วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 564 สือหย่ง


ตอนที่  564  สือหย่ง
ปลายหอกแทงที่ท้องของหยาหยา
หลังจากวางแผนโจมตีอยู่นานมาก เขาออมแรงไว้เพื่อให้พร้อมลงมือครั้งนี้  ความคมของปลายหอกไม้แทงเข้าที่หน้าท้องกลมของหยาหยา  แต่ความรู้สึกที่เขาได้รับจากปลายหอกแตกต่างออกไปมาก

เดี๋ยวก่อน..นั่นมัน...
บึ้ม!
มีเสียงทุ้มดังออกมา  หยาหยาที่ขดตัวกลมเหมือนกับลูกบอลที่ยืดหยุ่น หลังจากถูกแทงอย่างดุดัน ส่งผลให้เกิดแรงระเบิดรุนแรง และขณะที่ยังรู้สึกกลัว  หยาหยามองอย่างมึนงงก่อนจะถอยออกไป
ควั่บ!
หยาหยากลายเป็นจุดดำเล็กๆ ขณะที่มันบินสูงขึ้นทุกที
นะ..นี่.. นี่มัน...
คนแคระน้ำเงินมองดูร่างที่บินสูงขึ้นไปในท้องฟ้าอย่างตะลึง  หอกของเขาที่ใช้ออก เขาทุ่มพลังทั้งหมดในร่าง และมัน มันไม่สามารถทำลายผิวของเจ้านั่นได้เลยแม้แต่น้อย...
นะนั่น..นั่น..ผิวของเจ้าตัวนั่น...ประหลาด?
หน้าของเสี่ยวเอ้อที่มีรังสีอำมหิตปกคลุมดูแปลกประหลาด  เขาเห็นพลังในการแทงและคิดว่าหยาหยาคงถูกแทงทะลุแน่  แต่เขาไม่คิดเลยว่าแม้แต่ผิวของมันก็ไม่มีรอยขีดข่วน และ..
เสี่ยวเอ้อแหงนมองจุดเล็กๆ ที่บินอยู่บนท้องฟ้า และมีความดีใจอย่างมิอาจอธิบายได้  เจ้านั่นจะต้องอยู่นี่เพื่อเป็นตัวตลกต่อไป....
รอยยิ้มฉายอยู่บนใบหน้าของเขาเพียงชั่วไม่กี่วินาที  ก่อนที่เสี่ยวเอ้อจะรั้งสายตากลับมาที่คนแคระน้ำเงินสูงอายุ  หยาหยาใช้ความสามารถเล็งและติดตามร่องรอยซึ่งพิสูจน์ว่าเป้าหมายนั้นยากจะหาพบ และนั่นหมายความว่าการเข้าไปคร่ากุมเขาไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่แค่อาศัยพลังอ่อนแอของเจ้าเพื่อป้องตัวเอง ช่างคิดฝันจริงๆ
ตาของเสี่ยวเอ้อกลายเป็นเย็นชา  ร่างของเขาหายไปทันที เคลื่อนย้ายพริบตา
เวลาต่อมาเขาปรากฏอยู่ด้านที่ซึ่งคนแคระน้ำเงินโจมตีหยาหยา  พลังเฉพาะตัวของคนแคระน้ำเงินผู้นี้ไม่ธรรมดา  เขารู้สึกถึงอันตรายได้ทันที และเหวี่ยงหอกกลับมาที่ด้านหลัง ขณะที่เขาเอี้ยวตัวกลับมาและแทงใส่เสี่ยวเอ้ออย่างรุนแรง
ติง!
ปลายกระบี่กับหอกปะทะกันจนเกิดประกายไฟ  เสี่ยวเอ้อคำราม  เขาไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อยทำให้ความเย็นแล่นไปตามสันหลังของคนแคระน้ำเงิน  ความรู้สึกว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง มันรู้สึกเจ็บที่หน้าอกของมันทันที  มันยังคงตะลึงก้มหัวมองดู  มันสังเกตเห็นกระบี่ดำแทงทะลุจากอกของมัน
กระบี่หายไปทันที  เขาสามารถรู้สึกได้แต่เพียงว่าพลังในร่างเหือดหายไปจากตัว  เขาทรุดตัวและสติก็หลุดลอยหายไป
ไวมาก...
