วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 417 นักล่าหลังฉาก



ตอนที่  417  นักล่าหลังฉาก
หลิงซิ่วไม่ลังเลขณะที่เขาจับหอกแน่นและวิ่งกระทุ้งรูบนผนังที่เขาสร้างขึ้น  ผนังถล่มขณะที่เขาพุ่งออกมาสุดกำลังของเขา

ศัตรูไม่ทันตระหนักถึงความแข็งแกร่งของหลิงซิ่วขณะที่พวกเขารีบถอย
ความเลือดเย็นดูเหมือนมีอยู่ในสายเลือดของเขา สัญชาตญาณฆ่าของเขาดูเหมือนจะครอบงำเขาขณะที่เขาไม่สามารถหาตำแหน่งของศัตรูเขาอย่างได้ผล
นักสู้ผู้นั้นมีสายตาเจ้าเล่ห์  เขาโบกมือส่งสัญญาณสองสามครั้งในอากาศ เตรียมเริ่มการโจมตี
แสงสีเทาระเบิดกระจายอยู่ต่อหน้าต่อตาของหลิงซิ่ว
ไฟที่แตกระเบิดนี้ทำให้หลิงซิ่วประหลาดใจ  มันดูเหมือนหมอกสีเทาปิดกั้นสายตาของหลิงซิ่วไว้
ม่านตาของหลิงซิ่วหรี่แคบขณะที่เขาจับหอกของเขาแน่นและโจมตีใส่แหล่งแสงทั้งที่ตาพร่า
รังสีเทาแข็งแกร่งชอนไชเข้าไปในแขนของเขา
เป็นพลังที่มีรูปแบบประหลาด!
เขานั่งขัดสมาธิขณะที่เตรียมตัวรับการโจมตีที่กำลังจะมา  ศัตรูก้าวเข้ามาสองสามก้าว แต่ก็หยุดในระยะสั้นและหันหลังกลับ
 “บุรุษหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งแน่นอน  มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถหลบโซ่กางเขนของข้าได้”  ศัตรูยิ้ม
ตอนนี้หลิงซิ่วเห็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ชัดเจนแล้วแล้ว  ศัตรูของเขาแต่งชุดเสื้อสีเทาสีหน้าซีด รอยยิ้มเยือกเย็นของเขาครอบคลุมหน้าถึงสามส่วน มีกลิ่นอายที่เยือกเย็นและโหดร้ายจับจิตของศัตรูของเขา
เจ้าเป็นใคร?
หลิงซิ่วถามเสียงเข้ม  เขากระสับกระส่ายที่แขนและสลายพลังงานเทาที่เพิ่งโจมตีเขาเมื่อครู่
ศัตรูไม่สนใจหลิงซิ่ว  เขาหันไปมองอาเฮ่อในที่ไกลออกไปและพูดกับตัวเอง “ระมัดระวังไว้”
ทันใดนั้นเขาหันหน้ามายิ้มให้หลิงซิ่ว
 “เราจะได้พบกันอีก”
ภายใต้แสงอาทิตย์ส่อง ร่างของเขาหายไปทันทีในชั้นหมอกบางๆ  ภายในไม่กี่วินาที เขาก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็น
อาเฮ่อร่อนเข้ามาอยู่ข้างตัวหลิงซิ่วและถามเขาอย่างสงสัย  “เขาเป็นใคร?”
หลิงซิ่วสั่นศีรษะ  “ข้าไม่รู้ แต่วิชาที่เขาเพิ่งใช้เรียกว่าโซ่กางเขน เจ้าเคยได้ยินวิชานี้มาก่อนไหม?”
อาเฮ่อรำพึงเบาๆ และส่ายศีรษะ  “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”
