เล่ม 20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 18 เรื่องตลก
ภายในหอโถงใหญ่ คนภายนอกทั้งหมดแยกออกมา
มหาเทพสตาร์มิสท์นั่งอยู่บนบัลลังก์
ดวงตาสีม่วงเข้มของเขามองที่ลินลี่ย์
“ลินลี่ย์! เท่าที่ข้าทราบมาเจ้าได้รับเครื่องรางจอมเทพ
มุกวิญญาณเก้าเม็ด และโองการจอมเทพซึ่งอธิบายถึงของทั้งสามนี้ เครื่องรางจอมเทพและโองการจอมเทพไม่มีประโยชน์ใดกับเจ้า ทางที่ดีที่สุดเจ้าส่งออกมาให้ข้าโดยตรงดีกว่า แน่นอนว่าข้าจะไม่รับมอบเปล่าๆ แน่นอน”
“อภัยให้ข้าด้วยเถิด มหาเทพ” ลินลี่ย์คำนับขณะกล่าว “ข้าไม่ได้ครอบครองเครื่องรางจอมเทพหรือโองการมหาเทพเลย”
“ครืนนน...”
รัศมีสีดำเยือกเย็นและน่ากลัวไม่มีแม้แต่แสงจางๆ
แผ่ขยายออกมาจากร่างมหาเทพสตาร์มิสท์
ในทันใดนั้นทั่วทั้งห้องโถงใหญ่
ลินลี่ย์รู้สึกแต่เพียงว่าร่างของเขาหนาวเหน็บขึ้น และขาของเขาอ่อนแรง
เขารู้สึกเหมือนกับเขากลับไปเป็นเด็กน้อยเมื่อตอนพบเห็นมังกรดำ
อสูรเวทระดับเก้าเป็นครั้งแรก
ความแตกต่างระหว่างเทพและมหาเทพกว้างใหญ่ไพศาลมาก!
“มหาเทพ”
เบรุตที่อยู่ใกล้ๆ รีบกล่าว
“เป็นไปได้ว่าท่านไม่รู้ว่ามหาเทพธาตุลมและมหาเทพบลัดริจก็ตามหาลินลี่ย์มาแล้ว? ลินลี่ย์ได้สาบานด้วยถ้อยคำสาบานต่อจอมเทพชะตา
และมหาเทพบลัดริจเองก็ได้ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่ากับดักที่วางเอาไว้เพื่อทำร้ายลินลี่ย์”
“โบซันและคนอื่นก็มาด้วยหรือ?” สายตาของมหาเทพสตาร์มิสต์มองดูที่เบรุต
“ขอรับ, มหาเทพ” เบรุตรีบอธิบาย
“ข่าวนี้ถูกส่งออกไปโดยเจ้าแคว้นสกายเมาท์ชื่อโมลด์
ก่อนหน้านี้ลินลี่ย์ได้ฆ่าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดของเขา โมลด์ไม่สามารถตามล้างแค้นได้ ดังนั้นเขาจึงคิดแผนนี้ขึ้น
มิฉะนั้นจะกลายเป็นเรื่องบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง หลังจากที่ลินลี่ย์ฆ่าร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว
เขาจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเครื่องรางจอมเทพนี่หรือ?”
“โมลด์...”
มหาเทพสตาร์มิสท์รู้ว่าข้อมูลนี้มาจากคนชื่อโมลด์จริงๆ “เขาอยากตายหรือ?” เสียงทุ้มนั้นแฝงไปด้วยความโกรธ
“โมลด์ต้องการล้างแค้นลินลี่ย์
แม้ว่าจะต้องทุ่มเทด้วยชีวิตของเขาเองก็ตาม” เบรุตรีบกล่าว
“หลังจากเสียร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดไป
โมลด์ไม่มีค่าคู่ควรอีกต่อไป
แต่ลินลี่ย์เป็นเทพพารากอน
ความแตกต่างระหว่างทั้งสองยิ่งใหญ่นัก
สำหรับโมลด์ยินดีใช้ชีวิตที่ไร้ค่าของเขาแลกกับชีวิตของลินลี่ย์..
