วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 940 มาสู้กัน


ตอนที่  940  มาสู้กัน
ตู้เค่อชื่นชมและศึกษาลำแสงลงทัณฑ์  เขาสนใจระบบของวิหารมาก  เขาไม่มีขุนพลวิญญาณ และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา  แต่แนวคิดและการประยุกต์ที่อยู่เบื้องหลังทำให้เขาสนใจสำรวจ  ลำแสงลงทัณฑ์ถูกสร้างมาจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและเติบใหญ่มาก และจากหลายๆ ที่เขาสามารถเห็นร่องรอยของการเสริมประสิทธิภาพ

จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือให้ความเคารพตู้เค่อมากอยู่แล้ว  ช่วงเวลาวิกฤติอย่างนั้นเขายังคงดื่มด่ำอยู่กับการค้นคว้า  กรอบความคิดดังกล่าวเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถแข่งขันได้  พวกเขาทุกคนกังวลต่อการต่อสู้ขั้นเด็ดขาดมากกว่า
ศัตรูของพวกเขาทรงพลังมากจนทำให้พวกเขาสิ้นหวัง
พลังต่อสู้ของวิหารแข็งแกร่งที่สุดในทั่วทั้งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  นอกจากนี้ประมุขผู้อาวุโสยังใช้เวลาถึงสองสามทศวรรษวางแผนและสร้างขึ้นมา  การใช้ทวีปเซียนทั้งหมดเป็นเครื่องมือ  เขาสร้างพื้นฐานที่ทรงพลังขนาดนั้นไว้
ตระกูลชั้นสูงที่ทรงอำนาจได้พังทลายไปก่อนหน้าที่ประมุขผู้อาวุโสจะปรากฏตัวเองเสียอีก โดยยังไม่ต้องใช้รูปแบบใด ซาดราและประมุขตระกูลอื่นที่จี๋เจ๋อและพวกมองเห็นดูหดหู่ท้อแท้  พวกเขาทุกคนเคยเป็นผู้นำตระกูลที่ทรงอำนาจและมั่งคั่ง พวกเขาตอนนี้ถูกใช้งานอย่างเหน็ดเหนื่อย
วิหารยังคงอยู่แต่ในนาม  ประมุขผู้อาวุโสผู้ได้รับการยกย่องว่าทรงพลังที่สุดดูดเลือดดูดชีวิตทั้งหมดในวิหารและเลือดของทวีปเซียน เป็นการวางแผนที่ทรงประสิทธิภาพ แผนการที่อยู่เหนือผู้ใดในประวัติศาสตร์
ไม่ต้องคำนึงว่าการเป็นผู้อาวุโสหรือการวางแผนข่มผู้อื่นจนจมอยู่ในความสิ้นหวัง  พวกเขาเป็นทุกอย่างเกินกว่าจี๋เจ๋อและพวกอื่นๆ จะมีขีดจำกัดในการเข้าใจได้  สำหรับพวกเขานี่เป็นเกมที่แตกต่างและความยากลำบากและความรุนแรงของการรบที่จะตามมาทำให้ใจพวกเขากังวล
ตู้เค่อทำเป็นไม่สนใจมากขึ้น  เขาเป็นคนที่มีฝีมืออยู่ระดับสูงไปแล้ว  และสภาพใจของเขามีความชัดเจนและผ่านการทดสอบมากมากกว่าพวกเขา  ยิ่งมีระดับที่สูงก็ยิ่งยากจะพัฒนาและก้าวหน้า นี่เป็นเรื่องแท้จริงของโลก และไม่สำคัญว่าใครจะยืนหยัดได้อย่างไร เมื่อไม่มีกำลังใจที่ดี เขาจะไม่มีทางบรรลุระดับพลังนั้นได้
