เล่ม
20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 22 จริงและปลอม
ลินลี่ย์
บีบี เรย์โนลด์ เยลและญาติๆ ของพวกเขาร่วมเดินทางเป็นกลุ่มเกือบยี่สิบคน กลุ่มของลินลี่ย์เริ่มเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วแดนนรก
พวกเขาไปที่เหวทะเลสาบลึกพูนิซี่...
เดินทางไปภูเขากาเพลิงแห่งเทือกเขาตักกัก..
บางครั้งพวกเขาจะเดินทางเข้าไปเยี่ยมพบผู้บัญชาการนรก
หรือเจ้าแคว้นแดนนรก...
อย่างไรก็ตาม
แดนนรกกว้างใหญ่ไพศาลเกินไป
แม้จะเดินทางมาหลายสิบปี
คณะของลินลี่ย์ไปได้เพียงจากภาคตะวันตกของทวีปบลัดริจไปภาคตะวันออกเท่านั้น
ภาคตะวันออกของทวีปบลัดริจ
ภายในแคว้นฟ็อกเมาท์ (เขาหมอก) เมืองฟ็อกเมาท์
บนถนนเต็มไปด้วยผู้คน คณะของลินลี่ย์เดินพลางมองสำรวจมองดูไปด้วย
นีซ
ภรรยาของบีบีเสนอ “เรามาผจญภัยในแดนนรก
แต่บอกตามตรงสถานที่มีสินค้าเฉพาะทางไม่เหมือนใครส่วนใหญ่อยู่ที่ปราสาททรายดำ ไปจับจ่ายซื้อของที่ปราสาททรายดำกันเถอะ
แน่นอนว่าต้องมีสินค้าแปลกประหลาดมากมายนับไม่ถ้วนในนั้นแน่”
สตรีรักการจับจ่ายใช้สอยอยู่แล้ว
“ปราสาททรายดำเป็นตลาดมืดโดยเฉพาะมีของมากมายกว่าในปราสาทบลัดริจ ลินลี่ย์!
เราไปดูกันเถอะ”
เดเลียตาเป็นประกายเช่นกัน
บีบีรีบพยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นตรงไปที่ปราสาททรายดำกันเลย พี่ใหญ่! ท่านจะว่ายังไง?”
ลินลี่ย์พยักหน้าหัวเราะ
จากนั้นพาพวกเขาตรงไปยังปราสาททรายดำ
ปราสาททรายดำกระจายอยู่ทั่วแดนนรกทั้งหมด
ปราสาททั้งหมดปรากฏรูปลักษณ์เหมือนสร้างจากทรายไหล แม้แต่ผิวของปราสาททรายดำทุกหลังเป็นเหมือนกับเคลือบด้วยทรายไหลสีดำ
ปราสาทเองมีอายุมานานนับปีไม่ถ้วน
กลุ่มของลินลี่ย์ปะปนเข้าไปในปราสาททรายดำกับกลุ่มผู้คน
เคาน์เตอร์ของปราสาททรายดำเต็มไปด้วยผู้คนมากมายกว่าปราสาทบลัดริจ
“มีเครื่องประดับเล็กน้อยค่อนข้างมากเหมือนกัน”
พวกสตรีเริ่มมีความสุขกับการเดินชมและจับจ่ายซื้อเครื่องประดับชิ้นเล็ก
“ของในชั้นนี้ล้วนเป็นสินค้าธรรมดาทั่วไป ขึ้นไปชั้นบนเถอะ
จะมีสินค้าที่มีค่าอยู่บนนั้น”
ลินลี่ย์แนะนำ
ชั้นแรกของปราสาททรายดำมีสินค้าที่มีราคาประมาณไม่เกินหมื่นศิลาดำ
สินค้าในชั้นสองจะมีมูลค่าไม่เกินล้านศิลาดำ
ขณะที่ชั้นที่สามเป็นสินค้าที่มีราคามากกว่าล้านศิลาดำขึ้นไป และนี่ยังคงเป็นสินค้าระดับทั่วไป
ปราสาททรายดำขึ้นชื่อมากที่สุดก็คือชั้นที่สี่ของพวกเขา!