เสี่ยวเอ้อไม่ผ่อนคลายตัวเอง  เมื่อกระบี่ปราบสมุทรและหอกดำสัมผัสกัน ปราณดำก็รั่วออกมาจากปลายหอกเข้าไปที่กระบี่ปราบสมุทรซึ่งซึ่งเพลิงดำมิติว่างไม่สามารถปรับแต่งได้  กระบี่ปราบสมุทรยังคงมีเพลิงกลืนวิญญาณพันอยู่รอบ
เพลิงกลืนวิญญาณสีรุ้งหมองกระหน่ำใส่ปราณดำราวกับว่ามันได้กลิ่นอาหารโอชะ
เสี่ยวเอ้อตกตะลึง  ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แปลกจริงๆ!
ด้วยข้อมูลทั้งหมดที่เขาค้นพบเกี่ยวกับสถานที่นี้  แม้ว่าพลังงานในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะประหลาด แต่กลับไม่มีพลังวิญญาณ  สามารถทำให้เพลิงกลืนวิญญาณตื่นเต้นยินดีได้  ปราณดำนั่นคืออะไร?
แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้น ต้องจับเจ้านั่นให้ได้ก่อน!
ดวงตาของเสี่ยวเอ้อมีร่องรอยจริงจัง
เขาหายตัวอีกครั้ง
*************************

สือหย่งบินอย่างสุดกำลัง ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย  ไม่มีใครคาดว่าคลื่นน้ำเงินคราวนี้จะน่ากลัวมากนัก แค่เพียงไม่กี่วันมานี้ชาวบ้านเกือบหมดถูกคลื่นน้ำเงินกลืน
ทวีปซางโจวเป็นทวีปเล็กอยู่แล้วและดาวหญ้าแดงก็เป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็ก  ซึ่งถ้ายังลดขนาดลงอีก ก็ไม่ควรเรียกว่าดาวเคราะห์อีกต่อไป  ประชากรไม่ถึงหกหมื่นคน และพวกเขากระจัดกระจายกันอยู่  ดาวหญ้าแดงมีเมืองที่น่าสงสารเพียงแห่งเดียวคือเมืองเป่ากวง
เมืองนี้ถ้าเอาไปวางไว้ในดาวดวงอื่น จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ
ดาวหญ้าแดงยากจนมากจริงๆ นอกจากวัสดุคุณภาพต่ำไม่กี่อย่างพวกเขาไม่มีอะไร  ไม่มีมหาอำนาจใดต้องการมัน หรือแม้แต่จะครอบครอง แม้แต่โจรก็ยังดูถูกดาวหญ้าแดง แสดงว่าเป็นดาวที่ยากจนเพียงไหน
สือหย่งอยู่ในกองทหารรักษาการณ์เมืองเป่ากวง และอาจมองได้ว่าเป็นเพียงกองทัพของดาวหญ้าแดงก็ได้  พวกเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ดูแลความสงบสุขและมั่นคงในชีวิตประจำวัน และรับภารกิจครั้งเดียวขณะหารายได้บางส่วน  ทหารรักษาการณ์เมืองเป่ากวงคือกองทหารประจำหมู่บ้านระดับต่ำที่สุด พวกเขาไม่แข็งแกร่ง  แต่พวกเขาทุกคนเป็นชาวท้องถิ่น  พวกเขาถูกพิจารณาให้ย้ายครอบครัวมาหมู่บ้าน  พวกเขาไม่เคยปฏิเสธหรือขมวดคิ้วเมื่อต้องมาปกป้องบ้านของพวกเขา
สือหย่งคือผู้บัญชาการของกองกำลังรักษาการณ์เมืองสือหย่งและเป็นมาเกินกว่าสองปีแล้ว  เพราะเขายังแข็งแกร่งไม่พอ  เขาสามารถกลับไปหมู่ได้  แต่ภายในกองกำลังรักษาการณ์ เขาถูกมองว่าแข็งแกร่งทรงพลัง
 “สือหย่ง มันแย่จริงๆ หรือเปล่า?”  หนึ่งในสมาชิกถาม  เขากลัว
