วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 11 สุสานเทพเจ้า – ตอนที่ 4 อสูรเวทระดับเทพ


เล่มที่ 11 สุสานเทพเจ้า – ตอนที่ 4 อสูรเวทระดับเทพ
 “หนูกินเทพ?”  ลินลี่ย์และเดเลียมองหน้ากันเอง

เบรุตคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของทวีปยูลานความจริงเป็น หนูกินเทพ แค่ฟังจากชื่อลินลี่ย์รู้ว่านี่ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวมากจึงจะ กินเทพ ได้ อสูรเวทโดยทั่วไปจะกล้าตั้งชื่อตนเองอย่างนั้นได้ยังไง?  ลินลี่ย์มองบีบีด้วยความสงสัย
เดเลียถามอย่างสงสัยเช่นกัน  “บีบี, บิดาเจ้าและมารดาเจ้าเป็นอสูรเวทระดับเก้า ใช่ไหม?... นี่เกิดอะไรขึ้น?”
 “พี่ใหญ่, นี่ก็คล้ายกับตระกูลนักรบเลือดมังกรของท่าน  แต่แน่นอนว่ามีความแตกต่างอยู่บ้าง”  บีบีอธิบายรายละเอียด  “หลังจากปู่เบรุตถือกำเนิด  เพราะเขาเป็นหนูกินเทพตัวเดียวที่ดำรงคงอยู่ เขากับย่าแคโรไลนามีลูกสามคนคือ แฮร์รี่ ฮาร์ทและฮาร์วี่ย์ จ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสาม”
ลินลี่ย์จำชื่อ แคโรไลนา ไว้
 “เพราะย่าแคโรไลนาเองไม่ใช่หนูกินเทพ ลูกที่เกิดจากนางกับปู่เบรุตจึงไม่ใช่หนูกินเทพเลือดบริสุทธิ์  ดังนั้นระดับของพวกเขาจึงลดลง  ปกติจ้าวมุสิกม่วงทองเมื่ออายุถึงเกณฑ์ผู้ใหญ่จะกลายเป็นอสูรระดับเซียน”  บีบีอธิบาย
 “ระดับของพวกเขาต่ำลงหรือ?”  ลินลี่ย์ถาม  “บีบี  อย่างนั้นเจ้าก็หมายความว่า..”
เดเลียฉลาดมากเช่นกัน  นางยังคงรู้ว่าบีบีหมายความว่ายังไง
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งภูมิใจ  เขาบอก “ใช่แล้ว, หนูกินเทพคืออสูรเวทชั้นเทพ!  แม้จะไม่ต้องฝึกฝนอะไรเลยก็ตาม เพียงแค่เติบโตตามธรรมชาติ... เมื่อถึงวัยผู้ใหญ่ หนูกินเทพจะเข้าถึงระดับเทพได้เป็นปกติ!
 “อสูรเวทระดับทพ?”  ลินลี่ย์ตะลึง
นี่มันตัวประหลาดเกินไปแล้ว!
