วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เล่ม 21 จุดสุดยอด - ตอนที่ 3 ความจริงเมื่อหมื่นปีที่แล้ว


เล่ม 21 จุดสุดยอด - ตอนที่ 3 ความจริงเมื่อหมื่นปีที่แล้ว
 “ศพของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์หรือ?”  บีบีทวนคำด้วยความตกใจ

ลินลี่ย์จ้องมองศพมังกรฟ้าขนาดมหึมาที่อยู่ต่อหน้าเขา  เกล็ดมังกรของมังกรฟ้ายังคงดูเรียบและดูเหมือนคมเช่นกัน  แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหมื่นปีแล้ว กลิ่นอายของมังกรฟ้าก็ยังแฝงความน่ากลัว  ลินลี่ย์หันไปมองเบรุต  เขาพูดด้วยความสงสัย  “ลอร์ดเบรุต, เนื่องจากท่านและบลูไฟร์สามารถกลายเป็นมหาเทพได้  ก็เพราะประกายมหาเทพของบรรพบุรุษทั้งสี่หรือ?”
มังกรฟ้า หงส์เพลิง เต่าดำ พยัคฆ์ขาว พวกเขาเป็นมหาเทพน้อยธาตุน้ำ ไฟ ดินและลม
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงมหาเทพน้อย แต่ทักษะเทพธรรมชาติของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังมาก  และเมื่อทักษะธรรมชาติทั้งสี่ผสานกันเป็นสุดยอดไม้ตายที่น่ากลัว  พวกเขายังสามารถสู้กับประมุขมหาเทพได้
 “ใช่แล้ว”  เบรุตถอนหายใจจากนั้นพยักหน้า  “ที่สำคัญมีประกายมหาเทพมากมายอยู่ในโลก แต่เป็นเรื่องของโชคจริงๆ ที่ข้าได้รับครั้งเดียวถึงสี่ชิ้น”
 “ปู่!  ปู่ได้รับประกายมหาเทพได้อย่างไร?  เมื่อปู่ได้รับประกายมหาเทพมาตั้งแต่ปู่ยังเป็นแค่เทพชั้นสูงสินะ”  บีบีรีบกล่าว
 “อีกอย่าง ท่านได้ศพของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มายังไง?”  ลินลี่ย์ยังสงสัยเช่นกัน
เบรุตชำเลืองมองบลูไฟร์ และจากนั้นเบรุตหัวเราะ ขณะที่เขามองดูลินลี่ย์กับบีบีจากนั้นพูดพลางถอนหายใจ  “หลังจากเวลาผ่านมานานปีแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดพวกเจ้าอีกต่อไป เกี่ยวกับศพของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ ข้าต้องบอกเจ้าถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อหมื่นปีที่แล้ว  การต่อสู้ระหว่างสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และประมุขมหาเทพแห่งแสง!
 “บรรพบุรุษทั้งสี่ถูกประมุขมหาเทพแห่งแสงฆ่าตายหรือ?”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
 “ถูกแล้ว เป็นประมุขมหาเทพแห่งแสงที่ฆ่าพวกเขา”  เบรุตพยักหน้า
 “ปีนั้น ข้าอยู่ในห้องฝึกส่วนตัว  ลินลี่ย์... ห้องฝึกส่วนตัวนั้นอยู่ใต้ปราสาทเลือดมังกรของเจ้า”  เบรุตหัวเราะ และลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย  เขาคาดเดาได้นานแล้วว่า ต้องเป็นของที่ใช้ฝึกโดยยอดฝีมือที่ทรงพลัง และความจริงก็คือเบรุต!
 “ขณะที่ฝึกข้ามองผ่านเยื่อพลังใสของห้องฝึกและมองเห็นว่าในที่ห่างไกลออกไปในท่ามกลางมิติปั่นป่วนเกิดการต่อสู้ที่น่ากลัวขึ้น เป็นสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์กำลังต่อสู้กับออกุสตาประมุขมหาเทพแห่งแสงอย่างดุเดือด” เบรุตพูดอย่างเคร่งขรึม และลินลี่ย์ตั้งใจฟัง
