ตอนที่
514 ฝูอิง
ปิงออกคำสั่งให้ซ่อมแซมป้อมปราการ แม้ว่าจะไม่เสียหายร้ายแรง
แต่ปิงไม่ยอมผ่อนผันแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนนี้พวกเขาอยู่ในช่วงสงคราม
ทันใดนั้น
สีหน้าเขาเปลี่ยนขณะที่เห็นถังเทียนถูกโจมตี!
ใครกล้าโจมตีถังเทียน?
เขาเร่งไปซ่อนอยู่ที่ประตูซึ่งเขาติดตั้งไว้ เขาสามารถเห็นถังเทียนพรวดพราดเข้ามาในฐานในสภาพที่ดูอ่อนแรง เป็นเวลานานแล้วที่ปิงไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสภาพเช่นนั้น ปิงโกรธทันที
อย่างไรก็ตาม
รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏบนใบหน้าของเขา
โจมตีใส่ม่านพลังป้องกันหรือ?
ฮ่าฮ่า...
ฝูอิงลอยตัวอยู่ในกลางอากาศปล่อยพลังฝ่ามือเพชฌฆาตใส่ป้อมปราการ
ลำแสงเหมือนงูเลื้อยออกจากฝ่ามือของเขาและพุ่งใส่ม่านพลังแสง
ม่านแสงแต่เดิมที่สลัวจู่ๆ
ก็ระเบิดพลังแสงขณะที่มันสั่นสะเทือนจากแรงปะทะอย่างมิอาจควบคุมไว้ได้
พวกเซียนสามารถเห็นประจักษ์ถึงพลังโจมตีที่น่ากลัวของฝูอิง
ส่งผลให้เกิดประกายแสงที่ผิวของม่านพลัง
ประกายแสงเหล่านี้รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของฝูอิงเปลี่ยน
ความรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรงทำให้ผมขนทั่วร่างของเขาลุกชัน เขาใช้ม่านพลังงานทันที
มันคือโล่เกียรติยศของสมาพันธ์ชาวยุทธ
บอลแสงขาวนวลล้อมรอบตัวเขา อย่างไรก็ตาม
ความรู้สึกที่อันตรายไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
วูบบบบ
ภาพทัศนวิสัยข้างหน้าพร่าเลือนจากลำแสงสว่างที่หนาขนาดแขนของเขา
มันสว่างเจิดจ้าในท้องฟ้ายามราตรีขณะที่ปะทะใส่ม่านพลังงานของฝูอิง
เหมือนกับแส้แสงที่หวดใส่ม่านพลังเกิดประกายที่ผิวม่านพลังและทำลายม่านได้ ฝูอิงขุ่นเคืองกับการโจมตีครั้งนี้ขณะที่โคจรพลังไปที่ฝ่ามือซ้ายของเขา
จากนั้นเขาปลดปล่อยพลังโจมตีใส่แส้สายฟ้าที่หวดใส่ม่านพลังของเขาโดยตรง
ปัง!
ฝูอิงรู้สึกถึงระลอกพลังงานมหาศาลไหลผ่านอากาศ
แขนซ้ายของเขาบาดเจ็บจากแรงปะทะขณะที่กำลังไหม้เกรียมจากพลังงานขนาดใหญ่ที่ถูกปลดปล่อยออกมา
แต่การเสียสละเล็กน้อยนี้ช่วยชีวิตเขาได้ขณะที่เขาเบี่ยงเบนพลังที่จะมาถึงไปอีกทาง เขารีบถอยทันที!
ฝูอิงเทเลพอร์ตออกมาห่างที่ต่อสู้ร้อยเมตร
แขนซ้ายทั้งหมดของเขาหายไปและเสื้อสีขาวตอนนี้กลายเป็นสีดำ
เหล่าเซียนในเมืองหานกู่ตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น พวกเขาหวาดหวั่นพลังที่น่ากลัวของฝูอิง ฉายาเพชฌฆาตอิงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
พวกเขายกย่องคนอย่างเขาให้เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดเซียนชั้นบรอนซ์
เซียนผู้มีวิชาจิตวิญญาณทางตาสองสามคนยิ่งตกตะลึง
ค่าพลังวิญญาณของฝูอิงถึงระดับ 298 จุดไปแล้ว!
