วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก – ตอนที่ 12 วุ่นวายราวกับตลาด


เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก – ตอนที่ 12 วุ่นวายราวกับตลาด
ลินลี่ย์ วอร์ตัน บลูเมอร์และโอลิเวอร์หันไปมองจักรพรรดิโจฮันน์ด้วยความประหลาดใจแทบจะทันที
วันที่ 15 มีนาคม จักรพรรดิจะประกาศว่าใครจะได้แต่งงานกับองค์หญิงเจ็ดน่ะหรือ?

ในอดีตจักรพรรดิโจฮัน์ยังคงถ่วงเวลา เหมือนกับจะไม่ใช่คนใจร้อนแม้แต่น้อย  ทั้งวอร์ตันและบลูเมอร์ก็คิดไม่ถึงเลยว่าจักรพรรดิโจฮันน์จู่ๆ ก็พูดเช่นนั้นออกมา
 “นีน่า...”  วอร์ตันหันไปมองนีน่า
นีน่าส่ายศีรษะและยังคงสับสน  “ข้าไม่รู้อะไร พระบิดาไม่ได้บอกอะไรในเรื่องนี้กับข้า”  นางก็จ้องดูจักรพรรดิโจฮันน์อย่างสงสัยเช่นกัน  แต่เนื่องจากองค์หญิงเจ็ดเป็นสมาชิกราชตระกูล  การแต่งงานของนางไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถเลือกได้ด้วยตนเอง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินพระทัยของจักรพรรดิโจฮันน์
 “องค์หญิง”  ขณะนั้นเองนางกำนัลประจำวังเดินเข้ามาหา  “ฝ่าบาทเตรียมเสด็จกลับแล้ว ได้เวลาเสด็จกลับแล้วเพคะ”
นีน่าพยักหน้า
จักรพรรดิโจฮันน์ห้ามไม่ให้นางออกจากวัง  เหตุผลเดียวที่นางสามารถพบกับวอร์ได้ครั้งนี้เป็นเพราะการประลองในสนามประลองครั้งนี้ หลังจากอำลาอาลัยวอร์ตันแล้ว นีน่าก็ติดตามราชตระกูลกลับและจากไป
กองกำลังของลินลี่ย์และวอร์ตันก็ถอยไปจากสนามประลอง
 “โอลิเวอร์”  ขณะที่ลินลี่ย์เดินผ่านไปด้านหนึ่ง เขามองดูโอลิเวอร์และเห็นว่าโอลิเวอร์ยังมองมาที่เขาด้วยเช่นกัน
สุดยอดอัจฉริยะทั้งสองคนนี้ยังคงจ้องมองกัน จากนั้นจึงค่อยต่างคนต่างออกจากสนามประลอง
นับตั้งแต่ผู้ชมแปดหมื่นคนได้เห็นเหตุการณ์ในสนามประลองในวันนี้แล้ว วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ข่าวการประลองที่เสริมเข้ามาในสนามประลองทำให้ทั่วทั้งพระนครหลวงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นราวกับเกิดพายุโหม
หลายคนจากเมืองอื่นและจากมณฑลอื่นเมื่อเดินทางกลับ  จะนำข่าวการประลองนี้กลับไปยังภูมิลำเนาของพวกเขาด้วยเช่นกัน
ลินลี่ย์เอาชนะเคนยอนได้อย่างง่ายดาย และจากนั้นยังได้ต่อสู้กับโอลิเวอร์  จากนั้นโอลิเวอร์ได้ท้าทายเฮนด์เซน  สามเหตุการณ์นี้กลายเป็นที่รับทราบกันอย่างรวดเร็วและข่าวลือเหตุการณ์เหล่านี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ชื่อสียงของลินลี่ย์กลายเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองหลวงและยังแพร่กระจายไปทุกสารทิศด้วยเช่นกัน
