วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 796 ปล่อยวังวนสายฟ้า


ตอนที่  796  ปล่อยวังวนสายฟ้า
เย่ว์หวี่งงงวยและอดแตะจี้อักษรรูนทองที่คอนางเองมิได้
ของนางเองก็มี
 
หากชิ้นส่วนจี้ทองนี้จับคู่กันได้จริง อย่างนั้นหลิวเย่ ถ้าเป็นนางจริง บางทีอาจเป็นนาง เย่ว์หวี่กระวนกระวายอยากมองดูให้ชัด และห่วงใยว่าหลิวเย่จะรับพลังหมอกเคียวของมนุษย์หมอกไม่ได้ อย่างไรก็ตามเพราะถูกเงาแห่งความตายคุกคามทำให้กระตุ้นศักยภาพของหลิวเย่ ในใจของนางรู้สึกว่าเมื่อโชคดีมาถึง ปัญญาจะเฉียบคม เมื่อนางหลบหลีกเคียวหมอกอีกครั้ง นางเหยียดมือขวา
ดอกไม้แสงที่บริสุทธิ์บานอยู่ในฝ่ามือของนาง
เคียวหมอกที่ฟันลงที่ศีรษะกระจายหายไปเพราะทักษะชำระใจของหลิวเย่ กลายเป็นควันหายไปทันที
และหายไปไม่เหลือร่องรอย!
มนุษย์หมอกที่เปลี่ยนแปลงผันผวนรุนแรงค่อยๆ สงบลง มองเห็นเป็นรูปคิ้วและดวงตา หลังจากมองหลิวเย่อย่างลึกซึ้งแล้วก็เปลี่ยนเป็นก้อนเมฆลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าและนิ่งไม่มีเคลื่อนต่อ
หมอกถูกขับไล่ไปเพราะทักษะแฝงเร้นชำระใจ หมอกเรืองแสงนั้นเริ่มกลายเป็นสีครีม มองดูเหมือนกับสายแพรที่มีชีวิตม้วนตัววนรอบหลิวเย่ทำให้นางมองดูเหมือนกับนางฟ้าที่กำลังล่องลอยจนทุกคนที่เห็นมองตะลึง  ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครได้รับการยอมรับสูงสุดจากขั้นที่สี่ร้อย  หลิวเย่ผ่านด้วยวิธีการที่ดีที่สุดจึงชนะได้รับรางวัล สายหมอกแสงเป็นสิ่งที่นักสู้รุ่นอาวุโสทิ้งไว้ให้
สายหมอกแสง : สมบัติชั้นทอง ใช้ปกป้องเจ้าของอย่างชาญฉลาด เมื่อผู้ใช้ควบคุมด้วยใจสามารถเรียกเมฆมาช่วยปกป้องเจ้านายได้มากขึ้น
 “ยินดีด้วยนะ!  เย่ว์หวี่แสดงความยินดีกับหลิวเย่อย่างจริงใจ “มาเถอะ”
แน่นอนว่านางอยากจะมองดูชัดๆ
หลิวเย่ก็มีจี้อักษรรูนทองด้วยหรือ?
อย่างไรก็ตามหลิวเย่รู้สึกเขินอาย นางรีบคว้ารอยเสื้อที่ขาดและจัดให้เข้าที่ และตอนนี้ยังมีสายหมอกแสง เย่ว์หวี่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด อย่างน้อยก็เป็นจี้ทอง  แต่เย่ว์หวี่ไม่แน่ใจว่าจี้ทองของหลิวเย่จะเหมือนกับของนางเองหรือไม่!
ดูเหมือนว่าท่าทางของเย่ว์หวี่ผิดไปจากเดิมเล็กน้อย หลิวเย่ถามด้วยความสงสัย “พี่เย่ว์หวี่! มีอะไรหรือเปล่า?”
