วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 382 การ์ดวิชาพิเศษ



ตอนที่  382  การ์ดวิชาพิเศษ
สถาบันยุทธอมตะ
เฉินจื่อหลินจ้องมองที่บอร์ดวิทยายุทธพิเศษซึ่งดูเหมือนลี้ลับ  ภายในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือนมีสุดยอดวิชาโดดเด่นถูกค้นพบถึง 73 วิชา  เขาเฝ้ามองดูบอร์ดวิทยายุทธพิเศษนี้มานานหลายปี  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นประจักษ์เหตุนี้เอง

โลกปั่นป่วนหรือเปล่า?
เขาพึมพำในใจ จากบันทึกและเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์ของสถาบันวิทยายุทธอมตะ ทุกครั้งที่โลกเผชิญกับความปั่นป่วน บอร์ดวิทยายุทธพิเศษนี้จะเปล่งแสงหรือจำนวนของสุดยอดวิทยายุทธโดดเด่นจะปรากฏออกมามาก  นั่นเป็นกฎเหล็กของบอร์ดวิทยายุทธโดดเด่น
มีสุดยอดวิชาโดดเด่นถูกค้นพบ  3 วิชาถูกประเมินว่าเป็นวิชาสามดาว  วิชาระดับสองดาวมี 15 วิชา และวิชาหนึ่งดาวมี 55 วิชา
เฉินจื่อหลิงคุ้นเคยกับตัวเลขที่รวบรวมไว้มาก  นั่นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ภายในจำนวนนี้  วิชาหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาไม่ใช่สุดยอดวิชาโดดเด่นระดับสามดาว  แต่เป็นสองสุดยอดวิชาโดดเด่นซึ่งมีระดับสองดาวนั่นก็คือ กระบี่วงล้อกระเรียนและวิชาหอกจุดมังกร
เฉินจื่อหลินเชี่ยวชาญข้อมูลสุดยอดวิชาโดดเด่นอย่างลึกซึ้ง  ในสายตาของเขา เบื้องหลังชื่อของสุดยอดวิชาโดดเด่นเหล่านี้ทั้งหมดก็คือยุครุ่งเรืองของเหล่านักสู้ในรุ่นนั้นๆ
กระบี่วงล้อกระเรียน  วิชาระดับสองดาวอันดับที่ 17226
หอกจุดมังกร  วิชาระดับสองดาว อันดับที่ 16894
ไม่ว่าท่านจะมองดูยังไง ข้อมูลจากสุดยอดวิชาโดดเด่นทั้งสองนี้ก็ไม่อาจดึงดูดความสนใจจากใครๆ ได้  แต่สำหรับเฉินจื่อหลิน เขารู้ว่าสุดยอดวิชาโดดเด่นทั้งสองนั้นไม่ธรรมดา
นอกจากสุดยอดวิชาโดดเด่นสองหมื่นแบบแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นอิสระจากกัน  แต่มีสุดยอดวิชาโดดเด่นบางวิชาที่เกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิดอันเนื่องมาจากต้นแหล่งของพวกเขา
กระบี่วงล้อกระเรียน ต้นกำเนิดเดิมมาจากกระบี่พิบัติซึ่งเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่นระดับสี่ดาวและเป็นวิชาที่ร้ายกาจรุนแรงมาก
ขณะที่หอกจุดมังกรมีต้นกำเนิดมาจากหอกสกัดธุลีซึ่งเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่นระดับสี่ดาวซึ่งมีความรุนแรงพอกัน
