วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 672 ความผยองของเจโรม


ตอนที่  672  ความผยองของเจโรม
 “ข้างหน้าคือนครแซนดี”
แบร็ดลี่ย์ยังคงยิ้มเล็กน้อยขณะเร่งฝีเท้าขึ้นไปเคียงข้างกับอาหลุน  ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา  เขาไม่ได้พบหน้าเซรีนสักครั้ง  เซรีนเก็บตัวอยู่ในยานโดยสารไม่ปรากฏโฉมและปฏิเสธการขอเข้าพบทั้งหมด
ขุนนางและชนชั้นสูงในกลุ่มดาววัวกระอักกระอ่วนกันทุกคน  ในสายตาของพวกเขา  แม้ว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่ในปัจจุบันนี้จะทรงพลังก็ตาม  แต่รากฐานของพวกเขาตื้นเกินไป  และไม่มีประวัติอะไรเกี่ยวกับพวกเขา  เป็นแค่กลุ่มยึดอำนาจที่เพิ่งรุ่งขึ้นมาซึ่งส่วนใหญ่จะถูกดูแคลน

ในตอนต้นพวกเขารู้สึกว่าด้วยการต้อนรับยิ่งใหญ่ของพวกเขา กลุ่มดาวหมีใหญ่คงจะปลาบปลื้มใจจนน้ำตาคลอ  แต่ใครจะรู้กันว่าพวกเขาเมินเฉยโดยสิ้นเชิง ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พวกเขาจะไม่โกรธได้อย่างไร?
 ถ้าเจ้าเป็นปรมาจารย์จักรกลแล้วยังไงเล่า?  กองทัพที่เหลือซึ่งมีส่วนร่วมในการต้อนรับเฝ้ามองจากด้านข้าง  ทุกคนมองนางในแง่ไม่ดี
มีอยู่คนเดียวที่ยังคงความสุภาพก็คือแบร็ดลี่ย์
 “ได้จัดเตรียมที่พักไว้สำหรับพวกเจ้าทุกคนไว้ที่เมืองแซนดี้  เราสามารถไปพักกันที่นั่นในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ได้”  แบร็ดลี่ย์อธิบาย  “หลังจากผ่านเมืองแซนดี้แล้ว  เรายังจะต้องผ่านที่รกร้างว่างเปล่าอีกห้าวัน”
อาหลุนพยักหน้า  “ข้าจะถามนายผู้หญิงให้”
จากนั้นเขาเข้าไปในยานและรายงานการเดินทาง
ภายในยานโดยสาร เซรีนอยู่ในชุดนอน  ผมของนางกระเซิง ตรงกันข้ามกับการวางตัวเป็นเทพธิดาสูงส่งก่อนหน้านั้น  ข้างหน้านาง บนโต๊ะเต็มไปร่างภาพเขียนทุกอย่าง  นางยังคงพึมพำกับตนเอง  ตาของนางมีรอยเส้นเลือด  นางไม่ได้หลับมาในช่วงสองสามวันนี้
 ออกไปก็ยังมีประโยชน์  อย่างน้อยไม่มีใครบังคับข้าให้นอน  เซรีนกัดลิ้นทำงานต่อ
รายงานของอาหลุนขัดจังหวะการทำงานของนาง
เมื่อได้ยินว่าผ่านเมืองแซนดีไปแล้วจะต้องเสียเวลาสูญเปล่าอีกตั้งสองสามวัน  เซรีนคิดอยู่ชั่วขณะและตัดสินใจพักผ่อนและจัดระเบียบที่นั่นใหม่  นางเป็นพวกบ้างานตอนที่อยู่ในรถก็ยังบรรจุเต็มไปด้วยวัสดุทุกอย่าง เอกสารและแม้แต่อุปกรณ์อาบน้ำ  ทุกอย่างที่นำมานางไม่ได้คิดอะไรไว้ก่อนทั้งนั้น  แต่เนื่องจากนางเป็นสตรีคนเดียว  นางไม่เคยรู้สึกอะไรเมื่อหมกมุ่นอยู่กับงานของนาง  นางคิดว่าคงจะมีที่อาบน้ำดีๆ  อยู่ภายในเมือง อารมณ์ของนางแจ่มใสขึ้น
