วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 45 ลงมืออย่างเลวร้าย

เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร ตอนที่ 45 ลงมืออย่างเลวร้าย

ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นงานที่ลินลี่ย์เพิ่งทำเสร็จสิ้นเมื่อไม่นานนี้  เพราะทักษะในปัจจุบันของลินลี่ย์  ทำให้การสลักหินของเขาก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน หญิงสาวที่มีผมสีเงินผู้นี้ได้ตรวจสอบประติมากรรมจากทุกมุมอย่างรอบคอบ

 “ยอดเยี่ยม  ยอดเยี่ยมจริงๆ”
หลังจากตรวจสอบดูรูปประติมากรรมด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างดีชั่วเวลาหนึ่ง  นางหันศีรษะมามองลินลี่ย์  “พี่ลีย์,  ข้ารู้สึกว่าประติมากรรมของท่านดีกว่าของที่อาจารย์ข้ามี  แต่ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี”
แม้ว่าจะมีเด็กสาวน่ารักอย่างนั้นมองดูเขาอย่างนี้  แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกหงุดหงิด
 “แม่นางดันลิน  ข้าจำเป็นต้องฝึกต่อ”  ลินลี่ย์พูดอ้อม
หญิงสาวผมเงินพยักหน้า  “ก็ได้,  ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”  ทันทีที่นางพูดคำเหล่านี้ ลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่แล้วหญิงสาวผมสีเงินก็ยังคงพูดต่อไปว่า "อย่างไรก็ตามพี่ลีย์หลังจากจบการฝึกแล้วท่านจะต้องสอนวิธีแกะสลักหินให้ข้าบ้าง"
ลินลี่ย์ทำหน้าแข็ง  “งานประติมากรรมคือหนึ่งในศิลปะสุดยอด  ข้าจะสอนวิธีการลับให้คนอื่นได้ง่ายๆ อย่างไร?”
ความจริง ประติกรรมระดับอาจารย์ใหญ่จะไม่รับศิษย์ง่ายๆ อยู่แล้ว
 “โอว”  หญิงสาวผมเงินก้มหน้าด้วยความผิดหวัง  และเริ่มเดินไปใกล้กำแพง จากนั้นด้วยการกระโจนง่ายๆ นางก็โดดไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
 “ในที่สุดนางก็ไปเสียที”  ลินลี่ย์ถอนหายใจยาว
แต่จากนั้นเด็กสาวผมเงินก็โผล่หัวออกมาอยู่เหนือกำแพง  “พี่ลีย์ ท่านฝึกให้ดีเล่า เสร็จแล้วข้าจะมาหาท่าน”  หลังจากพูดแล้ว นางแยกจากไปอีก
ลินดอนกลับไปที่ห้องนอนของนาง  นั่งลงบนเก้าอี้  หน้าของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชาตามปกติ  และนัยน์ตานางเย็นชาและไร้เมตตาเหมือนเคย  ถ้าลินลี่ย์เห็นนาง  เขาคงไม่ยอมเชื่อแน่ว่าจะมีคนทำได้อย่างนั้น
 “ลินลี่ย์ผู้นี้มากระแวงคนทุกคนและไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เขาง่ายๆ นี่เป็นเรื่องลำบากจริงๆ”
ในฐานะเทวทูตประทับ ความจริงลินดอนไม่ต้องให้นางและเทวทูตคนอื่นต้องมาตายพร้อมกับลินลี่ย์
อย่างไรก็ตาม ในฐานะเทวทูตตนหนึ่ง นางไม่สามารถขัดคำสั่งได้
ไปทีละขั้นตอน
นางน่าจะฆ่าลินลี่ย์ได้ง่ายๆ  นั่นคงจะดีกว่ายอมสละชีวิตของนางไม่ใช่หรือ?
 “เพราะการทุ่มเทดูแลที่ลินลี่ย์แสดงต่อเจนน์และคีน ทำให้ไม่รู้สึกว่าเขาจะสงสัยอะไรเรามาก”  ลินดอนนึกถึงแผนนี้ได้หลังจากรู้เรื่องที่ลินลี่ย์ปฏิบัติต่อเจนน์และคีนอย่างไร
ตราบใดที่ลินดอนสามารถเข้าไปใกล้ตัวลินลี่ย์ และเพราะนางมีพลังของนักสู้ระดับเก้า  นางสามารถลอบเข้าไปใกล้ร่างมนุษย์ของเขา นางจะมีโอกาสถึง 90% ในการฆ่าเขาในสถานการณ์เช่นนั้น
 “บางทีเป็นเพราะเขารู้สึกได้ถึงพลังของข้า”  ลินดอนส่ายหัว  “ลินลี่ย์ผู้นี้ไม่มีความรู้สึกสงสัย  ข้าพูดคำว่าอาจารย์ข้าไปเจ็ดคำ  แต่เขาก็ยังไม่ถามข้าว่าอาจารย์ข้าเป็นใคร”
ความจริงลินดอนเตรียมแผนไว้เป็นพรวนสำหรับไว้หลอกลินลี่ย์
แม้ว่าลินดอนจะดูเหมือนว่าอายุน้อยมาก  แต่ในความเป็นจริง อายุจริงของนางอาจจะมากกว่าเดลิน โคเวิร์ทมากก็ได้  เวลาหมื่นปีที่นางใช้เวลาอยู่ในดินแดนเทพของมหาเทพเจิดจรัสไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนางเหมือนกับหลายทศวรรษที่นางใช้ไปที่นี่
…..