การค้นพบสุดยอดวิชาโดดเด่นสองวิชานี้ทำให้เฉินจื่อหลินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเขาเบื่อหน่าย  เขาจะสร้างระบบการจัดอันดับสุดยอดวิชาโดดเด่นเท่าที่มีด้วยตัวเขาเอง  วิทยายุทธทั้งสองวิชานี้อยู่ในสิบสุดยอดวิชาที่แกร่งที่สุดในบรรดาสุดยอดวิชาโดดเด่นระดับสี่ดาว
เฉินจื่อหลินรู้สึกว่ารู้สึกว่าวิชาอื่นๆ ยังถือว่าธรรมดามากเมื่อเทียบกับสองวิชานี้  บางทีท่าเท้าลมพรางอาจเป็นคู่แข่งของวิชาระดับสี่ดาวทั้งสองวิชา
เฉินจื่อหลินยังคงใช้เวลาค้นคว้าเคล็ดความแตกต่างระหว่างสุดยอดวิชาโดดเด่นและที่ไม่ใช่วิชาโดดเด่น  และท่าเท้าลมพรางเป็นหนึ่งในนั้น
ความจริงวิทยายุทธใหม่ที่เพิ่งเข้าระบบจัดอันดับตรวจพบได้ยากกว่าแม้จะผ่านมาเป็นศตวรรษ
ส่วนใหญ่เป็นเพราะบรรพบุรุษจากในอดีตมุ่งหมายจะสร้างทักษะ ขณะที่นักสู้อื่นต้องการถ่ายทอดวิทยายุทธเหล่านี้ผ่านไปเป็นรุ่น
เฉินจื่อหลินยิ่งมึนหนักขึ้นเพราะจำนวนสุดยอดวิชาโดดเด่นที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้  แม้แต่สถาบันวิทยายุทธอมตะก็ยังแตกตื่นตกใจเพราะการค้นพบวิชาเหล่านั้นเพิ่มขึ้น  นอกจากนี้หลายภูมิภาคเริ่มเกิดความวุ่นวาย  ระบบข่าวกรองที่สถาบันยุทธอมตะสร้างขึ้นมาก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้คุณภาพของข้อมูลของพวกเขามีความคลาดเคลื่อนไปด้วย
แม้ว่าความวุ่นวายจะทำให้ข้อมูลที่รวบรวมมาเป็นงานที่ยากขึ้น  แต่ก็ยังทำให้ข่าวกรองที่รวบรวมมามีค่ามากขึ้น
สถาบันยุทธอมตะทั้งเบื้องสูงเบื้องต่ำ ต่างมีขวัญกำลังใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเฉินจื่อหลิน  เนื่องจากเขาเป็นเพียงผู้เฝ้าดูแลบอร์ดวิทยายุทธพิเศษนี่
ระหว่างเวลาอาหาร เมื่อใดก็ตามที่มีการสนทนา  หัวข้อหนึ่งจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเขาที่เป็นคนแปลกแยกผู้เฝ้าบอร์ดกระดานวิชาโดดเด่นนี้”
แต่เขาไม่สนใจ
********************

สงครามเพิ่งเริ่ม
นครเทพสตรียังไม่กลับสู่สภาพสงบ แม้ว่าการต่อสู้จะดุเดือด แต่พลเมืองผู้อาศัยอยู่ในเมืองคุ้นเคยกับแรงระเบิดและความวุ่นวายดังกล่าว  และการต่อสู้เช่นนั้นดูเหมือนไม่มีผลต่อพวกเขาเลยสักนิด
แต่ทุกคนกำลังฉลองยินดีเมื่อพวกเขาได้ยินว่าสมาพันธ์ชาวยุทธสูญเสียนักสู้ระดับทองไปสี่คน  การต่อสู้ภายในวังเทพธิดามีคนเห็นเพียงไม่กี่คน  แม้แต่การต่อสู้ระหว่างอาเฮ่อ, หลิงซิ่วและลู่ไห่ก็มีประจักษ์พยานที่เห็นเพียงหยิบมือ
แต่การต่อสู้ระหว่างถังเทียนและจีเสี่ยวหย่าซึ่งเกิดในใจกลางพื้นที่ธุรกิจกลับถูกประชาชนเห็นกันทั่วทั้งเมือง
ไม่มีใครลืมเสียงถังเทียนเทียนตวาดร้องในช่วงเวลาที่ถังเทียนสู้กับจีเสี่ยวหย่า
 “เข้าร่วมกับวิญญาณมืดน่ะหรือ?”  ถังเทียนส่ายศีรษะ  “ข้าไม่เอาหรอก”
