ตอนที่ 459 ประชันผลงานชั้นยอด
ผู้เชี่ยวชาญโลหิตวิทยาของเมืองสามวิญญาณย้ายมาจากเมืองต่างๆ
ขององค์การวิญญาณมืด
ในช่วงเวลาสั้นๆ การค้นคว้ายาพิษใหม่ๆ
เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีความคิดอะไร หลังจากใช้ชีวิตกับการงานวิจัยพลังสายเลือดเกินสิบปี
ใครเล่าไม่มีเพื่อน?
ผู้เฒ่าเฟ่ยและสหายที่เหลือซึ่งมาจากองค์การวิญญาณมืดยังมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับพวกวิญญาณมืด
บางทีอาจเป็นเพราะบุคลิกของพวกเขาที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้ประสบความสำเร็จในองค์การวิญญาณมืด แต่พวกเขายังมีการติดต่อภายในกันอยู่
เมื่อพวกเขาถูกเรียกมาจากทุกที่
จึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดในองค์การวิญญาณมืดฮือฮากันมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้ยินว่าสมาพันธ์ชาวยุทธพูดอย่างมั่นใจว่า
“สมาพันธ์ชาวยุทธก็มีกลุ่มนักโลหิตวิทยาที่แข็งแกร่งและเชี่ยวชาญ”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญขององค์การวิญญาณมืดก็ฮือฮาโกลาหลทันที
ผู้เชี่ยวชาญโลหิตวิทยาของสมาพันธ์ชาวยุทธหรือ?
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนเริ่มแค่นเสียงคำราม
ไม่ต้องพูดถึงความจริงว่าทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกันตลอดกาล
การสู้กันทั้งในที่แจ้งและลับถือว่าเป็นโอกาสอันดี ถ้าพวกเขายังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
ปล่อยให้สวรรค์ถล่มทลาย ด้วยคำพูดอย่างนั้นผู้เชี่ยวชาญโลหิตวิทยาขององค์การวิญญาณมืดคงไม่สามารถคัดค้านได้ต่อไป
พวกมันทำกับเราเหมือนว่าตายแล้วใช่หรือเปล่า?
ผู้เชี่ยวชาญโลหิตวิทยาขององค์การวิญญาณมืดกระตือรือร้นจะทดสอบอะไรๆ
หลายอย่าง
จนกระทั่งถึงจุดที่ปิงส่งข้อความประกาศที่เขียนด้วยลายมืออย่างมีความสุข
ให้ผู้เฒ่าเฟ่ยและพวกใช้งบประมาณที่เมืองในสังกัดองค์การวิญญาณมืดได้อย่างไม่อั้น
เมืองเหล่านั้นทำงานกันอย่างคึกคักเป็นบ้าเป็นหลังกันทันที
“...พวกท่านทุกคนควักหัวใจทำงานกัน แทบไม่ได้หลับนอน ไม่ได้ดื่มกันอย่างเต็มความสามารถและพรสวรรค์ของพวกท่าน พวกท่านมีผลงานชิ้นโบว์แดงออกมาสำเร็จกันทุกคน! พวกท่านต้องเชื่อว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ พวกท่านเชื่อว่ามันเป็นสิ่งไม่มีค่า
และเชื่อว่ามันจะถูกบันทึกทิ้งไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ และผลงานเหล่านั้นทั้งหมดนอนนิ่งหมกฝุ่นอยู่เงียบๆ
ไม่มีใครสนใจ
พวกท่านไม่สามารถยืนยันได้ว่าแท้จริงแล้วมันใช้ได้หรือไม่
พวกท่านกังวลเรื่องการไม่รู้วิธีเผยแพร่คุณค่าของมัน!
มาเถอะ, มาร่วมในศึกครั้งสำคัญนี้!
