วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เล่ม 20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 4 ความเปลี่ยนแปลงของเผ่าตระกูล


เล่ม 20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 4 ความเปลี่ยนแปลงของเผ่าตระกูล
เทือกเขาสกายไรท์ แคว้นอินดิโก ทวีปบลัดริจ
กัซลีสันประมุขเผ่ามังกรฟ้านั่งอยู่ในห้องต้อนรับอาคันตุกะ  กัซลีสันตอนนี้กำลังรับหน้าผู้อาวุโสร่างผอมศีรษะโล้นคนหนึ่ง  พวกเขาพูดคุยพลางหัวเราะด้วยกัน
 
 “กัซลีสัน, ทำไมถ่อมตัวนักเล่า? ตอนนั้นเมื่อเราอยู่ในทะเลเชาติค  เมื่อเจ้ากับข้าและสหายอีกหลายคนรับภารกิจอสูรเพื่อฆ่าเจ้าวาเลนไทน์นั่น ข้ากับคนอื่นๆ เราอยู่ที่นั่นเหมือนเป็นตัวประกอบ  เป็นกัซลีสันท่านซึ่งใช้พลังและทักษะเทพธรรมชาติของเผ่ามังกรฟ้าท่าน  ขณะที่เราใช้พลังโจมตีวัตถุที่ทรงพลังฆ่าวาเลนไทน์นั้นในทีเดียว  ความทรงจำนั้นยังคงอยู่กับข้าเสมอ”  ชายชราหัวโล้นพูดพลางหัวเราะพลาง
 “ฮ่าฮ่า แบ็กลีฟ  นั่นมันผ่านมาหลายปีแล้ว”  กัซลีสันกล่าวถ่อมตัว  แต่หน้าของเขายังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
 “ถูกแล้วว่ามันนานมาแล้ว แต่เจ้าก็ยังเหลือเชื่อมากแม้จะผ่านมานานปีแล้ว  ข้าคิดว่าเดี๋ยวนี้กัซลีสัน  พลังของท่านคงกล้าแข็งมากขึ้นจนข้าก็มิอาจเทียบได้”  คำพูดของผู้อาวุโสหัวโล้นแฝงอาการประจบอยู่ในนั้น
อย่างไรก็ตาม การประจบก็ขึ้นอยู่กับผู้กล่าวด้วย
ถ้าเป็นเทพชั้นสูงธรรมดามาพูดคำเหล่านี้ กัซลีสันคงรำคาญที่จะฟัง  แต่ผู้พูดในปัจจุบันนี้เป็นสุดยอดฝีมือที่ทรงพลังไม่น้อยไปกว่ากัซลีสันและเป็นหนึ่งในสหายเก่าของกัซลีสัน  การพูดประจบจากคนแบบนี้ทำให้กัซลีสันมีความสุขเป็นธรรมดา
 “ฮ่าฮ่า  อย่าพูดแบบนั้น”  กัซลีสันยิ้มกว้าง
ผู้อาวุโสหัวโล้นแบ็กลีฟพูดพลางถอนหายใจ  “ครั้งนี้ข้ามาเยี่ยมเยียนเจ้าผู้เป็นสหายเก่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้าอยากจะเยี่ยมพบเทพพารากอนของเผ่ามังกรฟ้าด้วย  ดูเหมือนว่าข้าโชคยังไม่ดี”
กัซลีสันเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะทันที  “แบ็กลีฟ!  สงครามมหาพิภพเพิ่งจะจบไปแค่ร้อยปีที่แล้ว  บางทีลินลี่ย์อาจจะยังไม่กลับมาจากยมโลก  ไม่ต้องห่วง หลังจากลินลี่ย์กลับมา เมื่อท่านมาเยี่ยม ข้าจะแนะนำท่านให้รู้จักลินลี่ย์แน่นอน  ลินลี่ย์...แม้ว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงของเผ่ามังกรฟ้าแต่เขาเป็นคนดีและมีมิตรไมตรีที่ดี”  ขณะที่เขาพูดกัซลีสันถอนหายใจ
ผู้อาวุโสศีรษะโล้นลุกขึ้นยืน จากนั้นหัวเราะ  “ก็ได้ อย่างนั้นข้าจะรอครั้งต่อไป  ข้ารบกวนท่านมานานแล้ว.. สมควรจะกลับเสียที  โอกาสหน้าถ้าข้ามีเวลา ข้าจะมาพบท่านร่วมรำลึกถึงความทรงจำเก่าด้วยกันอีก”
 “ยินดีต้อนรับเสมอ”  กัซลีสันยืนขึ้นเช่นกัน จากนั้นส่งผู้อาวุโสหัวโล้นกลับ