นั่นแหละคือเหตุผล”
“โมลด์อยู่ที่ไหน?” มหาเทพสตาร์พูดเย็นชา
“เขาถูกมหาเทพบลัดริจประหารชีวิตไปแล้ว” เบรุตอธิบาย
“มหาเทพธาตุลม ลอร์ดเทเรเซียและมหาเทพบลัดริจโกรธเขา ลินลี่ย์ก็ต้องการไล่ล่าและฆ่าโมลด์ แต่โมลด์เป็นทูตของมหาเทพบลัดริจ
ในที่สุดมหาเทพบลัดริจเป็นผู้ประหารชีวิตโมลด์เอง”
มหาเทพสตาร์มิสท์เงียบและเขาจ้องมองลินลี่ย์
ลินลี่ย์รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลจากดวงตาของมหาเทพนี้
ทันใดนั้น...
มหาเทพสตาร์มิสท์ขมวดคิ้ว
ขณะที่เขามองไปที่ประตูโถงใหญ่
ร่างเลือนรางร่างหนึ่งปรากฏขี้นและกลายเป็นรูปร่างของมหาเทพบลัดริจ
“โบซัน! เจ้าก็มาด้วยหรือ?” มหาเทพสตาร์มิสท์กล่าว
มหาเทพบลัดริจยิ้ม จากนั้นคำนับเล็กน้อย เขาหัวเราะพลางเดินเข้ามาและกล่าว “ข้าย่อมมาแน่นอน ท่านมาถึงอาณาเขตของข้า ข้าจะไม่มารับท่านได้ยังไง? สตาร์!
ดูเหมือนว่าเครื่องรางจอมเทพน่าหลงใหลดึงดูดใจจริงๆ ก่อนหน้านี้เทเรเซียก็ไล่ตามลินลี่ย์และต้องการจะบังคับให้ลินลี่ย์ส่งมอบให้ ลินลี่ย์ไม่มีทางเลือกได้แต่สาบานกับจอมเทพ”
และจากนั้นมหาเทพบลัดริจนั่งลงด้วยเช่นกัน
มหาเทพบลัดริจหัวเราะขณะที่เขามองดูลินลี่ย์และเบรุต “ไม่ต้องห่วง,
มหาเทพสตาร์มิสท์ไม่เหมือนเจ้าบ้าเทเรเซียนั่น”
“พอเถอะ”
มหาเทพสตาร์มิสท์อดชำเลืองมองมาทางมหาทพบลัดริจไม่ได้ “ในเมื่อลินลี่ย์สาบานกับจอมเทพไปแล้ว
และเจ้าก็เป็นพยานยืนยันพฤติกรรมของเขา..ข้าเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด แต่โบซัน..
โมลด์ทูตของเจ้ากล้าสร้างข่าวแบบนี้จริงๆ หรือ?
เมื่อมีคลื่นก็ต้องมีลมพัด
ข้าคิดว่าจอมเทพผู้ทรงพลานุภาพอาจจะออกภารกิจมาอย่างแท้จริง”
มหาเทพบลัดริจพยักหน้า “ก็มีเหตุผล
แต่ถ้ามีภารกิจอย่างนั้นจริงๆ
อย่างน้อยเราต้องเห็นหนึ่งในสามเครื่องรางจอมเทพใช่ไหม? สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือโองการจอมเทพ โองการจอมเทพจะอธิบายภารกิจ
แต่ข้อมูลบนคำสั่งนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน นี่เป็นเหตุให้แม้จะมีภารกิจจอมเทพ
แต่ไม่มีทางที่โองการจอมเทพจะมีข้อมูลคนถือหนึ่งในเครื่องรางเป็นแน่”
มหาเทพสตาร์มิสท์พยักหน้า
ทันใดนั้น...
“ครืนน....”
สำนึกเทพที่น่ากลัวของมหาเทพสตาร์มิสท์แผ่ออกไปทันที
“สตาร์,
ทำไมเจ้าใช้สำนึกเทพคลุมทั่วแดนนรกเล่า?”