สงครามพิษครั้งแรกในประวัติศาสตร์ การต่อสู้ที่โหดอำมหิตที่สุดในสงครามอาวุธพิษ
(อาวุธเคมี)
การประลองขั้นสุดยอดกำลังจะเริ่มต้น
ศักดิ์ศรีของพิษที่ควรค่า
กลุ่มดาวหมีใหญ่รอผลงานชิ้นโบว์แดงระดับสูงของพวกท่านด้วยความรู้สึกที่เป็นเกียรติ”
หลังจากได้มีประกาศที่สุดทึ่งจนตะลึงปากอ้าตาค้าง
ทำให้ผู้เชี่ยวโลหิตวิทยาแทบคลั่งกันเกือบทั้งหมด
การค้นคว้าพิษไม่ใช่งานค้นคว้าหลักของการศึกษาพลังสายเลือดและประโยชน์ของพิษไม่เคยได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง
ยังมีการจ้างการใช้พิษน้อยทำให้การใช้งานของพิษนั้นยังไม่น่าเชื่อถือ แม้แต่ในตลาด
ราคาของพิษระดับสูงก็ยังไม่สูงมากทำให้นักโลหิตวิทยาผู้ค้นคว้าพิษยังจนกรอบกันอยู่มาก
ไม่มีชื่อ ไม่มีเงิน ไม่มีตำแหน่ง นั่นคือสถานะของนักโลหิตวิทยาผู้ค้นคว้าเรื่องพิษ
ดังนั้นเมื่อมีประกาศกระจายไปทั่วเมืองสังกัดองค์การวิญญาณมืด จึงเกิดผลกระทบกับจิตใจพวกเขาทันที ใครเล่าไม่ต้องการรับการยอมรับ? ใครเล่าไม่อยากรวย?
ใครเล่าไม่อยากได้รับความเคารพนับถือในที่ๆ พวกเขาไป?
สงครามในกลุ่มดาวหมีใหญ่ดึงดูดสายตาของชาวสวรรค์วิถี
การฉวยโอกาสดังกล่าวสร้างชื่อ นั่นย่อมคุ้มค่าหลายเท่า!
และการต่อสู้ที่รุนแรงเมื่อเทียบกับความสามารถที่น่าเชื่อถือ
จะมีโอกาสไหนที่ดีกว่านี้?
ผู้เฒ่าเฟ่ยและพวกพ้องชื่นชมวิธีการของท่านปิง ถ้าคำพูดเอามาใช้ในทำนองอย่างอื่นผลก็จะแตกต่างกัน
พวกเขาถูกนักโลหิตวิทยาขององค์การวิญญาณมืดนับไม่ถ้วนรุมล้อมเต็มไปหมด
“ข้าร่วมศึกนี้ด้วย พิษของข้ามีเคล็ดการใช้เฉพาะอย่าง และข้าก็เชี่ยวชาญด้านพิษหลากหลายรูปแบบ...”
“ข้าต้องเรียกร้องราคาด้วยเหรอ? ไม่เลย ฟรี,
ข้าสัญญาว่าข้าจะรับฟังคำสั่งอะไรก็ได้! ขอให้ข้าได้เข้าร่วมก็แล้วกัน...”
“นี่คือสารพิเศษที่ข้าสร้างมาจากส่วนผสมสามสิบชนิด
และข้าคือนักโลหิตวิทยาผู้มีประสบการณ์เรื่องพิษเป็นอย่างสูง
ข้ามีประสบการณ์ต่อสู้มามากมายและสามารถพลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์ได้...”
……
ผู้เฒ่าเฟ่ยและพวกพ้องแทบจะบ้าและไม่มีทางเลือกได้แต่ต้องลดความคลั่งไคล้และเมามันของผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดลง
ในที่สุดมีอยู่สองสามคนจากไปอย่างไม่พอใจ ทิ้งผลงานแทนตัวไว้จำนวนหนึ่ง
ในพริบตาเดียว
ผลงานแทนตัวของเมืองสังกัดองค์การวิญญาณมืดทุกเมืองมากองพะเนินรวมกันเป็นภูเขาย่อมๆ
มีนักโลหิตวิทยามากมายจากองค์การวิญญารมืด
แม้ว่าผู้ค้นคว้าทางด้านพิษจะไม่มากแต่ในที่สุดแล้วก็ยังมีจำนวนมหาศาลอยู่ดี
……
“นี่เรียกว่าสปอร์ขี้เถ้า
ใช้ได้ดีมากกว่าขี้เถ้าถึงร้อยเท่า มันใช้งานได้ง่ายมาก
มันจะกระจายหายไปในสายลม สามารถเอาไปโปรยในก้อนเมฆได้ หนึ่งขวดครอบคลุมในรัศมีร้อยลี้
มีอยู่สองร้อยขวด เก็บไว้ให้ดีล่ะ”
……
“นี่เป็นสารพิษลับพัฒนามาจากการร่วมมือกันของเรา มันไม่ได้ลุกพรึ่บอย่างรวดเร็วและรุนแรง
แต่สมบัติที่ใช้สำหรับตรวจพิษไม่รู้จักมัน
ข้าหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะเอาไปลองใช้ในสงครามครั้งนี้...”
