วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 10 บาลุค – ตอนที่ 19 ราชอาณาจักร


เล่มที่ 10 บาลุค – ตอนที่ 19 ราชอาณาจักร
ลินลี่ย์รู้สึกได้ชัดเมื่อเขาโอบกอดอลิซไว้ในวงแขนเมื่อตอนที่พวกเขาอายุยังน้อย  เขารู้สึกมีความสุข  แต่ตอนนี้เมื่อเขาโอบกอดเดเลียในวงแขน ลินลี่ย์รู้สึกว่าในส่วนลึกของจิตใจของเขานั้นพึงพอใจ อิ่มเอมใจ

นี่...คือความสุขที่แท้จริง!
น้ำแข็งที่เคลือบหุ้มหัวใจลินลี่ย์หลอมละลายไปอย่างสิ้นเชิง
หน้าของเดเลียเต็มไปด้วยรอยยิ้ม  นางไม่เคยมีความสุขมากมายมาก่อน
 “ลินลี่ย์,  ข้ามีความสุขมาก”  เดเลียกระซิบอย่างแผ่วเบาในอ้อมแขนของลินลี่ย์
 “ข้าเองก็เหมือนกัน”  ลินลี่ย์ลูบผมหอมของเดเลียอย่างแผ่วเบาและสัมผัสไหล่ที่เพรียวบางของนาง
เดเลียแอบอิงกับอกของลินลี่ย์อย่างเชื่องเชื่อ  นางพึมพำ  “ลินลี่ย์,  ข้ารู้สึกเหมือนกับเป็นความฝัน... บอกข้าที... นี่เป็นความจริงหรือเปล่า?”  สตรีที่ดื้อรั้นซึ่งทำให้แม้แต่จักรพรรดิยังรู้สึกหงุดหงิดบัดนี้กลายเป็นเด็กที่ว่าง่าย
 “จริงสิ, จริงแน่นอน”  ลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงไออุ่นจากกายของเดเลีย และความรู้สึกอบอุ่น อยากปกป้องผุดขึ้นมาในใจของเขา
เดเลียเงยหน้านางและมองลินลี่ย์อย่างลังเล  “ลินลี่ย์! ถ้าสักวันหนึ่งอลิซมาหาเจ้า เจ้าจะทำยังไง?”  เดเลียกลัวจริงๆ กลัวว่าจะมีคนอื่นพรากลินลี่ย์ไปจากนาง
 “อลิซ?”
มือของลินลี่ย์ชะงักค้าง  แต่จากนั้นเขาลูบผมเดเลียต่อไป  เขาพูดอย่างสบายใจ  “ความรักระหว่างเราทั้งสองคนจบไปนานแล้ว  ข้าไม่ได้รู้สึกรักหรือเกลียดนาง  ที่สำคัญ..นางเลือกคนที่นางชอบไปแล้ว...”  ลินลี่ย์ลูบหน้าเดเลียและหัวเราะ  “เดเลีย, อย่าคิดมากเกินไป  ข้าจะไม่พรากจากเจ้า  ถ้าข้าทอดทิ้งเจ้า.. อย่างนั้นข้าคงเป็นคนโง่ที่สุดอย่างแท้จริง”
 “เดเลีย, ข้าเป็นคนโง่ที่สุดหรือเปล่า?”  ลินลี่ย์มองเดเลีย
เดเลียหัวเราะ และหัวเราะอย่างมีความสุข
 “เจ้าเป็นอัจฉริยะ  เจ้าเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยูลาน”  เดเลียพึมพำในลำคอ
