ตอนที่ 806 ความฝัน? กฎและความจริง
สำหรับบุรุษผมงูและชายชราผมขาวได้แต่คาดเดาถึงจักรพรรดิอวี้
เย่ว์หยางได้แต่ยิ้ม แต่ไม่ตอบ
รอยยิ้มของเขายังคงเป็นรอยยิ้มที่สงบ
และนี่เป็นพลังกดดันทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง
สีหน้าของบุรุษผมงูและชายชราผมขาวเปลี่ยนไป
ดวงตาของพวกเขาทอประกายวูบตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทันใด
โดยพลังของเย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสามคน
สามารถผ่านพลังบดขยี้ในทางผ่านแดนสวรรค์ที่ใช้ผนึกสิ่งมีชีวิต
ผ่านผู้เฝ้าประตูทางเข้าแดนสวรรค์ของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เข้ามาได้ นั่นเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำได้
สามคนสามารถเข้าแดนสวรรค์ได้เป็นเพราะมีนักรบหอทงเทียนที่แข็งแกร่งใช้คัมภีร์อัญเชิญนำมาด้วยพร้อมกัน จักรพรรดิอวี้นักสู้ในตำนานที่มีความสำเร็จบุกได้ถึงเก้าด่านคงตายในการรบ
ถ้าจักรพรรดิอวี้ไม่ตาย ดูเหมือนว่าแดนสวรรค์คงต้องปั่นป่วน
สำหรับบุรุษผมงู เขาไม่ได้หวังผลสูงส่งอะไร ส่วนบุรุษผมขาวหวังไว้ว่ายิ่งวุ่นวายก็ยิ่งดี
โดยเฉพาะโจมตีแดนสวรรค์ให้ล่มสลายไปเลย
“อาจารย์มีชื่อ ย่อมมีศิษย์ที่สูงส่ง”
บุรุษชราผมขาวชูแก้วเหล้าไปทางวิหารมองออกไปในที่ไกลในทำนองว่าให้เกียรติจักรพรรดิอวี้
“นอกจากนี้ต้องขอบคุณน้ำใจเลี้ยงต้อนรับของท่านเจ้าภาพด้วย” บุรุษผมงูยังคงชูแก้วเหล้าเช่นกัน
“....”
เย่ว์หยางมองดูแก้วอยู่นานและไม่ได้ถือแก้วขึ้นมา
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองดูเย่ว์หยางก่อน
ชายชราผมขาวพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “สหายน้อย,
เจ้าคงรู้สึกว่าความบันเทิงเล็กน้อยที่จัดให้นี้ยังไม่เพียงพอกระมัง?”
บุรุษผมงูหัวเราะและใช้มีดทองคำขาวหั่นอาหารร้อนในจานตักใส่ปาก
“บางทีการได้รับการศึกษามาดีแต่ไม่ต่อเนื่องก็ทำให้กังวลมากเกินไป
แต่ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย อยู่ต่อหน้าเหล้าชั้นเลิศอาหารชั้นดี
มารยาทความเกรงใจของข้าจะถูกดีดส่งไปถึงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ดูตับมังกรที่สดใหม่
และนุ่มนี้สิข้าไม่ได้กินมานานแล้ว นี่เหล้าเลือดไตตัน
ของอย่างนี้ต่อให้มีพิษข้าขอฝืนกินอย่างมีความสุข”
เย่ว์หยางมองดูอาหารชั้นดีบนโต๊ะ แล้วดูเหล้าในแก้ว
จากนั้นถอนหายใจทันที
ภาพนี้แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ยังรู้สึกลึกลับยากหยั่งถึง
ถอนหายใจมีอะไรดี?
แม้ว่าจะรอสู้ศึก แต่ก็ควรกินก่อนแล้วค่อยว่ากัน
พูดกันตามจริงก็คือคนอย่างเย่ว์หยางแค่ก้มหน้าก้มตากิน ใครจะเอาผิดได้
เสวี่ยอู๋เสียยิ้มแล้วถาม “มีอะไรหรือ?”
เย่ว์หยางส่ายศีรษะ
“ข้านึกถึงภาพยนตร์เรื่องเดอะเมทริกซ์...”
ภาพยนตร์คืออะไร?
สำหรับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคำศัพท์แปลกใหม่
ที่ออกมาจากปากของเย่ว์หยางทำให้พวกนางสับสน
พวกนางไม่เห็นว่าแปลก ถ้าเขาไม่พูดถึงที่มาให้ชัดเจน
พวกนางจะไม่ไล่เบี้ยจนเกินไป
แต่ชายชราผมขาวและบุรุษผมงูสงสัยเล็กน้อย ภาพยนตร์คืออะไร? คือภาพที่มีแสงฉายไม่มีการประสานงาน?
