วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 766 กระบี่อมตะ


ตอนที่  766  กระบี่อมตะ
รัศมีแสงที่ฉายออกมาจากห้องทำให้อิงอู๋ฟงตกใจ
 เกิดอะไรขึ้น?

เขารั้งรัศมีของเขากลับ ไม่กล้าจะเปิดเผยอะไรออกไป และยังคงซ่อนตัวอยู่ในเงามืด  เขาฝึกฝนกฎนอกสารบบ เรียกว่าเห็ดภูตพราย  ผิวกฎธรรมชาติของเขาดูเหมือนกับเห็ด  และนั่นเป็นที่มาของชื่อ พลังที่สะท้อนออกมาจากผิวกฎอ่อนโยนและสงวน และพลังพรางตัวนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพรางและเก็บงำรัศมี
ถังเทียนค่อยๆ ลืมตาและรู้ได้ว่าน้ำตายังนองหน้าของเขา
 ฝันหรอกหรือ?
 แต่มันชัดเจนมาก  ข้าจำได้ทุกรายละเอียด
ทันใดนั้นเขาก้มหน้ามองดู  แต่ก็ต้องตะลึงทันที  ที่ระหว่างนิ้วของเขา ดอกไม้สีน้ำเงินสว่างถูกคีบจับไว้
 เสี่ยวหลาน...
ถังเทียนรู้สึกชาหัว  เขารู้สึกว่าผมขนของเขาตั้งชัน  ไม่ใช่ความฝันหรอกหรือ?
ดอกไม้น้ำเงินในมือของเขาสว่างวาบทันที และแสงสีน้ำเงินคลุมไปทั้งห้อง
 แย่แล้ว!’
 เจ้าพยายามจะทำอะไร?
ถังเทียนตกใจ และตั้งท่ามุทราหัตถ์เด็ดบุปผาโดยไม่รู้ตัว  แต่แสงสีน้ำเงินยังคงฉายต่อเนื่อง  แต่ถังเทียนไม่รู้สึกว่ามันกำลังเปล่งแสง  ลำแสงกวาดผ่านใจที่ใสเหมือนแก้วของเขา  และร่างพร่าเลือนร่างหนึ่งมองเห็นได้ในมุมของผนังด้านนอก
หัวใจถังเทียนตื่นเต้น  แสงสีน้ำเงินยิงไปที่มุมอย่างเงียบงัน
เหมือนกับว่ามันสามารถทะลวงได้ทุกอย่าง
อิงอู๋ฟงกำลังรอเวลาลอบทำร้ายบุรุษหน้ากากผีอยู่ข้างนอกอย่างเงียบงัน  แสงน้ำเงินที่ปล่อยออกมาจากภายในบ้านมีความรุนแรงมาก  ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ  ขณะนั้นเองความรู้สึกถึงอันตรายพลุ่งขึ้นมาในใจเขา  มือสังหารมีสัญชาตญาณต่ออันตราย
เขาไม่คิดให้เสียเวลา หมุนตัวเตรียมหลบหนี  เนื่องจากสัญชาตญาณต่ออันตรายช่วยชีวิตเขาไว้หลายครั้งแล้ว
ผนังที่อยู่ต่อหน้าเขาสว่างวาบด้วยแสงน้ำเงิน  แสงน้ำเงินดูเหมือนจะมีพลังที่สามารถจับวิญญาณคนได้  และมันดูมีเสน่ห์จับใจทำให้เขาใจเต้นรัว
 นี่...
แสงน้ำเงินพุ่งออกมาจากผนังกำแพง  มันไวมาก  อิงอู๋ฟงถูกความตกใจครอบงำทำได้แต่เพียงยกกระบี่หยินวัฒนะ
ดอกไม้ที่งดงามอย่างแปลกประหลาดทิ้งตัวลงบนตัวกระบี่ของกระบี่หยินวัฒนะ
ดวงตาของอิงอู๋ฟงเบิกกว้าง  ในขณะต่อมาแสงสีน้ำเงินเปล่งออกมาอย่างไม่มีคำเตือน
เขาชะล่าใจ ทำให้ตาพร่ามองภาพไม่เห็น เขาส่งเสียงคราง และไม่สนอะไรอื่นอีกและเปลี่ยนเป็นควันหลบหนีไปข้างนอก
