เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 603 ไม่ยอมแพ้? ซ้อมเขา!

ตอนที่  603  ไม่ยอมแพ้? ซ้อมเขา!

กฎสามข้อที่เย่ว์หยางตั้งเป็นเพียงปณิธานในช่วงเวลานั้น

เว้นแต่เขาครอบครองพลังของเทพครึ่งหนึ่งหรือพลังของเทพที่คงอยู่ในตำนาน  คำพูดของเขาจะไม่มีน้ำหนักเพียงพอเป็นกฎ เกี่ยวกับพลังของกฎ เย่ว์หยางสามารถควบคุมได้เพียงส่วนน้อยด้วยความช่วยเหลือของพลังรหัสโชคชะตาที่ถูกผนึกไว้ในไพ่ทำนายชะตา  นี่ไม่ใช่ความความปรารถนาภายในของเขา  เขายังห่างจากระดับนั้นมาก

แน่นอนว่า ถ้าเขายังคงฝึกฝนต่อไป  เย่ว์หยางจะสามารถใช้พลังปณิธานของตนเองสร้างพลังกฎรหัสได้เองในอนาคต

 “ถวายบังคมฝ่าบาท”  หลังจากราชินีซิกแสดงความเคารพเย่ว์หยางแล้ว  นางคำนับแสดงความเคารพเซี่ยอีทันที  วิธีการวางตัวของนางทำให้เซี่ยอีสะดุ้งด้วยความตกใจ

 “ไม่ ไม่ ข้าไม่ใช่ฝ่าบาทนะ”  เซี่ยอีตื่นเต้นโบกมือพัลวัล ขณะที่นางมองขอความช่วยเหลือจากเย่ว์หยางอย่างน่าเวทนา  นางหวังว่าเขาจะอธิบายความสัมพันธ์ของพวกเขาให้ชัดเจน  นางไม่ต้องการให้กลุ่มนักสู้ปราณก่อกำเนิดคุกเข่ากับพื้นแสดงความเคารพนางเรียกนางด้วยคำว่าฝ่าบาท

 “ท่านนั่นแหละเป็นเจ้าเหนือหัว   เลือดของผู้ก่อตั้งไหลเวียนอยู่ในตัวท่าน  บรรดาชาวเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์ พวกที่มีสายเลือดของผู้ก่อตั้งมีแต่ขุนนางชั้นสูงและกษัตริย์เท่านั้น  แม้แต่ช่วงตลอดเวลามานี้ก็มีแต่พวกบุรุษที่สามารถรับตกทอดสายเลือดนั้น  สายเลือดของผู้ก่อตั้งเผ่าพันธุ์ไหลเวียนอยู่ในตัวฝ่าบาทอย่างแน่นอน  นอกจากนี้ในร่างกายของท่าน  สายเลือดของผู้ก่อตั้งยังหนาแน่นและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าบุรุษมังกรที่นี่  ยังบริสุทธิ์ยิ่งกว่าสายเลือดของจ้าวมังกรบินเมื่อหลายพันปีมาแล้วเสียอีก!”  ราชินีซิกปฏิบัติต่อเซี่ยอีในฐานะที่เป็นเจ้าหญิงศักดิ์สิทธิ์  เมื่อเซี่ยอีอายุถึงเกณฑ์ นางตั้งใจจะยกบัลลังก์ให้นางเป็นราชินีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ผู้ปกครองคนใหม่

 “อ๋า....” เซี่ยอีอยากเป็นลม  เห็นได้ชัดว่านางเป็นเด็กหญิงมนุษย์คนหนึ่ง  แล้วนางไปเกี่ยวข้องกับราชินีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์มังกรได้อย่างไร?

