ตอนที่ 767
ข้าคือหน้ากากผี
ถังเทียนฉวยโอกาสเมื่อท้องฟ้ายังมืดอยู่พาสวี่เย่เดินทางออกจากเมืองบูรพาอมตะ
เขาไม่ต้องการรอต่อไป
วิญญาณวีรชนในทะเลสันติภาพทำให้เขารู้สึกว่าเขาต้องรีบ
แข่งกับเวลา
ความรุ่งเรืองและความศรัทธาของกองทัพดาวกางเขนใต้ที่เป็นของปิง,
อาซิ่น, ลั่วซือ, วิญญาณวีรชนอมตะ พวกเขาจะสู้ร่วมกัน พวกเขาจะตายเพื่อกันและกัน
ภายใต้เครื่องหมายเดียวกัน พวกเขาโห่ร้องและเร่าร้อนด้วยความเชื่อมั่น
สง่าราศีความรุ่งเรืองสามารถสัมผัสได้จริงๆ แต่เป็นความรุ่งเรืองของอดีต เป็นเกียรติยศของปูชนียบุคคลของเขา
และไม่ใช่เพียงเท่านั้น
แม้ปัจจุบันนี้เขาก็ยังเป็นผู้ครอบครองกองทัพดาวกางเขนใต้
เขาได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าจะมีอารมณ์ตื้นตันกับพวกเขาก็ตาม แต่เขาไม่อิจฉาพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
เพราะเขามีศักดิ์ศรีความรุ่งเรืองเป็นของตนเอง
พี่น้องของเขาผู้ยินดีเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกับเขา
พี่น้องผู้ที่เขาสามารถจากไปได้อย่างไม่ต้องกังวล พวกเขาผ่านไฟสงครามมาแล้ว
ผ่านการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาแล้ว พวกเขามีความเชื่อมั่นที่เหมือนกัน
และสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกันมา
พวกเขาเขียนประวัติศาสตร์ของตนเอง หนังสือของพวกเขาเอง ตำนานของพวกเขาเอง
มีแต่เพียงผู้กล้าเท่านั้นที่จะชนะ
‘ปัจจุบันนี้เราผ่านความล้มเหลว
และเหตุการณ์มามากเพียงไหนแล้ว?’
‘ความล้มเหลวแบบไหนจะเทียบได้กับสู้เพื่อพวกเขาเองในรอบร้อยปีต่อครั้ง?
ความเศร้าโศกแบบไหนจะเทียบได้กับบุรุษที่ถูกผนึกอยู่ในโลงน้ำแข็งร้องโหยหวนทุกวันทุกคืนมาตลอดหลายพันปี?’
ถังเทียนมุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ลมเย็นพอๆ กับน้ำแข็งเหมือนดาบเฉียดผ่านเขาไป
ขณะที่หัวใจของเขาเหมือนมีเพลิงปรารถนาลุกโหม
‘ต่อให้ทั้งโลกต่อต้านข้า ต่อให้ร่างข้าแตกสลายกระจัดกระจายไป ต่อให้ข้าไม่มีอะไร ข้าจะไม่กลัว’
‘ผู้อาวุโสแห่งกองทัพดาวกางเขนใต้
โปรดคอยดู เราจะแข็งแกร่งด้วยเหมือนกัน!’
สวี่เย่ถูกถังเทียนประคองไว้
ทำให้เขารู้สึกละอาย บริวารแบบไหนกันที่ต้องให้เจ้านายประคองพาเดินทาง? เขาพยายามคิดหาวิธีให้ถังเทียนปล่อยเขาลง แต่ถังเทียนไม่สนใจอะไรทุกอย่าง
สวี่เย่กำลังคิด “หรือว่านายท่านถูกบางอย่างกระตุ้น?”