ยังประหลาดผิดปกติยิ่งกว่าสี่สุดยอดนักรบเสียอีก  สี่สุดยอดนักรบสามารถเข้าถึงระดับเซียนขั้นสุดยอดได้ตราบเท่าที่พวกเขาฝึกอย่างแท้จริง  และอสูรเวทระดับเซียน เมื่อโตเต็มวัยก็จะถึงระดับเซียนเช่นกัน
แต่อสูรเวทระดับเทพจะกลายเป็นระดับเทพเมื่อถึงโตเต็มวัย
 “นี่มันไม่ยุติธรรมต่อเผ่าพันธุ์อื่นเกินไป  เป็นไปได้ยังไงที่เผ่าพันธุ์อื่นจะต่อต้านได้?”  ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า  พวกเขาใช้ชีวิตโดยใช้ชื่อว่า หนูกินเทพ จริงๆ  พวกเขาถึงระดับเทพเมื่อโตเต็มวัยน่ะหรือ  พวกเขานับว่าได้พรจากฟ้าจริงๆ
บีบีส่ายศีรษะ  “ปู่เบรุตบอกว่าไม่มีทางที่อสูรเวทระดับเทพจะสามารถสร้างเผ่าพันธุ์ได้ทั้งหมด  กล่าวโดยทั่วไป อสูรเวทระดับเทพจะมีเพียงแค่ชนิดละตัวเท่านั้น!  เพราะปู่เบรุตเป็นเพียงหนึ่งเดียว  เขาไม่สามารถหาหนูกินเทพตัวเมียมาเป็นภรรยาได้”
 “สายเลือดของลูกๆ เขาไม่บริสุทธิ์  พวกเขาสามารถเป็นได้แค่เพียงจ้าวมุสิกม่วงทอง”
 “และจ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสามก็เป็นบุรุษ  ดังนั้นลูกๆ ที่เป็นสายเลือดพวกเขาก็จะบริสุทธิ์น้อยลงไปอีก  สามารถถึงระดับเพียงอสูรเวทระดับเก้า  อย่างไรก็ตามในไพรทมิฬ มีหนูตัวเมียระดับเก้าน้อยมาก  เนื่องจากพวกเขาครองคู่กัน มีลูกๆ หลายตัวที่สามารถถึงระดับเก้าได้อย่างเป็นธรรมชาติเช่นกัน  แม่ของข้าก็ยังเป็นสมาชิกของตระกูลเบรุต  เพียงแต่นางห่างจากแฮร์รี่ ฮาร์ทและฮาร์วี่ย์สิบรุ่น” บีบีดูเหมือนไม่พูดว่าแฮร์รี่และน้องอีกสองเป็นบรรพบุรุษของเขา
แน่นอนว่า ในความเป็นจริงแฮร์รี่และน้องอยู่เหนือบีบีหลายรุ่น  แต่บีบีเองเป็นหนูกินเทพ นอกจากปู่เบรุตที่เป็นหนูกินเทพเพียงตัวเดียวที่คงอยู่
ลินลี่ย์พยักหน้า
 “เพราะข้าเป็นหนูกินเทพตัวหนึ่ง”  บีบีกล่าวอย่างไรเดียงสา “ตามที่ปู่เบรุตบอก แม่ข้ามีสายเลือดของตระกูลเบรุตในแรกเริ่ม และจากนั้นก็แต่งงานไปกับหนูกินศิลาระดับเก้า บางทีอาจมีการผสานหรือกลายพันธุ์ก็ได้”
 “ที่สำคัญ หนูระดับเก้าก็จับคู่กันและกัน  แต่ดูเหมือนนอกจากตัวข้าแล้ว  ไม่มีใครในพวกเขากลายเป็นหนูกินเทพเลย”  บีบีพูดอย่างไรเดียงสา  “ไม่ใช่แค่เพียงในทวีปยูลานเท่านั้นนะ  ในทุกพื้นพิภพนับไม่ถ้วนที่ปู่เบรุตไปมา”
 “พื้นพิภพนับไม่ถ้วน?”  ลินลี่ย์และเดเลียมองหน้ากัน
ลอร์ดเบรุตน่ากลัวมากจริงๆ
เกี่ยวกับเรื่องที่เขาสนทนากับฮ็อดเดิล  ลินลี่ย์รู้ว่าเป็นการยากมากที่นักสู้จะกลับไปที่ดินแดนพิภพชั้นสูง  แต่จากที่บีบีเล่าให้เขาฟัง เหมือนกับว่าเบรุตไม่เพียงแต่ออกจากทวีปยูลานได้เท่านั้น เขายังไปมาหลายพิภพดินแดนอีกด้วย