เมื่อได้ยินอาหลุนเห็นด้วยว่าจะมีการพักในเมืองแซนดี  แบร็ดลี่ย์ถอนหายใจโล่งอก
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาไม่ว่าเขาจะพยายามทำตัวให้โปรดปรานเพียงไหน  แต่ลงท้ายอย่างเปล่าประโยชน์  แต่เขายังคงติดตามอาหลุนอย่างเรื่อยเปื่อย  ในหมู่ตระกูลชั้นสูงมีการเยาะเย้ยถากถาง  “ถูกมองข้าม แม้จะมีความตั้งใจที่ดี”  แบร็ดลี่ย์เป็นเพียงคนเดียวที่ประทับใจลึกกับความเข้มแข็งของกองพลภูผาน้ำแข็ง
 นี่คือกองกำลังที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง’
พวกเขาเคร่งครัดมีระเบียบวินัย ไม่รู้จักเหนื่อยล้า  ไม่ย่อหย่อนและน่ายำเกรงตลอด  พวกเขาละเอียดและไม่มีข้อบกพร่อง ทำให้บางครั้งแบร็ดลี่ย์รู้สึกว่าพวกเขาแข็งเกินไปและจุกจิกในเรื่องเล็ก  แต่เขาก็ต้องยอมรับ  กลุ่มดาววัวไม่มีกองทหารใดที่สามารถเทียบได้กับกองทัพที่เขากำลังดูอยู่นี้
เขารู้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มดาวหมีใหญ่มีการสร้างกองทัพสองสามกองทัพ ทหารทั้งหมดเหล่านี้แยกมาจากกองทัพจักรกล  พร้อมกับการจางหายไปของกองทัพดั้งเดิม กองพลจักรกลกลายเป็นกองกำลังหลัก  กลุ่มดาวหมีใหญ่ถือว่าเป็นประเพณีที่ต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้เยาว์  ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดยังอายุเยาว์ และนอกจากกองทัพสองสามกองพลแล้ว มีเพียงกองทัพเดียวที่ได้รับการยกย่องก็คือกองพลทหารราบของแม่ทัพทาร์ตัน
แต่แบร็ดลี่ย์ไม่เคยคาดเลยว่าแม่ทัพเยาว์วัยจะมีความโดดเด่นมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหลุน  แบร็ดลี่ย์มองไม่เห็นความเย่อหยิ่งและความประมาทในตัวเขาเลย  เขาฝึกจนเหมือนกับแม่ทัพเก่าที่อยู่กับกองทัพมาเป็นเวลานับสิบปี
เมื่อกองทัพจักรกลถูกแยกออกมา แบร็ดลี่ย์ได้แต่ถอนหายใจ  กลุ่มดาวหมีใหญ่มีกองทัพใหญ่อยู่สองกองพล  กองทัพหมาป่านำโดยถังอี้  และอีกกองทัพหนึ่งคือกองทัพจักรกลนำโดยปิง  เพราะกองทัพฝีมือดีและมีเกียรติเช่นนั้น  พวกเขาควรจะรักษาประเพณีและกฎของพวกเขาไว้  กฎธรรมเนียมใช้ตัดสินการขัดเกลาของกองทัพ  และเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของกองทัพฝีมือดี
การแยกกองทัพหมายถึงการทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง  และหน่วยหน้ากล้าตายไม่กี่คนไม่สามารถเทียบได้กับยอดฝีมือระดับสูง
ถังเทียนและปิงไม่ได้เผยโฉมมานานแล้ว ทำให้หลายคนสงสัยว่ามีการเปลี่ยนในระดับสูงของกลุ่มดาวหมีใหญ่
 ใครจะรู้กันว่า...
แบร็ดลี่ย์หันความสนใจกลับไปที่กองทัพ  เขาแจ้งให้ทุกคนคนรู้เรื่องที่เซรีนตกลงใจจะพักในเมืองแซนดี้  จากนั้นออสตินอาสาไปเตรียมการล่วงหน้า
เห็นได้ชัดว่าออสตินมีความประสงค์ร้าย
เขาถูกเมินเฉยเย็นชา จึงรู้สึกโกรธ  ข้าเคยถูกปฏิบัติแบบนั้นตั้งแต่เมื่อใด?  ความหยิ่งยโสของกองทัพที่ไม่ให้ความสนใจเขาทำให้เขาโกรธมากยิ่งขึ้น  เขาตัดสินใจกระทำการบางอย่าง
 พวกเขาอยู่ในกลุ่มดาววัว  ไม่ใช่กลุ่มดาวหมีใหญ่
ออสตินเดินทางเข้าเมืองแซนดี้  เนื่องจากเป็นเมืองสำคัญของส่วนเขาวัวของกลุ่มดาววัวมีกองทหารรักษาการณ์ฝีมือดีอยู่ที่นั่นกองทหารเขากระทิง  กองทหารเขากระทิงเป็นหนึ่งในกองกำลังฝีมือดีที่สุดของกลุ่มดาววัว อุปกรณ์เครื่องมือของพวกเขามีอย่างเหลือเฟือ
บังเอิญว่าผู้บัญชาการกองพลเขากระทิง เจโรมเป็นเป็นเพื่อนคู่หูของออสตินตั้งแต่เด็ก  และทั้งสองสนิทกันมาก  ตำแหน่งของเจโรมได้มาเนื่องจากออสตินใช้เส้นสายผลักดันอยู่เบื้องหลัง
เมื่อเจโรมเห็นออสตินมาถึง  เขาดีใจมาก “ออสติน  ลมอะไรพัดเจ้ามาถึงนี่?”
 “อย่าพูดแบบนั้น  “บิดาข้าเกณฑ์คนมามากมายพร้อมกับแบร็ดลี่ย์เพื่อต้อนรับสตรีคนนั้น”
 “สตรีที่เจ้าพูดถึงก็คืออาจารย์เซรีนสินะ”  เจโรมหัวเราะลั่น  ข่าวเซรีนต้องการกลับมายังกลุ่มดาววัวกระจายไปทั่ว  เขามองดูออสติน  “เมื่อเห็นท่าทางของเจ้าแล้ว  หรือว่านางไม่งดงามเหมือนที่ร่ำลือกัน?”
ออสติส่ายหน้า  “ไม่เลย  เซรีนเป็นหญิงงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น!
 “งั้นทำไมอารมณ์เจ้าเป็นแบบนั้น?”  เขารู้จักสหายวัยเยาว์ของเขาตั้งแต่เด็ก  และรู้ว่าอารมณ์เขาชื่นชอบสตรี  ขอให้เป็นคนสวยออสตินหลงใหลได้หมด
 “พวกมันข่มเหงเรา!  หน้าของออสตินเขียวคล้ำ ขณะที่เขาอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เจโรมแสดงอาการโกรธทันที  ไม่ว่าอาจารย์เซรีนจะฉลาดสวยยังไงก็ตาม  พวกเขาก็อยู่ในกลุ่มดาววัว  พวกเขาจะทนปล่อยให้คนอื่นเดินไปมาตามอำเภอใจได้ยังไง?
 “พวกเขาทำแบบนั้นจริงๆ หรือ?”  เจโรมถามจริงจัง
ออสตินยืดตัวตรง  “เจโรม,  เจ้านึกว่าข้าแค่มาพูดเรื่องไร้สาระที่นี่เท่านั้นหรือ?  ข้าเป็นเจ้าชายแห่งกลุ่มดาววัว  และอยู่ที่นี่มาหลายปี”
