วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 561 ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์


ตอนที่  561  ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
"แปลก?  มีอะไรแปลก?"  ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
"พลังงานของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์นี้แปลก มันเข้มข้นมากกว่าสวรรค์วิถี  อย่างไรก็ตาม มันแปลกมาก  ส่วนประกอบของที่นี่ไม่มีพลังวิญญาณ  ในสวรรค์วิถีตราบใดที่มีพลังงานอยู่เพียงเล็กน้อย  ก็จะมีพลังวิญญาณได้ง่ายๆ แม้ว่าจิตวิญญาณยุทธมากมายจะมีมูลค่าถูก  แต่จิตวิญญาณยุทธก็เป็นสิ่งที่มีทั่วไปมากที่สุด  มีจิตวิญญาณยุทธอยู่ในสมบัติ  จิตวิญญาณยุทธในตัวนักสู้  แม้แต่องค์ประกอบที่มูลค่าสูงทั้งหมดก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณยุทธ  อย่างไรก็ตาม ข้าไม่เห็นจิตวิญญาณยุทธในของทุกอย่างที่นี่เลย"

เสียงของเสี่ยวเอ้อแหลมสูงและคล้ายเด็ก  แต่ถังเทียนเต็มไปด้วยความตกใจ  เขารำพึงกับตัวเอง  "ไม่มีจิตวิญญาณยุทธได้ยังไง?"
"ก็เหมือนกับไส้ในกอหญ้าแดง พลังงานที่บรรจุอยู่เป็นพลังงานที่บริสุทธิ์มาก  บางอย่างพบเห็นได้ยากในสวรรค์วิถี  เราเคยพูดกันว่าพลังงานให้กำเนิดวิญญาณ  ดังนั้นในที่พลังงานเหลือเฟือ ก็ควรให้กำเนิดจิตวิญญาณยุทธได้  อย่างไรก็ตาม ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์นี้แตกต่างออกไป  ไส้ของกอหญ้าแดงไม่มีจิตวิญญาณยุทธเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยว  นอกจากนี้  นอกจากนี้ สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดก็คือ มันบรรจุเงาร่างกระบี่ไว้ภายใน  ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าพืชแบบไหนกันที่บรรจุเงาร่างกระบี่ไว้ภายใน"
"นั่นน่าสนใจจริงๆ"  ตาของถังเทียนเป็นประกายแพรวพราว  ทันใดนั้นเขาคิดถึงปัญหาหนึ่ง "อย่างนั้นถ้าเราขนของเหล่านี้ไปสวรรค์วิถี เรามิรวยขึ้นเหรอ?"
เสี่ยวเอ้อมองถังเทียนและพูดไม่ออก
ถังเทียนสังเกตได้ว่าสายตาของเสี่ยวเอ้อเปลี่ยนไป  เขารู้สึกแปลก  "เสี่ยวเอ้อ,  เจ้าหมายความว่ายังไงทำหน้าอย่างนั้น?"
น้ำเสียงของเสี่ยวเอ้อเต็มไปด้วยความโกรธ “เชียนฮุ่ยของเจ้าอยู่ไหน?  ฝันของเจ้าล่ะ? การเดินทางของเจ้าล่ะ? เจ้าเอาแต่คิดถึงเงินทองได้ยังไง?  ความทะเยอทะยานของเจ้า? ความสุขุมของเจ้าล่ะ?  งานสร้างของเจ้าล่ะ? เจ้าเป็นนักธุรกิจหรือ?  ได้โปรด!  ตอนนี้เจ้าเป็นผู้ปกครองที่มีอิทธิพลแล้ว!  มัวแต่คิดเรื่องระดับต่ำอย่างนั้นทั้งวัน, ไอ้เรื่องไร้เป้าหมายอย่างนั้น เรื่องงี่เง่าแบบนั้นมันอยู่ต่ำกว่าสถานะของเจ้าแล้ว!
