เล่ม 20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 44 ไปทางใด?
พารากอนอีกแปดคนมองหน้ากันเอง จากนั้นพวกเขาถอยออกมาอยู่ห่างๆ
โดยไม่ต้องบอกมองดูภาพที่น่าขันนี้
“ทำไมประมุขมหาเทพแห่งแสงถึงฉายภาพร่างแยกพลังงานที่นี่?” ดันนิงตันส่งสำนึกเทพถามพารากอนอื่น
“บางทีเขาคงไม่ยินยอมรับผลเช่นนี้ก็ได้” เนเนซตอบผ่านสำนึกเทพ
“หลังจากข้าได้รับเพชรกระจับแดง
ประมุขมหาเทพแห่งแสงก็เข้ามิติปั่นป่วนและรีบมาที่นี่ตลอดเวลา บางทีเขาคงหงุดหงิดอยู่ก็ได้” คลีเมนไทน์ส่งสำนึกเทพตอบและยิ้ม
แม้ว่าโดยผิวเผิน
เทพพารากอนจะประพฤติตามมารยาท
แต่ในใจพวกเขา พวกเขายังรู้สึกรังเกียจต่อมหาเทพบางคน
เทพพารากอนกลายเป็นพารากอนผ่านความสามารถของพวกเขา
มหาเทพเล่า?
โชคคือสิ่งที่เกิดขึ้นจึงทำให้ได้รับประกายมหาเทพ
เท่าที่พารากอนเห็น
มหาเทพเกือบทั้งหมดเกิดมาก่อนในจักรวาลและมีโชคดีกว่าเล็กน้อย
“ทุกคน, พวกเจ้าคิดว่าลินลี่ย์จะเหยียบย่ำร่างพลังงานของประมุขมหาเทพแห่งแสงหรือเปล่า?” พารากอนแห่งน้ำ บุรุษผู้มีหน้ากลมส่งสำนึกเทพถาม
“ข้าไม่คิดอย่างนั้น แม้ว่านี่จะเป็นแค่ร่างพลังงาน แต่ก็เป็นร่างฉายพลังงานของประมุขมหาเทพ ถ้าลินลี่ย์จะทำอะไร ก็เท่ากับไม่เห็นแก่หน้าของประมุขมหาเทพ
การจบลงด้วยการดึงดันกับประมุขมหาเทพ ไม่ใช่เรื่องดีเลย” พารากอนแห่งไฟ บาล์มส่งสำนึกตอบ
ร่างของประมุขมหาเทพแห่งแสงไม่สามารถเข้ามาในพิภพโอคาลุนด์ได้เช่นกัน นี่เป็นแค่ภาพฉายร่างพลังงาน ภาพฉายผ่านพิภพแฝงไปด้วยพลังจิตของมหาเทพ ภาพฉายพลังงานถูกสร้างโดยใช้พลังที่ยืมมาจากมหาเทพ
ภายฉายร่างแยกพลังงานเข้าใจเคล็ดลึกลับ แต่ไม่มีพลังของปณิธานแฝงอยู่ด้วย
“แม้ว่าภาพฉายพลังงานนี้จะเป็นของประมุขมหาเทพก็ตาม แต่ภาพฉายพลังงานก็ไม่มีพลังของปณิธาน ในแง่ของพลัง มีพลังเทียบเท่าเจ้าแคว้นธรรมดา”
ลินลี่ย์ไม่รู้สึกกังวลเรื่องประมุขมหาเทพแห่งแสงที่อยู่ต่อหน้าเขา นี่เป็นแค่ภาพฉายร่างพลังงานไม่มีผลอะไรต่อลินลี่ย์มากนัก
ภายฉายพลังงานขนาดใหญ่จ้องมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา
“คลีเมนไทน์,
เพชรกระจับแดงถูกลินลี่ย์ชิงเอาไปได้ยังไง?”
ภาพฉายพลังงานมองดูคลีเมนไทน์
คลีเมนไทน์หัวเราะอย่างเก้อเขินทันที “ท่านประมุขมาหเทพ, ท่านไม่รู้หรือว่าลินลี่ย์มีพลังถึงระดับใดแล้ว เขาไม่ใช่แค่เทพชั้นสูงพารากอน ร่างของเขาเทียบได้ระดับเดียวกับแฮมเมอร์กับเบรุต
พอๆ กับสมบัติมหาเทพ
พลังโจมตีวัตถุของเขาทรงพลังมากกว่าข้าถึงสิบเท่า
บางทีอาจร้อยเท่าก็ได้
ไม่มีทางที่ข้าจะทำอะไรได้!”