มหาเทพบลัดริจพูดด้วยความสงสัย
เมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ลินลี่ย์รู้สึกกระวนกระวายใจ คลุมได้ทั้งแดนนรก? ระยะของสำนึกเทพของคนๆ
หนึ่งสามารถระบุได้ถึงพลังวิญญาณและพลังปณิธานของคนผู้นั้น
ลินลี่ย์สามารถขยายสำนึกออกไปได้เพียงแปดล้านกิโลเมตร และนั่นเป็นเพราะพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่ง แต่มหาเทพเล่า? พวกเขาสามารถครอบคลุมได้ทั้งทั่วแดนนรก
ทุกคนสามารถคิดได้ว่าปณิธานของมหาเทพแข็งแกร่งขนาดไหนเมื่อเทียบกับพลังปณิธานเขาเอง
มิน่าเล่าเมื่อมหาเทพมาด้วยตนเองเพื่อจัดการกับพารากอน พารากอนนั้นจะต้องตาย เว้นแต่
แน่นอนว่าพารากอนหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมหาเทพและหนีไปพิภพโลกธาตุแทน
“เป็นธรรมดา
เราต้องพูดคุยเรื่องนี้กับมหาเทพอื่นในแดนนรก
มิฉะนั้นทุกสิบปีหรือทุกร้อยปีมหาเทพอื่นก็จะมากันอีก และเราไม่แน่ใจว่าข่าวนี้จะจริงหรือไม่” มหาเทพสตาร์มิสท์พูดอย่างเยือกเย็น
ลินลี่ย์รำพึงในใจ “สนทนากันกับมหาเทพแดนนรกทุกคน?”
ทวีปเรดบุดที่อยู่ไกล
ทวีปเจดโฟลทตะวันออก ทะเลเชาติคที่กว้างใหญ่..
มหาเทพแยกย้ายกันอยู่ในแผ่นดินที่ห่างไกล
ตอนนี้ทุกคนติดต่อกันผ่านสำนึกเทพ
“สตาร์! ทำไมเจ้าถึงส่งสำนึกเทพถึงทุกคน?” ลึกลงไปในทะเลเชาติค เสียงพูดที่ทรงพลังเหลือเชื่อดังกึกก้องในใจของมหาเทพทุกคน
“ท่านประมุข,
ข้าส่งสำนึกเทพถึงทุกคนเพราะมีข่าวแพร่กระจายไปในแดนนรกเรื่องเครื่องรางจอมเทพ ทันทีที่ข้าทราบข่าวนี้ จึงเป็นเหตุผลให้ข้าคิดว่าดีที่สุดคือส่งสำนึกเทพคุยกับทุกคนในเรื่องนี้โดยตรง”
เสียงของมหาเทพสตาร์มิสท์ดังก้องในใจของมหาเทพทุกคนเช่นกัน
เหล่ามหาเทพสามารถใช้สำนึกเทพครอบคลุมทั้งดินแดนนรก
ไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาต้องมาประชุมคุยพร้อมกันต่อหน้า
“เครื่องรางจอมเทพ?” เสียงร้องประหลาดใจและดีใจดังขึ้น
นี่คือเสียงจากมหาเทพแห่งทวีปมูจา
“จอมเทพออกภารกิจมาอีกหรือ?”
“ภารกิจอะไร?”
หลายเสียงก้องสะท้อนดังออกมาต่อเนื่อง
แต่แน่นอนว่ามีแต่เพียงมหาเทพที่ได้ยินเสียงนี้เท่านั้น แม้แต่ลินลี่ย์และคนอื่นก็ไม่สามารถได้ยิน
“ฮึ่ม..
