วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 753 เห็นด้วย เจ้ามันน่าสมเพช


ตอนที่  753  เห็นด้วย เจ้ามันน่าสมเพช
ด้านนอกปราสาทสายรุ้ง
 “เจ้ายังจะลุกขึ้นมาอีกหรือ?”  ซุ่นเทียนรู้สึกเหลืออดและตะโกนอย่างโมโห  “ทำไมเจ้าไม่ตายเสียที?”

เขาจำไม่ได้แล้วว่าซัดเจ้าอ้วนไห่ลงไปกองกับพื้นกี่ครั้งแล้ว พันครั้ง หรือว่าหมื่นครั้ง
แต่เขาไม่ตาย!
เปลี่ยนเป็นคนอื่นต่อให้มีร้อยชีวิตก็คงตายไปนานแล้ว
ซุ่นเทียนไม่เคยได้ยินมาก่อน  แค่ความมุ่งมั่นก็ทำให้คนเราใช้พลังได้เกินขีดจำกัดอย่างมากมาย  นอกจากนี้สวะอย่างเจ้าอ้วนไห่ที่มักจะโลภและกลัวตาย   เขาไปเอากำลังใจมาจากไหน?  แล้วในที่สุดเหตุผลใดที่ทำให้เจ้าอ้วนไห่ที่ถูกทุบตีครั้งแล้วครั้งเล่ายังยืนหยัดอยู่ได้ยืนยาวขนาดนี้
ไม่ว่าจะใช้ทักษะพิเศษหรือวิทยายุทธ์ต่อสู้ใดๆ หรือแม้แต่ใช้อาวุธเล่นงานเจ้าอ้วนไห่
แต่เขาไม่ตาย!
ซุ่นเทียนที่ไม่เคยสงสัยความแข็งแกร่งของตนเองเลย  มาถึงตอนนี้ความมั่นใจของเขาสั่นคลอน
เจ้าอ้วนไห่ไม่สามารถคงอยู่ในรูปของสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดต่อไปได้  หลังจากกลับคืนร่างมนุษย์ เขาซี่โครงหัก ขาหักและแขนขวาบิด นิ้วมือซ้ายหงิกหักหมดเหลือแต่หัวแม่มือ แค่นี้ยังไม่พอเจ้าอ้วนไห่ในร่างมนุษย์ใช้แค่นิ้วนั้นพยุงร่างเอาไว้ให้นั่งอยู่ได้ บนพื้นมีแต่เลือดเปรอะเต็มไปหมด
นึกไม่ออกเลยว่าคนที่สูญเสียเลือดมากขนาดนี้ยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง
แต่ร่างกายของเจ้าผู้ที่นั่งอยู่ข้างหน้านี้ดูแปลก กระอักโลหิตครั้งแล้วครั้งเล่า  เหมือนกับว่าเกิดมาเพื่อกระอักเลือดเป็นเรื่องปกติ
นางนวลสายลมบินอยู่ในท้องฟ้า และบินลงมาเป็นครั้งคราว มันใช้กำลังเกินตัวอย่างแทบเป็นไปไม่ได้ มันเป่าสายลมอบอุ่นเข้าไปในตัวของเจ้าอ้วนไห่ที่อ่อนล้าช่วยให้เขาได้ฟื้นฟู  พลังเพียงเล็กน้อยแทบจะไม่พอฟื้นฟู แต่ภายใต้การจับตามองของซุ่นเทียน  ใบหน้าของเจ้าอ้วนไห่บวมปูดแทบมองไม่เห็นตา เหมือนคนตายสักเก้าส่วน แต่ด้วยการช่วยเหลือของนกนางนวลสายลม เขายืนขึ้นอีกครั้งด้วยความยากลำบาก เขายกแขนซ้ายที่เหลือนิ้วหัวแม่มือที่ใช้งานได้เพียงนิ้วเดียว และกวักเรียกซุ่นเทียนอีก  “มาเลย มาต่อยตีกับข้าอีก  เราคุณชายแม้จะถูกเจ้าทุบตี แต่ก็ต้องทำให้เจ้าเหนื่อยแทบตาย!
ซุ่นเทียนหน้าเขียวคล้ำ
เขาไม่เพียงแต่โกรธ  แต่ยังเสียใจ
ถ้าซุ่นเทียนเลือกได้  เขาจะไม่มีทางเลือกเจ้าอ้วนไห่มาเป็นคู่ต่อสู้อีก
ถ้าต้องเลือกเจ้าอ้วนไห่มาเป็นคู่มือซ้อม เขาจะไม่มีทางดูถูกเจ้าอ้วนไห่อย่างน่ากลัวแบบนี้อีก  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาไม่คิดว่าเขามีโอกาสจะฆ่าเจ้าอ้วนผู้นี้ และแม้ว่าตลอดการต่อสู้ เจ้าอ้วนไห่ต่อยใส่เขาได้เพียงหมัดเดียวก็ตาม
อย่างไรก็ตามหมัดเดียวของเจ้าอ้วนไห่นั้น ทำลายหมัดขวาที่แข็งแกร่งที่สุดของซุ่นเทียน