 “จากบุคลิกและทัศนคติของหญิงสาวผมเงิน ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหญิงที่เจ้าอารมณ์”  ลินลี่ย์หงุดหงิด  “แต่พลังของนาง...”
ความจริงลินลี่ย์ระแวงกองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสอย่างต่อเนื่อง
เท่าที่ลินลี่ย์กังวล กองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสน่าจะอยู่ใกล้ๆ เขาแล้วในตอนนี้  และตอนนี้นักรบสาวระดับเจ็ดก็โผล่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย?  แม้ว่าลักษณะของนางจะน่ารักกระตือรือร้น  แต่ลินลี่ย์ไม่ยอมเชื่อนางง่ายๆ
ก่อนที่เขาจะเชื่อใครบางคน  เขาจะใช้กำลังของพวกนั้นไตร่ตรองก่อน
ถ้านางเป็นสาวน้อยอ่อนแอผู้ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ ทัศนคติของลินลี่ย์บางทีอาจดีกว่านี้มาก ที่สำคัญ ต่อให้ท่านให้อาวุธสตรีอย่างนี้  นางก็คงไม่สามารถทำร้ายเขาได้  แต่เด็กสาวผู้นี้แตกต่างออกไป
ถ้านางจู่โจมทำร้ายเขาในระยะใกล้ๆ กะทันหัน  เป็นไปได้มากว่านางอาจทำร้ายเขาจนบาดเจ็บหนักหรือฆ่าเขาก็ได้
 “หรือว่ามือสังหารที่ศาสนจักรเจิดจรัสส่งมาไล่ล่าข้าครั้งนี้จะเป็นเด็กสาวคนนี้?”  แต่เมื่อคิดถึงความไร้เดียงสา ความบริสุทธิ์ในดวงตาของเด็กสาวผมเงิน  ลินลี่ย์พบว่ายากจะเชื่อ
คืนนั้น
เด็กสาวผมเงินมาอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้นางเข็นรถอาหารโรงแรมมาอยู่ที่หน้าประตู
 “พี่ลีย์  ข้าถือโอกาสทำหน้าที่แทนพนักงานเอาอาหารค่ำมาส่งให้ท่าน”  ลินดอนส่งเสียงใสแจ๋วดังมาจากข้างนอก  ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม  เมื่อมองดูนาง  เขารู้สึกว่าปวดหัว
 “เจ้าอีกแล้ว?”
 “มีปัญหาอะไรเหรอ?”  ลินดอนกระเง้ากระงอด  “พี่ลีย์  ข้าเอาอาหารค่ำมาให้ท่าน  ดังนั้นท่านสอนการสลักหินให้ข้าได้ไหม?  ตกลงนะ”
 “ไม่”  ลินลี่ย์ปฏิเสธ
 “ขี้ตืด” ลินดอนย่นจมูก  “เมื่อข้าทำอาหารให้อาจารย์ข้า  อาจารย์ของข้าจะทำทุกอย่างให้ข้าเมื่อข้าขอเขา  ท่านช่างตระหนี่โดยแท้”
 “อาจารย์เจ้าก็คืออาจารย์ของเจ้า  แต่ข้าไม่ใช่”  ลินลี่ย์ไม่เห็นด้วย
คนแปลกหน้าผู้นี้อย่างน้อยเป็นนักสู้ระดับเจ็ด และบางทีอาจสูงมากกว่านั้น  ลินลี่ย์ไม่ยอมให้นักสู้สตรีผู้นี้เข้าใกล้เขาแน่  ขณะที่การสอนวิธีแกะสลักหินให้ใครก็ตามจำเป็นต้องมีการใกล้ชิดเป็นธรรมดา
ที่สำคัญ ช่วงเวลาอย่างนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาคาดว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะลงมือต่อเขา
