วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 38 ยุทธศาสตร์ศาสนจักร

เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร ตอนที่ 38  ยุทธศาสตร์ศาสนจักร
หลังจากซีซาร์จากไปแล้ว  กลุ่มของลินลี่ย์มุ่งหน้าไปยังเมืองเบซิลในเช้านั้นทันที  ครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาไม่รีบเร่งจนเกินไป  แต่เพราะห้าพี่น้องบาร์เกอร์เป็นนักรบระดับแปด ความเร็วในการเดินทางนั้นจึงค่อนข้างรวดเร็ว

ตกกลางคืนในวันต่อมากลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงเมืองที่อยู่ใกล้เคียงเมืองเบซิล
 “เมืองนี้มีหมู่บ้านชื่อหมู่บ้านเทียมเมฆ”  ซาสเลอร์หัวเราะขณะแนะนำชื่อเมือง  “ในอดีต ข้าใช้เวลาเกินสิบปีในเมืองน้อยๆ แห่งนี้  ผู้คนที่นี่สัตย์ซื่อถือมั่น และพวกเขาไม่ค่อยโต้ตอบกับโลกภายนอก  กล่าวโดยทั่วไปก็คือ  น้อยคนนักที่จะมาที่นี่  มันสงบสุขมาก”
ลินลี่ย์พยักหน้า
สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือสถานที่สงบ  ตอนที่พวกเขาสู้กับสเตลห์นี้  เขาเกือบจะเสียชีวิตไปแล้ว  ลินลี่ย์ตั้งใจแล้วว่าจะต้องฝึกจนกว่าอย่างน้อยก็เป็นนักรบระดับเก้าในร่างมนุษย์  ด้วยวิธีการเช่นนั้นหลังจากแปลงร่างมังกรพลังของเขาน่าจะเป็นพลังระดับเซียน
 “ถ้าข้าสามารถบรรลุถึงระดับเซียนได้  และอีกสองสามปีจากนั้นเมื่อข้าผสานความรู้ความเข้าใจหลักการใช้ดาบกับความเร็วสูงสุดของข้า  ต่อให้ข้าเผชิญหน้ากับสเตลห์อีก  ข้าก็ยังหนีเอาตัวรอดได้ ต่อให้ข้าชนะไม่ได้ก็ตาม”
ลินลี่ย์เข้าใจพลังของร่างมังกรแปลงที่เขามีเป็นอย่างดี
หลังจากดื่มเลือดมังกรและแก่นพลังมังกรของมังกรเกราะหนาม  ร่างแปลงมังกรของลินลี่ย์ก็ได้รับสืบทอดพลังของมังกรเกราะหนามทั้งความเร็วและพลังป้องกันมาด้วย
ส่วนห้าพี่น้องบาร์เกอร์จ้องมองดูเมืองที่สงบ นัยน์ตาของพวกเขามั่นคงและแน่วแน่
 “คงจะมีสักวันแน่ที่ข้าจะต้องล้างแค้นให้ภรรยาและลูกของข้า”  บาร์เกอร์และน้องของเขายังคงรับรู้สถานการณ์ระหว่างลินลี่ย์ ซาสเลอร์และศาสนจักรเจิดจรัสด้วย
ไม่ต้องสงสัยกันเลยในเวลานี้ คนกลุ่มนี้มีลินลี่ย์เป็นผู้นำ
คนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยศัตรูของศาสนจักรเจิดจรัสล้วนๆ
ทางด้านตะวันตกของหมู่บ้านยอดเมฆ ลินลี่ย์และคนของเขาร่วมทำธุรกรรมกับผู้นำชุมชนท้องถิ่นบางส่วน ใช้เงินหมื่นเหรียญทองจ้างแรงงานหลายคนมาช่วยสร้างที่พักใหม่
หมื่นเหรียญทองในเมืองชนบท  ด้วยจำนวนเงินขนาดนี้เพียงพอจะสร้างที่พักอยู่ได้อย่างเหลือเฟือ