 “ไม่มีอะไร, แค่เห็นว่าสายแพรหมอกแสงของเจ้างดงามและเจ้าดูสง่างาม!” เย่ว์หวี่โบกมือพัลวันและปฏิเสธ “ไม่สามารถเปิดเผยได้โดยตรง ในกรณีที่เปิดเผยความจริงอาจจะไปทำร้ายจิตใจของหลิวเย่ได้ ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจยากจะทนทานได้”  เย่ว์หวี่ไม่กล้าติดตามความในใจขณะนั้น แค่จดจำเรื่องนี้ไว้ในใจและรอโอกาสให้ความสนใจเรื่องนี้ทีหลัง  เกี่ยวกับสถานะที่ลึกลับ ในใจเย่ว์หวี่มีความขัดแย้งกันมากมาย นางต้องการคลี่คลายความลึกลับนี้อย่างมีความสุข และนางกลัวว่านางไม่สามารถจะเผชิญหน้ากับเย่ว์หยางได้เมื่อได้รู้ความจริง
 “น่าเสียดายที่มันเชื่อมโยงกับข้าแล้ว มิฉะนั้นข้าจะยกให้ท่าน” หลิวเย่ยิ้มเล็กน้อย  สมบัตินี้ไม่เหมือนอะไรอย่างอื่น มันไม่ต้องการให้เจ้าของส่งมอบมันให้คนอื่น
 “ข้าจะเอาของเจ้าได้ยังไง  ข้าคงจะได้อีกในภายหลัง และขอบอกว่านี่เหมาะกับเจ้าที่สุดแล้ว!  เย่ว์หวี่รู้สึกผูกพันและลูบศีรษะหลิวเย่ด้วยความสงสารเล็กน้อย “ฝึกฝนต้องระวังนะ อย่าไปสนใจเรื่องกำหนดเวลา มีโอกาสเราค่อยคุยกันต่อไป!
คิดถึงเรื่องนี้แล้ว นางลอบถอนหายใจ
ปัญหาเรื่องสถานะยุ่งยากเหลือเกิน
 “ถ้าเจ้ารู้ความจริง บางทีอาจไม่ใช่เรื่องดี” อย่างไรก็ตามตอนนี้นับว่าไม่เลว ความจริงก็คือข้าต้องทำใจคอยดูแลเขาทั้งชีวิต” เย่ว์หวี่คิดฟุ้งซ่าน นางฟื้นคืนความมั่นใจอีกครั้งและตบไหล่หลิวเย่เบาๆ  “ไปเถอะ ไปพักกันก่อน ก่อนที่จะฝึกหนักต่อไป!  นี่แค่เพียงเริ่มต้นเท่านั้น!
แดนสวรรค์ตะวันตก ดินแดนฝึกปรือด่านที่หนึ่ง
หุบเขาพิรุณ
เย่ว์หยางมาถึงหุบเขาสายลมก่อน  แต่พบว่ามีนักรบปราณฟ้าในหุบเขาสายลมไม่มากนัก ด้วยความว้าวุ่นใจอย่างหนัก เขากลับไปที่ศาลาหลบฝนในหุบเขาพิรุณ และพบกับเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นยังผ่านด่านไม่ได้และยังไล่จับนางแอ่นสายฟ้าในหุบเขาพิรุณ
นางแอ่นพายุสายฟ้าก็เหมือนกับฝูงปลาซาร์ดีนในทะเล
เพียงแต่มันบินอยู่ในท้องฟ้า
ฝูงนางแอ่นพายุสายฟ้าที่อยู่รอบๆ มากกว่าสิบตัวจะมีจ่าฝูงที่ทรงพลังที่สุด นักรบแดนสวรรค์ที่อยู่บนพื้นเหมือนกับฉลามนักล่า ทุกครั้งที่โดดจะมีเป้าหมายอยู่ตรงกลางฝูงนกนางแอ่นพายุสายฟ้า หวังว่าจะจับเป้าหมายได้สักตัว
แน่นอนว่าเพราะมีกฎเกณฑ์จำกัดไว้ การกระโดดของนักสู้แดนสวรรค์จึงไม่ใช่เรื่องง่าย   ถ้ากระโดดสูงเกินเป็นกิโลเมตรจะต้องเผชิญกับสายฟ้า
