วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 764 เขาคือใคร?


ตอนที่  764  เขาคือใคร?
ธงของกองทหารเกียรติยศโบกสะบัดพลิ้วไสว
กองทหารเกียรติยศภายใต้บังคับการของผู้บัญชาการทหารประจำเมืองได้กำหนดแบ่งออกเป็นสองแถวเพื่อต้อนรับอาคันตุกะอย่างสมเกียรติ
 
เจ้าเมืองถูไห่ยืนอยู่แถวหน้ารอคอยรถม้าบินที่กำลังลดระดับลงมา  ปกติยกเว้นการต้อนรับราชาหลิงหวินแล้ว ไม่เคยมีการต้อนรับอาคันตุกะเป็นการส่วนบุคคลอย่างนี้มาก่อน ในฐานะที่ถูตั่วเป็นหัวหน้าองครักษ์ประจำตัวซึ่งเป็นญาติกับเจ้าเมือง เขารู้สึกว่าครั้งนี้มากเกินไปหน่อย  แม้ว่าผู้มาจะเป็นนักสู้ระดับปราณฟ้า แต่ไม่น่าจะมีคุณสมบัติพอให้เจ้าเมืองออกไปต้อนรับด้วยตนเอง
นอกจากนี้เมืองลี่จ้าวไม่ใช่เมืองธรรมดา
นี่คือสถานที่ระลึกที่นักรบแดนสวรรค์ที่เอาชนะชาวหอทงเทียนผู้รุกรานได้!
ปกติแล้วหัวหน้าองครักษ์ประจำตัวซึ่งเป็นญาติกับเจ้าเมือง เขาคือถูตั่ว เขาไม่กล้าล่วงเกินถูไห่ เขารู้ดีว่าถูไห่อารมณ์ร้ายแค่ไหน
รถเทียมม้าบินหยุดนิ่ง ประตูห้องโดยสารเปิดออกและมีคนสองคนช่วยรูดเปิดม่าน เป็นคนอ้วนหนึ่งและคนผอมหนึ่งตามด้วยสุนัขที่มีระดับนักสู้ต่ำจนพูดไม่ออก  หลายคนคิดว่านี่เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ดูเล่น หรือไม่ก็เป็นอารมณ์ขันที่เป็นรสนิยมของเจ้าของสุนัข
ต่อให้ชอบเลี้ยงสัตว์  ก็ควรจะเลี้ยงสัตว์ที่สวยงาม
นี่มันสุนัขน่าเกลียด!
รสนิยมอะไรกัน  เห็นแบบนี้พูดไม่ออก!
ได้ยินมาว่าเจ้าเมืองกำลังจะต้อนรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติด้วยความยินดี พวกพ่อค้าทั่วไปและพ่อค้าใหญ่ผู้มั่งคั่งได้ทราบข่าวต่างพากันมองดูสุนัขตัวนี้ และสุนัขตัวนี้มันเชิดหัวสูงด้วยความหยิ่งภูมิใจ
เพราะสัตว์เลี้ยงที่ภรรยาน้อยภรรยาใหญ่นำมา ถ้าไม่มีความดึงดูดน่าสนใจ ก็คงมีพลังพอครอบงำ หรือพวกเขาอาจมีรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร อย่างเช่นเจ้าสุนัขสีเทานั้น ถ้าเจ้านายสุนัขไม่ได้เป็นนักสู้ปราณฟ้า ทุกคนคงหัวเราะไปแล้ว
เจ้าเมืองถูไห่เห็นฮุยไท่หลางมีอาการเกียจคร้าน แต่เขาหนังตากระตุกทันที
เขาลอบสังเกตพ่อค้าและนักธุรกิจที่มั่งคั่ง แค่มองจากหางตา พวกเขากวาดตามองดูสัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่ราคาแพงและถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนคนเหล่านั้น และจากนั้นเทียบกับฮุยไท่หลายที่นอนเกียจคร้านอยู่บนพื้น  ทันใดนั้น เขารู้สึกละอายและหงุดหงิดรำคาญเล็กน้อย  กลุ่มคนโง่ที่คิดว่าตนเองไม่ผิด  เขาอยู่กับคนโง่มาเป็นเวลาหลายร้อยปี  นี่เขาจะพลอยโง่ไปด้วยหรือไม่?
เจ้าเมืองถูไห่กำลังหงุดหงิดกับนายพลที่ลอบแค่นหัวเราะอยู่ด้านหลัง
ทั่วทั้งแดนสวรรค์  นักสู้ปราณฟ้าคนไหนที่เลี้ยงสุนัขชั้นทองแดงระดับสามเป็นสัตว์เลี้ยง
ไม่มีเลย!
แม้ว่าจะมีจ้าวสุนัขที่รู้จักกันในนามว่าซืออ๋าวนักสู้แห่งแดนสวรรค์ตะวันตก เขามีสุนัขไม่กี่พันตัว และไม่มีสักตัวที่สีดูเป็นสนิมสกปรกอย่างตัวนี้
ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าเลี้ยงสุนัขแบบนั้นได้ยังไง?  ยิ่งกว่านั้นมันยังเป็นที่โปรดปรานสร้างความพอใจให้กับคนใกล้ๆ ด้วยหรือ
คำตอบที่แท้มีประการเดียว