ในวันถัดมา ลินลี่ย์พารีเบ็คกาและลีนามายังที่นี้  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปลินลี่ย์นำกลุ่มของเขาทุกคนมาที่นี่เงียบๆ คร่ำเคร่งอยู่กับการฝึกฝนของพวกเขา
 “ครืนนน”
คลื่นทะเลซัดสาดกระทบฝั่งก่อเกิดเป็นฟองแตกกระจายนับไม่ถ้วน เหนือพื้นผิวมหาสมุทรสีฟ้าเขียว ร่างมนุษย์คนหนึ่งที่เห็นได้ชัดบินผ่านมาด้วยความเร็วสูง  ในช่วงเวลาสั้นๆ ร่างมนุษย์ผู้นั้นก็มาถึงชายฝั่ง
 “ตอนนี้หลายอย่างกลับกลายเป็นซับซ้อนแล้ว” สเตลห์ผิดหวังมาก
ทางศาสนจักรให้ความสำคัญกับร่างทั้งห้าไว้เป็นอย่างสูง  มีแนวโน้มว่ายินดียอมสละนักสู้ระดับเซียนคนหนึ่งหรือยอมล่วงเกินจักรวรรดิโอเบรียนได้ เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน  ไฮเดนส์จึงขอให้เขา..สเตลห์ช่วยจัดการให้
แต่ผลที่ออกมาก็คือ....
สเตลห์จ้องมองมหาวิหารเจิดจรัสที่อยู่ห่างออกไป
 “วูบบบ”  สเตลห์เหาะขึ้นอากาศอีกครั้ง  อัศวินรอบๆ วิหารเจิดจรัสเมื่อเห็นสเตลห์บินตรงเข้ามา  พวกเขาอดเครียดไม่ได้  แต่หลังจากที่เห็นว่าเป็นสเตลห์ พวกเขาจึงสงบลงได้
ภายในวิหารเจิดจรัสชั้นที่เก้า
 “โอว, สเตลห์กลับมาแล้ว”  ไฮเดนส์มองเห็นสเตลห์บินกลับมาจากทางหน้าต่างอยู่แล้ว  “เกิดอะไรขึ้น?  ทำไมสเตลห์กลับมาคนเดียว?”
ไฮเดนส์รู้สึกถึงลางร้าย
 “แอ๊ด”  โดยไม่แจ้งบอกล่วงหน้า  ประตูห้องเขาถูกเปิดออก  สเตลห์ที่เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งพันปี เดินเข้ามา
 “สเตลห์, เกิดอะไรขึ้น?  พวกเขาอยู่ที่ไหน?  ร่างระดับแปดทั้งห้าร่างอยู่ที่ไหน?”  ไฮเดนส์ขมวดคิ้วและรีบถาม
สเตลห์ส่ายศีรษะ  “ฝ่าบาท  ร่างทั้งห้านี้จะไม่ใช่ทางเลือกของเราอีกต่อไปแล้ว”
 “เกิดอะไรขึ้น?”  ไฮเดนส์หน้าสลด
ร่างทั้งห้าคือตัวแทนของนักสู้ระดับเซียนชั้นสูงห้าคน  พวกเขามีความสำคัญต่อศาสนจักรเจิดจรัสอย่างที่มิอาจเข้าใจได้
สเตลห์พูดด้วยเสียงเบาและประหม่า  “ฝ่าบาท เดิมทีข้ากำลังคุ้มกันห้าพี่น้องมาในระหว่างทาง  แต่เมื่อเราเข้าเมืองเดโกเราเจอกับคนสองคน”
 “สองคนไหน?” ไฮเดนส์ไม่เชื่อว่าจะมีคนที่หยุดสเตลห์ไว้ได้
 “ลินลี่ย์  ซาสเลอร์” เสียงของสเตลห์เย็นชา
 “ลินลี่ย์?  ซาสเลอร์?”  ไฮเดสน์สะดุ้ง
ลินลี่ย์ผู้นี้หายสาบสูญไปสามปี  ตอนนี้กลับโผล่ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอย่างนั้นหรือ?
ไฮเดนส์อดนึกย้อนไปเมื่อสามปีก่อนไม่ได้  ไฮเดนส์ไม่ต้องการจะฆ่าสุดยอดอัจฉริยะอย่างลินลี่ย์อย่างแท้จริง  แต่เขาไม่มีทางเลือก  อย่างไรก็ตาม เมื่อสามปีที่แล้วหลังจากลินลี่ย์หายไปจากเมืองเฮสก็ไม่มีผู้ใดพบร่องรอยของเขาอีกเลย