ตลอดทั้งตัวของเขาพันแผลจนดูเหมือนมัมมี่คืนชีพ  เป็นหลิงซิ่วที่ช่วยพันแผลให้เขา หลิงซิ่วชำนาญมากที่สุดในเรื่องการช่วยรักษา  ถังเทียนไม่ถึงกับบาดเจ็บหนัก  และแผลของเขาไม่ลึก  มีแต่รอยบาดแผลจำนวนมากทำให้ผู้ที่เห็นตกใจ
 “ข้าก็ไม่เอาเหมือนกัน”  หลิงซิ่วอุทานคัดค้าน
 “ดูเหมือนว่าทุกคนลงมติกันแล้ว”  อาเฮ่อรู้แล้วว่านั่นคือการสนองตอบของพวกเขา  “ข้าจะไปบอกถูจื่อซาน  ว่าแต่นี่คือสินสงครามของเจ้า”
ก่อนที่อาเฮ่อจะเดินออกไป  เขาชี้ไปที่ตู้อควาเรียสเงินที่ข้างตัวถังเทียน
 “สินสงคราม”  ถังเทียนปากอ้าตาค้างขณะที่เขาตะเกียกตะกายลงจากเตียง
ของแบบนี้หลิงซิ่วไม่แยแส  เขาเดินออกมาจากห้อง  “ข้าจะกลับไปฝึกต่อ  อย่ารบกวนข้าโดยไม่จำเป็น”
มีเพื่อนคู่หูสองคนที่ไม่เห็นว่าเงินเป็นของสำคัญก็ไม่ถึงกับเป็นเรื่องดีเสียทีเดียว  พวกเขาไม่มีความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย และไม่กระตือรือร้นเรื่องรางวัลที่เขาเก็บเกี่ยวได้มาจากการต่อสู้กับคนอื่น
ในไม่ช้า ในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมืออย่างตื่นเต้นของเขา
 “ว้าว!  นี่คือถุงมือระดับทองเชียวนะ!
 “ว้าว... นี่คือการ์ดสุดยอดวิชา”
คุณภาพของสินสงครามเกินกว่าที่ถังเทียนคาดหมายไปมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งของที่ได้รับจากลู่ไห่  ลู่ไห่มีของเพียงสองรูปแบบ  หนึ่งก็คือถุงมือที่มีความหลากหลายแตกต่าง  และเขายังมีการ์ดวิญญาณหนึ่งชิ้น
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจถังเทียนก็คือถุงมือระดับทองและการ์ดสุดยอดวิชาโดดเด่นหนึ่งใบ
ถุงมือยาวยูนิคอร์นจากกลุ่มดาวยูนิคอร์นซึ่งอยู่ในสิบตำหนักระนาบกลาง  มันสร้างขึ้นจากทองทั้งหมดและดูแพรวพราวใต้แสงไฟ  ถุงมือถูกห่ออยู่ภายในเกล็ดปลาและมีเขายูนิคอร์นยื่นออกมาขณะที่มีกลิ่นอายน่ากลัวปกคลุมทั่วห้องพัก
นี่เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนได้เห็นสมบัติชั้นทองและเขารู้สึกกลัว
ถังเทียนเช็ดน้ำลายจากใบหน้าที่ตื่นเต้น ตาของเขากระจ่างอีกครั้งขณะใบหน้าของเขาสงบ
สมบัติระดับทองมีจิตวิญญาณยุทธที่ฉลาด  จะควบคุมมันได้ ผู้ใช้ต้องเรียนรู้วิธีควบคุม ด้วยพลังปัจจุบันของถังเทียนยังไม่สามารถควบคุมมันได้  ถุงมือยาวแห่งกลุ่มดาวยูนิคอร์นน่าจะถูกลู่ไห่เตรียมไว้ใช้ในศึกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หลังจากเก็บถุงมือเข้าตู้อควาเรียสอย่างระมัดระวังแล้ว  ถังเทียนหันเหความสนใจไปที่การ์ดสุดยอดวิชาโดดเด่น