สินค้าบนชั้นที่สี่เป็นของที่ไม่ค่อยรู้จักจริงๆ บางอย่างก็มีค่า บางอย่างก็ไม่
ของที่มีค่าของปราสาทเรดบุดและปราสาทบลัดริจเป็นของจริงทั้งหมด
ดังนั้นราคาสินค้าจึงมีความชัดเจนทั้งหมด
แต่ที่สำคัญปราสาททรายดำเป็นตลาดมืด
ก่อนอื่นราคาอาจต่ำกว่าที่อื่นอย่างปราสาทบลัดริจก็ได้
แต่ผู้ค้าหลายคนของปราสาทดำเป็นผู้ขายของส่วนตัว ปราสาททรายดำจะไม่รับประกันความถูกต้องของสินค้าภายใน นี่เป็นเรื่องที่ผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อเอง
คณะของลินลี่ย์มาถึงที่ชั้นสี่
“สินค้าที่ไม่รู้จักนับไม่ถ้วนบนชั้นที่สี่แบ่งออกเป็นของราคาแพงและของถูก ที่สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจของผู้ซื้อ นอกจากนี้ยังสามารถต่อรองกันได้” นีซหัวเราะขณะพูด
“ถ้าพวกเจ้าไปโดนหลอกซื้อของที่ไร้ประโยชน์มาด้วยราคาสูงน่าตกใจ พวกเจ้าได้แต่ตำหนิตนเอง
แต่ถ้าเจ้ามีสายตาที่ดีและสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูก
อย่างนั้นถือว่าพวกเจ้าโชคดี”
ลินลี่ย์สนใจคำพูดของนีซ
“มาเถอะ,
ไปสำรวจดูว่ามีสมบัติใดอยู่ที่นี่บ้าง”
ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขาเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ใกล้ที่สุด
“น่าขัน”
ลินลี่ย์มองดูของหลายชิ้นและรายการราคา จากนั้นลอบขำ เนื่องจากพลังวิญญาณของลินลี่ย์
เขาสามารถประเมินความถูกต้องของเหล่านี้ได้ถูกต้องดีพอสมควร
บีบีตามอยู่ด้านหลังลินลี่ย์เช่นกัน
“เฮ้, พี่ใหญ่, นั่นมันหินอะไรหรือ?”
บีบีชี้หินสีดำบนเคาน์เตอร์ที่ถูกแต่งแต้มสีเลือดซึ่งดูมีพลังเพลิงเลือนราง ลินลี่ย์ชำเลืองมองดู ศิลานี้เขียนราคาไว้ห้าล้านศิลาดำ
ราคาแพงจนน่าตกใจ
คนที่รับผิดชอบที่หน้าเคาน์เตอร์เป็นชายชราค่อนข้างผอม
ผมหงอกสวมหมวกนิรภัย เขาชำเลืองมองบีบีด้วยดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขา
จากนั้นพูดอย่างเย็นชา “ศิลานี่แฝงไปด้วยเลือดของหงส์เพลิงอสูรศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟ
แห่งตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์”
“หงส์เพลิง?”
ลินลี่ย์ตกใจ และหัวเราะโดยไม่ตั้งใจ
ถ้านี่เป็นเลือดของหงส์เพลิงอสูรศักดิ์สิทธิ์จริง
อย่างนั้นแม้จะราคาห้าร้อยล้านศิลาดำก็ถือว่าราคายังต่ำไป
ไม่ต้องพูดถึงห้าล้าน!
