เล่ม
21 จุดสุดยอด - ตอนที่ 3 ความจริงเมื่อหมื่นปีที่แล้ว
“ศพของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์หรือ?” บีบีทวนคำด้วยความตกใจ
ลินลี่ย์จ้องมองศพมังกรฟ้าขนาดมหึมาที่อยู่ต่อหน้าเขา
เกล็ดมังกรของมังกรฟ้ายังคงดูเรียบและดูเหมือนคมเช่นกัน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหมื่นปีแล้ว
กลิ่นอายของมังกรฟ้าก็ยังแฝงความน่ากลัว
ลินลี่ย์หันไปมองเบรุต
เขาพูดด้วยความสงสัย “ลอร์ดเบรุต,
เนื่องจากท่านและบลูไฟร์สามารถกลายเป็นมหาเทพได้
ก็เพราะประกายมหาเทพของบรรพบุรุษทั้งสี่หรือ?”
มังกรฟ้า
หงส์เพลิง เต่าดำ พยัคฆ์ขาว พวกเขาเป็นมหาเทพน้อยธาตุน้ำ ไฟ ดินและลม
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงมหาเทพน้อย
แต่ทักษะเทพธรรมชาติของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังมาก และเมื่อทักษะธรรมชาติทั้งสี่ผสานกันเป็นสุดยอดไม้ตายที่น่ากลัว พวกเขายังสามารถสู้กับประมุขมหาเทพได้
“ใช่แล้ว”
เบรุตถอนหายใจจากนั้นพยักหน้า
“ที่สำคัญมีประกายมหาเทพมากมายอยู่ในโลก แต่เป็นเรื่องของโชคจริงๆ
ที่ข้าได้รับครั้งเดียวถึงสี่ชิ้น”
“ปู่! ปู่ได้รับประกายมหาเทพได้อย่างไร? เมื่อปู่ได้รับประกายมหาเทพมาตั้งแต่ปู่ยังเป็นแค่เทพชั้นสูงสินะ” บีบีรีบกล่าว
“อีกอย่าง
ท่านได้ศพของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มายังไง?”
ลินลี่ย์ยังสงสัยเช่นกัน
เบรุตชำเลืองมองบลูไฟร์
และจากนั้นเบรุตหัวเราะ ขณะที่เขามองดูลินลี่ย์กับบีบีจากนั้นพูดพลางถอนหายใจ “หลังจากเวลาผ่านมานานปีแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดพวกเจ้าอีกต่อไป
เกี่ยวกับศพของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ ข้าต้องบอกเจ้าถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อหมื่นปีที่แล้ว
การต่อสู้ระหว่างสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และประมุขมหาเทพแห่งแสง!”
“บรรพบุรุษทั้งสี่ถูกประมุขมหาเทพแห่งแสงฆ่าตายหรือ?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
“ถูกแล้ว
เป็นประมุขมหาเทพแห่งแสงที่ฆ่าพวกเขา”
เบรุตพยักหน้า
“ปีนั้น ข้าอยู่ในห้องฝึกส่วนตัว ลินลี่ย์... ห้องฝึกส่วนตัวนั้นอยู่ใต้ปราสาทเลือดมังกรของเจ้า” เบรุตหัวเราะ และลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย เขาคาดเดาได้นานแล้วว่า
ต้องเป็นของที่ใช้ฝึกโดยยอดฝีมือที่ทรงพลัง และความจริงก็คือเบรุต!
“ขณะที่ฝึกข้ามองผ่านเยื่อพลังใสของห้องฝึกและมองเห็นว่าในที่ห่างไกลออกไปในท่ามกลางมิติปั่นป่วนเกิดการต่อสู้ที่น่ากลัวขึ้น
เป็นสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์กำลังต่อสู้กับออกุสตาประมุขมหาเทพแห่งแสงอย่างดุเดือด”
เบรุตพูดอย่างเคร่งขรึม และลินลี่ย์ตั้งใจฟัง
ดูเหมือนเบรุตจะจมอยู่ในความทรงจำของเขา “ตอนนั้นข้าตกตะลึงไปหมด สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายหนึ่ง และประมุขมหาเทพแห่งแสงอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง พวกเขาล้วนทรงพลังกันทั้งนั้น
ระหว่างการต่อสู้ครั้งนี้ สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นฝ่ายอ่อนแอกว่า ขณะที่ประมุขมหาเทพแห่งแสงได้เปรียบ
สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์กลับคืนร่างอสูรดั้งเดิม
นอกจากนี้อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงอำนาจยังผนึกกำลังใช้ทักษะเทพธรรมชาติ!”