ทุกคนยังไม่มีใครตั้งชื่อพิษของพวกเขา มีบางคนที่ต้องการทดสอบความสามารถในการผลิต พิษถูกสำรองไว้เพื่อการผลิตเป็นสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิษที่มีขนาดใหญ่ การใช้ประโยชน์ของมันในการรบมีความซับซ้อน
และด้วยความแตกต่างกันของระดับพลังปราณแท้, วิชาฝึกจิต,
การประยุกต์ใช้ที่ยากจะตรวจสอบ
และนักโลหิตวิทยาที่ค้นคว้าเรื่องพิษไม่กล้าทดลองกับสิ่งมีชีวิต เนื่องจากมันจะสะสมอยู่ในร่างกาย
มีแต่การต่อสู้จริง
พวกเขาจึงจะสามารถตระหนักและตรวจสอบประเมินงานพวกเขาได้
นักโลหิตวิทยาผู้ค้นคว้าเรื่องพิษหลายคนมีความทะเยอทะยานและไขว่คว้าเป้าหมายจะเพ่งเล็งที่จุดนั้นพวกเขาต้องการลงมือ
อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะหาโอกาสแบบนี้เป็นครั้งที่สอง
“ลุงปิงเจ้าเล่ห์มาก, ฉลาดแกมโกงจริงๆ!” หน้าของติงตังเต็มไปด้วยความชื่นชม “ข้ามีความรู้สึกจริงๆ
แล้วว่าเราอาจเอาชนะได้จริงๆ”
ผี่ผาชำเหลือบมองดูรายงานอย่างรวดเร็ว
และพูดโดยไม่เงยหน้า “ข้าไม่เคยคิดว่าเราจะแพ้นะ”
“หือ, ทำไมเจ้าถึงได้มั่นใจมากขนาดนั้น?”
ติงตังประหลาดใจ
“เพราะทุกคนทำงานกันอย่างหนัก” น้ำเสียงของผี่ผามุ่งมั่นมาก
นางไม่เคยละสายตาจากรายงาน
สภาพเหนื่อยล้าที่ปรากฏในช่วงหนึ่งเดือนจากแผนกค้นคว้าอาวุธจักรกลคุณภาพสูงทั้งหมด ผี่ผารู้ดีถึงความทุ่มเทของช่างวิศวจักรกลทุกคน ทุกคนทำงานหนักกันทั้งวันและคืน
ความจริงในประวัติศาสตร์นับไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะเป็นมหาอำนาจใดๆ
ตราบใดที่ทุกคนในทีมมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
จะเป็นเรื่องยากมากที่พวกเขาจะพ่ายแพ้
ทันใดนั้น
เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังออกจากจากห้องวิจัยแผนกอาวุธจักรกลทำให้ผี่ผาและติงตังชะเง้อมอง ต่างคนต่างวิ่งไปที่แผนกวิจัยอาวุธจักรกล
*******
ประตูดวงดาวกลุ่มดาวหมีใหญ่
“งั้นนี่ก็คือกลุ่มดาวหมีใหญ่สินะ”
กลุ่มนักสู้จากกลุ่มดาววาฬกวาดสายตามองไปรอบๆตัวด้วยความสงสัย เนื่องจากดูไม่แตกต่างจากที่อื่นที่นักสู้กลุ่มดาววาฬกรีฑาพลเข้าไป เพราะช่วงที่ผ่านมาสองสามวันนี้
กงชิงได้ประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่า
ตราบใดที่พวกเขาสามารถสังหารนักสู้ชาวหมาป่าได้ห้าสิบคน พวกเขาจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมใช้พลังดวงดาวถึงสามปี
เพราะเหตุนั้นเองนักสู้ชาวดาววาฬจึงไม่อาจนั่งเฉยอยู่ได้ ก่อนหน้านี้
