ตอนที่ 754
คนตายคนบ้าเผชิญความสิ้นหวัง
เมืองซือว่าง
เมืองซือว่างจุดที่พักของสมาคมทหารรับจ้างหายไปแล้ว
แม้แต่ซากหักพังก็ยังไม่เหลือให้เห็น
นอกจากนี้สิ่งที่พอเป็นเครื่องหมายเมืองซือว่างก็คือที่ลาดเทระหว่างเชิงเขา
เย่คงในสภาพที่เหมือนกับลิงที่ปั้นจากโคลนโผล่ออกมาจากดินกองดินหอบหายใจอยู่พักหนึ่งเพื่อเรียกสติ
และโก่งคอตะโกนเสียงแหบแห้ง
“องค์ชายๆ, สิ้นพระชนม์แล้วหรือยังพะย่ะค่ะ?”
ผ่านไปครู่หนึ่งในโคลนใต้ล่างเขา
มีเสียงอ่อนล้าดังแผ่วออกมา “ยังไม่ตาย,
แต่ถ้าเจ้าไม่ดึงข้าออกไป ข้าตายแน่!” เย่คงได้ยินเช่นนั้นก็สะดุ้งโหยงตัวลอยและขุดลงไปในดินอย่างบ้าคลั่ง”
หลังจากขุดอยู่ชั่วขณะเขาพบร่างที่เหมือนปั้นขึ้นจากดิน เขาแทบจำไม่ได้ว่านี่คือองค์ชายเทียนหลัวบุรุษรูปงาม
“แค่ก
แค่ก แค่ก!”
บนโขดหินประมุขนิกายพันปีศาจกุมอกไอเบาๆ
ประมุขนิกายพันปีศาจมีรูใหญ่ที่ปอดซึ่งเป็นฝีมือของเย่คง
เมื่อชั่วโมงที่แล้วประมุขนิกายพันปีศาจโจมตีใส่หัวใจของเย่คง เย่คงโจมตีตอบโต้ตั้งใจจะให้ย่อยยับไปด้วยกัน
ประมุขนิกายพันปีศาจเบี่ยงหัวใจทางซ้ายเปิดหน้าอกด้านขวา ผลของการแลกหมัดด้วยกันทำให้เย่คงหัวใจหยุดเต้น
แต่องค์ชายเทียนหลัวพยายามอยู่ชั่วครู่ แต่เย่คงก็ยังไม่ได้สติ ทุกคนคิดว่าเย่คงตายแล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาโดนโยนลงกับพื้นและถูกฝนราดรด
ชีวิตเขากลับฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้งราวกับแมลงสาบที่ตายยากแสนเข็น
ไม่มีใครอื่น
องค์ชายดำตั้งใช้พลังดรรชนีแทงสมองของเย่คง
แต่พลาดไปกรีดหน้าผากลากมาถึงแก้ม
เย่คงไม่ยอมให้พลังดรรชนีแทงเข้าไปในสมอง ตาขวาของเขาเกือบบอด
ผลก็คือเขากับองค์ชายดำต่างฝ่ายต่างแลกโจมตีตอบโต้ องค์ชายดำอวัยวะภายในเสียหายและอวัยวะภายในบางส่วนหลุดออกมานอกตัว.. เย่คงไม่รู้ว่าคืออะไร เพราะกลัวว่าองค์ชายดำจะฟื้นฟูได้เต็มที่ เขาไม่ลังเลใจหยิบอวัยวะชิ้นนั้นโยนใส่ปากและเคี้ยวกิน
และรอให้องค์ชายดำถ่มกระอักโลหิตอย่างและไล่ทุบอย่างบ้าคลั่ง
เขาถ่มออกมาได้แต่เพียงเลือดและน้ำย่อย
ในท้อง
ประมุขนิกายพันปีศาจกุมอกไอ ขณะที่องค์ชายดำกุมท้อง
เดิมทีประมุขนิกายพันปีศาจยังลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าได้
แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถบินได้จำใจต้องมาหยุดพักที่โขดหิน
ปกติแม้ว่าจะให้เขาสู้ตอนนี้
เขาก็ยังมีระดับฝีมือที่สูงกว่าเย่คงและองค์ชายเทียนหลัว
การพรางตัวล่องหนแต่เดิมขององค์ชายดำไม่สามารถทำได้อีก