แต่ตอนนี้ลินลี่ย์สุมหัวกันกับซาสเลอร์หรือ?
 “เจ้ากำลังบอกข้าว่าเป็นลินลี่ย์ที่มาช่วยซาสเลอร์ไว้ใช่ไหม?”  ไฮเดนส์ตาเป็นประกาย
สเตลห์พยักหน้า  “ถูกแล้วลินลี่ย์แข็งแกร่งมากๆ  พวกนักสู้ที่ต่ำกว่าระดับเซียนลงมาไม่มีใครสู้เขาได้  มีแต่เพียงนักสู้ชั้นเซียนเท่านั้นหรือนักสู้ที่มีพลังมากเท่านั้นจึงจะเอาชนะเขาได้”
 “นักสู้ระดับเก้าหกคน  เขาสามารถฆ่าได้มากขนาดนั้นเชียวหรือ?”  ไฮเดนส์พบว่ายากจะเชื่อถือ
สเตลห์พยักหน้าอย่างขมขื่น  “ฝ่าบาท ข้าต้องแจ้งให้ท่านทราบว่าลินลี่ย์ยังมีอสูรเวทที่ทรงพลังมากอีกสองตัว  ทั้งสองน่าจะเป็นอสูรเวทระดับเก้าชั้นสูงและนอกจากนี้ ในเรื่องความรู้ความเข้าใจหลักการของนักรบ ลินลี่ย์เข้าใกล้ระดับเซียนชั้นสูงแล้ว”
 “เข้าใกล้ระดับเซียนชั้นสูง?”  ไฮเดนส์ตกตะลึงหนัก
ที่สำคัญระดับความเข้าใจของนักสู้ชั้นสูงเมื่อมีแล้วก็ยากจะก้าวหน้าไปที่ระดับต่อไปง่ายๆ  มีคนที่ต้องใช้เวลาฝึกเป็นร้อยปีแต่ก็ยังล้มเหลวในการพัฒนาก้าวหน้า
 “ใช่แล้ว ลินลี่ย์ก้าวหน้าไปถึงระดับใช้พลังฟ้าได้แล้ว แบบแผนการโจมตีปัจจุบันของเขาแปลกประหลาดและเฉพาะตนมาก  นอกจากนี้ข้ายังรู้สึกได้ในตอนนี้  เขาแค่เพียงเชี่ยวชาญบางส่วนในระดับนั้น ถึงอย่างนั้นเขายังสามารถทำให้ข้าบาดเจ็บเล็กน้อยได้”  สเตลห์รู้สึกจนใจเมื่อนึกถึงพลังโจมตีที่แปลกประหลาดของลินลี่ย์ สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน
 “ข้าไม่เคยเผชิญกับการโจมตีเช่นนั้น  นั่นเป็นรูปแบบการโจมตีที่ไม่ใช่ปราณยุทธไม่เกี่ยวกับพลังภายนอก มัน...”  สเตลห์ชะงักไม่สามารถใช้คำที่เหมาะสมมาอธิบายได้
เมื่อได้ยินสเตลห์พูดหลายเรื่องเช่นนั้น  ไฮเดนส์รู้สึกประหลาดใจมาก
พลังโจมตีซึ่งทำให้นักสู้ระดับเซียนชั้นสูงอย่างสเตลห์ต้องบาดเจ็บเล็กน้อยในตัวมันเอง น่าประหลาดใจมาก
 “มีอะไรที่พิเศษกับพลังโจมตีของเขา?  แล้วจะป้องกันพลังโจมตีนั้นได้ยังไง?”  ไฮเดนส์ถามทันที
สเตลห์พยักหน้า  “พลังโจมตีของเขาผ่านเข้าไปตามกล้ามเนื้อและแปลงเป็นพลังเข้าใส่อวัยวะภายในโดยตรง  กล่าวอีกอย่างหนึ่ง พลังป้องกันชั้นนอก ไม่ว่าจะทรงพลังแค่ไหนก็ล้วนเปล่าประโยชน์”
 “โอว?”  ไฮเดนส์ขมวดคิ้ว
 “วิชานี้คืออาวุธที่มุ่งโจมตีอวัยวะภายใน  เพื่อป้องกันวิชานี้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือใช้ปราณยุทธเพื่อปกป้องอวัยวะภายในร่างกายทั้งหมดโดยคลุมพลังปราณยุทธไปบนอวัยวะภายใน”
