วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 576 ติดอาวุธ


ตอนที่  576  ติดอาวุธ
ดีดิสันมีท่าทีครุ่นคิด  เขาไม่เคยคิดจากมุมมองอื่นนั้น  ด้านเกี่ยวกับความรู้เรื่องกองทัพ เขาเรียนรู้ทุกอย่างจากวิทยาลัยฟิงเกอร์ วิทยาลัยฟิงเกอร์คือหนึ่งในสามสถาบันที่มีชื่อเสียงในโลกน้ำเงิน  แต่แตกต่างจากอีกสองโรงเรียน  วิทยาลัยฟิงเกอร์สร้างขึ้นโดยกลุ่มคนแคระน้ำเงินที่ตื่นขึ้นแล้ว และยอมรับแต่เพียงคนแคระน้ำเงินที่ตื่นแล้ว

พวกคนแคระน้ำเงินจะเป็นเมืองอาณานิคมที่เป็นเอกลักษณ์มาก  เมื่อเกิดจากทะเลน้ำเงิน 90% ของพวกเขาจะถูกมันควบคุม  มีคนแคระน้ำเงินน้อยคนมากที่จะตื่นขึ้นและมีสติปัญญาเป็นของตนเอง
คนแคระน้ำเงินที่ตื่นขึ้นแล้วจะกลายเป็นผู้ฉลาดขึ้นมาก  ถ้าพวกเขายินดีสามารถจะจงรักภักดีต่อทะเลน้ำเงิน  พวกเขาจะได้รับความรักและความโปรดปรานเป็นพิเศษจากทะเลน้ำเงิน  และจะเป็นผู้มีคุณค่าสูงส่ง
หลังจากจบการศึกษาแล้ว ดีดิสันเดิมทีต้องการจะใช้สิทธิ์นั้น และเข้าร่วมหนึ่งในหกกองทัพใหญ่  นั่นคือกองพลอาญาแดง  แต่เพราะเขาไม่ยินยอมจะให้คำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อทะเลน้ำเงิน จึงถือว่าเป็นคนนอก  นิสัยของเขาเป็นคนขวางโลก และทะเลาะกับคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง และเขาพบอย่างรวดเร็วว่าเขาไม่สามารถอยู่กับกองทัพได้  ในที่สุดก็กลับมาเมืองอาบิดิยา
เมื่ออาบิดิยาอยู่ไกลจากทะเลน้ำเงินมาก  และเป็นหนึ่งในเมืองพิเศษในโลกน้ำเงิน  ประชาชนส่วนใหญ่เป็นคนแคระน้ำเงินที่ตื่นขึ้นแล้ว
 “บาร์บารา ตอนนี้เจ้ารับใช้ใครอยู่?”  ดีดิสันเงยหน้าและจ้องดูบาร์บาร่า
บาร์บาราไม่ซ่อนความสงสัยไว้ต่อไป และพูดอย่างภูมิใจ  “แน่นอน เขาเป็นคนสำคัญ!”
 “คนสำคัญ?”  ดีดิสันเม้มริมฝีปาก และแสดงความรังเกียจ  “ในโลกน้ำเงินมีคนสำคัญแบบไหนกัน?  ข้าจำได้ว่าเจ้าอยู่ในกองทัพอาญาขาว...”
 “ผู้บุกรุก!”  บาร์บาราเชิดคาง สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความภูมิใจ  “ข้ารับใช้ผู้บุกรุก!”
 “ผู้บุกรุก!”  ดีดิสันตกตะลึงมองดูบาร์บารา  “ผู้บุกรุกจากเมื่อสิบปีก่อนหรือ?”
 “ยังจะมีผู้บุกรุกอื่นอีกหรือ ถ้าไม่ใช่ท่านผู้นั้น?”  บาร์บาราโบกมือแกล้งทำเป็นอารมณ์ขัน
ดีดิสันกระโดดผางราวกับก้นรุกเป็นไฟ  “บาร์บารา เจ้าบ้าไปแล้ว!  เจ้าช่วยผู้บุกรุกจริงๆ! เจ้าไม่รู้หรือว่าผู้บุกรุกคือศัตรูสำคัญของเราชาวแคระน้ำเงิน...”
 “ตอนนั้น เป็นข้านี่แหละที่นำเขาเข้ามา”  บาร์บารามองดูดีดิสัน สีหน้ายังมีความภูมิใจ “ดีดิสันเจ้าต้องการรู้ไม่ใช่หรือว่าข้าตื่นขึ้นเมื่อใด?  เป็นตอนนั้น เมื่อข้าพบกับเขา นายใหญ่ นั่นคือเวลาที่ข้าลืมตาขึ้นจริงๆ  และได้เห็นโลกนั้นว่าไม่เหมือนกับโลกน้ำเงินเก่า”