 “เป็นอย่างนั้นแน่นอน”  เย่ว์หยางพยักหน้ายืนยันคำพูดของราชินีซิก

 “เมื่อคราวแดนสวรรค์ทำลายทางผ่านเข้าแดนสวรรค์และปิดประตูแดนสวรรค์  เรา เผ่ามังกรแดนสวรรค์หมดหวังจะได้กลับแผ่นดินเกิดของเรา  ดังนั้นเราจึงแยกออกเป็นสอสาขา  สาขาหนึ่งหวังจะผูกสัมพันธ์กับมนุษย์สร้างภูมิลำเนาแห่งใหม่และพวกเขานำโดยองค์หญิงศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนผู้ได้รับตกทอดสายเลือดบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเผ่าพันธุ์  จากนั้นพวกเขามีความสัมพันธ์กับมนุษย์ผ่านการแต่งงานกับมนุษย์นักสู้ปราณก่อกำเนิด  อีกสาขาหนึ่งคือบรรพบุรุษของเราผู้มุ่งมั่นจะเปิดทางเข้าแดนสวรรค์และกลับไปยังแดนสวรรค์ผ่านทางบันไดสวรรค์  เวลานั้นเรายังเป็นกลุ่มใหญ่กว่า จำนวนสมาชิกของเราสามารถสร้างกองทัพได้มากกว่าหมื่นคน  องค์หญิงศักดิ์สิทธิ์กลับตรงกันข้ามจากไปพร้อมกับองครักษ์ของนางสองสามร้อยคนเท่านั้น”  ราชินีซิกอธิบายให้เซี่ยอีฟัง  “ฝ่าบาท ท่านเป็นลูกหลานขององค์หญิงศักดิ์สิทธิ์  นอกจากนี้สายเลือดในร่างกายของท่านบริสุทธิ์มาก  ในบรรดาเผ่าพันธุ์เรานอกจากท่านแล้ว  มีแต่เพียงฝ่าบาทองค์หญิงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่มีสายเลือดผู้ก่อตั้งเผ่าพันธุ์ที่บริสุทธิ์ขนาดนั้น”

 “แต่แม่ข้าเป็นคนธรรมดา  นางไม่ใช่องค์หญิงศักดิ์สิทธิ์เลย,  นอกจากนี้ข้าไม่เคยรู้จักชื่อขององค์หญิงศักดิ์สิทธิ์มาก่อน”  เซี่ยอีสับสนหนัก  นางมองดูเย่ว์หยางหวังว่าเย่ว์หยางจะมีคำอธิบายบางอย่าง

 “นี่คือความลับแต่โบราณ”  เย่ว์หยางยิ้มเล็กน้อย

ความจริงถ้าเย่ว์หยางไม่ขุดหลุมฝังศพในหุบเขามังกรบินและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับบันทึกจากกล่องบรรพบุรุษที่อยู่ในมือของเซี่ยอี  เขาคงไม่พบความลับเกี่ยวกับมนุษย์มังกรแดนสวรรค์มากมายเป็นแน่  เขาขุดสุสานเพราะเขาต้องการรู้ความจริงภายในเพิ่มขึ้น  ด้วยการแอบอ้างเป็นจักรพรรดิมังกรฟ้า ทำให้เขามีอำนาจโน้มน้าวใจมากขึ้น  เป็นไปตามที่เย่ว์หยางวางแผน  พวกคนรุ่นเก่าที่ตายไปในหุบเขามังกรบิน จ้าวมังกรบินรุ่นก่อนๆ  พวกเขาได้บันทึกความจริงไว้ในสุสาน

เมื่อเป็นแบบนั้น เย่ว์หยางก็มีพลังโน้มน้าวใจเพิ่มมากขึ้น

เย่ว์หยางทำท่าบอกให้เซี่ยอีเข้ามาหาและรับกล่องทองที่เขาให้นางซึ่งบรรจุเถ้ากระดูกของจ้าวมังกรบินรุ่นก่อนและบันทึกในประวัติศาสตร์  “ความจริงบรรพบุรุษของพวกเจ้าไม่ใช่เผ่าพันธุ์ตามธรรมชาติ  พวกเขาเป็นมนุษย์ชนิดหนึ่งที่ถูกมนุษย์สร้างมา ก็คือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์สร้างขึ้น  เมื่อจักรพรรดิฟ้ารุ่นก่อนพิชิตแดนสวรรค์ในครั้งก่อน  เขามีผู้ภักดีอยู่หลายคน  บางคนก็มีชีวิตจนถึงที่สุด  บางคนก็ตายในระหว่างทำศึก เพื่อเป็นการตอบแทนความภักดีของบริวาร และเป็นการสำนึกถึงการกระทำที่ทรงค่าของพวกเขา  จักรพรรดิมังกรฟ้าจึงใช้มนุษย์สร้างมนุษย์โดยใช้เลือดของบริวารของเขาและปฏิบัติกับพวกเขาเสมือนหนึ่งเป็นลูกหลานของบริวารพวกเขา”

