วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 580 หอกวิ่งและพลังต้นกำเนิด


ตอนที่  580  หอกวิ่งและพลังต้นกำเนิด
ถังเทียนไปเร็วมากจนอาเฮ่อต้องฉุดจิงหาวซึ่งมีความเร็วไม่พอมาพร้อมกัน อาเฮ่อมีปีกมารอยู่ด้วยทำให้ตอนนี้เขาเร็วที่สุด

ที่อยู่ข้างถังเทียนก็คือเสี่ยวเอ้อ  เสี่ยวเอ้อฉุดถังเทียนกับหวังจุนเทียนและหยาหยามาด้วย และอาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการออกแรงทั้งหมด  ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือหลิงซิ่ว  ไม่ใช่ความเร็วเท่านั้น  แต่เป็นความก้าวหน้าของเขา
แม้ว่าเสี่ยวไป๋จะเป็นละมั่งเขาดาบตัวหนึ่ง (พาหนะน้ำแข็งเงิน)  และมันยังไม่กระตุ้นสายเลือดนักรบของมันถ้าต้องการให้มันถึงระดับเดียวกับบรรพบุรุษของมันจำเป็นต้องผ่านหลายศึกเพื่อหล่อเลี้ยงและสร้างประสบการณ์ให้กับมัน
หลิงซิ่วไม่มีความคิดอะไรมากเกี่ยวกับละมั่งเขาดาบ ก็เช่นเดียวกับที่เขาไม่มีความรู้เรื่องพาหนะน้ำแข็งเงิน  เขาปฏิบัติตามเส้นทางของเขาเอง  แต่ในเนื้อแท้เขารู้สึกรังเกียจต่อประเพณีของพาหนะน้ำแข็งเงิน
โลกเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา  พวกที่สูญหาย ก็สูญหายไปแล้ว พวกที่ถูกทำลายก็ถูกทำลายไปแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองที่เป็นของคนอื่น มีอะไรที่เกี่ยวกับเขาด้วย?
ตำแหน่งของหอกจุดของเขามุ่งตรงไปที่แกนกลางต้นกำเนิดของเขาเอง
เขาวางแผนขอให้เซรีนช่วยสร้างพาหนะให้เขา  แต่เซรีนวุ่นอยู่กับงานวิจัยค้นคว้าและไม่มีเวลาสร้างความพอใจให้เขา หลิงซิ่วเองเมื่อไม่ได้ดังใจ ก็ทิ้งเรื่องทั้งหมดไว้เบื้องหลัง
เร็วมาก หลิงซิ่วพบวิธีทำให้พวกที่เหลือตกใจ
ควั่บ หอกเงินเป็นประกายวาบเหมือนสายฟ้า  ร่างของเขาพุ่งไปตามหอก ทำให้ร่างของเขาปรากฏห่างออกไป 60 เมตร หลังจากนั้นเขาแทงหอกอีกครั้ง ควั่บ รังสีเงินอีกสายหนึ่งฉาย  เขายังคงปล่อยหอกของเขา แสงเงินกระพริบอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเหมือนสายฟ้า
วิธีการไปข้างหน้าอย่างประหลาดนี้ให้ชื่อว่า หอกวิ่ง!
คนอื่นๆ คิดว่ามันต้องใช้แรงมาก  แต่หลิงซิ่วที่มากระแวงกลับชอบหอกวิ่ง  เขาสามารถไปข้างหน้าและฝึกฝีมือไปพร้อมกัน ยังมีอะไรที่ดีกว่านี้อีก?
เขาคำนวณแล้ว หนึ่งหอกไปได้ 60 เมตร 600 เมตรคงจำเป็นต้องใช้ 10 หอก 6 กิโลเมตรจะต้องใช้ 100 หอก...
เหนื่อยไหม?
ถ้ากลัวเหนื่อยจะฝึกทำไม? มันสามารถฝึกความอดทนของเขาได้ นั่นคือแนวที่หลิงซิ่วเห็น
ถังเทียนมองดูหอกวิ่งของหลิงซิ่วขณะที่น้ำลายหก  เด็กหนุ่มจอมห้าวรู้สึกอาย มันคือวิธีที่ก้าวหน้าสะดุดตา  เมื่อคิดว่าข้าไม่มีวิธีแบบนั้น  ข้ายังจะสู้หน้าเสี่ยวซิ่วซิ่วได้อีกหรือ? ไม่ ไม่ ข้าจะต้องมีอะไรอย่างนั้นบ้างให้ได้  หนุ่มชาวฟ้าต้องแข็งแกร่งรอบด้าน!
ถังห้าวเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ และเขาไตร่ตรองระหว่างทาง