แม้ว่าเขาไม่สามารถเห็นได้  แต่อิงอู๋ฟงเข้าใจสถานที่ดี และเตรียมแผนสำหรับหนีไว้แล้ว เขาไม่บินขึ้นอากาศ  เขาเป็นมือสังหารที่มีประสบการณ์และเข้าใจชัดว่าทันทีที่บินขึ้นไปในท้องฟ้า เขาจะเปิดเผยตนเองต่อศัตรูและตกอยู่ในวงล้อม
อิงอู๋ฟงรู้ว่าเขาทำงานล้มเหลวแล้ว  พลังของบุรุษหน้ากากผีเกินกว่าที่เขาคาดไว้มาก
สำหรับมือสังหารนั่นคือความผิดพลาดมหันต์อย่างมิต้องสงสัย
มีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในใจเขาก็คือหนี
อิงอู๋ฟงที่กำลังหลบหนีรู้สึกเหมือนกับสัตว์ร้ายกำลังจ้องมองเขา  ทำให้ผมขนบนตัวเขาลุกชัน  เขาตกใจ โดยไม่คิดอะไรเขาทิ้งตัวลงในมุมๆ หนึ่ง และชักกระบี่หยินวัฒนะในชุดยาวของเขาและกางม่านพลังปกป้องเขาไว้
วูบบบ, ม่านกระบี่สีเทาขยายออก กรวดสีเทานับไม่ถ้วนลอยเข้ามาโดยรอบ
กรวดสีเทาระเบิดทันที
ปัง ปัง ปัง
เมื่อได้ยินเสียงระเบิดสปอร์ที่คุ้นเคยดังขึ้น   ใจที่อึดอัดของอิงอู๋ฟงพลันสงบ
ทุกสปอร์ที่ระเบิดออกมาจะปล่อยไหมบางที่ยุ่งเหยิง และในพริบตา มันปล่อยม่านไหมออกมาหนาแน่น  สปอร์ทั้งหมดนี้มีความทนทานมากและจุดสำคัญก็คือจำนวนของมัน  แม้ว่าดอกไม้น้ำเงินจะแปลกก็ตาม  แต่จะทำลายผ่านได้หลายชั้น ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ
อิงอู๋ฟงผู้สงบลงค่อยเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น  เขาแนบตัวไปตามกำแพงไปได้เร็วมาก
ทันใดนั้นหน้าเขาเปลี่ยนทันที
ม่านไหมด้านหลังเขาฉีกขาด  เป็นไปได้ยังไง...
เขาบิดเอวหลบตามสัญชาตญาณ  แต่เขารู้สึกเจ็บที่อก และร่างของเขาแข็งทื่อ
 เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง...
คำเหล่านี้ที่เขานึกออกได้ ภาพที่อยู่ต่อหน้าเขา การมองเห็นของเขาค่อยๆ ฟื้นกลับมา มองดูที่ดอกไม้น้ำเงินที่หยุดอยู่ข้างหน้าเขา  มีเลือดหยดออกมาจากดอกไม้ เป็นสีน้ำเงินสดใส
มันลอยอยู่เงียบๆ ข้างหน้าเขา
เมื่อเลือดหยดสุดท้ายไหลออก  อิงอู๋ฟงก็ล้มลง
ร่างของเขามีแผลน้ำเงินเล็ก  สีน้ำเงินเริ่มแผ่กระจายไปอย่างรวดเร็ว มันแผ่กระจายไปทั้งตัว  ศพของอิงอู๋ฟงกลายเป็นแก้วผลึก
ศพผลึกสีน้ำเงินแตกสลายอย่างรวดเร็ว
ลมพัดผ่านมาวูบหนึ่ง กวาดพื้นจนว่างเปล่า เหลือกแต่เพียงกระบี่สีเทา
ดอกไม้น้ำเงินเปลี่ยนเป็นฝนดอกไม้หมุนเป็นเกลียวม้วนเอากระบี่หยินวัฒนะ บินกลับไปที่ห้องของถังเทียน
ในที่ไกลออกไป บุรุษสองคนสังเกตดูเหตุการณ์อยู่ตลอดด้วยสีหน้าซีดขาว
 “อิงอู๋ฟงแพ้...”  คนที่พูดเป็นบุรุษวัยกลางคนร่างอ้วน  เขาสวมชุดหรูหราเหมือนกับพ่อค้า
บุรุษอีกคนหนึ่งเป็นคนแก่มีใบหน้าที่ผ่านชีวิตที่ยากลำบาก มือของเขาหยาบหนา  และดูไม่ต่างพวกกุลี เพียงแต่ตาของเขามีประกายแปลกประหลาด  เขาคิดอยู่นานจากนั้นพูด  “ท่านเหวินจำดอกไม้นั่นได้ไหม?”
