอนเดรียนา หัวหน้าผู้อาวุโสและอัสตาได้รับบาดเจ็บ  นั่นหมายความว่าอัสตารู้ถึงอันตรายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จึงมอบห่วงนางฟ้าให้แอนเดรียนาและปล่อยให้นางหนีไป  มีข่าวลือหลายรูปแบบ
ฉีซานโกรธจัดจนหัวเราะออกมา “เหลวไหล!
 “พลเมืองยินดีจะเชื่อ  ดังนั้นตระกูลทั้งหลายยินดีจะเชื่อด้วยเช่นกัน”  จูหนิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม  “พวกเขาต้องการใครสักคนมาเป็นผู้นำพวกเขา  และแอนเดรียนามีห่วงนางฟ้า ดังนั้นเป็นเรื่องยุติธรรมที่นางจะได้เป็นผู้นำ  ที่สำคัญยิ่งกว่า  ไม่มีใครเชื่อว่าแอนเดรียนาจะเป็นต้นเหตุให้เกิดการระเบิดใหญ่ครั้งนี้”
 “มีใครบางคนอยู่เบื้องหลังแอนเดรียนา”  ฉีซานใจเย็น  “เขาคือมือกระบี่ลึกลับ  และแอนเดรียนาจะต้องกลับไปยังคฤหาสน์กุหลาบแน่นอน  ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีข่าวลือเช่นนั้น  ดังนั้นหนทางเดียวที่เหลือให้เราเดินก็คือ ไปฆ่าแอนเดรียนาและชิงห่วงนางฟ้ากลับคืนมา  เนื่องจากมันสร้างความวุ่นวายมากพอแล้ว  เราต้องลงมือ แม้จะดูแย่ก็ตาม”
แววอำมหิตฉายผ่านดวงตาของฉีซาน
 “ไปคฤหาสน์กุหลาบกัน”
 “ขอรับ!  ทุกคนตอบรับเสียงเครียด
พวกเขาสืบเรื่องของแอนเดรียนามาเป็นอย่างดี และรู้จักพื้นที่ของตระกูลนางชัดเจน  พวกเขามีคนไม่มาก  แต่ในขณะเดียวกัน เป้าหมายของพวกเขาเล็กน้อย และพอกระจายเป้าหมายให้มีขนาดเล็กลงก็ย่อมจะสำเร็จได้ง่าย  พวกเขาหาทางมาคฤหาสน์กุหลาบอย่างเงียบกริบ
แนวป้องกันคฤหาสน์กุหลาบหนาแน่นมาก มีจุดตรวจเวรยามทุกๆ สิบก้าวและมียามทุกๆ ห้าก้าว แม้แต่นกก็ยากจะบินผ่าน
ทุกคนตื่นตระหนกมาก
ฉากภาพดังกล่าวยืนยันถึงการคาดเดาของฉีซาน  ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ มีแต่คนเข้าไปในคฤหาสน์ ไม่มีใครออกมาซึ่งเป็นภาพที่ไม่ปกติ  ครอบครัวอื่นๆ ก็มีการป้องกันพวกเขาอย่างหนาแน่น  แต่มักจะมีคนเข้าออกหลายคน  เพราะพวกเขามองหาญาติพี่น้องที่สูญหายไปจากแรงระเบิด  แต่สำหรับคฤหาสน์กุหลาบไม่มีใครออกมา
บ้านอื่นทุกบ้านเปิดไฟสว่างรอคอยข่าวทั้งวันทั้งคืน  มีเพียงคฤหาสน์กุหลาบที่ยังอยู่ในความมืด  ยามทุกคนเดินด้อมๆ มองๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ทุกอย่างผิดปกติเกินไป
ฉีซานหรี่ตา เมื่อเห็นการป้องกันที่หนาแน่นของคฤหาสน์  ไม่ต้องสงสัยแล้ว ข่าวลือทั้งหมดถูกแอนเดรียนาแพร่กระจาย  และผู้บงการหลังฉากมีแนวโน้มว่าจะเป็นมือกระบี่ลึกลับผู้นั้น
แต่แผนการทุกอย่าง เมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่เด็ดขาดจะพังพินาศเสมอ
บุรุษที่เขานำมาด้วยเป็นนักสู้ฝีมือดีของสมาพันธ์ชาวยุทธ และการป้องกันข้างหน้าพวกเขาแค่ดีพอสำหรับนักสู้ธรรมดา แต่สำหรับพวกเขาแล้ว เป็นเรื่องไร้ประโยชน์
กลุ่มนักสู้ลอบเข้าไปในคฤหาสน์อย่างเงียบกริบ
ในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาก็หาตำแหน่งของแอนเดรียนาพบ  เป็นเรือนหลังเล็กมีต้นกุหลาบล้อมรอบ เป็นที่มาที่ทำให้ทุกคนเรียกชื่อคฤหาสน์ตามลักษณะเรือนกุหลาบ  ความพยายามของพวกเขาไม่สูญเปล่า ดอกไม้ดูงดงามมาก
ผ้าม่านในเรือนกุหลาบปิดหมด
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ทุกคนตื่นเต้น  ไม่มีข้อสงสัย มีโอกาสสูงที่แอนเดรียนาจะซ่อนตัวอยู่ข้างใน
ฉีซานส่งสัญญาณให้จูหนิง
จูหนิงเข้าใจ  เขาเตรียมการเคลื่อนไหวของเขา  เมื่อนั้นฉากภาพแปลกประหลาดเกิดขึ้นทันที
แสงสีขาวบริสุทธิ์ฉายตรงมาที่หน้าของเขา
จูหนิงหรี่ตา
แสงยิงออกมาจากเรือนกุหลาบซึ่งอยู่ห่างออกไป 400 เมตร ในขณะเดียวกันสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น แสงไฟสาดส่องทีละดวงๆ ในทุกตำแหน่ง  สิ่งที่พวกเขาคาดไว้กำลังเกิด ทำให้ผมบนศีรษะพวกเขาตั้งชัน
แย่แล้ว เป็นกับดัก!
หัวใจของฉีซานตกวูบ  แต่เขาไม่ตื่นเต้น เนื่องจากพวกเขาถูกจับแผนการได้  อย่างนั้นก็สู้กัน
เขาตะโกนลั่น “ฆ่า!
กระบี่ในมือของเขาเปล่งแสงสว่างเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์  เขาฟันกระบี่ใส่เรือนกุหลาบด้วยพลังรังสีกระบี่ที่น่าทึ่ง