นั่นคือคนที่อยู่ข้างหลังของเขาเหล่านี้เข้าใจผิด  ความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดานี้มองดูเหมือนเป็นแค่ระดับปราณดิน  แต่ความจริงเจ้าสุนัขที่ดูโง่และสีตัวเหมือนสนิมนี้ต้องเป็นอสูรปีศาจที่แข็งแกร่งใกล้เคียงระดับปราณฟ้า  เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นเซอร์เบอรัส(สุนัขนรก)ประเภทหนึ่ง  อสูรตัวนี้มีความสามารถในการอำพรางพลัง  นอกจากนี้มันยังแปลงร่างเพื่อเข้าต่อสู้เหมือนเป็นร่างวิวัฒนาการที่สองของอสูรประเภทแมลงได้...
เจ้าเมืองถูไห่ลอบเทียบกับอสูรของเขาเอง
นอกจากนี้เขารู้สึกว่ามังกรดำอสูรปราณฟ้าระดับสองสามารถเอาชนะอสูรอีกฝ่ายได้ นอกจากนั้น ปีศาจแบนชี (ผีโหยหวน) และม้าศึกก็ดูเหมือนเป็นอสูรมีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่ง ก็ยังนับว่าไม่มีอะไร
เขามองอัญมณีกลมเครื่องมือที่ข้อมือ และอัญมณีสะท้อนแสงสีเขียว
ปลอดภัย
ผู้มาไม่ใช่เศษเดนหอทงเทียนที่ยังหลงเหลืออยู่  มิฉะนั้นอัญมณีกลมที่ข้อมือของเจ้าเมืองจะเปล่งเป็นสีแดงเตือนว่าศัตรูกำลังรุกราน
บนพื้นผิวกระจกอุปกรณ์ที่เขาสวมอยู่ที่ข้อมือบ่งชี้ว่าสุนัขสกปรกที่นอนเกียจคร้านอยู่บนพื้นปรากฏเป็นสัญญาณสีเขียว มีวงสีทองเลือนรางล้อมประกายสีเขียวซึ่งแสดงให้เห็นว่านั่นคือพลังของมัน  อย่างน้อยก็ต้องป็นอสูรปราณฟ้าที่ซ่อนพลังไว้ลึกมาก ดังนั้นจึงมีแสงทองกระจายรอบ  แต่ภายในรถม้าโดยสารมีจุดแสงสีเขียวซึ่งมีวงสีทองหลายจุด  ขณะที่ตรวจสอบอยู่นั้นดูเหมือนจุดสีเขียวนั้นจะหายไปทั้งหมดเหลืออยู่แต่เพียง จุดเขียวเดียวแต่มีวงทองสองชั้น
 “นักสู้ปราณฟ้าห้าคนหายไป  พวกเขาคงจะเข้าไปในโลกคัมภีร์”
เจ้าเมืองถูไห่ตกใจกับองครักษ์ปราณฟ้าห้าคน และนักสู้ผู้ปรากฏว่ามีวงทองซ้อนปรากฏอยู่บนหน้าปัดของอุปกรณ์ของเขา  นั่นหมายความว่าอย่างไร?
นั่นหมายความว่าเป้าหมายนี้อย่างน้อยต้องมีพลังปราณฟ้าระดับห้าหรืออาจมากกว่า!  นี่ไม่มีการผิดพลาดแน่  เพราะอุปกรณ์วงจักรข้อมือนี้คืออุปกรณ์ที่แดนสวรรค์ในอดีตใช้จับตาดูนักสู้ผู้รุกรานจากหอทงเทียน  และใช้เวลาหลายร้อยปีในการพัฒนาอุปกรณ์นี้
ถ้าเป็นที่อื่นอาจมีบ้างที่ประเมินผลผิด แต่ในเกาะสุริยันต์ไม่มีทางผิดพลาดได้อย่างแน่นอน  วงจักรข้อมือนี้เป็นอุปกรณ์ผ่านการพัฒนาค้นคว้า  แม้แต่ฝ่ายวิจัยพัฒนาค้นคว้าของตำหนักกลางแดนสวรรค์ก็เริ่มดำเนินการมาหลายพันปีก่อน  แต่ระลอกพลังทดสอบนี้ยังทำกันอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นขณะที่เจ้าเมืองถูไห่จับตามองดูเงียบๆ  จุดสีเขียวที่มีวงสีทองสองชั้นล้อมรอบเปลี่ยนไปทันที
ตอนแรกยังมีวงสีทองวงหนึ่ง และจากนั้นกลายเป็นจุดสีเขียวที่ไม่มีวงทอง
ดูไม่ต่างไปจากจุดสีเขียวรายรอบ
 “....” เจ้าเมืองถูไห่ถอนหายใจ มิน่าเล่าแค่สุนัขสกปรกที่ดูเหมือนสุนัขเฝ้าบ้านก็ยังไม่ธรรมดา เจ้านายของมันเก็บซ่อนพลังไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ซ่อนพลัง?  ถูไห่เกิดความคิดขึ้นมาฉับพลันทันด่วนเช่นกัน เขามองไปทางองครักษ์อ้วนผอม สองคนนี้มีสถานะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ธรรมดามีพลังไม่ต่างกับมด ปราณดินระดับห้า คนอ้วนดูเจ้าเล่ห์ คนผอมดูจริงจัง  แต่ตาของทั้งสองค่อนข้างคมเหมือนกับนักรบผู้ผ่านศึกสงครามที่แท้จริงมาแล้ว