“เป็นไปได้ยังไง?”
ประมุขมหาเทพแห่งแสงจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
ในบันทึกในประวัติศาสตร์
ไม่เคยมีสุดยอดฝีมือคนไหนที่มีร่างแข็งแกร่งเทียบได้กับสมบัติมหาเทพและสามารถกลายเป็นพารากอนได้
“นี่เป็นเรื่องจริง” บาล์มพารากอนแห่งไฟหัวเราะ “เราเห็นกับตาตัวเอง และไม่ใช่แค่นั้น
ในแง่ความเร็วก็เช่นกัน เขาเหนือกว่าเรามากมาย
คลีเมนไทน์ไม่สามารถหนีได้พ้น
เขาไม่มีทางเลือกอื่น...มีแต่ต้องส่งมอบเพชรกระจับแดงออกไป”
ประมุขมหาเทพแห่งแสงมองดูลินลี่ย์
“ท่านประมุขมหาเทพ, ข้าขอบังอาจถาม
ตอนนี้ข้าไปได้หรือยัง?” ลินลี่ย์ถาม
“เจ้าต้องการไปหรือ?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงแค่นเสียงเย็นชา แต่น่าเสียดายนี่เป็นแค่ร่างฉายพลังงานเท่านั้น
ประมุขมหาเทพแห่งแสงแค่ได้แต่พูดเท่านั้นในตอนนี้
บีบีที่อยู่ข้างตัวลินลี่ย์พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “ประมุขมหาเทพ
การต่อสู้เพื่อชิงเพชรกระจับแดงในพิภพโลกธาตุเป็นเรื่องของเราเหล่าเทพ ที่นี่ในพิภพโลกธาตุ เราสู้กันอย่างยุติธรรม
และผู้แข็งแกร่งที่สุดจะได้เพชรไปในที่สุด
พี่ใหญ่ข้าในตอนนี้ก็ได้เพชรมาแล้ว ดังนั้นเพชรเป็นของพี่ใหญ่ข้าเป็นธรรมดา ท่านประมุขมหาเทพ! ทำไมท่านต้องส่งภาพฉายร่างพลังงานมาที่นี่ด้วย? ท่านต้องการคุกคามพี่ใหญ่ข้าหรือ?”
ประมุขมหาเทพแห่งแสงมีสีหน้าบูดบึ้ง
เขาเป็นฝ่ายผิดแน่นอนในเรื่องนี้!
แปดเทพพารากอนอื่นทุกคนมีมหาเทพหนุนหลังพวกเขา การต่อสู้กันในพิภพโอคาลุนด์เป็นการต่อสู้สำหรับเทพ มหาเทพไม่ควรเข้ามาแทรกแซง
ถ้าเขาแทรกแซงและคุกคามลินลี่ย์
จะเป็นยังไงถ้ามหาเทพอื่นทำอย่างเดียวกันบ้าง?
พารากอนอื่นควรจะทำอย่างไร?
“ลินลี่ย์”
ประมุขมหาเทพแห่งแสงข่มความโกรธในใจเขาขณะที่มองดูลินลี่ย์
“ข้ารู้ว่าดันนิงตันถูกส่งมาโดยประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง อย่างนั้นเจ้าก็คงไม่ใช่ถูกส่งมา บางทีมหาเทพเรดบุดอาจเป็นผู้หนุนหลังเจ้า เอาอย่างนี้เป็นไง เจ้ามอบเพชรกระจับแดงให้ข้า! สำหรับมหาเทพเรดบุด ข้าจะพูดกับนางแทนเจ้าเอง ถ้าเจ้าให้ข้า ก็อาจถือได้ว่าข้าเป็นหนี้ความดีความชอบเจ้าอย่างหนึ่ง
เจ้าจะว่ายังไง?”
ถ้าเขาไม่สามารถใช้กลอุบาย
เขาจะใช้วิธีที่อ่อนลง
“ความดีความชอบอย่างหนึ่ง?” ลินลี่ย์เตรียมจะพูดบางอย่าง แต่ทันใดนั้น...