ลินลี่ย์และบีบีฟังขณะหายใจถี่
“เป็นเรื่องน่ากลัวมาก และยังแปลกมากด้วย
ทักษะเทพธรรมชาติของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์สามารถผสานหลอมรวมกันได้อย่างสมบูรณ์และพวกเขาดูเหมือนจะทำให้โลกเปลี่ยนได้
ลูกบอลแสงยิงเข้าไปในร่างของประมุขมหาเทพแห่งแสง
ขณะนั้นข้าแน่ใจว่าการผสานพลังเทพธรรมชาติของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์คงจะเป็นพลังโจมตีวิญญาณ” เบรุตพูด
ใจของลินลี่ย์ตึงเครียด
“ร่างของออกุสตาแค่สั่นสะท้าน
แต่หลังจากนั้นเขาชักดาบแสงออกมาและไล่ฟันโจมตีใส่สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่ง ส่วนใหญ่เนื่องจากความล้มเหลวของสุดยอดไม้ตายโจมตีของพวกเขา
สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่อยากเชื่อว่าจะทำให้เขาพ่ายแพ้การต่อสู้ นอกจากนี้ พวกเขาเป็นเพียงมหาเทพน้อย
ในแง่ความเร็ว พวกเขายังด้อยกว่าประมุขมหาเทพแห่งแสง” เบรุตถอนหายใจ
“ในขณะนั้นพญาเต่าดำ, หงส์เพลิงและพยัคฆ์ขาวถูกฆ่าทีละตน
แม้ว่าพญามังกรฟ้าจะทรงพลัง แต่เขาไม่สามารถจะต้านทานได้ แต่ในขณะนั้น.. ข้าลงมือทันที”
ลินลี่ย์และบีบีตะลึง
“นี่เป็นเพราะศพขนาดใหญ่ของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม
คือพญาเต่าดำ พญาหงส์เพลิงและพยัคฆ์ขาวลอยเข้าไปในมิติปั่นป่วนและถูกกระแสพลังปั่นป่วนพาลอยห่างออกไป พวกเขาอยู่ไม่ไกลจากข้า” ตาของเบรุตเป็นประกาย “โอกาสอย่างนั้นจะปล่อยให้พลาดได้อย่างไร ข้าจะทุ่มเทอย่างดีที่สุด
ข้าใช้หางหนูกินเทพของข้ายืดเข้าไปในมิติปั่นป่วน
ร่างของข้าถูกปรับแต่งจากประกายเทพ
ดังนั้นจึงแข็งแกร่งพอๆ กับสมบัติมหาเทพ
หางของข้าตวัดออกไปด้วยความเร็วสูง
จากนั้นม้วนเป็นวงและรัดขาของศพมหึมาอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม ขณะนั้นมหาเทพมังกรฟ้าถูกออกุสตาฆ่าเช่นกัน
และหางของข้าก็ยังลากจูงร่างของพวกเขาทั้งสี่เข้ามาในพิภพยูลาน”
ลินลี่ย์และบีบีตะลึงไปมด
สมบัติความมั่งคั่งที่ได้มาจากการเสี่ยงอันตรายที่ยิ่งใหญ่
ลินลี่ย์สามารถคิดได้ถึงการแก้ปัญหาของเบรุตในตอนนั้น! เขาเสี่ยงชีวิตลงมือด้วยความเร็วสูงเพื่อทำอย่างนี้!