แค่มองดูจากภายนอกยังไม่เห็นอะไรเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามต้องลองใช้เครื่องมืองรูปจักรที่ข้อมือของเขาเปรียบเทียบดู
เจ้าเมืองถูไห่ใช้อุปกรณ์ที่ข้อมือตรวจสอบชี้ไปที่คนทั้งสอง
คนแรกที่ถูกตรวจสอบก็คือเจ้าอ้วนที่ดูงุ่มง่ามเหลวไหล เขาเป็นสมาชิกในกลุ่มองครักษ์ที่มีพลังระดับปราณดินระดับหก... ด้วยผลนี้เจ้าเมืองถูไห่ตกใจกับความจริงที่ว่าสมดุลของเครื่องตรวจสอบพลังแสดงผลออกมาเป็นสีเขียว  โอกาสเอาชนะเจ้าอ้วนผู้นี้มีถึง 99%  หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่าคนผู้นี้ที่ทำตัวเป็นองครักษ์  ดูภายนอกเหมือนดีน่าเกรงขาม และดูเหมือนเขาจะไม่สามารถโจมตีตอบโต้ได้ด้วยซ้ำ
ภายในห้องโดยสารของรถม้าบิน มีบุรุษหนุ่มสี่คน
เป็นองครักษ์คุ้มกันสองคน
และเป็นองครักษ์แฝด
อีกสองคนดูเหมือนเป็นคู่หูนักสู้ปราณฟ้า ท่าทางเขาดูเย็นชามีรังสีฆ่าฟันแผ่ออกจากตัว ซึ่งเหมือนกับไม่ใช่ระดับปราณฟ้า  แต่ที่ทำให้ถูไห่ประหลาดใจก็คือบุรุษหนุ่มนี้ไม่ธรรมดา  ส่วนบุรุษหนุ่มอีกคนหนึ่งรูปงามแค่ดูก็รู้ว่าเป็นชนชั้นสูง
คนทั้งสองไม่ว่าคนไหนก็ไม่ได้มีพลังระดับปราณฟ้า แต่ให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก... เจ้าเมืองถูไห่อดใช้วงจักรเครื่องตรวจสอบชี้ไปทางเขาไม่ได้ และผลแสดงออกมาเป็นสีเขียวและบ่งชี้ว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ เขามีระดับพลังที่เตรียมปราณฟ้า  สูงกว่าปราณดินระดับเก้า  ผลก็คือเป็นระดับที่เขาเอาชนะได้  โอกาสที่เขาเอาชนะได้สูงถึง 95%
จากนั้นเขาชี้เทียบกับถูตั่วหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวที่เป็นญาติของเขาและบุรุษหนุ่มน้ำแข็ง
ผลที่ออกมาทำให้เขาถึงกับมึนศีรษะ
หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวของเขาซึ่งเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งมีโอกาสแพ้ถึง 90%
แม้ว่าเครื่องพกตรวจสอบพลังจะเป็นแค่การทดสอบ ไม่ใช่รายงานผลการต่อสู้ที่แท้จริง  แต่ก็สามารถบอกอะไรได้หลายๆ อย่าง นั่นคือพลังของกลุ่มฝ่ายตรงข้ามต่างอำพรางพลังไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นพวกองครักษ์ อสูร หรือแม้แต่คนเป็นหัวหน้าที่ยังอยู่ในรถม้าโดยสาร
 “พลังขององครักษ์อ่อนแอเกินไป   ทั้งหมดมีพลังต่ำที่ปราณดินระดับห้า...”
 “สัตว์เลี้ยงไม่อ่อนแอ  แต่น่าเกลียดอัปลักษณ์!
 “เครื่องมืออาวุธก็นับว่าใช้ได้  เป็นสมบัติระดับทอง นักรบระดับปราณฟ้ามีได้ก็นับว่าเลิศหรูแล้ว
พ่อค้านักธุรกิจท้องถิ่นที่อยู่ด้านหลังของเขาพูดคุยกันด้วยภาษาท้องถิ่นเมืองลี่จ้าว  พวกเขาไม่กลัวฝ่ายตรงข้าม เพราะเมื่อหกพันปีก่อน เพื่อไม่ให้นักรบหอทงเทียนได้ความลับข้อมูล ทางนักรบแดนสวรรค์สร้างภาษาลับขึ้นมา ซึ่งต่อมาได้ตกทอดกลายเป็นภาษาท้องถิ่นของเมืองลี่จ้าว  ถ้าไม่ได้เรียนภาษานี้มาก่อน คนภายนอกจะไม่มีทางเข้าใจภาษาคนท้องถิ่นซึ่งเป็นภาษาลับของพวกเขาได้เลย
เจ้าเมืองถูไห่รู้สึกอับอายมาก
เขาอยากกลับไป แล้วลงโทษตบหน้าเจ้าพวกข้างหลังให้ตื่นจากความโง่งมเสียบ้าง
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่านักรบระดับปราณฟ้าที่อยู่ในรถม้าโดยสารได้รับการเคารพอย่างดี เขารีบปั้นยิ้มและแสดงการต้อนรับด้วยอาการสุภาพ
