ตอนที่ 512
สถานการณ์สวยหรู
เมื่อมอนต้าก้าวเข้ามาในกับดักทางเข้าและเห็นว่าใครอยู่ข้างใน
นัยน์ตาของเขาเข้มทันที
เป็นเขานั่นเอง!
เขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างถังเทียนกับเย่เฉาเกอด้วยตัวเองมาก่อนแล้ว
นอกจากนี้เขายังเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของผู้ยืนชมเหตุการณ์ซึ่งสรรเสริญการต่อสู้อย่างกล้าหาญของถังเทียน อย่างไรก็ตามเขาก็ยังมั่นใจความสามารถของตัวเองและตั้งใจว่าจะสู้กับถังเทียน
มอนตามีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย
เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของแต่ละคนไม่ใช่ปัจจัยหลักในชัยชนะของเขา
มักจะมีบุคคลอันตรายอยู่แน่นอนซึ่งสร้างความทึ่งในการต่อสู้โดยใช้พลังไม้ตายที่รุนแรงและคาดไม่ถึง เนื่องจากมอนตาไม่มีทางถอย เขาจึงต้องตั้งใจสู้ตาย
การสู้ครั้งนี้คงไม่ง่าย!
มอนตาตั้งสติกล่าว “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้าที่คอยป้องกันพื้นที่แห่งนี้”
ถังเทียนชำเลืองมองมอนตาและกล่าว
“แล้วท่านจะยอมแพ้เหมือนกับพวกที่เหลือด้วยไหม?”
“ยอมแพ้?”
มอนตาหัวเราะ
“แม้ว่าเจ้าจะมีพลังที่น่ากลัว
แต่เจ้าก็ยังไม่ถึงระดับที่จะทำให้ข้ายอมแพ้เจ้าทันที อย่างไรก็ตามข้าชักสงสัยสถานะที่แท้จริงของเจ้าเสียแล้ว”
ความคิดมุมมองของมอนตาที่มีต่อถังเทียนทำให้ถังเทียนมองเขากลับอย่างเฉื่อยชา
แค่จากคำพูดของเขา
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ว่ามอนตามั่นใจในทักษะและความสามารถของตนเองมากที่สุด เขาคือยอดฝีมือ
เนื่องจากมีผู้รอดเพียงหนึ่งเดียวจากการต่อสู้ครั้งนี้ และถังเทียนให้เกียรติมอนตา ดังนั้นเขาตัดสินใจตอบ “ข้าคือถังเทียน เจ้าปกครองกลุ่มดาวหมีใหญ่”
ใบหน้าของเขากระตุกจากความอึดอัดใจทันทีที่ประกาศว่าตนเองเป็นเจ้ากลุ่มดาว แต่กลับคืนสภาพเดิมหลังจากเขาพูดจบประโยค
มอนตาสีหน้าแปรเปลี่ยนในที่สุด
เมื่อมองดูเด็กหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าเขา มอนตาแค่นยิ้ม เขารู้ว่าเขาถลำลึกเข้ามาหาเรื่องยุ่งยากเสียแล้ว
เนื่องจากถังเทียนเปิดเผยสถานะของเขาต่อมอนตา มอนตารู้ว่าจะไม่มีการไว้ไมตรีในการต่อสู้ครั้งนี้
ไม่มีทางประนีประนอมกันได้
เขาเสียใจที่เข้ามาในป้อมและเข้ามาคลุกคลีกับปัญหานี้
เขารู้ว่าถังเทียนคือใคร
ยิ่งกว่านั้นชื่อของกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้รับความนิยมมาก
เอาชนะได้ทั้งกลุ่มดาวมังกรและกลุ่มดาววาฬ
ด้วยพลังที่เทียบเคียงกับสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา
ดังนั้นถังเทียนจึงถือได้ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ปกครองดินแดน
ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นเซียน
ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด มอนตาก็คงจะไม่กลัว
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพล นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เบื้องหลังผู้ยิ่งใหญ่ก็คือกองกำลังที่แข็งแกร่งของกลุ่มดาวกับจำนวนคนไม่จำกัดซึ่งครอบครองพลังที่น่ากลัว พวกเขาสร้างกลุ่มที่ทรงอำนาจ
เขาไม่กลัวพลังของถังเทียน อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าถ้าเขาฆ่าถังเทียน
ทั่วทั้งกลุ่มดาวหมีใหญ่จะไล่ล่าตามเขาเป็นพรวน
ครอบครัวและคนที่เกี่ยวข้องกับเขาจะไม่มีทางหลบหนีได้ จะไม่มีกลุ่มดาวใดๆ
ที่ยินดีปกป้องเขา ไม่แม้แต่สมาพันธ์ชาวยุทธ
นักสู้ในกลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นนักสู้ที่ห้าวหาญทุกคน
และพวกเขาก่อตั้งกองกำลังทหารที่รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น
ไม่ใช่เส้นทางที่เซียนคนหนึ่งจะรับได้เลย..
