ตอนที่ 450
อดีตของเซรีน
มีคนมาเคาะประตู
ปิงคาบบุหรี่ อั้นไม่ให้ควันลอยออกมา เขาสังเกตมองบุรุษตรงข้ามเขาอย่างเงียบ
บุรุษวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี ชุดของเขาดูเหมือนจะราคาแพง
ราศีไม่ธรรมดากำลังดื่มชาอย่างเมินเฉยไม่สนใจอะไร
ข้างๆ เขาเป็นสุภาพสตรีงดงามที่ดูแล้วมีพลังไม่ต่ำทราม
“ข้าบอกแล้วไงว่าอย่ากวนใจข้าเวลานี้! พวกเจ้าทุกคนทำเหมือนกับคำพูดข้าเป็นแค่ลมเป่าหู..”
เซรีนโวยวายเสียงดังลอดออกมานอกประตู เห็นได้ชัดว่านางไม่พอใจ เกือบจะโมโหด้วยซ้ำ
ปิงสังเกตแววเย้ยหยันแว่บผ่านหน้าของหญิงสาวผู้งดงามผู้อยู่ด้านหลังบุรุษวัยกลางคน โอว ชักน่าสนใจเสียแล้ว...
เซรีนถลันเข้ามาและคำรามลั่น “อีตาหน้าไพ่, เจ้าตายแน่ถ้าไม่อธิบายให้ดิ...”
เสียงของนางชะงักทันที
“หลานเซรีน”
บุรุษวัยกลางคนยิ้ม และวางแก้วชาลง
“ทำไมล่ะ? จำลุงรองไม่ได้หรือไง?”
เซรีนหน้าเขียวคล้ำ “มาที่นี่ทำไม?”
“บังเอิญว่าข้ามาทำธุระแถวๆ
นี้ ดังนั้นข้าเลยแวะมาเยี่ยมเจ้า
พ่อเจ้าคิดถึงเจ้ามากและหวังว่าเจ้าจะกลับไปเยี่ยมเขา” บุรุษวัยกลางคนยิ้มอย่างใจดีและอ่อนโยน
เซรีนแค่นเสียง “ข้าถูกตะเพิดออกมาจากครอบครัวเมื่อตอนข้าสิบสองขวบ
และได้ขีดเส้นคั่นระหว่างข้ากับพวกท่านแล้ว
ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกท่าน
เชิญไปได้แล้ว”
บุรุษวัยกลางคนสีหน้าเขียวคล้ำ
สตรีงดงามที่อยู่ด้านหลังเขาทนไม่ได้อีกต่อไป นางด่า “สามหาวนัก, นังแพศยาที่ถูกขับออกจากตระกูล
ยังกล้าพูดเรื่องเหลวไหลอีก!”
ปราณรอบตัวนางถูกปลดปล่อยดังปัง
ทำให้อุณหภูมิในห้องตกลงทันที
เซรีนยิ้มทันทีและพูด
“ตวนมู่, ตบนาง”
ตวนมู่รู้สึกตกใจอยู่แล้วเมื่อสุภาพสตรีผู้นั้นด่าเซรีน
สมองของสตรีผู้นี้กระทบกระเทือนหรือเปล่า?
ความจริงนางกล้าด่าเจ๊เซรีน
ความกล้าของนางช่างน่านับถือ...
เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเซรีน เขาสั่นทันที หลังจากรั้งอยู่ในฐานมานาน
เขาจับอารมณ์และบุคลิกของนางได้
เจ๊ใหญ่โกรธแล้ว!
ถ้าข้าไม่ตบแม่นางคนนี้สักสองสามทีในวันนี้...
ตวนมู่สั่น
ตวนมู่ไม่คิดอะไรต่อ
ร่างของเขาหายวับมาปรากฏอยู่ข้างสตรีนางนั้นเหมือนภูตพราย
สุภาพสตรีนั้นโกรธจนหัวเราะ
ในสายตานาง สถานะของเซรีนก็แค่ก้อนหินชั้นต่ำ แต่ยังกล้าพล่ามคำพูดว่าตบนาง รังสีอำมหิตของนางคุกรุ่นและนางเริ่มเคลื่อนไหว
ควั่บ
ฝ่ามือข้างหนึ่งแหวกผ่านม่านควัน และยึดตัวบุรุษวัยกลางคนไว้
บุรุษวัยกลางคนโกรธ “เด็กน้อย เจ้ากล้า....”