อย่างไรก็ตาม...
ทุกคนจ้องมองม่านพลังของป้อมปราการประตูเดี่ยว นัยน์ตาพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาทุกคนหวาดหวั่นกับภาพที่เห็น
ป้อมปราการประตูเดี่ยวที่สาบสูญไปหลายร้อยปีถูกมองว่ามีความลึกลับมากมาย
แต่เมื่อพวกเขาเห็นฝูอิงถูกม่านพลังของป้อมปราการประตูเดี่ยวปะทะใส่ เซียนอิสระทั้งหลายถึงกับต้องผงะกับพลังของมัน
แม้แต่เพชฌฆาตอิงก็ยังได้รับผลร้ายหรือนี่..
จากนั้นพวกเขาตระหนักว่าพวกเขาโง่ขนาดไหนที่แต่ละคนพยายามจะเข้าป้อมปราการให้ได้ ตอนนี้ทุกคนหวาดกลัวที่จะเข้าไป
ร่างของฝูอิงค่อยๆ
จางหายลับไปในขอบฟ้าพร้อมกับมีเสียงก้องมาตามแนวราบ
“พวกเจ้าไม่มีใครจะหนีพ้นความรับผิดชอบนี้ไปได้!”
เพียงอึดใจเดียวฝูอิงก็เทเลพอร์ตไปไกลถึงพันไมล์ก่อนหยุด เขากวาดแขนลงข้างล่าง หลุมกว้างสองเมตรค่อยก่อตัวอยู่ใต้ตัวเขา เขาค่อยๆ เลื่อนลงไปในนั้น
เมื่ออยู่ในในหลุม
เขาใช้ป้ายเกียรติยศชาวยุทธเพื่อส่องในความมืด
มีภาพคนที่ร่าเริงปรากฏจากในความมืดและประหลาดใจที่เห็นฝูอิงอ่อนแรง “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”
“ข้าถูกลอบทำร้าย” ฝูอิงตอบ
“ข้าเจอป้อมปราการประตูเดี่ยว
เย่เฉาเกอยังไม่ถูกช่วยออกมา”
“ป้อมปราการประตูเดี่ยว?” อีกฝ่ายหนึ่งประหลาดใจเมื่อได้ยิน “นี่มันอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ในกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์ เมืองหานกู่!” ฝูอิงตอบอย่างทรมาน
“ข้าจะนำกำลังคนบางส่วนไปที่นั่น!” อีกคนหนึ่งพูดโดยไม่ลังเล
ฝูอิงเก็บป้ายเกียรติยศชาวยุทธและนั่งขัดสมาธิกับพื้น เขากินยาและเริ่มเดินพลังปราณ
ถังเทียนได้รับข่าวกรองเรื่องฝูอิงจากติงตัง
เพียงแค่นั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฝูอิงเป็นสมาชิกตุลาการแห่งสมาพันธ์ชาวยุทธ
สมาชิกทุกคนของคณะตุลาการล้วนแต่เป็นเครื่องจักรสังหาร
และฝูอิงเป็นนักสู้ที่คลั่งไคล้การฆ่ามากกว่าใคร
เขามักพบตนเองอยู่ในพื้นที่ต่อสู้ที่อันตรายอยู่บ่อยๆ
นอกจากนี้เขายังมีส่วนร่วมในการเริ่มสงครามระหว่างสมาพันธ์ชาวยุทธกับกลุ่มดาวราชสีห์
ฝูอิงมีพลังที่น่ากลัว เป็นคนที่ใครๆ ไม่ค่อยอยากเผชิญหน้าด้วย
เหตุผลที่ฝูอิงปรากฏตัวในเมืองหานกู่เป็นเพราะเขารับงานมาจากหรงปัวให้มาช่วยเย่เฉาเกอ ขณะที่ฝูอิงเพิ่งออกมาจากสนามรบ เขามีเวลาจะทำให้การเดินทางครั้งนี้ไปช่วยงานหลงปัว
ฝูอิงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น