เขาได้แต่ซ่อนตัวอยู่ในชุดคลุม เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวเห็นแต่เพียงตัวประหลาดลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในชุดคลุมเปื้อนเลือดแห้งเกรอะกรังเหมือนกับรอยสักยันต์ ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังต่อสู้เสี่ยงชีวิต
เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวคงจะควักเงินให้เพราะคิดว่าเป็นขอทานไปแล้ว
“ต้านทานเขาให้ได้อีกสักพัก พวกเขาถึงขีดจำกัดแล้ว” ประมุขนิกายพันปีศาจปลอบองค์ชายดำ
ความจริงเขาพูดประโยคนี้ซ้ำๆ
ไม่น้อยกว่าร้อยครั้งแล้ว
เขาเองก็ได้ยินก็ยังเลี่ยน
แต่ไม่รู้จะทำยังไง
ความจริงก็คือเป็นเรื่องยากกับการจัดการเย่คงและองค์ชายเทียนหลัว
ก่อนนี้ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำอาจเหนือกว่าเป็นร้อยเท่า
ซุ่นเทียนที่ควรจะฆ่าเจ้าอ้วนไห่ได้กลับช้า และสื่อจินโหวก็ยังไม่สามารถเอาชนะเสวี่ยทันหลางได้
ปล่อยให้ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำแทบเป็นบ้า
อีกทั้งพวกผู้อาวุโสสภากวงหมิงและบริวารอีกนับสิบก็ยังไม่สามารถกำจัดสาวน้อยหลิวเย่ได้!
ถ้าประธานผู้อาวุโสกลับมาตอนนี้
ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำจะปล่อยให้เขาถูกแขวน
มีกำลังคนมากขนาดนั้น
กะแค่เด็กสาวคนเดียวก็รับมือไม่ได้
นี่น่ะหรือนักสู้อันดับหนึ่งของสภาอาวุโสแห่งทวีปกวงหมิง
กลุ่มที่ควรจะได้ชัยชนะเร็วที่สุดง่ายที่สุดแทบจะไม่มีทางล้มเหลวได้
ยังไม่กลับมา ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำพูดไม่ออก ถ้าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ยังไม่สามารถจัดการได้
แล้วยังคิดจะครอบครอบหอทงเทียนอีกหรือ?
ยังคิดต้องการตีเสมอกับวังมาร เผ่าภูตบูรพา, เผ่าใต้พิภพ, เผ่าปีศาจและนักสู้คนอื่นๆ
หรือ? มนุษย์วิหคแห่งทวีปกวงหมิงล้อเล่นกันหรือเปล่า? มิน่าเล่าจักรพรรดิฟ้าถึงได้ตาย
ราชาเฮยอวี้ถึงได้แพ้ ไม่ว่าฝ่ายไหน
สนามรบไหนหรือใครก็ตามที่มาในตอนนี้ย่อมดีทั้งนั้น
ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำสงสัยว่าซุ่นเทียน,
สื่อจินโหวและประธานผู้อาวุโสทวีปกวงหมิงคงถูกเย่ว์หยางฆ่าไปแล้ว
มิฉะนั้นทำไมพวกเขาไม่มากัน?
เสวี่ยทันหลางยากจะรับมือได้จริงๆ แต่เจ้าอ้วนไห่นี่สวะชัดๆ
ทำไมซุ่นเทียนถึงไม่รีบฆ่าเขา?
คนที่น่าโมโหที่สุดก็คือประธานผู้อาวุโสกวงหมิง เด็กสาวตัวเล็กอย่างหลิวเย่ยังจัดการไม่ได้ แก่หัวหงอกเปล่าจริงๆ!
“มียาเม็ดพลังยุทธ์บ้างไหม? ขอข้าสักเม็ดเถอะ!”
เย่คงแบมือที่เปื้อนโคลนขอองค์ชายเทียนหลัว
“ไม่เหลือแล้ว?”
องค์ชายเทียนหลัวโมโห
เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเจ้าลิงเย่กินยาส่วนแบ่งของเขาไปหมด
และตอนนี้ยังกล้าบากหน้าขออีกหรือ?
