วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 411 พลังของสายเลือด



ตอนที่  411  พลังของสายเลือด
หมอกสีเขียวครอบคลุมหน้าของถังเทียนและครอบคลุมทั้งตัวเขาภายในพริบตาทันที
ในหมอกเขียวจะบรรจุรังสีมีดบางๆ นับไม่ถ้วนเหมือนกับทรายแต่แหลมคม มันล้อมรอบถังเทียนเหมือนทรายดูดหมุนปั่นด้วยความเร็วสูงจนดูเหมือนสัตว์ประหลาดสีเขียว

อาวุธลับทั้งสิบมีพลังที่ไม่ซ้ำกัน แฝงอยู่ในหมอกเขียว
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
พวกเขาชำเลืองมองกันเองพร้อมกันและท่าทีโล่งอกปรากฏในสายตาของแต่ละคน  ความจริงเจ้าเด็กน้อยนี่เกทับเราจนเกือบถูกหลอกแล้ว
แม้แต่มือธนูบนกำแพงค่ายก็ยังรู้สึกโล่งใจ
พวกเขาทั้งสองคนผสานทักษะสังหารเข้าด้วยกัน  ฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางหลบได้ ซึ่งก็หมายความว่าเขาต้องตายแน่นอน แม้ว่าเขาจะถูกวางไว้ในสถานการณ์เช่นนั้น เขาก็ยังไม่มีโอกาสรอด
มันจบแล้ว
เขามองดูอาวุธจักรกลวิญญาณ ทันใดนั้น เขาชำเลืองมองเห็นบางอย่างจากหางตาของเขา
แย่แล้ว!
เขาหันหน้าไปดูทันที
หมอกเขียวเริ่มโรยตัวลงช้าๆ เหมือนกับทรายดูด  เดี๋ยวก่อน...
ไม่มีภาพอะไรอื่นในหมอกใบมีดเขียว
มือธนูปากอ้าค้างอย่างเหลือเชื่อ  เขามั่นใจว่าเขามองเห็นว่าหมอกเขียวกำลังกลืนถังเทียนอย่างไร  มือธนูถูกฝึกมาให้มีใจและสายตายอดเยี่ยม  เขาไม่เคยพบกับภาพลวงตาและมันไม่มีทางหลบพ้นจากสายตาที่ทรงพลังของเขาได้
หมอกเขียวเหมือนจะถูกดูดลงไปด้านล่างมากขึ้นเหมือนทรายดูด
 “ระวัง!
มือธนูตะโกนบอกคนอื่นทันทีหลังจากเขาสงบอารมณ์จากอาการตกใจ
รังสีเยือกเย็นฉายผ่านออกมาในอากาศเหมือนกับกรงเล็บหมาป่าที่คม
ยอดฝีมืออาวุธลับสังเกตได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา  เขาซัดอาวุธลับในมือไปด้านหลังและร่างของเขาถูกดันไปข้างหน้าอย่างควบคุมมิได้
โลหิตสาดกระจาย แขนข้างหนึ่งปลิวขึ้นไปในท้องฟ้า
ยอดฝีมืออาวุธลับร้องโหยหวนหลังจากสูญเสียแขนของตน  แต่เขารู้ว่าเป็นช่วงความเป็นความตาย  เขากัดฟันวิ่งตะบึงไปข้างหน้า เนื่องจากเป็นวิธีเดียวที่จะรักษาชีวิตไว้ได้โดยการเพิ่มระยะห่างจากพวกเขา
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นก็คืออาวุธลับที่เขาซัดออกไปในทุกตำแหน่งและกระจายตัวอย่างสมบูรณ์แบบ  แต่ไม่มีชิ้นใดทำร้ายฝ่ายตรงข้ามได้เลย
เป็นไปไม่ได้!