เจโรมนิ่งเงียบอยู่นาน  “แล้วแบร็ดลี่ย์เล่า?  ทำไมแบร็ดลี่ย์ไม่คัดค้านอะไรพวกเขาเลย?”
ออสตินแค่นเสียง  “แบร็ดลี่ย์น่ะหรือ?  เขาหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากกลุ่มดาวหมีใหญ่”
เขาทำล้อเลียนแบร็ดลี่ย์และกล่าว  “นอกจากสองคนแล้ว  คนที่เหลือตกแน่นอน”
เจโรมเลิกคิ้วข้างหนึ่ง  และแสดงร่องรอยหยิ่ง  “แบร็ดลี่ย์กำลังดูถูกตนเองมากเกินไป  กลุ่มดาววัวตกต่ำจนถึงขั้นที่เราต้องประจบกลุ่มดาวหมีใหญ่ตั้งแต่เมื่อใด”
 “ใช่แล้ว! เจโรม!  ออสตินพูดอย่างตื่นเต้น  “เจ้าเป็นคนที่พึ่งพาอาศัยได้อย่างแท้จริง!  แบร็ดลี่ย์โยนธรรมเนียมที่ล้ำค่าที่สุดของกลุ่มดาววัวของเราทิ้ง...”
 “ข้าคิดว่าแบร็ดลี่ย์คงมีความคิดเป็นของตนเอง”  เจโรมตัดบทออสติน  เขาไม่ต้องการเข้าร่วมชิงดีชิงเด่นในท่ามกลางผู้มีอำนาจวาสนา  แต่ในฐานะชายชาติทหาร  เขามีความหยิ่งภูมิใจในตนเอง  เมื่อคิดว่ากองทัพจากที่ไหนไม่รู้มาเดินเล่นในมาตุภูมิของเขา  เขายิ่งรู้สึกร้อนรุ่มในใจ  “เมื่อเป็นผู้บัญชาการเขากระทิง  ไม่ว่ายังไงก็ตาม ข้าจะไม่ยอมให้กองทัพใดๆ มาเพ่นพ่านต่อหน้าข้าแน่!
ออสตินโบกมืออย่างตื่นเต้น  “เจโรม  เราควรทำยังไงดี?”
เจโรมพูดน้ำเสียงจริงจัง  “เนื่องจากอาจารย์เซรีนมาเยี่ยมกลุ่มดาววัวของเราในฐานะอาคันตุกะ  อย่างนั้นปัญหาความปลอดภัยก็ย่อมตกอยู่ในมือของเรา  เราจะไปต้อนรับอาจารย์เซรีน  และต้องให้นางรู้สึกว่ามาถึงบ้านแน่นอน!
ออสตินเข้าใจว่าเขาหมายความว่ายังไง จึงหัวเราะ
หึ หึ หึ!
เสียงแตรปลุกทุ้มดังขึ้นทั่วค่าย  และกองพลเขากระทิงมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
ออสตินยืนมองอยู่บนแท่นอย่างตะลึง  ทหารทั้งหมดมารวมตัวกันภายในห้านาที  กองกำลังที่อยู่ข้างล่างเวทีตั้งแถวกันอย่างหนาแน่น  เป็นภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส  พวกเขาเงียบกริบ และรังสีฆ่าฟันของพวกเขาแผ่ซ่านออกมา
ออสตินอดชื่นชมไม่ได้  “เจโรม  ข้าเลือกเจ้าแน่!  เจ้าเป็นแม่ทัพชั้นดีอย่างแน่นอน!  ไปสั่งสอนเจ้าพวกบัดซบจากกลุ่มดาวหมีใหญ่ให้รู้ว่านักรบฝีมือดีเป็นยังไง!
ตาของเจโรมเป็นประกายหยิ่งผยอง  เขามีความสามารถให้หยิ่งผยองได้  กองพลเขากระทิงมีการเปลี่ยนแปลงในเงื้อมของเขา  และกลายเป็นทรงประสิทธิภาพมาก
 “บางที่เราอาจแลกเปลี่ยนอะไรกันบ้างก็ได้”  เจโรมแค่นเสียง  และหน้าของเขาเขียวคล้ำทันที  “หน้า...เดิน!
พรึ่บพั่บๆ!