ขณะเดียวกันหมัดนั้นยังทะลวงตรงเข้าถึงอกของเขา  ถ้าไม่ใช่เพราะอสูรพิทักษ์ของเขาใช้ไหล่รับไว้ ซุ่นเทียนเชื่อว่าเขาคงตายแน่
ตั้งแต่นั้นพลังแข็งแกร่งที่สุดของซุ่นเทียนถูกทำลาย ไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างไร แม้ว่าเขาจะต้องเหนื่อยหอบ เขาจะทุบตีเจ้าอ้วนไห่อย่างหนัก  และเจ้ามนุษย์ที่ไม่รู้จักตายผู้นี้จะลุกขึ้นยืนได้อีก  ยิ่งทำซุ่นเทียนก็ยิ่งคลุ้งคลั่ง  หลังจากหมัดขวาถูกเจ้าอ้วนไห่ทำลาย  เข้าไม่สามารถโจมตีถูกนกนางนวลที่ฉลาดได้เลย   นกนางนวลแสนรู้ตัวนี้คือกุญแจสำคัญของการต่อสู้ทั้งหมด  เพราะทุกครั้งที่เจ้าอ้วนไห่ถูกซุ่นเทียนทุบตีจนทรุดกับพื้น  มันจะพ่นสายลมอบอุ่นเพื่อรักษาเจ้าอ้วนไห่ช่วยสนับสนุนเขา  ถ้าซุ่นเทียนเลือกได้  เขาจะฆ่าเจ้านกนางนวลที่แสนรู้เกินคาดนี้ก่อน
บางครั้งซุ่นเทียนมีความรู้สึกว่านกตัวนี้ฉลาดมากกว่าคนผู้หนึ่ง
การใช้อุบายเครื่องหลอกล่อไม่สามารถหลอกมันได้
การเล่นงานมันไม่มีความหมาย
ที่แย่ที่สุดก็คือในตอนนี้ซุ่นเทียนไม่กล้าเข้าใกล้เจ้าอ้วนไห่เกินไป  การโจมตีอย่างหนักที่ทำได้ก่อนหน้านั้น ไม่อาจทำได้อีกต่อไป  เพราะเจ้าอ้วนไห่อาจกลายร่างเป็นปีศาจเบเฮม็อธได้ และไม่สนใจการป้องกันตัว และทุ่มใช้พลังเกินพิกัดอย่างเดียว
เขายังคงซ่อนพลังนับไม่ถ้วนเอาไว้เหมือนภูเขาไฟที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ
ซุ่นเทียนรู้ว่าเจ้าอ้วนไห่คิดยังไง
เจ้าอ้วนบัดซบนี่ต้องการระเบิดตัวเอง
เขาต้องการพังพินาศย่อยยับไปด้วยกัน ตราบเท่าที่ซุ่นเทียนเข้าไปใกล้ ถ้าเจ้าอ้วนไห่กอดรัดเขาได้จะเป็นเรื่องอันตรายมาก
ที่ยิ่งกว่านั้นเจ้าอ้วนไห่นี้แม้จะเหลือเพียงแขนเดียวที่ใช้งานได้  แต่พลังหมัดมนุษย์นั้นแฝงไว้ด้วยพลังที่ไม่ธรรมดา
 “ทำไมกัน?  เย่ว์หยางให้ผลประโยชน์อะไรกับเจ้า?  ทำไมเจ้าต้องสู้เพื่อเขาขนาดนี้ด้วย?  ด้วยระดับพลังปัจจุบันของเจ้า  ประตูหนทางอิสรภาพเปิดรอเจ้าอย่างไม่มีปัญหา  เจ้าอยู่ในหอทงเทียนก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์  ตระกูลไห่สามารถกลายเป็นสี่ตระกูลใหญ่ของทวีปมังกรทะยานได้  แม้แต่ตัวเจ้าเองก็สามารถรุ่งเรืองขึ้นได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยตระกูลเย่ว์เลย  เย่ว์หยางจะต้องตายแน่นอน ทำไมเจ้ายังติดตามภักดีต่อเขาอีก?  เจ้าอ้วนไห่!  คนอย่างเจ้าสมควรเป็นคนฉลาดมาก  ทำไมถึงทำเรื่องโง่ๆ อย่างนี้?”  ซุ่นเทียนใช้มือซ้ายลูบคลำมือขวางที่หัก เขาข่มความเจ็บปวดและถามข้อสงสัย
 “ฮ่าฮ่า!
เจ้าอ้วนไห่ฟังแล้วอึ้งไปชั่วขณะ
ทันใดนั้นเจ้าอ้วนไห่หัวเราะ ทวารทั้งห้ามีเลือดกระเซ็นออก ซี่โครงที่หักแทงเนื้อจนเลือดออกมองเห็นกระดูกหักสีขาว
เป็นเวลานานเขาค่อยๆ ลดเสียงหัวเราะลง และสงบจนซุ่นเทียนรู้สึกแปลกใจ  “เจ้าคิดว่าข้าไม่โง่หรือ? ซุ่นเทียน!  เจ้าพูดถูก แต่ว่าถูกนิดเดียว  เจ้าไม่รู้ว่าข้าเป็นไอ้โง่ ฮ่าฮ่าฮ่า!
เจ้าอ้วนไห่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  ครั้งนี้เขายิ้มทั้งน้ำตา