 “มิน่าเล่า เขาถึงได้รับการขนานนามว่าราชันย์แห่งทวีปยูลาน  และสาเหตุที่แม้แต่เทพสงครามและมหานักพรตยังต้องเชื่อฟังคำสั่งเขา”  ลินลี่ย์ลอบคิดเอง  “เขาเป็นนักสู้ระดับใดกัน?  เป็นชั้นเทพเต็มตัว หรือเทพชั้นสูง”
การก้าวหน้าจากระดับเทพชั้นต้นเป็นระดับเทพ เป็นเรื่องที่มหานักพรตก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จแม้จะฝึกฝนมาถึงหมื่นปีก็ตาม   ทุกคนคงจะจินตนาการได้ว่ายากเย็นเพียงไหน
สำหรับการก้าวหน้าจากเทพชั้นกลางไปเป็นระดับเทพชั้นสูง ยากยิ่งกว่า
 “โอกาสเกิดเป็นอสูรเวทระดับเทพมีน้อยยิ่งกว่ากลายเป็นสุดยอดนักรบในตำนาน” ลินลี่ย์ถอนหายใจ  “แม้ว่าสุดยอดนักรบจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยในสายวงศ์ตระกูลของเรา พวกเขาก็ยังมีเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว  แต่หนูกินเทพ.. ในดินแดนที่ปู่เบรุตของเจ้าไปเยี่ยมเยือน  เขาไม่เคยพบเห็นหนูกินเทพนอกจากเจ้าและปู่เบรุตเอง”
ลินลี่ย์กับเดเลียถอนหายใจทั้งคู่
อสูรเวทระดับเทพหายากยิ่งกว่าอสูรเวทระดับเซียน
แต่นับว่าสมควรแก่เหตุ  ถ้าอสูรเวทระดับเทพสร้างกันได้ง่าย  อย่างนั้นจะไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นรอดอยู่ได้
 “อสูรเวทระดับเทพแต่ละตัว กล่าวโดยทั่วไปมีเพียงชนิดละหนึ่ง อย่างเช่นราชันย์แห่งเทือกเขาอสูรวิเศษ ไดลิน  เขายังคงเป็นอสูรเวทระดับเทพด้วย”  บีบีกล่าว
 “ไดลิน?”  ลินลี่ย์และเดเลียอดสงสัยไม่ได้
จนถึงทุกวันนี้ลินลี่ย์ก็ยังไม่รู้ตัวว่าเขาเป็นคนที่ปล่อยไดลินออกมา
บีบีพยักหน้า  “ไดลินเป็นอสูรเวทระดับเทพ  เขาคือพญาราชสีห์ และรู้จักกันในชื่อว่าอสรูกลืนสวรรค์”
หนึ่งนั้นคือ หนูกินเทพ  อีกหนึ่งเป็น อสูรกลืนสวรรค์ ชื่อเหล่านี้น่ากลัวกันทั้งนั้น
 “ปู่เบรุตบอกว่าไดลินทรงพลังมาก และสามารถกลืนภูเขาทั้งลูกหรือเมืองทั้งเมืองได้ในคำเดียว”  บีบีถอนหายใจ  “ก็เหมือนกับหนูกินเทพเรา  เขาไม่สามารถหาอสูรกลืนสวรรค์ในที่อื่นได้  เขามีลูกของเขาเอง  เดิมทีมีอยู่ห้าตัว ทั้งหมดเหมือนจ้าวมุสิกทองม่วง เป็นอสูรเวทระดับเซียนชั้นสูง”
ลินลี่ย์และเดเลียเข้าใจทั้งคู่
ลูกๆ ของอสูรเวทระดับเทพมีเลือดไม่บริสุทธิ์  ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาจะลดลง  แต่แม้ว่าพลังของพวกเขาจะลอดลง  แต่พวกเขาก็ยังโดดเด่นสุดยอดในบรรดาอสูรเวทระดับเซียน