มอนตาฝืนหัวเราะ “ท่านถือเสียว่าข้าไม่เคยมาที่นี่เลยได้ไหม?”
ถังเทียนตกใจ “ข้าไม่คิดว่าข้าจะทำเช่นนั้นได้”
มอนตากลับคืนสู่ความสงบ “ข้าไม่ต้องการสู้กับเจ้า ทั้งไม่ต้องการยอมแพ้ อย่างนั้นยังจะมีอะไรอย่างอื่นที่ข้าทำได้บ้าง?”
“ก็มีบางอย่างที่ทำได้” เสียงดังแทรกการสนทนาระหว่างพวกเขาดังขึ้น เป็นปิงที่ปรากฏตัวด้านหลังถังเทียน เขาคอยตรวจสอบการต่อสู้ ห้าคนยอมแพ้ติดต่อกันทำให้เขาประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าเรื่องจะกลับกลายเป็นเช่นนั้น
ผู้บัญชาการทหารคนหนึ่งวางแผนและกำหนดยุทธศาสตร์ตามสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับสถานการณ์ที่เขาพบในตอนนี้
เขาเกิดความคิดผุดขึ้นมาในหัวอย่างทันที
เนื่องจากถังเทียนเปิดเผยสถานะของเขาไปแล้วและมอนตาอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ปิงมีความคิดอย่างหนึ่ง
พวกเขาวางกับดักที่ซับซ้อนโดยไม่รู้ตัว!
ถ้าพวกเขาออกไปข้างนอกและใช้ชื่อของกลุ่มดาวหมีใหญ่เพื่อดึงดูดพวกเซียนให้เข้าร่วมกับพวกเขา จะไม่มีผู้ใดสนใจพวกเขา พวกเขาเป็นเซียนที่รักอิสระ
เพราะพวกเขาไม่ต้องการเข้าร่วมกับมหาอำนาจใดๆ
มหาอำนาจไหนจะปฏิเสธมิให้เซียนเข้าร่วมเล่า? ตรงกันข้ามทุกกลุ่มดาวหวังจะดึงดูดเซียนกันทั้งนั้น
ภายในเมืองหานกู่
คนของสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาพยายามสรรหาเซียนอย่างแข็งขัน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนบัดนี้
เซียนอิสระส่วนใหญ่ไม่ชอบมีวินัย
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต่อต้านคำสั่งและวินัยของกองทัพหรือเผ่าพันธุ์ เป็นเรื่องยากที่จะรับสมัครพวกเขาเข้ามาได้
อย่างไรก็ตาม
เซียนเหล่านี้ไม่ได้เป็นใบ้
พวกเขารู้ได้อย่างชัดเจนถึงผลร้าย
พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของผู้ยิ่งใหญ่อย่างถังเทียน ถ้าถังเทียนเปิดเผยสถานะของเขาต่อคนทั่วไป ฝูงผู้คนจะถาโถมเข้าทำร้ายเขา
จากนั้นนี่จะดึงดูดความสนใจของสมาพันธ์ชาวยุทธและองค์การวิญญาณมืดจนทำให้พวกเขาต้องเพิ่มกำลังทหารของพวกเขาให้มากยิ่งขึ้น
ดังนั้นเผชิญหน้ากับหนทางนี้ เซียนจึงมีเพียงสองทางเลือก
หนึ่งคือฆ่าถังเทียนและมีทั่วทั้งกลุ่มดาวหมีใหญ่คอยตามไล่ล่าพวกเขา
อีกทางหนึ่งคือยอมแพ้
ตัวเลือกที่ไร้สาระ!