“ข้าเองก็ตื่นกลัวเช่นกัน ท่านเหล่านั้นเป็นมหาเทพ! ถ้าสำเร็จก็หมายความว่าข้าจะกลายเป็นมหาเทพ! นี่คือโอกาสที่หายาก ข้าเสี่ยงทุกอย่าง!” เบรุตเริ่มตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อพูดคุยถึงฉากภาพนั้น “ข้ายังคงโชคดีมาก
ส่วนใหญ่ออกุสตาไม่เคยคิดว่าจะมีบางคนที่กล้าขโมยเนื้อจากปากเสืออย่างนั้น นอกจากนี้ เขาเพ่งความสนใจอยู่ที่พญามังกรฟ้า
เมื่อเขาไล่ตามและฆ่าพญามังกรฟ้า
เขาใช้พลังโจมตีวิญญาณที่ส่งผลให้พญามังกรฟ้ากระเด็นออกไป
ก่อนจะตายมหาเทพมังกรฟ้าพุ่งตรงมาทางพิภพยูลานแต่แรก
ข้าจึงใช้ความได้เปรียบรวบรวมศพของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ไว้ได้!”
ลินลี่ย์แทบไม่ได้หายใจ
เขาสามารถคาดคิดได้ว่าฉากภาพนั้นอันตรายเพียงไหน!
อย่างไรก็ตามเบรุตมีโอกาสที่ดีทำให้สำเร็จ
ต้องเข้าใจว่าพูดโดยทั่วไปหางของอสูรเวททั้งหมดมีความเร็วอย่างน่าประหลาด
ขณะที่อสูรศักดิ์สิทธิ์หนูกินเทพหางของร่างเดิมเบรุต ใช้พันและลาก นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขั้นในพริบตา
ถ้าออกุสตาแค่รู้ตัวช้าไปเล็กน้อย
บางทีเขาไม่สามารถไล่ทันเบรุต
“อย่างนั้นมหาเทพมังกรฟ้าบรรพบุรุษของข้าถูกฆ่าตายด้วยพลังโจมตีวิญญาณ” ลินลี่ย์เข้าใจในตอนนี้แล้วว่าทำไมแหวนมังกรขนดถึงเสียหาย ถ้ามหาเทพมังกรฟ้าได้รับบาดเจ็บและถูกพลังโจมตีวัตถุของออกุสตาฆ่าตาย แหวนมังกรขนดคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่เสียหาย
“ฮ่าฮ่า..”
เบรุตเริ่มหัวเราะดังลั่น “ออกุสตาตะลึงไปหมด เขาไม่ทันตั้งตัวในตอนแรก..แต่จากนั้น เขาแทบเป็นบ้าเพราะความโกรธ! ที่สำคัญ เขาเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อฆ่าสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่ข้ากลับชิงเอาทุกอย่างไปทันที ข้า
เทพชั้นสูงขโมยของหลายอย่างไปจากประมุขมหาเทพแห่งแสง ข้าคงตกใจเป็นแน่ถ้าเขาไม่คลั่งเสียก่อน”
ลินลี่ย์สามารถนึกภาพออกได้หมด
เป็นไปได้ว่าแม้แต่ประมุขมหาเทพแห่งแสงคงไม่มั่นใจความสามารถของเขาว่าจะจัดการกับการผนึกกำลังกันของบรรพบุรุษทั้งสี่
เพียงแต่เขาโชคดีพอที่ป้องกันพลังที่ร่วมกันโจมตีนั้นของบรรพบุรุษทั้งสี่ได้สำเร็จ
และจากนั้นก็สามารถฆ่าบรรพบุรุษทั้งสี่ได้ทีละคน
“ประกายมหาเทพทั้งสี่ นั่นเป็นตัวแทนของมหาเทพสี่คน!” เบรุตหัวเราะเยือกเย็น “ไม่มีทางที่ออกุสตาจะเข้ามาในพิภพโลกธาตุได้
ดังนั้นทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้ก็คือส่งภาพร่างฉายพลังงานเข้ามาในพิภพยูลานเพื่อต้องการฆ่าข้า”
ลินลี่ย์ลอบพยักหน้า
มหาเทพต่างถิ่นไม่สามารถเข้ามาในพิภพโลกธาตุได้
สำหรับบรรพบุรุษทั้งสี่
เอาเข้ามาได้เพราะตายแล้ว
ศพของพวกเขาและประกายมหาเทพเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตอีกต่อไป พวกเขาจึงเข้ามาในพิภพโลกธาตุได้
“ภาพฉายร่างพลังงาน? นั่นเป็นสิ่งที่ทรงพลังเช่นกัน
เทียบได้กับอสูรเจ็ดดาวแทบจะใกล้เคียงกับเทพอสูร” เบรุตแค่นเสียง “น่าเสียดาย
แม้ว่าแต่ก่อนที่ข้าจะเป็นมหาเทพ
พลังของข้าก็เหนือกว่าเจ้าครองแคว้นธรรมดา
แค่อาศัยอาวุธประกายเทพของข้า
ข้าโจมตีร่างฉายพลังงานจนแตกสลายไป”
ลินลี่ย์หัวเราะ
ด้วยพลังของเบรุตและความรู้แจ้งในเคล็ดลึกลับของกฎธาตุ
คงเป็นเรื่องง่ายที่เขาเอาชนะร่างฉายพลังงานได้
“ตั้งแต่ใช้กำลังแล้วล้มเหลว
ประมุขมหาเทพแห่งแสงสร้างภาพฉายร่างพลังงานอื่นอีก
เขาขู่ข้าและบอกถึงผลที่จะตามมากับข้าถ้าข้าไม่ยอมมอบประกายมหาเทพ แต่ข้าไม่สนใจฟัง ข้าหลอมรวมกับประกายเทพธาตุลมทันที!” เบรุตพูดพร้อมกับยิ้ม
“ประมุขมหาเทพแห่งแสงนั้นเชิญพารากอนมาลงมือกับข้า! การหลอมรวมประกายมหาเทพเกิดขึ้นฉับพลัน
“เร็วขนาดนั้นหรือ?” ลินลี่ย์ร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“การหลอมรวมประกายเทพใช้เวลาที่นานมาก” บีบีประหลาดใจเช่นกัน
เบรุตพูดพลางหัวเราะ
“ทำไมต้องใช้เวลาหลอมรวมประกายเทพนานนักเล่า? เพราะพวกเจ้าเรียนรู้และได้รับความรู้แจ้งในกฎลึกลับต่างๆ เป็นธรรมดาที่จะต้องใช้เวลา
แต่ประกายมหาเทพไม่ได้แฝงไว้ด้วยความรู้แจ้งกฎลึกลับ ดังนั้นประกายมหาเทพจึงถึงหลอมรวมได้ในเวลาวินาทีเดียว
“หลังจากเสี่ยงชีวิตของข้า
ข้ากลายเป็นมหาเทพและได้รับประกายเทพอีกสาม” เบรุตพูดพร้อมกับถอนหายใจ
“ปู่, ... ปู่ร้ายกาจจริงๆ” ตาของบีบีเต็มไปด้วยแววชื่นชม
ลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความรู้สึกทึ่งเช่นกัน ถ้าเขาเองเห็นภาพเช่นนั้น
เขาจะกล้าขโมยเนื้อจากปากเสือ หรือขโมยจากประมุขมหาเทพแห่งแสงไหม? นี่ต้องอาศัยความกล้าอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีพลังอย่างเพียงพอด้วย!
ที่สำคัญเทพชั้นสูงธรรมดาคงไม่สามารถดึงศพของอสูรศักดิ์สิทธิ์จากมิติปั่นป่วนได้แน่
“แน่นอนว่า
นี่ก็ทำให้..ประมุขมหาเทพแห่งแสงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ
เขาต้องการบังคับข้าให้ส่งมอบประกายมหาเทพอีกสามชิ้น แต่ข้าไม่สนใจเขา” เบรุตหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ข้าบอกได้เลยว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงมีอารมณ์ชนิดที่ต้องหาทางแก้แค้นแน่นอน ในเมื่อข้าล่วงเกินเขาไปแล้ว ข้าก็คงต้องล่วงเกินเขาไปจนจบ”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อยเช่นกัน
“ไม่นานหลังจากนั้น
ข้าจงใจเผยแพร่คำว่าสุสานเทพเจ้าถูกสร้างและว่าภายในนั้นมีสมบัติมหาเทพที่สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทิ้งไว้หลังจากตายแล้ว!