 “ดังนั้นนั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้น”  คนจำนวนมากไม่รู้ความจริง  มีเพียงราชินีซิกเท่านั้นที่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

 “มนุษย์มังกรแดนสวรรค์รุ่นแรกนั้นไม่มีพ่อแม่จึงโดดเดี่ยวว้าเหว่อย่างแท้จริง  เนื่องจากพวกเขาไม่มีคนรัก  พวกเขาจึงร้องขอจักรพรรดิมังกรฟ้าให้สร้างสตรีที่จะเป็นสหายคู่คิดของพวกเขาตลอดชีวิต  ดังนั้นคู่ชีวิตที่เป็นสตรีของบุรุษมังกรแดนสวรรค์จึงถูกสร้างขึ้น  อย่างไรก็ตามเนื่องจากมนุษย์มังกรแดนสวรรค์ที่สร้างขึ้นตอนแรกเป็นบุรุษเพศ  คู่รักหญิงที่สร้างขึ้นตอนแรกจึงคล้อยไปทางเพศชาย  หรือจะกล่าวให้ถูก พวกนางยังสวยงามน่ารักไม่พอ  มนุษย์มังกรแดนสวรรค์ดั้งเดิม ไม่ว่าบุรุษหรือสตรี จะมีความซื่อสัตย์ต่อสายสัมพันธ์รักของพวกเขามาก พวกเขาจะจับคู่กันตลอดชีวิต  และความรักของพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงจนกระทั่งพวกเขาตาย”  ประวัติศาสตร์ที่เย่ว์หยางพูดคือข้อมูลที่เขาได้รับจากกล่องสีทองซึ่งได้บันทึกเอาไว้และตกทอดมาแต่ครั้งโบราณกาล  มีบันทึกในประวัติศาสตร์มากมายที่ส่งต่อให้มนุษย์มังกรแดนสวรรค์มาหลายรุ่น

 “หลังจากนั้นเผ่าพันธุ์ตกต่ำลงได้ยังไง?”  เซี่ยอีไม่เข้าใจ

 “สองสามชั่วคนแรกของมนุษย์เผ่ามังกรแดนสวรรค์มีชีวิตอย่างมีความสุขมาก  และพวกเขาก็ยังแข็งแกร่งมาก คนที่อ่อนแอมากที่สุดอย่างน้อยก็เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่ง และอาจมากกว่านั้น ในรุ่นต่อมา เนื่องจากสมาชิกเพิ่มขึ้นและพวกเขากลายเป็นสังคมหนึ่ง ระบอบกษัตริย์ถูกสร้างขึ้นมา จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเปรียบเทียบว่าใครมีเลือดที่เหนือกว่ากัน  บุรุษผู้มีเลือดซึ่งจักรพรรดิมังกรฟ้ารุ่นก่อนได้ตอบแทนพวกเขาไว้จะแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ฉลาดและมีพรสวรรค์  เลือดของสตรีกลับตรงกันข้ามเริ่มเบาบางกว่าและด้อยกว่า เพราะเหตุนี้ พวกนางจึงต้องเคารพบุรุษ และในไม่ช้าสังคมของพวกเขาบุรุษจึงกลายเป็นใหญ่ ซึ่งสถานะของบุรุษอยู่เหนือกว่าสตรี  ความจริงมนุษย์มังกรแดนสวรรค์รุ่นแรกเกิดมาก็เท่าเทียมกัน ไม่ว่าหญิงหรือชาย พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสมานสามัคคีเหมือนเป็นคนเดียวกัน  และพวกเขาไม่เคยมีความคิดว่าบุรุษอยู่เหนือสตรีเลย”  เหตุผลที่เย่ว์หยางพูดเช่นนี้เป็นเพราะเขาต้องการเปลี่ยนความเชื่อที่ฝังรากลึกที่เชื่อกันว่าสตรีด้อยกว่าบุรุษ

 “นั่นดีมากจริง  เราต้องแจ้งเรื่องนี้ให้สตรีเผ่ามังกรแดนสวรรค์ทราบเพิ่ม”  เซี่ยอีดีใจปรบมือ

 “ใช่แล้ว เราเชื่อบัญชาของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และองค์หญิงศักดิ์สิทธิ์”  ราชินีซิกและสตรีอื่นคุกเข่าอีกครั้ง

 “ลุกขึ้นเร็ว”  เซี่ยอีลนลาน  ทำไมสตรีเหล่านี้เอาแต่คุกเข่าในเรื่องเล็กน้อยด้วย?