ไร้สาระเกินไป!
ปิงรู้สึกตื่นเต้น นอกจากนี้พวกเซียนกำลังส่งตัวเองเข้ามาสู่กับดักที่เขาวางไว้ เขาไม่ได้บังคับให้ใครเข้ามาในฐานเพื่อท้าทาย
ไม่ได้บังคับให้ใครยอมแพ้
ข้าไม่มีทางเลือก นี่คือสิ่งที่ผู้ทรงอำนาจทำกัน
แม้ว่าพวกเซียนจะไม่มีวินัยและหยิ่ง แต่พวกเขาก็ไม่โง่แน่นอน
นี่คือภัยคุกคามและอันตราย
ถ้าถังเทียนคุกคามพวกเซียนอิสระโดยเปิดเผย
อย่างนั้นก็จะทำให้พวกเขาก็จะรวมตัวกันโจมตีถังเทียนในฐานะกลุ่มพรรคพวก แค่เพียงเซียนจากเมืองหานกู่ พวกเขาก็สามารถทำลายกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้หลายครั้งแล้ว
ปิงตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน
เซียนเข้ามาในป้อมได้ทีละคนและถูกคุกคามไม่สามารถหลบหนีได้
และพวกเขาต้องยอมแพ้ นอกจากนี้ ก็เป็นพวกเซียนอิสระที่ยินดีเข้ามาท้าทายเอง จะไปโทษปิงและคนที่เหลือก็ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม
นักสู้ที่น่ากลัวอย่างแท้จริงคือคนที่มีความหยิ่งและยากจะรั้งไว้ได้ เขาไม่ได้รับผลจากการคุกคามง่ายๆ
อย่างนี้และจะไม่ยอมแพ้
เราจะคิดหาทางอื่นเพื่อใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้
ปิงผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมพูดขึ้น “เราจะร่วมกันทำงานแทน!”
“ทำงานร่วมกัน?” มอนตาสงสัยจึงถามขึ้น “พวกเจ้าต้องการจะทำยังไง?”
“ก็ง่ายมาก
ท่านจะร่วมกับเราด้วยสถานะของหุ้นส่วนของกลุ่มดาวหมีใหญ่
เราจะไม่บังคับให้พวกท่านเหล่าเซียนให้เข้าร่วมรบ แต่ถ้าท่านจะร่วม
อย่างนั้นสินสงครามจะถูกแบ่งปันกับพวกท่านทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ถ้าพวกท่านใช้ความสามารถมาก
ผลเก็บเกี่ยวก็จะมากขึ้น
กลุ่มดาวหมีใหญ่ของเราถือว่าเป็นกลุ่มดาวที่ใหญ่ ในเรื่องของอำนาจ ข้าเชื่อว่าพวกท่านสามารถวางใจได้ง่ายดาย เราจะได้รับแหล่งข้อมูลได้ง่ายกว่าพวกท่าน และข้าเชื่อว่า
ไม่มีใครสงสัยเรื่องความทะเยอทะยานของกลุ่มดาวหมีใหญ่”
ปิงยิ้มตลอดเวลา นี่คือแผนที่ฉลาดที่สุดที่เขาเคยคิด ที่สำคัญยิ่งกว่า ความรู้สึกนี้น่าสนุกเพลิดเพลินอย่างแท้จริง!