สภาพของถังเทียนในตอนนี้พลังเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย เขาสำเร็จมุทราสามปางจากหกปางของเทพอสูรหกมุทรา
นั่นคือมุทราหมัดพิโรธจะช่วยให้ตลอดทั้งร่างของเขามีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล มุทราหัตถ์เด็ดบุปผาช่วยสภาวจิตของเขาใสกระจ่างไม่มีมลทิน
และยังมีมุทรากระบี่กำสรวลทำให้เขาเข้าถึงความรู้สึกต่างๆ ได้
ก่อนจะสำเร็จมุทรากระบี่กำสรวล ถังเทียนไม่เคยคาดถึงความโดดเด่นเฉพาะตัวของมุทรากระบี่กำสรวลที่แท้ก็คือ
‘แรงสั่นสะเทือน’
กระบี่อมตะเล่มเล็กเคลื่อนไหวเงียบงันปล่อยคลื่นพลังผันผวนที่แปลกประหลาดช้าๆ
ความผันผวนนั้นมีความถี่ที่สูงมาก
ยังเหนือมากกว่าที่หูมนุษย์จะได้ยิน
ความสามารถสร้างบาดแผลของการสั่นสะเทือนความถี่สูงนั้นน่าประหลาด ถังเทียนรู้เรื่องนี้
แต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าแรงสั่นสะเทือนนั้นจะสร้างมาจากร่างของเขา
สัมผัสรู้ของแรงสั่นสะเทือนทั่วร่างกายทั้งหมดทำให้เขารู้สึกชา
ถ้าไม่ใช่เพราะแสงสีแดงของมุทราหมัดพิโรธที่คอยปรับสภาพร่างกายของเขา
ทำให้อวัยวะภายในของเขาทั้งหมดแข็งแรงขึ้น แรงสั่นสะเทือนคงจะทำร้ายเขาบาดเจ็บได้
แต่แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ถังเทียนก็ยังรู้สึกไม่ดี
ตามปกติ
การโจมตีด้วยเสียงยากจะทำร้ายอวัยวะภายในของถังเทียนให้บาดเจ็บได้ เลือดเนื้อและกระดูกของถังเทียนแข็งแรงมาก
และพลังสั่นสะเทือนที่มาถึงร่างของเขาจะถูกสลายพลังลงไปมากเมื่อเข้าร่างเขา
ดังนั้นจึงกลายเป็นพลังโจมตีที่อ่อนแอ
แต่พลังสั่นสะเทือนที่มาจากภายในร่างกายของเขาสร้างผลกระทบต่ออวัยวะภายใน
ทำให้ถังเทียนไม่มีทางเลือก
แต่ในเวลาอันรวดเร็ว
ถังเทียนพบความมหัศจรรย์ของมุทรากระบี่กำสรวล
มันสามารถเสริมความแข็งแกร่งปรับสภาพอวัยวะภายในของเขาผ่านแรงสั่นสะเทือนต่อเนื่อง
ซึ่งยากจะปรับสภาพได้
ถังเทียนรู้ว่านั่นหมายความว่ายังไง
พลังกายของเขาไม่ใช่ว่าจะไม่มีรากฐาน
พลังนั้นเดิมที่มาจากอวัยวะภายใน
เหมือนกับการเสริมความแข็งแรงต้นไม้ซึ่งจะเติบโตได้ดีกว่าตามธรรมชาติ
ความรู้สึกชาจากร่างของเขา
ถังเทียนผลักดันไปข้างหน้า
เขากวาดทุกสิ่งทุกอย่างระลอกผันผวนที่มองไม่เห็นออกไปเหมือนกับระลอกน้ำ
ถังเทียนรู้สึกได้ชัดเจนถึงพื้นที่รอบตัวเขาแตกเป็นเสี่ยงจากแรงสั่นสะเทือน
‘พลังของข้าก้าวหน้าอีกแล้ว!’
ถังเทียนเพิ่มความเร็วจนถึงจุดที่เร็วราวกับสะบัดกระบี่
สวี่เย่รู้สึกตกใจ เขารู้สึกเหมือนกับว่านายท่านเร็วราวกับสายฟ้า
สายลมปะทะหน้าเขาอย่างแรงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น
‘รวดเร็วมาก! นายท่านบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือ? เป็นไปได้ยังไงที่เขา....’