ดูเหมือนเบรุตจะจมอยู่ในความทรงจำของเขา  “ตอนนั้นข้าตกตะลึงไปหมด  สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายหนึ่ง  และประมุขมหาเทพแห่งแสงอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง  พวกเขาล้วนทรงพลังกันทั้งนั้น ระหว่างการต่อสู้ครั้งนี้ สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นฝ่ายอ่อนแอกว่า  ขณะที่ประมุขมหาเทพแห่งแสงได้เปรียบ สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์กลับคืนร่างอสูรดั้งเดิม นอกจากนี้อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงอำนาจยังผนึกกำลังใช้ทักษะเทพธรรมชาติ!
ลินลี่ย์และบีบีฟังขณะหายใจถี่
 “เป็นเรื่องน่ากลัวมาก และยังแปลกมากด้วย ทักษะเทพธรรมชาติของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์สามารถผสานหลอมรวมกันได้อย่างสมบูรณ์และพวกเขาดูเหมือนจะทำให้โลกเปลี่ยนได้ ลูกบอลแสงยิงเข้าไปในร่างของประมุขมหาเทพแห่งแสง  ขณะนั้นข้าแน่ใจว่าการผสานพลังเทพธรรมชาติของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์คงจะเป็นพลังโจมตีวิญญาณ”  เบรุตพูด
ใจของลินลี่ย์ตึงเครียด
 “ร่างของออกุสตาแค่สั่นสะท้าน แต่หลังจากนั้นเขาชักดาบแสงออกมาและไล่ฟันโจมตีใส่สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่ง  ส่วนใหญ่เนื่องจากความล้มเหลวของสุดยอดไม้ตายโจมตีของพวกเขา สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่อยากเชื่อว่าจะทำให้เขาพ่ายแพ้การต่อสู้  นอกจากนี้ พวกเขาเป็นเพียงมหาเทพน้อย ในแง่ความเร็ว พวกเขายังด้อยกว่าประมุขมหาเทพแห่งแสง”  เบรุตถอนหายใจ  “ในขณะนั้นพญาเต่าดำ, หงส์เพลิงและพยัคฆ์ขาวถูกฆ่าทีละตน แม้ว่าพญามังกรฟ้าจะทรงพลัง แต่เขาไม่สามารถจะต้านทานได้  แต่ในขณะนั้น.. ข้าลงมือทันที”
ลินลี่ย์และบีบีตะลึง
 “นี่เป็นเพราะศพขนาดใหญ่ของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม คือพญาเต่าดำ พญาหงส์เพลิงและพยัคฆ์ขาวลอยเข้าไปในมิติปั่นป่วนและถูกกระแสพลังปั่นป่วนพาลอยห่างออกไป  พวกเขาอยู่ไม่ไกลจากข้า”  ตาของเบรุตเป็นประกาย  “โอกาสอย่างนั้นจะปล่อยให้พลาดได้อย่างไร  ข้าจะทุ่มเทอย่างดีที่สุด ข้าใช้หางหนูกินเทพของข้ายืดเข้าไปในมิติปั่นป่วน  ร่างของข้าถูกปรับแต่งจากประกายเทพ  ดังนั้นจึงแข็งแกร่งพอๆ กับสมบัติมหาเทพ  หางของข้าตวัดออกไปด้วยความเร็วสูง  จากนั้นม้วนเป็นวงและรัดขาของศพมหึมาอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม  ขณะนั้นมหาเทพมังกรฟ้าถูกออกุสตาฆ่าเช่นกัน และหางของข้าก็ยังลากจูงร่างของพวกเขาทั้งสี่เข้ามาในพิภพยูลาน”
ลินลี่ย์และบีบีตะลึงไปมด
สมบัติความมั่งคั่งที่ได้มาจากการเสี่ยงอันตรายที่ยิ่งใหญ่  ลินลี่ย์สามารถคิดได้ถึงการแก้ปัญหาของเบรุตในตอนนั้น!  เขาเสี่ยงชีวิตลงมือด้วยความเร็วสูงเพื่อทำอย่างนี้!
 “ข้าเองก็ตื่นกลัวเช่นกัน  ท่านเหล่านั้นเป็นมหาเทพ!  ถ้าสำเร็จก็หมายความว่าข้าจะกลายเป็นมหาเทพ!  นี่คือโอกาสที่หายาก  ข้าเสี่ยงทุกอย่าง!  เบรุตเริ่มตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อพูดคุยถึงฉากภาพนั้น  “ข้ายังคงโชคดีมาก  ส่วนใหญ่ออกุสตาไม่เคยคิดว่าจะมีบางคนที่กล้าขโมยเนื้อจากปากเสืออย่างนั้น  นอกจากนี้ เขาเพ่งความสนใจอยู่ที่พญามังกรฟ้า เมื่อเขาไล่ตามและฆ่าพญามังกรฟ้า  เขาใช้พลังโจมตีวิญญาณที่ส่งผลให้พญามังกรฟ้ากระเด็นออกไป  ก่อนจะตายมหาเทพมังกรฟ้าพุ่งตรงมาทางพิภพยูลานแต่แรก  ข้าจึงใช้ความได้เปรียบรวบรวมศพของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ไว้ได้!
