วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 660 สู้รบรุนแรง


ตอนที่  660  สู้รบรุนแรง
ดวงอาทิตย์น้อยหลายดวงพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าเป็นแถวแนวโค้งสีส้มพุ่งกระแทกใส่แถวของศัตรู
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!

เมื่อกระทบเข้ากับตัวเรือรบโจมตีเร็ว รังสีธนูกลมก็ระเบิดทันทีพร้อมกับปล่อยพลังงานสีส้มทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง  ตัวเรือพอไม่มีม่านพลังป้องกัน ภายใต้คลื่นพลังงานรุนแรงสีส้มจึงอ่อนยุ่ยเหมือนกับกระดาษและแตกกระจายเป็นผุยผงทันที
ระเบิดแสงไฟลูกแล้วลูกเล่าเจาะทะลวงทุกสิ่งทุกอย่าง
พวกโจรสลัดทุกคนตาเบิกกว้างตกใจ ระลอกคลื่นพลังงานที่รุนแรงสะท้านแก้วหูพวกเขาจนหูอื้อไปชั่วคราว  แสงรังสีที่ทะลุทะลวงปกคลุมเต็มไปทั่วทุกพื้นที่  ทั่วทั้งพื้นที่สว่างไสวไม่มีเงาหรือเสียง  เพลิงลุกไหม้รอบๆ เรือรบที่หักพัง  หมอกละอองเลือดระเหยอยู่ในท้องฟ้า ลอยละล่องเหมือนกับใบไม้ที่เคลื่อนไปตามแรงคลื่นซัด...
ฉากภาพที่เจ็บปวดเกิดขึ้นอยู่ในความเงียบ
โจรสลัดทั้งหมดไม่ได้เตรียมตัวเลยแม้แต่น้อย และตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
มีเพียงขุนพลที่อยู่บนเรือรบแถวหน้าตะโกนลั่น  “โจมตี!  โจมตีเดี๋ยวนี้!”
 “จะ..โจมตีตรงไหน?”  รองหัวหน้าประจำเรือโพล่งขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว  ศัตรูของพวกเขาโจมตีมาจากทุกตำแหน่งทิศทาง จะให้พวกเขาโจมตีไปทางไหน?
ก่อนที่ผู้บัญชาการเรือจะทันได้ตอบ จู่ๆ ก็มีบางคนร้องขึ้นด้วยความกลัว  “แย่แล้ว!  พวกเขากำลังขึ้นบนเรือของเรา!”
ทุกคนบนเรือได้รับการเตือนทันที  ใบหน้าของพวกเขาแสดงความหวาดผวา  ถ้าศัตรูขึ้นเรือได้...
พวกเขาไม่กล้าคิดถึงฉากเช่นนั้นเลย
 “ป้องกันเอาไว้!”  คนหัวหน้าตะโกน  เสียงของเขาสูง  ขุนพลที่มาจากทวีปกวงหมิงไม่มีประสบการณ์การต่อสู้อย่างดุเดือดแบบนั้น  เหมือนกับว่ความรู้ประสบการณ์ต่อสู้ในอดีตของเขาทั้งหมด สูญเสียไปหมด
 กับดัก!  เป็นกับดักจริงๆ!  ศัตรูเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว!’
การตัดสินใจเช่นนี้ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน
หลิงซิ่วคือคนที่แข็งแกร่งประดุจเหล็ก  เขามักจะเป็นผู้นำหน้าอยู่เสมอ  ดวงตาสีแดงเพลิงของเขาลุกโชน  เขาวิ่งขึ้นหน้าพร้อมกับหอกของเขา
ลูกเรือบนเรือเพียงเห็นแต่ดาวสีเงินแผ่อยู่ข้างหน้า  รังสีเงินวิ่งมาข้างหน้าของพวกเขา  ตอนนั้นพวกเขาจึงตระหนักได้ว่าแสงสีเงินนั้นความจริงก็คือคนผู้หนึ่ง
ทหารนั้นกรีดร้องและไม่มีเวลาทันตั้งตัว  แสงเงินระเบิดกระจายเต็มหน้าของเขา  รังสีเงินนับไม่ถ้วนเป็นเหมือนทะเลดวงดาวกระแทกใส่เรือเร็วโจมตี
หอกดาวแกะ!