ความจริงพลังสั่นสะเทือนนี้ซึ่งเป็นพลังโจมตีที่ลินลี่ย์สร้างขึ้นเมื่อผ่านชั้นพลังป้องกันไปได้ก็จะสูญเสียพลังไปเล็กน้อย
แต่เพราะนี่คือคลื่นสั่นสะเทือน ไม่ว่าพลังป้องกันภายนอกของท่านจะมากเพียงไหน ก็ยังส่งพลังของมันผ่านแนวป้องกันของท่านไปได้  อย่างไรก็ตาม ถ้าอวัยวะภายในของคู่ต่อสู้มีความหนาแน่นสูง มีชั้นปราณยุทธป้องกันไว้  คลื่นสั่นสะเทือนจะถูกปราณยุทธทำให้อ่อนลง เมื่อผ่านไปถึงอวัยวะภายในจะทำให้ระดับการคุกคามนั้นต่ำลง
 “ไม่มีทางป้องกันต่อต้านพลังโจมตีชนิดนี้ได้อย่างสิ้นเชิง  ทางเลือกเดียวก็คือใช้ปราณยุทธในปริมาณที่มากเพื่อให้เกิดผลที่ดีขึ้น”  สเตลห์ถอนหายใจชื่นชม  “แล้วอีกอย่าง ข้ารู้สึกได้ว่าลินลี่ย์เพิ่งจะเข้าใจเคล็ดนี้เมื่อไม่นานนี้เอง  ในอนาคตพลังโจมตีของเขามีแนวโน้มจะทรงพลังมากกว่านี้  นี่เป็นพลังโจมตีที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา”
สเตลห์แสดงความเห็นไว้สูงส่งกับเคล็ดวิชานี้
นี่ยิ่งทำให้ไฮเดนส์กังวลมากขึ้น
 “เจ้าลินลี่ย์นี้ต้องถูกฆ่า”  ตอนนี้ไฮเดนส์เริ่มจะกังวลมากขึ้น  ถ้ายังปล่อยให้ลินลี่ย์พัฒนาฝีมือต่อไปอย่างนี้  เขาคงเป็นภัยคุกคามต่อศาสนจักรเจิดจรัสจริงๆ
 “ว่าต่อไป  ข้าแน่ใจว่าสองคนนี้ไม่มีพลังพอจะหยุดยั้งเจ้าได้”  ไฮเดนส์พูดเสียงทุ้ม
สเตลห์พยักหน้า  “แน่นอน ทั้งลินลี่ย์และซาสเลอร์อยู่แค่เพียงระดับเก้า  แต่ขณะที่ข้าเตรียมจะสังหารลินลี่ย์ มีคนผู้หนึ่งไม่ทราบโผล่มาจากไหน  เขาคือซีซาร์ ราชันย์มือสังหาร ซีซาร์!”
 “ซีซาร์?”  ไฮเดนส์อุทานอย่างตกตะลึง  “เขาไม่น่าจะกล้าเผชิญหน้ากับศาสนจักรเจิดจรัสโดยตรง”
 “ผิดแล้ว  เขากล้า”  สเตลห์ถอนหายใจ  “ซีซาร์บรรลุระดับเทพแล้ว”
 “บรรลุระดับเทพ!”
คำพูดเหล่านี้เหมือนสายฟ้าฟาดเข้าไปในใจของไฮเดนส์ ทำให้เขารู้สึกอึ้งมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ยังมีนักสู้ระดับเทพปรากฏขึ้นในทวีปยูลาน
 “ระดับเทพ?”  ไฮเดนส์จ้องสเตลห์
 “ถูกแล้ว ระดับเทพ”  สเตลห์พยักหน้าอีกครั้ง
ไฮเดนส์เงียบอยู่นาน
 “ซีซาร์ว่าอะไรบ้าง?”  ไฮเดนส์พูดอย่างใจเย็น
 “ซีซาร์บอกว่า ในอนาคต  ศาสนจักรเจิดจรัสต้องไม่จับกุมห้าพี่น้องเหล่านั้นอีก  มิฉะนั้นเขาจะละเลงโลหิตฆ่าตามวิธีของเขาล้างเกาะศักดิ์สิทธิ์”  คำพูดของสเตลห์เหมือนค้อนหวดเข้าในใจของไฮเดนส์
ร่างประทับระดับแปดเหล่านี้หมายถึงเทวทูตระดับเซียนชั้นสูง
ความผิดหวังที่หนักเกินไปนี้  ไฮเดนส์ไม่ต้องการยอมรับ