ลินลี่ย์แทบไม่ได้หายใจ
เขาสามารถคาดคิดได้ว่าฉากภาพนั้นอันตรายเพียงไหน!
อย่างไรก็ตามเบรุตมีโอกาสที่ดีทำให้สำเร็จ ต้องเข้าใจว่าพูดโดยทั่วไปหางของอสูรเวททั้งหมดมีความเร็วอย่างน่าประหลาด  ขณะที่อสูรศักดิ์สิทธิ์หนูกินเทพหางของร่างเดิมเบรุต  ใช้พันและลาก นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขั้นในพริบตา
ถ้าออกุสตาแค่รู้ตัวช้าไปเล็กน้อย บางทีเขาไม่สามารถไล่ทันเบรุต
 “อย่างนั้นมหาเทพมังกรฟ้าบรรพบุรุษของข้าถูกฆ่าตายด้วยพลังโจมตีวิญญาณ”  ลินลี่ย์เข้าใจในตอนนี้แล้วว่าทำไมแหวนมังกรขนดถึงเสียหาย  ถ้ามหาเทพมังกรฟ้าได้รับบาดเจ็บและถูกพลังโจมตีวัตถุของออกุสตาฆ่าตาย  แหวนมังกรขนดคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่เสียหาย
 “ฮ่าฮ่า..”
เบรุตเริ่มหัวเราะดังลั่น  “ออกุสตาตะลึงไปหมด  เขาไม่ทันตั้งตัวในตอนแรก..แต่จากนั้น เขาแทบเป็นบ้าเพราะความโกรธ! ที่สำคัญ เขาเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อฆ่าสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  แต่ข้ากลับชิงเอาทุกอย่างไปทันที  ข้า เทพชั้นสูงขโมยของหลายอย่างไปจากประมุขมหาเทพแห่งแสง  ข้าคงตกใจเป็นแน่ถ้าเขาไม่คลั่งเสียก่อน”
ลินลี่ย์สามารถนึกภาพออกได้หมด
เป็นไปได้ว่าแม้แต่ประมุขมหาเทพแห่งแสงคงไม่มั่นใจความสามารถของเขาว่าจะจัดการกับการผนึกกำลังกันของบรรพบุรุษทั้งสี่  เพียงแต่เขาโชคดีพอที่ป้องกันพลังที่ร่วมกันโจมตีนั้นของบรรพบุรุษทั้งสี่ได้สำเร็จ และจากนั้นก็สามารถฆ่าบรรพบุรุษทั้งสี่ได้ทีละคน
 “ประกายมหาเทพทั้งสี่ นั่นเป็นตัวแทนของมหาเทพสี่คน!  เบรุตหัวเราะเยือกเย็น  “ไม่มีทางที่ออกุสตาจะเข้ามาในพิภพโลกธาตุได้ ดังนั้นทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้ก็คือส่งภาพร่างฉายพลังงานเข้ามาในพิภพยูลานเพื่อต้องการฆ่าข้า”
ลินลี่ย์ลอบพยักหน้า
มหาเทพต่างถิ่นไม่สามารถเข้ามาในพิภพโลกธาตุได้
สำหรับบรรพบุรุษทั้งสี่ เอาเข้ามาได้เพราะตายแล้ว  ศพของพวกเขาและประกายมหาเทพเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตอีกต่อไป  พวกเขาจึงเข้ามาในพิภพโลกธาตุได้
 “ภาพฉายร่างพลังงาน?  นั่นเป็นสิ่งที่ทรงพลังเช่นกัน  เทียบได้กับอสูรเจ็ดดาวแทบจะใกล้เคียงกับเทพอสูร”  เบรุตแค่นเสียง  “น่าเสียดาย แม้ว่าแต่ก่อนที่ข้าจะเป็นมหาเทพ  พลังของข้าก็เหนือกว่าเจ้าครองแคว้นธรรมดา แค่อาศัยอาวุธประกายเทพของข้า  ข้าโจมตีร่างฉายพลังงานจนแตกสลายไป”
ลินลี่ย์หัวเราะ
ด้วยพลังของเบรุตและความรู้แจ้งในเคล็ดลึกลับของกฎธาตุ คงเป็นเรื่องง่ายที่เขาเอาชนะร่างฉายพลังงานได้
 “ตั้งแต่ใช้กำลังแล้วล้มเหลว ประมุขมหาเทพแห่งแสงสร้างภาพฉายร่างพลังงานอื่นอีก เขาขู่ข้าและบอกถึงผลที่จะตามมากับข้าถ้าข้าไม่ยอมมอบประกายมหาเทพ  แต่ข้าไม่สนใจฟัง ข้าหลอมรวมกับประกายเทพธาตุลมทันที!  เบรุตพูดพร้อมกับยิ้ม  “ประมุขมหาเทพแห่งแสงนั้นเชิญพารากอนมาลงมือกับข้า!  การหลอมรวมประกายมหาเทพเกิดขึ้นฉับพลัน