ข่าวนี้เดิมทีมาจากทูตมหาเทพของโบซัน”
เทเรเซียมหาเทพธาตุลมพูดออกมา
สี่พิภพชั้นสูง รวมทั้งในแดนนรก กว้างใหญ่กว่าโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์อื่น
ซึ่งเป็นเหตุให้มหาเทพอื่นหลายคนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
แดนนรกไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่มหาเทพวิถีทำลายล้างเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น
อาจมีมหาเทพธาตุลม ธาตุดิน หรือธาตุไฟที่นี่คนหรือสองคน
ดังนั้นมหาเทพที่ร่วมประชุมในตอนนี้รวมถึงมหาเทพในสิบเอ็ดสายด้วย
“ทุกท่าน” มหาเทพบลัดริจพูดขึ้นทันที “ข้าต้องขอโทษจริงๆ
ข่าวนี้เดิมทีมาจากโมลด์ทูตที่อยู่ในการปกครองของข้า ตามที่ข้าตรวจสอบดู เขาต้องการล้างแค้นหลังจากสูญเสียร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดเนื่องจากถูกเทพพารากอนฆ่าตาย ดังนั้นจึงสร้างเรื่องโกหกนี้ขึ้น เทเรเซียและข้าติดตามเรื่องนี้ดูแล้ว
ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องตลก”
“เทพพารากอนคือใคร?” เสียงดังก้องขึ้นในใจของมหาเทพแต่ละคน
“เขาชื่อลินลี่ย์ เทพพารากอนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” เสียงของเทเรเซียดังขึ้น
“ลินลี่ย์?”
เสียงปลาบปลื้มอ่อนโยนเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงนี้เดิมทีมาจากผู้ทรงพลังที่พำนักอยู่ภายในเทือกเขาอะเมทิสต์
“ลินลี่ย์กับข้ามีความเกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง
เขาเพิ่งฝึกฝนมาเพียงสองสามพันปี แต่เขานับเป็นอัจฉริยะจริงๆ
นี่เขาเข้าถึงระดับพารากอนแล้ว”
“พารากอน?”
“เขากลายเป็นเทพพารากอนหลังจากผ่านไปไม่กี่พันปีหรือนี่? เป็นไปไม่ได้!!!”
“อีกอย่างข้ารู้จักเทพที่ชื่อลินลี่ย์ซึ่งกลายเป็นเทพพารากอน
ข้ามองเห็นระหว่างการสู้ศึกสุดท้ายของสงครามมหาพิภพ เขาเอาชนะแม็กนัสได้ แต่ข้าไม่รู้ว่าเขาฝึกได้ยังไงแค่ไม่กี่พันปี”
มีเสียงดังขึ้นมาจากแดนนรกในทิศทางต่างๆ
ผ่านแดนนรกที่กว้างใหญ่ไพศาล
มหาเทพต่างสนทนากันเอง ทุกคนค่อนข้างตกตะลึง
ที่สำคัญแม้แต่ในมหาเทพส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นพารากอน มหาเทพส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอำนาจถือกำเนิดโดยธรรมชาติหลังจากเอกภพก่อกำเนิดไม่นาน
เหตุผลที่พวกเขากลายเป็นมหาเทพเป็นเรื่องของโชคและพลังอำนาจ
แทบจะไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเขาไม่ว่าพวกเขาจะเคยเป็นเทพพารากอนหรือไม่
ในใจพวกเขามหาเทพโดยมากรู้สึกชื่นชมพวกที่สามารถกลายเป็นเทพพารากอนได้
ที่สำคัญการกลายเป็นเทพพารากอนเกี่ยวข้องกับความสามารถของผู้ฝึก
ขณะที่การกลายเป็นมหาเทพเป็นเรื่องของโชคและวาสนามากกว่า
“ลินลี่ย์เพิ่งจะกลับมาจากสงครามมหาพิภพได้ไม่นาน
บางทีเขาคงจะมีเรื่องขัดใจกับคนชื่อโมลด์
และสุดท้ายเขาฆ่าร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดของโมลด์
โมลด์ไม่มีพลังพอจะแก้แค้นได้ ดังนั้นจึงคิดแผนนี้ขึ้นมา” นี่คือการตัดสินของมหาเทพเรดบุด
“ลินลี่ย์ใช้เวลาเพียงไม่กี่พันปีจึงจะเป็นเทพพารากอนได้ และเครื่องรางจอมเทพไม่มีประโยชน์ต่อเขา
ข้าคิดว่าเขาคงไม่โง่พอพยายามซ่อนเครื่องรางจอมเทพไว้แน่”
“จริง” เสียงของมหาเทพบลัดริจดังขึ้น “ลินลี่ย์ อยู่ต่อหน้าเทเรเซีย
ได้ใช้คำสาบานจอมเทพ เทเรเซีย! ข้าพูดถูกหรือเปล่า?”