โดยไม่ต้องใช้แรง
ปิงดึงบุรุษวัยกลางคนเข้ามาหาเขา ปากเขายังคาบบุหรี่และตบหน้าของบุรุษวัยกลางคนสองฉาด
“คนฉลาดต้องยอมอ่อนข้อกันบ้าง บังอาจเรียกว่าข้าเด็กน้อย ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย”
สตรีงดงามตกตะลึง
นางระมัดระวังอยู่ที่ตัวตวนมู่ ไม่เคยคาดเลยว่าขุนพลวิญญาณจะลงมือทันที
เจ้านายนางถูกจับ สถานการณ์ของนางเสียเปรียบทันที นางไม่กล้าโต้ตอบ
นางกรีดร้องใส่ “พวกเจ้าบ้ากันทุกคน...”
เผียะ เผียะ เผียะ
เสียงตบดังกลบเสียงด่าของนาง
ปิงเองก็ตบบุรุษวัยกลางคนไปหลายที
ใบหน้าที่งามสง่าของบุรุษวัยกลางคนบวมเหมือนหัวหมู
ทำให้เขาสั่นด้วยความโกรธ เขาไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนั้นมาก่อน
“จุ๊
จุ๊ ทาสที่เหมือนหมูมีแต่จะฉุดเจ้านายต่ำลงเท่านั้น”
ปิงแตะแก้มที่บวมของบุรุษกลางคนและส่งสารข้อความรู้สึกจากใจของเขา
เขาเงยหน้าทันที
ทำให้หญิงงามผู้นั้นประหลาดใจ
“เจ้านายของเจ้าถูกหยามหยัน แล้วเจ้าจะไม่รู้สึกอะไรได้ยังไง?”
สตรีงามนั้นทั้งแตกตื่นและโกรธ
นางพุ่งเข้าหาปิงโดยไม่สนใจอะไรในโลก
ร่างของตวนมู่เข้ามาขวางหญิงงามนั้นไว้
ปิงแสดงความเสียใจต่อบุรุษวัยกลางคน
“บริวารของเจ้าไม่มีความอ่อนโยนต่อเจ้าแม้แต่น้อย”
เผียะ เผียะ เผียะ
บุรุษวัยกลางคนถูกตบอีกสามครั้งจนวิญญาณแทบหลุดลอย
สตรีงามหยุดพูด
นางตัวสั่นด้วยความโกรธ
แต่นางรู้ว่าถ้านางดิ้นรน เจ้านายนางจะต้องได้รับความอัปยศ นางยอมให้ตวนมู่มัดนาง สายตานางแสดงความไม่พอใจ นางกัดฟันและกล่าว “พวกเจ้าทุกคนจะต้องเสียใจ”
“ขอบคุณที่เจ้ากังวลห่วงใย!” ปิงงับบุหรี่และคำนับล้อเลียน
ทั้งสองคนถูกมัดแน่น บุรุษวัยกลางคนแก้มแดงและถูกจัดให้ยืนที่มุม
ปิงเคาะขี้บุหรี่และพูดกับเซรีน
“เจ้าต้องการให้จัดการใช่ไหม?”
เซรีนมองดูปิง
“ท่านรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใคร?”
“ไม่รู้สิ”
ปิงตอบอย่างเฉยเมย “แน่นอน มันยังไม่สายจนเกินไปที่เจ้าจะพูดตอนนี้ โอว
เจ้ากำลังบอกข้าถึงผลที่จะตามมาน่ะหรือ? อย่าไปรำคาญเรื่องแบบนั้นเลย เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อขอความสนับสนุน
จุ๊จุ๊ ดีแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่เชือดเลี้ยงสุนัข
ถ้าเจ้าเด็กบ้าถังอยู่ที่นี่
พวกเขากลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว การกระทำของข้ายังถือว่าใจดีมากแล้ว”
“พวกเขาคือกลุ่มอิทธิพลใหญ่” เซรีนขบริมฝีปาก ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน นางรู้ว่าปิงยืนยันสนับสนุนนาง แต่...
ปิงหัวเราะลั่น “พวกเขาใหญ่กว่าสมาพันธ์ชาวยุทธไหม?”