อย่างไรก็ตาม
เขาซ่อนกับดักไว้ในแผนการนี้ไว้เรียบร้อย
เมื่อพวกเขาเข้าร่วมกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ ก็หมายความว่า
พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมกับกลุ่มดาวอื่นได้
มอนตาไม่สามารถเชื่อว่าอีกฝ่ายหนึ่งสามารถคิดแผนการที่ซับซ้อนดังกล่าว
เขาตระหนักได้ว่าปิงหมายความว่ายังไง
หากถังเทียนเสนอชื่อกลุ่มดาวหมีใหญ่และพยายามรับสมัครพวกเซียน มอนตารู้ว่าตัวเขาเองก็คงไม่สนใจ แต่ในสถานการณ์ที่เขาอยู่เช่นนั้น
เขารู้สึกว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อเขาพอๆ กับการมีอิสระ
นี่คือแผนการที่ฉลาดของปิง
เทียบกับแผนอื่นที่พวกเขาพยายามใช้ แผนการนี้ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่คิดได้แล้ว
“ตกลงงั้นเราจะทำงานร่วมกัน” มอนตาตอบ
ผลสรุปนี้เป็นไปในทางบวกมากกว่าสถานการณ์อื่นที่เขาสามารถคิดได้
ดังนั้นเขายอมรับทันที
เขาไม่สามารถทนรับแรงประสงค์ร้ายของถังเทียนและพวกที่เหลือ นอกจากนี้พวกเขายังไม่มีเจตนาต้องการทำร้ายพวกเซียน ทั้งสองฝ่ายถูกสถานการณ์ปัจจุบันบังคับ
ปิงกับมอนตาทำสัญญาจิตวิญญาณยุทธ
ฟู่จงซานและคนที่เหลือตกใจเกินกว่าจะพูดอะไรกันทั้งหมด เมื่อมอนตาปรากฏตัว หัวใจของทุกคนตกวูบ มอนตาเป็นผู้มีชื่อเสียงประจำพื้นที่และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเซียนที่แข็งแกร่งทรงพลังที่สุดในกลุ่มนั้น แม้แต่ฟู่จงซานก็ยังเห็นด้วย
แต่สถานการณ์เช่นนี้....
มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง....
ฟู่จือหงหวาดกลัวหลังจากที่เห็นเหตุการณ์เกิดขึ้น
ลุงเชี่ยวชาญในการคว้าโอกาสทันทีที่เขาเห็นเขาบรรลุข้อตกลงได้อย่างง่ายดาย
มีแต่เพียงเสี่ยวเอ้อที่ขัดใจ
ใบหน้าน้อยที่น่ารักของเขาหงุดหงิด เซียนห้าคนก่อนหน้านี้ยอมแพ้กันหมดทำให้เขารู้สึกเหลืออด
เสี่ยวเอ้อรู้สึกว่าตราแหล่งพลังที่เจ้าเด็กโง่กระตุ้นใช้อยู่ใต้ตัวเขา
เขากำลังรอโอกาสเหมาะ ตราบใดที่เจ้าเด็กโง่ได้รับบาดเจ็บหนัก จากนั้นเขาก็สามารถชิงร่างและควบคุมทั้งหมดได้
เสี่ยวเอ้อควงร่มหยาหยามั่นใจในพลังของเขาเป็นที่สุด
ในตอนแรกเขาคาดว่าจะมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งสามารถเอาชนะเจ้าเด็กโง่นี่ได้
ในที่สุดนักสู้ที่แข็งแกร่งก็ปรากฏตัว แต่เขายอมแพ้และลงนามในข้อตกลงกับปิงแทน
เสี่ยวเอ้อจ้องมอนตา
ตาของเขาเต็มไปด้วยแววเย้ยหยันและเกลียด...
มอนตาสังเกตร่มที่เสี่ยวเอ้อถือและนัยน์ตาเขาเป็นประกาย “สมบัตินี้ดูดีเลยทีเดียว!”
“มันเป็นแค่ของปรับแต่งยังไม่ได้ลองใช้มาก่อน” ถังเทียนตอบ
มอนตาอุทาน “งั้นก็เจ้าก็มีทักษะปรับแต่งสมบัติวิญญาณสินะ!”
