วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 658 ยกระดับตะวันฉายทานตะวัน


ตอนที่  658  ยกระดับตะวันฉายทานตะวัน
เมื่ออี้หนานตื่นขึ้นก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงวัน
ทันใดนั้นนางจำได้ทันทีถึงสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่บอกนางไว้ว่าเจ้าสาวควรจะปรุงอาหารให้สามีเป็นการแสดงถึงความรักและการให้เกียรติ  นางเร่งรีบ  แต่เมื่อนางขยับขา ร่างที่อ่อนนุ่มของนางรู้สึกเจ็บอีกครั้ง นางอดร้องออกมาไม่ได้  เจ้าเมืองโล่วฮัวกำลังนั่งอยู่หน้าเตียงรีบยื่นมือประคองอี้หนาน “นอนลงและอยู่นิ่งๆ ไว้”

 “เสื้อผ้าข้าอยู่ไหน?”  ถึงตอนนี้อี้หนานจึงรู้ว่านางยังเปลือยกายอยู่  นางรีบซ่อนตัวกลับเข้าไปในผ้าห่มนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  นางกลัวและไม่กล้าสบตาเจ้าเมืองโล่วฮัว
 “ไม่ต้องอายหรอก, เจ็บไม่ใช่หรือ?”  เจ้าเมืองโล่วฮัวยิ้มปลอบใจนาง จากนั้นถาม
 “ไม่, ข้าไม่นะ”  อี้หนานรีบส่ายศีรษะ เพื่อแสดงว่านางสบายดี  คิดว่านางยังไม่ฟื้นฟูเรี่ยวแรงทั้งหมด
 “นี่ยังแค่เริ่มต้น  ถ้าเจ้าเริ่มฟื้นฟูก็ดีแล้ว  ร่างกายเจ้ายังไม่อาจแข็งแรงเทียบกับมารกฎฟ้าได้ ไม่อาจเทียบกับไห่หลานได้  อย่าเพิ่งรีบเร่งนักในช่วงวันสองวันนี้  เจ้ายังมีโอกาสต่อมาอีกมาก ตัวร้ายนั่นตะกรุมตะกราม  เขาไม่อิ่มพอใจง่ายๆ หรอกไม่ว่าเจ้าจะให้เขากี่ครั้งก็ตาม  ดังนั้นอย่าเพิ่งให้ความสนใจเขา  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเจ้าเอง  ข้าจะดูแลให้เองและไม่ต้องใส่ใจเขา  ถ้าเขากล้ารังแกเจ้า  ข้าจะดุเขาเอง!  เจ้าเมืองโล่วฮัวยื่นมือนางออกมาจัดผมที่ติดแก้มให้อี้หนาน และสอนประสบการณ์ให้นาง
 “ไม่นะ, เขาสุภาพ นุ่มนวล”  อี้หนานกลัวว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวจะต่อว่าเย่ว์หยางจึงรีบพูดถึงเขาในแง่ดี
 “เมื่อวานนี้ก้าวหน้าใช่ไหม?”  เจ้าเมืองโล่วฮัวถาม
 “ใช่” อี้หนานพยักหน้าอย่างเอียงอายและดีใจ  หลังจากฝึกผสานกายขั้นสุดท้าย ระดับพลังของนางเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า  และนางไม่คาดเลยว่านางจะก้าวหน้าขนาดนั้นหลังจากฝึกผสานกายจริงๆ
 “เจ้าฝึกต่อไป เจ้าก็จะยิ่งเพิ่มพลังได้อีก  เจ้าฝึกนานกว่าข้า ดังนั้นความก้าวหน้าของเจ้าเมื่อคืนก็ยังจะก้าวหน้ามากกว่าข้า  มิน่าเล่าเชี่ยนเชี่ยนกับอู๋เสียจึงยังฝึกอยู่  ข้าเป็นของเขาเร็วเกินไปหน่อย”  แน่นอนว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวแค่กำลังหยอกล้อ  นี่เป็นวิธีทำให้อี้หนานผ่อนคลาย  