ความจริง แม้แต่จิ่งหาวก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย  จิ่งหาวบินได้ แต่เขาไปไม่ไว  วิชากระบี่ปัจจุบันของเขาไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับความเร็วของเขา  อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ใช้เวลามากกับวิทยายุทธ  แต่ความเข้าใจเรื่องกฎของเขาลึกซึ้งที่สุดในบรรดาทุกคน  เขารู้ว่าเขายังแทบไม่สะกิดผิวเพื่อทักษะของตัวเอง  และเมื่อกระบี่ของเขาเพิ่มกฎในระดับที่สูงขึ้น  ปัญหาเกี่ยวกับความไวจะคลี่คลายได้ง่ายมาก
แทนที่จะเสียเวลาไปกับพื้นที่อื่น  ข้าจะเพ่งกับการฝึกกระบี่แทนดีกว่า
บรรดาพวกเขาทุกคน อาเฮ่อเก็ยังผ่อนคลาย การไปของเขาคล่องแคล่วสง่างาม เมื่อเพิ่มปีกมารขึ้นมาแล้ว  เขากลายเป็นเสือติดปีก แม้วแต่เสี่ยวเอ้อก็ไล่ตามเขาไม่ทัน
 “มีศัตรูอยู่ข้างหน้า”  ถังเทียนกระแอมคอและโกน  เขาม้วนแขนเสื้อเตรียมตัวรบ ใบหน้าของเขาตื่นเต้น  เขากระตือรือร้นต่อสู้มานานแล้ว
หยาหยาที่อยู่บนไหล่ของถังเทียนร้องเสียงดังลั่น  กำปั้นน้อยๆ ของเขาทุบใส่ที่หน้าอกเสียงดัง  เสี่ยวเอ้อเหล่ตาดูที่ด้านข้าง  จังหวะที่หยาหยาทุบอกตัวเองนั้นคุ้นเคยมาก  เจ้าคิดว่าตัวเจ้าเป็นกลองหรือ เจ้าโง่!
หลิงซิ่วผู้มีนิสัยชอบสู้ก็ตื่นเต้นพอกัน  เขาโห่ร้อง  “ข้าจะแทงพวกมันให้ตาย! ให้ข้าลุยก่อน!
ควั่บ แสงเงินระเบิดออกทันที ก็เหมือนกับแสงกระพริบ  เขาพุ่งขึ้นไปอยู่หน้ากลุ่ม
จุดไม่กี่จุดย่นระยะอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่รับพวกเขาอยู่ก็คือรอยยิ้มที่ดูเหมือนสัตว์ร้ายน่ากลัวของหลิงเซิ่ว
ทั้งสองฝ่ายไม่มีความคิดจะช้าลงอยู่แล้ว  พวกเขาพุ่งตรงเข้าหากัน
ชุดยาวขาวและผมสีขาวดุจหิมะของเขาเต้นสะบัดอยู่ในอากาศ  หน้าของเขาแสดงถึงความบ้าระห่ำ  ดวงตาสีส้มหยีลุกโชน  ขณะที่หอกเงินในมือของเขายังคงเหมือนกับเหล็กหลอมที่ลอยได้ในมือคู่สีเงิน  ความชัดเจนของการเผาไหม้และความเยือกเย็น ผสมผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นฉากที่ตึงเครียดมาก
ความรู้สึกถึงพลังที่พลุกพล่านอยู่ในร่างของเขา  เขาโน้มตัวและพุ่งไปข้างหน้าเหมือนสัตว์ร้าย  หลังจากฝึกฝนขัดเกลาตนเองผ่านมาสองสามวัน  ทำให้พลังร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก  สนามพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งที่สุดในพวก  ยังแข็งแกร่งมากกว่าจิ่งหาว  เพราะเขาเปลี่ยนแปลงเป็นเงิน  ในการต่อสู้ที่สิ้นหวังในเจ็ดดาวเหนือ  ศักยภาพของเขาทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้การเปลี่ยนสภาพเป็นเงินของเขาเกิดขึ้นถี่ ทำให้สนามพลังวิญญาณของเขากลับกลายเป็นแข็งแกร่งมากขึ้น
เส้นทางของเขาแตกต่างมาตั้งแต่แรกเริ่ม
ร่างพลังกายเป็นศูนย์ ทำให้เขาสูญเสียพลังงานทั้งหมดในร่างกาย  เนื่องจากมันถูกบังคับให้เก็บกักอยู่ในสนามพลังวิญญาณของเขา ดังนั้นจึงเป็นการสร้างมรรคาวิชาใหม่  จากเท่าที่เห็น พลังงานที่เก็บไว้ในสนามพลังวิญญาณ มีเพียงพลังงานครึ่งเดียวที่เก็บไว้ในตันเถียนของเขา มันดูเหมือนกับว่าอ่อนแอลง  แต่หลิงซิ่วรู้ เป็นเพราะความกว้างใหญ่ของมัน