ถังเทียนทำหน้าซื่อไร้เดียงสา  “เจ้าไม่รู้สึกว่าการหาเงินก็เป็นเรื่องที่แสดงความสามารถได้หรือไง?”
เสี่ยวเอ้อหมดคำที่จะพูดไปโดยปริยาย  ก็ได้สิ่งที่ข้ากำลังคิดความจริงเป็นเรื่องเกินความรู้ของเจ้าเด็กโง่นี่ ความคิดของข้ามันบ้าเอง
ในที่สุดเสี่ยวเอ้อก็พูดอย่างอ่อนใจ  “เจ้าไม่กังวลเรื่องคนแคระน้ำเงินเลยหรือ?”
 “กังวล?”  ถังเทียนยิ้มเห็นฟันขาวที่แฝงความดุร้ายลึกเหมือนกับสัตว์ป่าที่บ้าและกระหายเลือด พร้อมกับกระชากเสียง “ความกังวลของข้า  ข้ายังไม่เคยหาพบเลย”
เสี่ยวเอ้อตะลึง
ถังเทียนลุกขึ้นและเดินออกมา ทิ้งเรื่องไร้สาระไว้เบื้องหลัง
ความจริงไม่เพียงแต่เสี่ยวเอ้อที่ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และสวรรค์วิถีเท่านั้น ปิงที่มีประสบการณ์และระมัดระวังตัวก็รู้สึกถึงความแตกต่างเช่นกัน  อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่มั่นคงของปิงก็คือชาวบ้าน  เพื่อปรับการป้องกันให้ดีขึ้น  เขาจำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องพลังของชาวบ้านให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
 “เป็นยังไงบ้าง?”  ถังเทียนถามปิง
ปิงเซื่องซึมลงทันที  “ไม่ดีอย่างที่คิด  คนที่นี่แม้ว่าพวกเขาจะเกิดมามีพลังเซียนโดยธรรมชาติ แต่พวกเขาไม่มีสนามพลังวิญญาณเลย”
 “ไม่มีสนามพลังวิญญาณ?”  ถังเทียนตกใจ  ไม่มีสนามพลังวิญญาณ แล้วพวกเขากลายเป็นเซียนได้ยังไง?
 “ถูกแล้ว, สนามพลังวิญญาณของพวกเขาก่อตัวขึ้นจากจิตวิญญาณยุทธ  มันช่วยในการถ่ายโอนพลังงานและสามารถแยกออกมาจากข้อจำกัดของเส้นชีพจร  ดังนั้นจึงสามารถเลียนแบบกฎธรรมชาติของโลกได้ง่ายขึ้น  แต่พวกเขาไม่มีเส้นชีพจร  ร่างของพวกเขาเหมือนกับภาชนะขนาดยักษ์ สามารถเก็บพลังงานได้โดยตรง การเกิดมาด้วยสถานภาพอย่างนั้นทำให้พวกเขามีความคุ้นเคยกับพลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับนักสู้ในสวรรค์วิถี พวกเขาไม่ต้องการเส้นชีพจรเพื่อดูดซับและปรับแต่งพลังงาน  วิธีที่พวกเขาใช้พลังงานจึงเหมือนกับพวกเซียน”
ปิงสังเกตท่าทางประหลาดใจของถังเทียน  เขาฝืนหัวเราะ  “มันแปลก แต่นั่นเป็นความจริง  ข้าตรวจร่างกายพวกเขาแล้ว  พวกเขาเป็นอย่างนั้นทุกคน  เซียนของพวกเขาอ่อนแอกว่าพวกเรามากนัก”
 “ทำไม?”  ถังเทียนรู้สึกอึดอัดใจ
ปิงอธิบาย  “ทันทีที่พวกเขาถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว  พวกเขาสามารถเคลื่อนไหวพลังงานได้  พวกเขาทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวลถึงปริมาณพลังงานที่พวกเขามี เนื่องจากพวกเขามีพลังงานตามธรรมชาติมากอยู่แล้ว การเติมเต็มพลังงานทำได้สะดวกมาก ดังนั้นนี่ยังทำให้พวกเขาไม่รู้จักคิดถึงประสิทธิผลของการใช้พลังงาน  ความก้าวหน้าของพวกเขาอยู่ในระดับที่อ่อนมาก  วิชาจิตวิญญาณของเราสร้างขึ้นและขยายจากวิทยายุทธชั้นแล้วชั้นเล่า  ดังนั้นเราจึงมีความเชี่ยวชาญในการใช้พลังงานน้อยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ  อย่างไรก็ตาม พวกเขาสูญเสียพลังงานไปเปล่าๆ ข้าไม่เคยเห็นนักสู้คนไหนอ่อนหัดในการใช้พลังงานมาก่อน