“ฮ่าฮ่า, ออกุสตา, วิธีการของเจ้าไม่ดีเอาเสียเลย” เสียงทุ้มลึกกึกก้องดังขึ้น
และคลื่นพลังงานชะลอลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้งหนึ่ง
ต่างจากพลังงานแสง คลื่นพลังงานนี้สีดำสนิท
และดูเหมือนเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต เป็นพลังของมหาเทพวิถีทำลายล้าง
และจากนั้นจึงเริ่มกลายเป็นภาพพร่าเลือน
ประมุขมหาเทพแห่งแสง
เมื่อเห็นสถานการณ์ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“ประมุขมหาเทพแห่งวิถีทำลายล้าง” ลินลี่ย์รำพึงในใจ
“ลินลี่ย์
ข้าเองก็แจ้งบอกประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างเอง”
ดันนิงตันส่งสำนึกเทพบอก
ลินลี่ย์ยังคงรู้ว่าเทพพารากอนทั้งหมดนี้มีวิธีที่พวกเขาติดต่อกับมหาเทพที่หนุนหลังพวกเขาอยู่
“ลินลี่ย์และข้ามีส่วนร่วมอิสระในการเจรจา เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาห้ามเรา?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงกล่าว
“ฮ่าฮ่า..” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างหัวเราะลั่น “เจ้าเรียกว่านี่เป็นความอิสระได้ยังไง? เจ้ากำลังข่มเหงเขาด้วยพลังของเจ้า เจ้าประมุขมหาเทพแห่งแสงกำลังขอให้ลินลี่ย์ทำเช่นนี้ แต่ถ้าข้าทำอย่างเดียวกันบ้างเล่า? ถ้าประมุขมหาเทพวิถีชีวิต ประมุขมหาเทพวิถีมรณะ ประมุขมหาเทพธาตุมืด
และประมุขมหาเทพอื่นทำอย่างนี้บ้างเล่า?
บอกข้าที ลินลี่ย์จะเลือกได้อย่างไร?”
ประมุขมหาเทพแห่งแสงไม่ส่งเสียงแต่อย่างใด
การปรากฏตัวโดยร่างฉายพลังงานของเขาเนื่องจากต้องการให้คนอื่นเห็นจุดที่น่ากลัวของการกระทำของเขา
ความจริง
เหตุที่เขาทำเช่นนี้เพราะเขาเชื่อว่าของชิ้นนี้ตกเป็นของเขาแล้ว เขาเดินทางมาไกลขนาดนั้นผ่านมิติปั่นป่วน
แต่แล้วเขาได้รู้กะทันหันว่าของๆ เขาหายไปแล้ว
เป็นธรรมาดาที่ประมุขมหาเทพแห่งแสงจะโกรธและไม่พอใจ และฉายภาพร่างแยกพลังงานออกมา
“ประมุขมหาเทพผู้นี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าคนธรรมดาเลย” บีบีพูดทางใจกับลินลี่ย์
“เป็นธรรมดา
ประมุขมหาเทพคนหนึ่งก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่ง
หลังจากกลายเป็นเทพชั้นสูงก็มีโชคดีพอได้รับประกายมหาเทพจากนั้นหลอมรวกับประกายนั้น
และกลายเป็นมหาเทพ
แค่เพียงเพราะพวกเขาหลอมรวมกับประกายมหาเทพไม่ได้หมายความว่าอารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาจะเปลี่ยนไป พวกเขาไม่ยุ่งกับเรา นี่เป็นวิธีการแสดงความเหนือกว่า!