เมื่อเห็นริมฝีปากของเดเลียอวบอิ่มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ลินลี่ย์มีแรงกระตุ้นในใจ..ไม่มีความลังเลใจแม้แต่น้อย ลินลี่ย์ก้มหน้าประทับจุมพิตที่ริมฝีปากนาง  ดูเหมือนเดเลียสะท้านเหมือนฟ้าผ่าและร่างของนางสั่น  แต่จากนั้นนางก็ดื่มด่ำกับจุมพิตนั้น....
นี่เป็นจูบครั้งที่สองของลินลี่ย์และเดเลีย
ครั้งแรกในราตรีเมืองอู่ซัน
หลังจากนั้น พวกเขาพลัดพรากกันอย่างยาวนาน
เดเลียไม่พูดอะไร แค่อยู่ในอ้อมอกลินลี่ย์  แววอุธัจเอียงอายปรากฏบนใบหน้าของนาง  สำหรับลินลี่ย์แล้ว เดเลียหลงใหลเต็มที่
 “อ๊าย.. ข้าไม่เห็นอะไรเลยนะ, ข้าไม่เห็นอะไรจริงๆ ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น!!!” จู่ๆ บีบีก็โผล่ออกมาจากใต้น้ำในทะเลสาบ
ลินลี่ย์กับเดเลียตกใจทั้งคู่
บีบีอยู่ในกลางอากาศหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ “อือ.. ขอโทษทีพี่ใหญ่, ขอโทษทีพี่สะใภ้  เชิญต่อไปได้เลย”
 “พี่สะใภ้?”  ลินลี่ย์และเดเลียอดหัวเราะไม่ได้
 “อ้อ..เจ้าแอบดูอยู่ตลอดเวลาสินะ บีบี, บอกมา..จะให้ข้าลงโทษยังไง?”  ลินลี่ย์คาดว่าบีบีคงแอบดูอยู่ตลอดเวลา  บีบีใช้วิชาร่างเงาและซ่อนตัวอยู่ในเงาทะเลสาบ
ลินลี่ย์หาบีบีไม่พบแม้จะใช้พลังจิตของเขาหาก็ตาม ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นเป็นธรรมดา
 “ลงโทษข้า?”  บีบีไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่  “โอว, ลงโทษข้าด้วยการหาหนูสาวๆ ที่แข็งแกร่งพอๆ กับข้าสักหนึ่งนางก็ได้  ข้าเองก็เปล่าเปลี่ยวเดียวดายมานานแล้ว” บีบีทำท่าทางน่าสงสาร
ลินลี่ย์กับเดเลียอดหัวเราะไม่ได้
 “โชคร้ายจริง  ที่ข้าเป็นหนูอัจฉริยะหายาก  พันปีจึงจะมีสักครั้ง”  บีบีถอนหายใจ “พี่ใหญ่, พี่สะใภ้.. พวกท่านจะแต่งงานกับเมื่อใด?  ข้าอดใจรอไม่ไหวแล้ว”
 “แต่งงาน?”
ลินลี่ย์มองดูเดเลีย  ถึงเวลาที่ต้องคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจังแล้ว
….