 “จำไว้, ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาส่งอาหารค่ำให้ข้าอีก”  ลินลี่ย์พูดเย็นชา
ลินดอนสีหน้าเปลี่ยนและจ้องมองลินลี่ย์อย่างไม่พอใจ  “เหลวไหล เจ้าไม่รู้หรือว่า เมื่อไหร่มีคนทำดีต่อเจ้า  ข้าจะไปฟ้องอาจารย์ของข้าแน่นอน  เขาจะมาฆ่าเจ้าถึงที่นี่แน่”
 “ฆ่าข้า?”  ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวมีสีหน้าที่โกรธเคือง
 “แน่นอน  อาจารย์ของข้าแข็งแกร่งทรงพลังมาก”  เด็กสาวผมเงินพูดด้วยความหยิ่งผยอง
 “อาจารย์ผู้แข็งแกร่งของเจ้าคือใครกัน?”  ลินลี่ย์ถาม
เด็กสาวผมเงินพูดอย่างหยิ่งยโส  “ข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้  ชื่อของอาจารย์ของข้าก็คือแฮนด์เซน”
 “เซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซนน่ะหรือ?”  ลินลี่ย์สะดุ้ง
ในทั่วจักรวรรดิโอเบรียน ถ้าเทพสงครามถูกมองว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง  อย่างนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ายอดฝีมือที่สูงสุดเป็นอันดับสองก็คือเซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซน  เซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซนเป็นเซียนระดับสูงมาหลายปีแล้วและยังไม่เคยพ่ายแพ้ในการประลองฝีมือกับยอดฝีมือระดับเซียนคนใดมาก่อน
เขาเป็นผู้สมบูรณ์พร้อมทั้งในพลังรุกและพลังรับ
นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่เย็นชาและห่างเหินมาก  แทบไม่มีอะไรที่สามารถขัดขวางการพัฒนาของเขา  ยอดฝีมือระดับเซียนผู้ไร้ตำหนิ สมบูรณ์แบบเด่นล้ำเหนือทุกคน ความสมบูรณ์แบบเกินไปของเขาคือเหตุผลที่ทำให้คนอื่นขนานนามเขาว่า เซียนกระบี่เลิศปฐพี
 “งั้นตอนนี้เจ้ารู้ตัวแล้วว่าเจ้าสมควรจะกลัวใช่ไหม?”  หญิงสาวผมเงินหัวเราะอย่างหยิ่งยโส  “แต่ไม่ต้องห่วง  ตราบใดที่เจ้าสอนวิธีแกะสลักให้ข้า  ข้าจะไม่ฟ้องอาจารย์”
 “มิน่าเล่า”  ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวผมเงิน  “ปัจจุบันนี้เจ้าเป็นนักสู้ระดับใด?”
 “ระดับแปดแล้ว”  สตรีผมเงินพูดด้วยความภูมิใจ  “เจ้าคิดจะทำอะไร?  ทั่วทั้งจักรวรรดิมียอดฝีมือระดับแปดไม่มากนักหรอกที่อายุน้อยกว่าข้า”
ลินลี่ย์ชำเลืองมองสตรีผมเงิน  “แม่นางดันลิน, ท่านกลับไปบอกอาจารย์ท่านได้เลยว่าข้าไม่ยินดีจะสอนแกะสลักหินให้ท่าน  ข้าต้องการดูว่าเขาจะมาหาและข้าฆ่าข้ายังไง”
หญิงสาวผมเงินสะดุ้ง และจากนั้นอารมณ์นางอ่อนลง  นางพูดขอร้อง  “พี่ลีย์ ข้าขอร้องท่าน แค่สอนข้าหน่อยเถอะนะ?”  ขณะที่นางพูด นางเดินเข้ามาใกล้ลินลี่ย์
