วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 457 ปล้นและทุ่งพิษ


ตอนที่  457  ปล้นและทุ่งพิษ
กลุ่มดาววาฬ
บรรยากาศภายในวังเต็มไปด้วยความสุขชื่นมื่นและความมั่งคั่ง มีอาคันตะกะผู้มีเกียรติและสาวงามอยู่ภายในมากมาย 

แต่หัวข้อที่พูดกันมากที่สุดในงานเลี้ยงก็คือสงครามในกลุ่มดาวหมีใหญ่ เป็นครั้งแรกที่สงครามเกิดขึ้นโดยกลุ่มดาววาฬหลังจากผ่านมาหลายปีมาก  ในช่วงสองสามวันแรก ทุกคนยังคงกระวนกระวาย  แต่ในไม่นานสงครามขยายออกไปทันทีทำให้ความคิดของทุกคนเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น
นอกจากกองพลวาฬน้ำเงินถูกตรึงไว้  ความเร็วของพวกเขาช้าลง  กองพลวาฬขาวและกองพลวาฬดำเป็นกองกำลังไร้ผู้ต่อต้านยังคงยึดดาวอื่นอย่างต่อเนื่อง
ในแค่พริบตาเดียว กลุ่มดาวหมีใหญ่เกือบครึ่งก็ถูกยึดครอง ในกลุ่มดาววาฬชัยชนะเช่นนั้นทำให้พวกเขาโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น
ในพื้นที่ซึ่งศิษย์รุ่นเยาว์ครอบครัวตระกูลสูงส่งอยู่รวมกัน ยากที่พวกเขาจะไม่มองหาสาวงาม แต่ทั้งหมดซุบซิบคุยกันอย่างมีความสุขว่าพวกเขาควรจะเอาองครักษ์ส่วนตัวไปด้วยเพื่อสร้างความสำเร็จทางทหารที่กลุ่มดาวหมีใหญ่
มีความสำเร็จทางทหารก็หมายความว่ามีอนาคตที่ดี  ทำไมพวกเขาต้องกลัวว่าจะไม่มีสาวงามอยู่กับพวกเขาเมื่อพวกเขาทำการใหญ่เล่า?
ศิษย์ตระกูลใหญ่ทั้งหมดต่างคุยกันเองในหมู่ของพวกเขา และแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในที่พวกเขารู้แก่กันและกัน
 “ขอแสดงความยินดีด้วยฝ่าบาท!”  ชายชราชุดขาวยิ้มขณะแสดงความเคารพกงชิง
กงชิงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  แม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าหกสิบปี  แต่เขากลับดูเหมือนคนอายุราวๆ สี่สิบปี ยังดูหนุ่มและแข็งแรง  บุคลิกของเขาเหมือนกับบัณฑิตผู้ทรงภูมิ ขณะที่เขาลุกจากที่นั่งเพื่อทักทายตอบ  ข้าต้องขอบคุณผู้เฒ่าจางจริงๆ  ไม่มีรายงานของท่าน ใครจะรู้กันเล่าว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่ที่กล้าหาญจะอ่อนแอมากจริงๆ”
ผู้เฒ่าจางหัวเราะ  “ถังเทียนผู้นี้  แม้ว่าเขาจะอาละวาดมามาก แต่ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง  แต่เมื่อหลายอย่างมาถึงจุดสุดโต่ง เขากลับเคลื่อนไหวในทางตรงกันข้าม เขากำลังจะถูกลบล้างความสำเร็จ เขาไม่ระมัดระวังเหมือนอย่างที่เคยเป็น  ดังนั้นจึงกลายเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบของเรา”
กงชิงจิบไวน์แดง “ผู้เฒ่าจางมีความคิดเรื่องเมืองสามวิญญาณยังไงบ้าง?   ถ้าเราไม่ลงมือตอนนี้ จะไม่ง่ายสำหรับพวกเขาหรอกหรือ?”