รายงานข่าวกรองอื่นดึงดูดความสนใจถังเทียนมากกว่า
มีกองทัพของสมาพันธ์ชาวยุทธถูกส่งไปประจำการใกล้กับกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์ เนื่องจากพัฒนาการของสงคราม
สมาพันธ์ชาวยุทธจึงได้ตระหนักว่ากองทัพส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่อาจเทียบได้กับพลังของพวกเขา ดังนั้น
พวกเขาจึงเริ่มพัฒนาและขยายกองกำลังพวกเขาต่อไป
กองทัพที่รวบรวมอยู่นี้เรียกว่ากองพลใบไม้แดงและหัวหน้าทหารนี้เป็นบุรุษนามว่าโจนส์
โจนส์ไม่ได้เกิดมาจากสมาพันธ์ชาวยุทธโดยตรงและมาจากกลุ่มดาวโลมา เขาได้รับคัดเลือกในหนึ่งในภารกิจของฝูอิง โจนส์แสดงความกล้าหาญและความสามารถพิเศษในฐานผู้นำทหารที่ไม่ธรรมดา
เขาได้รับคำสั่งให้เป็นผู้นำกองกำลังใบไม้แดง
แม้ว่ากองกำลังใบไม้แดงจะเป็นกองทัพที่ใหม่ คุณภาพของทหารของพวกเขาอยู่ในระดับชั้นนำ โจนส์ยังคงชักชวนตำหนักทองที่สิบให้ส่งนักสู้ระดับทองของสมาพันธ์จำนวนมากเข้าร่วมรบ
นี่เป็นบรรทัดฐานให้สาขาทองที่สิบจัดสร้างกองกำลังแยกกัน ส่วนสาขาก็ค่อยๆ จัดสร้างกองกำลังของพวกเขา
ถังเทียนสีหน้าเฉยชาขณะที่เขาอ่านข่าวกรองในมือ
ปิงเหลือบมองถังเทียนและห่วงใย ถังเทียนปกติจะเสียงดังและห้าว เขาไม่ค่อยเคร่งขรึมนัก
ถังเทียนถามอย่างเคร่งขรึม “การสร้างสถาบันนักสู้หมาป่าฟ้าเป็นยังไงบ้าง?”
“เกือบเสร็จแล้ว” ปิงตอบ
เขาคาดว่าถังเทียนอาจบ้าๆ บอๆ ได้ทุกเมื่อ
“อย่างนั้นเราจะให้พวกเขามาชุมนุมกัน!”
“ก็ดี! ปิงตอบ
แต่เขาเปลี่ยนใจโดยเร็ว “ไม่, รอก่อน!
ถ้าเรากรีฑาพลของเราก็จะดึงดูดความสนใจของกลุ่มดาวอื่นและพวกเขาอาจดำเนินการตอบโต้! นอกจากนี้
ถ้าเราขัดแย้งกับกองพลใบไม้แดง
เราอาจจะคลาดเคลื่อนไปจากแผนการเดิมก็เป็นได้...”
“งั้นเราก็แค่สู้กัน!” ถังเทียนพูดแทรก
ปิงรู้ว่าทันทีที่ถังเทียนดำเนินการเอง
เขาจะสูญเสียเหตุผลของเขา
ที่นี่เขารับจัดการเองอีกครั้ง!
ถังเทียนพูดต่อ
“บอกถังโฉ่วเร่งแก้ปัญหาเจ็ดดาวเหนือให้เร็วขึ้น!”
ทันทีที่เขาพูดจบประโยค เขาหันกลับและเดินไปหาเสี่ยวเอ้อ
ปิงอ้าปากแต่ไม่มีคำพูดออกมา สำหรับผู้นำทหารที่ทำหน้าที่สนับสนุนแผน
ถือว่าเป็นการประมาทที่ตัดสินใจด้วยอารมณ์และยังเป็นการดำเนินเองโดยไม่ปรึกษากับคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อถังเทียนไร้เหตุผล
ปิงไม่มีทางโต้แย้งคำสั่งเขา
ชั่วเวลาต่อมา ปิงหัวเราะเบาๆ
เจ้าเด็กนี่กลายเป็นคนก้าวร้าวเสียแล้ว...
