วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 656 ข่าวดี


ตอนที่  656  ข่าวดี
เมื่ออี้หนานลืมตาขึ้น  นางพบว่าตัวนางเองอยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยาง
และเขานั่งอยู่บนเตียง

นอกจากประคองนางแล้ว  เขายังถ่ายเทพลังผ่านมือของเขา ช่วยให้นางฟื้นฟูจากการใช้พลังเกินไปและร่างกายได้รับผลจากพลังสะท้อนกลับ  แม้ว่านางจะฟื้นฟูเต็มที่  แต่อี้หนานไม่ต้องการลุกขึ้นจากอ้อมแขนของเขา  แน่นอนการสนทนาระหว่างเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำให้นางรู้สึกอาย นางไม่กล้าลุกขึ้นตอนนี้  ได้แต่หลับตาทำเป็นหลับต่อ
 “กลยุทธของหย่งฮุยถูกนำมาพูดสนทนา  ตอนนี้เขาเหลือมังกรเขาเดียวเพียงแค่ตัวเดียว และติดอยู่ในโลกวารี  เขายังไม่ได้รับการรักษา  เราสามารถฝึกกับเขาได้ทีหลัง  ตอนนี้มาวิเคราะห์การต่อสู้กับมนุษย์กระดูก อีกาและผีผู้หญิงกัน”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  เสวี่ยอู๋เสีย เจ้าเมืองโล่วฮัว นางเซียนหงส์ฟ้า มารเคราะห์ฟ้า เย่ว์หวี่ เย่ว์ปิง ไห่อิงอู่และสาวขี้เมาสุมหัวอยู่ด้วยกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์การต่อสู้ที่พวกนางได้รับ  เป็นเพราะพวกนางรวมใจกัน แลกเปลี่ยนทุกอย่าง  แน่นอนว่าทำให้ความก้าวหน้าของพวกนางพุ่งทะยานราวกับจรวด
 “พวกเจ้าพูดกันไปก่อน”  เสวี่ยอู๋เสียรับหน้าที่บันทึก
 “มนุษย์กระดูกและผีผู้หญิง ทั้งสองนี้ไม่ได้อยู่ใต้บังคับของอีกา  ข้าสามารถเห็นได้เล็กน้อย แต่ไม่มาก  อสูรของมนุษย์กระดูกน่าจะเป็นอสูรรบรูปแบบกระดูก  มันดูเหมือนเป็นกรงกระดูก แปลกมาก และผีผู้หญิง ข้าเห็นร่มปีศาจที่นางถือจากแสงอาทิตย์เมื่อตอนที่กาทองสามขาเรียกเปลวเพลิงลอยลมออกมา”  เย่ว์หยางบอกสาวๆ ถึงสิ่งที่พวกนางไม่สามารถเห็น  อสูรรบทั้งสองนี้สามารถเห็นได้โดยจักษุญาณทิพย์ของเขา
 “กรงกระดูกและร่มปีศาจ?”  เมื่อเสวี่ยวอู๋เสียบันทึก นางขมวดคิ้วเล็กน้อยและส่งสมุดบันทึกให้เย่ว์หยาง
 “เหมือนอย่างนี้”  เย่ว์หยางวาดอสูรทั้งสองลงในสมุดบันทึก
เขาคิดชั่วขณะ
นอกจากอสูรรบสองตัวนี้แล้ว  เขายังเขียนความสามารถของพวกมันลงไปด้วย จองจำ และ คุกคามจิตใจ
แม้ว่าจะสรุปมาไม่ถูกทั้งหมดเสียทีเดียว แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าอสูรทั้งสองมีความสามารถนี้เป็นอย่างน้อย