ระยะใกล้ขนาดนั้น อาวุธลับของเขาไม่เคยพลาด
แต่ยังมีรังสีฆ่าฟันที่รุนแรงไล่ตามเขามาติดๆ  เขารู้สึกสั่นไปตามกระดูกสันหลังตะลึงกับความรู้สึกถูกเกาะติดโดยไม่ต้องหันหลังไปดู
มือธนูบนกำแพงสายตายอดเยี่ยมมองเห็นทุกอย่างชัดเจน
บุรุษหนุ่มคล่องแคล่วว่องไว ถึงขนาดที่เขาดูไม่คล้ายมนุษย์  ขณะที่ตะบึงไปข้างหน้า
จากเริ่มต้นจนถึงที่สุด บุรุษหนุ่มไม่ลังเลหยุดอย่างไม่มีเหตุผล  เมื่อเขาประสบความสำเร็จได้อาวุธชิ้นแรก เขาใช้พลังได้อย่างสมบูรณ์ไม่ต้องลังเล  และอาวุธทั้งหมดรวมอยู่ในมือของเขา  ฉากภาพที่งดงามน่าชม เมื่อเห็นพลังที่ระเบิดออก ด้วยการผสมผสานพลังธาตุที่แตกต่างเข้าด้วยกัน มันมีผลกระทบที่สะดุดตาที่สุด
เขาค้นพบวิธีการโจมตีของศัตรูอยู่ก่อนแล้วหรือ?
มือธนูตกใจมากจนเขาแทบจะหมดความรู้สึก
ยอดฝีมือผู้ใช้ดาบฟันเลื่อยมีส่วนร่วมในการต่อสู้และได้รับผลกระทบอย่างมากและมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วมาก  เขาไม่อาจค้นพบได้ว่าถังเทียนหลบหนีออกมาจากวิชาสังหารของพวกเขาได้อย่างไร   แต่เขารู้ว่าเขาไม่ยินดีจะช่วยคู่หู หลังจากคู่หูของเขาตาย
ข้อมือของเขากลายเป็นนุ่มและอ่อนหยุ่นและดาบฟันเลื่อยที่เขาถือยิงรังสีออกไป
ดาบนางแอ่นเหิน
รังสีดาบเริ่มโปรยลงมา ทั้งหมดมีขนาดเท่าฝ่ามือ  ดาบลอยลงมาอย่างสง่างามเหมือนกับนางแอ่นเขียว  ความเร็วของมันน่าทึ่งขณะที่มันโถมโฉบเข้าหาถังเทียนจากทุกตำแหน่ง
ในฐานทัพ ตวนมู่ที่ถูกมัดอย่างแน่นหนามีสีหน้าเปลี่ยนไปครั้งแรก
 “เจ้าสังเกตอะไรได้บ้าง?”  เซรีนถามทันทีขณะที่นางสังเกตเห็นว่าตวนมู่มีความเข้าใจการต่อสู้ลึกซึ้งมากกว่านาง
 “เขากำลังจะชนะ!  ตวนมู่พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ  แต่ไม่เคยหันสายตาไปจากจอภาพเลย
 “ใครกัน?” เซรีนกระตือรือร้นต้องการรู้
 “เจ้านายเจ้า”  ตวนมู่มีอารมณ์ที่แปลกประหลาดบนใบหน้า
เกือบจะทันทีหลังจากตวนมู่ตอบ  พวกเขามองดูจอภาพ ขณะที่ร่างของถังเทียนงอเหมือนพระจันทร์เสี้ยว  ทันใดนั้นเขามาปรากฏตัวด้านหลังนักสู้ผู้ใช้อาวุธลับทันทีเหมือนกับภูตผีและใช้ฝ่ามือโจมตีจากด้านหลัง
พลังเกลียวที่รุนแรงระเบิดออก
แรงกระแทกทำให้ยอดฝีมืออาวุธลับปลิวกระเด็นเหมือนถูกฟ้าผ่า
ยอดฝีมือดาบฟันเลื่อยตกใจ และควงดาบทันทีและหมุนดาบเป็นวงกลมในอากาศพร้อมกับสร้างรังสี  พลังนั้นดึงดูดเขาเหมือนแม่เหล็กและลากร่างของเขาห่างออกไปสามสิบเมตร