เขายิ้มแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสะอื้นไห้
ยิ้มชั่วครู่
และร้องไห้ชั่วครู่
ในที่สุด  เขาร้องห้จนตาบวม น้ำตาที่หลั่งออกมาเป็นสายตามร่องแก้มปะปนกับรอยเลือด
 “ซุ่นเทียน! ถ้าหลายปีก่อน เจ้าวิ่งมาหาข้า แล้วบอกว่าเจ้าอ้วนไห่จะกลายเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคตข้างหน้า  ข้าคงจะขอบคุณเจ้ามาก  แต่ไม่ใช่มีแต่เพียงเจ้าเท่านั้น ทั่วทั้งทวีปมังกรทะยาน ทั่วทั้งหอทงเทียน ไม่มีใครคิดว่าข้าจะมีอนาคต ในสายตาของคนทุกคนมองว่าข้าเจ้าอ้วนไห่อ่อนปวกเปียก และรังเกียจที่จะชำเลืองมองด้วยซ้ำ  ทั่วทั้งหอทงเทียนมีแต่เย่ว์หยาง มีแต่เขาที่เสียเวลาคบหาข้าเป็นสหายมองดูข้าและชื่นชอบข้าเป็นพิเศษ  นี่เป็นเรื่องที่เจ้าทำได้หรือ ซุ่นเทียน!  เจ้ากับเย่ว์หยางแตกต่างกันอย่างมากมายเหลือเกิน  เจ้าจะไม่มีทางเหมือนเย่ว์หยาง และไม่มีทางบรรลุถึงระดับเขาได้ตลอดไป”
 “บอกตามตรงเลยนะซุ่นเทียน, เจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะหิ้วรองเท้าให้เย่ว์หยางด้วยซ้ำ  ต่อให้เจ้าเต็มใจหิ้วรองเท้าให้เขา  แต่เจ้าก็ยังไม่ดีพอ  ถ้าพูดกันอย่างไม่เกรงใจ เจ้าไม่มีอะไรที่ต่างจากคนธรรมดาเลย  เจ้าอาจจะดูแตกต่างสำหรับพวกมีตาแต่ไร้แวว  เจ้าไม่เคยมองข้าอ้วนไห่อย่างจริงใจ มีแต่คนจริงใจถึงมองอ้วนไห่ออก เพียงเท่านี้เจ้านึกว่าจะยุให้อ้วนไห่ทรยศเย่ว์หยางได้หรือ?  ซุ่นเทียน ข้าขอบอกเจ้าตามตรง  ถ้าไม่มีเย่ว์หยาง โลกนี้จะไม่มีเจ้าอ้วนไห่  ไม่ใช่แต่เพียงข้าเท่านั้น ยังรวมถึงเย่คง หลี่ชิว หลี่เกอ ถ้าไม่มีเย่ว์หยางพวกเขาคงอดตาย หรือตกตายภายใต้คมเขี้ยวคมเล็บของอสูรปีศาจ  พวกเขาจะไม่มีทางมีชีวิตอยู่อย่างนี้  และข้าเองก็ใช้ชีวิตที่ดูดีแต่ไร้จุดหมาย ไม่ต่างอะไรกับสุกรที่รอขึ้นเขียงและปล่อยให้เขาเชือดเนื้อเถือหนังตามชอบใจ”
 “ถูกแล้ว เป็นเย่ว์หยางที่ทำให้ข้า..อ้วนไห่มีความสำเร็จในวันนี้มิใช่หรือ?”
 “บางทีเจ้าอาจอยากบอกว่าเย่ว์หยางช่วยพัฒนาศักยภาพของเรา  ตอนนี้เขาจะต้องถูกฆ่าตายเมื่อใดก็ได้ ข้าต้องรีบพูดให้ชัดเจนถึงเรื่องความสัมพันธ์กับเขา ปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระ สนุกสำราญกับชีวิต  ที่เจ้าพูดเช่นนี้ก็ถูก ความจริงนี่เป็นการกระทำของคนฉลาด ปรับตัวได้ตามสถานการณ์  แต่น่าเสียดายที่เจ้าเข้าใจผิด ข้าอ้วนไห่ทั้งโลภ ทั้งกลัวตาย แต่ข้าไม่ใช่คนที่ลืมบุญคุณและคุณธรรมสหาย  นอกจากนี้ในโลกนี้ยังมีคำกล่าวว่า สุภาพบุรุษยอมตายเพื่อสหาย!
 “ไม่มีเจ้าเด็กเย่ว์หยางนั่น ชีวิตของเจ้าอ้วนในโลกนี้จะมีค่าอะไร?  ไม่มีเขาข้าก็เป็นแค่สวะปวกเปียกที่ไร้อนาคต.. มีเจ้าเด็กเย่ว์หยาง ข้าอ้วนไห่อยู่ในหอทงเทียนได้อย่างเย้ยฟ้าท้าดินได้ ข้าคือความภูมิใจของพ่อแม่ครูบาอาจารย์  เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ยังจะพยายามหว่านล้อมให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้อีกหรือ?”