นอกจากนี้ลินลี่ย์ยังสังเกตว่าแม้รัศมีที่เปล่งออกมาจากศิลานี้จะกล้าแข็งก็ตาม
แต่ไม่มีทางจะเทียบได้กับหยดเลือดบริสุทธิ์ของมังกรฟ้าที่เขาได้รับมาในอดีต
หงส์เพลิงและมังกรฟ้าเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งคู่
รัศมีของเลือดพวกเขาควรจะอยู่ในระดับเดียวกัน
“หงส์เพลิง?
เจ้าก็รู้ว่าหงส์เพลิงเป็นมหาเทพไม่ใช่หรือ?”
บีบีเม้มริมฝีปาก
“อย่าว่าแต่เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์มหาเทพเลย
แม้เพียงเลือดหยดเดียวของมหาเทพเดิมก็แฝงไปด้วยระดับพลังที่น่าทึ่งแล้ว
หินของเจ้าบางทีคงจะเปื้อนเลือดอสูรศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟซะมากกว่า” ตัวบีบีเองก็เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์
เขาสามารถพูดวิเคราะห์วัตถุนี้ได้เป็นธรรมดา
ชายชราชำเลืองมองบีบีด้านข้าง
จากนั้นพูดอย่างเยือกเย็น
“เลือดซึมเข้าไปในหินเป็นเวลานานแล้ว
ดังนั้นกลิ่นอายที่เปล่งออกมาจึงอ่อนมาก
ถ้าเจ้าไม่อยากเชื่อ ข้าก็ทำอะไรไม่ได้ ข้าไม่ง้อให้เจ้าซื้ออยู่แล้ว”
ชายชราวางท่า
คนอ่อนด้อยอาจถูกเขาตบตาได้
“ไปกันเถอะ”
ลินลี่ย์และบีบีเดินไปเคาน์เตอร์อื่น
“พี่ใหญ่ที่นี่มีทั้งของจริงและปลอมอยู่ที่นี่” บีบีถอนหายใจด้วยความทึ่ง
ขณะที่มองดูสิ่งของอื่นๆ
“ใช่แล้ว”
ทันใดนั้น หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน
เขาเห็นของตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ของร้านหนึ่ง และสายตาเขาเพ่งมองอย่างตั้งใจ นี่คืออัญมณีแดงรูปกระจับ และมีลักษณะสะดุดตา
“เพชรกระจับแดง? หนึ่งในสามเครื่องราง
เพชรกระจับแดง?” ลินลี่ย์ตกใจ เขารู้สึกวิงเวียนศีรษะและมองดูอย่างระมัดระวัง
ในบรรดาเครื่องรางจอมเทพทั้งสามอย่าง
ลินลี่ย์ได้รับมงกุฎห้าแฉกและมุกวิญญาณเก้าเม็ดมาแล้ว ตอนนี้เขายังขาดแค่เพชรกระจับแดง
“ท่านขอรับ, ท่านสนใจเพชรกระจับแดงหรือ?” เด็กหนุ่มหัวโล้นผู้ดูแลหน้าร้านหัวเราะขณะพูด
“ข้าสนใจ”
ลินลี่ย์มองดูราคาที่อยู่ห่างออกไป
พันล้านศิลาดำ
“พันล้านศิลาดำ? เจ้ากล้าระบุราคาไว้อย่างนี้หรือ?” บีบีเมื่อเห็นเช่นนี้
ถึงร้องด้วยความประหลาดใจ
อสังหาริมทรัพย์ภายในเมืองมีราคาเพียงพันล้านศิลาดำ บีบีประเมินเด็กหนุ่มหัวโล้นตาสีเงิน
จากนั้นแค่นเสียง “บอกข้าได้ไหม
นี่มันสมบัติอะไร เจ้าถึงตั้งราคาพันล้านศิลาดำ?”