ผู้เฒ่าจางตอบ “เมืองสามวิญญาณปัจจุบันนี้เหมือนขนมหวานอยู่แล้ว  ถ้ามีคนต้องการกินมัน ก็ยังมีคนต้องการทำลายมันด้วย”
กงชิงประหลาดใจเล็กน้อย  เขาพยายามคลี่คลายปริศนาคำพูดนั้นและค่อยยิ้มตามมา  “ดูเหมือนข้าจะคิดมากเกินไป”
 “กลุ่มดาวหมีใหญ่ครึ่งหนึ่งอยู่ในเงื้อมมือของฝ่าบาทแล้ว ด้วยการควบรวมสองกลุ่มดาวเข้าด้วยกัน กลุ่มดาววาฬจะกลายเป็นกลุ่มดาวระดับตำหนักระนาบสุริยุปราคาได้” ผู้เฒ่าจางแสดงความยินดี
กงชิงมีความสุข  แต่หน้าของเขายังคงสงบอยู่  “ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเช่นนั้น จริงสิ สถานการณ์ของกลุ่มดาวนายพรานเป็นยังไงบ้าง? มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มดาวราชสีห์บ้างไหม?”
สีหน้าของผู้เฒ่าจางเคร่งเครียดเล็กน้อยและกล่าว “มันคือกองภูเขาเนื้อ แม่น้ำโลหิตอย่างแท้จริง  ถังเทียนโชคดีมาก เยี่ยนหย่งเลี่ยทุ่มสรรพกำลังเข้ากลุ่มดาวนายพรานทั้งหมด  ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องใช้ความพยายามมากมาย  เรากลับตรงกันข้าม ไม่ต้องทำอย่างกลุ่มดาวนายพราน  แต่สถานการณ์ก็ยังดี แต่ความเสียหายของเรามากมายไปบ้าง แต่เรามีการสนับสนุนใหม่”
กงชิงสะดุ้ง “สงสัยจริงว่าใครกัน?”
ผู้เฒ่าจางส่ายศีรษะ  “ข้าต้องขออภัยฝ่าบาท  ข้ายังเปิดเผยไม่ได้ว่าเป็นใคร”
กงชิงไม่ใส่ใจ และได้แต่ยิ้มขณะยกแก้วเหล้า  “พันธมิตรของเรามากขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นถึงความนิยมของสมาพันธ์ชาวยุทธ!  ผู้อาวุโส ไม่ต้องกังวล หลังจากครอบครองกลุ่มดาวหมีใหญ่แล้ว อย่างนั้นเราจะทุ่มกำลังไปสนับสนุนสมาพันธ์ชาวยุทธที่กลุ่มดาวนายพราน”
ทั้งสองฝ่ายหัวเราะ ดื่มฉลองให้กัน
******
เมืองสามวิญญาณ
ปิงยืนอยู่ใกล้ขอบเวทีของห้องทำงานโลหิตวิทยา และพูดปลุกใจ
 “...งั้น.. จุดวิกฤติของศึกนี้ ข้าคงต้องขอร้องทุกคน  แค่เพียงให้พวกท่านทุกคนผลิตพิษที่มีผลเพียงพอสามารถรักษาพื้นที่ของเราในสนามรบได้...”
เหล่าผู้เฒ่าในแผนกโลหิตวิทยาของเมืองสามวิญญาณตื่นเต้นเลือดลมพลุกพล่านเหมือนกินยาโด๊ป  ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันคือ เป็นเดือดเป็นแค้น
นักโลหิตวิทยาแต่ละคนมีความคิดห้าวหาญอยู่อย่างเดียว คือถึงคราวแสดงฝีมือของพวกเราแล้ว!
ในที่สุดโอกาสก็มาถึงพวกเรา!
แผนกเพื่อนบ้านที่ติดกันก็แค่กลุ่มเดรัจฉาน แค่ขายขยะได้ 500 พันล้านเหรียญกลับขยี้ผลสำเร็จของงานเราจนเหลือศูนย์...
การตกอยู่ใต้เงามืดของแผนกเหล็ก ความอัปยศอดสูและความเศร้าที่เราต้องทน!
ได้โอกาสแสดงฝีมืออย่างยากลำบากมาก แล้วทุกคนจะไม่ทุ่มสุดกำลังได้ยังไง?
ยาพิษเป็นกองพะเนินดุจภูเขาถูกรวบรวมมาในพริบตา
ถังโฉ่วยืนอยู่ด้านข้างปิง มองดูพวกเขาอย่างเย็นชา “ในฐานะผู้บัญชาการทหาร การใช้แผนรบที่น่ารังเกียจและโหดร้ายนั้น เป็นเรื่องน่ารังเกียจจริงๆ”