แต่เมื่อมีการต่อสู้ที่เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาเองสนใจ อย่างเช่นการต่อสู้เพื่อชิงเครื่องรางจอมเทพ
ความโลภหรือความบ้าอำนาจของพวกเขาจะเปิดเผยตัวออกมา” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพตอบ
“ประมุขมหาเทพแห่งแสงผู้นี้เป็นพวกบ้าอำนาจจริงๆ”
บีบีหลังจากพบกับประมุขมหาเทพแห่งแสงหลายครั้งก็อดตัดสินอย่างนี้ไม่ได้
“ประมุขมหาเทพแห่งแสงชอบเอาชนะ เขาเป็นแบบนี้เสมอ
แม้แต่ประมุขกัซลีสันก็บอกเรื่องนี้ไว้กับข้า”
ลินลี่ย์ยังจำคำที่กัซลีสันพูดกับเขา
กัซลีสันสงสัยว่าบรรพบุรุษทั้งสี่ของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกประมุขมหาเทพแห่งแสงฆ่า
เขายังอธิบายถึงนิสัยของประมุขมหาเทพแห่งแสงให้เขาฟัง
ขณะที่ลินลี่ย์และบีบีกำลังคุยผ่านการเชื่อมโยงวิญญาณ ประมุขมหาเทพแห่งแสงและประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างก็คุยเช่นกัน
“ก็ได้ ไม่ว่าเราคนไหนจะไม่บังคับลินลี่ย์
ลินลี่ย์จะเลือกด้วยตนเองว่าเขาจะเสนอเพชรกระจับแดงให้ใคร” ประมุขมหาเทพแห่งแสงอดมองมาทางลินลี่ย์ไม่ได้
“ลินลี่ย์!
เจ้าสามารถเลือกด้วยตนเองเลยว่าจะเสนอให้มหาเทพใดตามที่เจ้าต้องการโดยไม่ต้องสนใจว่ามหาเทพคนใดจะคิดยังไงกับเจ้า
ที่สำคัญมีเพชรกระจับแดงเพียงเม็ดเดียวเท่านั้นขณะที่มหาเทพมีตั้งหลายสิบคน!”
ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างมองดูลินลี่ย์
ประมุขมหาเทพแห่งแสงจ้องมองลินลี่ย์ ดวงตาของเขาเรียบเฉย
“ขออภัย, ประมุขมหาเทพแห่งแสง” ลินลี่ย์ยิ้ม
หน้าของประมุขมหาเทพแห่งแสงเปลี่ยนไปทันที
“ฮึ่ม.. เจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีชั่วสำหรับตนเองเลยจริงๆ”
ประมุขมหาเทพแห่งแสงชำเลืองมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา
และจากนั้นภาพฉายร่างพลังงานหายไปทันที
อย่างไรก็ตามลินลี่ย์สีหน้าไม่เปลี่ยน
เขายืนนิ่งอยู่กับที่ในกลางอากาศ
และหน้าของเขาค่อยมีรอยยิ้มอีกครั้งหนึ่ง
“ฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์ ทำได้ดีมาก” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างหัวเราะอย่างสบายๆ
“เจ้าสามารถเลือกได้ว่าจะให้เพชรกระจับแดงกับใคร
จะให้กับข้าก็ได้เหมือนกัน
แต่ข้าไม่บังคับเจ้า” และจากนั้นภาพฉายร่างพลังงานของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างก็หายไปเช่นกัน
โลกกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
คลื่นทะเลยังคงม้วนเกลียว
และพารากอนอื่นบินเข้ามาสมทบพร้อมกับหัวเราะ
“ฮ่าฮ่า, พี่ใหญ่
หน้าของประมุขมหาเทพแห่งแสงนั้นตลกเป็นบ้า”
บีบีดีใจ
“ข้าล่วงเกินประมุขมหาเทพแห่งแสงไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ข้ายังล่วงเกินเขาอีกครั้ง” ลินลี่ย์ถอนหายใจอย่างจงใจ
“นั่นเป็นอารมณ์หงุดหงิดชั่วครั้งคราวของประมุขมหาเทพแห่งแสง”
คลีเมนไทน์หัวเราะ ขณะที่พูดคลีเมนใช้สำนึกเทพปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ
เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการให้เทพชั้นสูงอื่นได้ยินคำพูดระหว่างพารากอนด้วยกัน
“ฮึ่ม, กลุ่มมหาเทพนั่น
อย่าได้ถูกหลอกด้วยทัศนคติสูงส่งที่พวกเขาแสดงออกมาตลอดเลย
เมื่อมีเรื่องเล็กน้อยเกิดขึ้นที่พวกเขาใส่ใจหรือบางเรื่องที่ทำให้พวกเขาต้องเสียหน้าเล็กน้อย
พวกเขาจะโกรธ”
บาล์มพารากอนแห่งไฟแค่นเสียง “ความจริงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายอยู่แล้ว พวกเขามีศักดิ์ศรีสูงส่ง
ถ้าใครทำให้พวกเขาโกรธ
บางทีอาจทำให้พวกเขาโกรธจนทำให้พวกเขาต้องมาหาผู้ล่วงเกินพวกเขาด้วยตนเอง”
“อย่างไรก็ตาม
มีเพียงมหาเทพส่วนน้อยที่อารมณ์เสีย” ดันนิงตันพูดพร้อมกับยิ้ม “มหาเทพส่วนใหญ่เป็นคนดี”
“ฮึ่ม,
พวกเขาแค่เกิดก่อนไม่นานหลังจากพิภพก่อกำเนิด
พวกเขาแค่เป็นเทพชั้นสูงกลุ่มแรกๆ จากนั้นโชคดีได้รับประกายมหาเทพและหลอมรวมกับมัน” พารากอนแห่งวิถีชีวิตพูดชัดเจน
“ในแง่ของกฎเคล็ดส่วนใหญ่ของมหาเทพยังจะด้อยกว่าเรา แม้ว่าพวกเขาจะสนุกกับพลังอำนาจมหาศาลก็ตาม!”