จวนเจ้าเมืองแบล็คเดิร์ท
เมื่อบาร์เกอร์และคนอื่นๆ เห็นลินลี่ย์กับเดเลียเดินจูงมือมาพร้อมกันด้วยอาการสนิทสนมเช่นนั้น ทุกคนพากันตะลึง ซาสเลอร์รู้สึกตัวก่อนเป็นคนแรกและจงใจพูดเสียงดัง  “ใต้เท้าลินลี่ย์, เกิดอะไรขึ้นระหว่างท่านกับแม่หญิงเดเลีย?”
เพราะสถานะของลินลี่ย์  เมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าคนอื่น แม้แต่ซาสเลอร์ก็ยังเรียกลินลี่ย์ว่า ใต้เท้า
 “เดเลียกับข้าจะแต่งงานกัน”  ลินลี่ย์ยิ้ม
ข่าวนี้ส่งผลเหมือนกับใช้คาถาต้องห้าม ทุกคนส่งเสียงฮือฮาทันที
 “โฮว.. !  แต่งงานกัน?”  เกทส์เป็นคนแรกที่ตะโกน
 “หวา..! แม่หญิงเดเลีย, ท่านกับใต้เท้าลินลี่ย์กำลังจะแต่งงานกันหรือนี่?  เยี่ยมไปเลย!  รีเบ็คกากระโดดโลดเต้นดีใจ  ทั่วทั้งหอประชุมตกในบรรยากาศตื่นเต้นยินดี  มีอยู่เพียงคนเดียวที่ได้แต่ฝืนยิ้ม  เจนน์ ในช่วงไม่กี่วันมานี้เจนน์หมกมุ่นอยู่กับกิจการจัดตั้งแคว้น
นางคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับข่าวเช่นนี้อย่างกะทันหัน
แต่แน่นอน..เจนน์คาดไว้นานแล้วว่าวันนี้จะต้องมาถึง
ไม่มีอะไรที่ลินลี่ย์ปิดบังเดเลียได้  และนางรู้ประวัติระหว่างเจนน์และลินลี่ย์ดี  เดเลียยิ้มและเดินเข้ามาหาเจนน์ จากนั้นจับมือเจนน์ด้วยตนเองอย่างเป็นกันเอง  “เมื่อลินลี่ย์กับข้าแต่งงานกัน เจ้าช่วยเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ข้าได้ไหม?”
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเดเลีย  เจนน์พยักหน้า
เดเลียฉุดดึงเจนน์เข้ามานั่งข้างตัวอย่างเป็นมิตรทันทีและเริ่มต้นสนทนากับนาง
ลินลี่ย์เดินเข้ามาหาบาร์เกอร์, ซาสเลอร์และคนอื่นๆ “เดเลียกับข้าตัดสินใจร่วมกันแล้ว  เราจะเป็นเจ้าภาพจัดพิธีแต่งงานกันโดยตรง  วันแต่งงานจะเป็นอีกสามเดือนจากนี้ไป วันที่ 2 กรกฎาคม”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองดูบาร์เกอร์  “บาร์เกอร์!  ข้าคิดว่า... ข้าคิดว่าในอีกสามเดือน คงจะเป็นเรื่องดีถ้าเราสามารถยึดแคว้นข้างเคียงและก่อตั้งราชอาณาจักรก่อนจะถึงกำหนดสามเดือน  ท่านสามารถทำเช่นนี้ได้ไหม?”
ลินลี่ย์ต้องการให้งานแต่งงานของเขากับเดเลียเป็นกิจกรรมที่ตื่นเต้น
แต่สามเดือนนี้  ในเงื่อนไขของลินลี่ย์  ดูเหมือนจะค่อนข้างสั้น
 “สามเดือน?  ไม่จำเป็นเลย”  บาร์เกอร์มั่นใจมาก  “เดือนเดียวก็พอ”
 “เดือนเดียว?”  ลินลี่ย์งง  “มันคงยากที่จะจัดระเบียบและฝึกฝนกองทัพในหนึ่งเดือนได้ และเราต้องปฏิรูปแว่นแคว้นที่พิชิตได้ด้วย  นั่นค่อนข้างจะลำบาก  เจ้าจะยึดภายในเดือนเดียวได้ยังไง?”
