วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 460 สี่สัปดาห์



ตอนที่  460  สี่สัปดาห์
วังกลุ่มดาววาฬ  บรรยากาศอึมครึม
รายงานการรบทุกฉบับถูกส่งมาอยู่ต่อหน้าพวกเขาล้วนเขียนจำนวนตัวเลขเป็นสีแดง เหมือนกับหยดเลือด เป็นฉากภาพที่น่าตกใจ

ในสัปดาห์แรก  พวกเขามีนักสู้ชาววาฬเสียชีวิตเกินกว่าสี่พันคน  สมาพันธ์ชาวยุทธมีจำนวนน้อยกว่า  โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักสู้ระดับสูงของพวกเขา ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิต 67 คน แต่นักโลหิตวิทยาถูกกำจัดออกไปถึง 70%
ในสัปดาห์ที่สองอัตราการตายเกินกว่าหนึ่งหมื่นสองพันคน สมาพันธ์ชาวยุทธเพียงแต่เพิ่มจำนวนนักโลหิตวิทยาเข้ามา จำนวนลูกกลุ่มที่สนับสนุนเข้ามาลดลงมาก  ฝ่ายตรงข้ามใช้พิษที่มากมายหลากหลาย  และพวกเขายังคงเปลี่ยนยาพิษอีกด้วย ทำให้นักโลหิตวิทยาของสมาพันธ์ชาวยุทธตั้งตัวไม่ทัน
ในสัปดาห์ที่สาม สมาพันธ์ชาวยุทธใช้เงินจำนวนมหาศาลเชื้อเชิญอคินสันปรมาจารย์นักโลหิตวิทยาผู้โด่งดังมีชื่อเสียง  แต่ใครจะรู้กันว่านักโลหิตวิทยาผู้คลั่งไคล้งานวิจัยขององค์การวิญญาณมืดทุกคนถูกยุแหย่จนเดือดดาล  ผลงานพิษรุ่นใหม่ล่าสุดถูกส่งไปอยู่ในมือของผู้เฒ่าเฟ่ย
จะมีอะไรที่ดีกว่าการย่ำยีเอาชนะปรมาจารย์ภายใต้การจับตาดูของสายตานับพัน?
วีรบุรุษจะไม่สามารถต่อต้านแรงกดดันของคนหลายคนได้  ปรมาจารย์อาคินสันได้รับสมบัติชั้นทองอย่างดี ในที่สุดก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าด้วยพิษนิรนาม  พิษนั้นถูกขนามว่า จุมพิตปรมาจารย์กลายเป็นชื่อที่โด่งดังเป็นพลุแตก คนที่ผลิตขึ้นมาก็คือฮั่วเอ๋อซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างแท้จริงหลังจากศึกนี้  และเขาถูกองค์การวิญญาณมืดดึงเข้าไปทันทีให้รับตำแหน่งผู้อาวุโสสำนัก และมูลค่าพิษ จุมพิตปรมาจารย์พุ่งพรวดจากราคาขวดละหมื่นเหรียญดาวขึ้นไปเป็นพันห้าร้อยล้านเหรียญดาว
คนนับไม่ถ้วนกำมือและถอนหายใจ  คนอีกนับไม่ถ้วนรู้สึกอิจฉาและอีกนับไม่ถ้วนพยายามต่อไปเช่นกัน
แต่ในช่วงเวลานั้น สมาพันธ์ชาวยุทธที่มีอิทธิพลอำนาจไม่สามารถจ้างปรมาจารย์โลหิตวิทยาได้อีก  ไม่มีใครยอมตกเป็นขี้ปากให้สาธารณชนวิจารณ์  เหมือนกับอคินสันที่ใช้ชีวิตตัวเองกลายเป็นหินรองเท้าให้ฮั่วเอ๋อก้าวข้ามผ่านไป  ในความมืดมีคนอีกนับไม่ถ้วนรอโอกาสกลายเป็นฮั่วเอ๋ออีกคนหนึ่ง  สายตาของพวกเขาทุกคนเขียวแวววาวด้วยความริษยา
ต่อให้เป็นปรมาจารย์โลหิตวิทยาที่โดดเด่นที่สุดก็กลายเป็นเหยื่อฝูงหมาป่าที่หิวโหยได้