ลินลี่ย์เห็นกระดาษสีดำ
แต่บีบีไม่เห็น
ดังนั้นบีบีจึงไม่รู้เรื่องเพชรกระจับแดง
เด็กหนุ่มหัวโล้นหัวเราะเบาๆ
“พวกเจ้าทั้งสองเคยได้ยินเรื่องภารกิจจอมเทพบ้างไหม? หนึ่งในนั้นคือการรวบรวมเครื่องรางจอมเทพซึ่งก็มีมงกุฏห้าแฉก
มุกวิญญาณเก้าเม็ด และเพชรกระจับแดงนี้
แม้ว่าข้าไม่กล้าพูดว่านี่เป็นเพชรกระจับแดงในตำนาน แต่ดูสิ
เพชรนี้ไม่ใช่ของที่มนุษย์สร้างขึ้นมาแน่
มีโอกาสที่มันอาจเป็นเครื่องรางจอมเทพในตำนานก็ได้”
“ถ้าเป็นเพชรกระจับแดงจริงๆ ทำไมเจ้าไม่นำเสนอให้มหาเทพ?” บีบีเม้มริมฝีปาก
ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่มองดูเด็กหนุ่มเช่นกัน
“ข้าเป็นแค่เทพชั้นสูงธรรมดา มีสิทธิ์อะไรจะไปขอพบมหาเทพ? นอกจากนี้
ข้าไม่แน่ใจว่าเพชรนี้จะเป็นของจริงหรือไม่”
บุรุษหนุ่มหัวโล้นกล่าว
“ถ้าข้าแน่ใจว่าใช่จริงๆ ราคาจะกำหนดไว้ที่พันล้านได้อย่างไร?”
ต้องเข้าใจว่าหยดพลังมหาเทพเริ่มขายที่ราคาร้อยล้านล้านศิลาดำ
เครื่องรางจอมเทพจะตรงกันข้ามย่อมมีราคารวมที่น่าทึ่งอย่างแน่นอน ไม่มีทางใช้จำนวนเงินศิลาดำคู่ควรกับเครื่องรางจอมเทพ
“บางทีเพชรกระจับแดงของเจ้าอาจไม่ใช่สร้างขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์” ลินลี่ย์กล่าว
“แน่นอน”
เด็กหนุ่มตาเงินบอก
“เจ้ากล้าให้ข้าลองจับบีบจับเพชรกระจับแดงของเจ้าได้ไหม? ถ้ามันไม่แตก ข้าจะซื้อ ถ้ามันแตก
ข้าไม่จ่าย”
ลินลี่ย์เม้มริมฝีปากมองดูบุรุษหัวโล้นตาเงิน เนื่องลินลี่ย์มีพลังจิตที่ทรงพลัง
เขาสามารถมองผ่านมุมเพชรกระจับแดงนานแล้ว
และพบว่าภายในนั้น มีร่องรอยของพลังงานธาตุไฟ
จอมเทพวิถีชีวิตออกเครื่องรางสามชิ้น ลินลี่ย์ครอบครองสองในสาม
มงกุฎห้าแฉกแฝงไปด้วยพลังงานที่สามารถรักษาบาดแผลให้เขา มุกวิญญาณเก้าเม็ดสามารถปกป้องวิญญาณ ทั้งหมดเป็นรูปแบบสายพลังชีวิต
ดังนั้นเพชรกระจับแดงต่อหน้าเขาเป็นของปลอมแน่นอน
ที่สำคัญยิ่งกว่า...
ลินลี่ย์มีมงกุฎห้าแฉก ดังนั้นเขารู้ขนาดของเบ้ารูปทรงกระจับ
ว่ากันที่ขนาดของเบ้าอย่างเดียว ลินลี่ย์แน่ใจว่าแม้เพชรกระจับที่วางขายบนแผงร้านจะคล้ายกันมาก
แต่ก็มีความแตกต่างกัน มันมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย
ไม่มีอะไรสำหรับมัน..