 “เร็วขนาดนั้นหรือ?”  ลินลี่ย์ร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ
 “การหลอมรวมประกายเทพใช้เวลาที่นานมาก”  บีบีประหลาดใจเช่นกัน
เบรุตพูดพลางหัวเราะ  “ทำไมต้องใช้เวลาหลอมรวมประกายเทพนานนักเล่า?  เพราะพวกเจ้าเรียนรู้และได้รับความรู้แจ้งในกฎลึกลับต่างๆ  เป็นธรรมดาที่จะต้องใช้เวลา  แต่ประกายมหาเทพไม่ได้แฝงไว้ด้วยความรู้แจ้งกฎลึกลับ  ดังนั้นประกายมหาเทพจึงถึงหลอมรวมได้ในเวลาวินาทีเดียว
 “หลังจากเสี่ยงชีวิตของข้า  ข้ากลายเป็นมหาเทพและได้รับประกายเทพอีกสาม”  เบรุตพูดพร้อมกับถอนหายใจ
 “ปู่, ... ปู่ร้ายกาจจริงๆ”  ตาของบีบีเต็มไปด้วยแววชื่นชม
ลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความรู้สึกทึ่งเช่นกัน  ถ้าเขาเองเห็นภาพเช่นนั้น เขาจะกล้าขโมยเนื้อจากปากเสือ หรือขโมยจากประมุขมหาเทพแห่งแสงไหม?  นี่ต้องอาศัยความกล้าอย่างแท้จริง  อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีพลังอย่างเพียงพอด้วย! ที่สำคัญเทพชั้นสูงธรรมดาคงไม่สามารถดึงศพของอสูรศักดิ์สิทธิ์จากมิติปั่นป่วนได้แน่
 “แน่นอนว่า นี่ก็ทำให้..ประมุขมหาเทพแห่งแสงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ  เขาต้องการบังคับข้าให้ส่งมอบประกายมหาเทพอีกสามชิ้น  แต่ข้าไม่สนใจเขา”  เบรุตหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “ข้าบอกได้เลยว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงมีอารมณ์ชนิดที่ต้องหาทางแก้แค้นแน่นอน  ในเมื่อข้าล่วงเกินเขาไปแล้ว  ข้าก็คงต้องล่วงเกินเขาไปจนจบ”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อยเช่นกัน
 “ไม่นานหลังจากนั้น  ข้าจงใจเผยแพร่คำว่าสุสานเทพเจ้าถูกสร้างและว่าภายในนั้นมีสมบัติมหาเทพที่สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทิ้งไว้หลังจากตายแล้ว!  ถ้ามีใครต้องการสู้เพื่อครอบครอง? พวกเขาจะต้องมาพิภพยูลาน”  เบรุตหัวเราะ  “หลังจากมหาเทพตาย  ถ้าใครได้สมบัติมหาเทพที่พวกเขาทิ้งไว้ไป ก็จะไม่มีมหาเทพอื่นมาตามยึดคืนไป”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
มีอยู่หลายวิธีที่จะได้รับสมบัติมหาเทพ หนึ่งก็คือสะสมความดีความชอบทางทหารในสงครามมหาพิภพไว้มากพอ  ส่วนวิธีอื่นคือกลายเป็นทูตมหาเทพและรับมอบสมบัติมหาเทพ  ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือรับสมบัติเก่าของมหาเทพผู้ล่วงลับ  ตัวอย่างเช่น นี่เป็นวิธีที่ลินลี่ย์ได้แหวนมังกรขนดมา”
เพียงแต่ โอกาสที่มหาเทพจะตายได้นั้นต่ำมาก
นอกจากนี้กล่าวโดยทั่วไป มีเพียงมหาเทพที่สามารถฆ่ามหาเทพอื่นได้  พวกเขาจะรวบรวมอาวุธมหาเทพเหล่านั้นและไม่ยอมปล่อยให้ของถูกชิงเอาไป