ต่ำกว่าหนึ่งกิโลเมตร พวกเขากระโจนสูงสิบเมตรก็จะเผชิญกับแรงดึงดูดหลายเท่า และถ้าพลังปราณฟ้าระดับสามขึ้นไป จะปลอดภัยกว่า  ต่อให้จับนางแอ่นพายุสายฟ้าไม่ได้ ก็ยังลงพื้นได้ปลอดภัย  ถ้าเพิ่งผ่านระดับปราณฟ้ามาได้ จะยิ่งทุลักทุเลมากกว่า  ถ้าทำได้ไม่ดีแรงโน้มถ่วงจะทำให้แต่ละคนหน้าเลอะเทอะได้
และแม้ว่าจับนางแอ่นพายุสายฟ้าได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าประสบความสำเร็จ
ตามเงื่อนไขคือต้องจับเป็น
นกนางแอ่นพายุสายฟ้าเป็นอสูรที่ใจเสาะมาก
ถ้าไม่มีวิธีการจับที่พิเศษ ต่อให้จับได้อาจได้มาแค่นกที่หวาดจนตายตัวหนึ่ง
 “เจ้าตัวนี้จับกันยากเย็นจริงๆ หรือ?”  เย่ว์หยางมองดูและละอายใจเล็กน้อย  เขาไม่ได้จับนางแอ่นพายุสายฟ้าจริงๆ เท่าที่มองด้วยสายตา นั่นเป็นเงื่อนไขที่ชายชราตั้งไว้แก้เบื่อ ดังนั้นกติกาในหุบเขาพิรุณทำให้เย่ว์หยางผ่านไปได้โดยตรง การปรากฏตัวของเย่ว์หยางทำให้เจ้าอ้วนไห่และพวกที่พยายามจะจับนางแอ่นพายุสายฟ้ารู้สึกอึดอัด และประหลาดใจด้วยเช่นกัน
 “เจ้ามาได้ยังไง?”  เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวถามเป็นเสียงเดียวกัน พวกเขาไม่คิดว่าเย่ว์หยางจะกลับมาที่หุบเขาพิรุณ
 “กลับมาดูว่าเจ้าจะจับหรือฆ่ามันกันแน่?” เย่ว์หยางรู้สึกเหนื่อยใจเมื่อเห็นฉากภาพที่นักรบแดนสวรรค์พยายามจับนางแอ่นพายุสายฟ้า  แม้แต่ราชาหลิงหวินก็ไม่ยกเว้น  ความจริงด้วยพลังของพวกเขาแค่ต้องการจับนางแอ่นพายุสายฟ้านับว่าเป็นเรื่องที่ง่าย แต่ทว่าเป็นเรื่องยากตรงที่ต้องจับเป็น รองเจ้าตำหนักเว่ยซู่จากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ยังใช้เวลาถึงสามชั่วโมง ดังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ
เย่ว์หยางเห็นทุกคนพยายามอย่างหนัก จึงเข้าใจถึงความยากลำบากของการจับเป็นนางแอ่นสายฟ้าว่ายากเย็นเพียงไหน
เรื่องนี้ต้องใช้ทักษะ
การใช้แรงอย่างป่าเถื่อน
ไม่อาจทำได้
แต่บัดนี้ผ่านไปสามวันแล้ว ราชาหลิงหวินก็ยังจับไม่ได้อีกหรือ?
บางทีเพราะเห็นความสงสัยในสายตาของเย่ว์หยาง ขณะเดียวกันก็ต้องการพิสูจน์ตัวเอง ไม่ยอมให้เย่ว์หยางคุณชายสามรู้สึกว่าเขาไร้ประโยชน์เกินไป  ราชาหลิงหวินเข้ามาทักทายและยิ้มให้พร้อมกับและปล่อยนางแอ่นพายุสายฟ้า  เราผ่านด่านได้สำเร็จแล้ว แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังผ่านด่านไม่ได้ เราจำเป็นต้องทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า  นอกจากนี้ที่ผ่านมาเรารู้สึกว่าไม่ต้องรีบก็ได้  นอกจากนี้เรายังได้รับคำแนะนำจากผู้เฒ่าอวี่ป๋อทุกวัน เป็นประโยชน์ที่หาได้ยากมาก!  