ถ้ามีใครต้องการสู้เพื่อครอบครอง? พวกเขาจะต้องมาพิภพยูลาน” เบรุตหัวเราะ
“หลังจากมหาเทพตาย ถ้าใครได้สมบัติมหาเทพที่พวกเขาทิ้งไว้ไป
ก็จะไม่มีมหาเทพอื่นมาตามยึดคืนไป”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
มีอยู่หลายวิธีที่จะได้รับสมบัติมหาเทพ
หนึ่งก็คือสะสมความดีความชอบทางทหารในสงครามมหาพิภพไว้มากพอ
ส่วนวิธีอื่นคือกลายเป็นทูตมหาเทพและรับมอบสมบัติมหาเทพ ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือรับสมบัติเก่าของมหาเทพผู้ล่วงลับ ตัวอย่างเช่น
นี่เป็นวิธีที่ลินลี่ย์ได้แหวนมังกรขนดมา”
เพียงแต่
โอกาสที่มหาเทพจะตายได้นั้นต่ำมาก
นอกจากนี้กล่าวโดยทั่วไป
มีเพียงมหาเทพที่สามารถฆ่ามหาเทพอื่นได้
พวกเขาจะรวบรวมอาวุธมหาเทพเหล่านั้นและไม่ยอมปล่อยให้ของถูกชิงเอาไป
“สมบัติมหาเทพได้รับการพิสูจน์แล้วว่าล่อลวงมากเกินไป หลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไป
มีคนมากมายรีบมุ่งหน้าสู่พิภพยูลาน บางส่วนก็เป็นอสูรเจ็ดดาวของแดนนรก
แม้แต่เทวทูตสิบสองปีกที่มาจากโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์
ผู้ทรงพลังจากพิภพโลกธาตุอื่น การต่อสู้ใหญ่เริ่มขึ้นที่นี่ที่พิภพยูลาน” เบรุตหัวเราะ
“แต่แน่นอนทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า”
ลินลี่ย์หัวเราะ
ตอนนั้นเบรุตเป็นมหาเทพแล้ว
ไม่ว่าเทพชั้นสูงเหล่านั้นจะต่อสู้ได้ร้ายกาจเพียงใด พวกเขาจะหนีพ้นไปจากการควบคุมของเบรุตได้ยังไง?
“ระหว่างการสู้รบนั้น
ข้าแค่แสดงพลังของข้าเพียงเล็กน้อยและทำให้ชื่อเสียงของข้าแพร่กระจายไป ทันใดนั้นมหาเทพบางส่วนให้ความสนใจข้า” เบรุตหัวเราะ
“เดิมที เมื่อข้าเก็บศพของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไว้
ออกุสตาไม่กล้าประกาศต่อทุกคน
ดังนั้นมหาเทพทั้งหลายจึงไม่รู้
หลังจากข้ามีชื่อเสียง
มหาเทพบางส่วนส่งร่างฉายพลังงานของพวกเขามาคุยกับข้า
ดังนั้นพวกเขาจึงได้ทราบเรื่องนี้
ดังนั้นเองประมุขมหาเทพทำลายล้างจึงได้ขอร้องข้า”
“ประมุขมหาเทพขอร้องอะไร? เขาต้องการประกายมหาเทพหรือ?” บีบีกล่าว
“ไม่ เขาขอ
เลือดบริสุทธิ์ที่สามารถกลั่นมาจากเลือดของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
แหล่งพลังของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มาจากเลือดและการสืบเชื้อสาย ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างต้องการพัฒนาอะไรบางอย่างจากเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” เบรุตถอนหายใจ
“ที่สำคัญ ในบันทึกประวัติศาสตร์มีเพียงสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์สามารถใช้ทักษะเทพธรรมชาติด้วยกันได้”
“ข้าให้เลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์กับประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง ประมุขมหาเทพสายทำลายล้างได้ให้สัญญากับข้าว่าตราบเท่าที่ร่างแยกของข้าไม่ไปโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์
เขารับรองว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงจะไม่กล้าฆ่าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้า” เบรุตกล่าว
ลินลี่ย์และคนอื่นเพิ่งเข้าใจตอนนี้
“เป็นอย่างนี้นี่เอง
มิน่าเล่าประมุขมหาเทพแห่งแสงไม่กล้าลงมือกับท่านในแดนนรก ปู่” บีบีกล่าว
“แม้ว่าเขาจะทรงพลัง
แต่เขาไม่ใช่คู่มือของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง” เบรุตหัวเราะ
“ที่สำคัญ ประมุขมหาเทพวิถีทั้งสี่ล้วนทรงพลังทั้งนั้น ประมุขมหาเทพแห่งชีวิตมีความเป็นมิตร แต่พลังของเขายากจะหยั่ง