คลื่นสีเงินวิ่งมาตามถนน  เสียงฝีเท้าของพวกเขาททำให้ชาวเมืองแซนดี้หยุดอยู่กับที่  ที่เหนือคลื่นสีเงินคือเซียนสิบคนที่กำลังตามมาอย่างกระชั้น
กองพลเขากระทิงคือหน่วยเกราะหนัก  ทุกคนสวมใส่เกราะทอรัสระดับเงิน
ลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นของกลุ่มดาววัวก็คือ พวกเขามีการผลิตของเป็นจำนวนมาก และอุปกรณ์ที่พวกเขามีเป็นที่รู้จักกันได้ง่าย  เพราะเกราะหมวกของพวกเขามักจะมีเขากระทิงแหลมคมเสมอ  สำหรับกลุ่มดาวอื่น  สำหรับกลุ่มดาวอื่น ปัญหาของพวกเขาคือขาดแคลนเกราะ  แต่สำหรับกลุ่มดาววัวสามารถจัดให้มีได้ทั่วทั้งกองทัพ
ชุดเกราะสีเงินเหนือกว่าไม่มีใครเทียบได้ สิ่งที่เห็นได้ยากในทั่วสวรรค์วิถี
ทันใดนั้นอาหลุนหยุด  เขารู้สึกถึงความสั่นสะเทือนบนพื้น  เขาตัดสินได้ทันทีว่ามีกลุ่มคนเข้ามาใกล้พวกเขา!
แค่เพียงชำเลือง, เช้ง, เขาชักดาบเงินหนักออกมาทั้งที  “เตรียมรับการโจมตี!
นี่คือประสบการณ์ที่อาหลุนได้รับมากับตนเองในสภาพแวดล้อมต่างถิ่น  ตราบเท่าที่เขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์พิเศษ  วิธีการตรงที่สุดคือใช้คำว่า เตรียมรับการโจมตี เพื่อเตือนสหาย  คำพูดนี้มีผลที่สุด และทำให้ทหารทั้งหมดเพ่งความสนใจเต็มที่ทันที
ในระยะห่างออกไป  คลื่นสีเงินวิ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา
อาหลุนยังคงใจเย็นไม่หวั่นไหว
แต่ในเวลาอันรวดเร็ว  สายตาเขาหรี่ลง  ฝ่ายตรงข้ามไม่มีความตั้งใจจะชะลอความเร็วลงแต่อย่างใด
4.5 กิโลเมตร  3.6 กิโลเมตร 3 กิโลเมตร...
ตาของอาหลุนเป็นประกายเยือกเย็นทันที  เขาชูดาบเงินสูงขึ้นในอากาศ ด้วยความเร็วของศัตรู  2.4 กิโลเมตร คือระยะปลอดภัย
2.4 กิโลเมตร!
อาหลุนไม่ลังเลใจ ชี้ดาบเงินไปข้างหน้าและคำราม  “หน่วยหลังคอยปกป้องรถ  แนวหน้าตามข้ามา เตรียมโจมตี!
กองพลภูผาน้ำแข็ง 500 คนเคลื่อนไหว

9 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ได้เวลาโชว์แสนยานุภาพของกองทัพแล้ว

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

ธงชัย กล่าวว่า...

หาเรื่องให้โดนยึดดวงดาว 555

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ โชว์เทพหน่อย หลังจากฟาร์มมานาน

Neoplasm24 กล่าวว่า...

แกว่งเท้าหาปังตอสินะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจมากจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เอาละๆๆ

แสดงความคิดเห็น