เย่ว์หยางปรุงยาเม็ดพลังยุทธขึ้นไม่ใช่ใช้เป็นอาหาร แต่แบ่งให้กับผู้มีพรสวรรค์ทุกคนมากหน่อย
ใครจะรู้กันว่าเจ้าผู้นี้จะโยนเข้าปากโดยไม่เหลือไว้ องค์ชายเทียนหลัวเลียริมฝีปากและพบว่าคอของเขาแห้งผาก เขาอ้าปากรับน้ำฝนจากฟ้าและแนะนำเย่คง
“น้ำฝนนี้ไม่น่าจะมีพิษ เจ้าน่าลองดื่มดู”
เย่คงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้ว่าฝนไม่มีสีเขียวขมเหมือนเมื่อก่อน
เขาอ้าปากรับเหมือนกับคางคกรอน้ำฝน
แม้ทั้งสองคนดื่มน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง
แต่ก็ยังกระตุ้นยั่วโทสะองค์ชายดำโดยไม่กลัวตาย
“เจ้าสุนัขดำ! พิษของเจ้าช่างไร้ประโยชน์จริงๆ อยู่ได้ไม่เท่าไหร่ก็สลายไปเสียแล้ว ตะกวดพิษที่ข้าพบเจอที่แดนสวรรค์มาก่อนนั้น
พ่นหมอกพิษแล้วแม้ผ่านไปสามวัน แค่คนได้กลิ่นก็ทำให้มึนศีรษะได้!”
องค์ชายดำไม่ให้ความสนใจการยั่วยุของเย่คง
เขาตัดสินใจรอให้ซุ่นเทียนมาช่วยเขา มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่เป็นภัยคุกคามแล้ว
เย่คงผู้นี้คงจะหมดหวังชีวิต
เหมือนกับว่าชีวิตของเขามีค่าไม่ต่างจากสตางค์แดง องค์ชายเทียนหลัวก็อันตรายไม่ธรรมดา เมื่อเย่คงทุ่มเทพลัง เขาจะยอมเจ็บตัว
เจ้าอสูรปราณฟ้านั่นก็แข็งแกร่งนัก
ตอนนี้คนทั้งสี่บาดเจ็บสาหัสกันหมด
ใครก็ตามที่ฉวยโอกาสโจมตี อย่างมากก็พินาศด้วยกันทั้งสองฝ่าย ประมุขนิกายพันปีศาจไม่สามารถเริ่มโจมตี และแน่นอนเขาจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นแน่!
ยิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อ
ฝ่ายตนเองก็ได้เปรียบมาก
องค์ชายดำลอบเกร็งพลังเงียบๆ
และทุกห้านาที เขาจะต้องปล่อยคลื่นพลังดำกระแทกใส่เย่คงและองค์ชายเทียนหลัว
เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวทั้งสองคนต้องการเวลาเพื่อฉวยโอกาสลงมือโจมตีฆ่าให้ได้สักคน องค์ชายดำเหมือนกับกระจกเงา คิดว่าเขาจะถูกหลอกหรือ ไม่มีทาง!
คนที่มีความคิดอย่างเดียวกันก็ยังเป็นประมุขนิกายพันปีศาจ
นอกจากนี้เขายังคงรู้สึกว่าตราบเท่าที่ใช้คลื่นระเบิดโจมตีระยะไกล
องค์ชายเทียนหลัวสิ้นเปลืองกำลังแต่เย่คงจะไม่มีปัญหาอะไรเลย
ฉวยโอกาสลงมือเองน่ะหรือ
ให้พวกเขาโจมตีเองน่ะหรือ
เว้นแต่พวกเขาบ้า มิฉะนั้นก็เป็นไปไม่ได้ รอซุ่นเทียนสักเดี๋ยว,
สื่อจินโหวและประธานผู้อาวุโสมาสมทบก่อน
จะลองเสี่ยงคนเดียวดูไหม?
ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ข้าเกือบฉวยโอกาสเล่นงานเจ้าลิงเย่คงได้แล้ว โชคดีที่องค์ชายเทียนหลัวไม่มีเวลาโจมตีตอบโต้มิฉะนั้นอาจจะต้องตายจากแรงระเบิด องค์ชายดำผู้นี้ไม่ทำอะไร หรือว่าเขาไม่มีสมอง
ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำต่างมีความคิดเป็นของตนเอง
และแม้แต่ทั้งสองยังรักษาระยะเอาไว้
เขาเองไม่กล้าเข้าใกล้ฝ่ายตรงข้าม
ศัตรูของพวกเขานอกจากเย่คงและองค์ชายเทียนหลัวแล้วยังมีความกังวลว่าจะมีคนอื่นเข้ามาสมทบด้วยเสมอ
ในโลกนี้ไม่มีศัตรูหรือสหายถาวร
ผลประโยชน์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมดนอกจากตัวมันเอง
ไม่มีใครเชื่อว่าประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำมองผิวเผินร่วมกันต้านทานศัตรู
แต่พวกเขาไม่มีทางเหมือนเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ตลอดไป มีแต่จะดึงสหายให้กลับมาช่วยชีวิตตนเอง
แคก
แคก แคก!