 “เหตุผลที่จักรพรรดิมังกรฟ้ารุ่นก่อนสร้างบุรุษมังกรแดนสวรรค์ก็เพื่อระลึกถึงความจงรักภักดีของบริวาร  เขาพวกนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อที่ว่าบริวารของเขาจะได้มีลูกหลาน เขาสร้างสตรีมังกรแดนสวรรค์ขึ้นมาก็เพื่อให้มีคนเพิ่ม ไม่ใช่เพราะเขาต้องการให้บุรุษมังกรแดนสวรรค์ได้มีทาสเป็นสตรี  ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนควรมีส่วนร่วมในอำนาจเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดนี้  เซี่ยอีจะแนะนำพวกเจ้าทุกคนและปลดปล่อยทาสหญิงให้มากขึ้น  พวกเจ้าคือชีวิตที่จักรพรรดิมังกรฟ้าสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน  เจ้าไม่ต้องไปเคารพเขา”  เย่ว์หยางใช้จักรพรรดิมังกรฟ้ารุ่นก่อนมาอ้างเพื่อให้สตรีเผ่ามังกรทำบางอย่างเพื่อเขา

 “ท่านต้องการให้ข้านำพวกนางหรือ?”  เซี่ยอีแทบเป็นลมเมื่อนางได้ยินเขา  นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการนำกองทัพเข้าสู้ศึกในสงคราม

 “ฟังข้าให้ดี เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน  ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”  เย่ว์หยางแตะไหล่นางเบาๆ

 “ก็ได้”  เซี่ยอีต้องการหาเหตุเพื่ออยู่ข้างเคียงเขา  มิฉะนั้น เป็นสตรีเพียงคนเดียว นางจะตามบุรุษคนเดียวตลอดทั้งวันได้ยังไง?  ตอนนี้ นางมีข้ออ้างนางต้องช่วยเขาบางอย่าง

ทันใดนั้นนางจำบางอย่างได้ซึ่งเกี่ยวกับเลือดของนาง

สิ่งที่เป็นขององค์หญิงศักดิ์สิทธิ์ คงไม่ได้มีนางคนเดียวแน่นอน

ทำไมราชินีซิกถึงคิดว่านางมีเล่า?

ความจริงเซี่ยอีต้องการถาม  แต่เหมือนกับว่าเย่ว์หยางอ่านความคิดของนางออก  เขากล่าว “ความจริงเจ้าเป็นแค่เด็กผู้หญิงมนุษย์ธรรมดา  แต่ที่องค์หญิงศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่ามังกรแดนสวรรค์ได้ถ่ายพลังสายเลือดทั้งหมดของนางไว้ในร่างกายของเจ้าทำให้เจ้ากลายเป็นผู้สืบทอดคนเดียว  มีแต่เจ้าเท่านั้นที่มี พี่ชายของเจ้าไม่มี  แต่พวกเขาก็ยังได้รับตกทอดสายเลือดอย่างเบาบาง เพราะบิดามารดาของเจ้าน่าจะเป็นการแต่งงานของนักสู้ปราณก่อกำเนิดชาวมนุษย์และสตรีเผ่ามังกรแดนสวรรค์  มิฉะนั้นองค์หญิงศักดิ์สิทธิ์คงไม่มอบสายเลือดนางให้เจ้าแน่นอน...”

หลังจากคิดอยู่นาน ในที่สุดเซี่ยอีก็เริ่มยอมรับความจริงข้อนี้  จากนั้นนางรู้สึกแย่กว่าเดิมเล็กน้อย

เป็นไปได้ไหมว่าสาเหตุที่นางไม่สวยเป็นเพราะนางมีสายเลือดของเผ่ามังกรแดนวรรค์?