ลินลี่ย์ถอยตรงๆ สามก้าวจนเข้าไปในห้องโถงของเขา
 “แม่นางดันลิน  ตอนนี้ข้าอยากพัก เชิญเจ้ากลับไปเถอะ”  ลินลี่ย์ปิดประตูบ้าน
 “ฮึ่ม”
หญิงสาวผมเงินแค่นเสียง จากนั้นเดินจากไป
สองวันต่อมา หญิงสาวผมเงินพยายามทุกวิถีทาง นางซื้อชุดสวยงามมาเป็นของขวัญให้ลินลี่ย์  บางทีก็แกล้งมองลินลี่ย์อย่างน่าสงสาร  เหมือนกับว่านางปฏิเสธจะยอมรับความจริงว่าลินลี่ย์จะไม่ยอมสอนวิชาแกะสลักหินให้กับนาง
วันที่สี่
เช้าวันนี้ลินดอนมาที่ลานบ้านของลินลี่ย์อีกครั้ง เหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา
 “พี่ลี่ย์, ตอนนี้ข้าจะไปแล้วนะ”  ลินดอนพูดด้วยน้ำเสียงยอมแพ้
ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวผมเงินด้วยความประหลาดใจ  สามวันที่ผ่านมานี้ ลินลี่ย์อิดหนาระอาใจกับนางจนถึงขั้นปวดหัวทุกทีที่เห็นนาง  ยิ่งกว่านั้นลินลี่ย์ยังไม่แน่ใจว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใครกัน
หรือว่าจะเป็นคนของศาสนจักรเจิดจรัส?
หรือว่าเป็นศิษย์ของเซียนกระบี่เลิศปฐพีจริงๆ?
แต่ยิ่งเขามีปฏิกิริยาตอบสนองกับลินดอน ลินลี่ย์ก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กสาวผมเงินเป็นคนร่าเริงกระตือรือร้น  เขาไม่คิดว่านางจะเป็นคนของศาสนจักรเจิดจรัส
 “ถ้านางเป็นนักฆ่าของศาสนจักรเจิดจรัส  อย่างนั้นข้าคงหวั่นเกรงฝีมือในการแสดงของนางเสียแล้ว”  ลินลี่ย์ลอบบอกกับตนเองในใจ
ลินดอนมองลินลี่ย์อย่างจนใจ  “พี่ลีย์,  ข้าเคารพเทิดทูนอาจารย์ข้าอยู่เสมอ  และอาจารย์ข้าก็ชอบงานประติมากรรม ข้าจึงต้องการแกะสลักงานดีๆ ให้ท่าน  แต่ท่านกลับไม่ยินดีจะสอนข้า”
 “มันไม่มีประโยชน์ ถ้าเจ้าไม่มีเวลาและไม่มีพรสวรรค์เพียงพอ”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ
ลินดอนตาเป็นประกาย  นางรีบพูด  “ข้ามีทั้งเวลาและพรสวรรค์”
 “เจ้าเป็นจอมเวทสายธาตุดินหรือเปล่า?”  ลินลี่ย์ถามทันที
 “ไม่” ลินดอนส่ายศีรษะ จากนั้นถามด้วยความสงสัย  “แล้วนี่เกี่ยวอะไรกับการเป็นจอมเวทสายธาตุดิน?”
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ  “ถ้าเจ้าไม่ใช่จอมเวทสายธาตุดิน นั่นหมายความว่าเจ้าไม่มีพรสวรรค์ที่จำเป็นต่อการเรียนงานสลักหินจากข้า”  ลินลี่ย์กำลังบอกความจริง  การสลักหินของสำนักสิ่วตรง  ประติมากรจะต้องเป็นจอมเวทสายธาตุดิน
 “ท่านเพิ่งจะแต่งเรื่องขึ้นมา”  ลินดอนก้าวเท้าเข้ามาจนห่างลินลี่ย์เพียงนิ้วเดียว  “ข้าไม่เคยได้ยินใครพูดมาก่อนว่าการสลักหินจำเป็นต้องเป็นจอมเวทสายธาตุดิน”