เซรีนแข็งชะงัก จากนั้นจึงหัวเราะ “ไม่ใหญ่ขนาดนั้น”
ท่าทางหวาดหวั่นหายไปจากใบหน้านาง นั่นก็จริง
ขนาดสมาพันธ์ชาวยุทธทุกคนยังไม่สนใจ
ตระกูลที่น่าเกลียด พวกเขาจะต้องไปกลัวอะไร?
“เจ้าคือช่างใหญ่วิศวกรจักรกลของพวกเรา
มันนานเท่าใดแล้วตั้งแต่ออกมา? เฮ้, เราจะได้รับเงินก้อนโตก็ขึ้นอยู่กับเจ้า! มาหาข้าได้ มาขอความกรุณาได้เลย หึหึ!”
พอเสียงหึหึของปิงดัง
เขามีรังสีฆ่าฟัน และเดินเข้าหาคนทั้งสองและพ่นควันใส่หน้าพวกเขา” พวกสุดท้ายที่กล้าทำแบบนี้
จะต้องถูกข้าซ้อมจนต้องร้องเรียกหาแม่กันเลยทีเดียว แย่หน่อยที่จอมห้าวถังไม่อยู่ที่นี่ โอว
เขาจะทำอะไรได้? เขาจะจับพวกเจ้าทั้งสองคนแขวน เจ้านั่นชอบทำแบบนั้นเสียด้วย ไม่ไม่
ข้าจะต้องตอกย้ำเป้าหมายที่สูงขึ้นไปในตัวเขา”
“ใต้เท้า
ทำไมท่านต้องทำให้ข้าขายหน้า
ท่านต้องการอะไร? ว่ามาให้ชัด” บุรุษวัยกลางคนถามเสียงเบา
แผนการของเขาลึกซึ้ง เขาสงบจิตใจจากความโกรธ
และตระหนักได้ทันทีว่าการระเบิดอารมณ์โกรธของปิงมีความหมายลึกซึ้ง ในการสู้กันระหว่างบริวาร ใครก็ตามจะชอบโจมตีอย่างนั้น นั่นด้อยเกินไป
“เหตุผล?” ปิงชำเลืองมองบุรุษวัยกลางคนอย่างชื่นชม “เหตุผลง่ายๆ ระบายอารมณ์ให้เซรีน”
สีหน้าของบุรุษวัยกลางคนค้าง
“ความรู้สึกของสหายพวกเจ้าทุกคนต้องได้รับการเอาใจใส่
แม้ว่าข้าไม่รู้เรื่องความขัดแย้งของพวกเจ้าทั้งสอง แต่เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเรากำลังช่วยนาง” ปิงหัวเราะเบาๆ และกล่าว “นางคือวิศวกรจักรกลใหญ่ของเรา
ได้ระบายความโกรธให้นาง ช่วยให้นางอารมณ์ดีทำงานมีประสิทธิภาพ จากนั้นเราสามารถทำเงินได้ น้องชาย ช่วงสองสามปีมานี้ ช่างทำมาหากินลำบาก!”
“ถึงกระนั้นก็เถอะใต้เท้า, ท่านดูจะไม่สนใจมากเกินไปแล้ว!” บุรุษวัยกลางคนลดเสียงเบา
“แม้ว่าเซรีนจะมีความสำเร็จวิชาจักรกลบ้างเล็กๆ น้อยๆ
แต่ความแข็งแกร่งของตระกูลหานไม่ใช่สิ่งที่ช่างจักรกลเล็กคนหนึ่งจะเทียบได้
ถ้าใต้เท้ายินดีจะปล่อยเซรีนให้ตระกูลหาน
ตระกูลหานจะจ่ายรางวัลให้ใต้เท้าจนจุใจแน่นอน”
ปิงพ่นควันเป็นวงออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
ทำตาปริบๆ ใส่เซรีน “โอว.. คนมีอิทธิพลท้องที่”
เซรีนตอบอย่างเฉื่อยชา
“ตระกูลอีวานแห่งกลุ่มดาววัว (ทอรัส)
หนึ่งในตระกูลที่โดดเด่นในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย่อมมีอิทธิพลแน่นอน”