แม้ว่าเซี่ยอีจะเป็นเด็กสาว พอชำเลืองมองกลุ่มคน นางไม่สามารถหาหญิงงามจากเผ่ามังกรแดนสวรรค์ได้เลย

สตรีเหล่านี้ไม่ถึงกับอัปลักษณ์  ความจริงรูปร่างพวกนางก็ดูดี  ถ้าหากมองเป็นส่วนๆ รูปร่างพวกนางสวยงาม  อย่างไรก็ตามพอมองดูรวมๆ กลับดูธรรมดา  เซี่ยอีไม่เห็นว่าพวกนางงดงามแม้แต่น้อย

ร่างของพวกนางสูงเกินไปบ้าง

แม้แต่สตรีที่อายุน้อยที่สุดก็สูงมากกว่าสองเมตร  นอกจากนี้ กล้ามเนื้อของพวกนางก็ใหญ่ไม่เรียบลื่นเหมือนกับสตรี ผิวของพวกนางไม่ขาวอวบอิ่มเหมือนกับมนุษย์ผู้หญิง กลับหยาบกร้านและดำเหมือนโดนแดดแผดเผามาเป็นเวลานาน  เมื่อเซี่ยอีมองเห็นสตรีเผ่ามังกรแดนสวรรค์เหล่านี้แล้ว นางได้แต่ถอนหายใจ  มิน่าเล่าพวกนางถึงได้รู้สึกว่าตัวเองด้อย  แม้แต่นางที่อกเล็กก็ยังรู้สึกแบบนั้นเช่นกัน ถ้านางมองดูเหมือนกับสตรีเผ่ามังกรแดนสวรรค์เหล่านี้ บางทีนางคงไม่กล้าเดินออกจากบ้านเป็นแน่

 “เจ้าคิดว่ามีรูปร่างดีสามารถเลี้ยงชีวิตเจ้าได้หรือ?  ความสามารถของเจ้าสำคัญมากกว่า”  เมื่อเย่ว์หยางเห็นท่าทีไม่มั่นใจของเซี่ยอี  เขาปลอบใจนาง  “ความจริง ข้าก็ชอบกินแอปเปิลเหมือนกัน”

 “.....”  เซี่ยอีอายหน้าแดง  นางอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น

รูปลักษณ์ไม่สำคัญจริงหรือ?  อย่างนั้นทำไมเจ้าเด็กนี่มีแต่สาวงามอยู่ข้างกายทั้งนั้น  นอกจากนี้แต่ละนางล้วนแต่รูปร่างงดงามยั่วยวนใจมากกว่าใครๆ แต่ละนางอกใหญ่สวยงาม

แน่นอนนางไม่กล้าปฏิเสธเขา กลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งนางอีกครั้ง  ถ้ามีกันเพียงสองคน นางคงไม่เกรงใจ แต่มีทั้งนางพญากระหายเลือด และอาหมันก็ยังอยู่ตรงนั้น  เซี่ยอีไม่สามารถดูแคลนความภูมิใจนาง  นางรู้ว่าอาหงและอาหมันเป็นอสูรพิทักษ์ของเขาทั้งคู่  แต่ในสายตานาง ทั้งสองนี้เป็นสตรี ไม่ใช่อสูร

หลังจากดาบเทาเถี้ยดูดซับเลือดสำเร็จ  เย่ว์หยางสั่งให้ราชินีซิกให้แจ้งมนุษย์มังกรทำความสะอาดทุกอย่าง  จากนั้นเย่ว์หยางพยายามทำสัญญากับหุบเขามังกรบิน

ราชินีซิกเข้าใจว่าจักรพรรดิมังกรฟ้าคนใหม่นี้ต้องการจะพาคนของนางออกไปจากสถานที่นี้  ดังนั้นนางจึงมีความสุขมาก