 “ใช่แล้ว” สือหย่งตอบ  “ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในดาวหญ้าแดงเท่านั้น  แต่คลื่นน้ำเงินยังคงเข้าไปในทวีปเซี่ยโจวด้วย ดูเหมือนว่ามันเกิดขึ้นในดาวเคราะห์น้อยในเวลาเดียวกัน มีเพียงดาวหญ้าแดงของเราทวีปซางโจว และดาวอีกสองดวงปลอดภัย”
 “เจ้าเอาจริงหรือ  ทำไมเราถึงโชคร้ายนัก”  สมาชิกอีกคนบ่น
 “ไม่สำคัญ อย่างมากเราก็แค่รวบรวมทุกคนและอพยพไปยังดาวชิงกู่ (หุบเขาเขียว) หรือไม่ก็ฮุ่ยหลี่ (ทุ่งการุณย์) กัน” สือหย่งถอนหายใจ  “มีแนวโน้มว่าทวีปเซี่ยโจวคงจะล่มสลายไปแล้วในเวลานี้ ดาวทั้งสามดวงถูกคลื่นน้ำเงินรุกราน  ข้าเกรงว่าเป็นการยึดมากกว่าปล้น”
ทวีปซางโจวและทวีปเซี่ยโจวมีสัมพันธ์ที่แย่  พวกเขามีข้อพิพาทกันเองอยู่หลายครา  ทวีปเซี่ยโจวมิได้แข็งแกร่งกว่าทวีปซางโจวเท่าใดนัก และในอดีตที่ผ่านมาไม่กี่ปีสือหย่งและพวกก็ได้รับความเสียหายเพราะคนของทวีปซางโจว  แต่เวลานี้ไม่มีใครมีอารมณ์ยินดีกับหายนะของพวกเขา
ทุกครั้งที่เกิดคลื่นน้ำเงิน จะเกิดแม่น้ำโลหิตสายธารเลือดตามมา  ทวีปใหญ่ๆ ยังรอดตัว พวกเขามีการจัดการและสามารถต้านทานคลื่นน้ำเงินได้  แต่ทวีปที่เล็กกว่า มักจะนำไปสู่ความล่มสลายและถูกสังหาร
เวลานี้ไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดคลื่นน้ำเงินมาก่อน  และมันมหาศาลและน่ากลัวมาก
ด้วยพลังที่เล็กน้อยกองทหารรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวง ยังไม่เพียงพอแม้แต่จะป้องกันกองกำลังคนแคระน้ำเงินได้เท่านั้น  ยังไม่ต้องพูดถึงคลื่นน้ำเงินเลย
 “เราคงทำได้แต่เพียงดูว่าชะตากรรมอะไรรอเราอยู่  แจ้งคนที่เหลือ ช่วยเท่าที่จะช่วยได้”  สือหย่งถอนหายใจ
คนที่เหลือเงียบ
ทันใดนั้นสือหย่งมีสีหน้าเปลี่ยนไป  “เฮ้, ฟังนั่น,  นั่นเสียงอะไร?”
สมาชิกคนอื่นๆ สะดุ้ง และตั้งใจฟังทันที
 “เหมือนกับเป็นเสียงระเบิด”
 “ข้างหน้านี้คือหมู่บ้านหญ้าแดง,  เป็นไปได้หรือว่า...”
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสือหย่ง  เขาตะโกนลั่น  “เร็วเข้า  ไปกันเถอะ!
ในไม่ช้าพวกเขาทุกคนก็เห็นหมู่บ้านหญ้าแดงและภาพที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาทำให้ทุกคนตะลึงทำอะไรไม่ถูก
เหนือหมู่บ้านหญ้าแดงมีมนุษย์จักรกลขนาดใหญ่คนหนึ่งลอยตัวอยู่ ลำแสงนับไม่ถ้วนผุดออกมาจากทุกมุมของหมู่บ้าน  พลังงานรวมตัวอยู่บนร่างของมนุษย์จักรกลยักษ์ พลังงานที่เข้มข้มคลุมรอบตัวจักรกลเป็นรัศมีกลมแพรวพราว  แม้จากที่ไกลๆ พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังน่ากลัวที่ปล่อยออกมาจากจักรกล  มันส่งอิทธิพลที่น่ากลัวมากเหมือนกับว่าจักรกลยักษ์นั่นคือเทพสงคราม!