ราชาหลิงหวินเคยพูดไว้ประโยคหนึ่งกับเจ้าเมืองถูไห่ และเขาจำได้
เขาบอกว่า ยิ่งคนใกล้ตัวโง่  เจ้าก็ต้องยิ่งตื่นตัวให้มากขึ้น มิฉะนั้นจะมีคนฉลาดกว่าปรากฏอยู่ใกล้ตัวเจ้า
ปัจจุบันนี้เจ้าเมืองถูไห่รู้สึกอย่างนี้จริงๆ ... เขาสาวเท้ายาวเข้าไปทักทายนักสู้ปราณฟ้าอีกฝ่ายหนึ่งด้วยตนเองเป็นการแสดงความจริงใจของเขา  ฝ่ายตรงข้ามตอบสนองทันที รัศมีประจำตัวของเขาบนหน้าปัดเครื่องตรวจจับพลังเปลี่ยนไปเล็กน้อย หน้าของเขาสวมหน้ากากแพลตตินัมปิดบังไว้ข้างตัวเขาเป็นชายชราที่ดูฉลาดเป็นเหมือนจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ รถม้าบินเคลื่อนมาถึงหน้าเจ้าเมืองถูไห่ 
และบุรุษชั้นสูงผู้นี้ก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นถูไห่
แม้แต่พ่อบ้านเจียวซือก็ยังบอกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้เยาว์  แต่เจ้าเมืองถูไห่ก็ยังคาดไม่ถึงเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะอายุเยาว์ขนาดนี้
บางทีอาจจะยี่สิบกว่าปี มีความรู้สึกว่าเหมือนเด็กที่ยังไม่เติบใหญ่เต็มที่ อายุเยาว์มากแต่อุปกรณ์ตรวจพลังกลับแสดงวงสีทองสองวงที่ไม่ธรรมดา เป็นพลังปราณฟ้าระดับห้า
มองอย่างผิวเผินเด็กหนุ่มนี่ไม่ใช่นักสู้ปราณฟ้า
แต่ไม่มีความรู้สึกถึงพลังระดับปราณดิน  บางครั้งก็รู้สึกเหมือนอ่อนแอ บางครั้งก็ดูกล้าแข็ง
บนร่างของเขาสวมเสื้อคลุมถักสีขาว ด้านบนมีอักษรรูนสวรรค์ที่ซับซ้อน  และอักษรรูนเหล่านั้นกำลังทำงาน ถูไห่รู้สึกมึนงง เมื่ออักษรรูนเหล่านี้ทำงานมีแนวโน้มว่าจะใช้ในการสู้รบอย่างดุเดือด ครั้งหนึ่งถูไห่ต้องไปเข้าเฝ้าราชาหลิงหวินในวัง  เขาก็เห็นชุดอย่างนี้ตัวหนึ่ง  แต่ราชาหลิงหวินจะให้ความสนใจชุดไหมอักษรรูน ที่สำคัญพื้นผิวอักษรรูนบนชุดนี้ไม่มีชุดใดเทียบได้
ร้านค้าอื่นต่อให้เอาสมบัติของมีค่า 100 ชิ้นก็ยังเทียบกันไม่ได้
บนแขนเสื้อของนักสู้ปราณฟ้าผู้ทรงศักดิ์นี้ มีถุงมือรูปแบบพิเศษส่องแสงแพรวพราวงดงาม
เจ้าเมืองถูไห่ไม่จำเป็นดู  ต่อให้เป็นคนตาบอดก็ยังบอกได้ว่านั่นคืออาวุธเทพร่างอสูร
อย่างน้อยมีพลังปราณฟ้าระดับสามขึ้นไป!
ไม่เพียงแต่ถุงมืออาวุธเทพร่างอสูรเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์ประหลาดโลหะที่ติดตามเจ้าสุนัขเถื่อนด้วย ก็ยังเป็นอาวุธเทพร่างอสูร.. สิ่งที่ทำให้เจ้าเมืองถูไห่เวียนหัวก็คือที่มือของแขนของเด็กหนุ่มกำลังมือที่เปล่งพลังพิเศษและนั่นคืออาวุธระดับเทพ
มันคือสิ่งมีชีวิตที่พิเศษคล้ายกับเทพมังกรในตำนานแห่งเผ่าอมตะบูรพา กลับมาอยู่บนแขนของเด็กหนุ่มผู้นี้
นี่มันอะไรกัน?
อาวุธเทพหรือ?
เด็กหนุ่มนี่เป็นใคร? เขาคือผู้สูงศักดิ์ระดับไหน?
เจ้าเมืองถูไห่ไม่กล้าคิด เพราะกลัวว่าจะตกใจกลัวจนหัวใจกระดอนออกมานอกตัว
ตอนนี้เขาเพียงแต่รู้ว่าคุณชายผู้นี้มีคุณสมบัติเพียงพอเข้าแดนสวรรค์บนได้อย่างสบาย แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือจะทำให้คุณชายผู้นี้พึงพอใจได้อย่างไร  นี่เป็นเรื่องที่เจ้าเมืองถูไห่ปวดหัวมากที่สุด!
 “ยินดีต้อนรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ นับเป็นเกียรติของเรายิ่งนัก!  ถ้าไม่ติดที่ว่ามีคนกันเองมองอยู่ ถูไห่คงคุกเข่าทำพิธีต้อนรับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