เสวี่ยอู๋เสียรับสมุดบันทึกคืน พยักหน้าเล็กน้อยและจากนั้นวาดปีศาจหน้าเห็ด, แมลงปอแดง, พุ่มไม้เพลิง แมลงดูดพลัง, แมงกะพรุนฟองน้ำและจ้าวปลาดุกพร้อมทั้งความสามารถของพวกมัน
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโน้มตัวเข้ามาดูและคิด
เจ้าเมืองโล่วฮัวและนางเซียนหงส์ฟ้ามองหน้ากันเองและยิ้ม “ข้าขอแสดงความเห็นบ้าง”
 “เราไม่ได้แสดงพลังของเราในการสู้รบครั้งนี้  แต่หลังจากพิสูจน์ดูแล้ว  เราเรียนรู้ได้มาก  เป็นไปตามคาด ผู้อาวุโสเหล่านั้นมีชีวิตเมื่อหมื่นปีที่แล้ว  เรายังคงด้อยกว่าอสูรรบของพวกเขาเวลารวมพลังกันมาก ทั้งข้อจำกัดและการเปลี่ยนแปลงชั่วคราว  ไม่มีใครคิดว่าปีศาจหน้าเห็ดจะสร้างผลกระทบที่น่าทึ่งเช่นนั้น สามารทำให้อาหง อาหมันไม่สามารถสู้ได้  ความเห็นที่ข้ามีต่อกลยุทธนี้ของปีศาจหน้าเห็ดก็คือ  ถ้าเราต้องเผชิญหน้ากับอสูรรบเช่นนี้  เราจะแพ้แน่นอน  หลังจากศึกนี้ ข้าคิดว่าเราทุกคนจะต้องมีอสูรรบที่สามารถตอบโต้พลังโจมตีทางวิญญาณได้”  เจ้าเมืองโล่วฮัวเสนอความเห็นเป็นครั้งแรก
 “แต่ข้าถนัดแต่อสูรพฤกษาเท่านั้น”  เย่ว์ปิงพบว่าเป็นการยากจะจัดการ  อสูรรบของนางเด่นในเรื่องวิธีการนอกสารบบ
 “มีสามวิธีในการตอบโต้การควบคุมจิต”  นางเซียนหงส์ฟ้ากล่าว  “วิธีแรกเป็นวิธีตรงที่สุด ใช้อสูรที่ไม่มีสภาวะอารมณ์ตอบโต้ อย่างเช่นอสูรหุ่น อสูรหุ่นเป็นดาวข่มของปีศาจหน้าเห็ด  วิธีที่สองใช้อสูรรบที่ไร้สภาวะอารมณ์ที่ไม่กลัวอารมณ์ด้านลบในการตอบโต้ อย่างเช่นภูตเพลิงฟ้า”
 “แล้ววิธีที่สามเป็นยังไง?” เย่ว์ปิงถามอย่างใจจดใจจ่อ
 “เป็นอสูรที่มีอารมณ์อยู่เหนือมนุษย์ธรรมดา เหมือนอย่างเสี่ยวเหวินหลี  ความจริงเพราะอาหงและอาหมันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของพวกนางได้  พวกนางจึงได้รับผล  ถ้าพวกนางถึงระดับเดียวกับเสี่ยวเหวินหลี อย่างนั้นพลังจิตโจมตีอย่างปีศาจหน้าเห็ดก็จะไร้ประโยชน์  แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ข้าคาดว่าต้องเป็นระดับเทพอสูร (อสูรในตำนาน) เป็นอย่างน้อย เพราะระดับของปีศาจหน้าเห็ดนั้นสูงมากและพลังจิตโจมตีของมันก็หนักหน่วงมาก”  นางเซียนหงส์ฟ้าปลอบโยนเย่ว์ปิงและยิ้ม  “นางฟ้าแสงเขียวของเจ้าก็ยังมีหวังก้าวหน้าได้ในอนาคต  ไม่ต้องเป็นห่วงไป  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการสู้กับปีศาจหน้าเห็ดเป็นหลักสำคัญ  ถ้าเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับพญาไม้ไตตันเจ้าจะไม่ได้รับผลของการโจมตีทางจิตเลย  พญาไม้ไตตันจะได้รับผลบ้างแต่ก็เล็กน้อย  ถ้าพี่ชายเจ้าไม่แสดงจุดอ่อนที่เป็นเป้าหมาย  อาหงและอาหมันก็จะสามารถกำจัดอารมณ์เชิงลบได้อย่างง่ายดาย”