ซี่  ซี่  ซี่!
รังสีเงินหนาแน่นหนักหน่วง  ทหารยกอาวุธในมือขึ้นตามสัญชาตญาณ และรู้สึกเหมือนกับว่าถูกเครื่องจักรหนักกระแทกใส่  พวกเขาร้องครวญคราง และกระเด็นออกไปทุกคน  ก่อนที่ทหารเหล่านี้จะร่วงถึงพื้น  ทหารทุกคนหลั่งเลือดจากหู, จมูกและปาก ร่างกายปราศจากชีวิต
บึ้ม, ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งแตกทำลายเป็นผุยผงจากรังสีเงิน สองเท้าของหลิงซิ่วยืนอยู่บนเรือแล้ว
เมื่อเห็นผลงานที่น่ากลัวของหลิงซิ่ว  ศิษย์ตระกูลหวีที่ติดตามอยู่ด้านหลังหลิงซิ่วรู้สึกมีกำลังใจเพิ่มสูงขึ้น พวกเขาโห่ร้องขณะบุกขึ้นเรือรบ
ในระยะไกล  ปิงมองดูฉากภาพดังกล่าว  การขึ้นเรือได้ลำหนึ่งจะทำให้การสู้รบโหดร้ายและรุนแรงมากขึ้น  และแม้แต่ทหารที่ฝึกมาดีแล้วก็ยังกลัวที่จะทำเช่นนั้น  แต่ปิงกล้าใช้มือใหม่บุกขึ้นเรือเป็นเพราะเขาได้เปรียบในการซุ่มโจมตี  และเพราะหลิงซิ่ว
 หนึ่งหอกหนึ่งชีวิต’ ‘หลิงซิ่วผู้แกร่งกร้าว’ มีอารมณ์ร้อนแรง ความตั้งใจสู้ของเขามีมากมายเหลือเฟือเสมอ  เขารู้สึกไม่หวาดหวั่นและจะวิ่งเข้าสู้รบก่อนเสมอ เขาใช้การสู้ระยะประชิดและร่วมประสานงานซึ่งเป็นด้านสำคัญที่สุดก็ดูดีสง่างาม
เมื่อหลิงซิ่วเข้าต่อสู้อย่างห้าวหาญสง่างาม ทำให้เขาดูแข็งแกร่งที่สุดเกินกว่าทุกคน
บนเรือรบไม่เพียงแต่หลิงซิ่วจะมีใบหน้าขลาดกลัวต่อศัตรูแปลกหน้าที่อยู่ต่อหน้าเขา  แต่ความตั้งใจต่อสู้ของเพิ่มขึ้นสูง เขาคำรามเหมือนฟ้าผ่า และวิ่งตะลุยเข้าหาพวกเขา  หอกเงินในมือของเขาถูกใช้ไม่มีหยุด ไม่ว่าตรงไหนที่เขาไป ก็จะมีคนพ่ายแพ้ถูกบดขยี้จนโลหิตไหลนอง
ศิษย์จากตระกูลหวีที่หลิงซิ่วสอนเพิ่งจะมาถึงและกระโจนเข้าหาศัตรู
หวีชิงอี้ฉลาดมาก เขารู้ว่าพลังของพวกเขายังห่างไกลจากหลิงซิ่ว  เขารู้ว่าเมื่อเทียบกับโจรสลัดฝีมือดี  พวกเขายังเป็นรองเล็กน้อย  ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงจับกลุ่มสามคนบ้าง ห้าคนบ้าง หอกของพวกเขามักใช้ด้วยกันเสมอ โจมตีพร้อมกัน  ด้วยรูปแบบการต่อสู้ที่เอาเปรียบเช่นนั้น พวกโจรสลัดจึงพ่ายแพ้ และเขาจะถูกกำจัดทีละคนๆ
โจรสลัดทุกคนบนเรือรบเป็นทหารเก่าทั้งนั้น  และหลายๆ คนเป็นสมาชิกหลักและเป็นทหารฝีมือดีของทวีปกวงหมิง
ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนั้น  นักสู้ฝีมือดีของทวีปกวงหมิงสามคนมองหน้ากันเอง และพวกเขากระโจนเข้าหาหลิงซิ่วทันที  อีกสองสามคนหันหน้าและวิ่งเข้าใส่หวีชิงอี้!