 “พระเจ้า...”  ดีดิสันมองดูบาร์บาราอย่างเหลือเชื่อ  เขาคาดไม่ถึงเลยว่าสหายที่ดีของเขาจะปกปิดประวัติศาสตร์ส่วนที่สำคัญเอาไว้จริงๆ
 “โลกช่างอัศจรรย์มากจริงๆ”  บาร์บาราหัวเราะ  “ข้าไม่ใช่ทหารที่ดี  แต่ข้าเป็นคนนำทางที่ดีได้”
หลังจากคิดอยู่นาน ดีดิสันค่อยเรียกความสงบกลับมาได้และกลายเป็นความตื่นเต้นแทน  “ทำไมเขาถึงกลับมา?”
 “ไม่ใช่, ครั้งนี้เป็นลูกชายของเขาต่างหากที่มา”  บาร์บาราพูดจริงจัง
 “เฮ้อ, ถ้าข้าจำได้ไม่ผิด ผู้บุกรุกอายุไม่มากขนาดนั้น  ลูกชายของเขาอายุเท่าใด?  15? 16?”
 “18 ปี” บาร์บารายืนยัน
 “ก็ได้ ก็ได้ 18 ปี และเด็กอายุ 18 ปี เขาจะทำอะไรได้?”  ดีดิสันมองดูบาร์บาราอย่างเยาะเย้ย
 “ตำนานถูกกำหนดให้เป็นตำนาน” บาร์บาราพูดอย่างเฉยเมย  “ความวุ่นวายปัจจุบันนี้ในทะเลน้ำเงินเป็นเขากับกลุ่มของเขาก่อขึ้น”
สีหน้าของดีดิสันชะงัก เพราะวิกฤติและความวุ่นวายของทะเลน้ำเงิน  ทำให้คนแคระน้ำเงินตายไปนับไม่ถ้วน
หลังจากไตร่ตรองอยู่นาน  ดีดิสันจึงกล่าว  “ข้าจะไม่รับใช้ศัตรูสำคัญของเรา  นอกจากนี้เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง”
 “นั่นน่าเสียดายจริงๆ” บาร์บารามองดูดีดิสันและโวยลั่นทันที  “ตื่นได้แล้ว! ดีดิสัน! เราเป็นพวกแปลกแยก ทันทีที่เราตื่นขึ้น  เราก็แตกต่างไปแล้ว  ในที่นี่ เจ้าไม่เคยมีโอกาสและจะตายอย่างเงียบงัน พาเอาทุกสิ่งทุกอย่างลงหลุมศพไปกับเจ้า”
บาร์บาราโกรธจัด เขาไม่รู้ว่าทำไม  เขาถึงได้กระชากคอเสื้อเขาและตะโกนด้วยความไม่พอใจอย่างมาก  “หยุดคิดว่าเจ้าเป็นอะไรบางอย่างได้แล้ว!  ดีดิสัน!  เขาเป็นตำนานและเจ้า เจ้าไม่มีอะไร  เจ้าเป็นแค่สัตว์ที่น่าสมเพชที่ถูกเตะออกมา!  ตราบใดที่ข้าพูดว่าข้ารับใช้ผู้บุกรุกภายในเมืองอาบิดิยา  ข้าจะสามารถดึงคนมาได้อีกกลุ่มใหญ่!  เวโรนา แชนนอน โซซา เจ้าคิดว่าพวกเขาแย่กว่าเจ้าหรือ?  เจ้าไม่เคยพิสูจน์พลังของเจ้ามาก่อนเลย!  ในทั่วทั้งโลกคนแคระน้ำเงิน ไม่มีใครรับรองความแข็งแกร่งของเจ้าได้!  นอกจากผู้บุกรุก  ใครจะสามารถรวบรวมพวกเราคนแคระที่แตกต่างเข้ากันได้? ดีดิสัน! บอกข้าทีว่าใคร? เจ้าต้องการมีชีวิตแบบนี้ตลอดไปหรือ?”
ดีดิสันตกตะลึงมองดูบาร์บารา  บาร์บาราคนปัจจุบันที่อยู่ต่อหน้าเขาดูเหมือนเป็นคนแคระที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับบาร์บาราที่เขารู้จัก ขี้ขลาดและอ่อนแอ
 “ข้าเบื่อหน่ายชีวิตแบบนี้!”  บาร์บาราคำราม  “ข้ามองไม่เห็นความหวังแม้แต่น้อย!  ทุกวันไม่มีอะไร  เจ้ารู้ไหมว่าข้าเห็นพวกเขาเหมือนอะไร?  กลุ่มของหุ่นเชิดจักรกล และเพราะข้าต้องใช้ชีวิตกับพวกหุ่นเชิดพวกนั้นทุกคน  ข้าเบื่อจริงๆ!”
บาร์บาราขยี้เท้าเดินออกไปนอกประตู
************************