 “เสี่ยวโฉ่วโฉ่ว, อย่าเพิ่งคิดอย่างนั้น”  ปิงหัวเราะพลางเคาะขี้เถ้าบุหรี่ “เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่ข้าชอบที่สุดในคนรุ่นนี้คืออะไร?  ทุกคนที่นี่ไม่รู้ว่าข้าเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียง!  ฮ่าฮ่า ในที่สุด ข้าก็สามารถทำตามต้องการได้”
ถังโฉ่วตอบอย่างเย็นชา “ผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงต้องตระหนี่ตัวและไม่หยิ่งและจริงใจในช่วงเวลาสงครามไม่ใช่หรือ?  ใต้เท้าโปรดปฏิบัติตัวอย่างมีศักดิ์ศรีด้วยเถิด”
ปิงหัวเราะลั่น เอามือวางบนไหล่ของถังโฉ่ว อีกข้างหนึ่งถือบุหรี่โบกอยู่ในอากาศ  “ไม่ต้องรบกวนคนอื่น  เป็นมนุษย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความยืดหยุ่น  ขอเพียงยืดหยุ่นได้เจ้าสามารถอยู่ในเส้นทางแห่งชัยชนะอย่างแท้จริง...”
ถังโฉ่วขัดจังหวะคำพูดปิง  “เป็นมนุษย์?  ใต้เท้า โปรดจำไว้ว่าท่านเป็นขุนพลวิญญาณ”
ปิงซึมเซา แต่แล้วกลับหัวเราะอีกครั้ง “ฮ่าฮ่าฮ่า  เสี่ยวโฉ่วโฉ่ว เจ้าน่ะมีอารมณ์ขันมากขึ้นทุกทีเลยนะ และนั่นเป็นเรื่องดี!  วางใจได้น่า เราจะชนะในไม่ช้า”
 “แม้ว่าผู้บัญชาการของข้าจะเน่าเปื่อยและย่อยสลายไปแล้วก็ตาม แต่การแสวงหาของข้าบนเส้นทางของผู้บัญชาการจะไม่มีทางเปลี่ยน!”  ถังโฉ่วพูดออกมาอย่างไม่สบายใจ และเดินออกไป
 “เน่าเปื่อยและย่อยสลาย...”  ตาของปิงเบิกกว้าง เขาไม่อยากเชื่อหูและยังตะลึงต่อไปก่อนจะตะโกนไล่หลังถังโฉ่ว  “เฮ้, กลับมานี่ก่อน! เจ้ามาอธิบายให้ข้าฟังก่อนเรื่องเน่าเปื่อยและย่อยสลาย!”
เมื่อเห็นถังโฉ่วลับหายไป ปิงได้แต่หัวเราะเบาๆ อัดควันบุหรี่ลึกยาว และจากนั้นพึมพำ  “เจ้าเด็กนั่นมีทักษะและต้องการขัดคำสั่งอยู่บ้าง  เฮ้อ  ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นผู้ปกครอง พวกเด็กเหล่านี้ ก็มีแต่ถังโฉ่วที่สอนได้!  เฮ้อ, นี่คือวิธีการที่ดี  ความจริงข้า... อนาถาเกินไป ....เอ๊ย.. เป็นอัจฉริยะมากเกินไป!”
********
จำนวนหนึ่งล้านคน?
ไม่มีใครรู้ดีกว่าฝูเยี่ยน หน้าของเขาเขียวคล้ำจนดูเหมือนรีดน้ำออกไปได้สองกิโลกรัม  ความคิดจะปฏิเสธถังเทียนไม่ยอมให้เข้ากลุ่มดาววาฬมาจากเขา  เมื่อถังเทียนยึดกลุ่มดาวหมีใหญ่ ใครๆ ก็สามารถคิดถึงอารมณ์ของเขา  ดังนั้น เขาจึงมีส่วนร่วมในการรณรงค์มากที่สุด
แต่..
เมื่อเขาเห็นร่างหลายร่างหายเข้าไปในป่าข้างหน้า และสารสีเขียวประหลาดถูกปล่อยในแหล่งน้ำข้างหน้า ความโกรธแผดเผาเขาจนรู้สึกปวดตับ
เขาไม่สามารถหันหลังกลับได้  เขารู้ว่าทหารด้านหลังเขาจะไม่สามารถเจ็บตัวเพราะน้ำสีเขียวข้างหน้าพวกเขาเป็นแน่
มันจะอยู่อย่างนั้นอีกกี่วัน?