ประมุขมหาเทพวิถีมรณะใช้ชีวิตอย่างสบายอารมณ์ในภูเขาสิ้นหวัง
และยังไม่เคยแสดงพลังของนางออกมาเต็มที่
ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างซ่อนความสามารถไว้ลึกมาก ข้าเองไม่รู้ว่าเขาพัฒนาอะไรจากเลือดกลั่นของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่ ขณะที่มหาเทพวิถีชะตา
เขาไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการทางโลก และมักเอาแต่อยู่ภายในแดนสวรรค์เสมอ”
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
การแลกเปลี่ยนกับประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างสร้างความพอใจให้เขามาก
ทั้งหมดที่ประมุขมหาเทพทำลายล้างต้องทำก็คือไปขู่ประมุขมหาเทพแห่งแสง
เพื่อเขาจะได้รับเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ครึ่งหนึ่ง
ต้องเข้าใจว่า
แค่เพียงใช้หยดเลือดบริสุทธิ์จากมังกรฟ้า
ร่างของลินลี่ย์ก็สามารถเพิ่มพลังขึ้นมากมาย
ใครจะคาดคิดได้ว่าพลังที่แฝงอยู่ภายในเลือดบริสุทธิ์ของอสูรศักดิ์สิทธิ์จะมากมายขนาดไหน
“เลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นความบริสุทธิ์ทรงพลังมาก
ข้าสงสัยเกี่ยวกับเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นข้าจึงทำการทดสอบบ้างเล็กน้อยเช่นกัน
ข้าใช้เลือดหยดหนึ่งในร่างของมนุษย์ธรรมดาเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผลของการทดลองครั้งแรกก็คือมนุษย์จะไม่สามารถทนรับพลังนั้นได้ และร่างของพวกเขาจะแหลกสลาย พวกเขาตายกันมด อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นมาข้ามีประสบการณ์ และในที่สุดข้าก็ทำได้สำเร็จ!”
เบรุตเริ่มหัวเราะ
“และจากนั้นสุดยอดสี่นักรบรุ่นแรกจึงถือกำเนิดขึ้น”
ลินลี่ย์ตกตะลึง
“สุดยอดสี่นักรบ?” ลินลี่ย์ตะลึงมองเบรุต “พวกเขาเป็นผลจากการทดลองของท่าน?”
“ปู่..ท่าน...”
บีบีก็ตะลึงเช่นกัน
“อะไรกัน, มันแปลกมากนักหรือไง?” เบรุตหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ความจริง ถ้าข้าไม่แทรกแซงชีวิตของบาลุค
อาร์มันด์ ไฮด์และเพรย์ พวกเขาคงจะกลายเป็นทหารราบในสมรภูมิรบ
และคงไม่มีความสำเร็จอะไรขึ้นเลย
หลังจากการทดลองของข้า พวกเขากลายเป็นสุดยอดนักรบสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งทวีป”
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว เท่าที่เบรุตเห็น เพราะมหาเทพเลือกมนุษย์ธรรมดามาทดลองและโดยเฉพาะเป็นการทดลองกับเลือดบริสุทธิ์ของอสูรศักดิ์สิทธิ์..
นี่นับเป็นเกียรติของมนุษย์แล้ว
“มิน่าเล่าสี่สุดยอดนักรบถึงได้ปรากฏตัวกะทันหันในพิภพยูลาน
นอกจากนี้ไม่มีใครสามารถหาเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
“พูดให้ถูกก็คือบาลุคและอีกสามคนที่เหลือควรนับว่าเป็นรุ่นเดียวกับกัซลีสันแห่งตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ บอกตามตรง
ข้ายังรู้สึกปลาบปลื้มขอบคุณสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
ที่สำคัญเป็นเพราะพวกเขา
ข้าจึงสามารถกลายเป็นมหาเทพได้”
“ดังนั้นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าส่งไปแดนนรกจึงพักอยู่ในแคว้นอินดิโก!
มหาเทพบลัดริจรู้สถานะที่แท้จริงของข้า
ดังนั้นข้าจึงขอให้เขาช่วยข้าโดยประกาศให้คนอื่นทราบว่าข้าเป็นทูตของเขา
นี่ทำให้ง่ายต่อตัวข้าที่จะปรากฏตัวเพื่อช่วยปกป้องตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” เบรุตหัวเราะ
“ถ้าข้าเป็นทูตมหาเทพแท้จริง แล้วข้าจะให้มหาเทพบลัดริจปรากฏตัวออกพูด
จากนั้นให้เขาบอกให้แปดตระกูลใหญ่ถอยไปได้ยังไง?”