 “สมบัติมหาเทพได้รับการพิสูจน์แล้วว่าล่อลวงมากเกินไป  หลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไป มีคนมากมายรีบมุ่งหน้าสู่พิภพยูลาน บางส่วนก็เป็นอสูรเจ็ดดาวของแดนนรก  แม้แต่เทวทูตสิบสองปีกที่มาจากโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ ผู้ทรงพลังจากพิภพโลกธาตุอื่น การต่อสู้ใหญ่เริ่มขึ้นที่นี่ที่พิภพยูลาน”  เบรุตหัวเราะ  “แต่แน่นอนทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า”
ลินลี่ย์หัวเราะ
ตอนนั้นเบรุตเป็นมหาเทพแล้ว  ไม่ว่าเทพชั้นสูงเหล่านั้นจะต่อสู้ได้ร้ายกาจเพียงใด  พวกเขาจะหนีพ้นไปจากการควบคุมของเบรุตได้ยังไง?
 “ระหว่างการสู้รบนั้น  ข้าแค่แสดงพลังของข้าเพียงเล็กน้อยและทำให้ชื่อเสียงของข้าแพร่กระจายไป  ทันใดนั้นมหาเทพบางส่วนให้ความสนใจข้า”  เบรุตหัวเราะ  “เดิมที เมื่อข้าเก็บศพของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไว้ ออกุสตาไม่กล้าประกาศต่อทุกคน  ดังนั้นมหาเทพทั้งหลายจึงไม่รู้  หลังจากข้ามีชื่อเสียง  มหาเทพบางส่วนส่งร่างฉายพลังงานของพวกเขามาคุยกับข้า ดังนั้นพวกเขาจึงได้ทราบเรื่องนี้  ดังนั้นเองประมุขมหาเทพทำลายล้างจึงได้ขอร้องข้า”
 “ประมุขมหาเทพขอร้องอะไร?  เขาต้องการประกายมหาเทพหรือ?”  บีบีกล่าว
 “ไม่ เขาขอ เลือดบริสุทธิ์ที่สามารถกลั่นมาจากเลือดของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  แหล่งพลังของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มาจากเลือดและการสืบเชื้อสาย  ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างต้องการพัฒนาอะไรบางอย่างจากเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์”  เบรุตถอนหายใจ  “ที่สำคัญ ในบันทึกประวัติศาสตร์มีเพียงสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์สามารถใช้ทักษะเทพธรรมชาติด้วยกันได้”
 “ข้าให้เลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์กับประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง  ประมุขมหาเทพสายทำลายล้างได้ให้สัญญากับข้าว่าตราบเท่าที่ร่างแยกของข้าไม่ไปโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์  เขารับรองว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงจะไม่กล้าฆ่าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้า”  เบรุตกล่าว
ลินลี่ย์และคนอื่นเพิ่งเข้าใจตอนนี้
 “เป็นอย่างนี้นี่เอง มิน่าเล่าประมุขมหาเทพแห่งแสงไม่กล้าลงมือกับท่านในแดนนรก ปู่” บีบีกล่าว
 “แม้ว่าเขาจะทรงพลัง  แต่เขาไม่ใช่คู่มือของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง”  เบรุตหัวเราะ  “ที่สำคัญ ประมุขมหาเทพวิถีทั้งสี่ล้วนทรงพลังทั้งนั้น  ประมุขมหาเทพแห่งชีวิตมีความเป็นมิตร  แต่พลังของเขายากจะหยั่ง  ประมุขมหาเทพวิถีมรณะใช้ชีวิตอย่างสบายอารมณ์ในภูเขาสิ้นหวัง และยังไม่เคยแสดงพลังของนางออกมาเต็มที่  ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างซ่อนความสามารถไว้ลึกมาก  ข้าเองไม่รู้ว่าเขาพัฒนาอะไรจากเลือดกลั่นของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่  ขณะที่มหาเทพวิถีชะตา เขาไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการทางโลก และมักเอาแต่อยู่ภายในแดนสวรรค์เสมอ”