เกทส์หัวเราะลั่น  “ใต้เท้า มีบางเรื่องที่ท่านยังไม่รู้ ได้โปรดดูผ่านตาเสียก่อน”  เกทส์เดินไปที่แผนที่ทหารที่แขวนไว้ที่ผนัง  “ใต้เท้าลองดูการจัดการกองกำลังในปัจจุบันในดินแดนอนารยชนสิ  แคว้นเกินกว่ายี่สิบแคว้นนี้เป็นของศาสนจักรเจิดจรัสทั้งหมด  ขณะที่แคว้นเหล่านี้เป็นของลัทธิเงา  แต่แคว้นเหล่านี้ยังไม่มีประกาศเป็นทางการ"
ลินลี่ย์เข้าใจทันที
การกระจายอำนาจนี้ค่อนข้างแปลก
ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาทั้งสองควบคุมในพื้นที่ส่วนกลางของแดนอนารยชน  รวมทั้งในส่วนใต้ด้วย  พวกเขาครอบครองแดนอนารยชนไปมากกว่าครึ่ง  มีแต่เพียงพื้นที่ด้านเหนือเกือบทั้งหมดที่ติดกับไพรทมิฬที่ไม่ประกาศตัวอย่างเป็นทางการ
ดินแดนอนารยชนมีรูปเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า  ถ้าท่านแบ่งออกเป็นสี่ส่วนเท่าๆ กัน  ตำแหน่งด้านเหนือจะเป็นตำแหน่งที่ติดกับไพรทมิฬมากที่สุด
ทั้งศาสนจักรเจิดจรัสและทั้งลัทธิเงาล้วนไม่ต้องการพื้นที่นั้น!
 “ใต้เท้า, แคว้นบาลุคของเราตั้งอยู่ติดกับไพรทมิฬ”  บาร์เกอร์อธิบาย
 “โอว..ในอดีต ข้าไม่เคยให้ความสนใจเรื่องนี้เลย”  ลินลี่ย์จ้องมองแผนที่ทหารอย่างระมัดระวัง  “ลัทธิเงาและศาสนจักรเจิดจรัสได้พื้นที่ดินแดนอนารยชนไปเกินกว่าครึ่ง  แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่ต้องการดินแดนด้านทิศเหนือซึ่งตั้งอยู่ติดกับไพรทมิฬ?”
ที่สำคัญแคว้นบาลุคก่อตั้งติดกับด้านเหนือ
 “ใต้เท้าลินลี่ย์”  ซาสเลอร์เดินเข้ามาหาพลางหัวเราะ  “นี่คือสาเหตุที่เราบอกว่าเราสามารถรวบรวมดินแดนได้ในช่วงเวลาสั้นๆ”
 “โอ๋ว?” ลินลี่ย์มองดูซาสเลอร์ด้วยแววตาสงสัย  “เป็นเพราะไม่ได้อยู่ในฝ่ายไหน จึงทำให้ผนวกดินแดนได้ง่าย?”
ซาสเลอร์อธิบายพลางหัวเราะ  “ข้าไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น  ข้าหมายถึง นอกจากแคว้นของเราเองแล้ว ส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นแคว้นที่ตั้งอยู่ติดกับไพรทมิฬยินจะสวามิภักดิ์ต่อเราโดยตรง”
 “มากกว่าครึ่งจะยอมสวามิภักดิ์ต่อเรา?”  ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ  “หรือว่าพวกนั้นรู้สึกถูกกดดันจากพลังอำนาจของเรา?”
ซาสเลอร์อธิบาย  “ใต้เท้าลินลี่ย์  ท่านลืมไปแล้วหรือว่าทุกๆ สองสามทศวรรษ จะมีคลื่นอสูรเวทออกมาจากไพรทมิฬ?  คลื่นอสูรเวทชุดแรกจะโจมตีชายแดนแคว้นที่อยู่ติดกับไพรทมิฬ  ดังนั้นการสู้รบรุนแรงก็จะเกิดขึ้นกับแว่นแคว้นเหล่านี้ด้วยเช่นกัน”
ลินลี่ย์เข้าใจทันที
 “พวกท่านคุยกับผู้ครองแคว้นเหล่านี้แล้วใช่ไหม?”
 “ถูกแล้ว แคว้นเหล่านี้เป็นแคว้นยากจนที่สุดในแดนอนารยชน  และเป็นพวกที่น่าสงสารที่สุดเช่นกัน”  ซาสเลอร์ถอนหายใจ  “ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาทั้งสองก็ยังไม่สนใจจะรวบรวมแคว้นเหล่านี้  เพราะ.. การต่อต้านคลื่นอสูรเวทต้องใช้จ่ายเป็นเงินทองไปจำนวนมาก  เกินกว่าที่แคว้นเหล่านี้จะสร้างขึ้นมาได้”