พวกเขาสามารถเห็นได้ว่าศิษย์ของตระกูลหวีมีฝีมือการต่อสู้ระดับทั่วๆ ไป  แต่สามารถสร้างความเสียหายได้เนื่องจากหวีชิงอี้  ต้องแยกหวีชิงอี้ออกมาจากกลุ่ม และปล่อยให้มือสมัครเล่นแสดงฝีมือที่ไม่ธรรมดานั้น
ตรึงหลิงซิ่ว  ฆ่าหวีชิงอี้!
ยอดฝีมือของทวีปหมิงกวงทุกคนตัดสินใจใช้กลยุทธในทันทีนั้น  พวกเขาทำการตัดสินใจทันที
เมื่อเห็นนักสู้ฝีมือดีของทวีปกวงหมิงพุ่งเข้าหาเขา  หลิงซิ่วคำราม  เขาเขาเคลื่อนไหวหอกอย่างนุ่มนวล  ปลายหอกสั่นสะท้านเล็กน้อย และกลายสภาพเป็นทะเลรังสีเงิน
แต่ร่างของเขายังคงเหมือนรูปสลักไม่เคลื่อนไหวเลยสักนิ้วเดียว  มีแต่เพียงปลายหอกที่ถูกควบคุมด้วยความถี่อย่างน่าอัศจรรย์  ดวงดาวสีเงินเรียงรายไปข้างหน้ากลายเป็นแม่น้ำดวงดาว  คนสองสามคนนั้นเข้ามาใกล้ทุกที  แต่หลิงซิ่วไม่สนใจพวกเขา  เขายังคงกวัดแกว่งหอกสร้างรังสีเงินอย่างเฉยเมย  ชั้นรัศมีบางๆ ยังคงครอบงำและไหลต่อเนื่องเหมือนทะเลดวงดาวไม่มีสิ้นสุด
ยอดฝีมือทั้งสามปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันที่ชั่วร้ายอยู่บนใบหน้า  หนึ่งในนั้นมีมือที่มือเขาปกคลุมไปด้วยเข็มแสง  อีกคนหนึ่งทั่วทั้งตัวคลุมไปด้วยเพลิงขาว  และคนสุดท้ายถือกระบี่แสงที่เหมือนกับหิมะ
ทั้งสามคนรู้สึกดีใจ  พวกเขาเป็นสามคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเรือรบ  แม้ว่ารังสีหอกของศัตรูของพวกเขาจะหนาแน่นมาก  แต่สำหรับพวกเขาไม่มีอะไร  ตราบใดที่พวกเขาทำลายผ่านรังสีหอกได้ ศัตรูของพวกเขาก็จะพินาศ
ในดวงตาของเขา ศัตรูใกล้เข้ามาทุกทีๆ  แต่แววตาสีแดงเพลิงของเขายังคงลุกโชน
หลิงซิ่วก้าวมาข้างหน้าทันที ผมสีเงินยาวประบ่ากระพือยุ่งเหยิง  ทะเลรังสีเงินรอบตัวเขาพลันสว่างเจิดจ้าทันที
หอกเงินแทงออกไป
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยรังสีเงินถูกดึงดูดในเวลาเดียวกัน สร้างเป็นสายเส้นแสงแพรวพราวมากมายนับไม่ถ้วนตรงเข้ามาในตัวหลิงซิ่ว
ผมยาวของเขาโบกสะบัดขณะที่เขาถลันตัวไปข้างหน้า เข้าไปในแสงสีขาว
เวลาเหมือนกับจะหยุด
แสงสีเงินขนาดหัวแม่มือยิงออกมาจากปลายหอก ทะลวงผ่านหัวใจของยอดฝีมือทั้งสามและทะลุออกด้านหลัง
หอกผดุงธรรม!