ตู้เค่อมองโลกในแง่ดีมากขึ้น  แม้ว่าการสู้รบที่จะมาถึงจะไม่ง่ายอย่างแน่นอน  ตราบใดที่พวกเขาชนะ จะไม่มีใครในดาราจักเซียนศักดิ์สิทธิ์สามารถหยุดพวกเขาได้
ทั่วทั้งทวีปกวงหมิงจะตกเป็นของถังเทียน การควบคุมของเขาอยู่เหนือโลกจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถเขย่าบัลลังก์เขาได้  เพิ่มทั้งแดนบาปและสวรรค์วิถียิ่งมีข้อได้เปรียบ  ตู้เค่อเชื่อว่าไม่มีใครสามารถหยุดถังเทียนได้จากการรวมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
สำหรับแดนบาปของเขาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสามารถเกิดขึ้นกับพวกเขาได้  พวกเขามีสถานที่ให้อยู่อาศัยมากขึ้น และสามารถกลับมายังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายซึมซับความรู้ได้
แต่ถ้าประมุขผู้อาวุโสชนะ ก็อาจเป็นหายนะสำหรับแดนบาป  ความแตกต่างจากพลังงานรังสีเก่า  เพลิงศักดิ์สิทธิ์ทองจะเข้ามาจำกัดสภาพแวดล้อมของแดนบาป  และจะเป็นอันตรายต่อกฎธรรมชติ  ถ้าประมุขผู้อาวุโสชนะ อัศวินกวงหมิงจะต้องทำลายแดนบาปแน่นอน  ถ้าประมุขผู้อาวุโสสามารถลงมือต่อพลเมืองทวีปเซียนได้  ตู้เค่อไม่เชื่อว่าประมุขผู้อาวุโสจะยอมปล่อยคนแดนบาปไป
ตู้เค่อตัดสินใจทุ่มชีวิตของเขาต่อสู้แน่นอน
ทันใดนั้น เขาหยุดการเคลื่อนไหวของเขาและหันไปมองรอบๆ  เขาเห็นวังวนพายุกระบี่มหึมาในท้องฟ้า
พัฒนาการของวังวนพายุหมุนกระบี่ช้าลง  แม้ว่าจะมีความแตกต่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแต่ก่อน  แต่ตู้เค่อสามารถรู้สึกได้ เมื่อสังเกตการเคลื่อนไหวของตู้เค่อ ทำคนหยุดกิจกรรมที่พวกเขากำลังกระทำและมองดูวังวนพายุกระบี่
ปัง!
โดยไม่มีสัญญาณบ่งบอก  วังวนพายุกระบี่ขนาดมหึมาพังทลายเหมือนภูเขาหิมะถล่ม
พายุหมุนพังทลายกลายเป็นกระแสพลังสีเทาปกคลุมไปทั่วทุกตำแหน่ง
หน้าของทุกคนเปลี่ยน และโดยไม่ลังเลใจ พวกเขาหันหลังวิ่งไม่คิดชีวิต
ชี่ ชี่ ชี่!
ภายในกระแสพลังจะมีรังสีกระบี่นับไม่ถ้วนแฝงมาด้วย  เสียงหัวใจเต้นและเสียวหวีดหวิวภายในพายุรุนแรงทำให้โลกถึงกับเปลี่ยนสี
ปัง ปัง ปัง!