เมืองหลวง ถนนโบลเดอร์ นอกคฤหาสน์เคานท์วอร์ตัน  รถม้าคันแล้วคันเล่ามาเยือน  ทั้งหมดนั้นมาเพื่อเยี่ยมเยือนลินลี่ย์
ลานภายในคฤหาสน์
ลินลี่ย์ เยล และเรย์โนลด์นั่งอยู่ด้วยกันสนทนาพลางหัวเราะสนุกสนาน  แม้ว่าจะมีขุนนางและคนผู้มีชื่อเสียงหลายคนมาชุมนุมรออยู่หน้าลานหน้าบ้าน  ลินลี่ย์ก็ไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขา
ความจริงขุนนางคนชั้นสูงเหล่านั้นคาดและเข้าเรื่องนี้อยู่เต็มหัวใจ  สถานะคนอย่างลินลี่ย์จะยอมมาต้อนรับพวกเขาเป็นการส่วนตัวหรือ?
คนระดับลินลี่ย์ อำนาจที่ยึดติดกับโลกธรรมดาไม่มีความหมายอะไรต่อเขา  แม้แต่จักรพรรดิยังต้องมีมารยาทมากเมื่อต้องรับมือกับยอดฝีมือระดับเซียนและไม่กล้าแม้แต่จะถอนหายใจ
ไม่มีอะไรต้องสงสัย....
ตอนนี้ตระกูลบาลุคสร้างคนอย่างลินลี่ย์ออกมา  แต่แม้ว่าลินลี่ย์ไม่เคยเป็นขุนนางอยู่ในจักรวรรดิ และแม้ว่าวอร์ตันจะมีบรรดาศักดิ์เป็นแค่เคานท์  ตระกูลบาลุคก็ยังอยู่เหนือตระกูลอื่นในพระนครหลวงอยู่ดี
 “น้องสาม เจ้าซ่อนพลังและพรสวรรค์ของเจ้าเอาไว้  แต่ตอนนี้เจ้าเอาออกมาแสดงต่อหน้าผู้คน เจ้าทำให้คนสองสามคนต้องตกใจจริงๆ”  เยลหัวเราะลั่น
เรย์โนลด์พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า  “ใช่ ใช่แล้ว ข้าคำนึงอยู่ว่าศาสนจักรเจิดจรัสคงได้ปวดหัวอย่างหนักแน่ในคราวนี้"
เยลและเรย์โนลด์รู้เรื่องคดีที่ลินลี่ย์มีต่อศาสนจักรเจิดจรัส  เพราะพลังของศาสนจักรเจิดจรัส การที่พวกเขาจะฆ่าลินลี่ย์ที่มีระดับพลังในปัจจุบันนี้แทบเป็นไปไม่ได้
นี่เป็นความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะลินลี่ย์ในตอนนี้อยู่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิโอเบรียน  ศาสนจักรเจิดจรัสคงไม่กล้าส่งยอดฝีมือระดับเซียนมา  เพราะกลัวว่าเทพสงครามจะเข้าใจผิด  ที่สำคัญนี่คือดินแดนของเทพสงคราม
 “จัดการกับศาสนจักรเจิดจรัสน่ะหรือ?”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ข้าได้ฆ่าเป้าหมายหลักในการแสวงการแก้แค้นไปแล้ว  สำหรับการจัดการกับศาสนจักรเจิดจรัสที่เหลือ  ข้าไม่ได้เร่งอยู่แล้ว  ในตอนนี้ ข้าไม่กลัวคนของศาสนจักรเจิดจรัสอีกต่อไป  แต่จะจัดการกับศาสนจักรเจิดจรัสได้นั้น... ข้ายังมีพลังไม่พอ”
ศาสนจักรเจิดจรัสมียอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูงอีกสองสามคน
ไฮเดนส์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนปัจจุบัน  ผู้นำวิญญาณของพวกโยคี ท่านใบไม้ร่วง, หัวหน้าตุลาการศาลศาสนจักรโอเซนโน  หัวหน้ามือปราบพิเศษสเตลห์ และยังมีผู้นำของผู้คลั่งไคล้...
ห้ายอดฝีมือ เฉพาะสเตลห์มีแนวโน้มว่าจะอ่อนแอที่สุดในกลุ่มนี้
