วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 766 หมากกลกระอักเลือด


ตอนที่  766  หมากกลกระอักเลือด
เจ้าเมืองถูไห่ลอบมองผู้เฒ่าหมากรุกซึ่งเป็นคนเฝ้าผนึกคุมขัง
เมื่อพูดเทียบถึงเรื่องเหตุการณ์แข่งหมากรุก
 
อย่างไรก็ตามผู้เฒ่าหมากรุกผู้ซื่อสัตย์ภักดีกลับปฏิเสธ
แม้ว่าจะมีกฎเกณฑ์ว่าคนภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป แต่เจ้าเมืองถูไห่ยังหาทางตามตื๊อไม่เลิกรา เขาขอให้ผู้เฒ่าหมากรุก ลองแสดงฝีมือผลงานวิจัยลับหลายพันปีเพื่อทำให้เย่ว์หยางพ่ายแพ้ยับเยิน แล้วให้พ่อบ้านเจียวซือเอาไปให้เย่ว์หยางแก้หมากกลของผู้เฒ่าหมากรุก
เขาเชื่อว่าหลังจากเล่นในระยะห่างไกลอย่างนี้ ทั้งสองจะกลายเป็นสหายที่ดีต่อกัน
พบคู่มือที่คู่ควรย่อมเป็นการดีกว่า
แน่นอนว่าข้อเสนอนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายยินยอมโดยปริยาย... ผู้เฒ่าหมากรุกเตรียมหมากกลสามชุดให้เย่ว์หยางแก้ และพ่อบ้านเจียวซือก็ส่งให้เย่ว์หยางแก้แล้วนำกลับมาถึงสิบครั้ง
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ตกอยู่กับการทดสอบในการละเล่นหมากที่ลึกซึ้ง
 “มันยากเกินไปกับการให้ทั้งสองฝ่ายมาเล่นด้วยกัน”  ในเวลาค่ำคืนเจ้าเมืองถูไห่จะตื่นตัวตลอดทั้งคืนศึกษาหมากอย่างขะมักเขม้น ทั้งเชิญเซียนหมากรุกในเมืองลี่จ้าวมาช่วยอธิบายในที่สุดก็พบกับเรื่องน่าเศร้า  ไม่ว่าผู้เฒ่าหมากรุกจะวางหมากลับซับซ้อนอย่างไรก็ตาม คุณชายสามก็ตอบโต้ได้ อีกฝ่ายไม่ได้เหนือกว่า
 “หมากต่อไปของเจ้าเด็กนี่ วางได้ไม่ดี คงจะต้องตายแน่  แต่โชคดีที่หมากนี้ไม่มีใครตาย”  เซียนหมากรุกในเมืองลี่จ้าวล้วนแต่มีประสบการณ์ พวกเขารู้สึกกดดันอึดอัดจนกระอักโลหิตในที่สุด
 “พวกเจ้าจะทำอะไร?”  แม้แต่พ่อบ้านเจียวซือที่คิดอย่างหนักรอบคอบก็รู้สึกได้ว่าแพ้เช่นกัน
ทั้งคิด ไตร่ตรองปรึกษาและทะเลาะกัน....
ผ่านไปหนึ่งคืน
ก่อนที่เจ้าเมืองถูไห่จะเลี้ยงต้อนรับเย่ว์หยาง เขาไปพบกับผู้เฒ่าหมากรุกก่อน
เขาพบว่าผู้เฒ่าหมากรุกแก้เกมหมากรุกทั้งสิบได้  ซึ่งพวกเซียนหมากรุกในเมืองลี่จ้าวไม่สามารถแก้ได้  หลังจากเฒ่าหมากรุกคลี่คลายได้  เจ้าเมืองถูไห่ดีใจร่าเริงทันที
เขารีบวิ่งออกไปหาพ่อบ้านเจียวซือ และส่งการแก้หมากของคุณชายสามไปให้
ผู้เฒ่าหมากรุกแก้เกมอยู่ข้ามคืนและทำให้เขามีความสุขมาก
ดูเหมือนว่าหลายอย่างจะทำได้สำเร็จ
ตราบเท่าที่คุณชายยังคงเล่นโดยไม่ดึงดูดความสนใจผู้เฒ่าหมากรุกได้เป็นพันปี ความสัมพันธ์พวกเขาก็จะก้าวหน้า
พ่อบ้านเจียวซือนำหมากที่แก้ไม่ได้กลับมาอธิบาย
เจ้าเมืองถูไห่ได้ฟังอธิบายแล้วรู้สึกเหลือเชื่อ
ไม่
แม้แต่ผู้เฒ่าหมากรุกยังพูดว่าเขายังใช้เวลาคิดถึงพันปีพยายามลองเดินเป็นแสนเป็นล้านตา ถึงจะแก้หมากทั้งสามนี้ได้ คุณชายสามผู้นี้เป็นใครกัน? ในหัวของเขามีอะไรอยู่กันแน่?  เจ้าเมืองถูไห่เคยพบเห็นคนฉลาดมามากมายแล้ว  แต่คนที่มีสติปัญญาขนาดคุณชายสามเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ผู้เฒ่าหมากรุกไม่ใช่คนโง่อย่างแน่นอน!