ความจริงเจ้าเมืองโล่วฮัวรู้ว่าถ้าไม่ใช่เป็นเพราะจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีต้องการให้เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรักษาความบริสุทธิ์ไว้  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคงไม่พ้นมือเย่ว์หยางแล้ว  นางรู้ว่าแม่เสือสาวดุต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น  พออยู่กับเย่ว์หยางตามลำพังนางคงยอมรับแน่
 “ไม่สำคัญว่าข้าจะยกระดับได้หรือไม่  ตราบเท่าที่สามารถช่วยเขาได้”  อี้หนานคิดถึงแต่เย่ว์หยางไม่ได้คิดถึงตัวนางเอง
เมื่อเจ้าเมืองโล่วได้ยินเช่นกัน  นางยิ้มอ่อนโยน
พวกนางทุกคนคิดเหมือนกัน แต่พูดไม่เหมือนกัน
หลังจากพูดคุยสนทนาการอยู่นาน เจ้าเมืองโล่วฮัวลอบถ่ายทอดเคล็ดลับให้อี้หนาน  นางบอกว่านางสามารถทำได้หลังจากผสานร่างกับเย่ว์หยางแล้ว  เคล็ดลับนี้ไม่คล้ายกับสนามพลังจิต  แต่มีความลึกซึ้งมาก  และทำได้หลังจากผสานกายกับเย่ว์หยางแล้วจะให้ผลที่ชัดเจน
ตามคำที่เจ้าเมืองโล่วฮัวกล่าว แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียก็ไม่รู้เคล็ดลับนี้ มีแต่อู๋เหิน มารกฎฟ้าและไห่หลานเท่านั้นที่รู้
ดังนั้นอี้หนานได้แต่ถามอย่างสงสัย  ใครเป็นคนสอนเคล็ดลับนี้
เจ้าเมืองโล่วฮัวส่ายหน้าเป็นนัย
เมื่อนางออกมาแล้ว อี้หนานรีบลุกขึ้นทนฝืนเจ็บสวมเสื้อผ้า
ไม่นานหลังจากนั้นเย่ว์ปิงก็เข้ามาถือถ้วยแกงเข้ามาอย่างระมัดระวัง  “พี่อี้หนาน นี่พี่สามทำเป็นพิเศษให้ท่าน นางหยุดเล็กน้อยจากนั้นพูดต่อ  “ข้ากับซวงเอ๋อแอบชิมไปก่อนแล้ว  เราไม่รู้ว่าเตรียมไว้ให้ท่าน”
 “อะไรกันนี่? ให้ข้าล้างหน้าตาก่อน”  อี้หนานรู้สึกดีขึ้น
นางไม่ถือสาว่าเย่ว์ปิงและเย่ว์ซวงจะชิมไปก่อน เมื่อคิดว่าพวกนางเข้าใจผิดเชื่อว่าพี่ชายนางปรุงให้พวกเขานางโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่เย่ว์หยางทำด้วยตนเอง  อย่างนั้นก็พอแล้ว
สิ่งนี้จะต้องทำมาจากใจของเขา
สำหรับรสชาติจะเป็นยังไงไม่สำคัญ
หลังจากดื่มน้ำซุปแล้ว อี้หนานรู้สึกว่านางเต็มไปด้วยความสุขและความหวานชื่นใจ  นางรู้สึกมีเรี่ยวแรง ใบหน้าเปล่งปลั่ง เย่ว์ปิงประหลาดใจเล็กน้อย  “พี่อี้หนาน เอ่อ.. ต้องเป็นพี่สะใภ้สินะ  หน้าของท่านดูเหมือนจะมีเสน่ห์มากนะในวันนี้  ระดับความก้าวหน้าของท่านรวดเร็วอีกแล้ว”  เย่ว์ปิงไม่คิดว่าเป็นผลมาจากอี้หนานกับเย่ว์หยางผสานกายกัน  นางคิดว่าเป็นเพราะอี้หนานฝึกฝนจนพลังฝึกปรือเพิ่มขึ้น
อี้หนานตระหนักว่านางเข้าใจผิด  นางอดรู้สึกสุขใจไม่ได้  “พี่ชายเจ้าอยู่ไหนแล้ว?”
เย่ว์ปิงชี้ไปที่ข้างนอก  “เขาอยู่ข้างนอกกำลังช่วยให้เหล่าอสูรรบเลื่อนระดับชั้น โดยใช้เพลิงบัวสวรรค์ปรับแต่งตะวันฉายทานตะวัน  ไปดูกันเถอะ!