นับตั้งแต่เริ่มสู้กันเมื่อห้าวันที่แล้ว  พวกเขาเริ่มพบกับการตอบโต้อย่างโหดร้ายประเภทต่างๆ  การโจมตี และวางยาพิษ
อีกฝ่ายหนึ่งไปมาเหมือนกับสายลม มีกำลังคน 300-500 คน ฝูเยี่ยนแทบคิดว่าเขาเข้าไปในรังโจร ไม่ นั่นผิดแล้ว สถานที่ถูกเปลี่ยนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกโจร!
จำนวนโจรมีมากขนาดทำให้ขนลุกได้ และกลยุทธของโจรยิ่งน่ารังเกียจและเจ้าเล่ห์มาก
แหล่งน้ำทั้งหมดถูกวางยาพิษ  สำหรับนักสู้ผู้แข็งแกร่งกว่า พวกเขาสามารถใช้ปราณแท้ป้องกันชีพจรของพวกเขา  แต่นักสู้ธรรมดาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้  ทางกองทัพได้จัดสรรผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดซึ่งมีความรู้ดีเรื่องยาพิษมาด้วย  แต่มีพิษรูปแบบต่างๆ มากเกินไป และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดก็ยังถูกวางยาพิษไปด้วย  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือก ได้แต่เรียกร้องให้หยุดทัพ
ตั้งแต่เริ่ม ฝูเยี่ยนต้องการกำจัดโจรให้หมดไป แต่เขาก็ต้องตระหนักโดยเร็วว่า ตราบเท่าที่เขาส่งคนสองสามคนไปรับมือ  พวกเขาจะถูกฆ่าหมด ถ้าส่งไปมากพวกเขาจะวิ่งหนี  ฝูเยี่ยนไม่มีทางเลือกได้แต่ส่งยอดฝีมือของเขาเข้าไป ต้องการกำจัดพวกเขาให้หมด   ตอนเริ่มแรกดูเหมือนกับว่าพวกยอดฝีมือเป็นเหมือนนกอินทรีไล่จับไก่ กวาดล้างทุกอย่างที่เขาบินผ่านไปตามเส้นทาง ทำให้ฝูเยี่ยนตื่นเต้น  แต่หลังจากนั้นยอดฝีมือที่บินอยู่ในท้องฟ้า พุ่งผ่านก้อนเมฆต่างกันร่วงลงมายังพื้นทรายกระแทกจนเละ
หลังจากนั้น ยอดฝีมือของกองทัพไม่กล้าลงมืออีกเลย
พวกเขาก้าวไปแต่ละก้าว จะต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก  อะไรก็ตามที่ปรากฏออกมาจากพื้นอย่างกระทันหัน จะเป็นอะไรที่คุ้มค่าหรือไม่ พวกเขาต้องอาศัยโชค  กองทัพมีคนขาหักเกินกว่ายี่สิบคนแล้ว บางส่วนก็โดนพิษ บางส่วนก็ขาหักเพราะกลไกกับดัก บางส่วนก็โดนระเบิดจากอสูรทำลายล้าง
แม้ว่าจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายจะไม่มาก  แต่ผลกระทบต่อกำลังใจมีมากแน่นอน
หนองน้ำเขียวชอุ่มด้านหน้าทำให้ทุกคนต้องหยุด  ตอนแรกเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพบหนองน้ำ พวกเขาจะเหาะข้ามไปเลย เนื่องจากบินข้ามง่ายๆ โดยใช้วิชาตัวเบา  แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อกลุ่มเล็กๆ บินเหนือหนองน้ำ แต่ในทันใดนั้นพวกเขาจะร่วงลงไปในน้ำเหมือนกับเกี๊ยวในหม้อต้ม และไม่กี่นาทีก็เหลือแต่กระดูกบนผิวน้ำ
หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าใช้วิชาตัวเบาข้ามหนองน้ำอีกเลย
หนองน้ำดูเหมือนจะใหญ่ไปหน่อย...