8 ความคิดเห็น:

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Shock กล่าวว่า...

ขอบใจจ้าสนุกมาก

Shock กล่าวว่า...

นั่นสิตอนสู้กันร้อบที่แล้วไม่เห็นเอามาใช้ด้วย

ชายหนุ่มผู้ผ่านทางมา กล่าวว่า...

อสูรน้อยยังไม่โตเต็มที่มั้งครับ อาวุธอย่างอื่นแรงกว่าเช่นดาบปีกขององค์รักษ์พี่น้องแฝดมังกร

WingF กล่าวว่า...

คนที่ถืออสูรน้อยทงเทียนส่วนใหญ่จะเป็นอาหงหรือเปล่าครับ บททีแต่พูดถึงแต่ไมไ่ด้มีบทต่อสู้เลยหาย

KiattisakPleng กล่าวว่า...

งงจริงๆมันคืออะไรอาวุธที่ถืออีกข้าง

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Destiny freedom กล่าวว่า...

อสูรโลหะที่อยู่กับฮุ่ยไท่หลางน่าจะเป็นดาบเทาเถี้ย ส่วนที่แขนเย่หยางน่าจะ ที่บอกว่าเป็นอาวุทเทพ น่าจะเป็นอสูรทางเทียน เห็นราชินี่ซิกที่เป็นมนุษย์มังกรแดนสวรรค์บอกว่า นี่คืออาวุธของจักรพรรดิมังกรผู้นำเก่าที่เป็นคนจากเผ่าอมตะบูรพา ประมาณนี้มั้ง น่าจะเป็นอาสูรทางเทียนแหละ

แสดงความคิดเห็น