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจเต็มที่
นี่คือดินแดนแร้นแค้นยากจน!
การรวบรวมดินแดนเหล่านี้ก็หมายความว่าจะต้องพยายามต่อสู้กับอสูรเวทในไพรทมิฬมากมายนับไม่ถ้วน  ลินลี่ย์สามารถจินตนาการได้ถึงการต่อสู้ที่โหดร้ายอันตรายเพียงไหน มีแนวโน้มว่าคนเกินล้านคงตายไป หรืออาจมากกว่า
 “ลินลี่ย์, บรรดาเจ็ดแคว้นนี้ มีอยู่ไม่กี่แคว้นเท่านั้นที่ไม่ต้องการสวามิภักดิ์  ส่วนที่เหลือลึกๆ แล้วพวกเขาต้องการฐานสนับสนุนที่แข็งแกร่ง  และท่าน.. ใต้เท้า..ก็คือเซียนคนหนึ่งจะเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งทรงอำนาจอย่างแท้จริง”  ซาสเลอร์หัวเราะ  “ไม่ใช่แค่พวกเขาหรอก แม้แต่ประชาชนทั่วไปก็ยังต้องการให้ท่านเป็นผู้นำผนวกรวมพวกเขา  พวกเขาก็จะรู้สึกปลอดภัยขึ้น”
บาร์เกอร์หัวเราะ  “และใต้เท้า  แม้แต่ตอนนี้ก็มีอย่างน้อยสามแคว้นดินแดนส่งคนมาเจรจาเงื่อนไขในการสวามิภักดิ์  เพียงแต่เพราะอาณาเขตของพวกเขาไม่ได้ติดต่อกับพวกเรา  เราจึงต้องยึดดินแดนแคว้นตะวันออกของพวกเขาก่อน”
ลินลี่ย์พยักหน้า  “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น  อย่างก็ต้องทำให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้”
เกทส์ตบอกและคุยฟุ้งทันที  “ใต้เท้า!  หนึ่งเดือนจากนี้ไป หนึ่งในสี่ดินแดนอนารยชนจะต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของท่าน  แน่นอน... นี่คงจะเป็นหนึ่งในสี่ของดินแดนอนารยชนที่ยากจนที่สุดอีกด้วย  แต่ในเวลาเดียวกันก็จะเป็นหนึ่งในสี่ดินแดนที่มีการสู้ดุเดือดที่สุด”
ลินลี่ย์พยักหน้า  “ซาสเลอร์.. ขอให้ท่านช่วยจัดการด้วย  ส่งจดหมายเชิญงานแต่งงานให้คนเหล่านี้ด้วย  ข้าจะส่งรายชื่อไปให้ท่านหลังจากนี้
 “ได้เลย, ใต้เท้าลินลี่ย์”  ซาสเลอร์รู้และจากนั้นค่อยหัวเราะ  “อย่างนั้นท่านตั้งใจจะประกาศข่าวการแต่งงานของท่านเลยใช่ไหม?”
ลินลี่ย์มองดูเดเลียและเจนน์ที่ด้านข้างกำลังนั่งคุยกันอย่างมีความสุข  ลินลี่ย์ตั้งใจว่า ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องทำให้เดเลียมีความสุข
 “ป่าวประกาศออกไป!  ข้าต้องการให้วันสถานปนาราชอาณาจักรบาลุคเป็นวันอภิเษกสมรสของข้า!  ลินลี่ย์พูดอย่างกล้าหาญ
เป็นที่ชัดเจนแล้ว นี่ก็หมายความว่าจากนี้ไปอีกหนึ่งเดือน  พวกเขาจะผนวกดินแดนหนึ่งในสี่ของแดนอนารยชนในนามพวกเขา  ขณะที่สามเดือนจากนี้ไป... ราชอาณาจักรบาลุคจะถูกก่อตั้งพร้อมกับจัดงานอภิเษกสมรส  จากมุมมองในเรื่องดินแดน การควบคุมแดนอนารยชนได้ถึงหนึ่งในสี่ก็หมายความว่าควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่
ขนาดของดินแดนนั้นมีขนาดใหญ่มากกว่าราชอาณาจักรเฟนไลเดิม
จำนวนประชากรเพียงอย่างเดียวมีประมาณร้อยล้าน
….