พื้นที่ในตันเถียน ไม่สามารถขยายได้และสนามพลังวิญญาณสามารถแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้ไม่มีหยุด
เส้นทางสายใหม่นี้หมายความว่าเขาจะไม่สามารถปฏิบัติตามมรดกของเขาได้เลย  แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย  พลังของเขาไม่ได้มาจากมรดกแม้แต่น้อย ทุกเส้นประสาทของเขามาจากเหงื่อที่เปียกโชกของเขา
เหงื่อที่ไม่เคยโกหก
มาเลย!
กลุ่มที่อยู่ข้างหน้ากำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูง  และเปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว  ทั้งสิบคนถอยกลับอย่างรวดเร็วและตั้งกระบวนรูปกระสวย  ควั่บ ทั้งหมดเปล่งแสงออกมารวมเป็นเนื้อเดียวกันกลายเป็นแสงรูปกระสวยขนาดใหญ่
หัวหน้ากลุ่มที่อยู่ข้างหน้าตะโกน  “ฆ่า!
หัวหน้ากลุ่มผู้นี้สังเกตหลิงซิ่วได้แต่แรก  รังสีฆ่าฟันที่เปล่งออกมาจากเขาทำให้หัวใจเขารู้สึกยะเยือก  และเมื่อเขาโจมตี  เขาก็ไม่ถอยแม้แต่น้อย
รังสีกระบี่รูปนกนางแอ่นนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากกระสวยแสงทันที  และโปรยลงใส่ราวกับสายฝนขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าหาหลิงซิ่ว
แสงรังสีกระบี่นางแอ่นทำให้หน้าของหลิงซิ่วเป็นประกาย  ขณะที่ดวงตาที่เรียวและสีส้มของเขาเปล่งประกาย  เปลวไฟเริ่มลุกขึ้นเหมือนชั้นหินบางทะลุผ่านปากปล่องภูเขาไฟ  มันไหลมาคลุมทัศนวิสัยของเขา
หลิงซิ่วปัจจุบันนี้เหมือนกับลูกตุ้มหนามที่มีเพลิงลุกร้อนแรง
 “ตาย!
เขาโห่ร้องห้าวหาญ นิ้วของเขาปั่นหมุนหอกเงิน  กระแสพลังและพลังงานระเบิดออกมาจากหอกเงินของเขาในช่วงเวลาเดียวกัน
พายุรังสีหอกปะทะใส่กลุ่มรังสีกระบี่รูปนกนางแอ่น
รังสีแตกกระจัดกระจายอยู่ในอากาศ ล่องลอยอยู่ในอากาศเหมือนหิมะ
หัวหน้ากลุ่มในรังสีรูปกระสวยไม่อยากเชื่อสายตาของเขาเอง  เป็นไปได้ยังไง?
แทบจะทันใดนั้น รังสีกระบี่ลดลงไปกว่าครึ่ง คู่ต่อสู้ของเขามีแค่เพียงคนเดียวปลดปล่อยพลังหอกได้มากมายขนาดนั้นเหนือกว่าพวกเขารวมกัน  เป็นไปได้ยังไง....
ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น ระยะระหว่างพวกเขาสั้นลงเหลือเพียง 18 เมตร เบื้องหลังพายุเงินเป็นใบหน้าที่ห้าวหาญบ้าคลั่งอย่างเห็นได้ชัด
หัวหน้ากลุ่มผู้มีประสบการณ์การรบมากมายตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธระหว่างที่ยังตกใจ  เขากวัดแกว่งมีดสั้นนางแอ่นในมือเพื่อดึงดูดอากาศ  สมาชิกอีกเก้าคนด้านหลังเขาชักมีสั้นนางแอ่นออกมาเช่นกัน
 “นางแอ่นโจมตี!
หัวหน้ากลุ่มรวบรวมความแข็งแรงของเขาทั้งหมด กรอกตาจ้อง พวกเขาแทงมีดสั้นนางแอ่นของพวกเขาออกไป
มีดสั้นทั้งสิบเล่มแทงออกมาพร้อมกัน!
กระสวยแสงหมองลง ร่างนกนางแอ่นขนาดใหญ่ส่งเสียงร้องหวีดหวิวบินออกจากกระสวยแสงด้วยความเร็วแสงตรงเข้าหาหลิงซิ่ว