บุรุษร่างอ้วนค่อยฝืนยิ้มและกล่าว  “กล่าวกันว่าเทพอสูรหกมุทราของปรมาจารย์หลี่มีดอกท่วมสวรรค์”
ตาสีน้ำตาลของบุรุษชราดูมีชีวิตชีวา  “ท่านเหวินคิดจริงๆหรือว่าเจ้าเด็กนั่นคือผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่?”
บุรุษอ้วนมองดูชายชราและพูดอย่างเฉื่อยชา  “ผู้เฒ่าจู, โปรดอย่าเข้าใจผิด ไม่สำคัญว่าข้าคิดอะไรอยู่สิ่งที่สำคัญคือคนอื่นจะคิดยังไงต่างหาก”
ชายชราไม่ตอบ
เขาคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดรวมทั้งความล้มเหลว  เขาใช้อิงอู๋ฟง เนื่องจากเขาเชื่อว่าด้วยพลังของอิงอู๋ฟง เขาสามารถโยนหินถามทางได้  ถ้าพวกเขาสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้  อย่างนั้นไม่ว่าเขาจะเป็นผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่จริงหรือไม่ ก็จะไม่สำคัญ  เนื่องจากคนตายไม่มีทางสืบทอดได้
แต่ผลลัพธ์ทั้งหมดที่เขาคาดการณ์ไว้   ไม่รวมเลยว่าอิงอู๋ฟงจะถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย  ดอกไม้ที่แปลกประหลาดและน่ากลัวทำให้เขาเสียวสันหลัง
นั่นเป็นวิชาอะไร?
ตำนานของปรมาจารย์หลี่ไม่เคยทำให้ผู้คนลืมเลือน  ตำนานของดอกสวรรค์ยังมีคนเล่าสืบต่อกันมา
 “เรามาดูกันว่าหลูเซิงเซียงจะมีปฏิริยาอย่างไร”  ชายชรากล่าว
หัวหน้าเหวินรู้ว่าผู้เฒ่าจูหมายความว่ายังไง  หลูเทียนเหวินไม่ปรากฏตัวมานานแล้วและตระกูลต่างๆ คาดว่าเขาต้องพบกับหายนะ  พวกเขาหลายคนสงสัยว่าหลูเซิงเซียงยังคงนั่งรอได้ยังไง  เมืองพายุปัจจุบันนี้มียอดฝีมือหลายคน  ทั้งหมดกำลังรอให้บุรุษหน้ากากผีเข้าไปติดกับดัก  แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง  คนอ้วนเหวินไม่เชื่อว่าเมืองพายุจะสามารถหยุดบุรุษหน้ากากผีได้  แต่เขาไม่ปฏิเสธชายชรา โต้แย้งไปก็ไม่มีความหมาย
นอกจากนี้ พลังความสามารถของบุรุษหน้ากากผีทำให้เขาตื่นตัวมาก  เนื่องจากเขาเห็นสถานการณ์ในตอนนี้ได้ชัด
บทบาทของการเป็นผู้สืบทอดปรมาจารย์หลี่ดูเหมือนสำคัญ  แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่แม้แต่น้อย  ปัจจัยสำคัญคือพลังของบุรุษหน้ากากผี  ไม่มีพลังของเขาแล้วใช้ชื่อของผู้สืบทอดปรมาจารย์หลี่ก็แค่หาที่ตาย และแม้จะไม่มีชื่อแต่มีความแข็งแกร่งอย่างเดียว เขาก็กวาดไปทั่วแดนบาปได้อยู่แล้ว
ผู้เฒ่าจูได้รับผลจากชื่อของผู้สืบทอดของสืบทอดปรมาจารย์หลี่  แต่ท่านเหวินกลับตื่นตัวมากขึ้น  และเห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของบุรุษหน้ากากผีไม่ใช่อยู่ที่แดนบาป