“ข้าเห็นมหาเทพมามาก
แต่ประมุขมหาเทพแห่งแสงอวดบ้าอำนาจที่สุดในบรรดาพวกเขาแล้ว” ลินลี่ย์กล่าว
“ฮ่าฮ่า, ประมุขมหาเทพแห่งแสงคือตำนานในเรื่องนิสัยชอบถืออำนาจอยู่แล้ว แม้แต่ในโลกธาตุ ศาสนจักรต่างๆ
ศาสนจักรแห่งแสงจะมีอำนาจครอบงำที่อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ประมุขมหาเทพแห่งแสงก็ยังทรงพลัง เขามีคุณสมบัติพอให้บ้าอำนาจได้!” พารากอนธาตุดินสูงสี่เมตรหัวเราะ
“มหาเทพวิถีมรณะผู้เกิดจากหิน
แต่ก่อนสงครามมหาพิภพครั้งก่อนก็เกิดมานับปีไม่ถ้วน
แต่ก็ยังลงมือโจมตีใส่ยอดฝีมือระดับผู้บัญชาการได้”
พารากอนกลุ่มนี้สนทนาถึงมหาเทพอย่างผ่อนคลาย
นี่คือพิภพโลกธาตุ
ไม่จำเป็นต้องกลัวมหาเทพจะตรวจพบผ่านสำนึกเทพได้
หลังพูดคุยเป็นเวลานาน
ลินลี่ย์จึงได้รู้เรื่องเกี่ยวกับมหาเทพเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเขาได้ยิน
ลินลี่ย์ก็ยิ่งรู้สึกว่ามหาเทพไม่มีมีอะไรพิเศษ
พวกเขารู้สึกสนุก, โกรธ, เศร้า, และหัวเราะได้ ไม่ต่างอะไรจากมนุษย์, เทพ
ที่พวกเขาเหนือล้ำกว่าห่างไกล แต่ในแดนนรก
พวกเทพรวมกลุ่มเป็นโจรบ้าง กระทำการเห็นแก่ตัวและก้าวร้าวยิ่งกว่าในโลกมนุษย์
บางที..
มีเพียงสี่จอมเทพที่มีบุคลิกของวิถีแนวทางที่ไร้อารมณ์และความรู้สึกอย่างแท้จริง
“เอาละทุกคน, เรื่องที่นี่ในพิภพโอคาลุนด์จบลงแล้ว
ข้าขอตัวกลับก่อน”
ไบเออร์พารากอนแห่งลมหัวเราะ
หลังจากสนทนาอย่างเป็นกันเองครั้งนี้ทุกคนมีความสนิทสนมเป็นกันเองเพิ่มมากขึ้น
“ไปด้วยกันเถอะ
เราก็ต้องไปเหมือนกัน”
ดันนิงตันและพารากอนคนอื่นๆ
ที่อยู่ใกล้ก็เหมือนกัน
“พี่ใหญ่, ได้เวลาไปกันแล้ว” บีบีรีบกล่าว
“ทุกท่าน, เชิญพวกท่านกลับกันก่อน ข้ามีบางเรื่องต้องจัดการ” ลินลี่ย์พูดขึ้นทันที
พารากอนทั้งแปดแม้จะสงสัยแต่ไม่พูดอะไร
พวกเขากล่าวลาและจากนั้นทั้งแปดคนเริ่มบินไปทวีปฟ็อกดีพ
“พี่ใหญ่ มีอะไรหรือ?” บีบีกล่าว
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
ขณะเขาส่งสำนึกเทพบอกด้วยความกังวล “บีบี,
เมื่อข้าได้รับเพชรกระจับแดง ข้ายังตื่นเต้นเกินไป ข้าไม่ทันคิดถึงรายละเอียดหลายอย่าง แต่ตอนนี้... ตอนนี้พอข้าสงบใจลงได้ ข้าถึงได้รู้ว่าข้าจะกลับโดยผ่านวงเวทเทเลพอร์ตไม่ได้!”