เสียงไอที่อ่อนล้าดังขึ้น
ทั้งสี่คนตะลึงพร้อมกัน
เพราะเสียงนี้ไม่ได้ดังมาจากประมุขนิกายพันปีศาจ
ใครกัน?
ในม่านสายฝนมีร่างเงาดำลอยตัวมาจากท้องฟ้าไกล
เมื่อใกล้เข้ามาถึงได้เห็นคนผู้นี้ชัดเจนขึ้น กลับเป็นสื่อจินโหว
ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำดีใจ
เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวมีสีหน้าเปลี่ยนไป
การปรากฏตัวของสื่อจินโหวหมายความว่ายังไง?
หมายความว่าเสวี่ยทันหลางพ่ายแพ้แล้ว!
เสวี่ยทันหลางผู้มีพรสวรรค์ฝีมือมากที่สุดในกลุ่มรองจากเย่ว์หยางพ่ายแพ้อย่างนั้นหรือ? ในบรรดารุ่นผู้เยาว์ เหล่าผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์เป็นรองจากเย่ว์หยาง
ได้ท้าทายศัตรูที่ทรงพลังที่สุด และกลายเป็นผู้อ่อนแอที่สุดในประวัติศาสตร์หรือนี่
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,
ข้ารู้ว่าเจ้าเด็กเสวี่ยทันหลางนั่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า!” ประมุขนิกายพันปีศาจดีใจ
แม้ว่าสารรูปของสื่อจินโหวในปัจจุบันนี้จะยังไม่มีพลังเท่ากับราชันย์พันปีศาจในอดีต แต่เขาเป็นร่างแยกสุดท้ายของราชันย์พันปีศาจอีกทั้งระดับสติปัญญาไม่ธรรมดา
ทั้งฟื้นฟูพลังได้ถึงปราณก่อกำเนิดระดับแปด
การเอาชนะเสวี่ยทันหลางได้ถือเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้ว!
“แค่ก แค่ก!” สื่อจินโหวไอเบาๆ ไม่ทราบว่าเขาไม่รู้จักถ่อมตัวหรือว่าอาการบาดเจ็บภายในยังไม่บรรเทาลง
“พวกเจ้ายังอยู่ที่นั่นกันอีกหรือ?” เสียงหนึ่งดังขึ้นในสายฝน
ร่างของของซุ่นเทียนค่อยๆ
ปรากฏขึ้น น้ำเสียงของเขาแปลกไปและดูเหมือนจะแฝงไปด้วยแววเย้ยหยัน
“ข้าคิดว่าพวกเจ้าจะไม่อยู่กันเสียแล้ว...”
คำพูดของเขาทำให้ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำพูดด้วยความไม่พอใจ “ซุ่นเทียน,
เจ้ายังแข็งแกร่งดีอยู่ใช่ไหม?