 “ไม่จำเป็นต้องส่งข้าไกลก็ได้”  ผู้อาวุโสหัวโล้นยิ้มและพยักหน้า  กัซลีสันยืนส่งที่หน้าประตูห้องโถงมองดูผู้อาวุโสแบ็กลีฟบินจากไป
ขณะต่อมามีบุรุษคนหนึ่งเข้ามาจากข้างนอก  เป็นผู้อาวุโสการ์วีย์
 “ท่านประมุข, ผู้บัญชาการแบ็กลีฟไปแล้วหรือ?”  การ์วีย์หัวเราะขณะเดินเข้ามา
 “ใช่แล้ว”  กัซลีสันยิ้มรับ
การ์วีย์อดหัวเราะไม่ได้  “ท่านประมุข!  นี่ดูเหมือนจะเป็นยอดฝีมือชั้นสูงคนที่เก้าแล้วที่มาเยือนในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา”
เพียงไม่นานหลังจากสงครามมหาพิภพได้ผลสรุป  ยอดฝีมือระดับผู้บัญชาการเริ่มมาที่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เพื่อแสดงความเคารพ  คนที่ยอดฝีมือเหล่านี้ต้องการพบเจอจริงๆ ก็คือลินลี่ย์  แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถพบเจอลินลี่ย์ได้  อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังเจริญสัมพันธไมตรีกับประมุขของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบันนี้มีสถานะแตกต่างออกไปในสายตาของผู้บัญชาการทั้งหลายเหล่านี้
 “เฮอะ” กัซลีสันแค่นเสียง  “พวกเขาเก้าคน!  พวกผู้บัญชาการเหล่านี้ทุกคนเห็นว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเราถือกำเนิดเทพพารากอนคนหนึ่งได้ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบมาแสดงความเป็นมิตรกับเรา  แต่เมื่อตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมและถูกแปดตระกูลใหญ่บังคับให้หนีไปซ่อนตัว  นอกจากท่านเบรุตแล้ว  ไม่มีพวกเขาคนใดช่วยเราเลย!
 “แบ็กลีฟก็เหมือนกัน”  กัซลีสันแค่นเสียง  “ในอดีต เรามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน  เมื่อตอนบรรพบุรุษของเรายังมีชีวิต  เขามักจะมาเยี่ยมอยู่บ่อยๆ  แต่หลังจากตระกูลเราตกต่ำ และเมื่อตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเราถูกแปดตระกูลใหญ่ไล่ต้อนจนแทบจะล่มสลาย.. ข้าไม่เห็นแบ็กลีฟโผล่หัวออกมา  แต่บัดนี้เขากลับกล้าอ้างถึงมิตรภาพในอดีตอีกหรือ?”
มีน้อยคนนักที่ส่งถ่านให้ในยามหิมะตก  มีแต่หลายคนกลับส่งดอกไม้และพวกหรีดมาให้ (หมายความว่าเมื่อต้องการความช่วยเหลือกลับไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ)
ตอนนี้ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มีเทพพารากอน ทำให้สถานะแตกต่างออกไป
เทพพารากอนเป็นตัวแทนของพลังอำนาจที่แท้จริงในหมู่เทพ ตัวอย่างเช่นแปดตระกูลใหญ่ที่โจมตีตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  แม้ว่าพวกเขาจะทรงพลัง  แต่เทพพารากอนคนเดียวก็เพียงพอจะกำจัดยอดฝีมือทั้งหมดในตระกูลของพวกเขาได้