หลิงซิ่วมองดูรูใหญ่บนผนัง แม้ว่าไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ แต่พลังที่ปล่อยออกมานั้นสำคัญ  แม้แต่ศัตรูผู้นี้ก็ยังมีความสงบ  พลังของเขาดูเหมือนจะพอๆ กัน
น่าเสียดายเขารีบจากไปอย่างร้อนรน
หลิงซิ่วชำเลืองมองรอบๆ ขณะที่เขารู้สึกว่าเป็นการเสียเปล่าที่ได้พบศัตรูที่น่ากลัวอย่างนั้น  แต่เขากลับปล่อยให้เขาหลบหนีไปได้ง่ายดาย  เขาอารมณ์ร้อนแรงและโหยหาการต่อสู้ ไม่มีลดลงแต่อย่างใด
หลิงซิ่วชำเลืองมองดูอาเฮ่อ และใช้หอกชี้มาที่อาเฮ่อ  “อาเฮ่อ เนื่องจากศัตรูของข้าเผ่นหนีไปแล้ว ทำไมเจ้าไม่แทนที่เล่า  เรามาซ้อมมือกันหน่อยเป็นไร”
อาเฮ่อผงะและชี้มาที่ตัวเอง  “ข้าน่ะหรือ? เฮ้ เฮ้ เฮ้.... ทำไมข้าต้องถูกลากมาแทนเขาด้วยเล่า.. เฮ้ เฮ้ เฮ้.. หยุดเลยนะ”
หลิงซิ่วไม่สนใจอาเฮ่อ เนื่องจากเขาแทงหอกใส่อาเฮ่อ  “อาเฮ่อ วันนี้เป็นวันโชคร้ายของเจ้า”
 “เฮ้!  ถังเทียนที่เพิ่งจะกลับมาถึงและตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้น  “เฮ้..พ่อหนุ่ม ดูเหมือนว่าพวกเจ้ามีอารมณ์จะสู้กันตอนนี้สินะ  ถ้าอย่างนั้นข้าเล่นด้วยคน!  พวกเจ้าทุกคนจะได้ลองวิชาใหม่ของข้า มือปีศาจพันแปลง!
หลิงซิ่วหัวเราะ  “เจ้าบ้าถัง ดีแล้วที่เจ้ามา   มาชำระบัญชีครั้งเก่ารวดเดียวเลย ระวังให้ดี”
ทั้งสองคนตะโกนร้องท้าต่อสู้กัน ขณะพื้นที่เปลี่ยนเป็นสนามต่อสู้ทันที
อาเฮ่อฉวยโอกาสหลบฉากการต่อสู้และยืนชมอยู่ด้านข้างและประหลาดใจที่พบแอนเดรียนา  “ฝ่าบาท ยินดีที่ได้พบท่าน”
 “พวกเขา... พวกเขาทำอย่างนี้เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า?”  แอนเดรียนาชี้ไปที่การต่อสู้ระหว่างสองสหาย
 “ใช่แล้ว, เด็กป่าเถื่อนพวกนี้ไม่คู่ควรให้ฝ่าบาทต้องเสียเวลาเลยจริงๆ  วันเวลาดีๆ จะเสียไปเปล่าๆ ดอกไม้ในสวนบานแล้ว  ท่านน่าจะใช้เวลาไปเที่ยวชมดูไม่ดีกว่าหรือ?”  อาเฮ่อถามขณะยิ้ม
แอนเดรียนาคิดอยู่ชั่วครู่ เนื่องจากนางก็ชื่นชอบลักษณะของอาเฮ่อ! นางรีบสงบอารมณ์และรู้สึกอาย  “นั่นก็ดีเหมือนกัน”
 “ด้วยความยินดี ฝ่าบาท!  อาเฮ่อคำนับเล็กน้อย ขณะที่เขาพาแอนเดรียนาไปชมสวน
เป็นเรื่องดีที่ถือโอกาสที่เจ้าเด็กบ้าพลังสองคนนี้ยังไม่ทันรู้ตัว อยู่ห่างจากพวกเขาให้มากเท่าที่เป็นไปได้
แอนเดรียนาเดินตรงไปที่สวนอย่างรวดเร็ว  อาเฮ่อยืนตรงและมองไปทางตำแหน่งที่ศัตรูลึกลับเพิ่งหายไป  เขาไตร่ตรองเงียบๆ