 “มีหลายอย่างที่เจ้าไม่รู้”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
ตอนนี้ลินดอนห่างลินลี่ย์อยู่สองเมตร  ลินดอนกำลังคำนวณในใจ  “ระยะห่างสองเมตร ในร่างมนุษย์ของเขา ข้าจะมีพลังมากกว่าลินลี่ย์มาก  ข้าน่าจะมีโอกาสฆ่าเขา”
เดิมทีลินดอนต้องการให้ระยะของทั้งสองคนอยู่ใกล้ก่อนที่นางจะลงมือ
แต่ลินลี่ย์ไม่เปิดโอกาสให้นาง
 “พี่ลีย์ ข้ารู้ว่าท่านโกหก  พี่ลีย์, ข้าอยากจะถามท่านเป็นครั้งสุดท้าย  ท่านยินดีจะสอนการสลักประติมากรรมหินให้ข้าได้หรือไม่?”  ลินดอนมองดูลินลี่ย์ด้วยนัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวัง
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ
 “โอว” ลินดอนก้มหน้าไม่สนองตอบอะไร
แต่ในทันทีนั้นเองลินดอนพุ่งเข้าหาลินลี่ย์ทันที  ความเคลื่อนไหวของนางรวดเร็วราวสายฟ้าขณะที่ลินดอนชักมีดสั้นออกมาถือไว้ในมือขวา
สองเมตร  พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก
แต่ทันใดนั้นประกายแสงสีม่วงประหลาดวาบขึ้น
ลินดอนเพียงรู้สึกเหมือนกับว่าประกายกระบี่สีม่วงกระพริบวาบไปทั่วอย่างต่อเนื่องครอบคลุมมีดและแขนของนาง
 “หืม”
ลินดอนปล่อยมีดทันทีขณะที่นางตบฝ่ามือซ้ายใส่ลินลี่ย์
บึ้ม!
ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันกัน และลินดอนรีบพุ่งมาข้างหน้า  แต่ลินลี่ย์เคลื่อนไหวถอยหลังด้วยท่าทางประหลาด ในพริบตาก็ถอยไปอยู่ที่กำแพง
 “โฮกกกก”
แฮรุและบีบีทั้งสองยืนประกบข้างลินลี่ย์  แต่ก่อนที่แฮรุและอีกฝ่ายจะสามารถโจมตีได้  ลินดอนก็ถอยหนีทันที
 “เจ้าต้องการฆ่าข้าใช่ไหม?”  ลินลี่ย์จ้องมองลินดอนอย่างเย็นชา
ลินดอนเงยหน้าขึ้น  ลินดอนพูดอย่างไม่พอใจ  “ลีย์, ฟังนะ, ข้า, ดันลินไม่เคยขอร้องใครมาก่อนในชีวิต  ข้าเพิ่งทำไปแล้ว  แม้แต่กับอาจารย์ข้า  ข้าก็ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน  สามวันเต็มๆ ข้าพยายามทุกอย่าง ขอร้องให้เจ้าสอนข้า  แต่เจ้าปฏิเสธอยู่เรื่อย  ดังนั้นจะเป็นยังไงถ้าข้าฆ่าเจ้าเสียในตอนนี้?  ยังมีอะไรผิดด้วยหรือ?”
 “เหตุผลที่ดื้อด้าน”  ลินลี่ย์มองดูลินดอน
ลินดอนยืนอยู่ที่ประตูบ้านพักของลินลี่ย์จ้องมองเขาด้วยความโกรธ  “ถ้าเจ้ามีความสามารถก็มาฆ่าข้าได้เลย  คนของข้าจะตามมาถึงในไม่ช้า  ถ้าเจ้ากล้ารังแกข้า ข้าจะบอกพวกเขา”
ตอนนี้ ความปรารถนาจะฆ่าของลินลี่ย์เพิ่มขึ้นมาก
ไม่ว่าเรื่องที่ดันลินผู้นี้จะเป็นศิษย์ของเซียนกระบี่เลิศปฐพีจริงหรือไม่ นางก็พยายามจะฆ่าเขาแน่นอน