ผู้เฒ่าหมากรุกถือเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกได้ต้องใช้เวลาเป็นพันปีกว่าจะแก้หมากลับได้  แต่คุณชายสามใช้เวลาคืนเดียวก็คลี่คลายทั้งสองหมากได้
สติปัญญาสูงระดับนี้ไม่มีใครเทียบได้  เทียบกับเขาผู้นั้นแล้วไม่มีทางด้อยกว่าแน่
แน่นอนว่าเจ้าเมืองถูไห่ไม่เคยรู้ว่าเย่ว์หยางเป็นเจ้าของสิ่งที่เรียกว่า เข็มทิศสามภพ  ทำให้เขาเดินทางไปได้ระหว่างแดนสวรรค์และหอทงเทียนได้อย่างอิสระ  เจ้าเมืองถูไห่ไม่ทราบว่าในประตูเป็นตายของหอทงเทียน เสวี่ยอู๋เสียคู่หมั้นของเย่ว์หยางได้เป็นเจ้าของคัมภีร์แห่งสัจจะ  คลี่คลายเกมการละเล่นได้ สำหรับคัมภีร์แห่งสัจจะ ก็แค่คัดลอกมาใช้เท่านั้น
นอกจากนี้ด้วยสติปัญญาของเย่ว์หยาง ตราบเท่าที่คัมภีร์แห่งสัจจะระบุจุดเริ่มต้นแรกสำหรับการคลี่คลายหมากได้ถูก ขั้นตอนต่อมาย่อมไม่เป็นปัญหาต่อเขาแม้แต่น้อย
นี่ถือเป็นกลยุทธ์ที่เย่ว์หยางจงใจใช้
ดังนั้นสามหมากลับที่ยากที่สุดคลี่คลายยากที่สุดทั้งสามหมากถูกคลี่คลายได้แล้ว และพ่อบ้านเจียวซือส่งกลับไป
เพราะครั้งนี้เย่ว์หยางมั่นใจเต็มร้อยว่าจะชนะ และข้อเสนอของเจ้าเมืองถูไห่อาจพูดได้ว่าเป็นสิ่งที่ตรงกับความต้องการจริงๆ ถ้าหากต้องแข่งกับตาเฒ่านั่นกันต่อหน้า อย่างนั้นคงไม่อาจเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ มีแต่ต้องหยุดใช้ตำราหมากรุกเพื่อสนับสนุนได้  ตำรานี้คือสิ่งที่อยู่ในสายธารประวัติศาสตร์ของหอทงเทียน  หมากที่สิ้นหวังไร้ทางคลี่คลายมีอยู่นับไม่ถ้วน  อย่าว่าแต่หอทงเทียนเลย  หอสมุดใหญ่ของทวีปมังกรทะยานก็มีบันทึกการเดินหมากที่เลื่องชื่อไว้มากมายเช่นกัน  ผู้อาวุโสที่มีสีสันลือชื่อมากที่สุดก็มี กระดานหมากดวงดาวซึ่งเป็นอสูรพิทักษ์ชั้นพิเศษ  เขาสร้าง คัมภีร์หมากกระอักเลือด ที่ใครเห็นจะต้องกระอักโลหิตออกมาสามลิตร
ตัวหมากนับสิบในคัมภีร์กระอักเลือด แค่เดินหมากเดียวก็ทำให้ถูไห่และคนอื่นสามารถกระอักเลือดได้แล้ว...