เจ้าเมืองถูไห่รีบเข้ามาทักทายทันที  “จับนางแอ่นพายุสายฟ้าสำหรับเราเป็นการฝึกฝน  หลายคนต้องผ่านกระบวนการฝึกฝนนี้  มีสัญญาณของการพัฒนาก้าวหน้าด้วย  คุณชายทันหลางไปได้ไวที่สุด เขาบรรลุปราณฟ้าระดับหนึ่งได้แล้ว”
เมื่อเห็นทั้งสองมีความกระตือรือร้น ผู้นำของกลุ่มเขตร้างที่แปด กลุ่มทุ่งหิมะและกลุ่มเพลงสงครามทั้งสามซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลจึงได้ตระหนักขึ้นมาบ้างว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณชายผู้ลึกลับที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาก็คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่ร่ำรือกัน
จะไปกล่าวคารวะทักทายหรือจะรอดูเงียบๆ?
ในกรณีที่ไม่มีการแนะนำตัว ในฐานะระดับราชานักสู้ปราณฟ้าระดับห้า พวกเขาควรจะเคารพให้เกียรติคุณชายสามที่ดูเหมือนมีพลังแค่เตรียมปราณฟ้าเหมือนกับที่หลิงหวินและถูไห่ทำหรือไม่?
ขณะที่พวกเขายังลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นพวกเขาเห็นเย่ว์หยางเหยียดมือออกและปล่อยนางแอ่นพายุสายฟ้าที่ราชาหลิงหวินจับมา นางแอ่นพายุสายฟ้าที่กำลังบินสูงอยู่ในท้องฟ้าโฉบลงมาจากท้องฟ้าทันทีและบินอยู่รอบตัวเขาอย่างน่าทึ่ง เมื่อเย่ว์หยางชี้นี้ไปที่ท้องฟ้า นางแอ่นพายุสายฟ้าก็บินขึ้นไปในท้องฟ้า มันไม่ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มนางแอ่นพายุสายฟ้าที่นักสู้ปราณฟ้ากำลังไล่จับ ทุกคนไม่เข้าใจว่านี่หมายความว่ายังไง?
สิบวินาทีต่อมาก็เห็นนางแอ่นพายุสายฟ้าบินเต็มท้องฟ้าและโฉบลงมาจากท้องฟ้าทันที
พวกมันแต่ละตัวบินล้อมเย่ว์หยางจนดูเหมือนเป็นวังวนขนาดใหญ่
น่าทึ่ง
ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นมองดูอย่างตกตะลึงไม่เชื่อสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาพวกเขา
นี่ยังคงใช่นางแอ่นพายุสายฟ้าที่ใจเสาะและขลาดกลัวผู้คนหรือไม่? ตอนนี้พวกมันเป็นยิ่งกว่านกพิราบที่บินเล่นกับผู้คนได้.. ที่มือทั้งสองของเย่ว์หยางกลั่นพลังสายฟ้าสีม่วงและแฝงไปด้วยกฎสวรรค์ขนาดเล็กนับพันลูก ลูกกลมสายฟ้านี้ค่อยๆ คลุมตัวนางแอ่นพายุสายฟ้า