 “ท่านบอกว่าท่านยังสามารถสั่งการควบคุมดาบได้หรือ?”  ถังเทียนจ้องมองสือเซิน ไม่แสดงสีหน้าอะไร
 “ถูกแล้ว!”  สือเซินตอบเคร่งขรึม เขายืนอยู่กับที่พร้อมกับเชิดหน้า
 “ท่านแก่แล้ว และยังจะสั่งการควบคุมดาบได้อีกหรือ?”  ถังเทียนแค่นเสียง
ปิงจงใจรักษาระยะห่างจากถังเทียนไว้  สองสามวันที่ผ่านมาอารมณ์ของเขาไม่ค่อยดีนัก  และไม่ใช่เรื่องดีเลยที่จะไปตอแยถังห้าวอย่างนั้น  ดูเหมือนว่าสือเซินทำให้ถังห้าวขุ่นเคือง จึงทำให้เขาหงุดหงิด
 “ข้าสามารถสั่งการได้!”  สือเซินตะโกนเสียงดัง
ถังเทียนยิ้มกว้างทันที  “นั่นแหละวีรบุรุษตัวจริง!  ข้าบอกผู้เฒ่าไว้แล้ว ท่านไม่ใช่ของเสีย  ลุง, เตรียมของไว้ให้พวกเขาเรียบร้อยหรือยัง?”
สือเซินถอนหายใจโล่งอก  เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะสอบผ่านได้อย่างง่ายดาย  และเมื่อเขาได้ยินถังเทียนถามเรื่องการเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้  เขารู้สึกยินดีมากขึ้น
ปิงเห็นสือเซินมีความสุข และหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ  ตอนนี้เจ้าหัวเราะให้เต็มที่เลยดีกว่า  เพราะเดี๋ยวเจ้าจะหัวเราะไม่ออกอีกต่อไป
ทุกคนที่คิดว่าพวกเขาจะได้รับของดีๆ จากถังห้าว มักจะลงเอยด้วยการร้องไห้ตีโพยตีพายกับความโง่เขลาของตนเอง
เชื่อข้าเหอะ  เจ้าไม่ใช่คนแรก และจะไม่ใช่คนสุดท้าย..
 “ลุง!”
ปิงรู้สึกตัวทันที และกระแอมเบาๆ  “ทุกอย่างพร้อมแล้ว  หลังจากศึกษากลยุทธ์สู้รบที่คู่ควรของสือเซิน  ข้าคิดว่า ส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดเกี่ยวกับกลยุทธ์ก็คือสภาพที่พวกเขาผสานและแบ่งปันพลังงานในสภาพที่เปลี่ยนไป มันมีอุปสรรคที่ยากที่สุดอยู่สองอย่างคือ หนึ่งดาบที่ใช้ ต้องสามารถทนรับพลังงานเข้มข้นรุนแรงได้ดังนั้น เราจึงเตรียมดาบพิเศษเพื่อการนี้  ดาบวายุทมิฬ”
เขาเอาดาบสีดำออกมาและโยนให้สือเซิน
สือเซินรับดาบไว้และหลังจากลองฟันทดสอบดูแล้ว  เขาดูมีความสุข  ดาบดำยาว 1.5 เมตร สันหนา แต่ด้านที่คมจะบาง ตัวดาบด้านกว้างจะใหญ่กว่าฝ่ามือ มีรูปกลมและลวดลายเหมือนเส้นเลือดสีแดงเข้มอยู่บนตัวดาบ คล้ายกับลายเส้นใบไม้  สือเซินยิ้มไม่หยุด ความรู้สึกของดาบนั้นดีเป็นพิเศษ  ใช้วัสดุที่เขาไม่รู้จักในการผลิต เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
สือเซินใช้พลังกระตุ้นซึ่งทำให้รังสีดาบรอบๆ ตัวดาบขยายออกไปอีกราวสองสามเมตร เหมือนกับหลาวแสงขนาดยักษ์ ทำให้เขาฉีกยิ้มกว้าง