 “นี่เป็นเรื่องเข้าใจได้”  การ์วีย์หัวเราะ  “เพียงแต่..ข้าเองยังรู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ ที่ลินลี่ย์กลายเป็นเทพพารากอนได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้  ดวงตาของกัซลีสันเป็นประกายเช่นกัน  เขาหัวเราะลั่น  “เจ้าไม่ใช่เพียงคนเดียวเหมือนกัน  ข้าก็คิดว่าเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อเช่นกัน!  แทบจะไม่มีใครในตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์กล้าเชื่อข่าวนี้  เมื่อลินลี่ย์ไปจากตระกูล  เขาไม่มีอะไรมากไปกว่าอสูรเจ็ดดาวที่ทรงพลังแทบจะใกล้เคียงระดับผู้บัญชาการ  แต่ใครจะคาดคิดกันเล่าว่าพันปีต่อมาเขาจะกลายเป็นเทพพารากอน?  ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่ามีคนหลายคนมาพูดเรื่องเดียวกันซ้ำๆ และว่าพวกเขาทุกคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือชั้นสูงที่ไม่มีทางโกหกได้  แม้แต่ข้าก็คงไม่เชื่อเหมือนกัน”
 “เทพพารากอน”  การ์วีย์ถอนหายใจทึ่ง
ตั้งแต่มีข่าวว่าลินลี่ย์เป็นเทพพารากอนแพร่กระจายออกไป  ยอดฝีมือระดับผู้บัญชาการต่างๆ เริ่มพูดคุยปรึกษาในหมู่พวกเขา  และหลายคนมาแสดงความเคารพที่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
นี่เองจึงเป็นเหตุให้สมาชิกตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์พลอยรู้สึกว่าสถานะของตระกูลพวกเขาได้รับการยกระดับไปด้วย!
พวกเขาให้กำเนิดเทพพารากอน!  สถานะของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้ยิ่งใหญ่มากกว่าแต่ก่อน  นอกจากมหาเทพแล้ว  ไม่มีใครกล้าล่วงเกินตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  สำหรับเหล่ามหาเทพ เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะลดตัวลงมาจัดการกับตระกูลๆ เดียว?
 “การ์วีย์”  กัซลีสันพูดทันที
 “ท่านประมุข?”  การ์วีย์มองดูเขาด้วยความสงสัย
กัซลีสันรีบกล่าว  “ติดต่อไปที่หน่วยสื่อสารที่ประจำการอยู่ที่ชายแดนภูเขาได้ไหม?”
 “พวกเขาทุกคนได้รับมอบหมายงานแล้ว”  การ์วีย์หัวเราะ  “ท่านประมุขไม่ต้องกังวล  ถ้าลินลี่ย์กลับมาจากยมโลก  ตราบเท่าที่เขามาถึงเชิงเขา  ข่าวจะถูกส่งมาที่ท่านและประมุขเผ่าอีกสามคนอย่างรวดเร็ว  การเตรียมการต้อนรับการกลับมาของลินลี่ย์ทั้งหมดได้จัดการไว้แล้ว  รวมทั้งการก่อสร้างคฤหาสน์ให้เขาด้วย”
 “ดีมาก”  กัซลีสันหัวเราะและพยักหน้า  “ไม่มีอะไรผิดพลาดได้!  ลินลี่ย์มาจากทวีปยูลาน และเขาไม่เคยมีความรู้สึกเป็นคนของตระกูลอย่างแรงกล้ามาก่อน  หลังจากเรื่องที่ฟอร์ลันและลูกชายก่อขึ้น..แม้ว่าลินลี่ย์จะปฏิบัติต่อตระกูลเป็นอย่างดีก็เป็นเพราะกลุ่มของบาลุค  เราจะต้องถือว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว!
 “ข้าเข้าใจ”  การ์วีย์พยักหน้า
เท่าที่กัซลีสันและประธานผู้อาวุโสกังวล ลินลี่ย์ที่เป็นเทพพารากอนในปัจจุบันนี้ยังสำคัญมากกว่าเบรุตเสียอีก!
เบรุตนั้นทรงพลัง  แต่เขาก็ยังเป็นคนนอก  ถ้าตระกูลเผชิญกับวิกฤติ เบรุตอาจไม่จำเป็นต้องแทรกแซง
แต่ลินลี่ย์เป็นคนของพวกเขาเอง!