เขาค่อยๆ หรี่ตาและพึมพำ
เขารู้สึกโชคดีแม้จะมีปัญหาให้แก้ตามรายทาง ถังเทียนไม่ได้รับอันตรายในระหว่างทาง ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา ก็คงเป็น...
เขาไม่กล้าคาดถึงจุดลงเอย
ใช่แล้ว จะให้พวกเขาสู้ พวกเขาจะไม่มีทางลืมแน่!
ทุกคนคงจะคาดหวังจะได้เห็นว่ากองทัพของสมาพันธ์ชาวยุทธมีอะไร
ปิงมอบหมายงานคุ้มกันพื้นที่ให้ฟู่จือหง พรสวรรค์ของเด็กสาวนี้ดีจริง
ขอเพียงขัดเกลาบางอย่างนางจะปกป้องพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับตัวปิงเองเขาเข้าไปในเมืองสามวิญญาณโดยผ่านห้องจิตวิญญาณยุทธ จากตรงนั้น
เขาเข้าไปในกลุ่มดาวหมีใหญ่
เขาต้องการพบเด็กใหม่ในสถาบันหมาป่าฟ้าเร็วขึ้น
เนื่องจากเขาได้ฝึกฝนบ่มเพาะพวกเขาอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ยังอายุน้อย
เมื่อว่าถึงทักษะการป้องกันของพวกเขา เด็กใหม่เหล่านี้เรียนรู้มามาก
เซียนคนอื่นกลัวกับการดำเนินการของถังเทียนนัก ใช้คำพูดไม่กี่ประโยค
พวกเขาก็ต้องมาเห็นการรบที่ขมขื่นและสิ้นหวังของแม่ทัพ
เสี่ยวเอ้ออยู่ในสภาพแย่ เขาดูอ่อนเพลียจากการต่อสู้ครั้งก่อน
“เสี่ยวเอ้อเจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า” ถังเทียนหมอบลงและกังวลกับสิ่งที่เขาเห็น
เสี่ยวเอ้อชำเลืองมองการกระทำของถังเทียนและไม่ขยับตัว
เขาขุ่นเคืองถังเทียนและรู้สึกว่าเขาโชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ ทำไมเขาต้องมาขวางพลังโจมตีด้วย? ถ้าเป็นเจ้างี่เง่านี่แทน เสี่ยวเอ้อก็จะกลับมาควบคุมร่างกายของเขาได้
เขาท้อแท้มากขึ้นและต้องฟื้นฟูพลังของเขาหลังจากได้รับบาดเจ็บเพราะฝูอิง
และเพื่อฟื้นฟูพลังของเขา
เขาต้องใช้วิชาจิตวิญญาณทำให้สนามพลังวิญญาณมีเสถียรภาพให้มากยิ่งขึ้น...
ทั้งหมดที่เขาทำได้ตอนนี้คือกลั่นสร้างสมบัติวิญญาณให้มากขึ้น
เขาเพียงแต่ซ่อมร่มหยาหยาซึ่งได้รับความเสียหายเพราะฝูอิง
เขาสามารถรู้สึกว่าร่างกายของเขาอ่อนลงแต่เขาต้องการใช้หินดวงดาวเพิ่มขึ้น”
“ข้าต้องการสร้างสมบัติวิญญาณ” หน้าของเสี่ยวเอ้อสลดเสียงของเขาสะอื้นเหมือนเด็ก
“ไม่มีทาง ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าสร้างสมบัติก่อน!” ถังเทียนส่ายหน้ารัวและตอบ “เสี่ยวเอ้อ เจ้าต้องพักมากกว่านี้ ยังมีอะไรต้องทำตอนนี้หรือ? อย่าห่วง ข้าจะช่วยเจ้าล้างแค้นให้อย่างแน่นอน”
เสี่ยวเอ้อหน้าบึ้งทันที “ข้าต้องการสร้างสมบัติวิญญาณ!”