ปากของถังเทียนอ้าค้าง เขารู้สึกหงุดหงิดที่สถานการณ์ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์พลิกความรู้ของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
 “ดังนั้น จะดีที่สุดถ้าเจ้าไม่ตั้งความหวังกับความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขา”  ปิงพูดอย่างจนใจ
 “ก็ไม่น่าจะแย่ถึงขนาดนั้น?  ที่สำคัญพวกเขายังคงเป็นเซียน”  ถังเทียนตกใจกับบทสรุปของปิง  เขาหวังจะยึดกับคลื่นความไม่พอใจนี้  จากนั้นตอบโต้โดยฆ่าพวกคลื่นน้ำเงินลุยแหลกจนถึงนรก
เมื่อเห็นสีหน้าของถังเทียนแล้ว  ปิงมีความสุขจนได้  “ฮ่าฮ่า  ในที่สุดข้าก็ทำให้เจ้ากลัวจนได้  แม้ว่าการโจมตีของพวกเขาจะสูญเปล่า  แต่การควบคุมพลังงานเป็นไปโดยสัญชาตญาณอย่างง่ายดาย และสิ่งเดียวที่พวกเขาเป็นคือหุ้มพลังเหมือนกับมนุษย์  เตรียมเอาไว้สำหรับแม่ทัพผู้มีชื่ออย่างข้า”
 “พวกเจ้าคิดว่าจะสู้ด้วยวิถีของเจ้าในมิติว่างได้หรือ?”  เสี่ยวเอ้อลอยเข้ามาหา  “พวกเจ้ารู้สึกว่าแค่อาศัยพวกเราไม่กี่คน  เราจะสามารถสู้ต่อกรกับคนแคระฟ้าทั้งเผ่าพันธุ์ได้หรือ?”
คำพูดของเสี่ยวเอ้อพุ่งเป้าไปที่ปิง  เจ้าเด็กโง่นี่บ้าทำแต่เรื่องไร้สาระที่สุด  แต่ปิงเป็นผู้บัญชาการทหารที่โดดเด่น ช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนั้นใจของเขายังคงสงบอยู่เสมอ
 “แน่นอน!  ถังเทียนมีความตั้งใจสู้อย่างเต็มที่  “อาเฮ่อ เสี่ยวซิ่วซิ่วและข้าทำสัญญาจิตวิญญาณยุทธ  พวกเขายังไม่ตาย!  พวกเขากำลังรอให้เรามาช่วยอย่างแน่นอน”
น้ำเสียงของเขาเด็ดขาดและมั่นคง
เสี่ยวเอ้อมองดูพยัคฆ์ฟ้า
เงียบไปชั่วขณะ จากนั้นเสียงทุ้มลึกดังออกมาจากพยัคฆ์ฟ้า  “หมื่นปีที่แล้ว ข้าทิ้งสหายไว้ในสนามรบ และพวกเขาตายกันหมด  แต่ข้ารอดชีวิต ข้านึกเสียใจมานานนับปีไม่ถ้วน  ดังนั้นข้ามักบอกกับตัวเองว่า ถ้าเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก  ข้าจะไม่ทำความผิดพลาดซ้ำรอยเดิมอย่างแน่นอน”
 “แม้ว่าเจ้าจะต้องตายน่ะหรือ?”  เสี่ยวเอ้อเลิกคิ้ว
ปิงหัวเราะและทะยานออกมาจากพยัคฆ์ฟ้า  “ข้าคือขุนพลทหาร ไม่มีที่ฝังกายขุนศึกดีไปกว่าสมรภูมิ  คนเป็น คนตาย คนชนะและผู้พ่ายแพ้ล้มเหลวก็ตาม เจ้าก็ยังเป็นเจ้า เจ้ามีชีวิตเพื่ออะไร  ตายเพื่ออะไร ทุกอย่างรู้อยู่แก่ใจดี”