สู้กับเจ้าอ้วนไห่แล้วเพิ่งมาในตอนนี้
ดูสิแม้แต่หมัดขวาที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าก็ยังแหลกเละ
แค่อาศัยลักษณะของคนขี้แพ้อย่างเจ้ายังกล้ามาเย้ยหยันพวกเราอีกหรือ? ถ้าเปลี่ยนเป็นข้า
เจ้าอ้วนไห่คงตายไปนานแล้วและเอาศีรษะของเขามาทำกาต้มน้ำไปแล้ว”
องค์ชายดำมองว่าเป็นเรื่องปกติจึงพูดอย่างไม่ไยดีและประชดประชัน
ความจริงเขากับประมุขนิกายพันปีศาจเข้าใจดีว่าหมัดขวาของซุ่นเทียนถึงกับแตกหัก
พิสูจน์ได้ว่าคนอย่างเจ้าอ้วนไห่จัดการไม่ใช่ง่ายๆ
มิฉะนั้นซุ่นเทียนคงไม่เพิ่งตามมาทันในตอนนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินน้ำเสียงของซุ่นเทียน
เขาอดกล้ำกลืนคำพูดไม่ได้
ประมุขนิกายพันปีศาจเห็นซุ่นเทียนและสื่อจินโหวมาถึง
ในใจเขามีความสุข เมื่อเป็นเช่นนี้ก็หมายความว่าศึกในวันนี้กำลังจะชนะ
เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวจะต้องตายอย่างแน่นอน
เพียงแต่ตอนนี้ยังขาดกลุ่มของประธานผู้อาวุโส
แต่ตราบใดที่ประธานผู้อาวุโสไม่ออมมือ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะพ่ายแพ้ และเมื่อประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำเตรียมจะโจมตีเย่คงและองค์ชายเทียนหลัว มีกลุ่มคนเริ่มปรากฏตัวในระยะห่างออกไป ดูเหมือนเป็นคนกลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาที่นี่
“ยังไม่ได้เวลา ยังไม่ได้เวลา มาถึงตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน”
ประมุขนิกายพันปีศาจรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย ดูเหมือนจะพลาดไป และองค์ชายดำก็ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ
อย่างไรก็ตาม
ใครจะลงมือจัดการองค์ชายเทียนหลัวผู้แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม และเย่คงก็ยังไม่ตาย
และเป็นเขากับองค์ชายดำดูจะเหมาะสมที่จะลงมือมากที่สุด
ยิ่งกว่านั้นในบรรดาคนหลายคนนั้น
เขากับองค์ชายดำบาดเจ็บน้อยที่สุด ซุ่นเทียนเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มแต่หมัดขวาของเขาแหลกยับเยิน
มีศีรษะสองสามหัวถูกโยนออกมาผ่านสายฝนที่หนาเม็ด
เป็นศีรษะที่ไม่สะดุดตา มันกลิ้งหลุนๆ ฝ่าสายฝนเหมือนกับก้อนหินมาหยุดอยู่ที่เท้าของประมุขนิกายพันปีศาจ ประมุขนิกายพันปีศาจหน้าเขียวคล้ำ “ถือดีที่มีคนจำนวนมากกว่าเอาชนะได้
ประธานผู้อาวุโสทวีปกวงหมิงก็ยังไม่มีอะไรอยู่ดี”
ทันใดนั้นเขาพบว่าผิดปกติ
เขามองดูศีรษะบนพื้นและพบว่าศีรษะที่ดูไม่สะดุดตานั้นกลับกลายเป็นของประธานสภาอาวุโสกวงหมิง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” องค์ชายดำพบว่ามีความผิดปกติและตวาดถาม
เขาพบว่าหัวบนพื้นทั้งหมดเป็นผู้อาวุโสของสภากวงหมิง
ชายชราในชุดคลุมซึ่งเป็นผู้โยนศีรษะออกมาเดินใช้ไม้พยุงตัวราวกับไม่มีแรง
เขากระแอมไอเบาๆ
“ยังต้องอธิบายด้วยหรือ? จี๋ฟงและมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ของพวกเจ้า
ช่วยอธิบายให้พวกเขาฟังแทนเราผู้เฒ่าที”
ที่ด้านหลังชายชรา
มนุษย์มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์มีหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึก มนุษย์ปลาดาบจี๋ฟง ปลาวาฬจาง
มนุษย์ปลาตีนสุ่ยจุ้ยและคนอื่นปรากฏตัว... อีกด้านหนึ่งเป็นเหล่าผู้เยาว์เช่น
หลิวเย่ เป่าเอ๋อ เย่ถิง ฟงชิซา เหยียนพั่วจวิน และราชันย์ปีศาจทักษิณ เซี่ยอี
ราชินีซิก ฉงนี่ ฯลฯ ไม่มีนักสู้จากนิกายพันปีศาจอยู่เลย
ในท้องฟ้าจู่ๆ
ก็ปรากฏเกาะลอยฟ้า
ท้องฟ้ายามกลางวันมืดสลัวราวกับมีบางอย่างปิดคลุมท้องฟ้า
ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำมองดูอยู่นานจึงค่อยพบว่านี่คือปลาวาฬเกาะ
ที่มีขนาดใหญ่จนคาดไม่ถึง
ปลาวาฬเกาะอสูรปราณฟ้าระดับสามทำให้ประมุขนิกายพันปีศาจรู้สึกสิ้นหวัง
ความสิ้นหวังของเขาไม่ใช่อยู่ที่พลังของปลาวาฬเกาะนี้ แต่อยู่ที่สนามพลังพิเศษที่มากับมัน ภายใต้เงาครอบคลุมของมัน คนที่เป็นเป้าหมายจะไม่สามารถหนีไปได้ กลายเป็นเหยื่อชนิดหนึ่งของสนามพลัง
สำหรับปลาวาฬเกาะบางทีมันคร้านจะเคลื่อนไหว ดังนั้นมันจะใช้สนามพลังล่าเหยื่อกลืนกินสัตว์เล็กสัตว์บางส่วน
อย่างไรก็ตามสนามพลังนี้จะสร้างสนามรบให้อีกฝ่ายอ่อนแอเป็นพิเศษ และนั่นคือโศกนาฏกรรมที่ใหญ่ที่สุด!