เสียงระเบิดรุนแรงเกิดขึ้นตามมาเป็นระลอก  ทุกคนวิ่งเอาชีวิตรอดสามารถรู้สึกได้พื้นใต้เท้าของพวกเขาสั่นสะเทือน และพวกเขาหลายคนแทบล้มลง  ทุกคนหันหลังไปดูโดยไม่รู้ตัว  และภาพที่เขาเขาเห็นเป็นภาพตระการตา 
เสาลำแสงลงทัณฑ์ที่สง่างามพังทลายพร้อมกับเสียงดังปัง และคลื่นเพลิงศักดิ์สิทธิ์ถล่มลงเหมือนกับเหล็กที่หลอมละลาย และยังทำให้ม่านของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้าสั่นสะเทือน
ทุกคนตกตะลึง รวมทั้งตู้เค่อ  เขาศึกษาลำแสงลงทัฑณ์และรู้ว่ามันแข็งขนาดไหน  ลำแสงลงทัณฑ์หลายร้อยและม่านเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของระบบที่ทนทาน
เพราะว่าหนึ่งในลำแสงถูกทำลายโดยวงวนพายุกระบี่ได้แสดงให้เห็นว่าวังวนพายุกระบี่นั้นทรงพลังรุนแรงเพียงไหน
ทันใดนั้นตู้เค่อสำนึกเสียใจทันที  ทำไมข้ามัวแต่ศึกษาลำแสง?  ข้าควรจะศึกษาวังวนพายุหมุนกระบี่!  ข้าผิดไปแล้ว  ผิดไปแล้ว...
เมืองหิมะเหลือแต่ซากปรักหักพัง มันถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงราวกับว่าถูกเท้ายักษ์ย่ำเมืองหิมะพังราบ ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดที่เหลืออยู่
อาซิ่นและพวกที่เหลือยืนอยู่ในซากหักพังอย่างงงงวย และไม่แน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
**************

เมื่อขุนพลวิญญาณตนสุดท้ายเดินออกมาจากรังไหมสีแดง ประมุขผู้อาวุยังคงสงบ  สำหรับเขา แผนการของเขาสมบูรณ์แบบเกินพอ  และขั้นตอนทั้งหมดสำเร็จแล้ว  แม้แต่เพลิงศักดิ์สิทธิ์ กองทัพขุนพลวิญญาณที่เขาวางแผนทั้งที่เป็นแผนการฉุกเฉินก็สำเร็จ
ไม่มีใครหยุดเขาได้
ขณะนั้น ม่านเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้าสั่นสะเทือนทันที
หน้าของประมุขผู้อาวุโสพลันเย็นชา  ใครบางคนทำลายหนึ่งในลำแสงลงทัณฑ์ได้!’  เขาคิดถึงคนที่สอดแนมเขาก่อนหน้านั้น  ก่อนหน้านั้นเขาพยายามคิดหาวิธีกำหนดตำแหน่งของอีกฝ่าย  แต่เขาไม่คาดเลยว่าอีกฝ่ายจะปกปิดตำแหน่งไว้ได้  ตราบใดที่เขาตรวจสอบเจอว่าเป็นลำแสงลงทัณฑ์ตรงไหนที่ถูกทำลายไป เขาจะหาตัวพวกเขาพบได้แน่
ในช่วงเวลาสั้น กองพลขุนพลวิญญาณเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็ตั้งขบวนของพวกเขาได้สมบูรณ์  โซเฟียยืนอยู่ด้านหน้า  ด้านหลังนางเป็นอัศวินกวงหมิงสิบสามคน  และด้านหลังพวกเขาเป็นกองทัพขนาดใหญ่นับจำนวนไม่ถ้วน
ภายในตัวขุนพลวิญญาณทุกตนจะมีรอยประทับแสงสว่าง ซึ่งผู้นำทหารสามารถใช้ให้คำแนะนำกับขุนพลวิญญาณ  ขุนพลวิญญาณทั้งหมดกำเนิดจากผู้รอดชีวิตที่ผ่านการบำรุงเลี้ยงด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์  พลังส่วนตัวของพวกเขามีคุณภาพก้าวกระโดดและพลังต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อน
ในการเผชิญกับความแข็งแกร่งที่เด็ดขาด  แผนการทุกอย่างล้วนแต่ไร้ประโยชน์
ประมุขผู้อาวุโสยังคงสงบ  ใช้วิหารเป็นสนามรบใหญ่  ใครจะหยุดคลื่นพลังไร้เทียมทานนี้ได้?