 “ซุ่นเทียน!  ในทางกลับกัน เจ้าแทบจะสมบูรณ์พร้อมจนข้ายังอิจฉา  แต่ถ้าเทียบกับนักรบผู้มีคุณธรรมที่แท้จริง  ซุ่นเทียนเจ้าเป็นเพียงหนอนที่น่าสมเพช  เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงไม่บรรลุระดับปราณราชันย์เสียที?  ไม่ใช่เพราะทักษะของเจ้าไม่เพียงพอ  ไม่ใช่เพราะเจ้าไม่มีความพากเพียรพอ แต่เป็นเพราะจิตสำนึกสูงสุดของเจ้าที่เป็นมาตลอดชีวิตนี้  เจ้าได้แต่ทำตัวเป็นกบในก้นบ่อต่อไป  ไม่สามารถเอาชนะใครได้ รวมทั้งข้าอ้วนไห่ แล้วยังคิดจะเอาชนะเจ้าเด็กเย่ว์หยางนั่นหรือ เจ้ามันโง่ไม่มีใครเกิน”
 “ข้า.อ้วนไห่ผู้นี้สถานะก็ด้อยกว่าเจ้า แต่ข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้า  ข้าเชื่อในปาฏิหาริย์ ข้าชื่อว่าข้าสร้างปาฏิหาริย์ได้ แต่ข้าก็ถือว่ามีความสำเร็จแล้ว ข้าด้อยกว่าเจ้าและอ่อนแอกว่าเจ้า  ตอนนี้เจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้ นั่นแหละคือปาฏิหาริย์!  ข้าเชื่อเย่ว์หยาง ข้า..อ้วนไห่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ เทียบกับข้าแล้วเย่ว์หยางดีกว่าข้าเป็นพันเท่า  เขาน่ะหรือจะไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้?  อย่ามาล้อเล่นน่า  สิ่งที่เจ้านั่นทำ สิ่งที่เจ้านั่นสร้างล้วนแต่เหลือเชื่อทั้งนั้น!  ซุ่นเทียน! เจ้ากับพวกวายร้ายอื่นได้แต่แหงนมองดูเขาด้วยความอิจฉาทำอะไรไม่ได้ เจ้าตั้งใจจะขัดขวางเขาไม่ให้ก้าวหน้าหรือ?”
 “ซุ่นเทียน!  เจ้าก็รู้ว่าข้าต้องการทำในสิ่งที่เจ้าเองเคยบอกว่าสูงสุดเอื้อมไม่ใช่หรือ?  ข้าสงสารเจ้า และเห็นใจเจ้าจริงๆ” เจ้าอ้วนไห่จู่ๆ ก็ทำสีหน้าหน้าจริงจังและพูดอย่างจริงจัง  “เจ้าเป็นแค่หนอนน่าสมเพช ไม่ว่าในชีวิตเย่ว์หยาง ในชีวิตข้า..หรือชีวิตเจ้า  เจ้าคิดว่าเจ้าฉลาดนักหรือ? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นนักสู้แท้ที่มีพลังเพียงพอจะฆ่าใครได้ง่ายๆ หรือ เจ้านึกว่าจะเป็นผู้ชนะในที่สุดหรือ?”  หลังจากซุ่นเทียนได้ยินคำนี้ มุมปากเขาบิดเบี้ยวเหยเก  เขาต้องการจะพูดหักล้างคัดค้านหลายครั้ง
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเอ่ยปากได้
เขาไม่สามารถพูดได้สักคำ และต้องการจะข่มความอึดอัดแน่นอก ทันใดนั้นเขารู้สึกหวานวูบในลำคอและกระอักโลหิตออกมา
หน้าของเจ้าอ้วนไห่ปกติก็ฉุเหมือนซาลาเปานึ่งอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้กลับดูยิ่งใหญ่
ในใจซุ่นเทียนเขารู้สึกต่อต้านขัดขืนเหตุผลนี้เป็นระยะ แม้ไม่ได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้   แต่ซุ่นเทียนเข้าใจว่าตนเองเหมือนกำลังได้รับความช่วยเหลือบางอย่าง  การต่อสู้ครั้งนี้ต่อให้เขาฆ่าเจ้าอ้วนไห่ได้ก็ตาม  แต่คาดว่าตลอดชีวิต เขาจะไม่สามารถบรรลุผ่านปมชีวิตในใจที่เป็นอุปสรรคนี้ได้เลย
เป็นความจริงหรือนี่  เราคือกบในก้นบ่อ?
โอ๊คคค!
ความคิดนี้ทำให้ซุ่นเทียนกระอักโลหิตออกมาอีกกองใหญ่ !-!