เสรีภาพคือความฝันที่นางและคนของนางฝันมาโดยตลอดพันปี

 “เราไม่สามารถพาพวกนางออกไปด้วยคัมภีร์อัญเชิญ  มีผนึกอยู่ในตัวของพวกนาง  แม้ว่าท่านจะมีดาบเทาเถี้ย มิติภายในดาบเทาเถี้ยไม่สามารถจุคนได้ถึงสามร้อยคน” หมอหลงลุกขึ้นยืนจากพื้นและคำนับให้เย่ว์หยาง “ถ้าคุณชายสามยินดี  ข้ายินดีจะขอให้เจ้านายของข้าใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์ ‘อู่มิติ’ ดึงเรามนุษย์มังกรแดนวรรค์ทั้งหมดนี้ออกไป ตราบใดที่คุณชายสามและเจ้านายข้าร่วมมือกัน  เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างแน่นอน”

 “ข้าไม่ต้องแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย...”  เย่ว์หยางดึงดาบเทาเถี้ยซึ่งเปล่งแสงสีแดงออกมาและยิ้ม  “ข้าคือเจ้าแห่งบันไดสวรรค์  ผนึกของนักรบบันไดสวรรค์รุ่นก่อนไม่มีผลอะไรต่อข้า”

 “อุ๊บ”  หมอหลงเกือบกระอักเลือด  เจ้าเด็กนี่ใช้สถานะปลอมมากมาย!  เขายังพูดสถานะของเขาในฐานะจักรพรรดิมังกรฟ้าไม่พอ  นี่เขายังอ้างตัวเป็นเจ้าดินแดนบันไดสวรรค์อีกหรือนี่

 “ท่านเป็นเจ้าบันไดสวรรค์ด้วยหรือ?”  เซี่ยอีกระตุกแขนเสื้อเย่ว์หยางและทำท่าทางสงสัยน่าเอ็นดู

 “ไม่เอาน่า,  ถ้าไม่ใช่ข้า  อย่างนั้นจะเป็นใครไปได้?”  เย่ว์หยางอ้างแบบหน้าด้านๆ

 “แค่ก แค่ก คุณชายสาม  ท่านก็เป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ไปแล้ว ท่านเป็นจักรพรรดิอวี้ผู้แข็งแกร่งที่สุดและสูงส่งที่สุดของทวีปมังกรทะยาน  ท่านไม่อาจเป็นเจ้าบันไดสวรรค์ด้วยจริงไหม?  นอกจากนี้ ยังกล่าวกันว่ามีเพียงสตรีเท่านั้นที่เป็นเจ้าครองแดนบันไดสวรรค์”  หมอหลงเกือบโดนเย่ว์หยางทุบเสียแล้ว

 “อี้หนานคู่หมั้นข้าเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดบันไดสวรรค์  นางจะฟังที่ข้าพูดทุกอย่าง  แล้วทำไมข้าจะเป็นเจ้าบันไดสวรรค์ไม่ได้?  นอกจากนี้  ข้ายังได้รับสืบสายโลหิตมาจากเจ้าบันไดสวรรค์คนก่อนนี้  ถ้าข้าไม่เป็นเจ้าบันไดสวรรค์  จะให้ราชาเฮยอวี้เป็นหรือไง?”  เย่ว์หยางกล้าหาญและมั่นใจ เขาใช้ตรรกะไหวพริบพูดว่าในไม่ช้าเขาจะเป็นจ้าวบันไดสวรรค์ได้

 “ถือว่าข้าไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน  คุณชายสามฆ่าข้าได้ง่าย  แต่จะให้ข้าหมอหลงยอมรับความพ่ายแพ้ย่อมเป็นเรื่องยาก”  สีหน้าหมอหลงแสดงให้เห็นว่าเขายอมตายมากกว่ายอมแพ้

 “นอกจากนี้ข้าหวังว่าเจ้าคงจะยอมแพ้  ไม่มีปัญหา  เจ้าเป็นเชลยศึกข้าได้  ก็ขนาดพะยูนนรกยังเป็นเชลยข้าได้  ดังนั้นมีเพิ่มอีกคนย่อมไม่เป็นปัญหา”  เย่ว์หยางโบกมือ และฮุยไท่หลางพุ่งเข้าเล่นงานหมอหลงทันที

เนื่องจากเขาเป็นแค่เชลย  ดังนั้นฮุยไท่หลางคงไม่ต้องสุภาพ

ผู้เฒ่าหนิงไห่ก็ถูกซ้อมได้แม้ว่าพวกเขาจะยอมแพ้    ดังนั้นต่อให้เป็นเชลยศึก การถูกซ้อมก็เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้