การรบที่กลุ่มดาวหมีใหญ่มาถึงทางตัน เนื่องจากนักสู้ชาววาฬมากกว่า 80% กลับมายังกลุ่มดาววาฬ  แม้ว่าการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้พลังดวงดาวฟรีสามปีจะดึงดูดใจก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับชีวิตแล้ว จะเอามาเทียบกันได้อย่างไร?
ในช่วงเวลาสั้นๆ สองสัปดาห์ยอดผู้เสียชีวิตเกินกว่าสองหมื่นคน นั่นคือจำนวนที่ทำให้หัวใจของหลายๆ คนถึงกับเย็นเฉียบ   มีความคิดล่าถอยเกิดขึ้นในหัวของพวกเขา  คนกลุ่มใหญ่ถึงพันคนตายโดยไร้สุ้มเสียง ถูกฟันยับเหมือนข้าวสาลีไม่มีทางได้ลุกขึ้นมาอีก  ความกลัวที่เกิดขึ้นกระทันหันทำให้คลื่นมนุษย์เผ่นกลับไปยังกลุ่มดาวของพวกเขา
ผ่านมาอีกหลายปี เมื่อใดก็ตามที่มีคนพูดถึงฉากภาพนี้ นัยน์ตาพวกเขาจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
กลุ่มดาววาฬไม่มีอารมณ์รื่นเริงยินดีอีกต่อไป  ทุกคนตระหนักว่า การรบถลำไปไกลเกินกว่าพวกเขาจะควบคุมได้  พวกที่เตรียมตัวรับเงินรางวัลใหญ่ล้วนคอตกกลับมาทุกคน  ในเวลานั้นกลุ่มดาววาฬเข้าสู่ภาวะถดถอย
 “เมืองสามวิญญาณ!”  ผู้เฒ่าจางกัดฟันและกล่าว “เราจำเป็นต้องกวาดล้างเมืองสามวิญญาณก่อน!  ไม่มีพวกมัน กลุ่มดาวหมีใหญ่ก็ไม่มีศูนย์กลางสั่งการ และเราจะได้ตั้งหน้าตั้งตาเอาชนะกลุ่มดาวหมีใหญ่”
หน้าของกงชิงดูเหมือนแก่ขึ้นในทันใด
แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่สูญเสียการติดต่อกับกองทัพทั้งสาม  แต่ความสูญเสียของพวกเขาร้ายแรง
ตอนนี้ยุทธการใช้พิษของกลุ่มดาวหมีใหญ่รุนแรงจนไม่มีใครคาดคิด  ในองค์การวิญญาณมืดตอนนี้ นักโลหิตวิทยาผู้ค้นคว้าพิษทุกคนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ สถานะของพวกเขาพุ่งทะยานและมหาอำนาจใหญ่ได้ขยายสัญลักษณ์สันติภาพของพวกเขา  ทุกคนรู้ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมีส่วนร่วมในสงครามพิษอีกต่อไป  แต่ถ้ามีใครต้องการเก็บนักโลหิตวิทยาผู้ค้นคว้าพิษ  พวกเขาจะถูกกำจัดออกไป
ฉากภาพความตายที่เงียบงันในภาพจอทำให้ทุกคนสั่นด้วยความกลัว
และนักโลหิตวิทยาผู้ค้นคว้าพิษผู้พิสูจน์ตัวเองในการรบ ทุกคนจะมีสถานะที่เพิ่มขึ้น
มหาอำนาจที่สังเกตการณ์รบต่างก็คิดกันอย่างหนัก จะรับมือสถานการณ์นี้ได้อย่างไร  ไม่มีความแน่นอน แม้ว่าพิษจะทรงพลัง แต่ก็ต้องมีวิธีตอบโต้แน่นอน
สมาพันธ์ชาวยุทธมีข้อมูลเชิงลึกผุดขึ้นมาทันที
กำแพงคิงคอง วิชาต่อสู้นอกสารบบและง่ายดายสามารถสร้างอัดพลังปราณแท้ครอบคลุมทั้งร่างป้องกันไม่ให้พิษส่วนใหญ่เข้ามาได้  มีการค้นพบว่าสามารถป้องกันพิษรูปแบบต่างๆ ได้ถึง 90% หลังจากได้รับคำแนะนำจากผู้อาวุโสคนหนึ่งแล้วก็จะสมบูรณ์แบบทันที  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกองทัพ ภายใต้การควบคุมของผู้บัญชาการทหาร พวกเขาสามารถสร้างกำแพงคิงคองขึ้นได้ง่ายๆ