นี่คือไม้ตายสังหารแรกที่หลิงซิ่วได้รับมาผ่านการรู้แจ้ง  และมีเหตุผลที่จะบอกว่าได้ว่ามันไม่เหมาะกับหลิงซิ่วในปัจจุบันนี้อีกต่อไป  แต่หลิงซิ่วไม่ยินดีจะทิ้ง  ด้วยการระเบิดอารมณ์ของเขา  ยังมีความอ่อนโยนลึกๆ อยู่ในตัวเขาที่ผู้คนไม่สามารถเข้าใจได้
วิชานี้ทำให้เขานึกถึงอาจารย์ของเขา
อาจเป็นเพราะความคิดถึงอาจารย์ของเขา  ความคิดถึงที่จะไม่มีวันจางหายไป
เพราะมันคือแก่นของเขา  เพราะมันคือคุณธรรมของเขา
ถึงจะโง่ จะอ่อนแอ แต่มันก็ยังเป็นของเขา  หลิงซิ่วทุ่มเทอย่างสุดกำลัง  ไตร่ตรองถึงมันต่อไป และยังคงรู้แจ้งเพราะมันเพิ่มมากขึ้น  ยิ่งเขาคิดถึงก็ยิ่งรู้มากขึ้นเรื่อยๆ
 อาจารย์, ข้าคิดถึงท่าน’
หอกผดุงธรรมในมือของหลิงซิ่วปลดปล่อยรังสีอันตรายได้ในที่สุด  และเริ่มก่อให้เกิดพลังที่น่ากลัวอย่างเหลือล้น
เมื่อเขาดึงหอกกลับ รังสีทะลุทะลวงก็หายไป  และศพทั้งสามก็ร่วงลงจากฟ้า โดยไม่ต้องหันไปดู เขาแทงหอกไปทางตำแหน่งของหวีชิงอี้
ควั่บ, ร่างของเขาหายไปทันที
หอกวิ่ง!
เขาปรากฏตัวที่ด้านหลังหวีชิงอี้เหมือนภูตพราย และแทงหอกเงิน  คอของนักสู้จากทวีปกวงหมิงแตกปริ ละอองเลือดฉีดพุ่ง  อีกสองคนหวาดกลัวและหันหลังหนี  แต่หลิงซิ่วไม่เปิดโอกาสให้เขาทำเช่นกัน
ทั้งสองหอกสร้างรูแผลที่หลังของพวกเขา  พวกเขาวิ่งไปได้สองสามก้าวก่อนจะล้มลงกับพื้นเสียชีวิต
เมื่อศิษย์ตระกูลหวีเห็นหลิงซิ่วปรากฎตัวจากในอากาศเบาบาง  พวกเขาตื่นเต้น
วิชาหอกตระกูลหวี ไม่สิ, วิชาหอกดาวแกะทรงพลังมากจริงๆ  น่ากลัวมาก!  หลิงซิ่วถ่ายทอดวิชาหอกดาวแกะให้พวกเขาแล้ว  แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากไปกว่าได้เห็นประจักษ์ถึงพลังวิชาหอกนี้
ในอนาคต พวกเขาจะสามารถทรงพลังได้มากเท่ากับท่านหลิงซิ่ว!