ขณะที่อีกสี่คน ไม่มีคนไหนที่จะประมาทได้เลย  แม้แต่กับสเตลห์  ลินลี่ย์ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้โดยง่าย  เหตุผลที่ลินลี่ย์สามารถเอาชนะเคนยอนได้ง่ายก็เป็นเพราะเคนยอนไม่มีอะไรมากไปกว่ายอดฝีมือระดับเซียนชั้นกลาง
 “เมื่อร่างมนุษย์ของข้าเข้าถึงระดับเซียนและทักษะจอมเวทของข้าเข้าถึงระดับเซียน...”  นัยน์ตาของลินลี่ย์เป็นประกายดุร้าย
 “เมื่อร่างมนุษย์ของเจ้าถึงระดับเซียนน่ะหรือ?”  เยลและเรย์โนลด์ชำเลืองมองกัน  พวกเขาอดรู้สึกกังวลอนาคตของศาสนจักรเจิดจรัสไม่ได้
ถ้าลินลี่ย์เข้าถึงระดับเซียนในร่างมนุษย์  อย่างนั้นทันทีที่เขาแปลงกาย แค่อาศัยพลังกายล้วนๆ ปราณยุทธ พลังป้องกันและความเร็ว เขาก็มีระดับพลังที่น่ากลัวอยู่แล้ว  สุดยอดนักรบได้รับการสรรเสริญว่าทรงพลังที่สุดในหมู่เซียนนักสู้ผู้แข็งแกร่ง  พวกเขาไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่หัวเราะ
รากฐานอันทรงพลังดังกล่าวผนวกกับสัจธรรมแห่งธาตุลมและสัจธรรมแห่งธาตุดินของลินลี่ย์....
พวกเขาเชื่อว่าเมื่อลินลี่ย์เข้าถึงระดับเซียนในร่างมนุษย์  อย่างนั้นสัจธรรมแห่งธาตุทั้งสองอย่างก็จะก้าวหน้าไปอีกระดับ  และตอนนั้น เมื่อเขาเข้าถึงความเป็นจอมเวทระดับเซียน...
เขาจะเป็นนักสู้ที่ไร้เทียมทาน และสู้ระยะห่างไกล เวทของเซียนจอมเวทก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้
ถ้าคู่ต่อสู้ของเขาใช้ทักษะคลื่นมนุษย์ แค่เวททำลายล้างอย่างเดียวก็สามารถทำลายพวกเขาได้แล้ว
 “น่ากลัวเหลือเกิน”  เยลและเรย์โนลด์ชักจะกลัวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้  ลินลี่ย์ในปัจจุบันก็เป็นยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูงอยู่แล้ว  ถ้าในอนาคต พลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่าในทุกด้าน .... ใครจะสามารถหยุดเขาได้?
 “พอเถอะเรื่องนี้ไม่ต้องพูดอีกแล้ว”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
เยลหัวเราะและพยักหน้า  “น้องสาม เจ้ารู้ไหม? ผู้เฒ่าของข้ายังคอยบอกให้ข้าจัดการเรื่องนี้ เรื่องนั้น  แต่หลังจากได้ยินว่าเจ้ามาถึงที่นี่  เขาเลิกกดดันข้าเลย  ความจริงเขาสนับสนุนให้ข้าใช้เวลาร่วมกับเจ้ามากขึ้น  ข้าต้องบอกไว้ก่อน.. หอการค้าของข้าขีดฆ่าข้อตกลงนี้ เราถือว่าเจ้าเป็นผู้อาวุโสของหอการค้าของเราอย่างถูกต้อง”
ก่อนหน้านั้น ที่เมืองเอกเบซิล เยลได้ให้เหรียญตราผู้อาวุโสกับลินลี่ย์
 “ต่อให้เจ้าไม่มอบเหรียญตราให้ข้า  ถ้าหอการค้าดอว์สันมีปัญหายุ่งยากอะไร อาศัยความสัมพันธ์ของเรา พี่ใหญ่เยลข้าจะไปช่วยเจ้าแน่นอน”  ลินลี่ย์หัวเราะ