เจ้าแคว้นโมลด์แห่งแคว้นสกายเมาท์ไม่เคยเห็นเพชรกระจับแดงด้วยตัวเองเช่นกัน
เขาเพียงแต่เคยเห็นลักษณะของมันบนโองการจอมเทพ ดังนั้นจึงวาดออกมา
ทำให้รู้สึกว่าขนาดไม่พอดีกัน
“ไม่มีทาง”
เด็กหนุ่มตาเงินแค่นเสียง
“ถ้าท่านต้องการซื้อ
อย่างนั้นก็ซื้อ ถ้าท่านไม่ต้องการ อย่างนั้นก็ช่างเถอะ”
“ท่านทั้งสองอย่ามองแต่เพชรกระจับแดงนั่นเลย ข้ามีมงกุฎห้าแฉกอยู่ที่นี่” เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลินลี่ย์หัวเราะโดยไม่ตั้งใจ เขาหันหน้าไปมอง “เจ้ามีมงกุฎห้าแฉกหรือ?”
“แน่นอน
ท่านตัดสินใจได้ว่ามันเป็นของแท้หรือไม่”
คนพูดเป็นเด็กหนุ่มผมทอง พูดด้วยความมั่นใจ
ลินลี่ย์ชำเลืองมองด้านข้างอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
มงกุฎห้าแฉกนี้เหมือนกับมงกุฎห้าแฉกที่เขามีจริงๆ แม้แต่รูปทรงก็คล้ายกัน ความจริงแม้แต่สีของมงกุฎห้าแฉกก็ยังเหมือนกัน ขณะที่ลินลี่ย์มองดู เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมองดูมงกุฏตนเอง
ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่าในกระดาษมีภาพของเครื่องราง
ดังนั้นจึงมีความแตกต่างระหว่างภาพและของจริง
ไม่มีทางที่สีจะเหมือนกับสีสันของจริง
“นี่ก็ของปลอม”
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
“บัวร์ หยุดพยายามหลอกลวงผู้คนได้แล้ว”
คนขายเพชรกระจับแดงแค่นเสียง “คนผู้นี้เป็นยอดฝีมืออย่างเห็นได้ชัด
เขามีความรู้มาก”
บุรุษผมเงินแค่นเสียง
“เมื่อไม่กี่ปีก่อน
เมื่อพี่ของเจ้ามาที่นี่
เขาโอ้อวดกับข้าเรื่องที่เขาได้รับมงกุฎห้าแฉกมา ข้าถามเขาว่ามันอยู่ที่ไหน
และเขาบอกว่าเขากำลังเดินทางไปขายของบางอย่าง
เขาถูกโจรปล้นและสูญเสียร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขา เขาบอกว่ามงกุฎห้าแฉกอยู่ในแหวนเก็บของซึ่งแตกทำลายไปแล้ว ดังนั้นมงกุฏห้าแฉกจึงสาบสูญไป!” บุรุษตาสีเงินแค่นเสียง “ข้าก็โอ้อวดได้เหมือนกัน ข้าบอกได้ว่าข้าได้รับเครื่องรางมา
จากนั้นก็ทำมันหายไป”
“ใครจะเชื่อเจ้าเล่า?” บุรุษหนุ่มผมทองแค่นเสียงกลับ
ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้ก็คิดได้ทันที เขาหัวเราะ
“ข้าคิดว่ามงกุฏห้าแฉกนี้คงสร้างขึ้นตามแบบที่พี่ชายเจ้าได้มาใช่ไหม?”
บุรุษหนุ่มผมทองมองดูลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ แต่ไม่พูดอะไร
“บีบี, ไปกันเถอะ”
ลินลี่ย์สามารถบอกได้จากสายตาของบุรุษหนุ่มผมทองนั้นว่าพี่ชายของเด็กหนุ่มนั้นคงได้รับมงกุฏห้าแฉกมาจริงๆ
“เพียงแต่ใครบางคนก่อนนั้นได้รับมงกุฏห้าแฉกและสามารถสร้างเลียนแบบได้ถูกต้อง เพียงแต่เขาบอกว่าแหวนเก็บสมบัติแตกทำลายไป
ไม่อย่างนั้นมงกุฏห้าแฉกจะโผล่ออกมาจากมิติปั่นป่วนได้ยังไง?”