 “นี่...ช่วยไม่ได้จริงๆ”  เสี่ยวเอ้อมองดูคนโง่ทั้งสองนี้อย่างเย็นชา  เขาคร้านจะแนะนำพวกเขาอีกต่อไป  ไม่ว่ายังไงก็ตาม บทบาทผู้นำไม่ได้อยู่กับเขา
 “ถ้าพวกเจ้าต้องการไปเผชิญคนแคระน้ำเงิน”  เสี่ยวเอ้อดึงของออกมาอย่างหนึ่งและโยนให้ถังเทียน  “อาวุธแบบนี้ใช้สะดวกกว่า”
ถังเทียนรับเอาไว้ เป็นโซ่ที่หนาเท่าแขนและตรงปลายทั้งสองด้านมีลูกตุ้มหนาม มองดูเป็นอาวุธที่แปลกประหลาด
 “นี่มันยอดเยี่ยม!
ตาของถังเทียนเป็นประกาย เขาคลี่โซ่ออกซึ่งมีความยาวถึงสิบเมตร ลูกตุ้มทั้งสองมีขนาดใหญ่เท่าหินโม่และหนักมาก ทุกระยะสามนิ้วจะมีมีด ทันทีที่เขาสะบัดกางออก มันจะเคลื่อนไหวเหมือนกับตะขาบ อาวุธที่อำมหิตอย่างนั้นสามารถขู่ขวัญได้ทันทีที่เห็นคราวแรก ผู้คนก็รู้สึกหนังศีรษะชาเสียแล้ว
 “ข้าคร้านจะตั้งชื่อให้มัน เรียกมันว่าตะขาบถ่วงน้ำหนักก็แล้วกัน ลูกตุ้มบรอนซ์คือสมบัติดวงดาวจากกลุ่มดาวภูเขาและมีชื่อว่าค้อนทลายภูผาเป็นแค่เครื่องมือรูปแบบเดิม  มันเป็นอาวุธระดับต่ำมากและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันทั้งหมด  ข้ารู้สึกว่าอาวุธนี้จะใช้ต่อต้านคนแคระน้ำเงินได้ดีกว่า  ตะขาบถ่วงน้ำหนักต้องใช้พลังงานมาก แต่ข้าเชื่อว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งพอ”
เสี่ยวเอ้อแนะนำอาวุธอย่างเฉยชา
ถังเทียนไม่สามารถเก็บความยินดีไว้ได้ ต้องบอกว่าอาวุธเช่นนั้นเหมาะมากในการใช้เอาชนะคนแคระน้ำเงิน  คนแคระน้ำเงินมีจำนวนมาก สัดส่วนตัวเล็ก  พวกมันมีความยืดหยุ่นต่อพลังงานแต่ร่างกายเปราะบาง
เกี่ยวกับพลัง ถังเทียนรู้สึกว่าเขามีพลังที่ไม่เคยได้ใช้ออกเต็มที่
เขาต้องการวิ่งลุยเข้าใส่คนแคระน้ำเงินเป็นอย่างมากและสังหารพวกมันในทันที
 “อาวุธที่ยิ่งใหญ่!”  ปิงอดชมไม่ได้ คนแคระน้ำเงินมีร่างกายที่บอบบาง ขณะที่อาวุธจักรกลวิญญาณของเขาตัวใหญ่ เขาสามารถใช้หมัดทุบมดได้  แต่ลูกตุ้มตะขาบนี้เหมือนกับหวีขนาดใหญ่  ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะมีภาพเศษเนื้อสีน้ำเงินปลิวว่อนทั่วทุกที่
ทันใดนั้นเขารู้สึกได้บางอย่าง เขาหันไปมอง ในสายตาของเขา คลื่นน้ำเงินผ่านแนวป้องกันมาได้แล้ว
 “เตรียมตัวรบ!”
เขาตะโกนเสียงดัง และบินขึ้นไปในท้องฟ้า
ชาวบ้านข้างล่างบินกันอย่างสับสนวุ่นวาย  พวกเขาเรียงรายอยู่บนหลังคาและกำแพง เป็นข้อตกลงที่ดูขลุกขลัก แต่ตำแหน่งของทุกคนก็ถูกคำนวณไว้เป็นอย่างดีหลังจากจัดการแล้ว  แต่น่าเสียดายที่ชาวบ้านเหล่านี้เป็นมือใหม่กันหมด  อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นเรื่องดีที่พวกเขาไม่ได้เป็นนักรบที่โดดเด่น  แต่หลายคนมีคุณสมบัติเป็นนักล่า
ทวีปซางโจวเป็นที่เงียบสงบ  ดังนั้นหมู่บ้านหญ้าแดงจึงเงียบสงบด้วย  สภาพแวดล้อมเพื่อการอยู่รอดโหดร้ายและหมู่บ้านจำต้องอาศัยการล่าและการเก็บเกี่ยวเพื่อเอาตัวรอด