เย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสีย อู๋เหินและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและคนอื่นได้เห็นคัมภีร์กระอักเลือดแล้ว ในสิบเกมกระดานนั้น มีห้ากระดานมาจากคัมภีร์กระอักเลือด
สองกระดานจัดเรียงโดยเสวี่ยอู๋เสียและอู๋เหิน
มีสองกระดานที่เย่ว์หยางได้มาจากความรู้ตกทอดจากพี่สาวแม่สี่ เป็นการปิดเกมแบบโบราณ การปิดเกมแบบโบราณทั้งสองรูปแบบนี้ แม้แต่คัมภีร์แห่งสัจจะก็ยังไม่สามารถแสดงผลได้อย่างสมบูรณ์ยังมีความก้าวหน้ากว่าคัมภีร์แห่งสัจจะ  แม้ว่าคัมภีร์แห่งสัจจะซึ่งเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ ก็ยังไม่สามารถคลี่คลายหมากได้ทั้งหมด  เย่ว์หยางหยางคาดว่าต่อให้ผู้เฒ่าหมากรุกค้นคว้าจนตาย เป็นไปไม่ได้ที่จะคลี่คลายหมากปิดเกมทั้งสองได้  นี่คือการตกผลึกทางปัญญาของสุดยอดนักสู้รุ่นโบราณอย่างแท้จริง
หมากที่เป็นของอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า ผู้เฒ่าหมากรุกสามารถคลี่คลายหมากนั้นได้
แต่นี่ไม่ใช่ระดับของอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า  แต่สิ่งที่เขากังวลก็คือหมากกลนี้ยากเย็นเกินไปจนน่ากลัว และกลัวว่าจะไม่อาจหลอกล่ออีกฝ่ายได้  ดังนั้นหลังจากปรึกษากันแล้วเย่ว์หยางเลือกหมากที่ค่อนข้างง่ายกว่าเพื่อให้ผู้เฒ่าหมากรุกได้คลี่คลายหมากได้ทั้งคืน
ต้องผ่านไปสิบเกมถึงจะคลี่คลายหมากนี้ได้
ที่เหลือเก้าเกมก็ไม่ง่ายนัก
ห้ากระดานแรกมาจากคัมภีร์หมากกลกระอักเลือด ฝ่ายตรงข้ามมิใช่จะหาทางคลี่คลายกันได้ง่าย คาดว่าฝ่ายตรงข้ามหากต้องการคลี่คลายคงใช้เวลาไม่กี่ร้อยปี และไม่ต้องเดินหมากเป็นแสนครั้ง  ความจริงหมากกระอักเลือดถูกทิ้งไว้ไม่มีผู้ใดสนใจ ก่อนที่จะถูกพบเจอและคลี่คลายหมากโดยบรรพบุรุษของเขา  เมื่อหกร้อยปีที่แล้วภูตอัจฉริยะเย่ว์กงใช้หนูเบญจธาตุร่วมรบกับอสูรอื่นและพบเจอคัมภีร์หมากกระอักเลือดในเส้นทางลับ  ความจริงจึงถูกเปิดเผยต่อโลก  นักรบหอทงเทียนมักจะคิดคัมภีร์หมากกลกระอักเลือดที่คลี่คลายไม่ได้นี้ ใน 36 หมากกลล้วนแต่มีทางแก้ทั้งนั้น
หากไม่มีภูตอัจฉริยะเย่ว์กง  คัมภีร์หมากกระอักเลือดจะยังเป็นปริศนาในหอทงเทียนต่อไป
การจบ 3 หมากโบราณ ไม่ต้องพูดถึงเย่ว์หยาง
ยังไม่มีใครคลี่คลายได้
จากความทรงจำของพี่สาวแม่สี่ เย่ว์หยางรับมือได้ 18 ตา มากกว่าในคัมภีร์แห่งสัจจะถึงสิบตา ซึ่งแสดงวิธีการเดินหมากที่ถูกเพียงแปดตา
ปกติเขาชอบอ่านหนังสือหลายรูปแบบเหมือนอย่างเสวี่ยอู๋เสีย และคล้ายกับอู๋เหินผู้ชอบเรียนรู้อักษรรูนสวรรค์  ทั้งสองชอบเล่นเกมกระดานหมากรุกที่ยากจะคลี่คลาย  เย่ว์หยางกล้าพูดได้ว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ปรับเปลี่ยนผังอักษรรูนเป็นรูปแบบของหอทงเทียน หากคิดจะคลี่คลายหมาก ก็คงได้แต่ฝัน
เพราะเสวี่ยอู๋เสียและอู๋เหินเปลี่ยนการจัดเรียงอักษรรูนสวรรค์บนกระดานหมาก จึงส่งผลต่อหมากลับที่ซ่อนอยู่   เพื่อจะคลี่คลายหมากให้ได้ระดับความทรมานที่ได้รับหนักกว่าที่ได้รับจากคัมภีร์หมากกระอักเลือดเสียอีก  น่ากลัวยิ่งกว่า