 “ใช่แล้ว, ถ้าเจ้าของอสูรรบมีสติปัญญาฉลาดเป็นพิเศษ  อสูรรบจะได้รับผลบ้างเล็กน้อย  ยิ่งมีสติปัญญาและความมุ่งมั่นของอสูรรบมากก็ยิ่งเป็นอิสระได้เร็ว”  เจ้าเมืองโล่วฮัวชี้มาที่แพนด้าหนิวหนิวของสาวขี้เมา นางไม้แสงเขียวของเย่ว์ปิงและสาวน้อยจิ้งจอกของนาง แสดงให้เห็นว่าพวกนางมีโอกาสกำจัดอิทธิพลเชิงลบออกไป
 “ครั้งต่อไปเราจะไม่ยอมเสียหน้าแน่นอน”  อาหงและอาหมันกล่าว พวกนางลุกขึ้นขอโทษสาวๆ
 “มันเป็นเรื่องดีที่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด  ตอนนี้พวกเจ้าก็เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นไม่ใช่หรือ”  เจ้าเมืองโล่วฮัวหัวเราะเสียงดัง
 “ปีศาจหน้าเห็ดมีความคล้ายกับแมงกะพรุนฟองน้ำ  ถ้าเจ้าต้องการเอาชนะแมงกะพรุนฟองน้ำ  เจ้าต้องใช้ความฉลาดของอสูรรบ  เจ้าต้องหาจุดอ่อนของฟองน้ำเพื่อหนีออกมา  อสูรศักดิ์สิทธิ์ก็มีโอกาสหนีออกมาได้ ปัญหาคือเวลาเท่านั้น”  นางเซียนหงส์ฟ้าพูดต่อ  “แมลงปอความจริงโจมตีไม่ยาก อสูรธาตุหยาบและอสูรพิเศษเป็นดาวข่มของมัน  ภูตเพลิงฟ้าและปีศาจหิมะน้ำแข็งของอู๋เสียก็เอาชนะมันได้  ที่ต้องการมากที่สุดก็คือสนามพลัง  ถ้าอสูรรบสร้างสนามพลังได้ อย่างนั้นก็จะเอาชนะมันได้”
นางฟ้าศึกอิกกะเดินออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำนี้
ไม่ใช่ว่านางไม่มีสนามพลัง  แต่นางไม่รู้วิธีใช้สนามพลังในการรบ
ด้วยคำอธิบายของนางเซียนหงส์ฟ้า  นางเข้าใจบางอย่างทันทีและไม่สามารถรอที่จะออกไปข้างนอกเพื่อทดลอง
จากนั้นเจ้าเมืองโล่วฮัวและนางเซียนหงส์ฟ้าพูดกันเรื่องจุดอ่อนของพุ่มเพลิง จุดอ่อนและจุดแข็งของพุ่มเพลิงมีความชัดเจนพอกัน  ถ้ามันต้องสู้กับอสูรศึกประเภทสัตว์ร้าย มันจะชนะแน่นอน  แม้ว่าอสูรศึกประเภทสัตว์ร้ายจะไม่มีทางจัดการกับมันได้  มีเพียงแต่อสูรธาตุที่มีคุณสมบัติธาตุน้ำและน้ำแข็งก็สามารถต้านทานมันได้
ถ้าครั้งนี้เป็นการต่อสู้ด้วยพลังรบของนางเงือกวายุก็ยังด้อยกว่าพุ่มเพลิงอยู่มาก  แต่นางสามารถเอาชนะมันได้ นี่คือดาวข่มตามธรรมชาติ
แมลงดูดพลังจะตรงกันข้ามกับพุ่มเพลิง
ไม่ว่าอสูรธาตุจะมีมากเพียงใด การโจมตีของพวกเขาก็แค่สะกิดเกาเท่านั้น
ดาวข่มของมันคืออสูรรบประเภทสัตว์ร้าย  และแม้อสูรสายเสริมพลังก็สามารถทำให้มันสำนึกตัวเองได้