ลูกกลมสายฟ้าสีม่วงมีพลังทำลายล้าง แต่ตอนนี้จะไม่มีใครตายอย่างแน่นอน
ในทางตรงกันข้ามกลับมีความพิเศษที่ใช้ในการกระตุ้นและปลดปล่อย
ตัวของนางแอ่นพายุสายฟ้าถูกผนึกไว้ภายใน พอถูกพลังสายฟ้ากระตุ้น ก็พุ่งฝ่าลูกบอลสายฟ้าออกมา นางแอ่นพายุสายฟ้ายกระดับจากอสูรปราณดินไปเป็นอสูรปราณฟ้าระดับหนึ่งทันที
แต่ละตัวเหมือนกับสายฟ้าสีม่วง
หรือประกายไฟฟ้าก็คือปีกของพวกมันและสายฟ้าคือพลังของพวกมัน
ทุกคนเบิกตากว้างแหงนหน้ามองดูและเห็นว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยกระพือปีกบินฉวัดเฉวียนอยู่รอบตัวเย่ว์หยางจนมองดูเหมือนยักษ์ขนาดใหญ่ที่น่าตกใจ ทุกคนอดอุทานออกมาไม่ได้  มันคือนางแอ่นพายุสายฟ้าของแท้
 “เราได้เห็นคุณชายสามจริงๆ แล้ว” ขณะนั้นเองผู้นำกลุ่มเขตร้างที่แปด กลุ่มทุ่งหิมะ กลุ่มเพลงสงครามทั้งสามตกตะลึงกับการกระทำของเย่ว์หยาง  นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนระดับเตรียมปราณฟ้าใช้พลังกฎสวรรค์ได้ เป็นครั้งแรกที่มีพยานมองเห็นนับพันนับหมื่น สามารถปลดปล่อยพลังกฎสวรรค์ได้ชั่วครู่ และช่วยยกระดับพลังจนถึงระดับปราณฟ้าได้ น่าทึ่งน่าตกใจจริงๆ ศักดิ์ศรีฐานะของพวกเขาสั่นสะเทือนอีกครั้ง!
นี่คือพลังของเทพชัดๆ!
ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะมีคนมากเกินไป ถ้ามีใครสักคนเห็นเหตุการณ์นี้ คาดว่าพวกเขาคงกลัวจนต้องคุกเข่ากับที่
ราชาหลิงหวินและเจ้าเมืองถูไห่ทั้งสองคนปลื้มน้ำตาคลอเบ้า
พลังอะไรกันนี่?
นี่คือพลังอะไร!
 “คุณชายสามสามารถสั่นคลอนจิตใจคนเหล่านี้ได้โดยแสดงพลังเล็กน้อย” เมื่อเห็นหัวหน้ากลุ่มเขตร้างที่แปด กลุ่มทุ่งหิมะและกลุ่มเพลงสงครามหวาดกลัวและให้ความยำเกรงคุณชายสาม ราชาหลิงหวินและถูไห่ทั้งสองมองหน้าและพยักหน้าให้กัน
สายเกินไปกับการสำนึกตัวของพวกเขา
 “มีเวลามากเกินไปในหุบเขาพิรุณ แม้ว่าการฝึกฝนจะเป็นเรื่องดี แต่สถานการณ์ไม่อำนวยให้เราก้าวหน้าอย่างสบายใจ”  เย่ว์หยางยิ้มลึกลับจากนั้นบอกข่าวที่น่าตกใจ “พวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์กำลังมา ใช้เวลาไม่ถึงวันก็จะเข้ามาในนี้  ถ้าพวกเจ้าไม่ไปจากหุบเขาพิรุณข้าเกรงว่าจะรับมือนักรบทมิฬไม่ได้ง่ายๆ”
 “ไปเถอะ มุ่งหน้าต่อไป  ถ้ามีความสามารถจงตามข้าเข้ามาในหุบเขาวายุ เราจะไปรอพวกเขาในด่านที่สองหรือไม่ก็ด่านที่สาม!