ประตูดวงดาวอันโดรเมดาและกลุ่มดาวนายพราน
แม่ทัพหลูตี๋มองดูบริวารของเขากำลังทำความสะอาดสนามรบอยู่เงียบๆ  เขามองไปรอบๆ พื้นที่ปรักหักพังที่รายล้อมรอบตัวเขาด้วยความรู้สึกเสียใจเล็กน้อย  หลูตี๋ดูอ่อนแอและใบหน้าซีด  อย่างไรก็ตามคงไม่ใช่เรื่องฉลาดหากใครจะประมาทเขา
เขากลายเป็นผู้บัญชาการกองทัพในวัย 27 ปี ผู้บัญชาการเยาว์วัยขนาดนั้นในสวรรค์วิถีมีอยู่ไม่กี่คน แม้ว่ากองกำลังพรานข่ายที่เขานำจะใหญ่เป็นอันดับสามในกลุ่มดาวนายพราน  ทุกคนรู้ว่านั่นเป็นเพราะประสบการณ์ของเขา  ไม่ใช่ความแข็งแกร่งของเขา
กลุ่มดาวนายพรานไม่ค่อยรู้จักการทำการค้า ดังนั้นประตูดวงดาวอันโดรเมดาและดาวนายพรานจึงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับกลุ่มดาว  หลูตี๋ใช้ประตูดวงดาวนี้มานับไม่ถ้วน  แต่ทางผ่านนี้มีเหตุเปลี่ยนแปลงเกินกว่าจะยอมรับได้และยากจะอยู่ในควบคุม
เมื่อเร็วๆ นี้เกิดการต่อสู้ไปทั่วกลุ่มดาวต่างๆ  บรรดานักสู้ระดับทองจากสมาพันธ์ชาวยุทธ  มีสามคนที่พลาดท่าในสมรภูมิ  แต่กลุ่มดาวนายพรานก็ประสบความสูญเสียหนักเช่นกัน นักสู้ระดับทองห้าคนเสียชีวิตในการต่อสู้
พลังทำลายล้างจากความแข็งแกร่งของนักสู้ระดับทองเห็นได้จากหายนะของเมืองที่เคยเจริญกลายเป็นซากปรักหักพังทันที
เมื่อหลูตี๋และกองทัพของเขามาถึง  เขาตกตะลึงกับภาพการสังหารที่เห็น การมาถึงของกองทัพเขาทำให้นักสู้ฝ่ายศัตรูหลายคนกระจัดกระจายไป
หลูตี๋ไม่กล้าประมาทศักยภาพที่คุกคาม แค่เพียงเพราะการป้องกันของเขาแข็งแกร่ง
เขาจำเป็นต้องจัดการพื้นที่ปรักหักพังและสร้างเมืองป้องกันขึ้นมาใหม่  จากนั้นพวกเขาก็จะมั่นใจพลังป้องกันของเมืองในระยะยาว  เขายังคงมีงานสำคัญอีกมากที่ต้องทำ
ที่ชานเมืองด้านหนึ่งของเมืองอันโดรเมดา ในบ้านที่ไม่โดดเด่น ครอบครองโดยคนสามคน
ถ้าอูเซี่ยได้เห็นคนทั้งสามนี้ เขาคงตกใจเป็นแน่ คนทั้งสามนี้ตอนแรกใครๆ ก็คิดว่าออกไปจากเมืองอันโดรเมดาแล้ว  พวกเขาคืออาเดรียน, อาซิ่วและหลิงจงกวง  เมื่ออาเดรียนได้ยินว่าจู่ๆก็มีนักสู้ที่ไม่รู้จักเป็นจำนวนมากอยู่ในบริเวณประตูดวงดาว  เขารู้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น  ดังนั้นพวกเขาได้เดินแผนลวงให้ผู้คนเชื่อว่าพวกเขาออกไปจากกลุ่มดาวแล้ว  แต่ในความเป็นจริง พวกเขาลอบกลับเข้าเมือง