 “ลูกทั้งห้าเหล่านั้นมีชื่อว่า ราชสีห์ทองหกตา ร่างของพวกเขาคล้ายกับราชสีห์มาก  แต่ร่างของพวกเขามีขนาดเท่ากับมังกรยักษ์  และพวกเขามีหกตา มีปีกขนาดใหญ่”  บีบีถอนหายใจ “แม้ราชสีห์ทองหกตาเหล่านี้จะไม่ได้น่ากลัวเท่าอสูรกลืนสวรรค์ระดับเทพ แต่ท้องของพวกมันจุอะไรได้ตั้งมากมาย แม้จะเป็นมังกรก็ตาม  พวกมันก็สามารถกลืนกินมังกรยักษ์เป็นร้อยตัวได้อย่างสบาย”
ลินลี่ย์กับเดเลียมองกันอย่างตกใจ
แม้ว่าลูกหลานของอสูรเวทระดับเทพจะไม่สามารถเทียบได้กับบรรพบุรุษของพวกเขา  พวกเขาก็ยังดูถูกไม่ได้
เมื่อลินลี่ย์ชักเทพกระบี่เลือดม่วงและปลดปล่อยไดลินและลูกทั้งสามของเขา  เขาไม่รู้...ว่าลูกทั้งสามเหล่านั้นก็คือราชสีห์ทองหกตา  ที่สำคัญราชสีห์ทองหกตาทั้งสามตัวนั้น กลืนกินมังกรยักษ์ลงท้องได้เป็นร้อยตัวในพริบตาได้จริงๆ  นั่นเกิดขึ้นในหุบเขาสายหมอก
เห็นได้ชัดว่านี่คือบางสิ่งที่พวกเขาได้รับตกทอดมาจากบิดาของพวกเขา
 “อสูรเวทราชสีห์ทองหกตา  แต่ลูกๆ ของพวกมันก็เป็นเพียงอสูรเวทระดับเก้า  พี่ใหญ่ ท่านก็รู้เรื่องนั้นดี  ราชสีห์อารักษ์ระดับเก้า”
ลินลี่ย์พยักหน้าทันที
ราชสีห์อารักษ์ระดับเก้าเป็นอสูรเวทที่มีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดและดูคล้ายกลับสิงโตธรรมดา ร่างของมันมีขนาดเท่ากับมังกรตัวหนึ่ง
 “ราชสีห์อารักษ์ระดับเก้าหาได้ยากมาก  ดังนั้นลูกหลานของพวกมันเองจะดูคล้ายกับมัสทีฟขนทองหรือพยัคฆ์มัสทีฟตาน้ำเงิน  อสูรเวททั้งสองเผ่าพันธุ์เป็นระดับแปด”  เห็นได้ชัดว่าบีบีมีความคุ้นเคยกับการกลายพันธุ์และเปลี่ยนแปลงของเผ่าพันธุ์อสูรเวท
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว
ที่เทือกเขาอสูรวิเศษ ครั้งแรกที่ลินลี่ย์กระตุ้นพลังที่น่าพรั่นพรึงของกระบี่เลือดม่วงเขาฆ่ามัสทีฟขนทองไปทั้งหมด
 “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเผ่าพันธุ์ของอสูรเวทจะมีประวัติที่น่าสนใจอย่างนั้น”  เดเลียค่อนข้างทึ่งขณะที่นางฟัง “ถ้าไล่ตามเผ่าพันธุ์ของพวกมัน  ดูเหมือนไล่ไปตั้งแต่มัสทีฟขนทอง และมัสทีฟพยัคฆ์ตาฟ้าก็ต้องย้อนไปถึงพญาราชสีห์อสูรเวทชั้นเทพนี้สินะ”
 “เจ้ากำลังบอกว่าไดลินได้มาถึงทวีปยูลานเมื่อนานมาแล้วใช่ไหม?”  ทันใดนั้นลินลี่ย์ตระหนักได้ทันทีว่าผลเป็นเช่นไร
ในอดีต เทือกเขาอสูรวิเศษไม่มีอสูรเวทระดับเทพ
พูดอีกนัยน์หนึ่ง อย่างน้อยในช่วงผ่านมาพันปีนี้ ไดลินไม่ได้ปรากฏตัว  แต่ถ้าไดลินไม่เคยอยู่ในทวีปยูลาน  จะพูดได้ยังไงว่าราชสีห์อารักษ์, มันทีฟขนทองและมัสทีฟพยัคฆ์ตาน้ำเงินเป็นลูกหลานของเขา?