เสียงของเทเรเซียไม่ได้ดังขึ้นรับทันที เพียงแต่หลังจากเวลาผ่านไปชั่วขณะ เขาจึงตอบรับ
“ใช่แล้ว
ลินลี่ย์กล่าวสาบานจอมเทพว่าก่อนที่ข้าจะบอกเขาเรื่องนี้
เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องเครื่องรางจอมเทพแม้แต่น้อย”
“ข้าจำเป็นต้องบอกกับทุกท่านอีกเรื่องหนึ่ง” มหาเทพบลัดริจสรุป “ข่าวนี้มาจากกระดาษธรรมดา ไม่ใช่โองการจอมเทพ”
“ไม่ใช่โองการจอมเทพ? แล้วเราจะพูดเรื่องนี้ไปทำไม?”
“ไม่มีโองการจอมเทพปรากฏออกมา ต่อให้มีเครื่องรางจอมเทพวางอยู่ข้างหน้าเรา บางทีเราไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านั่นคือเครื่องรางจอมเทพหรือไม่ โลกธาตุก็สามารถให้กำเนิดของบางอย่างที่ไม่เหมือนใครได้เหมือนกัน”
มหาเทพหลายคนพูดคุยเรื่องนี้
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องตลก
เสียงของเทเรเซียดังขึ้น “แต่กระดาษชิ้นนั้นอธิบายถึงของสามอย่าง”
“มีแต่คำอธิบายในโองการจอมเทพเท่านั้นที่เชื่อถือได้จริง เทเรเซีย...อะไรกัน ด้วยพลังของเจ้า
เจ้าต้องการเข้ามาแข่งด้วยหรือ?
ต่อให้จอมเทพออกภารกิจมาจริงๆ แต่ด้วยพลังของเจ้า
ข้าคิดว่าถ้าเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยผลสุดท้ายเจ้าก็จะล้มเหลว” เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากร่างที่ทรงพลังในทวีปคาโรวที่อยู่ห่างไกล
เทเรเซียเงียบ
ทั้งนี้เป็นเพราะมหาเทพที่พูดมีพลังมากกว่าเขาห่างไกล
“โมลด์ผู้นั้นช่างกล้าจริงๆ” เสียงนี้ดังมาจากทะเลเชาติค “อย่างไรก็ตาม
เพราะเขากล้าอ้างเช่นนั้นก็หมายความว่า
อาจจะเป็นความจริงก็ได้ที่เขาต้องการแก้แค้นลินลี่ย์ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต..
เขาอาจจะได้รับข้อมูลบางอย่างมาจริงและอาจเคยเห็นโองการจอมเทพจริงๆ ช่างเถอะ, สำหรับตอนนี้ไม่ต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้อีก เพียงแต่เมื่อโองการจอมเทพปรากฏขึ้นในโลก
จะต้องมีข้อพิสูจน์ว่าจอมเทพได้สั่งภารกิจมาจริงๆ”
คำพูดของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างได้ผล ทันทีที่คำพูดของเขาดังขึ้น
มหาเทพอื่นไม่พูดอะไรต่อไป
ภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ลินลี่ย์
ลินลี่ย์เพียงแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ข้างหนึ่งเงียบๆ เขารู้ว่ามหาเทพกำลังสนทนาผ่านสำนึกเทพ
“พวกเขาอยู่กระจัดกระจายทั่วแดนนรก
และสามารถสนทนากันผ่านสำนึกเทพได้
น่ากลัวอย่างแท้จริง”
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
ทันใดนั้น...