มือปีศาจพันแปลงระดับสองดาว นี่คือวิชาที่พิเศษมากซึ่งผสานเคล็ดสู้ไว้มากมาย มันสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังกรงเล็บหรือฝ่ามือขึ้นอยู่กับวิธีที่นักสู้ต้องการใช้  แต่มือปีศาจพันแปลงจะมุ่งเน้นที่การสับฟันซึ่งอาจใช้ในรูปแบบการโจมตีที่อ่อนหรือแข็งก็ได้ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ
อย่างไรก็ตามลู่ไห่ไม่เคยรักชอบวิชามือปีศาจพันแปลง  ถังเทียนรู้ไดว่าการ์ดวิชานี้ไม่เหมาะสมกับลู่ไห่ เนื่องจากเขาเป็นนักสู้ที่ถนัดใช้หมัด  เหตุผลที่เขาเก็บเอาไว้เป็นเวลานานเพื่อหาโอกาสแลกเปลี่ยนซื้อขายที่เหมาะสมกับเขา
อย่างไรก็ตามสุดยอดวิชาโดดเด่นนี้เข้ากันได้กับถังเทียน  กรงเล็บเพลิงภูตพรายของเขาเป็นประเภทวิชาโจมตีสายแกร่งกร้าวไม่มีรูปแบบต่อสู้ที่หลากหลาย  ถังเทียนสามารถใช้การ์ดวิญญาณเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของวิชากรงเล็บให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น
ชั่วขณะหนึ่งถังเทียนสูญเสียความสนใจสมบัติอื่นที่เป็นของลู่ไห่
สมบัติของจีเสี่ยวหย่ามีความสำคัญน้อยกว่าของลู่ไห่ยกเว้นแต่ค้อนสายฟ้าซึ่งเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่นที่ดึงดูดความสนใจของถังเทียน
ถือว่าคุ้มค่ากับความพยายามที่ถังเทียนได้ทุ่มเทจนฆ่านักสู้ระดับทองได้ถึงสองคน
ของทั้งสามอย่างนี้ทำให้ถังเทียนตื่นเต้น เนื่องจากของเหล่านี้ไม่ต้องใช้เหรียญดาวซื้อมา
มีเรื่องน่าเสียใจก็คือไม่มีใครที่สามารถสอนวิธีใช้ค้อนโจมตีให้เขาได้  ดังนั้นค้อนสายฟ้าจึงต้องเก็บเข้าหิ้งไว้ในตอนนี้ก่อน
ถังเทียนเก็บสมบัติอื่นทั้งหมด  เขานำการ์ดสุดยอดวิชาโดดเด่นเดินผ่านประตูแสง
 “ฮึ.. มีอาคันตุกะมาเยี่ยม!  ปิงอุทานเมื่อเห็นสภาพถังเทียน  หน้าไพ่ของเขาดูไร้ความรู้สึก
ถังเทียนตรองดู มันก็จริงที่เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้กลับเข้ามา  เขาค่อนข้างละอายใจและตอบกับ “ฮ่าฮ่าฮ่า ลุงปิง, ข้าจะบอกเรื่องสุดยอดอะไรให้  ข้าสามารถฆ่านักสู้ระดับทองได้แล้ว”
 “นักสู้ระดับทอง?” ปิงตอบอย่างเฉื่อยชา
 “ใช่แล้ว ใช่แล้ว!  ถังเทียนมีความสุข  ใบหน้าของเขาแสดงความเย่อหยิ่งภูมิใจจากการฆ่านักสู้ระดับทองได้
 “งั้นที่เจ้าถูกยำจนเละอย่างนั้นก็โดยนักสู้ระดับทองคนเดียวกันใช่ไหม?”  ปิงส่งเสียงหัวเราะลั่น  “ทำไมต้องตื่นเต้นกับอีแค่ฆ่านักสู้ระดับทองได้คนหนึ่งเล่า  ข้าคิดว่าเจ้าฆ่านักสู้ระดับเซียนได้ก่อนแล้วค่อยดีใจก็ได้”
แม้ว่าจะเป็นการพูดหยอกเย้ากับถังเทียน  แต่ปิงสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวถังเทียนและรู้สึกตกใจ
ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ถังเทียนแข็งแกร่งขึ้นมาก!
อะไรกันเจ้านี่....