 “ถูกแล้ว  ตามที่ปู่เบรุตบอก หมื่นปีที่แล้ว ไดลินมายังทวีปยูลานของเขา”  บีบีอธิบาย  “มัสทีฟขนทอง มัสทีฟพยัคฆ์ตาน้ำเงินและราชสีห์อารักษ์เหล่านี้สามารถบอกได้ว่าเป็นลูกหลานของเขาได้”  บีบีหัวเราะเช่นกัน
ความจริงก็เหมือนกันกับเขา หนูกินเทพไม่ได้มีลูกหลานมากมายในที่สุดก็ตกมาเป็นหนูกินศิลาและหนูเงา?
 “แต่ตามสิ่งที่ปู่เบรุตบอกในอดีต  ไดลินมีลูกห้าตัว ดูเหมือนว่าจะตายไปสองในคุกเกบาโดส  มีเพียงสามที่รอดเหลืออยู่ตอนนี้” บีบีกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ลินลี่ย์ไม่รู้เรื่องราวประวัติในทวีปยูลานมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเมื่อ 5000 ที่แล้ว  และนี่เกือบหมื่นปีที่แล้ว  เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น? ไม่มีใครรู้จริงๆ
ที่สำคัญ หนังสือส่วนใหญ่เริ่มบันทึกจากการก่อตั้งศักราชและจักรวรรดิยูลาน ทั้งหมดจะเริ่มจากศักราชยูลานที่หนึ่ง
 “บีบี, นี่ก็หมายความว่าในอนาคต เจ้าสามารถถึงระดับเทพได้ง่ายๆ ใช่ไหม?”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองดูบีบี  และตาบีบีฉายประกายหยิ่งผยอง  แต่จากนั้นตาของเขาก็หมองอย่างรวดเร็ว  “ไม่ว่าข้าจะทรงพลังขนาดไหน  แต่พ่อแม่ข้าก็ตายไปแล้ว”
บีบีมองดูลินลี่ย์  จากนั้นพูดอย่างจริงจัง  “พี่ใหญ่, ท่านฝึกต่อไปก่อน  ข้าจะออกเดินทาง”  ขณะที่พูด เขาบินออกไปทันที
 “บีบี, เจ้าจะไปไหน?”  ลินลี่ย์ถามทันที
 “ข้าจะไปฆ่าเจ้าบัดซบสองคนนั่น”  เสียงของบีบีก้องไปทั้งห้องโถง  แต่ตัวบีบีหายไปแล้ว
ลินลี่ย์ถอนหายใจ
ลินลี่ย์ไม่พูดไม่พูดเรื่องบีบีจะไปฆ่ารูดี้และดิลลอน  ที่สำคัญเขากำลังตามหาคนที่ฆ่าพ่อแม่เขาเพื่อแก้แค้น
 “ตอนนี้เรื่องทั้งหมดกระจ่างแล้ว”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ  ในอดีต เทพสงครามปฏิบัติกับเขาอย่างเมตตา  และยังช่วยเรื่องการแต่งงานของน้องชายของเขา  เมื่ออาณาจักรบาลุคก่อตั้ง แม้แต่โรซารี่แห่งตำหนักเจ้าแม่หิมะน้ำแข็งก็มาด้วย ทั้งมหานักพรตก็ส่งศิษย์ของเขามาร่วม
ลินลี่ย์ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับยอดคนเร้นกายเหล่านั้น  แต่พวกเขาส่งคนมาทั้งหมด
 “พวกเขาไม่ได้เห็นแก่หน้าเรา  พวกเขาเห็นแก่หน้าของบีบี  พวกเขาเห็นแก่หน้าของราชันย์แห่งทวีปยูลาน”  ลินลี่ย์รู้ดีว่าไม่ว่าเขาแข็งแกร่งเพียงไหน และบรรพบุรุษของเขาแข็งแกร่งเพียงไหน และต่อให้บรรพบุรุษนักรบเลือดมังกรของเขากลายเป็นนักสู้ระดับเทพในดินแดนอมตะ..แล้วไงเล่า?  เรื่องเหล่านั้นจะมีผลกระทบต่อเทพสงครามและมหานักพรตอะไรได้  ที่นี่คือทวีปยูลานไม่ใช่หรือ?