ฝูเยี่ยนหันมามองทุกคน  พวกเขาทุกคนมีใบหน้าเขียวและอ่อนล้า เจ้าพวกบ้านี่ไม่ยอมให้พวกเขาได้หลับนอน เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาตั้งค่าย  จะมีธนูห่าใหญ่ยิงออกมาอย่างแม่นยำ  หลังจากถูกคุกคามอยู่สองสามคืน ในที่สุดทุกคนก็คุ้น ใช้โล่กันข้างบนเวลานอน ยังไงก็ยังใช้กันฝนได้
ในที่สุด หนึ่งในห่าลูกธนู มีถุงยาพิษปะปนอยู่ด้วย  แม้ว่านักสู้สามารถป้องกันได้เป็นส่วนใหญ่  แต่ก็มีอยู่สองถุงที่ตกลงในค่ายสังหารคนไปสามสิบคน
ไม่มีใครกล้าหลับหลังจากนั้น
พวกเขาเป็นทหารมือดีทุกคนมีพลังยุทธระดับแปด  ไม่ได้หลับนอนไม่กี่วันก็ไม่เป็นไร พวกเขาพอทนได้ แต่หลังจากผ่านไปห้าวัน ฝูเยี่ยนจึงค่อยรู้ความหมายของบุรุษเหล็ก มนุษย์เหล็กที่ไม่ได้หลับนอน
ที่สำคัญยิ่งกว่า ภายใต้สถานการณ์ที่เหนื่อยล้าและตึงเครียด พวกเขายังต้องทนต่อเจ้าพวกระยำอย่างต่อเนื่องที่คอยมาเยาะเย้ยท้าทายถากถางจากกลุ่มนักสู้ระดับหก
มีสี่กรณีแล้วที่นักสู้สูญเสียการควบคุมตนเองทำร้ายสหายกลุ่มเดียวกันไปหกคน
ฝูเยี่ยนกำลังจะร้องไห้  เขาไม่เคยพบสถานการณ์ เช่นนั้น ฝ่ายตรงข้ามน่ารังเกียจหยาบคายและไร้ยางอาย
เขาเหม่อมองไปไกลและทันใดนั้นคิดว่าระยะทางไปสถาบันไข่หมีช่างไกลยิ่งนัก
 “หยุด! เราจะตั้งค่ายที่นี่  ตรวจสอบน้ำด้วย!  เราจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งพัก อีกกลุ่มหนึ่งเฝ้าคุ้มกัน  ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีอะไร พวกเจ้าทุกคนต้องร่วมใจสู้!”  ฝูเยี่ยนยังคงมีกำลังแต่เขารู้ว่า  ถ้าทหารภายใต้บัญชาของเขาไม่ได้พัก อาจเกิดการกบฏขึ้นได้ สถานการณ์ปัจจุบันของเขาเป็นเรื่องเพ้อฝันชัดๆ  ด้วยระยะทางห่างป่าอย่างน้อยสิบลี้ ในรัศมีหกลี้รอบตัวพวกเขาเป็นพื้นที่ราบ  ทุกสิ่งทุกอย่างที่มองเห็นไม่ทางที่ใครจะซ่อนตัวได้
ทหารทุกคนถอนหายใจโล่งอก  ในที่สุด พวกเขาก็สามารถหลับได้อย่างสงบเสียที
ฝูเยี่ยนรู้สึกว่าเพียงทางเดียวที่จะไปต่อได้ก็คือขอความช่วยเหลือจากเจ้ากลุ่มดาว และขอความช่วยเหลือจากสมาพันธ์ชาวยุทธ
พวกเขาจะมีทางเดียว...
ฝูเยี่ยนไม่มั่นใจ

7 ความคิดเห็น:

windwolf กล่าวว่า...

สนุกมากครับ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

ลาก่อยคับฝูเยี่ยน

Unknown กล่าวว่า...

ฮ่า รอดยาก ตายแน่ๆ เจอแบบเข้าไป เอากองทัพไปละลายเองชัดๆ จำนวนกันเกิน
เจอลุงปิงผู้เน่าเปื่อยและย่อยสลายไปซะ (เสียผู้เสียคนไปแล้ว)

Sunrise กล่าวว่า...

หืมมมมมมมมมม กำลังสนุก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

555555555555555

Unknown กล่าวว่า...

จะไปถึงไข่หมีกันไหมน่อ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น