 “เป็นเยี่ยนถู  เขากลับมา”  หลิวจงกวงโพล่งออกมาอย่างมีความสุข  “ไม่ใช่แค่เยี่ยนถูเท่านั้น ยังมีนักสู้อีกสองคนที่มากับเขา สองคนนี้มีพลังแข็งแกร่งมาก  ข้าเกือบถูกเขาตรวจพบ”
อาเดรียนกับอาซิ่วมีสีหน้าประหลาดใจ  เยี่ยนถูคือรัชทายาทของกลุ่มดาวหมีใหญ่  ตั้งแต่เขามีตำแหน่งที่ทรงอำนาจที่จะครอบครองกลุ่มดาว  พวกเขาสงสัยว่าอะไรที่ทำให้พวกเขามาที่นี่เป็นส่วนตัว
ทั้งสองคนนั้นสามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง
กลุ่มดาวหมีใหญ่และกลุ่มดาวนายพรานแยกจากกันโดยกลุ่มดาวอันโดรเมดาคั่น  ถ้ากลุ่มดาวอันโดรเมดาเป็นพันธมิตรกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ เห็นได้ว่าก็จะเป็นการทรยศหักหลังกลุ่มดาวนายพราน
อาซิ่วเอ่ย “ไม่มีการเป็นพันธมิตรแน่  ถ้ามีการเป็นพันธมิตร  เยี่ยนถูจะมีสิทธิ์ในเมืองอันโดรเมดาอย่างไม่จำกัด  ปัจจุบันนี้เยี่ยนถูได้แทรกซึมเข้ามาโดยไม่ปรากฏตัวอยู่ในที่สาธารณะ”
อาเดรียนมองอาซิ่วตรงๆ และกล่าว “ไม่มีความเคลื่อนไหวจากพวกเขาให้รายงานหรือ?”
 “ถูกแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้ความเคลื่อนไหวจนกระทั่งถังเทียนปรากฏ”  หลิวจงกวงขมวดคิ้ว  “เป็นไปได้ไหมว่าเป้าหมายของพวกเขาก็คือถังเทียน?  แต่ทั้งสองฝ่ายไม่มีความแค้นและความเกลียดชังต่อกันนะ”
 “ไม่, เป้าหมายของพวกเขายังคงเป็นกลุ่มดาวอันโดรเมดา”  อาเดรียนส่ายศีรษะ  “พวกเขาคงต้องการควบคุมกลุ่มดาวอันโดรเมดาโดยไม่เปลืองเรี่ยวแรง  จะควบคุมกลุ่มดาวให้ได้ พวกเขาจำเป็นต้องควบคุมคนสองคนให้ได้ก่อน คนหนึ่งก็คือถังเทียน  อีกคนหนึ่งก็คือแอนเดรียนา  แอนเดรียนาเจรจาด้วยง่ายๆ  แต่สำหรับถังเทียนนั้น ข้าบอกไม่ได้”
 “ทำไมพวกเขาต้องการควบคุมกลุ่มดาวอันโดรเมดา?”  อาซิ่วถาม
อาเดรียนยิ้มอ่อนโยน  “ในอดีต ข้าเดินทางท่องเที่ยวไปมาหลายกลุ่มดาวและเคยพักอยู่ที่กลุ่มดาวหมีใหญ่อยู่ครึ่งปี ตอนนั้นคนในกลุ่มดาวมีความทะเยอทะยานยินดีเสียสละชีวิตเพื่อติดตามผู้นำของพวกเขา  ปัจจุบันนี้กลุ่มดาวมีความรุ่งเรืองสูงสุด คงเป็นเรื่องยากที่พวกเขายังคงมุ่งมั่นแสวงหาความก้าวหน้าโดยไม่ขยายอาณาเขต  ถ้าพวกเขาจะขยายอาณาเขต ก็มีเพียงทางเลือกเดียว”
อาซิ่วและหลิวจงกวงทั้งสองคนสูดหายใจลึกขณะที่พวกเขาเข้าใจสิ่งที่อาจารย์ของพวกเขาเพิ่งกล่าว