หวังจุนเซียนและสือหย่งที่อยู่ข้างๆ อิจฉาทันที
มีแต่ปิงที่ในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ  แล้วเจ้าจะรู้เมื่อความดีใจกลายเป็นความเสียใจ
ถังห้าวโง่มาหลายครั้งแล้ว  แต่เจ้าไม่ควรพบกับเขาเมื่อตอนที่เขาไม่โง่..
ดาบดำนั้นเป็นผลพลอยได้จากห้องค้นคว้าของเซรีน โดยใช้วิธีหลอมหินดำ มันเป็นโลหะผสมที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ บนพื้นฐานหลักการที่วัสดุที่เหลือเอามาใช้ประโยชน์ได้ เซรีนอนุญาตให้บริวารของนางสร้างดาบขึ้น  เส้นเลือดที่อยู่บนตัวดาบเป็นโลหะวิญญาณ  แต่กลุ่มโลหะวิญญาณเหล่านี้ยังไม่ถึงระดับมาตรฐานที่ต้องการ ดังนั้นบริวารของนางจึงได้เรียนรู้หลักการที่ว่า วัสดุเหลือใช้เอามาใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเอามาทำเป็นดาบ เห็นได้ชัดว่าแค่ชื่อของมันเป็นของที่สร้างขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ
 “นี่ไม่ใช่ดาบของเจ้า!”  ปิงพูด
 “อะไรนะ?  ทำไมล่ะ?”  สือเซินกลายเป็นแมวที่ถูกเหยียบหาง สะดุ้งผางด้วยความตกใจ  เขากอดดาบวายุทมิฬเอาไว้ ผมขนลุกชันขณะจ้องมองปิง
 “นั่นเป็นอาวุธคู่มือของสหายร่วมทีมของเจ้า  ดาบของเจ้าต้องโดดเด่นกว่านี้  ดังนั้นเราเตรียมดาบอีกรูปแบบหนึ่งไว้ให้เจ้า”   ปิงดึงดาบสีฟ้าโปร่งแสงเล่มหนึ่งออกมาแล้วโยนให้สือเซิน
สือเซินตะลึงมองดูดาบไม่สามารถละสายตาจากมันได้
เทียบกับดาบวายุทมิฬแล้ว  ดาบเล่มนี้ยาวกว่า แคบกว่า ตัวดาบคล้ายกับน้ำทะเลใส บริสุทธิ์ เป็นประกายและเขาสามารถมองทะลุตัวดาบจนเห็นพื้นหินข้างล่าง  ด้ามดาบเป็นสีขาวบริสุทธิ์เหมือนยอดเขาหิมะตระหง่านและเยือกเย็น
ดาบที่อยู่ต่อหน้าเขาจะมีพลังก่อตัวเป็นวังวนลูกหนึ่งเหมือนกับว่าดาบดูดซับพลังงานได้
ดาบนี้มีจิตวิญญาณ...
 “มันเรียกว่าทะเลหิมะยามค่ำ” ปิงแนะนำ  “ตั้งแต่วันนี้ไป มันเป็นของเจ้า มันคือดาบที่มีชื่อเสียง รายล้อมไปด้วยความสำเร็จ  ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของมันมัวหมอง”
ปิงโกหกอย่างฟันไม่ขยับตาไม่กระพริบหน้าตาเฉย  ทะเลหิมะยามค่ำเป็นงานด่วนจี๋ที่สร้างขึ้นมาในคืนก่อน  สมบัติวิญญาณที่เขาสร้างขึ้นมา แต่มาตรฐานในการสร้างสมบัติวิญญาณของเสี่ยวเอ้อในปัจจุบันนี้สูงล้ำมาก แม้ว่าจะเป็นงานเร่งด่วน แต่ก็เป็นของคุณภาพสูง
สือเซินยื่นมือที่สั่นเทาออกไป  เมื่อเขาจับด้ามดาบได้  เขารู้สึกได้ถึงสำนึกของดาบ นัยน์ตาของเขาเริ่มหลั่งน้ำตาทันที
