ตอนที่ 750
เย่ว์หยางคลั่ง
ดวงแสงระเบิด
ไม่เพียงแต่กะโหลกของจักรพรรดินีฟ้าเท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย
แต่ทั่วร่างของนางได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดทำลายล้าง
“พวกเจ้าคิดว่าฝีมือแค่นี้จะสามารถฆ่าข้าได้หรือ?” จักรพรรดินีฟ้ากรีดร้องด้วยความเกลียดชัง “ต่อให้ไม่ต้องใช้ร่างหยาบ
ข้าจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงก็ยังใช้แค่ปลายนิ้วเขียนคำสาปฆ่าพวกเจ้าได้
พวกเจ้าบังคับให้ข้าต้องใช้พลังสุดท้ายของข้าจัดการพวกเจ้า!”
นางไม่เต็มใจใช้พลังที่ทุกข์ทรมานถึงขั้วกระดูกนี้
และไม่ยินดีจะยอมเสียร่างกายมนุษย์ของนางเอง
อย่างไรก็ตาม
นางไม่มีทางเลือกอื่น
ก่อนที่ดวงระเบิดแสงจะทำลายร่างกายของนาง นางต้องตัดสินใจ
อยู่ต่อหน้าศัตรู
และด้วยความโลภบดบังตาถ้านางไม่ใช้พลังสุดท้าย ก็มีแต่ความพ่ายแพ้สูญเสียรออยู่เท่านั้น
วิ้ง
วิ้ง วิ้ง
ตลอดทั้งร่างของจักรพรรดินีฟ้าระเบิดฉับพลันทันที เมื่อพลังระเบิดถึงขีดจำกัด
ดวงแสงสว่างทั้งสองดวงสร้างหลุมดำขนาดเล็กสองหลุม
ชิ้นส่วนต่างๆ และพลังงานของจักรพรรดินีฟ้าถูกดูดกลืนทั้งหมด ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แน่นอน
แต่จักรพรรดินีฟ้าซึ่งมีวิญญาณและทักษะแฝงเร้นเหลืออยู่ถึง 90% หลบหลีกจากการระเบิดร่างได้ และไปรวมกับร่างทองซึ่งเป็นร่างทักษะแฝงเร้นอีกครั้ง
แสงสว่างฉายวาบขึ้น
จื้อจุนชะงักไปชั่วขณะ
ช่วงขณะที่วิญญาณจักรพรรดินีฟ้าและร่างทองผสานกัน
จื้อจุนเหยียดแขนขึ้นไปในท้องฟ้า
แสงทำลายล้างเหมือนกับดวงอาทิตย์ฉายแสงจ้า ลำแสงฝน ลำแสงธนู ลำแสงดาบ ลำแสงปืน
ลำแสงเขี้ยว ลำแสงกระบี่พลิกฟ้าคว่ำดิน โลกและสวรรค์ตกอยู่ภายในลำแสงทำลายล้าง ผู้เฒ่าซื่อไห่นักรบเผ่าเก้าแสงและจักรพรรดินีราตรี,
เสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่นที่กำลังต่อสู้ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรมีความรู้สึกว่าไม่สามารถเงยหน้ามองท้องฟ้าได้
ผู้เฒ่าซื่อไห่ซึ่งกำลังได้เปรียบจักรพรรดินีราตรีเห็นแสงทำลายล้างที่น่ากลัว เขามีปณิธานราชันย์ที่สัมผัสถึงได้ สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปอย่างมาก
“หอทงเทียนมีนักสู้ที่น่ากลัวขนาดนี้อยู่ด้วยหรือนี่?
ข้าซื่อไห่นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีสุดยอดนักสู้มีฝีมือแตกต่างราวฟ้ากับดินเช่นนี้!”