อย่างที่กล่าวกันว่า สวรรค์อยู่เบื้องบน  จักรพรรดิอยู่ห่าง  เรื่องที่เกิดเฉพาะสำคัญกว่า
ในดินแดนทวีปยูลาน  แม้แต่เทพสงคราม  มหานักพรต ไดลินและคนอื่นๆ ก็ยังต้องฟังเบรุต  บีบีกล่าวว่าแม้แต่ผู้ดูแลจากดินแดนอื่น ฮ็อดเดิลก็ยังเชื่อฟังว่าง่ายเมื่ออยู่ต่อหน้าลอร์ดเบรุต
ใครๆ ก็คงสามารถคาดได้ว่าลอร์ดเบรุตมีอำนาจมากเพียงไหน
 “สิ่งที่เป็นของเขาก็คือของเขา  สำหรับตัวข้าเอง  ข้าต้องฝึกให้หนัก”  ลินลี่ย์ไม่ต้องการอาศัยคนอื่นอีกต่อไป
 “มาเถอะ เดเลีย กลับไปห้องฝึกฝนกันเถอะ”  ลินลี่ย์จูงมือเดเลียยิ้มขณะกล่าว  เดเลียยิ้มให้เช่นกัน ทั้งสองออกจากห้องโถงใหญ่กลับไปที่ประตูมิติทันที  พวกเขากลับไปใช้ชีวิตฝึกซึ่งเป็นของพวกเขา
แต่แม้ว่าเขาจะเริ่มฝึกอีกครั้ง  ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกสงสัยในใจ
ฮ็อดเดิลคือผู้ดูแลดินแดนซึ่งมาจากพิภพนรกและเขาต้องมีแหล่งพลังสนับสนุนจากดินแดนชั้นสูงจากพิภพนรกเป็นแน่  ทำไมฮ็อดเดิลถึงต้องเชื่อฟังเมื่ออยู่ต่อหน้าลอร์ดเบรุต?  ลอร์ดเบรุตเป็นยอดฝีมือระดับใดกันแน่?
เทพชั้นกลาง? หรืออาจเป็นเทพชั้นสูง?
ลินลี่ย์ไม่กล้าพิจารณาถึงความเป็นไปได้ว่าเขาจะเป็นมหาเทพ  ตัวอย่างเช่น มีมหาเทพแห่งความมืดอยู่เพียงเจ็ด   ในพิภพนับไม่ถ้วนของจักรวาลทั้งหมด มีอยู่เพียงเจ็ดเท่านั้น!  เมื่อคนหนึ่งตายอีกคนหนึ่งจะเกิด  ในหลายพันล้านปีอาจไม่มีมหาเทพเกิดใหม่ในจักรวาล  และยิ่งกว่านั้นก็คือ ในพิภพระดับสูงมีความรู้ทั่วไปอย่างหนึ่ง..
มหาเทพไม่สามารถเข้าไปในโลกหยาบได้  ลำพังพลังของพวกเขาอาจทำให้โลกหยาบแตกเป็นเสี่ยงและสลายไปก็เป็นได้

5 ความคิดเห็น:

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Motto-mk กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

l3all กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น