ไม่เคยมีใครเคยมองแดนบาปที่น่าสงสาร
แต่ถ้าบุรุษหน้ากากผีสามารถกลับไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  แค่คิดดูแล้วบุรุษอ้วนนามท่านเหวินก็สั่นแล้ว
ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ชื่อที่อยู่ไกลมาก  เรื่องเล่าของบรรพบุรุษ  ท่านเหวินผู้เกิดและรุ่งเรืองได้ในแดนบาปไม่ได้มีความปรารถนาถึงดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกซึ้ง  แต่เขารู้อย่างหนึ่งว่าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไม่แห้งแล้งกันดารเหมือนแดนบาป
บุรุษหน้ากากผีไม่ใช่เป็นคนของทวีปกวงหมิง มิฉะนั้นเขาคงออกไปนานแล้ว
และถ้าบุรุษหน้ากากผีกลับไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จริง  เขาคงจะสู้กับทวีปกวงหมิงแน่นอน
เมื่อคิดเรื่องนี้แล้ว ท่านเหวินมีความลังเลใจอยู่บ้าง  พลังของทวีปกวงหมิงฝังแน่นอยู่ในใจของคนแดนบาปมานานแล้ว  บุรุษหน้ากากผีสามารถเอาชนะพวกเขาได้หรือ?
เมื่อคิดเรื่องนั้นแล้ว ท่านเหวินรู้สึกว่าระดับความสำเร็จพอได้บ้าง ไม่สิ มีน้อยมาก ระดับความสำเร็จน้อยขนาดนั้นไม่มีน้ำหนักควรใส่ใจ แต่ทำไมใจข้าเต้นแรงนักเล่า?
ท่านเหวินงุนงง
ถังเทียนไม่รู้ว่ามีคนสำคัญสองคนสังเกตดูเขาอยู่  เนื่องจากขณะนั้นเขาตกใจกับความสามารถของเสี่ยวหลาน  การกระทำของอิงอู๋ฟงไม่สามารถหลบพ้นไปจากพลังจิตกระจกของเขาได้  แต่ถังเทียนต้องชื่นชมฝีมือและประสบการณ์ของอิงอู๋ฟง
ถ้าเขาลงมือเอง เขาคงทำได้ไม่ดีเท่าเสี่ยวหลาน
เลือดที่หยดลงจากดอกไม้ที่งดงามเป็นภาพที่ทำให้หัวใจของทุกคนเย็นสะท้าน
ดอกไม้น้ำเงินลากกระบี่หยินอมตะกลับมาที่ห้องของถังเทียน  และโยนให้ถังเทียนและกลีบดอกที่เต็มทั้งห้องหายไปทันที กลับเข้าไปรวมกับเสี่ยวหลานซึ่งกลับเข้าไปในร่างของถังเทียน
ถังเทียนตรวจสอบร่างกายเขาทันที
เมื่อเขาเห็นเสี่ยวหลานครั้งแรก  เขายังคงสงสัยว่าเขาอยู่ในภาพลวงตา  แต่ถ้าเป็นภาพลวงตาจริง  อย่างนั้นเสี่ยวหลานคืออะไร?
หลังจากตรวจร่างกายของเขาแล้ว  เขาก็ยิ่งสับสนเพิ่มขึ้น
สภาพใจเหมือนแก้วเป็นเหมือนแก้วผลึกและโปร่งใสไม่มีละอองธุลี มีต้นไม้อ่อนสะดุดตาอยู่ภายในนั้น
 อา..ไม่ใช่ภาพลวงตา
ถังเทียนกลัว ถ้าไม่ใช่ภาพลวงตา   อย่างนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในทะเลสันติภาพ...
ทันใดนั้นสายตาของเขามองดูที่ร่างของเทพอสูรหกมุทรา และเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด เขาตะลึงทันที
ในฝ่ามือของมุทรากระบี่กำสรวลซึ่งมีหมอกเสียงอยู่มีกระบี่บรอนซ์เล่มเล็กแหวกว่ายอยู่โดยรอบเหมือนกับปลา