“ไม่สามารถกลับผ่านวงเวทเทเลพอร์ต?” บีบีจ้องมอง
“ใช่แล้ว
วงเวทเทเลพอร์ตจะนำข้าไปยังโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์หรือพิภพชั้นสูง เจ้าควรรู้จักมหาเทพเหล่านั้นทั้งหมดดีว่าต้องการได้รับเพชรกระจับแดง ในพิภพโอคาลุนด์ พวกเขาไม่สามารถสู้กับข้าได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ถ้าข้าเทเลพอร์ตไปพิภพโลกธาตุหรือดินแดนชั้นสูง
บางทีข้าอาจจะพบ...มหาเทพรอข้าอยู่ที่ประตูวงเวทเทเลพอร์ตก็ได้!” ลินลี่ย์ฝืนหัวเราะ
ถ้าทันทีที่เขาเทเลพอร์ตไปที่ใด เขาจะต้องพบเจอมหาเทพทันที...
เขาจบสิ้นแน่นอน ไม่มีโอกาสหลบหนีได้
“แต่ละพิภพจะมีวงเวทเทเลพอร์ตจำนวนจำกัด แดนนรกจะมีอยู่มากมาย
แต่ยมโลกจะมีประตูเทเลพอร์ตอยู่สองแห่ง
อย่างไรก็ตามมีมหาเทพอยู่มากในดินแดนชั้นสูง
โอกาสที่หนึ่งในพวกเขาจะรอพบเจอก็มีสูง!
ต่อให้เป็นมหาเทพน้อยไม่ต้องการมัน
แต่พวกเขาอาจเอาไปให้ประมุขมหาเทพเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานก็ได้” ลินลี่ย์รู้สึกท้อแท้
“พี่ใหญ่ แล้วเราควรจะไปที่ใด?” ตอนนี้บีบีรู้ว่าสถานการณ์น่ากลัวจริงๆ
“ใช่, เราจะไปทางใดดี?” ลินลี่ย์รู้สึกจนใจ
เป็นความจริงที่ว่าเจ็ดโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์และสี่พิภพชั้นสูงมีตำแหน่งให้เทเลพอร์ตหลายจุดซึ่งอาจไม่มีมหาเทพอยู่ใกล้ แต่ลินลี่ย์ไม่สามารถเสี่ยงได้! ถ้าเขาล้มเหลว
เขาจะไม่มีแม้แต่โอกาสจะเสียใจ
“ข้าได้เพชรกระจับแดงมาแล้วแต่ข้าไม่รู้ว่าจะกลับไปพิภพยูลานยังไง” ลินลี่ย์ฝืนหัวเราะ
“เป็นไปได้ไหมว่าเราต้องฉวยโอกาส?” บีบีพึมพำ
13 ความคิดเห็น:
บนกลับเองไปเลย
ขอบคุณครับ
Thx
เอายังไงดี ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ เข้ามิติปั่นป่วนเลยมั้ย 555
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ แล้วจะกลับยังไงละนั่น
ก็รวมมันที่นี่แหละ
ขอบคุณครับ
ยกให้จอมเทพไปเลยจะได้จบๆ
ยกให้จอมเทพ แล้วออกไปพิภพอื่นเจอ มหาเทพ มหาเทพก็ระบายความโกรธนะสิ 555
ก็ได้แค่นั้น ทำไรพี่ลี่ไม่ได้หรอก
ขอบคุณมากๆครับ
แสดงความคิดเห็น