มหาเทพสตาร์มิสท์ลุกขึ้นยืน
และลินลี่ย์รีบหันหน้ามาทางเขา
มหาเทพสตาร์มิสท์ชำเลืองมองลินลี่ย์
มีรอยยิ้มที่ยากจะเห็นปรากฏบนใบหน้าของเขา
“เจ้ากลายเป็นเทพพารากอนได้หลังจากใช้เวลาไม่กี่พันปีเองหรือ? ลินลี่ย์... นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง
ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ” หลังจากพูดจบมหาเทพสตาร์มิสท์ก็หายไป
มีแต่เพียงลินลี่ย์ถอนหายใจโล่งอก
“เขารู้ได้ยังไงว่าข้ากลายเป็นเทพพารากอนหลังจากผ่านไปไม่กี่พันปี?” ลินลี่ย์งง
มีน้อยคนมากในตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่รู้ว่าลินลี่ย์ฝึกมานานแค่ไหน มีน้อยคนที่ตกลงกันไว้
อย่างเช่นรีสเจมก็รู้เรื่องนี้
“ฮ่าฮ่า,
เทพพารากอนที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่พันปี”
มหาเทพบลัดริจหัวเราะขณะที่เขามองลินลี่ย์
“ข่าวนี้มาจากมหาเทพเรดบุด
ลินลี่ย์, ข้าคิดว่าภายในช่วงเวลาสั้นๆ
มหาเทพของโลกธาตุต่างๆ จะรู้เรื่องนี้กันทั้งหมด
ตกลงว่าเรื่องของเจ้าได้บทสรุปไปแล้ว
เจ้าไม่ต้องกังวลว่าจะมีมหาเทพมาตามหาตัวเจ้าเพิ่มอีก”
“ขอบคุณมหาเทพ”
ลินลี่ย์คำนับและกล่าวด้วยความเคารพ
ลินลี่ย์รู้ว่ามหาเทพบลัดริจยืนยันเข้าข้างเขาอย่างเห็นได้ชัด
และมีแนวโน้มว่าเขาช่วยพูดเรื่องนี้แทนเขาในการพูดคุยกับมหาเทพอื่น ไม่ได้ความช่วยเหลือจากมหาเทพท่านนี้
มหาเทพอื่นคงมาสร้างความยุ่งยากให้เขานานแล้ว
“ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว ข้ามีเรื่องจะพูดคุยกับเบรุตก่อน” มหาเทพบลัดริจกล่าว
“ขอรับ”
ลินลี่ย์ถอยออกมาทันที
และปล่อยให้เบรุตกับมหาเทพบลัดริจสนทนากันต่อในห้องโถงใหญ่
18 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
พี่ลินลี่ย์ตรูคงรอดไปอีกสักระยะ เก็บของร้อนไว้กับตัว ยังไงตีนก็จะมาหาไม่ช้าก็เร็ว อิ อิ
สุดท้ายลินลี่ย์ก็ได้ครบทั้ง 3 แต่รางวัลที่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นจุดเริ่มแห่งมหาเทพตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธ์
ผมว่าก่อนจะเผยเครื่องรางจอมเทพลินลี่ย์คงต้องมีพลังใกล้เคียงกับมหาเทพ
ไม่งั้นคงไม่เปิดเผยออกมา เพราะตอนนี้ครอบครัวคือทุกสิ่งของลินลี่ย์
ขอบคุณผู้แปลครับ
ขอบคุณครับ
ผมก้ดำน้ำจบละ แต่เข้ามาอ่านอีกรอบทุกวัน ผมรู้ว่าหลายท่านอ่านจบละ (แต่ยังไงงดสปอยด้วยนะครับ)เพื่อเพื่อนๆผู้อ่านจะได้รับความสนุกมากขึ้น
และเพื่อผู้แปลด้วยครับ เป็นกำลังใจให้ผู้แปลครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากเลยนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับสู้ๆ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ คลี่คลายไปอีกปมนึง
ขอบคุณมากๆครับ
แสดงความคิดเห็น