ถังเทียนคุ้นเคยกับการหยอกล้อของลุงปิงแล้วจึงเฉยๆ  เขาไม่ได้โกรธเรื่องนั้นขณะที่เขาหัวเราะพลางชี้แจง  “ลุง, ข้ายังได้การ์ดสุดยอดวิชาโดดเด่นมาสองใบ  มีอยู่ใบหนึ่งที่เหมาะกับข้ามาก มันคือวิชามือปีศาจพันแปลง  แค่ชื่อก็ฟังดูแข็งแกร่งน่าเกรงขามแล้วจริงไหม?”
 “ใช่ แน่นอน”  ปิงพยักหน้า  “มันเหมาะกับการช่วยรื้อถอนอาคารเท่านั้น”
ถังเทียน “.....”
ค่ายทหารที่เจ็ด
ถังเทียนเดินตามหลังปิงขณะที่ตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ขณะจ้องมองดูการตกแต่งภายในค่าย “หวา.. ลุง, ที่นี่เปลี่ยนไปมากเลย  ลุงทำความสะอาดช่วงที่ข้าไม่อยู่เหรอ?”
 “ทำความสะอาด...”  ปิงหน้าเบ้ “เจ้าโง่! เราซ่อมแซมฟื้นฟูพื้นที่แห่งนี้, นี่คือการซ่อมแซม มันเป็นงานที่ยากและท้าทายความสามารถมากมายนัก”
 “โอว, น่าประทับใจมาก”  ถังเทียนเห็นด้วย
ค่ายทหารที่เจ็ดตอนนี้ดูดีเหมือนใหม่  ครั้งล่าสุดที่เขาเห็น  ดูเหมือนกับซากปรักหักพัง  ไม่, มันหักพังจริงๆ แม้ว่าภายในยังคงดูเหมือนป่าบรอนซ์ แต่อาคารทั้งหมด ภายในทำความสะอาดและปราศจากฝุ่น สนิมทองแดงที่เกาะมาเป็นพันปีก็ถูกขจัดออกไป
ค่ายทหารที่ดูขรึมทึมเหมือนกับได้รับชีวิตใหม่หลังจากการบูรณะซ่อมแซม
ใครจะนึกออกได้เล่าว่าปิงต้องทุ่มเทกำลังความพยายามไปขนาดไหนกับการตกแต่งสถานที่
 “ลุงต้องหลงใหลสถานที่นี้มากแน่”  ถังเทียนอุทาน
ปิงชะงักอยู่กับที่  เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่ถังเทียนพูด และตอบ “เจ้าโชคดี แม้ว่าหลายๆ ส่วนของค่ายทหารยังซ่อมแซมไม่ได้  แต่เครื่องมืออำนวยความสะดวกในการฝึกฝนของเจ้าเสร็จสิ้นสมบูรณ์  แต่น่าเศร้า ห้องฆ่าตัวตายยังคงเสียหายหนักจากการใช้งานครั้งก่อนของเจ้า ถ้าไม่อย่างนั้นเจ้าอาจได้ใช้ต่ออีกครั้งหนึ่งก็ได้”
ถังเทียนสะอึกหลังจากนึกถึงครั้งก่อนที่เขาใช้ห้องฆ่าตัวตาย
ปิงสังเกตถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของเขาได้และพยายามให้กำลังใจเขา  “เมื่อคิดดูแล้ว ห้องฆ่าตัวตายอาจจะน่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นจำนวนนักสู้ที่ตายไปหลังจากที่พยายามจะใช้มัน  แต่ถ้าพูดถึงความเจ็บปวดที่เจ้าได้รับจากห้องฆ่าตัวตาย  ความเจ็บปวดนั้นไม่มีอะไรเลย  ขั้นตอนการฝึกฝนของเจ้าจะสอนเจ้าขณะที่ความเจ็บปวดของเจ้าขึ้นถึงจุดสูงสุด เจ้าจะไม่แยแสและไม่สนใจความตาย”
ถังเทียนสั่นอยู่ภายใน  ทันในนั้นเขามีความรู้สึกแย่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง

6 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Sunrise กล่าวว่า...

ขอบใจหลายยย

เบาเบา กล่าวว่า...

รออ่านทุกวันเลยครับขอบคุณมากๆครับสนุกมาก

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่ถังกำลังกลัว 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น