แม้ว่าในอดีต จะมีความเข้าใจผิดกันบางอย่าง แต่ในที่สุดเขาก็ยังคงเป็นสมาชิกเผ่ามังกรฟ้า  สิ่งที่จำเป็นต้องทำในเวลานี้ก็คือ..กำจัดความเข้าใจผิดเหล่านั้นที่ค้างคาอยู่ในใจของลินลี่ย์ และให้ลินลี่ย์มีความรู้สึกว่าเป็นคนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง
แคว้นอินดิโก ในอสูรโลหะโดยสารรูปมังกรขนาดใหญ่กำลังบินด้วยความเร็วสูงเหนือป่าและเขา
ภายในอสูรโลหะมีแต่ภาพที่น่าปิติยินดี
 “ปู่!
 “ทวด!
กลุ่มเด็กหนุ่มสาวรายล้อมฮ็อกและพูดคุยเรื่องต่างๆ ไม่หยุด  ฮ็อกมองดูหลานเหลนของเขาด้วยใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม
 “พี่ใหญ่ดูสิ  ท่านพ่อหัวเราะมีความสุขมากมายขนาดไหน”  วอร์ตันและลินลี่ย์อยู่ที่ริมห้องใหญ่ของอสูรโลหะ  สองพี่น้องพูดคุยกันเอง
ลินลี่ย์ชำเลืองมองบิดาของเขาที่กำลังยิ้มสงบขณะที่มีลูกหลานรายรอบเขา  จากนั้นพยักหน้า  “ในอดีตเมื่อเรายังอายุน้อย ตระกูลบาลุคเราอยู่ในจุดตกต่ำมาก ตลอดชีวิตของท่านพ่อนอกจากท่านแม่และเราสองคนแล้ว สิ่งเดียวที่ท่านห่วงใยก็คือเรื่องของตระกูล!  ท่านพ่อห่วงเรื่องความสามารถและการเติบโตของตระกูล  ตอนนี้มีคนหลายรุ่นอยู่ในตระกูล.. ท่านพ่อย่อมมีความสุขเป็นธรรมดา”
ขณะนั้นเอง มีอีกสามคนเดินเข้ามาสมทบ
 “น้องสาม!
เยล จอร์จและเรย์โนลด์เดินเข้ามาสมทบ  เรย์โนลด์ก็ร่วมเดินทางมาจากทวีปยูลานด้วยเช่นกัน
 “พี่ใหญ่, พี่รอง น้องสี่ มานั่งตรงนี้เถอะ”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขาชี้  เยลและอีกสองคนนั่งลง  เรย์โนลด์หัวเราะขณะมองดูนอกหน้าต่างและถอนหายใจชื่นชม  “แดนนรก หนึ่งในพิภพระดับสูง  นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาที่นี่  ความจริง ความหนาแน่นของรัศมีธาตุที่นี่ยิ่งใหญ่มาก  เพียงแต่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่ากันอย่างต่อเนื่อง”
จากภายในอสูรโลหะ  พวกเขาสามารถเห็นการต่อสู้ที่เป็นไปในเบื้องล่างอยู่เรื่อย
 “นั่นคือความเป็นไปของแดนนรก”  ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างเยือกเย็น
 “ก็เหมือนกับในแดนภูตผี  ยอดฝีมือมีชีวิต  ยอดฝีมือตาย  น้องสี่!  ข้าก็น่าประทับใจไม่ใช่หรือ?  เอาชีวิตรอดอยู่ได้ในแดนภูตผีมาได้ตั้งหลายปี”  เยลเลิกคิ้วอย่างอารมณ์ดี
เมื่อเห็นสีหน้าของเยลแล้ว เรย์โนลด์ จอร์จและลินลี่ย์มีความสุขกันทุกคน  นี่คือเยลอย่างแท้จริง  หลังจากฆ่าโอดินได้  เยลไม่รู้สึกกดดันทุกข์ทรมานใจเหมือนอย่างเมื่อก่อนอีกต่อไป
ในห้องโถงใหญ่ มีคนมากกว่าร้อยคนกระจายอยู่และพูดคุยกัน
เมื่อเห็นภาพนี้ลินลี่ย์อดยิ้มเล็กน้อยไม่ได้
ลินลี่ย์เพลิดเพลินมีความสุขกับความรู้สึกนี้
 “โลกนี้..ในหลายๆ กรณี ต้องพูดกันด้วยพลัง”  ลินลี่ย์มองดูฉากภาพที่อบอุ่นและพูดกับตนเองเบาๆ “ข้าฝึกฝนอย่างหนัก  เพียงเพราะให้พลังข้าแข็งแกร่งถึงระดับ จนบิดา สหายและครอบครัวสามารถกลับมารวมตัวกันได้อีกครั้ง  ข้าสามารถนำพาตระกูลทั้งหมดมาจากพิภพโลกธาตุได้!