ค่าหัวนักสู้หมาป่าหัวละหมื่นเหรียญดาวยังทำให้นักสู้กลุ่มดาววาฬเคลื่อนไหวกันน้อย แต่พอยกเว้นค่าธรรมเนียมสามปี
ทำให้นักสู้ชาวกลุ่มดาววาฬทั้งหมดเคลื่อนไหวอย่างไม่ลังเลใจ
เนื่องจากพอเทียบกันแล้วห้าแสนเหรียญดาวมีค่ามากกว่า
ด้วยคนที่จำนวนมากเกินไป
ทำให้ประตูดวงดาวกลายเป็นสภาพแออัด
นักสู้กลุ่มดาววาฬส่วนใหญ่ไม่เคยไปกลุ่มดาวหมีใหญ่มาก่อน
และพวกเขาทุกคนมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย
เนื่องจากรายงานศึกครั้งล่าสุดได้เผยแพร่มาที่พวกเขาด้วย
แต่สายตาของหลายๆ
คนจับจ้องอยู่ที่นักโลหิตวิทยาซึ่งสวมเครื่องแบบของสมาพันธ์ชาวยุทธ
ด้านข้างนักโลหิตวิทยาทุกคนจะมีนักสู้ระดับสูงตามประกบแน่นหนา
พวกเขาระมัดระวังและเตรียมป้องกันการจู่โจมกระทันหัน
นักโลหิตวิทยาเหล่านี้ถูกจัดสรรมาด้วยสมบัติเครื่องมือที่ระบุถึงความเชี่ยวชาญ
โดยส่วนใหญ่จะใช้สมบัติจากกลุ่มดาวกล้องจุลทรรศน์ แทบทุกคนจะถือ ‘ตาจุลทรรศน์’ สมบัติชั้นเงิน ‘ตาจุลทรรศน์’จะมีรูปร่างคล้ายกระจกสีเงิน
เมื่อถ่ายเทปราณแท้ลงไป ตาจุลทรรศน์จะยิงรัศมีออกมา อะไรก็ตามที่รังสีฉายถูกต้อง จะมีคำพูดเล็กๆ
สีแดงปรากฏอยู่บนผิวกระจก
สมาพันธ์ชาวยุทธไม่ได้กลับคำพูดของพวกเขา พวกเขาส่งกลุ่มนักโลหิตวิทยากลุ่มใหญ่มาจริงๆ ทุกจำนวนคนร้อยคน ระยะห่างสองสามเมตร
จะมีนักโลหิตวิทยาอยู่คนหนึ่ง
นักโลหิตวิทยาเหล่านี้ทุกคนจะตั้งขบวนเป็นเครือข่ายคล้ายกับโซ่ขาวเวลาพวกเขาเคลื่อนไปข้างหน้า
นักสู้ชาวกลุ่มดาววาฬพอใจและสงบกันทุกคน
เมื่อเห็นภาพต่อหน้าพวกเขา
พวกเขาวางใจมากขึ้น ไม่ว่าพิษของฝ่ายตรงข้ามจะทรงพลังมากเพียงไหน ภายใต้การตรวจสอบเช่นนั้น
ก็ไม่ควรจะมีอันตรายใดๆ มากนัก
ทันใดนั้น
สายลมกระโชกแรงผ่านมา
นักโลหิตวิทยาแถวหน้าสองสามคนล้มลงพร้อมกันทันที
และนักสู้ที่อยู่ข้างๆ เขาหน้าซีดกันหมด ต่างกระตุ้นปราณแท้เพื่อขับพิษ
นักสู้คนอื่นที่อยู่ข้างตัวนักโลหิตวิทยาต่างกระตุ้นโล่ปราณแท้กันทุกคนเพื่อป้องกันนักโลหิตวิทยาภายใน
หลังจากนั้นชั่วครู่
นักสู้ของสมาพันธ์ชาวยุทธที่ต้องพิษก็อาการดีขึ้นและฟื้นฟูพลังได้ แต่นักโลหิตวิทยาสามคนที่ล้มลงไป หยุดหายใจแล้ว
นักสู้สมาพันธ์ชาวยุทธทุกคนมีสีหน้าบิดเบี้ยวทันที
ด้านหลังของพวกเขา
นักสู้ชาววาฬผู้หลั่งไหลตามเข้ามาในตอนนี้พากันกระวนกระวาย หลายคนลังเลใจและตั้งใจจะถอยกลับ พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าสถานการณ์ร้ายแรงมากกว่าที่พวกเขาคิด