เขารู้สึกเศร้ากับการยืนกรานของถังเทียน กลุ่มผู้น่าเกลียดที่ยอมแพ้
พวกเขาแค่จับตามองดูสมบัติวิญญาณ
เสี่ยวเอ้อตัดสินใจไว้ก่อนแล้วว่าจะไม่ทำสมบัติวิญญาณใดๆ ให้พวกเขา แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้
ตอนนี้เขาต้องการใช้วิชาของเขาเพื่อสร้างสมบัติวิญญาณที่ใช้รักษาตัวเขาเองได้
เขามีแรงกระตุ้นมากพอจะฆ่าใครในตอนนี้ก็ได้
“เจ้าต้องการสร้างจริงๆ
หรือ?” ถังเทียนถาม
“ถูกแล้ว!” เสี่ยวเอ้อไม่สบตาถังเทียน
ถังเทียนไปเรียกประชุมเซียนทุกคน
เซียนทุกคนตื่นเต้นเมื่อพวกเขาได้ยินว่าเสี่ยวเอ้อเตรียมจะสร้างสมบัติวิญญาณ อย่างไรก็ตาม สมบัติวิญญาณไม่ใช่ว่าจะได้รับกันง่ายๆ
ขอเพียงพวกเขาร่วมสู้กับสมาพันธ์ชาวยุทธ
พวกเขาจะได้รับเป็นรางวัล
ถังเทียนประหลาดใจที่ไม่มีใครลังเล
ที่จะร่วมสู้กับเขา
เซียนทุกคนเข้าใจวัตถุประสงค์ของเขาแล้ว เนื่องจากพวกเขานับเป็นคนของกลุ่มดาวหมีใหญ่แล้ว พวกเขาจะต้องสู้เพื่อกลุ่มดาวสักวัน เมื่อกลุ่มดาวทำสงครามกับสมาพันธ์ชาวยุทธ พวกเขารู้ว่าพวกเขาเองจะไม่ถูกปล่อยออกจากกลุ่มแน่นอน แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมสงครามก็ตาม
ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมไม่ขอรับสมบัติวิญญาณเสียตอนนี้เลย
อย่างน้อยเมื่อเข้าสู่การสู้รบก็มีโอกาสรอดชีวิตสูงมาก
พวกเขาได้บอกกับญาติสนิทมิตรสหายลับๆ
ขอให้พวกเขาย้ายไปกลุ่มดาวหมีใหญ่
หลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนก่อน ตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปในม่านพลัง
การพ่ายแพ้ยับเยินของฝูอิงยังอยู่ในใจทุกคน
ป้อมปราการประตูเดี่ยวดูเหมือนจะลึกลับมากยิ่งขึ้นสำหรับพวกเขา
ทันใดนั้น
ถังเทียนสงบจิตใจตัวเองได้หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อได้เห็นเซียนกลุ่มใหญ่ต่อหน้าเขา ถังเทียนรู้สึกว่าโชคดีที่มีความคิดใช้ประโยชน์พวกเขา คงเป็นการสูญเปล่าหากจะใช้เซียนพวกนี้ไปรบ
หลังจากพ่ายแพ้เสียหายหนัก
ฝูอิงไม่ยอมอ่อนข้อ
และเคลื่อนกำลังกองพลใบไม้แดงตั้งใจจะทำสงครามใหญ่
ถังเทียนไม่กลัวแม้แต่น้อย กลับมีความกระตือรือร้นเดินหน้าสู้ต่อไป
ถ้าไม่แก้แค้น เขาก็ไม่ใช่ถังเทียน
5 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ฝูอิงอย่ามโนค่ะ😎
โถ่ๆคิดจะใช้คนมากมาข่ม
ถึงเวลาเปิดตัวกองทัพจักรกลใหม่สักที
อย่าแหย่มังกรหลับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น