“ฟังดูเข้มแข็งดีนี่!” หน้าของปิงมีแววประหลาดใจ
ใบหน้าของหญิงงามมีท่าทางเย่อหยิ่ง บุรุษวัยกลางคนนั่งมั่นคงกว่าเดิม เพื่อยืดเอวและหลังให้ตรง
“อย่างนั้นทั้งสองคนนี้คงแลกค่าไถ่ก้อนโตได้แน่”
ทั้งสองคนชะงักอีกครั้ง
ทันใดนั้นพวกเขารู้สึกหนาวยะเยือกตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า พวกเขาเพิ่งสังเกต สายตาที่บ่งบอกอารมณ์ของปิงดูเหมือนเขากำลังจะกลืนกินพวกเขา
แววเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าเซรีน “แลกค่าไถ่พันแปดร้อยล้านก็คงไม่เป็นปัญหา”
แววตื่นเต้นของปิงตกลงทันที เขาพูดอย่างเฉื่อยชา “ได้แค่นิดเดียวเอง ดูเหมือนสถานะของสองคนนี้ไม่สูงขนาดนั้น แต่ไม่ว่ายุงจะเล็กขนาดไหนก็ตาม
มันก็ยังสด เอาตามนั้นก็แล้วกัน”
บุรุษวัยกลางคนมีสีหน้าบิดเบี้ยว
เขารู้สึกอับอายอีกครั้ง ในที่สุดก็ควบคุมตัวเองไม่ได้หลุดคำผรุสวาท “เซรีน ในท้ายที่สุดเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้าก็ยังเป็นของตระกูลอีวานอยู่ดี ไม่สำนึกถึงบุญคุณผู้ให้กำเนิดยังไม่พอ
เจ้ายังบังอาจละเมิดผู้อาวุโสของเจ้า อย่างนั้น...”
เผียะ!
เสียงตบดังขึ้นขัดจังหวะบุรุษวัยกลางคนอีกครั้ง
เซรีนพูดเสียงเย็นชา
“พูดให้ชัด, ท่านเป็นญาติอาวุโสของใคร! ตอนข้าสิบสองปี แค่เพียงปีที่สองหลังจากแม่ข้าตาย พวกเจ้าทุกคนขับไล่ไสส่งข้าออกจากตระกูล ข้าไม่มีสถานะ
ถ้าข้าไม่พบเจ้านาย ข้าคงตายอยู่ข้างถนนไปแล้ว ทำไม?
ตอนนี้พวกเจ้ากลายเป็นผู้อาวุโสของข้าแล้วหรือ?”
เซรีนตะโกนทันที “ตวนมู่!”
ตวนมู่สั่น “ขอรับ
เจ้านาย!”
“แขวนพวกเขา!” เซรีนสั่งอย่างดุดัน
“ได้เลย!” ตวนมู่ลากทั้งสองคนออกไปข้างนอกทันที
“เซรีน, กล้าดียังไง!” บุรุษวัยกลางคนทั้งตกใจและโกรธ
“ตระกูลอีวานจะไม่ยอมปล่อยพวกเจ้าแน่”
สตรีงามกรี๊ดลั่น
ไม่มีอะไรต้องพูดต่อ
ตวนมู่ทำให้พวกเขาสลบทั้งสองคน
ข้าไม่เคยถูกลากเข้าปัญหาแบบนั้นเลย... ไม่เคยเลย....
เงียบ
ในห้องกลับเงียบลงอีกครั้ง
ความโกรธของเซรีนค่อยๆ
คลายลง นางสังเกตว่าปิงจ้องมองนางแปลกๆ อยู่ครึ่งค่อนวัน เมื่อคิดถึงท่าทีซื่อๆ
ของลุงหน้าไพ่ก่อนนั้น นางโพล่งออกมา “พูดความในใจเจ้ามาได้เลย!”
“จุ๊ จุ๊ เถอะน่า, เซรีน รสนิยมของเจ้าใกล้เคียงเจ้าบ้าถัง เขาทำให้รสนิยมของทุกคนตกต่ำหรือเปล่านะ?”