ผู้เฒ่าซื่อไห่พึมพำกับตนเอง
ในขณะนั้นพลังปณิธานระดับสูงสุดของจื้อจุนไม่สามารถคงเอาไว้ได้อีกต่อไป
จักรพรรดิชื่อตี้
จ้าวปีศาจโบราณและราชาเก้าแสงรู้สึกเหมือนกับตนเองเป็นลิงในกองไฟ ได้รับความเจ็บปวดจากแสงทำลายล้างที่ไม่มีใดเปรียบและหลบหลีกไม่พ้น
เทียบกับแสงพลังดวงอาทิตย์ของราชาเก้าแสงกับแสงทำลายล้างแล้ว ต่างกันอย่างน่าสมเพช
จักรพรรดิชื่อตี้มีสมบัติเทพสำหรับป้องกัน
‘โล่ผู้พิทักษ์’ ยังต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เพราะโล่ผู้พิทักษ์ไม่สามารถต้านทานได้ทำให้ร่างของเขามีควันคุกรุ่นทั่วตัว
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกหวาดกลัวว่าถ้าปล่อยให้แสงนี้ผ่านเข้ามาถูกตัว เขาคงจะถูกทำลายแน่นอน
จ้าวปีศาจโบราณไม่ได้วิ่งไปที่แท่นบูชายัญเพื่อซ่อนตัวเหมือนกับจักรพรรดิชื่อตี้
เขากลับทำตรงกันข้าม
ไม่ยอมเข้าไปซ่อนตัว
เขาวิ่งไปหาราชาเก้าแสงและกอดตัวเขาไว้แน่นป้องกันไม่ให้ราชาเก้าแสงมีโอกาสหลบหนี
และพยายามพาตัวราชาเก้าแสงเหาะขึ้นท้องฟ้า
“เจ้าบ้าไปแล้ว!”
ราชาเก้าแสงรู้สึกว่าจ้าวปีศาจโบราณต้องการพินาศไปพร้อมกับเขา
“ตงเย่า! มาตายด้วยกันเถอะ!” จ้าวปีศาจโบราณชิงชังจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสง คนพวกนี้หักหลังพันธมิตร
ถ้าจักรพรรดินีฟ้าไม่ออกคำสั่งและทรยศเขาต่อหน้าต่อตาด้วยการโจมตีและฆ่าเย่เซียวกับจื่อกวง
และอาเป่ย อย่างนั้นพวกเขาก็ยังแยกจากกันด้วยดีได้
ทุกคนยินดีจะเผชิญหน้ากับหายนะด้วยความเต็มใจ ส่วนตอนนี้เล่า?
จ้าวปีศาจโบราณต้องการจะฉุดลากราชาเก้าแสงให้พินาศไปพร้อมกับเขา
ราชาเก้าแสงไม่สามารถเข้าไปหลบได้ภายใต้ฐานแท่นบูชายัญเหมือนอย่างที่จักรพรรดิชื่อตี้ทำเพื่อหลบแสงทำลายล้างในท้องฟ้า
แต่ปล่อยให้จ้าวปีศาจโบราณจับและพาเหาะขึ้นไปในท้องฟ้า
เขาเผชิญกับแสงทำลายล้างเป็นอันมาก
และคำรามร้องด้วยความเจ็บปวด
เศียรราหูขยายพลังปีศาจสีดำจนใหญ่สามารถกลืนกินทุกอย่าง
ในที่สุดแสงทำลายล้างค่อยๆ อ่อนกำลังและหายไป!
โชคดีที่แสงทำลายล้างสลายไปเร็ว
มิฉะนั้นคงจะอันตรายจริงๆ... ราชาเผ่าเก้าแสงดิ้นหลุดจากจ้าวปีศาจโบราณและลงมาอยู่บนพื้นแท่นบูชาอย่างอ่อนแรง จนถึงตอนนี้เขามองไม่เห็นอะไร
แต่ยังพอได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคย
“อิคคา!
เรียกภูตน้อยออกมาเป่าแตรเร็วเข้า!”
เย่ว์หยางสั่งการในอึดใจเดียว และทำให้คนอื่นงุนงงสงสัยกับคำสั่งของเขา เป่าแตร?
“แท็ดๆๆๆๆๆ!”
เสียงกังวาลดังไพเราะกึกก้องไปทั้งหุบเขาที่พังทลายนี้
น่ากลัว!
เสียงโหยหวนไม่มีพลังโจมตี แต่ราชาเก้าแสงเมื่อได้ยิน
รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเผชิญหน้าศัตรู และรู้ว่าเสียงแตรจะทำให้เกิดเรื่องน่ากลัว
เมื่อเขาต้องการจะเข้าไปฆ่าภูตน้อยที่กำลังเป่าแตร
ท้องฟ้ามีแสงทำลายล้างฉายลงมาและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้! จ้าวปีศาจโบราณเป็นเหมือนคนบ้าไปแล้ว
เขาเอื้อมขนาดใหญ่คว้าตัวราชาเก้าแสงและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ตงเย่า, ขอให้เจ้าสนุกกับความตายนะ,
เย่เซียวและจื่อกวง พวกเขากำลังรอเราอยู่!”