“เราลองดูอยู่และดูเหมือนเสี่ยวเอ้อจะมีพรสวรรค์ในการปรับแต่ง” ถังเทียนตอบ
จากนั้นเขาอธิบายต่อ
“เสี่ยวเอ้อคือร่างวิญญาณของข้า”
มอนตากลายเป็นตื่นเต้นทันที คำตอบนี้ทำให้เขาหมดข้อสงสัยเรื่องข้อตกลงที่เพิ่งลงนาม
จ้าวสมบัติวิญญาณ! ถังเทียนคือจ้าวสมบัติวิญญาณสำหรับเซียนอิสระ
พวกเขายินดีต้อนรับจ้าวสมบัติวิญญาณที่สุดเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น
มอนตายินดีที่ได้ยินเช่นนั้น
“สมบัติวิญญาณที่ข้าใช้เป็นคู่มือในปัจจุบันนี้ดูเหมือนจะยังไม่เหมาะมืออยู่บ้าง ข้าอยากจะขอให้ท่าน...”
ถังเทียนโบกมือขณะที่เขาพูดอย่างใจกว้าง “เรื่องเล็ก
ข้าจะให้เสี่ยวเอ้อช่วยปรับแต่งให้ใหม่เมื่อเรามีเวลา!”
มอนตาดีใจ “ขอบคุณท่านเจ้ากลุ่มดาว!”
เสี่ยวเอ้อหงุดหงิด เขาถลึงตาราวกับต้องการฆ่าใครสักคน เขายังหงุดหงิดมอนตา
เจ้าไม่กล้าสู้แล้วยังคาดหวังให้ข้าช่วยเจ้าสร้างสมบัติวิญญาณใหม่อีกหรือ?
หึหึ!
เสี่ยวเอ้อเย้ยหยันในใจ
มอนตาสั่นทันที เขารู้สึกเหมือนว่าใครบางคนกำลังจ้องเขา เขามองไปรอบๆ คิดว่าเป็นเพราะเขาดีใจเกินไป
แม้ว่าถังเทียนได้สัญญาไว้กับเขา เขารู้ว่าลึกๆ
แล้วถ้าเขาไม่ช่วยแก้ปัญหาของถังเทียน เขาคงไม่สามารถขอของที่ชอบใจในอนาคตจากเจ้ากลุ่มดาวได้
ข้าต้องใช้ความพยายาม! ข้าต้องสู้เพื่อเขาบ้าง!
มอนตาอุทาน “ท่านเจ้ากลุ่มดาว
ตอนนี้มีคนนับไม่ถ้วนอยู่ด้านนอกรอทุกอย่างที่จะช่วยในที่นี้ นี่คือโอกาสที่หาได้ยาก ถ้ามีการสร้างเสียงต่อสู้ที่รุนแรงออกไป
เราอาจทำให้กลุ่มผู้คนเชื่อได้ว่าท่านเจ้ากลุ่มดาวใช้เรี่ยวแรงจนหมด
จากนั้นพวกเซียนที่อยู่ด้านนอกก็จะทนไม่ได้และเข้ามาท้าสู้ท่าน ยิ่งทอดเวลาการต่อสู้ยาวนานออกไป
พวกเซียนก็ยิ่งต้องการเข้ามาในป้อมปราการประตูเดี่ยว เนื่องจากพวกเขาจะมั่นใจในความคิดที่ว่าพวกเขามีโอกาสสูงจะเอาชนะท่านได้ ด้วยแผนนี้ท่านจะสามารถจับพวกเซียนด้านนอกง่ายๆ
โดยไม่ต้องเสียเวลามาก”
เพื่อสมบัติวิญญาณของเขา มอนตายอมหักหลังทุกคน
ด้วยโอกาสที่ยอดเยี่ยมซึ่งปรากฏต่อหน้าเขา เขาคงเสียใจถ้าไม่คว้าเอาไว้
“ดี ดี เยี่ยม!