ปิงทำเป็นลูบคางล้อเลียน
เซรีนนั่งตัวตรง “เราไปป่วนตระกูลอีวานเข้าให้แล้ว
ท่านรู้ไหมในกลุ่มดาววัวอีกชื่อหนึ่งของตระกูลอีวานเรียกกันว่าอะไร? ตระกูลมาเฟีย
พวกเขาจะต้องแก้แค้นอย่างไร้ยางอายเสมอ”
“ฮ่าฮ่า,
เซรีนน้อย, ถ้าเจ้ากำลังเปรียบเทียบกับผู้ที่เป็นยิ่งกว่ามาเฟีย มีคนไม่มากนักหรอกที่เอาชนะเราได้” ปิงหัวเราะลั่น
“ข้าจริงจังนะ” เซรีนพูดเสียงอ่อน
“พลังของตระกูลอีวานแข็งแกร่งกว่าที่ท่านคิด รากฐานของพวกเขาในภูมิภาควิญญาณนั้นลึกซึ้ง
ปิงหัวเราะอีกครั้ง “ไม่มีปัญหา,
ข้ารู้”
******
“เชิญทางนี้” นักสู้ผู้นำทางกล่าวอย่างสุภาพ
ฮัวเฉินหวินมองขึ้นๆ ลงๆ
กะขนาดพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
ขนาดของเมืองสามวิญญาณนั้นใหญ่ สายตาของเขามองดูสนามฝึก
ภายใต้แสงสว่าง
พื้นที่ฝึกฝนดูมีชีวิตชีวา มีอาวุธจักรกลหลายเครื่องกำลังฝึกฝนอยู่
โอ, ไม่ใช่อาวุธจักรกล
แต่เป็นอาวุธจักรกลวิญญาณ
เขาหยุดชั่วขณะ
หยุดมองพวกเขา นักสู้ที่นำทางไม่ได้กระตุ้นเตือนเขา ขณะที่เขารออยู่ด้านข้างอย่างอดทน
เป็นอาวุธจักรกลวิญญาณอย่างที่คาดเลย ฮัวเฉินหวินสามารถประเมินได้อย่างรวดเร็ว
อาวุธจักรกลรูปแบบใหม่นี้เทียบกับอาวุธจักรกลแบบเดิมแล้วแข็งแกร่งมากกว่า
เมื่อนึกถึงว่าอาวุธจักรกลวิญญาณถูกสร้างโดยวิศวกรจักรกลใหญ่นามว่าเซรีน และเซรีนเป็นสตรีคนหนึ่ง
หัวใจของฮัวเฉินหวินเต็มไปด้วยความอยากรู้และคาดหวัง
ทันใดนั้น
เขาสังเกตว่าภายในพื้นที่ฝึกมีบุรุษหนึ่ง สตรีหนึ่งถูกแขวนอยู่ เขาอดถามไม่ได้ “นั่นอะไร?”
นักสู้ที่นำทางชำเลืองมองดูและแค่นเสียง
“ข่าวลือว่าพวกเขามาจากตระกูลอีวานอ้างว่าเป็นผู้อาวุโสของแม่นางเซรีน ฮึ่ม..
แม่นางเซรีนน่าสงสารจริงๆ ถูกไล่ออกจากบ้านตอนอายุสิบสองปี อดอยากเกือบตาย แต่พอตอนนี้นางมีชื่อเสียงโด่งดัง สุนัขเหล่านี้กลับวิ่งมาหานาง”
เมื่อเห็นคนทั้งสองนี้ สายตาของนักสู้นั้นแข็งกร้าวทันที
ตระกูลอีวาน....
เซรีนมาจากตระกูลอีวานจริงๆ!
ฮัวเฉินหวินตระหนักได้ทันทีว่าเรื่องคงจะไม่ง่ายเสียแล้ว
12 ความคิดเห็น:
มีไก่อีวานมาให้ตบ
แค่มาเฟีย เจอหนุ่มชาวฟ้าก่อนเถอะ
ขอบใจหลาย
เอาแล้วเดียวได้ดาวอีกดวงละทีนี้ ของฟรีวิ่งมาหาละ
เจอพญาหมีกับราชาหมาป่าอันตพานถังหนุ่มชาวฟ้ากับแก้งสามสหายตลกคาเฟ่ไปละจะหนาว 5555
#คุณได้รับกลุ่มดาว1ea
ถ้าพี่ถังกับซิวน้อยอยู่ ได้ตายก่อนได้พูด ฮ่าๆ
เรียงแถวมาให้ตบทรัพย์
ขอบคุณครับ
เดียวเจอ แก็ง 3ซ่า ....5555
มาเฟีย โดนกินอีกราย
ขนาดถังห้าวยังไม่กล้าทำเจ๊เซรีนโกรธ(เดวโดนกัดไข่) ... ตระกูลอีวานนับเป็นตัวอะไรได้ 55555 5+
แสดงความคิดเห็น