ความคิดนั้นผุดขึ้นมาในใจของทุกคน  เปลวเพลิงจะเผาผลาญไปได้นานหลายปี
เรือรบและเรือโจมตีเร็วทั้งหมดที่แล่นเข้าไปในป้อมล้วนถูกจมถูกทำลาย  หน่วยกะโหลกถือโอกาสวิ่งเข้าไปในกระบวนของศัตรูและสร้างความปั่นป่วน
แต่ในความปั่นป่วนนั้นหน่วยกะโหลกสามารถแสดงฝีมือได้  แม้ว่าอายะจะมีความมั่นใจกับคนของนาง  แต่อายะก็ยังเลือกนำเข้าโจมตี  หน่วยกะโหลกเหมาะกับการสู้รบที่ยุ่งเหยิง
มีทางเลือกขนาดเล็กให้แทรกซึมผ่านเข้าไปและฆ่า  หน่วยกะโหลกเป็นเหมือนมีดบินที่ฟันแทง  ทุกครั้งที่บินไป เป็นต้องฟันได้เลือดเนื้อ
เทียบกับหน่วยกะโหลก  กองกำลังนางแอ่นของเซี่ยอวี่อันเคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ  กระบวนพยุหะของกองกำลังนางแอ่นหนาแน่นรัดกุมเหมือนกำแพงเคลื่อนที่  พวกเขาค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าซึ่งเป็นการกระทำอย่างมีจุดมุ่งหมาย
ในสนามรบที่ยุ่งเหยิงแบบนั้น มีคนรวมตัวกันมากกลุ่ม การเข้าไปอย่างมืดบอดจะไม่ทำให้การรบทำได้เร็ว  แต่กลับตรงกันข้าม การตั้งกระบวนไว้หนาแน่นรัดกุมและค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าจะสร้างแรงกดดันต่อจิตใจของศัตรูอย่างมาก  และศัตรูจะพลังทลายจากภายในได้อย่างรวดเร็ว
อิงเยี่ยนผู้อยู่ภายนอกป้อมกวงจื้อเป่าแตกตื่นตกใจ และตะโกนสุดเสียง  ไป!  เข้าไปเดี๋ยวนี้!”
ป้อมกวงจื้อเป่ายังคงระเบิดอย่างต่อเนื่อง  พื้นสั่นสะเทือนกึกก้อง และไฟภายในป้อมทำให้คนที่อยู่ข้างนอกห่างออกไปรู้สึกกลัว
ซุ่มโจมตี!
เป็นการซุ่มโจมตีจริงๆ!
อิงเยี่ยนไม่สามารถเข้าใจได้  เป็นไปได้ยังไงที่จะมีการซุ่มโจมตีภายในป้อมกวงจื้อเป่า?  หรือว่าแผนโจมตีของข้าถูกเปิดโปง?
เขาไม่เคยคิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะอดทนเงียบอยู่ได้จริงๆ  มากจนทำให้สถานที่นี้ปรากฏเหมือนกับว่างเปล่า  อิงเยี่ยนรู้สึกเสียใจที่ทำผิดพลาดยิ่งใหญ่ ป้อมที่สำคัญขนาดนั้น จะไม่มีคนคอยป้องกันได้ยังไง?
 ข้าช่างเขลาเสียจริง!’
แสงเพลิงที่พวยพุ่งสู่ฟ้าทำให้หัวใจของอิงเยี่ยนเจ็บปวด  เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของเขา ตั้งแต่เขานำกองโจรสลัด  กองกำลังเกือบ 70% ของเขาติดอยู่ภายในป้อม
ในเวลาเช่นนั้นเขาไม่สนใจอะไรอื่นอีกต่อไป  เป็นเหมือนกับว่านักพนันที่สูญเสียคะแนนไปด้วยความโกรธ และทุ่มเทเกทับบนโต๊ะพนันจนหมดหน้าตัก  ถ้าเขาไม่ช่วยกองทัพของเขาที่อยู่ภายในไว้  งานหนักที่เขาทำมาจะสูญเปล่า แผนการทั้งหมดของเขาก็จะล่มสลายไปหมด
ตาของอิงเยี่ยนแดงด้วยความโกรธโดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีกองทัพหนึ่งที่มาถึงด้านหลังพวกเขาอย่างเงียบงัน

7 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สงครามกองทัพน่าจะจบโดยเร็วเพราะมีผู้บัญชาการที่เก่งกาจ รุกเร็วรุนแรง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมาก

Boybravo กล่าวว่า...

มันส์ ขอบคุณผู้แปลครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

แสดงความคิดเห็น