ตัวอย่างเช่น ถ้าเย่คงส่งวานรปีศาจเพชรออกไป หรือเจ้าอ้วนไห่ส่งแรดเพชรออกไปมันก็จะถูกถ่วงมือเท้า ถ้าเป็นฮุยไท่หลาง อย่างนั้นเจ้าแมลงดูดจะกลายเป็นอาหาร  ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นภูตเพลิงฟ้าหรือปีศาจหิมะน้ำแข็ง ก็จะไม่สามารถทำอย่างนี้กับแมลงดูดพลังได้”
 “ข้าไม่รู้จะช่วยยังไง  จ้าวปลาดุกตัวใหญ่เกินไป”  เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกว่า แม้ว่าจ้าวปลาดุกจะไม่ได้โจมตี เพียงแต่คอยขัดขวางแสงอุษาของนาง  มันก็ยังไม่ตาย
 “นี่คืออสูรรบขนาดยักษ์  ร่างของมันคือทุกอย่าง  เจ้าสามารถทำให้มันตายได้ช้าๆ  แต่ก็เหนื่อยมาก  ถ้าไม่มีวิธีการพิเศษเฉพาะ วิธีที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงมัน  คุณชาย!  เจ้ามีความเห็นยังไงกับการสู้กับอสูรรบขนาดยักษ์?”  นางเซียนหงส์ฟ้าเห็นเย่ว์หยางกอดอี้หนานจึงรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย  สายฟ้าของนางถูกสาวน้อยผู้นี้ขโมย ถ้าเย่ว์หยางไม่กันนางจากการต่อสู้ ด้วยพลังของนางและนางพญาซัคคิวบัสร่วมรบกัน พลังของนางคงไม่สามารถเอาชนะอีกาผู้มีชีวิตมาหลายหมื่นปีได้
 “วิธีที่ดีที่สุดก็คือหาอสูรรบตัวใหญ่กว่า”  เย่ว์หยางยิ้ม  “เมื่อเราไปแดนสวรรค์ในอนาคต ค่อยคิดหาทางกัน  เราจำเป็นต้องได้อสูรรบดีๆ  แล้วให้ทุกคนทำสัญญาคนละหลายตัว”
 “ความปรารถนาของเจ้าช่างง่ายดายสวยหรูจริงนะ”  เมื่อเย่ว์หวี่ได้ยินเช่นนี้นางยิ้ม  เรื่องนี้ไม่ง่ายจริงๆ
 “ถ้าเราไม่สามารถหาอสูรรบที่ใหญ่กว่าได้  เราสามารถปล้นจากคนอื่นได้ เหมือนกับที่ปล้นมาจากหย่งฮุยไงเล่า”
ทุกคนมองเขาอย่างดูถูก  มีเพียงเย่ว์ปิงที่รู้สึกว่าพี่ชายนางมีพลังยิ่งใหญ่ นางชูมือสนับสนุนพี่ชายนางเต็มที่
 “อะไรคือข้อดีข้อด้อยของกาทองสามขา?  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถามคำถามที่สำคัญที่สุด  บรรดาอสูรรบมากมายของอีกาเฒ่าผู้นี้  แม้ว่าปีศาจหน้าเห็ด, แมลงปอแดง,  พุ่มเพลิง, แมลงดูดพลัง, แมงกะพรุนฟองน้ำและจ้าวปลาดุกจะมีพลังแตกต่างกัน  แต่พวกมันไม่อาจเทียบได้กับกาทองสามขา มันสามารถสู้พวกเขาได้ทั้งหมด