นับเป็นแผนที่ฉลาด!”
ปิงยกย่อง
“ท่านมอนตานับเป็นผู้รู้และมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาให้เรา”
มอนตายิ้ม “ขอบคุณที่ใต้เท้าชื่นชม!”
ตอนแรกกลุ่มคนข้างนอกไม่เห็นอะไรจากภายในป้อม แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังก้องมาจากข้างในและป้อมประตูเดี่ยวสั่นสะเทือน เห็นได้ชัดว่ามีการต่อสู้ขนานใหญ่ภายใน
“นั่นคือมอนตาที่เรารู้จัก! สู้กันดุเดือด,
ต้องเป็นการสู้ที่น่ากลัว!”
“ใช่แล้ว
คู่ต่อสู้แข็งแกร่งสามารถอยู่ต้านทานมอนตาได้!”
……
ถังเทียนนั่งกับพื้นขณะกัดกินแอปเปิลของเขา
ไม่ห่างออกไปนั้น
มอนตากำลังใช้พลังฟาดพื้นทำให้เกิดเสียงดังเหมือนว่ากำลังสู้กันอย่างดุเดือด
หลังจากนั้นชั่วขณะมอนตาก็หยุดปาดเหงื่อจากหน้าผาก เขามองดูถังเทียน “ท่านเจ้ากลุ่มดาว เราทำเกือบเสร็จแล้ว”
ถังเทียนลุกขึ้นยืน “ท่านทำได้ดีเลยทีเดียว!”
“เป็นเกียรติ,
เป็นเกียรติของข้ายิ่งนัก!” มอนตาตอบ
เขาออกจากป้อมประตูเดี่ยวไปทางด้านหลังถังเทียน
คนที่อยู่ด้านนอกป้อมเห็นว่าป้อมประตูเดี่ยวเปิดสัญญาณเป็นสีเขียวอีกครา ทุกคนเงียบ
“มอนตาก็พ่ายแพ้หรือ?”
“พวกเขาต้องเจ็บตัวกันบ้างแน่ การต่อสู้รุนแรงเกินไป!”
“ท่านพูดถูก
หลังจากการต่อสู้ดุเดือดอย่างนั้น
แม้จะเป็นเซียนที่เก่งกล้าในการรบที่สุดก็ต้องหมดแรงกันบ้าง
“โธ่เอ๊ย, มีคนชิงเข้าไปก่อนข้าอีกแล้ว...”
26 ความคิดเห็น:
ยังกับตรอกรีดทรัพย์
โจรมุมตึก
นี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว
รับเละ เพลินเลย
เมื่อไหร่ปิงกับถังเทียนจะรู้ตัวว่าเสี่ยวเอ้อจ้องจะชิงร่างอยู่
งานนี้กินเรียบ😝😝
ปิดประตูตีเซียน
ป้อกเก้าสองเด้งง
พี่ถังน่าจะสั่งเหล้าซักชุดไว้กินแกล้มกับดูการแสดงนะจะได้ไม่เบื่อ....หุหุ
ฮามาก ฉากนี้ 555 ผมข้องใจ เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ไปไหนแล้วไม่เห็นนานล่ะ.
ตัวแสบทั้งนั้น
แผนดักควายสินะ
เรียงคิวกันเข้ามา
ตรอกลอกทรัพย์ 555
55555555555
ใช่เลย ตรอกตบทรัพย์
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ผู้แปลจากจีนเป็นอิงไม่แน่ใจว่าติดธุระอะไรรึเปล่าไม่แปลมาพักนึงแล้ว จะมีอีกเพจก็lnmtlซึ่งใช้เครื่องแปล เห็นแอดว่าค่อนข้างงงเลยไม่แปลเพจนั้นครับ
เพจINMtl อ่านไม่รู้เรื่องเลยครับ
ซอยโจร
555+
คิดได้ไงวะ
ขอบคุนคับ
พีถังโคตรเทพ
แสดงความคิดเห็น