มนุษย์จักรกลยักษ์โบกมือ กระสุนลูกหนึ่งจะยิงออกเป็นแนวมีหางไฟบินตามออกไปไกล!
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังมาจากที่ไกลออกไป
แข็งแกร่งมาก
สือหย่งตะลึง พลังที่มนุษย์จักรกลยักษ์ใช้ออกแข็งแกร่งมากทำให้เขาต้องการเทิดทูนและคุกเข่าให้เขา  เขาออกจากบ้านท่องเที่ยวไปทั่วโลกและเห็นกองทหารรักษาการณ์และผู้นำทหารระดับสูงมาทุกรูปแบบ  แต่ไม่มีใครมีความแข็งแกร่งเทียบได้กับเทพสงคราม!
ที่ตามมาหลังจากยิงกระสุนแสงออกไปแล้ว  รัศมีแสงรอบตัวมนุษย์จักรกลยักษ์จางลงอย่างเห็นได้ชัด  สือหย่งสามารถเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น และหน้าของเขายิ่งตกใจอย่างหนัก
เป็นร่างที่ใหญ่โตและทรงพลังมาก
เขาเคยเห็นอาวุธจักรกลที่เลิศหรูประณีตมาก่อน เทียบกับอาวุธจักรสีฟ้าประณีตสวยงามด้านหน้าของเขาแล้ว  อาวุธจักรกลเหล่านั้นเหมือนเศษกระป๋องน่าเกลียดมาก
เขาไม่กล้าคิดว่าคนสำคัญนี้มาจากที่ใดถึงได้มีคุณสมบัติได้ขับขี่อาวุธจักรกลที่สวยงามอย่างนี้
 “เยี่ยมมาก  อีกครั้งหนึ่ง”
 “จากนี้ไป รักษาจังหวะเอาไว้”
เสียงของมนุษย์ดังก้องออกมาปลุกสือหย่งให้ตื่นจากภวังค์  จากนั้นเขาสังเกตว่าคนที่อยู่ในกองรักษาการณ์เบานี้แท้จริงก็คือชาวบ้านในหมู่บ้านหญ้าแดงนั่นเอง!
ไม่มีทาง....
สือหย่งรู้สึกเหมือนกับว่าความรู้ทั้งหมดที่เขามีเกี่ยวกับโลกกำลังถล่มทลายลง  เป็นไปได้ยังไงที่ชาวบ้านทุกคนจะสร้างแนวรบเช่นนั้นได้?  นี่ต้องเป็นภาพลวงตา... เป็นไปได้ยังไง...
เดี๋ยวก่อน!
พวกเขากำลังสู้กับบางอย่าง....
สือหย่งสั่น อาวุธจักรกลทำให้เขาตกตะลึงเกินไปจนเขาลืมเรื่องที่สำคัญที่สุด  คลื่นน้ำเงิน!  ชาวบ้านบางทีกำลังสู้กับคลื่นน้ำเงิน!  เป็นไปได้ไหมว่าชาวบ้านหญ้าแดงพบกับคลื่นน้ำเงินแล้ว?
สือหย่งสูดหายใจลึกและบังคับตนเองให้ใจเย็นแล้วตะโกน  “ไปดูกัน!
สมาชิกรอบตัวเขาหน้าซีดขาวและขาไม่มีแรง  เมื่อเห็นว่าสือหย่งไม่สนใจพวกเขาและรวบรวมความกล้าได้ก่อนจะวิ่งไปที่หมู่บ้านหญ้าแดง
แต่เส้นทางที่เขาเลือกไม่ได้ตรงเข้าไปที่ด้านหน้าหมู่บ้านหญ้าแดง  แต่อ้อมไปเข้าด้านข้างแทน
เมื่อเขาเข้าไปใกล้หมู่บ้านหญ้าแดง  เขารู้สึกเหมือนกับว่าเครื่องจักรกลบนฟ้ามองมาทางเขาและร่างของเขาชะงักค้างทันที ใจของเขาโหวงเหวงว่างเปล่า
เขารู้สึกว่าหลังจากผ่านไปสิบวินาที หัวใจของเขาสั่น
แค่เพียงชำเลืองมอง แต่ก็ให้ความรู้สึกกดดันที่น่ากลัว..