ไม่กี่นาทีต่อมาคนกลุ่มใหญ่วิ่งฝ่าสายฝนเข้ามา
นำโดยยอดฝีมือเผ่าปีศาจ
เช่นจอมปีศาจบารุธ จ้าวปีศาจฮาซิน จ้าวปีศาจโอเกิน ราชาลิช (เผ่าปีศาจกระดูก)
กรุนและมาฟา
“อย่าเข้าใจผิด ซุ่นเทียน องค์ชายดำ
ประมุขนิกายพันปีศาจและสื่อจินโหว อ่า.. ข้าควรจะเรียกเจ้าว่าราชันย์พันปีศาจในอนาคตสินะ ความจริงเราไม่ได้มีเจตนาร้ายอันใด
เพราะพวกเจ้าเป็นคู่ต่อสู้กลุ่มสุดท้ายที่ยังสู้อยู่ เราแค่มาชมดู..พวกเจ้าสู้ต่อไปได้ไม่ต้องเกรงใจเราก็ได้!”
จอมปีศาจบารุธตอนนี้เป็นนักสู้ระดับปราณฟ้าแล้ว ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บ แต่ซุ่นเทียน
ประมุขนิกายพันปีศาจ องค์ชายดำและคนอื่นแค่บังเอิญเจอกัน
“เฮ้เฮ้เฮ้..ต่อให้เจ้าชนะได้ชั่วคราว
แต่เย่ว์หยางก็ตายแล้ว และจ้าวปีศาจโบราณจะไม่ยอมปล่อยพวกเจ้าเช่นกัน!
มาดูกันว่าใครจะสิ้นเปลืองพลังกัน
เราสามารถเข้าไปในโลกคัมภีร์และรอได้ชั่วขณะ
เมื่อถึงเวลาหอทงเทียนจะตกเป็นของเรา และพอพวกเจ้าถูกทำลายไปแล้วเราค่อยออกมาอีกครั้ง ถ้าเป็นไปตามที่นัดหมาย
หอทงเทียนนี้จะตกเป็นของเรา แต่พวกเจ้ากลับรอให้จ้าวปีศาจโบราณและทหารรับจ้างแดนสวรรค์ถูกกำจัดแล้วพวกเจ้าจึงค่อยออกมาบอกอีกว่าพวกเจ้าจะช่วยเย่คง
องค์ชายเทียนหลัว ทั้งยังจะช่วยเสวี่ยทันหลางและเจ้าอ้วนไห่ด้วยหรือ? พวกเจ้าจะช่วยเย่ว์หยางหรือ?
ด้วยศักดิ์ศรีและอายุของพวกเจ้า พวกเจ้ายังจะทนอย่างนี้ได้หรือ?” องค์ชายดำแค่นเสียงเยาะเย้ย
“ใครบอกกันเล่าว่าเสวี่ยทันหลางตาย?” เป่าเอ๋อไม่เชื่อและตะโกนเถียง “หนุ่มน้ำแข็งแทงหัวใจสื่อจินโหว
ไม่ใช่สื่อจินโหวทำลายหนุ่มน้ำแข็งสักหน่อย
พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว แต่ยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นยอดฝีมือหรือนี่” “อะไรนะ?”
ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำพอได้ยินเช่นนี้ก็หันไปมองสื่อจินโหว
“ไม่ผิดหอรก”
สื่อจินโหวมีสีหน้าขมขื่นและพยักหน้า
เขาเปิดชุดคลุมมองเห็นอกที่มีรูโหว่ขนาดใหญ่ อวัยวะภายในเช่นหัวใจ ปอดที่ควรจะมีกลับหายไป
สื่อจินโหวพ่ายแพ้แล้ว
เขาแค่พยุงร่างกลับมา
บางทีเขาคิดว่าพยุงตัวต่อไปก็ไม่มีประโยชน์
เขาค่อยๆ
ทรุดตัวนั่งลงบนโขดหินและพูดกับเย่คงและองค์ชายเทียนหลัว “ฝากคำพูดถึงเย่ว์หยางด้วยว่า
ข้าสื่อจินโหวแพ้แล้ว
ข้า..ยอมรับ...ว่าตัวข้า..ด้อยกว่าเขา..
หอทงเทียน... เป็นของเขาแล้ว”
เมื่อสื่อจินโหวพูดจบก็ล้มตัวนอนกับพื้นหิน
คำพูดสุดท้ายเป็นชวาลชีวิตวูบสุดท้ายของเขา
เพลิงปีศาจลุกไหม้ได้ในท่ามกลางสายฝน ศพของสื่อจินโหวและวิญญาณถูกเผาผลาญไปพร้อมกัน
ครั้งหนึ่งคนผู้นี้คือศัตรูที่ทำให้เย่ว์หยางตื่นตะลึงและมีความแข็งแกร่งยากจะจัดการ
ครั้งหนึ่งคนผู้นี้เย่ว์หยางต้องร่วมมือกับเสวี่ยอู๋เสียสู้จึงจะชนะเขาได้
บัดนี้เขามาถึงปลายทางชีวิตเหลือแต่ควันและเถ้าธุลีปลิวหายในอากาศ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตายได้ดี ตายได้ก็ดี” จู่ๆ ซุ่นเทียนก็หัวเราะราวกับคนบ้า “ข้าผิดเอง ไม่ ไม่ใช่ข้าผิดเท่านั้น! เรามันผิดกันทั้งหมด
เราเป็นแค่กบก้นบ่อ เป็นหนอนน่าสมเพช
คนน่าสมเพช น่าสมเพช
ฮ่าฮ่าฮ่า” ซุ่นเทียนหัวเราะ และจู่ๆ
ก็ร้องไห้ฟูมฟาย ในท่ามกลางสายฝน เขาหมดราศียอดฝีมือ
แต่กลายเป็นเหมือนคนวิกลจริตเดินจากไป
ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชาดำหน้าซีดขาว
พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรกับซุ่นเทียน?
เขาบ้าไปแล้ว?
เมื่อเย่คงและองค์ชายเทียนเตรียมจะสกัดขัดขวางเขา
ผู้เฒ่าเต่ามังกรส่ายศีรษะ “ช่างเถอะ,
เขาเสียสติจริงๆ!”
คำพูดเช่นนั้นทำให้ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำตกใจกลัวจนนึกอะไรไม่ออก ซุ่นเทียนพบเจอประสบการณ์อะไรมากันแน่?
ใครทำให้จักรพรรดิม่วงผู้ยิ่งใหญ่นี้กลายเป็นบ้าไปได้? เจ้าอ้วนไห่หรือ?
“หรือว่าเย่ว์หยาง?
ซุ่นเทียนวิกลจริตจากไป ไม่สนใจแม้แต่ตัวเองงั้นหรือ?
ประมุขนิกายพันปีศาจและองค์ชายดำมองหน้ากันเอง
สายตาของเขาได้แต่มองด้านตรงข้ามด้วยความสิ้นหวัง....!-!
13 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากเลยนะครับ
โดนด่าจะจนสติเเตกไปเเล้วววว
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
นึกว่าจะโดนด่าจนตาย รอดเฉย 555
อยากจะอิน อยากจะเข้าถึงเนื้อเรื่อง
แต่จำไม่ได้ว่าตัวร้ายพวกนี้คือใครอ่ะ ;-;
ขอบคุณครับ
ศตรูเก่ายังไม่ทันหมดศตรูใหม่ก็มาคือมันไม่รู้ว่าใครเป็นใครแล้ว
ขอบคุณมากครับ
เริ่มอ่านใหม่อีกครั้ง
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น