 “เราทุกคนมีความเชื่อมั่น” ราชาหลิงหวินดีใจ และคุณชายสามพูดถูกแน่นอน  ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ตอแยศัตรูเข้าให้แล้ว ไม่มีพลังหนุนหลังที่แข็งแกร่ง อนาคตย่อมเอน็จอนาถเป็นแน่
เย่ว์หยางนำวังวนนางแอ่นพายุสายฟ้าพร้อมกับทุกคนกลับไปที่ศาลาหลบฝน
นักรบแดนทมิฬติดตามอยู่ห่างๆ อย่างระมัดระวัง
พวกเขาไม่ต้องการสู้กับเย่ว์หยาง  แต่พวกเขาไม่ต้องการละเมิดคำสั่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่ว่าฝ่ายไหนก็ล่วงเกินไม่ได้ทั้งนั้น
เย่ว์หยางชำเลืองมองพวกเขา  “ผู้เฒ่า, ปล่อยพวกเขาผ่านด่านไปเถอะ ยังจะมีเรื่องสนุกตามมา!
ผู้อาวุโสอวี่ป๋อถอนหายใจอยู่ด้านหลังเขา  “เจ้าได้รับการยกเว้น แต่จะเอาคนมากมายผู้ไม่สามารถผ่านด่านหุบเขาวายุไป  นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่เจ้าต้องคืนนางแอ่นพายุสายฟ้าให้ข้า อสูรพวกนั้น เจ้าต้องคืนให้ข้า เห็นแก่หน้าเราผู้เฒ่าหน่อยได้ไหม?”
 “ท่านไม่ค่อยสนใจพวกมันนี่ ข้าช่วยให้ปลดผนึกพวกมันได้ นอกจากไม่ขอบคุณแล้ว ยังวิพากษ์วิจารณ์ข้าอีก นี่มากเกินไปหรือเปล่า  นอกจากนี้ข้าแค่ขอยืมเจ้าสิ่งนี้ชั่วคราว รอให้ข้าผ่านด่านหุบเขาวายุได้  ข้าค่อยคืนให้ท่าน”  เย่ว์หยางหัวเราะสาวเท้าเข้าประตูเทเลพอร์ตที่อยู่บนยอดศาลา  เจ้าอ้วนไห่คำนับผู้อาวุโสอวี่ป๋ออย่างนอบน้อมจากนั้นหายไปพร้อมกับฮุยไท่หลาง
นางแอ่นวายุสายฟ้านับหมื่นเหมือนกับวังวนสายฟ้าสีม่วงติดตามเขาเข้าไป
สำหรับการบังคับให้เย่ว์หยางต้องคืนนางแอ่นพายุสายฟ้า ผู้เฒ่าเฝ้าด่านผู้โชคร้ายนี้แกล้งทำเป็นไม่เห็น
อย่างไรก็ตามเสวี่ยทันหลางออกไปเป็นคนสุดท้าย ผู้เฒ่าพยักหน้าให้ “ต้องพยายามอย่างหนัก  อย่างน้อยต้องผ่านให้ได้สามด่าน เจ้ามีศักยภาพพอจะผ่านไปด้วยตนเอง อีกไม่นาน

9 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เมพมาก 555++

WingF กล่าวว่า...

เอาไปหมดแล้วข้างหลังจะเอาอะไรผ่าน แสบจริงๆ

myuu กล่าวว่า...

เยวหยางผู้ไม่เคยทำอะไรแล้วขาดทุนจริงๆ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

แหม..ผู้เฒ่าไม่เคยไดยินประวัติเย่วหยางเสียแล้ว

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

คงได้คืนหรอก ชาตหน้าเถอะ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ปล้นให้เรียบ..เป็นทัศนคติของท่านเย่ 555

แสดงความคิดเห็น