ดวงตาเปลวเพลิงของหลิงซิ่วเป็นประกายวูบวาบมากยิ่งขึ้น  สีหน้าของเขายิ่งดูเหมือนคลั่งมากยิ่งขึ้น  ถ้าเป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญกับการโจมตีอย่างนั้น เขาคงสับสนและงุ่มง่าม  แต่หลังจากถูกสือเซินเคี่ยวเข็ญอยู่หลายวัน เขาจะไม่มีความก้าวหน้าได้ยังไง?
และพวกเจ้า...เมื่อเทียบกับสือเซินแล้ว  พวกเจ้ายังอ่อนกว่า...
รังสีเงินครอบคลุมเต็มท้องฟ้า กลายเป็นเรื่องง่ายขณะที่พวกเขาเดินหน้าเข้าหากลุ่มรังสีเยือกเย็น  รังสีเยือกเย็นนี้ไม่มีท้ายตามหลัง เนื่องจากมันลายพลิ้วเหมือนฝนเงิน  แต่มันเป็นกลายเป็นบอลกลมมีแสงสว่างในตัวหมุนปั่นคล้ายกับดาวฤกษ์
รังสีหอกของข้าหลอมรวมเป็นดาวดวงหนึ่ง
ต้นกำเนิดพลังของข้าจะทำลายสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติทั้งหมด
ต้นกำเนิดพลังแทงซึ่งเป็นไม้ตายเก่าของหลิงซิ่ว หลังจากผ่านการพัฒนาและขัดเกลาแล้ว จึงออกมากลายเป็น พลังแทงต้นกำเนิดดารา
ชี่!
นางแอ่นถูกทะลวงทะลุ  พลังแทงต้นกำเนิดดวงดาวยังมีแรงเฉื่อยต่อพุ่งเข้าไปในรังสีรูปกระสวย
ดวงดาวระเบิด รังสีหอกนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากทุกทิศทาง  สมาชิกทุกคนที่อยู่ภายในรังสีรูปกระสวยไม่มีเวลาตั้งตัว และถูกแทงทะลุทั่วทั้งตัวราวกับรูกระชอน
พวกเขาสูญเสียการควบคุมพลังในร่างทันที
ปัง!
กระสวยแสงทั้งหมดระเบิด รวมทั้งรังสีดาบนกนางแอ่นที่พวกเขาสร้างขึ้นก่อนนั้นด้วย
ลูกไฟขนาดใหญ่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า  ทั้งกลุ่มถูกกำจัดไปหมด ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว
นี่ยังคงเป็นความแตกต่างระหว่างดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และสวรรค์วิถี  ผู้คนจากสวรรค์วิถีจะเก็บพลังงานไว้ในตันเถียน  แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีพลังงานมากมายเหมือนคนของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  แต่หลังจากเส้นชีพจรพวกเขาถูกชำระสะอาด ก็มีความมั่นคงยิ่งขึ้น และมีโอกาสต่ำที่จะมีการเผาไหม้  แต่คนจากดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เหมือนถุงใส่พลังงานและจะระเบิดได้ง่ายมาก
ตลอดการรบทั้งหมด ถังเทียนและพวกที่เหลือไม่ได้เข้ามาห้ามและยังคงรักษาความเร็วในการรุดหน้าต่อไป
การแสดงฝีมือของหลิงซิ่วทำให้ถังเทียนเลือดลมพลุกพล่าน  เขากางแขนและสูดหายใจเต็มปอดและตะโกนเน้นทีละคำ “เสี่ยว..ซิ่ว...ซิ่ว!
หลิงซิ่วที่เพิ่งจะอวดผลงานที่โดดเด่นอย่างห้าวหาญ แทบจะหัวคะมำทันใด
เจ้าบ้านี่....
อาเฮ่อสังเกตเห็นกลุ่มในระยะไกล  เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย  “เตรียมประจัญบาน”
คงเป็นเรื่องยากจะทำลายและจัดการสร้างความตื่นตกใจให้กับกองทัพที่มีคน 500 ด้วยกำลังคนไม่กี่คน  และภารกิจปัจจุบันของพวกเขาก็คือเมืองเป่ากวง  สำหรับกองทัพเหมาะจะให้ทหารผ่านศึกอย่างสือเซินรับมือ  ดีที่ตำแหน่งของศัตรูอยู่ทางด้านขวางของเขาและมีระยะห่างระหว่างพวกเขามากจึงยังไม่ต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา
ซุนเจี๋ยคาดไม่ถึงเลยว่ากลุ่มเล็กๆ จะถูกกำจัดทันทีที่พวกเขาปะทะกัน  พลังของคู่ต่อสู้เหนือกว่าที่เขาคาดไว้  พวกเขาเป็นยอดฝีมือ!
เขาลอบประหลาดใจ คนของเขา 500 คนในทุกคนจะมีฝีมือดีกันทั้งนั้น และผ่านการคัดเลือกมาหลายระดับ และยังผ่านการสู้รบในสงครามจริงมาแล้ว  ดังนั้นพวกเขาไม่ควรมีคู่ต่อสู้ที่คู่ควรในทวีปซางโจว  นอกจากนี้ แค่เพียงปะทะครั้งเดียวทั้งสิบคนก็ถูกฆ่าเชียวหรือ?
นักสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น  เขาคงไม่ใช่คนไร้ชื่อเสียงแน่นอน
ไม่ใช่เพียงแต่เขาเท่านั้น บริวารคนอื่นของเขาก็ประหลาดใจพอกัน  ในกองทัพคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นปกติจะไม่ถูกเลือกให้เป็นหน่วยลาดตระเวน
ซุนเจี๋ยเสียใจเล็กน้อยที่เขาไม่นำหน่วยลาดตระเวนมาอย่างเพียงพอในครั้งนี้  หน้าของเขาเขียวคล้ำ  เขาออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว  “หมวดสอง ไปหยุดพวกมันเอาไว้”
 “ขอรับ!
หมวดสอง 50 คนแยกออกจากกลุ่มใหญ่และพุ่งเข้าหาพวกเขาทันที
จิ่งหาวชำเลืองมองกองกำลังที่กำลังจะมาถึง  เขาพูดเบาๆ  “อาเฮ่อ, ไปกันเถอะ”
 “ได้เลย!
ขณะที่เขาตอบ ปีกมารสั่นเล็กน้อย อาเฮ่อพาจิ่งหาวหายวับไปทันที
ชั่วเวลาต่อมา พวกเขาก็มาปรากฏอยู่ข้างกองกำลังนั้นและทั้งสองก็แยกกันทันที
กองร้อยหมวดสองคาดไม่ถึงว่าศัตรูไม่ยอมถอย แต่กลับโจมตีพวกเขาก่อนแทน
ในกลางอากาศ อาเฮ่อถือกระบี่และร่ายรำ ย่างก้าวของเขาลึกซึ้งและยากจะเข้าใจ ชุดดำของเขากระพืออย่างสง่างามคล้ายกับกระเรียนดำเริงระบำ สีหน้าของเขาดูน่านับถือ และสายตาของเขาเหมือนกับน้ำที่ใสกระจ่าง กระบี่กระเรียนในมือของเขา  วิชากระบี่ของเขาเป็นสุดยอดวิชา  กลิ่นอายโบราณดูเหมือนกระจายออกมาตามจังหวะเคลื่อนไหวของเขา  กระแสพลังที่โบราณป่าเถื่อนค่อยๆ แพร่กระจายจากกระบี่เข้าไปในตัวของเขา
เมื่อตระหนักถึงปราณที่ระเบิดออกมา อาเฮ่อกางแขนขาเหมือนกับกระเรียนดำทะยานฟ้า
ระลอกพลังไร้ลักษณ์กระเพื่อมออกมาโดยมีร่างของเขาเป็นศูนย์กลาง ขณะที่มันถูกสร้างและหายไปอย่างเงียบๆ
หัวหน้าหมวดหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ  นั่นมันวิทยายุทธแบบไหนกัน?  เขาไม่เคยพบเจออะไรแบบนั้นมาก่อน  พลังงานงานที่มีอยู่ทั่วรอบตัวในหน่วยดูเหมือนจะลดลง!
จิ่งหาวที่ยังอยู่ในอากาศ ตาของเขาสงบไม่มีกระเพื่อม  กระบี่ในมือของเขาสั่นเล็กน้อย มันกระหายและใจร้อนมานานแล้ว
เพราะชื่อของมันคือ ดื่มเลือดเซียน!

9 ความคิดเห็น:

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Unknown กล่าวว่า...

พระเอกต้องออกโรงทีหลังสินะ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Micael กล่าวว่า...

พระเอกออกเดียวคนอื่นไม่ได้ออก

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

รอพี่จิงหาวออกโรง 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนครับ

แสดงความคิดเห็น