ราชาเก้าแสงไม่ได้ดิ้นรน
ความจริงเขาไม่สามารถดิ้นรนจากไปได้ เย่ว์หยางที่อยู่ต่อหน้าเขามีวงจักรนิรันดรอยู่ใต้เท้าของเขา
จนกว่าจื้อจุนจะปล่อยคลื่นแสงทำลายล้างครั้งที่สาม
ราชาเผ่าเก้าแสงถูกฟันถูกทุบร่วงลงกับแท่นบูชายัญ
เย่ว์หยางเรียกวงจักรนิรันดรกลับคืน
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเท่าใดเมื่อราชาเก้าแสงเริ่มมองเห็นได้ปกติ เขาพบว่าจักรพรรดินีฟ้าร่างทองในท้องฟ้ามีร่างกายยับเยิน
ร่างท่อนล่างถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
ร่างท่อนบนได้รับความเสียหายแทบทุกส่วน
เหลือแขนซ้ายข้างเดียวมีนิ้วติดอยู่สองนิ้ว ศีรษะไหล่ก็แหลก
มีแต่มือขวาที่ถือเศียรราหูยังอยู่ในสภาพดี
จักรพรรดินีฟ้ายังไม่ตาย!
แม้ว่าจื้อจุนจะปล่อยแสงทำลายล้างในช่วงที่วิญญาณของนางอ่อนแอที่สุด นอกจากนี้ด้วยปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางและปราณแท้ของสาวกิเลนปิงหยิน และภายใต้การสนับสนุนของภูตน้อยที่เป่าแตรช่วย
แรงสนับสนุนสามด้านขนาดนี้แล้ว จักรพรรดินีฟ้าก็ยังไม่ตาย
นี่คือยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ
แน่นอนว่าจะฆ่ากันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้แต่เย่ว์หยางและจื้อจุนก็รู้สึกว่าจักรพรรดินีฟ้าจะต้องตาย
อย่างน้อยก็ต้องใกล้จะตาย และนางคาดไม่ถึงเลยว่านางยังจะถือเศียรราหูออกมารบได้อีก
“สาวน้อย! เจ้าแสดงลูกไม้ของเจ้าจบหรือยัง?”
เสียงของจักรพรรดินีฟ้าเต็มไปด้วยความเกลียดดังสั่นสะท้านไปทั่วหุบเขาแม่น้ำขาว “แต่ข้าจะยังไม่ตาย แน่นอนว่าคนที่ตายจะต้องเป็นพวกเจ้า!”
ถึงตอนนี้แสงทำลายล้างถูกเศียรราหูขับไล่ไปหมด ตอนนี้มีแสงสีดำชั่วร้ายนับไม่ถ้วนกำลังขยายออก
บางทีพลังและคุณสมบัติของพลังนี้อาจไม่ทรงพลังเท่ากับแสงทำลายล้าง
แต่พลังที่เศียรราหูเก็บเอาไว้เป็นแหล่งพลังงานที่ราชาเก้าแสงแต่ละรุ่นได้ถ่ายพลังเก็บไว้ข้างใน อย่าว่าแต่แสงทำลายล้างสามระลอกเลย
ต่อให้เป็นพลังทำลายล้างของสามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตกก็ยังทำลายมันไม่ได้ เศียรราหูเป็นเครื่องมือฝ่ายมารที่คงทนพอๆ
กับอาวุธเทพ
แต่ไม่มีจิตสำนึกที่เป็นอิสระ
และการเคลื่อนไหวของมันอยู่ที่การกระตุ้นของเจ้าของๆ มัน จักรพรรดินีฟ้าไม่ตาย ระบบการทำงานของเศียรราหูจะไม่มีทางอ่อนลง
แต่ถ้าจื้อจุนยังสามารถปล่อยแสงทำลายล้างได้อีกก็ต้องทำอย่างไม่ขาดสาย
มิฉะนั้นจะไม่มีอะไรเทียบได้พลังปีศาจสีดำของเศียรราหูได้เลย
พลังเทพของเจี้ยงอิงยังหลอมรวมได้ไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์เต็มร้อย
คิดจะรับมือจักรพรรดินี้ฟ้าเพื่อทำลายเศียรราหู
ความเป็นไปได้กับการใช้พลังเทพบังคับเศียรราหูแทบเป็นศูนย์
สาวกิเลนปิงหยินเกลียดเครื่องมือปีศาจนี่นัก
แต่ความคิดจะทำลายของนางยังไม่กล้าแข็งพอ
นางไม่ใช่อสูรอมตะที่ถนัดในเรื่องนี้
“เจ้าไปเถอะ!”