สวี่เย่ตะลึงอย่างสิ้นเชิง
ในความมืด
รูปเค้าเมืองพายุค่อยๆ ปรากฏชัดเจนขึ้น ตาของสวี่เย่เบิกกว้างทันที ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าสว่างขึ้น
และลมที่พัดโกรกใส่ตัวเขาแรงกล้าขึ้น
เจ้านายเขาเร่งความเร็ว
เมื่อถังเทียนเห็นเมืองพายุใกล้เข้ามา
ความตั้งใจต่อสู้ในใจเขาท่วมท้น แค่เพียงพลิกมือเขาพุ่งออกไปอีก 300 เมตร
สวี่เย่ต้องฝืนทำตัวเองให้มั่นคง หน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจ ‘นายท่าน..คือว่า..”
ถังเทียนเพิ่มความเร็วอย่างกระตือรือร้น
เหมือนไส้ตะเกียงถูกเร่งไฟ
เขาบินไปเหนือเมืองพายุ
เมื่อมองลงไปที่เมืองพายุเบื้องล่างเขาในยามราตรีและเขารู้สึกถึงความพลุกพล่านต้องการต่อสู้ในใจเขาได้
หน้ากากผีที่ลายเส้นสีเลือดดูน่าหวาดกลัวสยองขวัญ
ด้านหลังหน้ากากเป็นดวงตาที่ลึกเหมือนคุโชนด้วยเพลิงสีแดง
ตาของเขาสะดุดตาอยู่ในความมืด
‘เจ้าถูกกำหนดให้เป็นศัตรูกับโลกนี้’
เพราะเหตุผลบางอย่าง
ประโยคนี้ผุดขึ้นมาในใจของถังเทียน และปากของเขากระตุก
‘อย่างนั้นก็เริ่มกัน’
ถังเทียนชูแขนขวาและปล่อยพลังไร้ลักษณ์ไปทุกตำแหน่งโดยมีแขนของเขาเป็นศูนย์กลาง
แรงสั่นสะเทือนของมุทราดาบพิโรธมีความเฉพาะแบบมาก
เว้นแต่ถังเทียนจงใจปล่อยออกมา ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครสัมผัสรู้สึกได้
แขนที่ยกขึ้นสับลงทันที
และรังสีพลังที่ฟันออกไปเต็มไปด้วยระลอกเล็กๆ นับไม่ถ้วนยิงไปที่กำแพงเมือง
ปัง!
แรงฟันฝังลึกเข้าไปในกำแพง แรงสั่นสะเทือนความถี่สูงสะเทือนไปทั้งกำแพง
ทำให้กำแพงที่มั่นคงแข็งแรงพังทลายเหมือนกับขนมกรอบ ฝุ่นผงคลุ้งกระจาย
ถังเทียนชมดูราวกับว่าเขาไม่ใช่คนปล่อยพลังโจมตี
เมื่อฝุ่นผงสลายไป
เหลือกำแพงหนึ่งในสามตั้งตระหง่านให้เห็น หลุมใหญ่ทอดยาวเกินกว่า 150
เมตรและลึกเกิน 15 เมตรปรากฏคล้ายกับบาดแผลที่น่ากลัว
เมืองพายุที่อยู่ในความมืดและเงียบสงบตื่นตระหนกทันที ทุกบ้านเริ่มจุดไฟสว่าง สัญญาณเตือนภัยแหลมสูงถูกเปิดออก และหลายร่างบินออกมาในอากาศจากทุกมุมเมือง
‘เกิดอะไรขึ้น? ใครบางคนโจมตีเรา?’
ถังเทียนยังคงอยู่ในความมืดไม่ได้เคลื่อนไหว เขาไม่ตั้งใจจะซ่อนตัว
“ข้าคือหน้ากากผี”
เสียงลึกที่ดังกึกก้องเหมือนฟ้าคำรามดังไปทั้งเมืองพายุ ไม่มีความยินดี หรือโกรธ
แต่ก็ดังกลบเสียงตะโกนอื่น
ทั่วทั้งเมืองพายุตกอยู่ในความเงียบทันที
นักสู้จากเมืองพายุที่รีบออกมาตระหนักได้ทันทีว่ามีร่างหนึ่งยืนเด่นเหนือพวกเขา หน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป
เมื่อพวกเขาเห็นรอยฟันขนาดมหึมาใต้บุรุษหน้ากากผี
พวกเขาทุกคนสูดลมหายใจหนาวเหน็บ
บุรุษหน้ากากผี!