 “กาทองสามขาแทบจะไม่มีจุดอ่อนเลย  มันทรงพลังมาก แม้แต่ในแดนสวรรค์ ก็คงมีอสูรรบไม่มากที่มีพลังอยู่เหนือมัน  อย่างไรก็ตามอีกาเองคือจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุด เขาสูญเสียร่างกายของเขาไปแล้วและไม่มีความแข็งแกร่งเท่ากับกาทองสามขา  ถ้าเขาพบกับศัตรูในระดับเดียวกับเขาเอง  เขาจะถูกฆ่าได้อย่างง่ายดาย  ถ้าเป็นข้าการสู้กับกาทองสามขาเป็นเรื่องไร้สาระ  การฆ่าอีกาเป็นวิธีที่ดีที่สุด  จุดได้เปรียบของกาทองสามขาก็คือเปลี่ยนตนเองเป็นดวงอาทิตย์สามดวง  เว้นแต่ทั้งหมดจะถูกฆ่า  มันสามารถฟื้นฟูได้อีกตราบเท่าที่ยังเหลือร่างหนึ่ง  จุดอ่อนก็คือกำหนดเวลา  ข้าเชื่อว่ากาทองสามขาจะมีจุดอ่อนอยู่ช่วงเวลาหนึ่งหลังจากแปลงร่างแล้ว  ถ้าสนามพลังหรือสมบัติของใครบางคนสามารถควบคุมเวลาในสนามพลังได้  อย่างนั้นกาทองสามขาจะต้องลำบากทันทีที่มันแปลงร่าง  ถ้ากาทองสามขาแปลงร่างเป็นคนและโจมตีในระยะไกล  มันมีวิธีโจมตีอย่างเดียวสายเพลิงลอยลม  ภูตกระจกสะท้อนสามารถต้านทานพลังโจมตีนี้ได้   พวกเจ้ายังไม่สามารถรับมือกาทองสามขานี้  ไม่ต้องเป็นห่วง  แค่ปีศาจหน้าเห็ดก่อน”  เย่ว์หยางยังคงรู้ว่าทุกคนจะประเมินพลังของพวกเขา  แม้แต่พลังอาญาฟ้าของนางเซียนหงส์ฟ้าก็ไม่สามารถสู้ได้
 “ข้าอิจฉาภูตกระจกของพี่อี้หนานจริงๆ  ยอดเยี่ยมมาก”  เย่ว์ปิงระลึกถึงพลังทำลายล้างของเปลวเพลิงลอยลมที่ถูกสะท้อนด้วยพลังภูตกระจกของอี้หนาน  เวลานั้นบุรุษโครงกระดูกและอีกาก็ยังตกใจไปด้วย”
 “เจ้าสามารถทำได้ในอนาคต  ฝึกให้หนัก”  เย่ว์หยางบอกน้องสาวและลูบศีรษะนาง
เย่ว์ปิงและอี้หนาน ทั้งคู่เติบโตในเส้นทางที่แตกต่างกัน
เมื่อเย่ว์หยางเติบโตก้าวหน้าในอนาคต  อาจเป็นเรื่องยากที่นางจะสู้กับกาทองสามขา  แต่เมื่อสู้กับอสูรรบอื่น  นางจะไร้เทียมทานด้วยพญาไม้ไตตัน
อี้หนานที่แกล้งทำเป็นหลับอยู่ในอ้อมแขนของเย่ว์หยางได้ยินคนอื่นชื่นชมนางและเย่ว์หยางยกตัวอย่างนางเพื่อให้กำลังใจเย่ว์ปิง นางรู้สึกทั้งภูมิใจและดีใจ  ในที่สุดนางก็สามารถกลายเป็นผู้ช่วยเขาได้ น่าเสียดายที่ยังไม่พอ  ถ้าการฝึกปรือของนางอยู่ในระดับสูง  อย่างนั้นนางคงไม่กระอักโลหิตและหมดสติในอ้อมแขนเขาหลังจากโจมตีไปครั้งเดียว
อี้หนานลอบรวบรวมความกล้าของนาง
นางต้องแข็งแกร่งขึ้น และเป็นแขนให้เขาเหมือนกับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
นางรู้ว่าถ้าเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสู้ผลลัพธ์อาจจะดีกว่า  พวกนางเพียงแต่ซ่อนพลังไว้ชั่วคราวรอโอกาสที่เหมาะสม  ถ้าการหลอมรวมร่างของนางสามารถช่วยเย่ว์หยางได้เหมือนของพวกนาง  นางเชื่อว่าเย่ว์หยางจะก้าวหน้าได้อย่างมากมาย  และพลังต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งมากขึ้น