15 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เจ็บไหมเอ่ย?! ท่านจักรพรรดิซุ่นเทียนผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าโดนเย่คงด่าคงไม่ค่อยเจ็บเท่าโดนพี่อ้วนเกือบสุดเเสนอ่อนเเอที่สุดประจำกลุ่มเราด่าเเล้วล่ะ // รู้สึกสะใจเเปลก ๆ

dvdkeeper กล่าวว่า...

อ้วนไห่โครตเท่ ตอนนี้

พี่แต กล่าวว่า...

สะกิวปากอ้วนไห่ ร้ายจริงๆ ข้ายอมแพ้แล้ว

โนนะเกงกิ กล่าวว่า...

อั๊ย เจ้าอ้วนตั้งแต่อ่านมาตอนนี้เจ้าเท่ห์สุด

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ขอเป็นFC เจ้าอ้วนเลยทีเดียว

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Dragon fly กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มันส์ๆๆ มีอีกหลายคู่

ผ่านมา กล่าวว่า...

ซุนเทียนนี่เบ้ที่แท้จริง

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

อ้วนไห่สุดจริง

KiattisakPleng กล่าวว่า...

ไงละเจอด่าจนกระอักเลือดเลยดิ

peem48765@hotmail.com กล่าวว่า...

บอกตามตรงนี้เป็นตอนแรกที่อ่านคำพูดเจ้าอ้วนไห่ต้าฟู่แบบครบถ้วนทุกคำไม่ข้าม

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น