แม้ว่ากำแพงคิงคองสร้างขึ้นมาเพื่อให้กองทัพใช้ป้องกันการโจมตี  แต่ก็ยังมีผลมากต่อการใช้หยุดยั้งพิษด้วย
ในสัปดาห์ที่สี่จำนวนผู้เสียชีวิตของนักสู้ชาววาฬลดลงอย่างเห็นได้ชัด และกองทัพทั้งสามที่ไม่สามารถเคลื่อนกำลังได้  ก็สามารถเดินหน้าได้อีกครั้ง
ความคิดเล็กๆ  ก็สามารถทำให้ความโน้มเอียงทางสงครามเปลี่ยนไปอย่างมาก
ไม่มีพิษช่วยเหลือ พลังก่อกวนรังควานของนักสู้ชาวหมาป่าก็ลดลงอย่างรวดเร็ว  แม้ว่ากองทัพทั้งสามจะได้รับบาดเจ็บ แต่ความเสียหายก็ยังอยู่ในระดับต่ำ
ทั่วทั้งกลุ่มดาววาฬกลับฟื้นคืนความมั่นใจอีกครั้ง
กองทัพทั้งสามแค่กำจัดเมือง ดูเหมือนมีข้อตกลงว่าจะเดินหน้าอย่างเดียว เป้าหมายของพวกเขาคือตรงเข้าหาตัวถังเทียนที่ไข่หมี
*******
ฐานบรอนซ์เมืองสามวิญญาณ
ผู้เฒ่าเฟ่ยและพวกหดหู่ใจไปตามๆ กัน การรบครั้งก่อน พวกเขากำลังจะคว้าชัยชนะแท้ๆ  แต่พวกเขาไม่คาดเลยว่าจะสลายไปในพริบตา  วิชากำแพงคิงคองที่เอาชนะพวกเขาได้ ไม่ใช่วิชาระดับสูง  มันเป็นแค่ชั้นพลังปราณแท้ครอบคลุมร่างป้องกันพิษมีปฏิกิริยา  เทียบกับการคลุมด้วยปราณแท้อื่นกลับได้ผลมากกว่า
ถ้าคนที่ไม่ได้ฝึกกำแพงคิงคองในระดับลึกซึ้ง การป้องกันของมันก็ระดับซี่โครงไก่พื้นๆ แม้ว่ากำแพงคิงคองจะทน มันขาดพลัง พื้นที่ป้องกันแข็งแกร่งทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่สามารถโจมตีได้  แต่ชั้นอ่อนหยุ่นของกำแพงคิงคอง มีประโยชน์มากในการป้องกันพิษ
ปิงปลอบใจพวกเขาอย่างหนัก
 “งานของทุกคนสำเร็จเป็นอย่างดีแล้ว  พวกเขาช้าไปถึงสี่สัปดาห์ และสี่สัปดาห์นี้มีค่าต่อเรามาก”
 “ตอนนี้พิษของเราไร้ประโยชน์ไปแล้ว”  ผู้เฒ่าเฟ่ยท้อแท้
 “นั่นเป็นธรรมดาของสงคราม  ใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพเพียงวิธีเดียว ก็จะถูกตอบโต้อย่างแน่นอน  และพวกท่านทุกคนทำงานในสี่สัปดาห์สำเร็จดีแล้ว!  แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว” ตาของปิงเป็นประกายเยือกเย็น
ผู้เฒ่าเฟ่ยรู้ว่าสิ่งที่ปิงพูดนั้นมีเหตุผล  แต่อารมณ์ของเขายังไม่ดี  ดังนั้นเขาตอบเสียงอ่อย “ข้าจะไปค้นคว้าต่ออีกเล็กน้อย  ข้าต้องการดูว่ามีวิธีอะไรที่ใช้ทำลายกำแพงคิงคองได้?”
พูดจบเขาหมุนตัวเดินจากไป
ปิงไม่ห้ามเขา มีแรงบันดาลใจเป็นเรื่องที่ดี  สงครามมีเพื่อแสดงความแข็งแกร่งและระเบียบวินัยและจำเป็นต้องใช้วิธีการใหม่ๆ สร้างบางอย่าง  ดังนั้นประโยชน์จะต้องวางอยู่บนรากฐาน
ตัวอย่างเช่น สี่สัปดาห์
ตระกูลม่อมาปักหลักอยู่ในฐาน ไม่ทันสร้างที่พักอาศัย  แต่กลับสร้างห้องปฏิบัติการของตระกูลม่อ  ตระกูลม่อสามารถกลายเป็นตระกูลจักรกลระดับสูงได้ เนื่องมาจากวิชาจักรกลของพวกเขา และห้องปฏิบัติการของตระกูลม่อเป็นหนึ่งในนั้น