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ  การแลกเปลี่ยนกับประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างสร้างความพอใจให้เขามาก
ทั้งหมดที่ประมุขมหาเทพทำลายล้างต้องทำก็คือไปขู่ประมุขมหาเทพแห่งแสง เพื่อเขาจะได้รับเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ครึ่งหนึ่ง
ต้องเข้าใจว่า แค่เพียงใช้หยดเลือดบริสุทธิ์จากมังกรฟ้า ร่างของลินลี่ย์ก็สามารถเพิ่มพลังขึ้นมากมาย ใครจะคาดคิดได้ว่าพลังที่แฝงอยู่ภายในเลือดบริสุทธิ์ของอสูรศักดิ์สิทธิ์จะมากมายขนาดไหน
 “เลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นความบริสุทธิ์ทรงพลังมาก  ข้าสงสัยเกี่ยวกับเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  ดังนั้นข้าจึงทำการทดสอบบ้างเล็กน้อยเช่นกัน  ข้าใช้เลือดหยดหนึ่งในร่างของมนุษย์ธรรมดาเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ผลของการทดลองครั้งแรกก็คือมนุษย์จะไม่สามารถทนรับพลังนั้นได้  และร่างของพวกเขาจะแหลกสลาย  พวกเขาตายกันมด  อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นมาข้ามีประสบการณ์  และในที่สุดข้าก็ทำได้สำเร็จ!
เบรุตเริ่มหัวเราะ  “และจากนั้นสุดยอดสี่นักรบรุ่นแรกจึงถือกำเนิดขึ้น”
ลินลี่ย์ตกตะลึง
 “สุดยอดสี่นักรบ?”  ลินลี่ย์ตะลึงมองเบรุต  “พวกเขาเป็นผลจากการทดลองของท่าน?”
 “ปู่..ท่าน...”  บีบีก็ตะลึงเช่นกัน
 “อะไรกัน, มันแปลกมากนักหรือไง?”  เบรุตหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “ความจริง ถ้าข้าไม่แทรกแซงชีวิตของบาลุค อาร์มันด์ ไฮด์และเพรย์  พวกเขาคงจะกลายเป็นทหารราบในสมรภูมิรบ และคงไม่มีความสำเร็จอะไรขึ้นเลย  หลังจากการทดลองของข้า  พวกเขากลายเป็นสุดยอดนักรบสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งทวีป”
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว  เท่าที่เบรุตเห็น เพราะมหาเทพเลือกมนุษย์ธรรมดามาทดลองและโดยเฉพาะเป็นการทดลองกับเลือดบริสุทธิ์ของอสูรศักดิ์สิทธิ์.. นี่นับเป็นเกียรติของมนุษย์แล้ว
 “มิน่าเล่าสี่สุดยอดนักรบถึงได้ปรากฏตัวกะทันหันในพิภพยูลาน  นอกจากนี้ไม่มีใครสามารถหาเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”  ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
 “พูดให้ถูกก็คือบาลุคและอีกสามคนที่เหลือควรนับว่าเป็นรุ่นเดียวกับกัซลีสันแห่งตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  บอกตามตรง ข้ายังรู้สึกปลาบปลื้มขอบคุณสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  ที่สำคัญเป็นเพราะพวกเขา  ข้าจึงสามารถกลายเป็นมหาเทพได้”
 “ดังนั้นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าส่งไปแดนนรกจึงพักอยู่ในแคว้นอินดิโก!  มหาเทพบลัดริจรู้สถานะที่แท้จริงของข้า ดังนั้นข้าจึงขอให้เขาช่วยข้าโดยประกาศให้คนอื่นทราบว่าข้าเป็นทูตของเขา  นี่ทำให้ง่ายต่อตัวข้าที่จะปรากฏตัวเพื่อช่วยปกป้องตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์”  เบรุตหัวเราะ  “ถ้าข้าเป็นทูตมหาเทพแท้จริง แล้วข้าจะให้มหาเทพบลัดริจปรากฏตัวออกพูด จากนั้นให้เขาบอกให้แปดตระกูลใหญ่ถอยไปได้ยังไง?”