ตอนนี้ในที่สุดลินลี่ย์ก็รู้สึกได้ว่า...
ความพากเพียรพยายามที่ขมขื่นในการฝึกฝนอย่างหนักหลายปีมานี้ให้ผลที่หอมหวาน
หลังจากบินมาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
 “เรากำลังจะถึงตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์แล้ว”  บีบีอยู่ในห้องโถงใหญ่ในอสูรโลหะพูดพลางหัวเราะเสียงดังชัด  “ทุกคนเตรียมตัวพร้อมหรือยัง  ท่านลุง!  บีบีมองดูฮ็อก  “บรรพบุรุษของตระกูลบาลุคของท่านอยู่ที่นั่นท่านลุง,  มีทั้งบาลุค, ไรอัน และคนอื่นๆ...”
 “บรรพบุรุษของตระกูลบาลุค...”  ฮ็อกลุกขึ้นยืน ค่อนข้างจะตื่นเต้น  เขาเดินมาดูที่หน้าต่างมองผ่านหน้าต่างใสออกไปข้างนอก
เขาสามารถเห็นภูเขาสกายไรท์แล้ว
 “บรรพบุรุษของตระกูล!
เทย์เลอร์ ซาชาและสมาชิกคนอื่นของตระกูลเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้  แม้ตั้งแต่พวกเขาเป็นเด็ก  พวกเขาก็มักจะได้รับการตอกย้ำว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของตระกูลบาลุค  พวกเขาเต็มไปด้วยความเลื่อมใสต่อบุรุษผู้เป็นตำนานของตระกูล  แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายต่อตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
 “อยู่ข้างหน้านี้แล้ว”  ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างเยือกเย็น
อสูรโลหะหายไปทันที  ขณะที่ลินลี่ย์และสมาชิกร้อยกว่าคนลอยตัวอยู่ในกลางอากาศและบินไปที่ที่ตั้งของเผ่ามังกรฟ้าภายในภูเขาสกายไรท์
 “เป็นรูปแกะสลักที่ยาวจริงๆ  ข้ามองไม่เห็นท้ายของรูปสลักเลย” อาร์โนลด์ร่างใหญ่ถอนหายใจชื่นชม
ลินลี่ย์หัวเราะ  “นั่นไม่ใช่รูปสลัก  นั่นคือถนนมังกร!  เป็นเส้นทางที่กินพื้นที่เกือบหนึ่งในสี่ของภูเขาสกายไรท์และยาวมากกว่าหมื่นกิโลเมตร  เป็นเส้นทางหลักที่พวกทหารประจำเผ่าใช้ลาดตระเวน
กลุ่มของลินลี่ย์ร้อยกว่าคนบินเข้าไปหา  พวกทหารข้างล่างพอมองเห็น และหน่วยสื่อสารที่เตรียมการกับเหตุการณ์นี้มานาน ต่างพากันดีใจ  “ผู้อาวุโสลินลี่ย์กลับมาแล้ว!  หน่วยสื่อสารเหล่านี้มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ประจำอยู่คนละที่  และหลายคนอาศัยร่างแยกศักดิ์สิทธิ์คอยส่งข่าวสารไปในตำแหน่งต่างๆภายในตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
 “ท่านประมุข!  ผู้อาวุโสลินลี่ย์กลับมาแล้ว”
 “โอว, ลินลี่ย์กลับมาแล้วหรือ?”  กัซลีสันบินออกไปทันที
ไม่ใช่แค่กัซลีสันเท่านั้น  ประมุขเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์อีกสามก็ออกมาพร้อมกับผู้อาวุโสหลายคน ที่พอได้รับข่าวก็รีบตามมาสมทบเช่นกัน
ลินลี่ย์และกลุ่มของเขามีคนมามากกว่าร้อยคน  และขณะที่เขากำลังมาอยู่นั้น นักรบของตระกูลทุกคนพากันทำความเคารพ
 “คารวะผู้อาวุโสลินลี่ย์”  นักรบแสดงความเคารพนับถือ