เยลรู้สึกอบอุ่นในใจและซาบซึ้งใจ
 “พูดได้กินใจดี!  มาเถอะ ดื่ม!”  เยลชูแก้วดื่มฉลองทันที และลินลี่ย์กับเรย์โนลด์ก็หัวเราะด้วยกัน
หัวใจของผู้คนยากจะแยกแยะได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เติบโตแล้ว คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเยล ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ที่จะยอมเชื่อถือผู้คนได้ง่าย  แต่สำหรับสหายที่ดีเหล่านี้พวกเขามีมิตรภาพผูกพันกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก  พวกเขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากความเชื่อถือไว้วางใจกัน
เป็นเรื่องยากที่ใครๆ จะหามิตรแท้ได้
ลินลี่ย์และพวกพ้องรู้สึกโชคดีที่มีพี่น้องที่ดีเช่นนั้น
 “พี่สาม”  เรย์โนลด์เม้มปาก  “เจ้าแสดงพลังฝีมือดุจเทพยดาในครั้งนี้ที่สนามประลอง  แม้แต่ตระกูลดันสตันของเรายังส่งคนมาพบเจ้าเลย”
 “พวกเขาส่งคนมาด้วยหรือ?”  ลินลี่ย์สะดุ้ง  “ใคร?”
 “คนหนึ่งคือลุงทางฝ่ายพ่อข้า”  เรย์โนลด์พูดอย่างรังเกียจ  “แต่เขาไม่มีโอกาแม้แต่จะพบเจ้า”
ลินลี่ย์พยักหน้า  ลินลี่ย์ปฏิเสธที่จะพบกับใครก็ตามที่มาเยี่ยมเขา  แม้แต่จะเป็นคนจากราชตระกูลก็ถูกหมางเมินพอๆ กัน
 “ถ้าตระกูลของเจ้าต้องการพบกับข้าจริง ก็แค่ให้ข้าไปหาก็ได้ และข้าจะไปพบกับพวกเขา”  เขาจะเห็นแก่หน้าหนึ่งในพี่น้องของเขาแน่นอน
 “ไม่จำเป็น”  เรย์โนลด์ส่ายศีรษะ  “ข้าไม่พบกับคนในตระกูลข้าตรงๆ  อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตรงนี้แล้ว พี่สาม, เจ้ากลายเป็นผู้มีชื่อเสียงจริงๆ แล้ว  นี่ทำให้ชีวิตของข้าง่ายขึ้นเช่นกัน  หลายคนในตระกูลทำดีต่อข้าขึ้นมากเช่นกัน  พวกเขารู้ว่าข้าเป็นพี่น้องกับเจ้า”  เรย์โนลด์หัวเราะขณะมองดูลินลี่ย์  “พี่สาม ในอนาคต  ถ้ามีอะไรดีเข้ามาทางเจ้า  เจ้าก็ต้องดูแลข้าผู้น้องอยู่แล้ว เจ้าก็รู้”
 “เจ้าเด็กวายร้าย”  เมื่อเห็นสีหน้าซุกซนบนใบหน้าของเรย์โนลด์ ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้  ขณะที่เขาทุบหยอก  “เจ้าก็อยู่ในกองทัพมาถึงเจ็ดหรือแปดปีแล้ว  แต่เจ้าก็ยังทำตัวแบบนี้อีก!”
สหายสนิทในหอพักหมายเลข 1987  เยลเป็นคนประเภทเจ้าสำราญ  ขณะที่เรย์โนลด์เป็นคนที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดินและกล้าทำทุกอย่าง
 “พี่สาม พี่ใหญ่เยลข้าเพียงแต่ทำอย่างนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกท่านเท่านั้น  อยู่ต่อหน้าทหารทั่วไป ข้าก็ต้องคอยปั้นสีหน้าข้าอยู่ตลอด”  เรย์โนลด์ตั้งใจปั้นสีหน้าเคร่งขรึม  หน้าของเขาจึงเคร่งขรึมไปด้วย