ลินลี่ย์ถอนหายใจ
เมื่อเบรุตอัญเชิญมหาเทพบลัดริจ มหาเทพบลัดริจก็มาปรากฏและตำหนิแปดตระกูลใหญ่ทำให้พวกเขาถอนกำลังกลับไป  ลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความทึ่ง  ตอนนี้เบรุตต้องออกหน้ามากเพียงไหนจึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้!  ดังนั้นในความเป็นจริง... ไม่ใช่ว่ามหาเทพบลัดริจจะเห็นแก่หน้าทูตของเขา  แต่เป็นเพราะเบรุตเองก็เป็นมหาเทพคนหนึ่ง  เป็นธรรมดาที่มหาเทพจะเห็นแก่หน้าของมหาเทพอีกคนหนึ่ง!
 “นอกจากนี้ข้ายังมีประกายมหาเทพอีกสามชิ้น  เป็นธรรมดาที่ข้าจะต้องเลือกคนที่จะมารับสืบทอดประกายมหาเทพ  อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถเลือกพวกเขาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้  ข้าต้องทดสอบพวกเขาและเลือกพวกเขาอย่างระมัดระวัง...ดังนั้นบลูไฟร์จึงกลายเป็นตัวเลือกแรกของข้า”  จากนั้นเบรุตถอนหายใจ  “ในความเป็นจริง  ข้าต้องการให้แฮรี่และลูกอีกสองคนกลายเป็นมหาเทพ  แต่ประกายมหาเทพมีแต่เพียงธาตุดิน ไฟ และน้ำเท่านั้น  ดังนั้นพวกเขาต้องฝึกจนเป็นระดับเทพชั้นสูงในสามกฎธาตุนี้ด้วยตัวเองเพื่อจะได้หลอมรวมกับประกายเทพ”
 “ท่านต้องกลายเป็นเทพด้วยตัวเองจึงจะหลอมรวมกับประกายมหาเทพได้อย่างนั้นหรือ?”  ลินลี่ย์พูดด้วยความประหลาดใจ
 “ใช่แล้ว  ถ้าเจ้าไม่อาศัยตนเองและอาศัยแต่เพียงการหลอมรวมกับประกายเทพ  อย่างนั้นพื้นฐานของเจ้าจะอ่อนแอและไม่มั่นคง  ประกายเทพของเจ้าและวิญญาณของเจ้าจะหลอมรวมได้ไม่สมบูรณ์และเป็นไปไม่ได้ที่จากนั้นเจ้าจะหลอมรวมกับประกายมหาเทพ”  เบรุตส่ายศีรษะ  “ลูกของข้าเหล่านั้นมีพรสวรรค์ในธาตุมืดและธาตุลม  ข้าพยายามทุกอย่างที่ข้าทำได้  แต่พวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จในสามธาตุที่เหลือ”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
 “หลังจากนั้น เพราะบีบีปรากฏตัวขึ้นและโดยเฉพาะ เป็นเพราะความก้าวหน้าของลินลี่ย์เจ้าอย่างรวดเร็ว  และพลังที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วอย่างน่าประหลาดของเจ้า  ข้าเลือกเจ้าเป็นหนึ่งในผู้มีศักยภาพของข้า...”  เบรุตหันไปมองลินลี่ย์

14 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ปูมานานเลย เข้าใจซักที

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มหาเทพลินลี่

Toffee กล่าวว่า...

ขอบคูณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เอาละเว้ยยยย ลินลีย์มหาเทพวิญญาณกลายพันธ์!!มหาเทพหนึ่งเดียวในพิภพนับไม่ถ้วน!!!

pmt กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Ko Surapong กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​

nutzido กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ประมุขวิถีทำลายล้างจะเป็นผู้ด้วยหรือปล่าวเนี้น

Kaawee กล่าวว่า...

สู้ๆ ลินลีย์.. ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

ไปให้สุดแล้วหยุดที่.....

Anny กล่าวว่า...

ท่านปู่เบรุตเท่สุดๆไปเรยค่า☺️💕💕

samchay กล่าวว่า...

อย่าบอกนะว่าเล่มนี้สุดท้ายแล้ว

แสดงความคิดเห็น