 “สังเกตดูตำแหน่งของพวกเจ้าให้ดีและอย่าขยับออกไปจากที่นั่น”
ปิงมองไปทางคลื่นน้ำเงิน  ศัตรูเข้ามาในแนว 10 กิโลเมตรแล้ว  แม้ว่าชาวบ้านจะมีดีอยู่ในตัวเอง  แต่ปิงสามารถเห็นความกลัวในใบหน้าพวกเขาได้
ปิงเข้าใจพวกมือใหม่ได้ดีเช่นกัน และเป็นความจริง ภายใต้การสู้รบที่รุนแรง มือใหม่จะไม่ค่อยรอด  อย่างไรก็ตาม เขามีแต่พวกเขาเป็นที่พึ่งพาและไม่มีทางเลือกมากนัก
การต่อสู้จากระยะไกลกลายเป็นทางเลือกเดียว
เมื่อคนแคระน้ำเงินเข้ามาใกล้  ชาวบ้านพวกนี้จะแตกกระเจิงแน่นอน
ปิงที่อยู่ในพยัคฆ์ฟ้าส่ายศีรษะ เขาตามถังห้าวมาดูเหมือนเขาไม่เคยได้สู้ศึกที่น่าเพลิดเพลินอย่างแท้จริง  และทุกๆ การต่อสู้จะจบลงอย่างหดหู่
คนใหม่ คนใหม่ คนไม่เคย  ทุกครั้งมีแต่พวกมือใหม่ทุกที  หรือว่าเป็นชะตากรรม  เนื่องจากเขาเป็นครูฝึกทหารใหม่กระมัง?  เวลานี้มันแย่  อย่างน้อยมือใหม่ก็ยังฝึกมาบ้างแล้ว  แต่ชาวบ้านเหล่านี้ไม่เคยฝึกแม้แต่ความรู้สึกพื้นฐานเลย
เมื่อไหร่จะได้เวลาที่ข้าจะนำกองทัพไร้เทียมทานของข้าไปฆ่าบุกตลุยทุกทิศเสียที
นึกถึงตอนนั้นแล้ว...
ก็ได้   ข้าจำต้องคิดให้จริงจังมากขึ้น  ไม่สิ  ในฐานะขุนพลวิญญาณ  ข้าต้องจริงจังให้มากขึ้น
เมื่อเห็นคลื่นน้ำเงินจากระยะไกล  ปิงสูดลมหายใจลึก สายตาของเขาแหลมคมทันที  เขาชูแขนทั้งสอง และตะโกน  “จำสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปได้ไหม?  เอาละ เรามาลองดูกัน
 “พร้อมแล้ว!”
ปิงออกคำสั่ง
ชาวบ้านประจำตำแหน่งของตน ทุกคนเรืองแสงสีสันต่างๆ  ทุกซอกมุมของหมู่บ้านเรืองแสงเป็นรัศมีลูกกลม
ความผันผวนของพลังงานรุนแรงทำให้ถังเทียนเลิกคิ้ว
อย่างนั้นหากชาวบ้านไม่มีสนามพลังวิญญาณ  พวกเขาสามารถสร้างความผันผวนของพลังงานที่รุนแรง มันรุนแรงจนน่าตกใจมาก ในเมื่อมีพลังงานที่รุนแรง  เซียนจากสวรรค์วิถีจะไม่สามารถตามได้ทัน
 “ดีมาก, อย่างนั้นแหละ!  ต้องมั่นใจว่าสังเกตเห็นการกระจายตัวของพลัง ต้องกระจายให้ดี มันง่ายมาก”  ปิงเผชิญหน้ากับมือใหม่ต้องพูดด้วยเสียงดัง  “ทำตามที่ข้าสั่ง”
“1, 2……3!”
ลูกบอลแสงทุกอย่างยิงออกมาเป็นสายทั้งหมดยิงตรงใส่พยัคฆ์ฟ้าในท้องฟ้า เมื่อมองลงจากท้องฟ้า บอลแสงมีสีสันเป็นร้อยรวมอยู่รอบตัวพยัคฆ์ฟ้าในเวลาเดียวกัน เป็นภาพที่งดงาม
ทันใดนั้นเมื่อพลังงานทั้งหมดครอบคลุม สีหน้าปิงเปลี่ยนทันที!
แย่แล้ว! ข้าใช้เดิมพันมากเกินไป!

6 ความคิดเห็น:

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

แมวฟ้าโดนจัง ๆ ใช่มะ 555

Unknown กล่าวว่า...

55555555

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

ถังห้าวมันก็แปลก บ้าเงิน ทำไม ไม่เอาไอเท็ม ไปขายวะ รำคาญ

แสดงความคิดเห็น