พวกเขาทุกคนมีผลพลอยได้ที่แตกต่างกันหลังจากแลกเปลี่ยนความรับรู้ซึ่งกันและกัน
ไห่อิงอู่และสาวขี้เมาที่ยังมีระดับพลังที่ต่ำดีใจและอดทนมากขึ้น ต้องการฝึกปรือและก้าวหน้า
นางเซียนหงส์ฟ้าและเสวี่ยอู๋เสียต้องการอยู่ต่อและคุยเรื่องความรู้ในระดับลึกขึ้นกับเย่ว์หยางหวังว่าพวกนางจะก้าวหน้าไปสู่ระดับที่สูงขึ้น  พวกนางรู้ว่าเย่ว์หยางได้รับความรู้มากที่สุด
สามชั่วโมงต่อมา สาวๆ ทุกคนก็เหนื่อย
ก่อนจะไปพักเสวี่ยอู๋เสียแนะนำทันที  พรุ่งนี้เป็นวันดี ทำไมเราไม่ให้อี้หนานได้รับการชดเชยบ้างเล่า?  ดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวแดนสวรรค์ของนางจะถูกถ่วงช้าไปเพราะกลุ่มโจรตัวตลก  เนื่องจากต้องต่อสู้ไม่หยุดหย่อน  การท่องเที่ยวก็เลยจบเร็ว เราย่นเวลาให้เร็วขึ้น พวกท่านคิดว่ายังไง?”
 “ภรรยาหลวงเอ่ยปาก, นายหญิงรองๆ อย่างข้าจะไม่เห็นด้วยได้ยังไง?”  นางเซียนหงส์ฟ้ายิ้ม
 “ตกลงตามนั้น!”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวพยักหน้าเห็นด้วย
อี้หนานจู่ๆ ได้ยินข่าวดีและซุกตัวในอ้อมอกเย่ว์หยางไม่กล้ามอง  ตอนนี้นางค่อยรู้ตัวว่าพวกนางรู้แล้วว่านางฟื้นแล้ว
พรุ่งนี้นางจะเป็นเจ้าสาวของเขา
อี้หนานรู้สึกมีความสุขและทั้งอาย  ทั้งกังวลและดื่มด่ำใจ
อย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่นางมองหาไม่ใช่หรือ?  เจ้าเมืองโล่วฮัวและอู๋เหินก็อยู่ที่นี่  แสดงความกล้าของเจ้าหน่อย!  อี้หนานขดตัวอยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยางให้กำลังใจตนเอง

10 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เเน่นวล..เสร็จเเน่นวล

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ยามศึกเรารบ ยามสงบเรารัก

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

อิจฉา ดูๆแล้วฮุยไทหลางจะเก่งเกินหน้าเกินตานะ มันเป็นได้ทั้งอสูรธาตุเฉพาะทั้งธาตุหยาบ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณรับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ฮุยไทหล่างแมมม มาไกลมาก

Unknown กล่าวว่า...

พูดถึงอู่เหินข้าไม่เห็นนางเลยหายไปไหนละ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

ฮี่ฮี่ ได้เวลานั้นแล้วสินะ :3
เวลาที่จะได้เป็นผู้หญิงของเย่ว์หยางอย่างสมบูรณ์~

แสดงความคิดเห็น