เพื่อกลบเกลื่อนความขัดเขินระหว่างเดิน อี้หนานฉุดดึงแขนเย่ว์ปิงและเดินออกไป  ในท้องฟ้าระยะไกล  ตะวันฉายทานตะวันกำลังเปล่งแสงเจิดจ้า  ยังสว่างกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก  ในระยะไกลออกไป เย่คง เจ้าอ้วนไห่ เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวพากันมองดูทุกคน พวกเขามองดูว่าเย่ว์หยางจะยกระดับตะวันฉายทานตะวันได้ยังไง และเพื่อซึมซับประสบการณ์เพิ่มระดับอสูรรบ
เย่ว์หยางมีความสามารถทางพลังหยางเปลี่ยนท้องฟ้าให้เป็นโลกของบัวเพลิงฟ้า
บัวเพลิงฟ้าสีแดงนับพันลอยอยู่ในอากาศ
หลังจากฝึกปรือร่วมกับอี้หนานเมื่อคืนก่อน เขาได้รับผลพลอยได้ถึงสองอย่างทั้งพลังฝึกปรือและพลังงาน  ความก้าวหน้าของเขามากกว่าอี้หนานอย่างเห็นได้ชัด  เขารุดหน้าไปเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้า จากเดิมระดับแปด  การเลื่อนระดับพลังครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเลื่อนระดับพลังง่ายๆ  รู้กันอยู่แล้วว่าพลังปราณก่อกำเนิดระดับแปดนี้ของเขา  เทียบเท่ากับคนที่มีพลังปราณฟ้าระดับสาม  การยกระดับของเขาจึงเท่ากับยกระดับพลังปราณฟ้าระดับสามไปเป็นระดับสี่ และที่ก้าวหน้ามากที่สุดก็คือทุกครั้งที่เย่ว์หยางเพิ่มพลัง  ทักษะแฝงเร้นธรรมชาติและอสูรรบของเขา  ก็เพิ่มพลังในระดับที่ต่างๆ กันไป
ด้วยผลของการผสานกายกับอี้หนาน และผลของการเปิดผนึกความรู้ที่ได้รับตกทอดจากมารดาของสหายผู้น่าสงสาร
แม้แต่เจ้าเมืองโล่วฮัวและอู๋เหินก็มีเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามกลับได้ผลการฝึกปรือที่ดีที่สุดเมื่อฝึกผสานร่างกับอี้หนาน
ถ้าไม่ใช่เพราะสาวน้อยอี้หนานยังเยาว์วัยเกินไปและยังไม่สามารถทนได้  เย่ว์หยางต้องการฝึกต่อให้นานขึ้นและเปิดผนึกความรู้ให้มากขึ้น
เย่ว์หยางผู้มีพลังเพิ่มขึ้นมั่นใจว่าเขาสามารถปรับแต่งตะวันฉายทานตะวันได้  เจ้าเมืองโล่วฮัวเป็นคนโจมตีหลัก  พลังของนางเพิ่มขึ้นมาก  ดังนั้นเย่ว์หยางตัดสินใจยกระดับตะวันฉายทานตะวันที่นางได้รับก่อน
 “ดูเหมือนยังจะเช้าอยู่  กลับไปงีบต่อสักหน่อยเถอะ!  นางเซียนหงส์ฟ้าหาวและกลับไปพักตามที่ตั้งใจ
 “เอาเลยพี่เขย!  มารเคราะห์ฟ้าได้รับโซ่เทพเจ้าสายฟ้าและยืนเชียร์เย่ว์หยางด้วยความตื่นเต้น
สิบนาทีต่อมาหลังจากเย่ว์หยางปรับแต่งด้วยบัวเพลิงสวรรค์  กลับกลายเป็นว่าตะวันฉายทานตะวันยกระดับจากอสูรปราณฟ้าระดับหนึ่งขึ้นเป็นอสูรปราณฟ้าระดับสอง
เทียบกับตะวันฉายทานตะวันที่ไม่มีพลังโจมตีอะไรเลย พลังใหม่ของทานตะวันมีเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งคือ “ตาพร่า”
พลังรุกโจมตีนี้แทบจะทำร้ายใครไม่ได้ แค่ทำให้การมองเห็นของอีกฝ่ายหายไประยะเวลาสั้นๆ
ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์
ความจริงทักษะตาพร่านี้เป็นกุญแจในการพลิกสถานการณ์การต่อสู้ทั้งหมด เมื่อใช้อย่างชาญฉลาด
ถ้ายอดฝีมือคนหนึ่งต่อสู้  อาจจะสร้างความผิดพลาดได้ทันที  และเขาอาจถูกตัดสินชะตาได้
 “แข็งแกร่ง!  เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ที่ยืดคงแหงนมองดูที่ดอกไม้  ทุกคนได้แต่ชูนิ้วโป้งชื่นชมเย่ว์หยาง  ส่วนหลิวเย่และเป่าเอ๋อเทิดทูนบูชาเย่ว์หยางอยู่แล้ว  พวกนางปรบมือร่าเริง  เย่ว์ซวงกำลังกินแตงโมแช่เย็นในมือพยักหน้าหงึกหงัก  เธอทำท่าน่ารักแต่พูดไม่ออก
อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางยังไม่พอใจกับผลที่ออกมา
เขารวมบัวเพลิงสวรรค์เข้ากลุ่มเป็นแสงเพลิงสนธยาและดึงเอาเพลิงน้ำเงินบริสุทธิ์ออกมา  เขาตั้งใจจะผสานกับตะวันฉายทานตะวัน
เขายังคงเพิ่มพลังต่อไป  เขาต้องการเปลี่ยนตะวันฉายทานตะวันเป็นสายพันธุ์แปลกประหลาด  เจ้าอ้วนไห่และเย่คงตะลึง  ถ้าไม่ใช่เป็นเย่ว์หยางและเปลี่ยนเป็นคนอื่น  พวกเขาคงคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว
การเปลี่ยนแปลงของอสูรรบเป็นแค่เปลี่ยนแปลงพัฒนาทีละก้าว นี่จะเปลี่ยนแปลงให้มากเกินกว่านี้อีกหรือ?  ไม่!  ที่เป็นไปไม่ได้มากกว่าก็คือเพลิงสนธยามีพลังตรงกันข้ามกับบัวเพลิงสวรรค์
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป และเย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาเหนื่อยมากกว่าสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเสียอีก  ทำให้เขาใช้ความพยายามครั้งสุดท้าย
ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ  อย่างนั้นก็ต้องเลิกทำ
เป็นไปได้ไหมว่าตะวันฉายทานตะวันมาอยู่ในสภาวะสูงสุดของมันแล้ว?  หรือว่าวันนี้ดวงอาทิตย์แดดจะไม่พอ?