เกาะโดดเดี่ยวในมหาสมุทรแห่งหนึ่ง  พื้นที่ศูนย์กลางของศาสนจักรเจิดจรัส – เกาะศักดิ์สิทธิ์  เพิ่งจะได้รับข่าวจากแดนอนารยชน
บนชั้นที่เก้าของวิหารเจิดจรัส  ไฮเดนส์กำลังอ่านหนังสือ
 “เมื่อลินลี่ย์และอสูรเวทของเขาผสานพลังกัน  พวกเขาสามารถบีบบังคับโอเซนโนจนต้องถอยหนีหรือ?”  ไฮเดนส์จ้องมองจดหมายรู้สึกเหมือนกับเป็นไข้หนัก  พลังของโอเซนโนไม่มีอะไรต้องสงสัย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาร่างมายาของเขาซึ่งทำให้เขาแยกร่างได้สี่ร่าง มีพลังน่ากลัวเหลือเชื่อ
แม้แต่เฮนด์เซนบางทีอาจต้องบาดเจ็บหนักและถูกโอเซนโนฆ่าตายได้
ที่สำคัญ เป็นเรื่องยากมากหากต้องการจะขัดขวางป้องกันวิชาเงามายา
 “โอเซนโนพูดความจริง”  ไฮเดนส์รู้สึกจิตใจเครียด  “ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป  อย่างนั้น...”
ศาสนจักรเจิดจรัสไม่กลัวลินลี่ย์
แต่ลินลี่ย์ไม่ใช่มีตามลำพัง  เขามีอสูรเวทที่ลึกลับคล้ายกับเทพเจ้า บีบี  นอกจากนี้ยังมีนักรบอมตะถึงห้าคน... และน้องชายของเขา”
 “ในอนาคต  เมื่อลินลี่ย์เข้าถึงระดับเซียนในในร่างมนุษย์ได้และห้าพี่น้องเข้าถึงระดับเซียนในร่างมนุษย์.... นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะมีสุดยอดนักรบระดับสูงเจ็ดคน  ถ้าเจ้าเพิ่มอสูรเวทประเภทหนูนั่นอีกด้วยซึ่งไม่ด้อยไปกว่าสุดยอดนักรบเลย... ก็หมายความว่าพวกเขาจะมีรวมแปดนักรบ
สุดยอดนักรบแต่ละคนสามารถอธิบายด้วยคำว่า เซียนที่ทรงพลังที่สุด
เจ็ดสุดยอดนักรบและอสูรเวทบีบี  ถ้าพวกเขาโจมตีเกาะศักดิ์สิทธิ์รวมกัน... ไฮเดนส์นึกจินตนาการภาพ  ศาสนจักรเจิดจรัสจะตกอยู่ในวังวนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด  และในที่สุด อาจต้องพบกับหายนะ
 “ยอมรับไม่ได้  ลินลี่ย์ต้องตาย”
ไฮเดนส์หันไปมองคาร์ดินัลกิลเยโม  เขาสั่งการ  “กิลเยโม  ไปเชิญผู้บัญชาการเลห์แมนมาเร็วเข้า!”
 “ผู้บัญชาการเลห์แมน?”  กิลเยโมตกใจ
ในศาสนจักรเจิดจรัสคนที่ทรงพลังมากที่สุดก็คือจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์  คนที่ลึกลับน่ากลัวที่สุดก็คือโอเซนโน  คนที่ได้รับการสรรเสริญและเคารพยกย่องที่สุดก็คือมหาโยคีใบไม้ร่วง  แต่คนที่สร้างเรื่องสยดสยองได้มากที่สุด ก็คือผู้บัญชาการแห่งซีลล็อท – เลห์แมน!
ซีลล็อททุกคนจะมีพลังเฉพาะตัว
 “เจ้าจะลังเลอยู่ทำไม?  ไปเร็วเข้า”  ไฮเดนส์ตำหนิ
ไฮเดนส์ไม่กล้าลังเลอีกต่อไป  เขาต้องส่งบุรุษผู้มีพลังไม่ต่ำทรามกว่าโอเซนโนไป  ผู้บัญชาการเลห์แมน  ถ้าทั้งสองคนร่วมพลังกัน...อย่างนั้นคงเป็นเรื่องแปลกแน่ ถ้าพวกเขายังเอาชนะลินลี่ย์ไม่ได้!

13 ความคิดเห็น:

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะคับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ เรื่องน่ายินดีมาพร้อมศึกใหญ่

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครัล

minibull กล่าวว่า...

รุ้นๆๆๆๆ

WingF กล่าวว่า...

กระสอบทรายมาอีกแล้ว

GG กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Motto-mk กล่าวว่า...

เย้ๆๆ ขอบคุณมากค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครัช

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

gundam กล่าวว่า...

ลงวันละ2 ตอนได้ไหมครับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า กล่าวว่า...

ก็มาดิครับ

แสดงความคิดเห็น