ห้องปฏิบัติการของตระกูลม่อมีวิธีผลิตอาวุธจักรกลเฉพาะแบบตน ทำให้พวกเขาสามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐานได้  ด้วยประโยชน์เช่นนั้นแม้ว่าในช่วงที่วิชาจักรกลตกต่ำลง และตระกูลจักรกลทุกตระกูลรู้สึกได้รับผลกระทบ  แต่ตระกูลม่อกลับปลอดภัยไร้เรื่องราว
คนรุ่นก่อนของตระกูลม่อเข้าใจไปก่อนว่าอาวุธจักรกลตกสมัยไปแล้วไม่สามารถหยุดยั้งได้ จึงผลิตแต่อาวุธจักรกลระดับต่ำและอสูรจักรกลเป็นผลผลิตหลัก และการควบคุมต้นทุนผลิตก็คือการควบคุมความเป็นความตายอย่างมิต้องสงสัย  ตระกูลม่อได้สะสมความรู้และวิจัยการผลิตมานับไม่ถ้วนและสร้างวิธีผลิตของตนเอง และนั่นคือห้องปฏิบัติการของตระกูลม่อ
ห้องปฏิบัติการตระกูลม่อมีไฟสว่างไสว มีเสียงอื้ออึง อาวุธจักรกลมีเสียงกระหึ่ม ประกายไฟกระจายไปทั่ว เหล็กหลอมเหลวสีแดงจัด อากาศเต็มไปด้วยบรรยากาศของเหล็ก ช่างฝีมือกล้ามเป็นมัดกระตุ้นปราณแท้ทำให้ทั่วทั้งร่างสะท้อนแสง มือถือค้อนเหล็กใหญ่กว่าตัวเขาเสียกทำการหวดโลหะ นายช่างอื่นมีสมาธิสีหน้าเคร่งขรึมถือเครื่องมือคล้ายใบมีด  พวกเขาตัดชิ้นส่วนบรอนซ์ ใยบรอนซ์ขึ้นรอบเหมือนถูกตัดเป็นเส้นบางๆ
ช่างผู้มีประสบการณ์ทุกคนเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของตระกูลม่อ
ม่อเว่ยเทียนดูแลควบคุมด้วยตนเอง  เขายากจะปรากฏตัว แต่ปัจจุบันนี้ เขามีสีหน้าเข้มงวด เดินตระเวนสำรวจดูไปรอบๆ
ตระกูลม่อไม่ได้มีงานยุ่งแบบนี้มาหลายปีแล้ว  ตั้งแต่ห้องปฏิบัติการตระกูลม่อถูกสร้างขึ้นมา ไม่เคยถูกใช้เต็มรูปแบบอย่างแท้จริง  แต่คนในตระกูลม่อไม่โกรธเคือง  เนื่องจากนี่คือสงครามครั้งแรกของพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะห่วงชีวิตตนเองก็ตาม  นอกจากนี้ เมื่อเห็นเหล็กหลอมสีแดง เมื่อเห็นฉากที่ทำให้เลือดเดือด  สมาชิกตระกูลม่อเต็มไปด้วยความต้องการสู้
เมื่อม่อเว่ยเทียนเห็นประจักษ์การผลิตอาวุธจักรกลวิญญาณรุ่นใหม่ล่าสุดกับตาตนเองและประทับตราเครื่องหมายห้องปฏิบัติการตระกูลม่อ  เขาแทบน้ำตาร่วง
มันกี่ชั่วคนมาแล้วที่ห้องปฏิบัติการตระกูลม่อถึงจะได้ผลิตอาวุธจักรกลวิญญาณที่แข็งแกร่งออกมาในรุ่นนี้ได้
เป็นความฝันของคนหลายรุ่นจริงๆ
เขาลูบอาวุธจักรกลวิญญาณสีเขียวเข้ม มันเปล่งประกายอบอุ่นจากกระบวนการผลิต ปุ่มบนผิวยังไม่ได้ขัดเกลาให้สม่ำเสมอ ยังไม่มีการลงสี ไม่มีความสวยงาม  แต่ในสายตาของม่อเว่ยเทียน มันเป็นผลงานศิลปะอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เขาหลงรักอย่างสุดซึ้ง
อาวุธจักรกลวิญญาณค่อนข้างน่าเกลียด ภายใต้โลหะอุ่นที่ปกคลุม ม่อเว่ยเทียนรู้สึกได้ถึงชีพจรที่ทรงพลัง