แสงรังสีกระบี่ทั้งหมดเล็งตรงไปที่เรือนกุหลาบ
ปัง!
เรือนกุหลาบระเบิดกลายสภาพเป็นผุยผงทันที
ฉีซานหรี่ตา  ไม่มีใครเลย
 “วิเศษ วิเศษ วิเศษมาก” เสียงชราภาพแฝงด้วยความโกรธดังขึ้นจากท้องฟ้า ตำแหน่งเหนือเรือนมีชายชราคนหนึ่งยืนหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ  “ท่านเจ้ากลุ่มดาว ท่านอยู่ในสรวงสวรรค์ยังปรารถนาบอกเราว่าใครเป็นคนทำร้ายท่าน”
เขาคือผู้อาวุโสสิบ ผู้ที่ไม่ก้าวก่ายเรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน  ท่านรักความสงบ ดังนั้นจึงหลีกเร้นทุกอย่าง  แต่เขาเป็นผู้อาวุโสมายาวนานที่สุดและมองเห็นอัสตาเติบโตและผูกพันกับอัสตาอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นหัวใจของเขาจึงเจ็บปวดโศกเศร้า
บุรุษวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมอีกคนหนึ่งราวกับมีไฟเกลียดชังพวยพุ่งออกมาจากนัยน์ตา  เขาตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “ฉีซาน! กลุ่มดาวอันโดรเมดาของเราเป็นปฏิปักษ์อะไรกับสมาพันธ์ชาวยุทธ? เจ้าโหดร้าย อำมหิตยิ่งนัก”
เขาคือคุณชายของสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดของนครเทพสตรี  บิดาของเขาหายสาบสูญจนถึงบัดนี้และการสูญเสียบิดาของเขาเป็นเรื่องเจ็บปวดเข้ากระดูก
ขุนพลเฒ่าคนหนึ่งสวมชุดเกราะผมขาวโพลนราวหิมะ เขาไม่ปล่อยให้อารมณ์โกรธครอบงำตัวเอง  เขาคืออดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบ  และเขากล่าว “แม้ว่ากลุ่มดาวอันโดรเมดาของข้าจะมีขนาดเล็ก  แต่ก็ไม่เคยถูกย่ำยีเลย  จากนี้ไปกลุ่มดาวอันโดรเมดาของข้าขอตัดสัมพันธ์กับสมาพันธ์ชาวยุทธทั้งหมด! ฆ่า”
 “ฆ่า!
จากที่ไกล เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังก้องฟ้า เสียงตะโกนดังใกล้เข้ามา
หน้าของฉีซานซีดขาว ร่างของเขาแทบทรุดลงเหมือนกับรูปปั้นน้ำแข็ง  เขาติดกับเสียแล้ว!
ทุกย่างก้าวของเขาถูกศัตรูคำนวณออก  ฝ่ายตรงข้ามจงใจแพร่กระจายข่าวลือและตั้งใจทิ้งร่องรอยอย่างหนึ่งไว้ ทุกอย่างคือกับดักในการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป   ทันใดนั้นดูเหมือนฉีซานจะตื่นตัว  กับดักนี้คุ้นๆ ว่าเหมือนเขาจะวางไว้ให้ทาร์ตันเข้ามาติดกับนี้
หรือว่านี่คือกรรมสนอง?
เขาเหมือนสารภาพผิดไปแล้วที่ฆ่าอัสตา และเหมือนสารภาพผิดกับการสร้างระเบิดครั้งใหญ่
ไม่ว่าเขาพยายามปฏิเสธมากเพียงไหม ก็ไม่มีผู้ใดเชื่อเขา
ทันใดนั้นเขาเบิกตากว้าง ความเชื่อมั่นทั้งหมดในตัวหายไปในทันที  ตั้งแต่บัดนั้นมากลุ่มดาวอันโดรเมดากลายเป็นศัตรูของสมาพันธ์ชาวยุทธและกลายเป็นพันธมิตรของกลุ่มดาวราชสีห์ไปโดยปริยาย
ทุกอย่างที่เขาทำไปแพร่กระจายไปทั่วสิบเก้าหมู่ดาวในฟากฟ้าเหนือเหมือนสายลม สร้างศัตรูกับกลุ่มดาวอื่นและจะถูกกลุ่มดาวราชสีห์ใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่จำกัดเพื่อย่ำยีชื่อเสียงของสมาพันธ์ชาวยุทธ
จบสิ้นกัน
ในช่วงเวลานั้น เขารู้ว่าเขาพลาดอย่างร้ายแรง  เขารู้ว่าเขาจบสิ้นแล้ว
และเพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ สมาพันธ์ชาวยุทธคงยอมเสียสละเขา และลงโทษเขาอย่างหนักหนาสาหัส
จบสิ้นกัน  เขาจบสิ้นแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้น ตาของเขาดูเหมือนเต็มไปด้วยเลือด เหมือนกับสัตว์ป่าที่กำลังจะตาย
เสียงตะโกนลั่นใกล้เข้ามาเหมือนสายน้ำบ่า  เพื่อไม่ให้เป็นการขู่ขวัญพวกเขา  พวกยามรักษาระยะอยู่ห่าง 200 เมตร
ห่างจากเรือนกุหลาบ 3 กิโลเมตร ในบ้านธรรมดาที่บ่าวทาสใช้พักนอน ม่านหลังหน้าต่างบานหนึ่งค่อยถูกรูดออก
ถังเทียนมองดูภาพเหตุการณ์อย่างใจเย็น
 “เขาจบสิ้นแล้ว”
เขาพูดโดยไม่หันกลับมา
แผนการทุกอย่างที่เขาวางเป็นขั้นเป็นตอน แอนเดรียนามองเห็นภาพประจักษ์กับตาตนเองก็ยังตกตะลึง  หลังจากผ่านไปนาน นางจึงเริ่มรู้สึกตัวและหน้าซีด
ความเย็นยะเยียบกระจายอยู่ในหัวใจนาง
ใบหน้าที่เลือนรางนั้น เสียงแหบทุ้มนั้น รูปร่างที่มีความมืดปกคลุมนั้น ช่วงเวลานั้นช่างดูร้ายกาจหวาดหวั่นน่ากลัว