 “เรามาเริ่มกัน”
เขาพูดอย่างเฉยเมย  ฝ่ามือของเขาสัมผัสบนลำแสงลงทัณฑ์ ซึ่งเป็นเหตุให้สั่นสะเทือน  ในต่อหน้าความมุ่งมั่น พลังความเชื่อมั่นที่กว้างไกล ลำแสงเพลิงเริ่มลอยขึ้นกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์จากด้านบน และเหมือนกับเทียนที่หลอมละลาย
ในเวลารวดเร็ว ลำแสงเพลิงทองที่พุ่งขึ้นเมฆเปลี่ยนเป็นลูกบอลสีทองรัศมีหนึ่งกิโลเมตร
บอลไฟดูเหมือนกับว่าสร้างจากมือที่มองไม่เห็น และแตกตัวเริ่มก่อรูปเป็นประตูเพลิงสีทอง
เพลิงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนจากทุกตำแหน่ง  ประตูเพลิงปลดปล่อยแสงทอง ทำให้ทุกคนไม่สามารถเห็น  ภายในลำแสงทอง ประตูค่อยๆ เปิดออก เหมือนกับว่ามีความรู้สึกหนักที่ประตู  ทั่วทั้งทวีปเซียนเริ่มสั่นสะเทือน ลำแสงลงทัณฑ์ทั้งหมดสั่นสะเทือน  และแม้แต่ม่านฟ้าที่ลุกไปด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้า ก็ยังสั่นสะเทือนได้
ถังเทียนและพวกเพิ่งจะหลุดออกมาจากพายุรังสีกระบี่กระโดดออกมาด้วยความตกใจสีหน้าเปลี่ยนทันที
พวกเขารู้สึกว่าทั่วทั้งทวีปเซียนกำลังสั่นสะเทือน
 “เตรียมตัวรบ!” ถังเทียนมีความรู้สึกแรกที่ผิดปกติ  และร้องเตือนทุกคนทันที
หลายคนยังคงอยู่ในอาการมึนงงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่สหายร่วมงานที่คุ้นเคยกับถังเทียนและเชื่อใจเขาตั้งตัวได้อย่างรวดเร็ว และมาปรากฏตัวข้างถังเทียน
เสี่ยวม่านที่ยังคงอยู่ในอาการมึนงงฟื้นตัวทันที  “ปกป้องคุณหนู!
ขุนพลวิญญาณฝ่ายนางเกิดใหม่ทั้งหมด  พวกเขาเป็นเหมือนเทพอสูร 120 ตน ทั้งหมดเปล่งรังสีอำมหิตที่ทรงพลังจนแทบจะทำให้อากาศโดยรอบแช่แข็ง  อากาศรอบตัวพวกเขากระพริบประกาย  และทุกคนที่ปรากฏตัวข้างเชียนฮุ่ยอยู่ในท่าที่สงบ
แต่อาซิ่นดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินคำเตือนของถังเทียน  เขาจ้องมองกระบี่อมตะอย่างว่างเปล่า
ขณะนั้นเอง เพลิงศักดิ์สิทธิ์เหนือตัวพวกเขาเริ่มปั่นป่วน และชั้นเพลิงศักดิ์สิทธิ์เริ่มมาบรรจบกัน ในพริบตา ดูราวกับว่าดวงอาทิตย์ก่อตัวอยู่เหนือท้องฟ้า  เพลิงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนควบแน่นเป็นบอลเพลิงแสง
บอลเพลิงแสงสีทองเปลี่ยนแปลงขนาดขยายกลายเป็นรูปประตูได้เร็วอย่างน่าทึ่ง
ประตูค่อยๆ เปิดออก และแสงสีทองอบอุ่นและบริสุทธิ์ฉายออกมา
ร่างหนึ่งที่คลุมตัวด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์เดินออกมาจากประตู
แม้ว่าร่างนั้นจะมีเปลวเพลิงคลุมไปทั้งตัว  ถังเทียนก็ยังจำได้และระบุตัวบุคคลได้ทันที  เขาหรี่ตา “โซเฟีย!