เดิมทีเย่ว์หยางต้องการประหารเข่นฆ่าจ้าวปีศาจโบราณและจักรพรรดิชื่อตี้ที่ถูกทรยศหักหลัง แต่เขาเปลี่ยนใจและคิดว่าจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสงไม่ถูกกำจัด
อย่างนั้นจ้าวปีศาจโบราณและจักรพรรดิชื่อตี้คงเกรงว่าราชาเก้าแสงและจักรพรรดินีฟ้าจะได้ประโยชน์ ปล่อยสองคนนี้ไปอาจจะเป็นภัยพิบัติ
แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสง ปล่อยจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสงให้หนีไปได้
นั่นจะกลายเป็นหายนะของหอทงเทียนอย่างแน่นอน
เย่ว์หยางเกลียดช่วงเวลาที่มืดมิดนี้
เขาได้แต่ปล่อยจ้าวปีศาจโบราณและจักรพรรดิชื่อตี้ชั่วคราว “แล้วอย่ามาให้ข้าเห็นอีก!”
“ข้าจะไม่กลับมาหอทงเทียนอีกเลย!” จักรพรรดิชื่อตี้ดีใจแทบคลั่ง
เขาคิดว่าเย่ว์หยางจะฉวยโอกาสโจมตีทำร้ายคนที่ตกที่นั่งลำบาก ในใจของเขาพร้อมที่จะทุ่มเทสูญเสีย
“หรือว่านี่เป็นชะตา?”
จ้าวปีศาจโบราณถอนหายใจรำพึง
เขาไม่ได้ไปจากแท่นบูชายัญเหมือนอย่างจักรพรรดิชื่อตี้ แต่กลับวิ่งไปหาราชาเก้าแสงแทน
ราชาเก้าแสงมองดูจักรพรรดินีฟ้าและกระโดดออกจากแท่นบูชายัญไล่ตามจักรพรรดิชื่อตี้ทันที “
ท่านย่าจักรพรรดินีฟ้า,
อนุญาตให้ตงเย่าฆ่าจักรพรรดิชื่อตี้ด้วย!” เขาไม่ยินยอมอยู่ที่นี่อีก
จึงหาข้ออ้างไล่ล่าจักรพรรดิชื่อตี้และออกไปจากแท่นบูชายัญที่อันตรายอย่างยิ่งยวด
ไม่ว่าจะเป็นจื้อจุน เย่ว์หยาง ปีศาจอสรพิษน้อยและมังกรไร้เขาเจี้ยงอิง
แม้แต่นางฟ้าศึกและนางพญาดอกหนามมงกุฏทอง
ไม่มีใครที่ตอแยได้เลย
จ้าวปีศาจโบราณไล่ตามราชาเก้าแสงอย่างบ้าคลั่งและโจมตีเขาอย่างหนักเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหนี
ราชาเก้าแสงไม่ได้ต้านรับพลังโจมตีที่หนักหน่วงและรีบหนีห่างออกไปเป็นสิบกิโลเมตร
ไล่ตามจักรพรรดิชื่อตี้....จ้าวปีศาจโบราณติดตามไล่หลังเขาอย่างเร่งร้อน
และสาบานว่าจะต้องฆ่าราชาเก้าแสงให้ได้
จักรพรรดินีฟ้าร่างทองไม่ได้พยายามจะห้ามราชาเก้าแสง
แต่พูดอย่างเย็นชา “ไปเสียได้ก็ดี”
นางอยู่ในท้องฟ้ามองลงยังผู้คนที่อยู่ข้างล่าง “พวกเจ้าเตรียมสั่งเสียได้เลย!”
เย่ว์หยางทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินแต่สั่งนางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่วและอิคคา
“จงไปตามฆ่าราชาเผ่าเก้าแสงซะ พวกเจ้าต้องไม่ปล่อยให้เขาหนีไปได้!”