ถังเทียนไม่ได้ไล่ตามเขาแต่หยุดและมองดูเหมือนสูญเสียบางอย่าง
ปัง, ร่างของยอดฝีมืออาวุธลับกระแทกลงกับพื้น  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด ไร้ลมหายใจ ทุกส่วนในร่างกายถูกถังเทียนทำลาย
ยอดฝีมือดาบฟันเลื่อยมองดูถังเทียนตกใจเหลือเชื่อ
 “ยอดเยี่ยม!
ในฐานใต้ดิน เซรีนต่อยตวนมู่อย่างตื่นเต้น  ตวนมู่มองนางโดยไม่พูดสักคำ  หมัดของเซรีนอ่อนแอเหมือนขนนกและไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวด
เซรีนมองดูอย่างรวดเร็ว ยิ้มกว้างและถาม  “เจ้ารู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ยังไง?”
ตวนมู่ประหลาดใจ  เขารู้สึกสะท้านเสียวสันหลัง  เขาค่อยได้เห็นว่าสตรีนั้นสวยงดงามเพียงไหน
 “จังหวะ, พวกเขาสูญเสียจังหวะของตนเองไป”  ตวนมู่อธิบาย  “ประการแรก เจ้านายของเจ้าหลบออกมาจากวิชาสังหารของพวกเขาได้ซึ่งก็หมายความว่า  เขาได้เปรียบ  จากนั้นทั้งสองคนประมาทเกินไปทำให้เขาไม่ฉวยโอกาสให้มากขึ้น  พวกเขาวางใจเกินไปและสับสนในตอนสุดท้าย  เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้”
เซรีนเดินยิ้มเข้าไปหาเขาและใช้เล็บแดงเหมือนเลือดของนางเกาคางตวนมู่และพูดอย่างนุ่มนวล  “ทำไมเจ้าทำเสียงเหมือนกับว่าคู่ต่อสู้ยอมแพ้การต่อสู้และทำเหมือนกับว่าการเอาชนะเจ้านายข้าเป็นเรื่องง่ายแทนที่จะเป็นเพราะเขาเอาชนะได้เพราะฝีมือที่โดดเด่นเล่า?  เจ้าควรจะคิดใหม่ให้ดี”
ตวนมู่ขนลุกหลังจากได้ยินเช่นนั้น  เนื่องจากเขารู้ว่าสตรีนี้จะทำอะไร
 “เจ้านายของเจ้าฝีมือน่าทึ่งยอดเยี่ยมเกิดบรรยาย  เอาแค่วิธีที่เขาหลบออกมาจากวิชาสังหารได้ซึ่งข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อน แค่นั้นก็น่าประทับใจแล้ว  ข้าคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับพลังสายเลือดของเขา  เขาลอบโจมตีจากด้านหลังและการไล่ล่าก็ทำได้ดี  และที่ไม่ลืมก็คือหมัดสุดท้าย มันเหลือเชื่อ  เขาโจมตีได้สมบูรณ์แบบเมื่อคู่ต่อสู้เสียสมาธิ มันเป็นภัยร้ายแรงถึงตาย....”
 “ช่างเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายนัก!  เซรีนหัวเราะและเอามือตบหน้าตวนมู่เบาๆ นางรู้สึกถึงบางอย่างที่น่าทึ่ง  เขาไม่เคยเห็นมาก่อน  แต่เขาก็สามารถคาดการณ์ฝีมือของถังเทียนได้ว่าเป็นอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพลังสายเลือด
น่าประทับใจ!
ตวนมู่ถอนหายใจโล่งอก ลึกๆ ในใจของเขา เขาหยันตัวเองที่มีความซื่อสัตย์ต่ำและถูกสตรีคนหนึ่งขู่ขวัญได้
 “ข้าจำยอดฝีมือดาบเลื่อยและคนศีรษะโล้นได้  พวกเขาคือบีชกับหรูไห่  พวกเขามาจากตระกูลของฮั่วฝู่หมัน  แต่อีกสองคนเป็นใคร?”  เซรีนถาม
 “อวี้ฟงคือยอดฝีมืออาวุธลับและเป็นนักสู้ระดับทอง  นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาตายที่นี่” ตวนมู่รู้สึกมีอารมณ์พลุกพล่านเล็กน้อย  “มือธนูชื่อชิวอวี้ เป็นนักสู้ระดับทองเช่นกัน”
ตวนมู่พูดไม่ออกทันที เซรีนยังเยาว์วัย  แต่เจ้านายที่เอาแต่ใจยังอายุเยาว์มาก  แต่ภายใต้การลงมือของนักสู้ระดับทองถึงสองคน  เขากลับโค่นนักสู้ระดับทองได้คนหนึ่ง
แม้ว่าทั้งสองคนจะสะเพร่าและเลินเล่อก็ตาม
แต่ผลที่ปรากฏออกมาก็เป็นความจริง
เจ้าผู้นี้ เขามีความสามารถฆ่านักสู้ระดับทองได้!
เขาเป็นใครกันแน่?  มีนักสู้ไม่มากนักที่ยังอายุเยาว์และมีความสามารถ!  ตวนมู่เริ่มนึกไล่รายชื่อในสมองและทันใดนั้นเขาโพล่งออกมา “ถังเทียน!  เขาคือถังเทียน!
ติงตังดูเหมือนตื่นตัว  นางเป็นตัวแทนทำงานให้หน่วยข่าวกรอง ดังนั้นจึงมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลเช่นนั้น
ตวนมู่รู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟันของติงตัง  เขาประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ในวันนี้?  ทำไมเขาถึงได้ทำผิดพลาดโง่ๆ แบบนั้นได้?  เขาเปิดเผยสถานะของถังเทียนซึ่งจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก...
ช่วงเวลานี้ เซรีนหันมายิ้มให้ด้วยสีหน้าท่าทางล้อเล่นของนาง
นั่นยิ่งทำให้เขาเสียวสันหลังอีกครั้ง
หยาหยามองดูมีท่าทางเก็บกดขณะที่เดินไปตามทางเดิน
มันอยู่ร่วมกับกลุ่มอสูรจักรกลทุกวัน คอยขุดตลอดเวลา  ความเบื่อกำลังจะฆ่ามัน  มันไม่เห็นเจ้านายมาหลายวันแล้ว  ลุงปิงก็สั่งงานมันเหมือนกับเป็นเจ้านาย  ฝึกฝนจนตัวเป็นเกลียว ฝึกให้ทรงพลังเหมือนกับเจ้านายของมัน
ลุงปิงสอนให้หยาหยาและฝึกวิทยายุทธให้มัน  ซึ่งก็คือใช้หมัดกลืนแสงเพื่อขุด  ลุงปิงบอกว่าภูเขาทรายทั้งลูกจะถูกทำลาย แล้วหมัดเหล็กกลืนแสงจะกลายเป็นวิชาที่น่าประทับใจแน่นอน
หมัดเหล็กกลืนแสงของข้าจะต้องดีขึ้น.. แต่ ข้าไม่ได้พบเจ้านายมานานแล้ว...