ต้องบอกกล่าวว่าเมื่อเรย์โนลด์ปั้นสีหน้าแข็ง เขาจึงจะมีมาดของทหารอยู่ในสายตาและความมุ่งมั่นของเขาด้วย
หลังจากคุยและหยอกล้อกันกับสหายสนิทแล้ว  หน้าของลินลี่ย์ก็เคร่งขรึมขึ้น  “พี่ใหญ่เยล น้องสี่มีบางอย่างที่ข้าต้องการให้ท่านทั้งสองช่วยข้าวางแผน”
 “เรื่องอะไร?”  เรย์โนลด์และเยลมองหน้าลินลี่ย์
เนื่องจากสถานะปัจจุบันของลินลี่ย์ ยังมีอะไรที่เขาต้องกังวลอีกหรือ?
 “เรื่องนี้เกี่ยวกับน้องชายของข้า  วันนั้นจักรพรรดิโจฮันน์ประกาศว่าในวันที่ 15 มีนาคม เขาจะประกาศอย่างเปิดเผยในตำหนักผู้กล้าว่าใครจะได้แต่งงานกับองค์หญิงเจ็ด”  หน้าของลินลี่ย์เคร่งขรึมมาก
เรย์โนลด์และเยลพยักหน้าทั้งคู่
 “น้องชายข้าวอร์ตันและองค์หญิงเจ็ดมีความรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง  หากปราศจากองค์หญิงเจ็ด ข้าเกรงว่าน้องชายข้าจะต้องตกอยู่ในความเจ็บปวดไปเป็นเวลานาน ข้าไม่อยากเห็นเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก  และโดยเฉพาะกับตัวน้องชายข้าเอง”  เสียงของลินลี่ย์เบาลงเรื่อยๆ
เรย์โนลด์และเยลมองหน้ากันเอง
พวกเขายังคงจำได้ว่าลินลี่ย์ถึงกับกระอักโลหิตออกมาในปีนั้นเมื่อเขาและอลิซเลิกคบหากัน  และจากนั้นจึงเกิดงานสลัก ‘ตื่นจากฝัน’ ที่ใช้เวลาสิบวันและสิบคืนโดยไม่ดื่มไม่กินอะไร
แม้ว่าลินลี่ย์จะไม่พูดอะไร  พวกเขาทั้งสองคนก็เข้าใจว่านี่คือความเจ็บปวดลึกของลินลี่ย์
 “น้องสาม ว่าไปเลย บอกเรามาต้องการให้เราช่วยอะไร”  เยลพูดตามตรง และเรย์โนลด์พยักหน้าอยู่ข้างเขาเช่นกัน
ลินลี่ย์พยักหน้า  “ตอนนี้ ข้ามีแผนให้เลือกอยู่สองแผน  ถ้าจักรพรรดิโจฮันน์ตั้งใจเลือกน้องชายข้า  อย่างนั้นก็คงเป็นเหตุการณ์ที่น่ายินดี  แต่...ถ้าเขาเลือกบลูเมอร์...”
หน้าของลินลี่ย์เย็นชา
 “ถึงเวลานั้น ข้าจะไม่สนความจริงว่าเขาเป็นจักรพรรดิ หรือว่าพี่ชายของบลูเมอร์แข็งแกร่งมากเพียงไหน  ข้าจะช่วยน้องชายข้าพาองค์หญิงเจ็ดออกจากวังและให้พวกเขาหนีไปด้วยกัน  ถ้าใครพยายามหยุดข้า  ข้าจะฆ่าพวกเขา!”  รังสีฆ่าฟันสามารถเห็นได้ในดวงตาของลินลี่ย์
เรย์โนลด์และเยลอดรู้สึกสะท้านใจไม่ได้
คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ  แต่พวกเขาเข้าใจชัด  ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ซึ่งลินลี่ย์นำมากับเขาความจริงก็คือนักรบอมตะ และอีกสามคนมีพลังระดับเซียน  และนอกจากนั้นยังมีเสือดำเมฆาและบีบี
ยอดฝีมือระดับเซียนถึงหก!
เมื่อลินลี่ย์ตัดสินใจทุ่มสุดตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบีบีซึ่งไม่ได้อ่อนแอกว่าลินลี่ย์เลย  ทั่วทั้งเมืองหลวงจะต้องสั่นสะเทือนจากผลกระทบที่เกิดจากนักสู้ระดับเซียนถึงหก