สาวกิเลนปิงหยินมองอสูรพ่อมดเฒ่าสองคนที่ตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้นและพบว่าทั้งสองนั้นไม่ได้ไล่ตามตั่วตั่วและอิคคา
แต่รั้งอยู่ข้างตัวจักรพรรดินีฟ้า นางขมวดคิ้ว พลังของราชาเก้าแสงนั้นแข็งแกร่งมาก จักรพรรดิชื่อตี้มีแต่ความคิดจะหนี จ้าวปีศาจโบราณได้รับบาดเจ็บหนัก
ยิ่งไปกว่านั้นยังแสดงพลังได้ไม่เต็มที่
มีแต่ตั่วตั่วและอิคคาคงจะไล่ฆ่าราชาเก้าแสงไม่สำเร็จ... ข้ากับเจี้ยงอิงจะตามไปดูด้วย เจ้าระวังตัวให้ดี ยายแก่นี่บ้าไปแล้ว!”
“ไม่มีอะไรที่ข้าทำได้”
เย่ว์หยางเอื้อมมือไปคว้ามือจื้อจุนและถ่ายปราณก่อกำเนิดฟื้นฟูให้นางที่สูญเสียพลังปราณไปมาก
ขณะที่ยื่นมืออีกข้างลูบศีรษะน้อยๆ ของเสี่ยวเหวินหลี
เสี่ยวเหวินหลีนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงอยู่ข้างเย่ว์หยาง หน้าของเธอซีดขาวเพราะใช้พลังไปมาก
มุมปากของเธอมีคราบเลือด
เธอใช้พลังไปมากเพื่อต้านทานจักรพรรดินีฟ้ารองจากจื้อจุน
ตอนนี้เธอใช้กำลังมากเกินไปจริงๆ
เหนื่อยจนแทบจะทรุดตัวกับพื้น ทำให้เย่ว์หยางรู้สึกผิดอยู่ในใจ
ถ้าเขามีความแข็งแกร่งมากกว่านี้อีกเล็กน้อย ลูกสาวของเขาคงไม่ต้องทุ่มเทสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงขนาดนี้!
“เอาเลย เจ้ามีอะไรดีๆ จะมาแสดงให้ข้าดูอีก” จักรพรรดินีฟ้าถือเศียรราหูในมือกระตุ้นการทำงานให้หัวปีศาจสามารถกลืนได้ทั้งโลกและสวรรค์ได้
“ความจริง ข้าอยากจะบอกเจ้า อย่าบีบคั้นข้าจนเกินไป ไม่อย่างนั้นพอข้าบ้าขึ้นมา ข้าเองก็ยังกลัวตัวเองเหมือนกัน” เย่ว์หยางค่อยๆ หลับตา
และรัศมีพลังของเขาระเบิดออกร่างขยายเป็นพันเท่า เมื่อเขาค่อยๆ ลืมตาอีกครั้ง
พลังทำลายทั้งโลกและสวรรค์ยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าและสามารถทะลุทะลวงและทำลายโลกได้ จักรพรรดินีฟ้ามองเห็นดวงตาเย่ว์หยางเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด เงาความตายเริ่มปรากฏเหมือนเมื่อหมื่นปีที่แล้วที่นางเผชิญกับเฟ่ยเหวินหลี นางรู้สึกกลัวขึ้นมาเองตามธรรมชาติ
“พลังอะไรกันนี่?”
จักรพรรดินีฟ้านึกไม่เข้าใจ
ทำไมเจ้าเด็กบ้านี่ถึงมีพลังเพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อคลุ้มคลั่ง?
หรือว่าเพราะปล่อยพลังนี้ออกมาจะทำให้เขาตาย?