แต่ลินลี่ย์มีความรู้สึกถึงอันตรายที่แปลกประหลาด
เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่ามาจากไหน  แต่ความรู้สึกนี้เตือนเขา.. อย่าไล่ตามดันลิน  ถ้าทำ จะต้องอันตรายมาก
 “ฮึ, เจ้าไม่กล้าฆ่าข้าในตอนนี้ใช่ไหม?  งั้นข้าจะไปก่อน”  ลินดอนผลักประตูบ้านออกไปอย่างหยิ่งยโส  จากนั้นเริ่มเดินออกไป  ลินลี่ย์ไม่ไล่ตามนาง เพียงแต่สั่งลินลี่ย์ในใจให้ดำดินและไปดูว่ามีอะไรข้างนอก
ยามนี้ที่นอกประตูบ้านพักของลินลี่ย์
ยอดฝีมือระดับเก้าอื่นอีกห้าคนรออยู่ด้านนอกประตู  พวกเขาประจำตำแหน่งอยู่นานแล้ว พร้อมจะร่วมกับลินดอนตั้งพยุหะเทวทูตศึกได้ทุกเมื่อ
เมื่อลินดอนเดินออกมานอกสนาม  นางใช้สายตาส่งสัญญาณให้อีกห้าคน
ทั้งห้าคนติดตามลินดอนจากไปอย่างรวดเร็ว
 “ฮึ่ม” เมื่อออกจากโรงแรม ลินดอนไม่พอใจอย่างมาก “ถ้าเพียงแต่เจ้าลินลี่ย์ไล่ตามข้ามา  เราทั้งหกคนก็จะฆ่าลินลี่ย์ได้ในพริบตา  แต่เขายังซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักกับอสูรเวทสองตัวอยู่เคียงข้างเขา  ขืนให้เราหกคนวิ่งไล่เข้าไปข้างใน  เขาก็สามารถหนีไปได้อย่างแน่นอน”
ลินดอนรู้ดีว่าการฆ่าลินลี่ย์ภายในเมืองหลวงมณฑลไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาด  ที่สำคัญแม็คเคนซี่อยู่ในปราสาทใกล้ๆ  ด้วยความเร็วของแม็คเคนซี่เขาอาจบินมาที่นี่ได้ในพริบตา
 “ท่านหญิง เราควรจะทำยังไงกันดี?”  อีกห้าคนมองดูลินดอน
 “ดำเนินการตามแผนต่อไป”  ลินดอนกล่าวอย่างเย็นชา  “สำหรับการฆ่าลินลี่ย์แบบแลกชีวิต  นั่นควรเป็นเงื่อนไขสุดท้าย  เอาไว้ใช้ในกรณีที่เราไม่มีทางเลือก”  อีกห้าคนพยักหน้า
แม้แต่เทวทูตก็ไม่ยินดีจะโยนชีวิตของพวกเขาทิ้งไปง่ายๆ
 “ฮืม?” ทันใดนั้นลินดอนเห็นบุรุษและสตรีคนหนึ่งมีคนคอยคุ้มครองสองสามคน  ลินดอนได้เห็นภาพเจนน์และคีนก่อน  “ข้ายังไม่ได้ไปหาพวกเขาแท้ๆ  แต่พวกเขากลับส่งตัวเองเข้ามาหาข้าเองหรือ?”  ริมฝีปากของลินดอนโค้งเป็นรอยยิ้ม
 


11 ความคิดเห็น:

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Unknown กล่าวว่า...

กรรมแท้ ส่วอ้อยเข้าปากช้าง

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Bubble กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

ตัวประกันชัวร์ ไม่พ้นคนพี่ต้องตายแหง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคร๊าบบบบบ

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะคับ

Unknown กล่าวว่า...

ไม่พึงใจตั้งแต่แรกแล้วล่ะตัวละครนี้นักเวทย์น้ำ

แสดงความคิดเห็น