ลินลี่ย์ถอนหายใจ
เมื่อเบรุตอัญเชิญมหาเทพบลัดริจ
มหาเทพบลัดริจก็มาปรากฏและตำหนิแปดตระกูลใหญ่ทำให้พวกเขาถอนกำลังกลับไป ลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความทึ่ง
ตอนนี้เบรุตต้องออกหน้ามากเพียงไหนจึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้! ดังนั้นในความเป็นจริง...
ไม่ใช่ว่ามหาเทพบลัดริจจะเห็นแก่หน้าทูตของเขา
แต่เป็นเพราะเบรุตเองก็เป็นมหาเทพคนหนึ่ง
เป็นธรรมดาที่มหาเทพจะเห็นแก่หน้าของมหาเทพอีกคนหนึ่ง!
“นอกจากนี้ข้ายังมีประกายมหาเทพอีกสามชิ้น เป็นธรรมดาที่ข้าจะต้องเลือกคนที่จะมารับสืบทอดประกายมหาเทพ อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถเลือกพวกเขาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้
ข้าต้องทดสอบพวกเขาและเลือกพวกเขาอย่างระมัดระวัง...ดังนั้นบลูไฟร์จึงกลายเป็นตัวเลือกแรกของข้า” จากนั้นเบรุตถอนหายใจ “ในความเป็นจริง ข้าต้องการให้แฮรี่และลูกอีกสองคนกลายเป็นมหาเทพ แต่ประกายมหาเทพมีแต่เพียงธาตุดิน ไฟ
และน้ำเท่านั้น
ดังนั้นพวกเขาต้องฝึกจนเป็นระดับเทพชั้นสูงในสามกฎธาตุนี้ด้วยตัวเองเพื่อจะได้หลอมรวมกับประกายเทพ”
“ท่านต้องกลายเป็นเทพด้วยตัวเองจึงจะหลอมรวมกับประกายมหาเทพได้อย่างนั้นหรือ?” ลินลี่ย์พูดด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้ว
ถ้าเจ้าไม่อาศัยตนเองและอาศัยแต่เพียงการหลอมรวมกับประกายเทพ
อย่างนั้นพื้นฐานของเจ้าจะอ่อนแอและไม่มั่นคง ประกายเทพของเจ้าและวิญญาณของเจ้าจะหลอมรวมได้ไม่สมบูรณ์และเป็นไปไม่ได้ที่จากนั้นเจ้าจะหลอมรวมกับประกายมหาเทพ” เบรุตส่ายศีรษะ
“ลูกของข้าเหล่านั้นมีพรสวรรค์ในธาตุมืดและธาตุลม ข้าพยายามทุกอย่างที่ข้าทำได้
แต่พวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จในสามธาตุที่เหลือ”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
“หลังจากนั้น เพราะบีบีปรากฏตัวขึ้นและโดยเฉพาะ
เป็นเพราะความก้าวหน้าของลินลี่ย์เจ้าอย่างรวดเร็ว
และพลังที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วอย่างน่าประหลาดของเจ้า ข้าเลือกเจ้าเป็นหนึ่งในผู้มีศักยภาพของข้า...” เบรุตหันไปมองลินลี่ย์
14 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ปูมานานเลย เข้าใจซักที
ขอบคุณครับ มหาเทพลินลี่
ขอบคูณครับ
เอาละเว้ยยยย ลินลีย์มหาเทพวิญญาณกลายพันธ์!!มหาเทพหนึ่งเดียวในพิภพนับไม่ถ้วน!!!
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณครับ
ประมุขวิถีทำลายล้างจะเป็นผู้ด้วยหรือปล่าวเนี้น
สู้ๆ ลินลีย์.. ขอบคุณครับ
ไปให้สุดแล้วหยุดที่.....
ท่านปู่เบรุตเท่สุดๆไปเรยค่า☺️💕💕
อย่าบอกนะว่าเล่มนี้สุดท้ายแล้ว
แสดงความคิดเห็น