ไม่ใช่เรื่องลับในเมืองพายุที่ตระกูลฝูต้องการกำจัดบุรุษหน้ากากผี
มีข่าวลือมากมายของบุรุษหน้ากากผีแพร่กระจายในช่วงสองสามวันมานี้
แต่เกือบทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเป็นผู้รับสืบทอดของปรมาจารย์หลี่
และหลายคนพูดล้อเล่นหยอกล้อเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเวลาที่พวกเขาว่าง
ส่วนใหญ่พวกเขาหาว่าบุรุษหน้ากากผีโกหก
นักต้มตุ๋นที่ใช้เล่ห์ลิ้น
รู้วิธีวางท่า แต่เมื่อพบกับตัวจริง
เขาจะต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
ต้องเป็นพวกหลอกลวงแอบอ้างแน่!
นักสู้ส่วนใหญ่พอจ้องมองรอยฟันที่น่ากลัวบนพื้น
หน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวทันที
แต่มีบ้างบางคนที่จ้องมองถังเทียนด้วยนัยน์ตาที่เหมือนมีเปลวไฟ
ตระกูลฝูถือครองอำนาจในเมืองพายุ และพวกเขาคือยอดฝีมือเชี่ยวชาญที่แท้จริง ถ้าหนึ่งในพวกเขากำจัดบุรุษหน้ากากผีได้ ตระกูลฝูจะให้รางวัลพวกเขาอย่างหนักแน่นอน
ตราบใดที่มีการพยายามอย่างหนัก ตระกูลฝูไม่เคยใจแคบ
เป็นเหยื่อแบบไหนก็ยังดีกว่าเป็นพวกหลอกลวง
ไม่มีใครเห็นว่ารอยมีดใหญ่บนพื้นเป็นเพราะบุรุษหน้ากากผีสร้างเองหรือไม่
คนฉลาดบางคนคิดถึงสองสามวิธีที่เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดรอยฟันลึก สองสามคนตัดสินใจว่าบุรุษหน้ากากผีโกหก และต้องการทำหลุมใหญ่เพื่อขู่ขวัญให้คนกลัว
น่าตลกเป็นบ้า!
“เรามีคนมากกว่า”
ไม่มีใครรู้ว่าใครตะโกนคำพูดนั้นออกมา แต่ทำให้ความกล้าของทุกคนเพิ่มขึ้นทันที และแม้แต่คนที่ลังเลใจตอนแรกทิ้งความกังวลออกไป ‘ใช่แล้ว เราอยู่ในเมืองพายุ เราได้เปรียบจำนวนคน ต่อให้บุรุษหน้ากากผีแข็งแกร่ง แล้วไงเล่?’
ในขณะนั้น
คนเกินกว่าสี่สิบกระโจนเข้าหาถังเทียนจากทุกทิศทาง
หน้ากากผีที่มีรอยเปื้อนเลือดยังคงเงียบสงบ
ตาแดงของเขาจ้องมองนักสู้ที่กำลังเข้ามาอย่างเฉยเมย
มือของพวกเขาทุกคนปลดปล่อยรัศมีแพรวพราวที่ผสานเข้าด้วยกัน
ป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี
ถังเทียนไม่เคยมีความคิดหลบ
เขาตั้งท่ามุทรากระบี่กำสรวลและกระบี่บรอนซ์เล็กลอยอยู่ข้าหน้าเขา
เขาใช้นิ้วเดียวเพื่อเคลื่อนไหวกระบี่
ติง!