ไม่ต้องรอให้นางทำความเข้าใจ
เย่ว์หยางลงมือทันที
เมื่อเขายื่นมือออกมายังดูน่ากลัวกว่ากรงเล็บมังกรพลังเทพของเจี้ยงอิง เขาคว้าจับร่างทองของจักรพรรดินีฟ้าและเศียรราหูที่ยังใช้พลังดูดกลืนอยู่ในอากาศฟาดลงพื้นและระดมหมัดต่อยใส่ร่างทองของจักรพรรดินีฟ้า
เท้าทั้งสองย่ำใส่เศียรราหูสมบัติพลังปีศาจที่สะสมพลังมาถึงแสนปี ไม่มีพลังใดสามารถทำอันตรายเศียรราหูได้แม้แต่สร้างรอยขีดข่วน แต่ภายใต้พลังโจมตีอย่างหนักของเย่ว์หยาง เส้นผมและหนังศีรษะค่อยๆ
ละลายสลายเป็นผุยผง จากศีรษะปีศาจกลายเป็นหัวกะโหลกธรรมดา
จักรพรรดินีฟ้าร่างทองที่ดูเหมือนว่าไม่ว่าพลังอะไรก็ทำร้ายนางโดยตรงไม่ได้ เย่ว์หยางทุบตีร่างทองของจักรพรรดินีฟ้าจนแหลกกระจายเต็มท้องฟ้า
เมื่อตกอยู่ในความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตจักรพรรดินีฟ้าใช้พลังกฎสวรรค์ “เอาร่างเจ้ามาให้ข้า ของดีอย่างนี้ควรจะเป็นของข้า!”
พลังกฎสวรรค์ของจักรพรรดินีฟ้าสามารถส่งวิญญาณตนเองออกไปขับไล่วิญญาณสิ่งมีชีวิตของศัตรูได้หมดและชิงร่างที่แข็งแกร่ง
เป้าหมายที่นางเลือกคือจื้อจุน อย่างไรก็ตามนางเห็นเย่ว์หยางในสภาพคลุ้มคลั่งทรงพลังมากกว่า และเย่ว์หยางที่ตกอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง นี่เท่ากับว่าร่างจะไม่มีการป้องกันใดๆ
และเป็นโอกาสดีที่สุดในการส่งวิญญาณออกจากร่าง
ในที่สุดแล้ว จื้อจุนก็ยังน่ากลัวกว่าเย่ว์หยางมากนัก
ถ้าจื้อจุนรู้พลังกฎสวรรค์ เมื่อจะขับไล่วิญญาณนางออกจากร่าง
ถ้าพลังไม่มากพอจะทำให้สำเร็จ ผลจะอันตรายมาก!
“พลังไร้เทียมทานจริงๆ!”
จื้อจุนเข้าใจพลังกฎสวรรค์จริงๆ
เมื่ออสูรพ่อมดเข้ามาช่วยเหลือ นางใช้พลังดรรชนียิงใส่อสูรพ่อมดกระเด็นออกไปหมื่นเมตรทั้งคู่พร้อมกัน
ขณะที่มือขวาของนางทาบกับคัมภีร์อัญเชิญและเปิดข้ามหน้า จักรพรรดินีฟ้าถอดวิญญาณออกจากร่างทอง
ร่างหลักที่ได้รับความเสียหายเป็นแหล่งพลังหลัก จื้อจุนใช้พลังกฎสวรรค์ลบล้างทันที
ด้วยพลังกฎสวรรค์ของจื้อจุน
ตราบเท่าที่ร่างอ่อนแอกว่าเจ้าของร่าง ก็ถูกตรึงวิญญาณไว้
จักรพรรดินีฟ้าหวาดกลัวทันที
นางเร่งรีบไปหาเย่ว์หยางเตรียมพร้อมจะยึดร่างเย่ว์หยางและขับไล่วิญญาณเขาไปเกิดใหม่
เศียรราหูที่ถูกเย่ว์หยางเหยียบย่ำพ่นควันพลังงานปีศาจสีดำออกมาไม่หยุดและฉายเป็นภาพราหูที่ไม่ได้ถูกตัดหัวและโจมตีตอบโต้เย่ว์หยาง ปล่อยให้จักรพรรดินีฟ้ามาอย่างสูญเปล่า
“ฮาคคคคคคค!”
เย่ว์หยางปลดปล่อยความโกรธเต็มที่
ปกติเขาจะสงบมากไม่โกรธง่าย
ถ้าเขาทิ้งความเยือกเย็นก็จะตกอยู่ในความโกรธ
เมื่ออยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง ผลที่ตามมาจะน่ากลัวมาก
ในสภาวะที่ไร้ความรู้สึกเหตุผล
ร่างของเย่ว์หยางจะปลดปล่อยพลังของไพ่ชะตาซึ่งบรรจุพลังกฎสวรรค์ที่เขารู้แจ้ง ยักษ์ทองขยายขนาดขึ้นจนอยู่ในระดับสูงสุด...