 “ข้าหวังว่าฝ่าบาทจะเลือกวอร์ตันนะ”  เรย์โนลด์และเยลภาวนาอยู่ในใจทั้งคู่
 “น้องสาม” เยลมองดูลินลี่ย์อย่างเคร่งขรึม  “อย่าเพิ่งใจร้อน  ต่อให้เจ้าใช้กำลังพาองค์หญิงเจ็ดไป ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น”
 “ข้าทราบ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ข้าเพียงแต่พูดว่า ถ้ามีใครพยายามหยุดข้า  อย่างนั้นข้าจะฆ่าพวกเขา  น้องชายข้าและตัวข้าปกติก็ไม่ได้มีความเข้าใจกิจการของเมืองหลวงของตระกูลท่าน ซึ่งนั่นคือสาเหตุที่ข้าหวังว่าพวกท่านทั้งสองจะช่วยข้าคิดแก้ปัญหานี้”
ตระกูลดันสตันและตระกูลดอว์สันทั้งสองตระกูลหยั่งอำนาจไว้ลึกมาก และรู้หลายอย่างหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง
 “น้องสาม ทำใจสบายเอาไว้ กองกำลังของหอการค้าดอว์สันของข้ามีมาก  เรามีนางกำลังและสาวใช้ที่เชื่อฟังคำของหอการค้าของเรา”  เยลพูดด้วยความมั่นใจ
เงินคือสิ่งอัศจรรย์  อำนาจเงินนั้นมีมากมหาศาล
 “เมื่อข้ากลับไปแล้ว  ข้าจะคุยกับผู้เฒ่าของข้า  อย่ากังวล  ผู้เฒ่าของข้าจะต้องช่วยและสนับสนุนเจ้าอย่างแน่นอน”  เยลหัวเราะ
ลินลี่ย์ก็มั่นใจเรื่องนี้เช่นกัน
ถ้าประธานหอการค้าดอว์สันปล่อยให้ข้อมูลนี้รั่วไปถึงจักรพรรดิ  เขาคงไม่เห็นผลกำไรอะไรมากนัก  ที่สำคัญหอการค้าดอว์สันไม่ขาดแคลนเงิน  แต่สำหรับยอดฝีมือ จักรพรรดิไม่อาจสั่งยอดฝีมือระดับเซียนให้มารับใช้หอการค้าดอว์สันได้ใช่ไหม?
 “ท่านควรจะรับผิดชอบเรื่องของพี่สามเป็นหลัก ที่สำคัญอำนาจหลักของตระกูลข้าอยู่ในมือกองทัพ”  เรย์โนลด์รู้ขีดจำกัดตนเองดี
ลินลี่ย์พยักหน้า
 “อย่างนั้นข้าปล่อยให้ท่าน พี่ใหญ่เยล”  ลินลี่ย์พูดจริงจัง
เยลพยักหน้ามั่นใจ
หลังจากพ่อแม่ของเขาตายไป  ลินลี่ย์มีญาติเหลืออยู่เพียงคนเดียวคือวอร์ตัน  ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาจะไม่ยอมปล่อยให้น้องชายต้องเจ็บปวด  ถ้าจักรพรรดิโจฮันน์เลือกวอร์ตัน  อย่างนั้นนั่นจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม  แต่ถ้าเขาไม่เลือก... ลินลี่ย์ไม่ประสงค์จะเปิดเผยอำนาจแท้จริงกับเขาแล้วใช้กำลังฉุดนีน่าออกมา

10 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

++

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Toffee กล่าวว่า...

ขอบคุณ้ฃค่าๆๆ

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

ฝอยทั้งตอน...แต่ก็ดี

Unknown กล่าวว่า...

ได้พาหนีแน่นวล

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น