ลินลี่ย์ยิ้มและพยักหน้า  จากนั้นนำกลุ่มของเขาไปตามถนนมังกรแห่งภูเขาสกายไรท์  ขณะเดียวกันเขาแนะนำสถานที่ให้วอร์ตันและคนอื่นๆ  “กฎของเผ่าตระกูลเข้มงวดมาก  พวกเจ้าเพิ่งมาถึง ในอีกไม่ช้าจะมีตราประจำตัวให้พวกเจ้าทุกคน  เอ๊ะ?”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้วทันที ขณะมองดูในที่ไกล
 “เกิดอะไรขึ้น?”  บีบีชำเลืองมองดูเขา
เดเลีย นีซ เยลและคนอื่นมองดูในที่ไกล  จากในที่ไกลมีคณะกลุ่มใหญ่กำลังบินเข้ามาโดยมีกัซลีสัน ประมุขเผ่าพญาเต่าดำ และประมุขอีกสองคนเป็นผู้นำ  ด้านหลังพวกเขาเป็นประธานผู้อาวุโสและคนอื่นๆ
 “ทำไมสมาชิกคนสำคัญระดับสูงของเผ่าพากันมาที่นี่กันหมด?”  ลินลี่ย์ตกใจ  “แม้แต่เจ้าแม่เผ่าหงส์เพลิงก็มาด้วย  ถ้าพวกเขาบินมาจากที่พำนักพวกเขา น่าจะใช้เวลามาก  พวกเขามาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?”
ปฏิกิริยาของตระกูลนั้นเร็วมาก
ในไม่ช้าที่เขามาถึง ขณะที่เขาเพิ่งเข้าถึงถนนมังกร คนกลุ่มใหญ่เหล่านี้ก็มาถึงเช่นกัน  แม้ตอนที่เบรุตมา ก็มีแต่เพียงประมุขเผ่าและประธานผู้อาวุโสออกมาต้อนรับเขาเท่านั้น
 “ฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์!  กัซลีสันหัวเราะลั่นขณะบินเข้ามา
 “ท่านประมุข”  แม้ว่าลินลี่ย์จะค่อนข้างสงสัย แต่เขาก็ยังทักทายประมุขเผ่า
ลินลี่ย์กวาดสายตามอง  ประมุขเผ่าพญาเต่าดำ เจ้าแม่เผ่าหงส์เพลิงและคนอื่น  แม้แต่ประธานผู้อาวุโสที่ขัดแย้งกับเขา.. หน้าของพวกเขามีรอยยิ้มเหมือนกันหมด  ดูเหมือนพวกเขาดูอบอุ่นเป็นกันเอง
 “แม้ว่าเราอยู่ในแคว้นอินดิโก  แต่เราได้ยินได้ทราบถึงความกล้าหาญของเจ้าในสงครามมหาพิภพมานานแล้ว  ฮ่าฮ่า.. ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเรามีเทพพารากอน เรื่องนี้สมควรที่เราจะทำการเลี้ยงฉลองเหตุการณ์ที่น่าปิติยินดีนี้”  กัซลีสันดูเหมือนจะดีใจจนตื่นเต้น  “งานเลี้ยงฉลองจัดเตรียมไว้แล้ว  เรากำลังรอเจ้า ฮ่าฮ่า บีบี..และโอว..คนเหล่านี้ต้องเป็นสหายของลินลี่ย์ พวกเจ้ามากันให้หมดทุกคนเลย!  ฮ่าฮ่า”

12 ความคิดเห็น:

Ko Surapong กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นั่นไง ถึงกับจัดงานเลี้ยงฉลองเลย เกินคาด อิ อิ

Boybravo กล่าวว่า...

ชื่นบานกันไป ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

แปดตระกูบลองมายั่วตอนนี้ดิรับรอวไม่ได้กลับสนุกมากๆๆครับ

Unknown กล่าวว่า...

ครื้นเคลงกันไปเลย ขอบคุณครับ

LScreaM กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

Toffee กล่าวว่า...

สุขสักครั้งนะลินลีย์ ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​

เนพื กล่าวว่า...

แปดตระกูลก็โดนมาเยอะ ตระกูลพระเอกตอนมีอำนาจก็พอตัวเหมือนกัน

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

แปดตระหูลกระเจิงตั้งแต่เหนลินลีย์เปนเทพชั้นสูงละ หัวหดกันหมด5555

samchay กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น