นี่มันน่าเบื่อเหลือเกิน... นอกจากนี้ ตัวอ่อนขุนพลวิญญาณเกิดมาเพื่อสู้...
ข้าทรงพลังมาก...
ทำไมเจ้านายถึงได้ดูแคลนข้า... และเขาไม่ต้องการเล่นกับข้า...
หยาหยาเศร้าเตะก้อนหินเล็กๆ บนทางด้วยความรำคาญ  มันก้มหน้าเดินไปข้างหน้าก้าวเดินช้าๆ เหมือนกับเต่า
ทันใดนั้นร่างๆ หนึ่งปรากฏตัวขึ้น   หยาหยาเงยหน้ามองสังเกตว่ามันคือแพะ, เต่าและกระรอกบรอนซ์นั่นเอง
แพะหมอบอย่างสง่างาม เต่าก็ยืดหัวออกมาจากกระดองและกระรอกยืนไขว้แขนของมันมองดูหยาหยาด้วยท่าทางน่ารัก
อารมณ์หยาหยาค่อยแจ่มใส ขณะที่มันกระโดดขึ้นไปบนหลังแพะ
 “อา อา อา อา อา หยาหยา”
หยหยาจับเขาแพะตะโกนอย่างร่าเริงเหมือนเด็ก  แพะรู้สึกได้ว่ามันอารมณ์ดีและพุ่งไปสุดฝีเท้าที่มันมี
เต่าตกใจและหดหัวกลับเข้าในกระดอง
ในท่ามกลางลมโกรกรุนแรง สิ่งที่เห็นคือใบหน้าที่น่ารักของกระรอกและหางของมันลู่ลมไปอีกด้านหนึ่ง
ไม่นานนักพวกมันก็เห็นทางเข้าเมืองสามวิญญาณ  หยาหยาเริ่มมีความสุขยิ่งขึ้น
เมืองสามวิญญาณมีเซรีนและสาวแฝด  แต่เซรีนน่ากลัวเกินไป และติงตังมักจะยุ่งอยู่เสมอ  ดังนั้นผี่ผาดีที่สุด อย่างน้อยก็น่าสนใจมากกว่าขุดภูเขา
เมื่อหยาหยาผ่านทางเข้าและเตรียมจะเข้าไปในค่าย หน้าอ่อนๆ ของมันกลายเป็นเคร่งเครียดและตาของมันสว่างเหมือนดวงดาวยามราตรี
มีการต่อสู้เกิดขึ้น
มันได้ยินเสียต่อสู้เบาๆ
เจ้าแพะก็ยังตกใจและระมัดระวัง  มันวิ่งไปตามทางด้วยความห่วงใยความปลอดภัยของเซรีน
ในไม่ช้าพวกมันก็มาถึงห้องเซรีน นางไม่พูดอะไรสักคำ เมื่อเห็นพวกมัน กลับหันหน้าไปดูการต่อสู้ต่อไป  ทุกคนให้ความสนใจการต่อสู้
หยาหยาเอียงหน้ามอง ตาของมันเป็นประกายขณะมองดูเจ้านายในจอภาพ
เจ้านายกำลังต่อสู้!
ความใฝ่ฝันตลอดชีวิตของตัวอ่อนขุนพลวิญญาณก็คือสู้ร่วมกันกับเจ้านายของมัน!
หยาหยากำหมัดสีดำของมัน
มันมองดูรอบๆ  หลังจากตระหนักว่าไม่มีใครมองดูมัน มันจึงค่อยๆ ย่องออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ
ตัวอ่อนขุนพลวิญญาณต้องการต่อสู้ด้วยเช่นกัน!

6 ความคิดเห็น:

ปารมี กล่าวว่า...

หวังว่าหยาหยาจะปลอดภัย

Unknown กล่าวว่า...

หยาหยาน่ารักจุมเบย

Sunrise กล่าวว่า...

ขอบใจหลายยยยจ้าา

Unknown กล่าวว่า...

หยาหยา

ThEPaRaN กล่าวว่า...

หยาหยาลูก อย่าได้รับบาดเจ็บน๊าาา
พี่ถังดูแลน้องด้วยยย

Unknown กล่าวว่า...

นานๆที หยาหยา จะมีบท อะไรๆก็ขุดภูเขา55

แสดงความคิดเห็น