 นั่นคือ..
ถังเทียนตื่นเต้นอยู่ในใจ และกระบี่บรอนซ์เล่มเล็กลอยเข้าหาเขา  กระบี่บรอนซ์เล่มเล็กมีกลิ่นอายของทหารดาวกางเขนใต้  บนตัวกระบี่เต็มไปด้วยรอยร้าว ทำให้ถังเทียนจำวิญญาณวีรชนที่คล้ายกับตุ๊กตากระเบื้องที่เหมือนเอาชิ้นส่วนมาประกอบใหม่ได้อีกครั้ง
เขาลูบกระบี่โดยไม่รู้ตัว และจิตสำนึกที่คุ้นเคยผ่านเข้ามาในใจเขา
ตัวกระบี่มีแถวข้อความเล็กๆ
 “จะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง”
เมื่อถังเทียนเห็นข้อความนี้ เสียงคร่ำครวญร่ำร้องดังก้องเข้ามาในหูของเขาอีก
 “เมื่อไม่รู้ว่าทหารของเราเป็นหรือตาย จะให้เราพักผ่อนอย่างสงบได้ยังไง!’
และ “กองทัพดาวกางเขนใต้ จงก้าวต่อไป!
ถังเทียนถือกระบี่บรอนซ์เล่มน้อยที่เต็มไปด้วยรอยร้าวและพึมพำกับตนเอง  “จากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าเรียกว่ากระบี่อมตะ  ตราบใดที่หัวใจข้ายังมีชีวิต  พวกเจ้าเหล่าวิญญาณวีรชนก็จะไม่ตาย  วิญญาณวีรชนของคนรุ่นก่อน  จงสู้พร้อมกับข้า!
เหมือนกับว่ามันรู้สึกได้ถึงคำพูดของถังเทียน  กระบี่อมตะสั่นสะท้านไม่หยุด เสียงโห่ร้องกึกก้องเคร่งขรึมปนด้วยความรู้สึกเศร้า  ความตั้งใจสู้ทะลักออกเหมือนมีเพลิงนรกแผดเผาอยู่ในตัวเขาทำให้เขารู้สึกมีอิสระและกล้าหาญ
ทะเลสันติภาพเลือนรางปรากฏข้างหน้าถังเทียนอีกครั้ง  ฉากภาพคลื่นวิญญาณวีรชนระลอกแล้วระลอกเล่าพุ่งเข้าใส่ม่านพลังป้องกันในโดมท้องฟ้าแตกกระจายและฉีกร่างออก   ร่างที่เหมือนตุ๊กตาเคลือบทั้งหมด มีความมุ่งมั่นทั้งนั้น หัวใจทุกดวงสะท้านยินดี
ความเชื่อมั่นตลอดหมื่นปี ในรอบศตวรรษหลายรอบ หัวใจความมุ่งมั่นเพื่อกองทัพไม่เคยทำให้วิญญาณวีรชนเหล่านี้ตาย
ถังเทียนที่กำลังร้องไห้เข้าใจในที่สุด ถึงสาเหตุที่เขาถูกดึงเข้าไปในภาพลวงตา  ไม่ใช่เพราะเสี่ยวหลานหรือวิญญาณวีรชนอมตะ  แต่เป็นเพราะเขาคือเจ้าของกองทัพดาวกางเขนใต้!
 “ไม่จำเป็นต้องให้พวกท่านปกป้อง  จงพักอย่างสงบเถิด”
 “เมื่อไม่รู้ว่าทหารของเราเป็นหรือตาย  จะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง!

10 ความคิดเห็น:

22 กล่าวว่า...

เอาแล้ว สนุกขึ้นเรื่อยๆ

minibull กล่าวว่า...

แทงกิว

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มันส์

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นั่นมันน กล่าวว่า...

จะให้พักอย่างสงบได้ยังไงงงงง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

SaMiiz กล่าวว่า...

ฉากที่วีนชน พูด ถึงกองทัพก่งเขน น้ำตาผมซึมเลย ฮือออ

แสดงความคิดเห็น