เขาไม่ต้องการยอมรับ!!!
 “ทำไมซีซาร์ถึงพูดเช่นนั้น?”  ตาของไฮเดนส์หรี่แคบ  “ซีซาร์ในความเข้าใจของข้า เขาเป็นบุรุษที่ไม่สนใจอำนาจหรือดินแดน  เขามีความสุขกับชีวิตที่อิสระเสรี เขาไม่มีทางใช้ความพยายามแม้แต่น้อยนิดเพื่อคนแปลกหน้า”
นี่ต้องมีเหตุ ซีซาร์ความจริงแล้วไม่สนใจว่าคนอื่นจะเป็นหรือตาย
 “คนเกียจคร้านอย่างซีซาร์ยินดีจะทำขนาดนี้เชียวหรือ...”
ไฮเดนส์ขมวดคิ้วทันที และนัยน์ของเขาทอประกายวูบ
 “ข้าเข้าใจแล้ว”  ไฮเดนส์ถอนหายใจ
 “เหตุผลอะไร ฝ่าบาท?”  สเตลห์ถาม
ไฮเดนส์ถอนหายใจอีกครั้ง  “ในบันทึกที่ศาสนจักรบันทึกเรื่องซีซาร์ไว้ มีข้อมูลว่าในช่วงกลียุคเมื่อห้าพันปีที่แล้ว  ซีซาร์มีสหายรักที่ต่อสู้เคียงข้างกันคนหนึ่งชื่อว่าอาร์มันด์ คนที่ซีซาร์ให้คุณค่าความสำคัญนั้นก็คือลูกหลานของอาร์มันด์”
 “นักรบอมตะ?”  สเตลห์เริ่มเข้าใจเช่นกัน
 “ถูกแล้ว ข้ามักประหลาดใจอยู่เสมอว่าร่างระดับแปดทั้งห้าจู่ๆ มาปรากฏอยู่ในทวีปยูลานได้ยังไง  แต่ก็สมเหตุสมผลแล้ว  นักรบอมตะคือนักรบที่มีพลังภายนอกมากที่สุดในบรรดาสี่สุดยอดนักรบ”
ไฮเดนส์นิ่งอยู่นาน  ความคิดของเขากลับคืนเป็นปกติ
 “เราไม่อาจแตะต้องพี่น้องทั้งห้าคนได้  นั่นไม่ต้องสงสัย”  ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่สามารถรุกรานยอดฝีมือระดับเทพได้แน่
 “ระดับพรสวรรค์ของลินลี่ย์น่ากลัวจริงๆ  เราจะปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปไม่ได้”  ไฮเดนส์มองดูสเตลห์  “สเตลห์, ซีซาร์ไม่ได้พูดว่าเขาจะรบกับศาสนจักรเจิดจรัสเพื่อลินลี่ย์ใช่ไหม?”
สเตลห์พยักหน้า
ไฮเดนส์ยิ้มอย่างมั่นใจ
 “นั่นค่อยเป็นเหมือนเขา  แม้ว่าเขาจะชอบประติมากรรมหิน  แต่เขาจะไม่เข้าต่อสู้กับศาสนจักรเจิดจรัสเพียงเพื่อยอดประติกรคนหนึ่งแน่นอน”
ซีซาร์เป็นคนโดดเดี่ยวที่หยิ่ง
มีคนอยู่น้อยคนที่เขายินดีจะทุ่มเทชีวิตให้  และลินลี่ย์ไม่ใช่หนึ่งในนั้น
 “สเตลห์ ไปพักเสียเถิด, เมื่อเจ้าออกไป ช่วยบอกให้คนตามลินดอนมาพบข้า” ไฮเดนส์สั่ง
 “รับบัญชา ฝ่าบาท”
สิบนาทีต่อมามีเสียงเคาะอยู่หน้าประตู
 “เข้ามาได้” ไฮเดนส์กล่าวอย่างใจเย็น
สตรีงามสูงโปร่งมีผมสีเงินเดินเข้ามาหา  ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางคือสตรีที่งดงามมากจนทำให้บุรุษคลั่งไคล้ได้  แต่ลักษณะความเย็นชาของนางทำให้คนอื่นๆ ไม่กล้าเข้าใกล้นาง
 “ฝ่าบาท”  ลินดอนคำนับ