เฮ้อ, นี่คือชีพจรรุ่นใหม่ล่าสุด!
ม่อเว่ยเทียนรู้สึกกล้าหาญทันที  ข้าจะให้พวกเจ้าทุกคนได้เจอ ผลงานของห้องปฏิบัติการของตระกูลม่อที่ทรงพลัง
หลังจากผ่านไปสี่สัปดาห์  นักสู้ยี่สิบคนต่างก็รู้สึกทึ่งถังโฉ่ว   ใช้เวลาสามวันถังโฉ่วได้ยืนยันการจับคู่ของพวกเขา ยี่สิบคนจัดเป็นกลุ่มเล็กห้ากลุ่ม  นั่นไม่มีอะไร  แต่สิ่งที่ทำพวกเขารู้สึกนึกไม่ถึงภายในช่วงเวลาสั้นๆ ถังโฉ่วให้คู่มือกลยุทธการฝึกหกสิบหน้าแก่ทุกกลุ่ม
คู่มือการฝึกกลยุทธของทุกกลุ่มแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ยี่สิบคนเกือบร้องไห้
พวกเขาคือนักสู้ผู้ถือกำเนิดในแผ่นดินที่ยากลำบาก และในที่สุดได้ประสบกับสิ่งที่เรียกว่ามืออาชีพอย่างลึกซึ้ง มือดีในการวางกลยุทธที่พวกเขาได้พบเห็นในอดีต กลยุทธที่พวกเขาออกแบบ ยังกลายเป็นดิบเรียบง่ายเมื่อเทียบกับกลยุทธของถังโฉ่ว
และการฝึกตามที่เขาได้รับมอบหมายทำให้พวกเขาเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น
จุดเด่นของพวกเขาโดดเด่นมีประสบการณ์มากมาย  เมื่อพวกเขาเริ่มฝึกร่วมกัน  พวกเขาจึงสามารถรู้สึกถึงพลังของกลยุทธของถังโฉ่วได้ทันที
ทุกกลยุทธถูกออกแบบผ่านการไตร่ตรองและวางแผนอย่างระมัดระวัง  แม้แต่จุดอ่อนข้อผิดพลาดยังได้ออกแบบอย่างระมัดระวัง
เพราะได้รับการออกแบบมาสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ การประสานของพวกเขาเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว การฝึกฝนกลยุทธต่างๆ  พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าเป็นปลาที่อยู่ในน้ำ  สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องปรับปรุงก็คือความเข้าใจกันและกัน
หลังจากผ่านไปสี่สัปดาห์  ในที่สุดพวกเขาก็มีความเข้ากันได้ในเบื้องต้น  แม้ว่าถังโฉ่วจะยังไม่พอใจมากนัก  แต่พวกเขากระตือรือร้นจะทดสอบหลายอย่าง
สถานการณ์กลุ่มดาวหมีใหญ่เหมือนกับไฟลามทุ่ง ทำไมที่นี่ถึงได้เงียบนักเล่า?
ทันใดนั้น ยามที่อยู่รอบๆ สั่นและส่งสัญญาณเตือนเงียบๆ
พวกเขาสะดุ้งกันทุกคน มีประกายแวววาวในดวงตาทันที

7 ความคิดเห็น:

MaMahHuang กล่าวว่า...

สงครามกำลังจะมาเยือน

Neoplasm24 กล่าวว่า...

60วัน +4สัปดาห์ พี่ถังยังไม่ออกมา ยังไม่ตายใช่มั้ยพี่

JaOurPaLa กล่าวว่า...

ซ้อมมือเด็กใหม่พอดีเลย

Sunrise กล่าวว่า...

โอ๊ยยหนออออ ทำกันแบบนี้นะ จบแบบนี้นะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คำเดียวสั้นสั้น แต่มีๅความหมาย...........ค้างงงงง

Unknown กล่าวว่า...

ของจริงกำลังจะเริ่มต้น และพี่ถัง ยังกกไข่ ไม่ออกมาสักที....

dvdkeeper กล่าวว่า...

ได้เวลาส่งเด็กใหม่ไปฟาร์ม

แสดงความคิดเห็น