น้ำตาของคนชราหลั่งไหลอีกครั้ง
ปิงไม่หยุดและพูดต่อ  “เรายังคงศึกษาเกราะของพวกเจ้า และเริ่มปรับปรุงแก้ไขในวัตถุประสงค์เดิม เป็นข้าเองที่แนะนำให้มีการปรับเปลี่ยน  ข้าคิดว่าความอ่อนไหวต่อพลังงานและความคุ้นเคยกับพลังงานมีความสำคัญมากกว่าการป้องกันของมัน  ดังนั้นเพื่อสร้างเกราะใหม่ ข้าจึงได้ออกแบบปีกพลังงานเป็นพิเศษเพื่อให้พวกเจ้าทุกคนมีความคล่องแคล่วมากขึ้น และจะช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมพลังของเจ้า”
สือเซินไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดใจ
หลังจากผ่านไปห้าหรือหกนาที เขาค่อยรู้สึกตัว  เขาชูดาบทะเลหิมะยามค่ำเดินเข้าไปหาถังเทียนและคุกเข่าข้างหนึ่งพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม  “กองพลปีศาจแห่งทวีปโยวโจวขอปฏิญาณด้วยชีวิตของเราต่อนายท่าน  เราขอจงรักภักดีต่อท่าน!
 “โยว.. ทวีปโยวโจว กองพลปีศาจ..” หน้าของหวังจุนเซียนเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว  เขาตะกุกตะกักพูดและมองดูสือเซินราวกับว่าเห็นผี
สือหย่งซึ่งอยู่ข้างๆ เขาก็พลอยเป็นไปด้วย  ปากคอของเขาสั่น หน้าของเขาไร้สีเลือด เขาร้องเหวอและเป็นลมทันที
 “ทวีปโยวโจว กองพลปีศาจ...”  ถังเทียนพึมพำกับตนเอง ดูเหมือนว่าจะสดุดหูนะ โอว.. เอาไว้ตรวจดูเมื่อข้ามีเวลาว่าง  แต่สำหรับตอนนี้..
เขามองดูสือเซิน  “ท่านต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานเท่าใด?”
 “เราสามารถออกรบได้เดี๋ยวนี้เลย!  สือเซินพูดขึงขัง
ถังเทียนยิ้มจนเห็นฟัน  “เยี่ยม..มากกกก”

11 ความคิดเห็น:

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

JaOurPaLa กล่าวว่า...

คู่ซ้อมรึเปล่า 555

Boybravo กล่าวว่า...

มันส์ๆ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

เยี่ยมมาก งั้นมาซ้อมกับพวกเราก่อน
ซิ่วๆ อาเฮ่อ พี่จิ่ง มาเล่นกัน มาเล่นกัน

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ตกปลาตัวใหญ่ได้แล้วววว555 เดี๋ยวจะร้องไห้ไม่ออก ซ้อมจนขี้แตกแน่นวล

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ไปไล่ทุบตีเหล่าคนเคระน้ำเงินกัน

Knowledge กล่าวว่า...

ตอบว่า"เดี๋ยวนี้"สินะ ลาก่อนเจ้าเซิน... ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่ถังอัพเกรดกระสอบทรายแล้ว 555

Unknown กล่าวว่า...

รอตอนต่อไป

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น