โซเฟียได้ยินถังเทียนตะโกนเรียกชื่อนาง  และเหลือบมองมาทางเขาวูบหนึ่ง และรั้งสายตากลับ
เสียงฝีเท้าเป็นจังหวะพร้อมเพรียงได้ยินจากด้านหลังประตูแสง  ขณะที่ขุนพลวิญญาณกรูกันออกมาจากประตู
จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือพากันตะลึงทุกคน  และมีเพียงถังเทียนที่ยังสงบ เขาได้เห็นการกำเนิดของขุนพลวิญญาณแล้ว  เขาเห็นซาดราและประมุขตระกูลอื่นพากันตกตะลึง และรู้ว่าพวกเขาสูญเสียความกล้าจะต่อสู้อย่างสิ้นเชิง  แม้ว่าจะสามารถทำได้  แต่พลังของพวกเขาไม่สามารถช่วยในการรบได้  และถังเทียนจะไม่ต้องดูแลพวกเขา  เขาสั่งจี๋เจ๋อให้อนุญาตซาดราและพวกที่เหลือพาครอบครัวพร้อมกับกลุ่มการค้าตระกูลเมซฟิลด์ถอยออกไปจากสนามรบ
หลังจากเห็นแล้วซาดราและพวกถอนหายใจโล่งอกและรีบถอยหนีออกไป  ถังเทียนรั้งสายตากลับ
พวกเขาอยู่ในการสู้รบที่รุนแรงที่ต้องตัดสินชะตากัน นอกจากฝ่ายหนึ่งตาย จะไม่มีการจบสิ้นการสู้รบได้
โซเฟียมองตู้เค่อในท้องฟ้า เนื่องจากคนที่สามารถบินจากฝ่ายศัตรูได้  เขาก็ต้องเป็นคนที่โดดเด่นมาก  ตู้เค่อรู้สึกได้ถึงสายตาจ้องมองของโซเฟีย  หัวใจของเขาเย็นยะเยือกทันที  ความแข็งแกร่งของขุนพลวิญญาณสตรีทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายรุนแรง
ตอนเริ่มแรก เมื่อขุนพลวิญญาณฝ่ายเชียนฮุ่ยเห็นว่าศัตรูเป็นขุนพลวิญญาณเหมือนกัน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยอาการเหยียดหยาม  แต่ขณะที่พวกเขาออกมาเพิ่มขึ้นทุกทีจากในประตู สีหน้าพวกเขากลายเป็นเคร่งเครียด
ขุนพลวิญญาณจำนวนหนาแน่นลอยออกมาจากท้องฟ้า  รัศมีของพวกเขาที่สร้างขึ้นต่อเนื่องทำให้รู้สึกราวกับมีภูเขากดดันใส่พวกเขา
และเมื่อสิบสามขุนพลวิญญาณก้าวออกมาเป็นแถว รัศมีรอบตัวพวกเขาแข็งแกร่งมากและรุนแรงจนรู้สึกได้ว่าพวกเขากลายเป็นมีตัวตน สีหน้าพวกเขายิ่งเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ประมุขผู้อาวุโสเดินออกจากประตูเป็นคนสุดท้าย
เมื่อเขาปรากฏตัวพลังที่ปรากฏได้ครอบคลุมสนามรบทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นขุนพลวิญญาณข้างฝ่ายเชียนฮุ่ยที่ดูคล้ายกับเทพอสูร หรือกองทัพขุนพลวิญญาณเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมดดูเหมือนมดที่อยู่ใต้เท้าเขา พวกเขาทั้งหมดไม่โดดเด่นไม่มีความสำคัญ

7 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

ตอนหน้าฟาดปากกันแน่นอน ลุ้นๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

WingF กล่าวว่า...

ดูประกบคู่กันแล้ว พี่ถังกับประมุข เชี่ยนหุยกับอัศวิน พี่ตู๋กับโซเฟีย อาซิ้นกับกองทัพ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

แสดงความคิดเห็น