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน
“หรือว่า..หลังจากแหวนเก็บสมบัติแตกทำลายไป สิ่งของภายในแหวนไม่ได้สูญหายไป
เพียงแต่กลับเข้าไปในมิติปั่นป่วนอีกครั้ง?” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง
การคาดเดาของลินลี่ย์ถูกต้อง
ไม่มีอะไรที่ปรากฏออกมาจากอย่างกะทันหันโดยไม่มีเหตุผล
และไม่มีอะไรที่หายไปในบางพื้นที่
ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด
เมื่อรอยฉีกมิติถูกสร้างขึ้น อะไรก็ตามที่เข้าไปในรอยฉีก
ก็จะตกเข้าไปในมิติปั่นป่วน
ถ้าแหวนมิติเก็บสมบัติแตกทำลายไป ของที่เก็บไว้ในแหวนที่แตกสลายไป
จะถูกกวาดเข้าไปในมิติปั่นป่วน
เพียงแต่ของต่างๆ ทั้งหมดจะถูกพลังงานที่ไหลอยู่ในมิติปั่นป่วนทำลายสิ้น
มีของน้อยมากที่จะเหลือรอดอยู่ได้
ตัวอย่างเช่นเครื่องรางจอมเทพ โองการจอมเทพ สมบัติมหาเทพ ประกายเทพ
แม้ว่าของเหล่านี้อยู่ในแหวนมิติที่แตกสลายไป
ก็ยังจะตกเข้าไปและหายไปในมิติปั่นป่วนแทนที่จะหายไปอย่างแท้จริง
ถ้าสิ่งของในแหวนมิติเก็บสมบัติหายไปจริงๆ
อย่างนั้นถ้าเครื่องรางจอมเทพอยู่ในแหวนมิติเก็บของที่ถูกทำลายไม่ได้หมายความว่าภารกิจจอมเทพก็จะไม่สมบูรณ์?
“พี่ใหญ่ มีของปลอมสองสามชิ้นอยู่ที่นี่” บีบีบ่นพึมพำ
“มีมากจริงๆ
แต่ข่าวเกี่ยวกับภารกิจจอมเทพแพร่กระจายไปได้เร็ว
แม้พ่อค้าเหล่านี้ก็เริ่มฉวยโอกาสทำเงิน”
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น ลินลี่ย์ตั้งใจแค่มาเดินเล่น แต่หลังจากประสบการณ์ล่าสุดนี้
ทำให้ลินลี่ย์มีอีกความคิดหนึ่ง
“ข้าจำเป็นต้องคิดตรวจสอบในแดนนรกบางทีอาจมีคนที่พบเจอเพชรกระจับแดงก็ได้ จากนั้นขายออกไปให้พ่อค้า
ลินลี่ย์เข้าใจว่าเนื่องจากมีเพชรกระจับแดงปลอมอยู่มาก เป็นไปได้ว่าจะยังมีเพชรกระจับแดงที่แท้จริงปรากฏ
ก็คงน่าเชื่อถือได้
แต่ลินลี่ย์มีของอยู่ในมือสองชิ้น เขาสามารถตัดสินใจได้ง่ายว่าสมบัติชิ้นที่สามจริงหรอไม่
10 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
การเทียว ก็ เป็นการทำเควสในตัว ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
น่าจะเป็นเควสใหญ่ ประมาณเควสประดับ The Sign ของ Ragnarok นะครับ อิ อิ
รอบนี้ดูเป็นการตามหาของที่ชิวมาก ไม่ต้องไปสู้กับใคร
ขอบคุณครับ
อย่างนี้ต้องมีตอนลินลี่บุกแดนมิติปั่นป่วน
แสดงความคิดเห็น