14 ความคิดเห็น:

คมศักดิ์ กล่าวว่า...

ร้ายกาจ

Unknown กล่าวว่า...

ผักกาด

ปารมี กล่าวว่า...

สุดยอด ฉลาด เรียบเรียงเวลาได้ยอดเยี่ยม เด็ดขาด น่าจะให้หมิงเยวี่ยอยู่กับฉีซานด้วย เกลียดนาง

Unknown กล่าวว่า...

เปลี่ยนพระเอกเลย ถ้ามันจะโหดขนาดนี้

Unknown กล่าวว่า...

ถังเทียนมี2หน้า หน้าแรก ถึกทุย,บ้าพลัง,ซื่อๆทึ่มๆ หน้าที่สอง อัจฉริยะเจ้าแผนการ,โหดเหี้ยม

Unknown กล่าวว่า...

สะใจ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ตกลงถังเทียนฉลาดหรือโง่ปเนี้ย

Unknown กล่าวว่า...

บ๊ะ!! อ่านถังเทียนมาหลายร้อนตอน ไอ้นี่มาไม่ถึงสิบตอนวอดวายไปหมด

B กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

คนละขั้วกลับถังเทียนตอนปกติเลย รออ่านต่อครับ ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ThEPaRaN กล่าวว่า...

ร้ายกาจ

pornsin กล่าวว่า...

ชอบตาลุงสิงร่างมากกว่าพระเอกอีกนะเนี่ย

แสดงความคิดเห็น