 “ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จ!  เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่รออยู่บนพื้น และคล้องแขนประคองเย่ว์หยางช่วยเสริมพลังของเขาด้วยพลังนาง
ไม่ทราบเป็นเพราะเจ้าเมืองโล่วฮัวหรือว่าแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของเย่ว์หยาง หรือเป็นเพราะตะวันฉายทานตะวันถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในวิวัฒนาการ สามนาทีต่อมาท้องฟ้าค่อยๆ สลัว และเพราะแสงสลัวลงทุกคนจึงสามรถเห็นทานตะวันฉายแสงได้ เหมือนกับดวงอาทิตย์ แต่ไม่มีแสงเจิดจ้า เป็นแต่เหมือนกับพระจันทร์สีทอง สีสันดูนุ่มนวลตา
ในที่สุดแสงก็สลัวลง
แม้รัศมีทรงพลังครอบคลุมไปทั่วภาคพื้น
เหมือนกับว่ามีแต่ทานตะวันเท่านั้นที่เหลืออยู่ต้นเดียวในโลก  ทุกที่ภายใต้แสงของมัน
เมื่อเย่คงและเจ้าอ้วนไห่เห็นว่าทานตะวันเปลี่ยนแปลงไปได้สำเร็จ  โลกก็มืด  เมื่อตะวันฉายทานตะวันกลับกลายเป็นดอกไม้ที่มีแสงเหมือนยามสนธยา แม้แต่ฟ่านหลุนเถี่ยที่ห้าวหาญที่สุดก็ยังมีความรู้สึกว่าเขามองเห็นได้ทั้งโลก  เขาไม่สามารถยกจิตวิญญาณนักสู้ของเขาได้โดยสิ้นเชิง
 “โอวสวรรค์, ทักษะนี้คือพลังโจมตีจิตวิญญาณ!” เย่คงรู้สึกตัวและร้องเตือน  เจ้าอ้วนไห่ ผู้มีการป้องกันพลังจิตได้ยังรู้สึกตัวว่าของเขาด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังนั่งลงกับพื้นดูเหมือนคนแก่  เพียงแต่เมื่อนกนางนวลสายลมปลุกเขา เขาจึงรู้สึกว่าได้รับผลจากแสงสนธยา
 “เจ้าให้ดอกสนธยาข้าสักดอกได้ไหม?  ในฐานะพี่ใหญ่ พอไม่มีดอกทานตะวันรู้สึกไม่ดีเลย”  เจ้าอ้วนไห่ขอหน้าด้านๆ
 “จ่ายมาสองเหรียญทองแดนสวรรค์ ข้าจะซื้อให้เจ้าต้นหนึ่ง”  นี่คือคำตอบของเย่ว์หยาง
 “งั้นก็ไม่เป็นไร”  เจ้าอ้วนไห่รู้ว่าเขา คงไม่สามารถขายอะไรได้ยี่สิบล้านแน่  ต่อให้ชำแหละร่างอ้วนๆ ของเขาขายก็ตาม  ดังนั้นเขายกเลิกความคิดนี้ออกไป
 “อะไรน่ะ?”  นางเซียนหงส์ฟ้าที่หลับงีบหนึ่งและพบว่าเย่ว์หยางได้เปลี่ยนตะวันฉายทานตะวันเป็น ทานตะวันแผดเผา  และเปลี่ยนไปเป็นดอกสนธยา แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อวานนี้เขารู้สึกว่าเขาตื่นเต้นไปบ้าง แสงตะวันจากระดับหนึ่งเพิ่มไปเป็นปราณฟ้าระดับสาม  ทานตะวันฟ้า และเขายังต้องการทำต่ออีกหรือ?”  นางถามเย่ว์หวี่

10 ความคิดเห็น:

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

^^

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น