ระลอกที่ละเอียดไร้ลักษณ์ขยายวงออกไปเงียบๆ
ทุกตำแหน่ง
ไม่ว่าระลอกผ่านไปถึงไหน
พื้นที่เหมือนกับจะแตกออกเหมือนแก้ว
นักสู้ผู้เตรียมจะโจมตีเขากลายเป็นเฉื่อยชา
เสียงคำรามของเขาหายไป รัศมีที่สร้างจากกฎธรรมชาติหยุดนิ่ง
และมีสีหน้าชะงักค้างน่ากลัว
รอยเลือดเล็กๆ
รอยหนึ่งปรากฏบนใบหน้าของหนึ่งในนักสู้
หลังจากนั้นก็มีรอยเลือดปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนแนวใยแมงมุมสีแดง ทั้งหมดมองดูเหมือนตุ๊กตาเคลือบแตกที่เอากลับเข้ามาประกอบใหม่
ชี่..โพละ
เสียงเบาดังออกมา และพวกเขาระเบิดเหมือนกับลูกแตงโม
รอยเลือดนับไม่ถ้วนระเบิดพร้อมกัน
และกฎธรรมชาติที่สูญเสียการควบคุมก็ระเบิด บอลแสงแพรวพราวล้อมร่างบุรุษหน้ากากผี
และท่ามกลางแสงเลือดฉีดพุ่งออก มองดูเหมือนพระอาทิตย์โลหิต
เมืองพายุสว่างราวกับตอนกลางวัน
ทุกคนตะลึงอยู่กับที่เพราะความกลัว
นักสู้สี่สิบกว่าคนไม่ทันได้แสดงฝีมือก็สลายกลายเป็นธุลี
แต่สำหรับนักสู้ที่กำลังเสียใจว่าพวกเขาลงมือช้ากำลังยินดีกับโชคของตนเอง บุรุษหน้ากากผีน่ากลัวมากจริงๆ
ลงมือครั้งเดียวก็สังหารนักสู้ไปถึงสี่สิบคน
‘กระบี่เล็กนั่นคืออะไร นั่นเป็นวิชาแบบไหน? ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!’
‘แต่บุรุษหน้ากากผีไม่น่าจะรอดจากระเบิดที่รุนแรงนั้น...’
ส่วนใหญ่ของนักสู้ทั้งสี่สิบคนล้วนเป็นหัวกะทิฝีมือดีได้รู้แจ้งผิวกฎธรรมชาติ
เพราะกฎธรรมชาติของพวกเขาสูญเสียการควบคุมและระเบิดพร้อมกัน
แรงระเบิดทรงพลังมาก และแม้พวกเขาที่สังเกตุแต่ไกลก็ยังกลัวแรงระเบิด
ระเบิดและแสงจางลงหมองลงและสลายไปในที่สุด
สีหน้าของทุกคนชะงักค้าง
กลายเป็นความกลัวทันที
ความร้อนที่เกิดจากแรงระเบิดไม่ได้หายไป และภายในมิติที่บิดเบี้ยว
มีร่างหนึ่งสวมหน้ากากที่มองเห็นได้อย่างพร่าเลือน
เขามองลงมาทางพวกเขาอย่างเฉยเมย
“คนที่เอาบริวารข้าไปจองจำจะต้องตาย”
เสียงของเขาราบเรียบ
เหมือนกับว่าประกาศของเขาเป็นเรื่องธรรมดา
เขาไม่สนใจจะซ่อนรังสีฆ่าฟัน ซึ่งแผ่กระจายคลุมทั่วเมืองเหมือนสายลม
ทำให้รู้สึกถึงความเย็นซ่านไปตามสันหลัง
ทั่วทั้งเมืองพายุตกอยู่ในความเงียบราวกับป่าช้า
13 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ กำลังมันส์ รอรวบรวมจนครบ กลับไปหาปิงซะที นานจัดละ
ได้เวลานองเลือดแล้ว ขอบใจมากๆจ้า
ขอบคุณมากครับ
กูต้องดองแล้ว ค้างตลอด
40 รึจะสู้ 1(นิ้ว)
ออกจากป่าแล้ว?
โอ๊ยยย มันโว้ยยย ขอบคุญที่แปลให้อ่านครับ
ขอบคุณครับสร้าง
ขอบคุณครับ
ปรมาจารย์หลี่จะโหดขนาดไหนเนี้ยเป็นถึงต้นฉบับวิชาแต่ก็ยังพ้ายแพ้โดนพวกหมิงกวนจับมายัดแดนบาป(ไม่แน่ปรมาจารย์หลี่อาจจะอยู่กลับพ่อมันป้าวถึงได้เกี่ยวโยงกับดาวกางเขนใต้)
ขอบคุณครับ
สนุกมากกกกกก💗💗
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น