อาเดรียนกล่าว  “นอกจากนี้การสังหารซึ่งเกิดจากสงครามขับเคี่ยวกันระหว่างกลุ่มดาวทำให้ข้าสงสัย ทำไมจู่ๆ ถึงมีนักสู้หลั่งไหลเข้ามามาก?  มันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป  แต่มีความเป็นไปได้ว่าสมาพันธ์ชาวยุทธและกลุ่มดาวหมีใหญ่คงตกลงเป็นพันธมิตรร่วมกัน”
 “อย่างนั้นเราจะทำยังไง?”  หลิวจงกวงถามด้วยความตกใจ
 “รอคอย!  อาเดรียนตอบ  “เราได้แต่รอกำลังเสริม  เราสามารถรอคอยโอกาส”
 “อาจารย์ ท่านหมายความว่ายังไง?”  อาซิ่วถาม
 “นายพลหลูมีกลุ่มดาวอยู่ในการควบคุม และกำลังเสริมของเราอยู่ในระหว่างเดินทางมาสมทบ”  อาเดรียนอธิบาย  “งานของเราง่ายๆ เราจำเป็นต้องทำให้เยี่ยนถูอยู่ต่อ”
 “ทำให้เยี่ยนถูอยู่ต่อ”  อาซิ่วและหลิวจงกวงตกใจ
 “ถูกแล้ว” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของอาเดรียน  “พญาหมีเยี่ยนหย่งเลี่ยเป็นคนอารมณ์ร้อน  ถ้าเยี่ยนถูตายในเมืองอันโดรเมดา กษัตริย์จะออกคำสั่งโจมตีเมืองแน่นอน”
อาซิ่วกังวลเล็กน้อย  “นั่นจะทำให้เขาได้เหตุผลดีๆ ในการเข้าโจมตีเมืองหรือเปล่า?”
หลิวจงกวงผ่อนลมหายใจด้วยความกังวลอยู่บ้าง  ถ้ากลุ่มดาวหมีใหญ่พิชิตกลุ่มดาวอันโดรเมดา ก็จะส่งผลตรงต่อกลุ่มดาวนายพราน
 “ถูกแล้ว” อาเดรียนพยักหน้า  “ถ้ากลุ่มดาวอันโดรเมดามีเพียงแอนเดรียนาและกองพลทหารราบ อย่างนั้นความเคลื่อนไหวนี้เท่ากับฆ่าตัวตาย  แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องอื่นอีก”
 “อาจารย์  ท่านหมายถึงถังเทียนเหรอ?”  อาซิ่วถาม  “อาจารย์, ท่านกำลังจะบอกว่าพวกเขาสามารถหยุดการรุกรานของกองทัพหมีใหญ่ได้หรือ?”
 “อย่าดูถูกถังเทียน”  อาเดรียนส่ายศีรษะ  “ถ้าเยี่ยนหย่งเลี่ยเป็นหัวหน้าหมี  อย่างนั้นถังเทียนและสหายก็เป็นฝูงหมาป่าหิวโหยที่สามารถกำจัดเขาได้  ถ้าเยี่ยนหย่งเลี่ยต้องการฆ่าถังเทียนและพวกของเขา  ก็จะต้องประสบความสูญเสียบาดเจ็บล้มตาย และถึงตอนนั้นก็จะเป็นโอกาสโจมตีของเรา
 “เรามีนายพลหลูตี๋”  อาเดรียนตะโกนและกำหมัดแน่น  “หลังจากชัยชนะศึกนี้  กลุ่มดาวนายพรานจะกำจัดภัยคุกคามให้หมดรวดเดียว”

5 ความคิดเห็น:

Sunrise กล่าวว่า...

ป๊าดดดดดด ตื่นเต้นหลายยยย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ บู๊เข้าปายๆ

Unknown กล่าวว่า...

วางแผนการซับซ้อนเหลือเกิน

JaOurPaLa กล่าวว่า...

เยี่ยม กำจัดทั้งหมด มาๆ เร่เข้ามา

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น