ไฮเดนส์ออกคำสั่งทันที  “พรุ่งนี้ จงพาห้าเทวทูตไปกับเจ้ามุ่งหน้าสู่จักรวรรดิโอเบรียน เป้าหมายคือทำภารกิจฆ่าลินลี่ย์  อีกสักครู่ข้าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับลินลี่ย์ส่งไปให้เจ้า”
 “เพคะ ฝ่าบาท”
ลินดอนคือเทวทูตเจิดจรัสซึ่งประทับอยู่ในร่างระดับหก  แม้ว่าเป็นเรื่องยากจะหาร่างระดับเจ็ดและแปดได้  แต่ร่างระดับหกก็ค่อนข้างปกติ  ดังนั้นศาสนจักรเจิดจรัสจึงมีเทวทูตระดับเก้าไม่กี่คน
 “จำไว้, เจ้าต้องฆ่าลินลี่ย์ ไม่ว่าต้องทุ่มเทแค่ไหนก็ตาม” ไฮเดนส์สั่งย้ำอีกครั้ง
ลินดอนจ้องจากนั้นมีสีหน้ายอมรับ
เทวทูตมีพลังที่ประหลาด  แม้แต่เทวทูตสองปีกที่อ่อนแอที่สุดก็มีพลังชั้นเซียนระดับต้น  พลังที่แท้จริงของลินดอนนั้นแกร่งมาก  อย่างไรก็ตามข้อจำกัดของร่างประทับทำให้พวกเขาไม่อาจสำแดงพลังได้เต็มที่
แต่ถ้าพวกเขาทุ่มเทพลังทั้งหมด..
พวกเขาสามารถปลดปล่อยพลังระดับเซียนของพวกเขาเพื่อแลกชีวิตก็ได้
ที่สำคัญที่สุด... เทวทูตทั้งหกสามารถก่อตั้งพยุหะเทวทูตรบในตำนานได้เมื่อทั้งหกคนรวมพลังกัน  แม้แต่ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นต้น  ก็อาจถูกฆ่าได้  ไม่ต้องพูดถึงลินลี่ย์เลย
 “ไปได้”
ไฮเดนส์พูดอย่างสงบ
ที่สำคัญพวกเขาคือเทวทูตระดับเก้าหกคน   เพื่อจะฆ่าลินลี่ย์ให้ได้  เขายินยอมเสียสละคนมากกว่าหก ถ้าจำเป็น  ที่สำคัญลินลี่ย์มีพรสวรรค์ธรรมชาติที่ทำให้ไฮเดนส์กลัว
 “เขาจะเติบโตต่อไปไม่ได้!”

19 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

มาแว้วๆๆๆๆ

Unknown กล่าวว่า...

จะรอจนกว่าจะล้างแค้นแทนพ่อแม่ได้

Frankmartinn กล่าวว่า...

ฮิบ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Pcha กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

zyntatar กล่าวว่า...

เหมือนส่งมาให้อัพเวลอะ

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

ตอนนี้กำลังสร้างฐานไว้ฟาร์มอยู่

donnthai กล่าวว่า...

Thank You

Bubble กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Tong คนป่วย กล่าวว่า...

ปักหลัก สร้างทัพ สำหรับสู้ศึก มีทยอยส่งคนมาให้ซ้อมมือพร้อม

ฝุ่น กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ชัชวาล กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Reeds กล่าวว่า...

ขอบคุณคะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ สนุกมาก

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

ไอเดล นี้จบม่สวยแน่นอน

Unknown กล่าวว่า...

มันมากครับขอบคุณจากใจเลย

แสดงความคิดเห็น