ร่างของราหูที่สูงค้ำฟ้าและโลกได้ สามารถกลืนกินได้ทั้งโลกและสวรรค์
ยังสูงได้ไม่ถึงเข่าของยักษ์ทอง
จื้อจุนและเสี่ยวเหวินหลีได้รับพลังหนุนเสริมทันที
ภาพฉายสีทองขนาดยักษ์เกิดขึ้นที่ด้านหลังของพวกนาง
พอร่างกายของพวกนางขยาย
ร่างหลักพวกนางก็ฟื้นฟูทันที
ยักษ์ทองยกเท้าขึ้นโดยปกติและย่ำลงทันที
ร่างราหูและเศียรราหูซึ่งถูกเปลี่ยนไปโดยพลังวิเศษแตกทำลายอยู่ใต้เท้ายักษ์ทองสูญสลายหายไปไม่เหลือ
แม้แต่เศียรราหูที่คงอยู่มาได้แสนปีโดยไม่มีความเสียหาย ก็ถูกยักษ์ทองย่ำจนแหลก
ผู้เฒ่าซื่อไห่ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรอดแหงนมองดูในท้องฟ้าครั้งนี้มิได้ แต่เขารู้สึกว่ามียักษ์ทองยืนสูงตระหง่าน
ราชาเก้าแสงที่อยู่ห่างออกไปห้าสิบกิโลเมตรปล่อยให้จักรพรรดิชื่อตี้และจ้าวปีศาจโบราณโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
เขายังมีแรงหนุนหลังที่เพียงพออยู่แล้ว
ทันทีที่ยักษ์ทองปรากฏตัวออกมา เขารู้สึกเหมือนถูกภูเขานับแสนลูกกดทับหลังของเขา
ตั่วตั่วและอิคคาที่ไล่ติดตามมาได้รับแรงสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ดาบนางฟ้าของอิคคายืดขยายยาวถึงสิบกิโลเมตรฟันใส่ราชาเก้าแสงที่กำลังบินทันที ตั่วตั่วมีเงาร่างทองฉายขนาดใหญ่
นางเงื้อมือตบราชาเก้าแสงลงกับพื้นราวกับตบแมลงวัน
ถึงจุดนี้ไม่มีใครสามารถเงยหน้าขึ้นมองฟ้าได้อย่างแท้จริง
พวกเขาจึงมองไม่เห็นยักษ์ทองได้ทั้งร่าง นอกจากเท้าของเขาเท่านั้น
นี่คือพลังกฎสวรรค์ในร่างของเย่ว์หยางที่เขาเองยังควบคุมไม่ได้
ซึ่งมาจากพลังไพ่ชะตา !..!
16 ความคิดเห็น:
สนุกคับ
สนุกมากครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากคนับ
มันส์!!
รีบจบได้เเล้วอยากรู้ว่ารางวัลจากกฎสวรรค์หลังการต่อสู้จะเป็นอะไร.. คงล้ำค่าไม่น้อย เพราะกว่าจะฆ่าศัตรูได้ ลำบากเเท้ // พวกองค์ชายเงาดำที่ตบกับพวกเย่คงเหมือนตัวประกอบใช้เเล้วทิ้งมากเพราะถ้าเฮียหยางจบศึกนี้เเล้วคงไม่เอาไว้เเน่!!! มาหาเรื่องเฮียเเกหลายรอบมาก ไม่เข็ดสักที
ขอบคุณครับ
ไอ้พวกองชายเงาดำกับประมุขอะไรนั้นนะแค่ตัวตลกระดับสูงแค่นั้นเอง ควรจะตายนานแล้วเพียงแต่เย่หยางไม่ได้ให้ราคาเลยไม่ไปไล่ฆ่า เพราะเอาใว้ฝึกให้สหาย
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
แม้แต่ข้ายังกลัวตัวเอง...พี่เย่ห์นี่ญาติพี่ป๋ายแน่ๆ
ลูกก็คือลูก พี่เยว์อ่อนโยนกับเสี่ยวเหวินหลีจริง
พูดปุ๊ป แสดงฝีมือปั๊ป Very Good! ><
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
555 ใช่เลย
พวกซุนเทียน ออกมาตอนแรกหยั่งกะลาสบอสไปๆมาๆกลายเป็นกีกี้ซะงั้น
แสดงความคิดเห็น