ที่ลานเมืองภายใต้สังกัดขององค์การวิญญาณมืดทุกแห่งมีภาพถ่ายทอดสดไปยังจอขนาดใหญ่
สามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กลุ่มดาวหมีใหญ่ทุกอย่าง ทุกๆ ลานเมืองเต็มไปด้วยผู้คน
มีทั้งนักโลหิตวิทยา, นักสู้ พวกเขาอยากรู้อยากเห็นการต่อสู้ การจ้างงานตัวแทนผลิตยาพิษขนาดใหญ่อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
และพวกเขาไม่เคยคิดว่ากลุ่มของถังเทียนจะถ่ายทอดออกอากาศความคืบหน้าในการรบ
ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ทันที
นักโลหิตวิทยาที่ส่งผลงานพิษของพวกเขาไปร่วมยิ่งตั้งใจและทุ่มเทมากขึ้น
พวกเขาได้ประจักษ์การต่อสู้กับตาตัวเอง
เนื่องจากการรบจะช่วยพวกเขาได้เป็นอย่างมากต่อการค้นคว้าในขั้นต่อไป
ในกลุ่มผู้คน
มีบุรุษวัยกลางคนๆ หนึ่งมองดูการถ่ายทอดอย่างระมัดระวัง และค่อนข้างกังวล เมื่อเขาเห็นนักโลหิตวิทยาสามคนล้มลงกับพื้น
สีหน้าของเขาดีใจ แต่ที่ตามมาจากนั้น เมื่อนักสู้คนอื่นๆ
เริ่มใช้ปราณแท้ที่เข้มข้นขับพิษออก รอยยิ้มเขาก็แข็งค้าง
เขายืนนิ่งอยู่กับที่และหลังจากนั้นไม่นาน
เขาพึมพำกับตัวเอง
“ดูเหมือนเมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้ระดับสูง
พิษมรณะยังรุนแรงไม่พอ โอว ข้าต้องคิดอะไรบางอย่างให้ได้ ต้องตั้งใจให้มากขึ้นหรือเปล่า? มันก็สูงมากอยู่แล้ว ข้าสามารถเพิ่มส่วนประกอบกัดกร่อนปราณแท้ได้...
นั่นคงเป็นความคิดที่ดี..”
บุรุษวัยกลางคนดูเหมือนจะมีความคิดบางอย่าง ใบหน้าของเขามีท่าทางตื่นเต้น
เขาไม่สามารถรอการทดสอบแนวความคิดใหม่
และ..เขาต้องฉวยโอกาสก่อนที่การต่อสู้จะจบลง, และสร้างผลผลิตใหม่..
กฎระเบียบของสมาพันธ์ชาวยุทธนั้นเข้มงวด
นักสู้ทุกคนมองหน้ากันเอง แต่ไม่ยอมถอย เมื่อพวกเขาตั้งกระบวนได้
พวกเขาเดินหน้าต่อ
การรบในปัจจุบันนี้
คำสั่งถูกส่งลงมาก็คือสู้ตาย
เป็นธรรมดานั่นเองที่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ถอย
8 ความคิดเห็น:
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เปิดมาก็สามศพ นี้แค่ลมพัดผ่านเองนะ ต่อไปคงรู้ๆกันอยู่ ได้กลายเป็น กองพิษทั้งกระบวนแน่นอน
ขอบคุณครับกำลังสนุกเลย
มาเพื่อทดลอง 55555
แหมมมนะมีถ่ายทอดสดด้วยย ดีนะลุงปิงไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์
ต่อให้เก็บ ก็ยอมจ่ายกันแน่นอน เพื่องานวิจัย เชื่อสิๆ
เหอๆมีตัวทดลองมาถึงที่ทั้งที
ขอบคุณครับ
สนุกครับ ต่อเลย
แสดงความคิดเห็น