เสวี่ยอู๋เสียจัดหมากระดับที่เรียกว่าฝันร้ายที่สิ้นหวังและพัฒนารูปแบบอักษรรูนสวรรค์ขึ้น  ถ้าฝ่ายตรงข้ามเดินหมากไม่ระวัง  ก็อาจจะตกอยู่ในฝันร้ายแห่งความสิ้นหวังก็เป็นได้
อู๋เหินยังมีความกรุณามากกว่า นางไม่ต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับเป็นบ้า
แน่นอนว่านางไม่ต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามคลี่คลายหมากได้สำเร็จด้วย
ผลก็คืออู๋เหินสร้างหมากกล ละลานตา ผลักดันให้พัฒนารูปแบบภาษารูนสวรรค์ของนางก้าวหน้าไปอีกมาก
ถ้าต้องการคลี่คลายอธิบายถึงหมากกลนี้ แค่ใช้สายตาก็ยังไม่พอ กล่าวคือต้องใช้ตัวหมากมากมายเป็นล้านชิ้นวางสลับซับซ้อนจนตาลายในที่สุดก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้โดยไม่มีทางเลือกอื่น  ถ้าท่านใช้รูปแบบยันต์วงเวทในรูปแบบอักษรรูนที่ใช้ในหอทงเทียน หมากกลที่เป็นทั้งฝันร้ายและสิ้นหวังทั้งสองจะได้รับการคลี่คลายได้ไม่ยากเลย
สำหรับเย่ว์หยาง เขาไม่ต้องถามคำตอบจากเสวี่ยอู๋เสียและอู๋เหิน ก็คลี่คลายหมากกลทั้งสองได้ในไม่กี่สิบนาที
 “ว่าไงนะ คุณชายสามคลี่คลายหมากกลทั้งสองนี้ได้หรือ?” เจ้าเมืองถูไห่รีบเร่งไปขอเข้าเฝ้าราชาหลิงหวินแม้แต่ราชาหลิงหวินก็พลอยตื่นเต้นตามไปด้วย
เขาได้ยินว่าเย่ว์หยางเพียงใช้เวลาคืนเดียวก็สามารถคลี่คลายหมากกลลับสองหมากได้
น่ากลัวมาก
ราชาหลิงหวินผู้ได้ชื่อว่าเป็นเซียนหมากรุกคนหนึ่งรับหมากกลที่คลี่คลายได้ยากนี้เข้ามาศึกษาในวังและพยายามคลี่คลายให้ได้  ผลก็คือทำให้เขาประหลาดใจไม่ต่างจากเจ้าเมืองถูไห่ คือไม่สามารถคลี่คลายได้
ไม่ว่าท่านวางหมากไปทางใดก็มีแต่พลาดท่าเสียที
หมากกลทั้งสิบดูเหมือนว่าง่าย แต่เฒ่าหมากรุกก็ยังคลี่คลายได้ เพียงแต่ใช้เวลานานมาก
ส่วนหมากกลอีกเก้าหมากที่เหลือ ราชาหลิงหวินหยิบตัวหมากค้างไว้อยู่นานพยายามหาทางวางหมาก แต่ผ่านไปนานเขาพบว่าหมากในมือของเขาไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงไม่สามารถวางลงได้!  ราชาหลิงหวินรู้สึกถึงแรงกดดันในใจ กลัวแม้แต่กับการเริ่มเดินหมากเหมือนกับเด็กน้อย
 “ท่านเจ้าเมือง การคลี่คลายนี้อ่อนอย่างเห็นได้ชัด ฝ่ายตรงข้ามน่าจะไตร่ตรองถึงความเชี่ยวชาญหมากรุกของเราเพื่อหลีกเลี่ยงทำให้เราอึดอัดจนไม่อาจคลี่คลายหมากได้ นอกจากนี้หมากกลทั้งห้านี้มีความคล้ายคลึงกันแน่นอน ย่อมเกิดจากทักษะการวางหมากของคนเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด  คนผู้นี้มีฝีมือทางหมากรุกที่เข้มแข็ง เมื่อเขาเอาชนะถูไห่ได้หลายครั้ง เป็นเรื่องที่แปลกมากยากจะรับมือกับคนแบบนี้ได้ คนผู้นี้วางหมากห้ารูปแบบก็เอาชนะได้ทั้งห้าแนวทาง  ข้าคาดว่าคุณชายสามผู้นี้จะต้องมีอาจารย์ดีหรือผู้อาวุโสในตระกูลสอนสั่งมิฉะนั้นคงไม่มีระดับสติปัญญาขนาดนั้นเป็นแน่  หมากกลสองหมากนี้ ถูไห่มักจะคิดว่ามีพลังดึงดูดทางวิญญาณที่ถูกชักจูงโดยเซียนหมากรุกโดยทำอะไรไม่ได้  ไม่สามารถปรับสภาพอารมณ์ได้เป็นเวลานานนับเป็นแบบทดสอบที่ยากลำบาก  หมากกลทั้งสองนี้น่าจะเป็นพฤติกรรมของคุณชายสาม เพราะเขาถนัดในการซ่อนอำพรางตัวเป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกที่ลึกลับแก่ทุกคนตลอดเวลา  ในสองหมากกลสุดท้าย ถูไห่ไม่กล้าประเมิน นี่ไม่ใช่ระดับที่ถูไห่หวังจะบรรลุได้  สองหมากกลสุดท้ายมีลักษณะที่คล้ายกันก็คือจบเกม ทั้งสองฝ่ายยังมีโอกาสที่ตามมาอีกมาก  อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเริ่มยังไงก็ตามก็ไม่สามารถรอดได้ สิ่งที่แยบยลที่สุดก็คือหมากกลทั้งสองผลที่ตามมา และอยู่ในจุดเดียวกัน  ที่น่ากลัวก็คือทั้งสองหมากมีการส่งผลต่อกันและมีความซับซ้อนจนทำอะไรไม่ได้  ความแปรเปลี่ยนในหมากกลยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ  หมากกลเช่นนั้นภูมิปัญญาอย่างถูไห่ไม่สามารถคลี่คลายได้”  ถูไห่ค้นหาวิธีคลี่คลายทั้งวันทั้งคืนจึงค่อยพบความแตกต่าง
 “ไม่มีอะไรผิด ถ้าจะเป็นเรื่องยากก็เพราะหมากกลทั้งสองยากสุดยอดและเห็นได้ยาก และหมากทั้งสองนี้คงจะมีกลยุทธ์บางอย่างแฝงไว้ ถ้าต้องการจะคลี่คลายให้ได้ต้องเพ่งสมาธิอยู่ที่หมากกล  จริงสิ หมากกลทั้งสองมีชื่อว่าไง?”  ราชาหลิงหวินถาม
 “มีชื่ออยู่ไม่กี่ชื่อ ชื่อหมากกลแรกชื่อว่าสันติภาพ อีกชื่อหนึ่งชื่อ กระจ่าง  ดูจากในมุมมองถูไห่แล้ว นี่อาจเป็นการประชด เมื่อความสงบถูกทำลายแล้ว ใจก็ยากจะสงบ ไม่ว่าจะนั่งหรือยืนก็สงบไม่ลง  เมื่อคลี่คลาย ก็อยู่ในสภาพละลานตาอีก เมื่อตกอยู่ในสภาพละลานตาก็ยากจะคลี่คลายด้วยตนเองได้  ถูไห่เพราะหมกมุ่นกับสองหมากกลนี้ทำให้เขาไม่ได้กินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืน จนแทบบั่นทอนอายุ!  ถูไห่ส่ายศีรษะถอนหายใจ
 “แล้วอีกห้าหมากกลเล่า?”  ราชาหลิงหวินหัวเราะและถาม
 “นั่นมีชื่อว่าคู่มือหมากกระอักเลือด หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ตั้งชื่อได้อย่างนี้นับว่าเหมาะสมจริงๆ  เซียนหมากรุกที่คลี่คลายหมากพวกนี้ถึงกับกระอักโลหิตออกมาสามกองไม่สามารถรุกหรือจับเคล็ดได้ ไม่ทราบว่าเป็นยอดคนท่านใดที่มีฝีมือสูงขนาดนั้นสามารถผูกหมากกลได้ถึงห้าแบบไว้”
เพราะสองหมากกลสุดท้ายเป็นการพิชิตศึก  ถูไห่จึงโบกมือและไม่พูดระบุชื่อของสองหมากนั้น
ไม่มีชื่อที่คู่ควร
เขาสงสัยเพียงว่าเทพปัญญาตนใดสร้างหมากเช่นนี้ขึ้นมาได้
 “คุณชายสาม,  คนผู้นี้เป็นอัจฉริยบุรุษที่หาได้ยากในโลกจริงๆ   ถูไห่ เจ้าหาโอกาสด้วย  เราต้องการพบกับคนผู้นี้”  หลังจากคิดแล้วราชาหลิงหวินตัดสินใจ

10 ความคิดเห็น:

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Rekoons กล่าวว่า...

เหยื่อมาแล้ว งับเบ็ดโดยไว

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

น่าจะเป็นหมากล้อมมากกว่าหมากรุกน่ะครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น