สือหย่งกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก  เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองดูจักรกล เขาเดินไปรอบๆ หมู่บ้านหญ้าแดงอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เขาทอดระยะห่างจากหมู่บ้าน
เมื่อเขาทอดสายตาไปเบื้องล่าง มือของเขาเย็นเฉียบและหน้าของเขาไร้สีเลือด
คลื่นน้ำเงิน!
คลื่นน้ำเงินไม่เห็นที่สุดทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง  ต่อหน้าคนแคระน้ำเงินมากมายมหาศาล พลังของแต่ละคนไม่พอและไม่สำคัญอย่างแน่นอน
เขาเกือบจะหันหลังวิ่งหนีแล้ว  คลื่นน้ำเงินที่น่ากลัวไม่ใช่สิ่งที่เมืองเป่ากวงเคยต่อต้านมาก่อน
หนี!
นั่นคือคำเดียวที่อยู่ในใจของสือหย่ง  แต่หลังจากนั้นความรู้สึกละอายใจรุนแรงก็ท่วมเข้ามาในใจของเขา  คนอื่นกำลังต่อสู้กับคลื่นน้ำเงิน  แต่ข้ากลับคิดได้เรื่องเดียวคือวิ่งหนี... ช่างน่าอายเกินไปแล้ว!
สือหย่งหลับตาและสูดหายใจลึกสองสามครั้ง  หลังจากสงบจิตใจตนเองลงได้  เขาลืมตาอีกครั้งและประเมินสถานการณ์รบทั้งหมด
เขาต้องการดูว่าพวกเขารับมือกับคลื่นน้ำเงินอย่างไร และบางทีพวกเขายังจำเป็นต้องช่วยป้องกันเมืองเป่ากวง  ปกป้องครอบครัวคือหัวใจของภารกิจกองทหารรักษาการณ์เมืองเป่ากวง  ถ้าพวกเขาไม่มีแม้แต่ความพยายามปกป้องพวกเขาและหนีไป พวกเขาจะหันกลับไปสู้หน้าครอบครัวและญาติพี่น้องเหมือนก่อนได้ยังไง?
เขามองดูอย่างระมัดระวัง
แต่เมื่อสายตาของเขามองดูร่างหนึ่งที่อยู่ที่ท่ามกลางคลื่นน้ำเงิน เขาอดสูดหายใจหนาวเหน็บไม่ได้
คนเถื่อนหรือนั่น
บุรุษคนหนึ่งเหมือนดาวตกเดี๋ยวพุ่งขึ้นเดี๋ยวตกลงพร้อมกับลูกตุ้มที่ถืออยู่  เหมือนกับว่าเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง ด้วยมีดทั้งหมดที่อยู่ในนั้น ทำให้ดูเหมือนเครื่องปั่นเนื้อ  วิธีต่อสู้ของเขาแปลกประหลาดมาก กระโดดขึ้นลงเหมือนกบ ทุกครั้งที่โดดลงมาจะมีเลือดเนื้อสาดกระจายเสียงร้องโหยหวน
ไม่มีคนแคระน้ำเงินแม้แต่คนเดียวที่สามารถเข้าไปใกล้เขาได้  และหอกทั้งหมดพุ่งใส่รอบตัวเขาเหมือนกับห่าฝน  แต่เมื่อเผชิญกับสายลมที่เกิดขึ้นจากเครื่องบดเนื้อ ของเหล่านั้นก็เป็นเหมือนกิ่งไม้อ่อนบางและแตกหักเสียหายหมด
ไม่ว่าตรงที่ใดที่เขาโดดลงไป ก็จะกลายเป็นพื้นที่ยุ่งเหยิงและไม่มีใครรอด
ทัพหน้าของคนแคระน้ำเงินแตกกระจายและควบคุมไม่ได้  เสียงระเบิดแตกกระจายเหมือนเป็นตัวช่วยสนับสนุนและบุรุษที่เหมือนสัตว์ป่าผู้นั้นอยู่ในพื้นที่ที่ยุ่งเหยิง
แข็งแกร่งมาก...
สือหย่งตะลึงไปหมด

5 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Thevone กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณจ้า

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ

แสดงความคิดเห็น