หรือว่าเป็นสิ่งของโบราณ?
“สหายน้อย เชิญเล่ารายละเอียดให้เราฟังสักเล็กน้อยได้ไหม?” ชายชราผมขาวยังอารมณ์ดี
ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะเขาคือจอมปีศาจลี่ตี้ อย่างนั้นเชื่อได้ว่าคนเกือบทั้งหมดคงคิดว่าเขาเป็นบัณฑิตผู้คงแก่เรียน
“เรื่องเป็นอย่างนี้ ในโลกมหัศจรรย์แปลกประหลาด
ที่ซึ่งมนุษย์ทุกคนถูกควบคุมโดยเครื่องจักรกลประดิษฐ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นมา
ร่างหยาบของพวกเขาทุกคนหลับลึกอยู่ในเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง พลังความคิดต่างๆ
จะถูกส่งออกไป และเครื่องจักรนั้นจะรวบรวมพลังเหล่านั้นเอาไว้อย่างสมบูรณ์กลายเป็นพลังงานหล่อเลี้ยงเครื่องจักรนั้นโดยผ่านวิธีการพิเศษในขณะที่ผู้คนหลับลึก
แต่พวกเขาจะไม่รู้ความจริง
เครื่องจักรจะถักทอสร้างความฝันให้พวกเขาเหมือนกับการใช้ชีวิตจริงในความฝัน พวกเขากินสิ่งที่ให้ความรู้สึกละเอียดอ่อน
ทำงานพอรู้สึกลำบากก็พักผ่อน
ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะดูเหมือนเป็นจริงไปหมด
แต่ว่านั่นเป็นความฝันที่ถูกหมอกแห่งความชั่วร้ายควบคุมไว้ เพื่อให้ผลิตสร้างพลังงาน....” เย่ว์หยางยิ่งอธิบายชัดเจนมากขึ้น เมื่อเขาพูดเช่นนี้
ตาของบุรุษผมขาวก็เริ่มเป็นประกาย รอยยิ้มเดิมค่อยๆ เริ่มเครียดจริงจัง
“ไม่มีใครสามารถเห็นความจริงหรือ?”
เสวี่ยอู๋เสียถาม
“ถูกแล้ว มีน้อยคนนักที่รู้ความจริง พวกเขาหนีออกมาจากตัวจักรกลนั้นโดยมีวัตถุประสงค์จะปลุกผู้คนให้ตื่นรู้มากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อความคิดพวกเขาถูกส่งเข้าไปในถูกส่งเข้าไปในเครื่องจักรกล
พวกเขาพยายามปลุกและบอกคนอื่นว่าโลกนั้นก็คือความฝัน ไม่มีใครเชื่อ นอกจากนั้นยังคิดว่าเขาผิดปกติ
เครื่องจักรภูมิปัญญานั้นบางครั้งก็จับกระแสความคิดนี้ได้
และส่งนักฆ่ามาไล่ล่าพวกเขา เมื่อพวกเขาถูกฆ่า ร่างที่อยู่ข้างนอกก็จะตาย เว้นแต่ปณิธานของพวกเขาแข็งแกร่งมากเพียงพอ
พวกเขาจึงจะละเลยความตายทางวิญญาณนี้ได้อย่างสมบูรณ์” เย่ว์หยางอธิบายพร้อมกับยิ้ม
“ในท้ายที่สุดผู้กล้าเหล่านี้พยายามจะปลุกชาวโลกให้ตื่นขึ้น
พวกเขาทำสำเร็จหรือไม่?”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถามอีกครั้ง
“ข้าไม่ได้ดูภาคจบ
ก็เลยไม่รู้ว่าการช่วยเหลือทำได้สำเร็จหรือไม่”
เย่ว์หยางโบกมือ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธ
แต่ทุกคนสงสัยว่าเขาคงรู้ตอนอวสาน
“เจ้าบอกว่ามีความเป็นไปได้เช่นนั้น
เราทุกคนอยู่ในความฝันที่คล้ายกันกับโลกนั้นหรือ? ในความฝันนี้
เราจะรู้สึกความสวยงาม รู้สึกพอใจเมื่อเราได้กิน เมื่อทำงานหนักก็รู้สึกเพลีย
และต้องการพักผ่อนอย่างสบาย?”
เสวี่ยอู๋เสียถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง
“ข้าไม่รู้
ข้าไม่ใช่ผู้ช่วยให้รอด”
เย่ว์หยางไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้
“เจ้าไม่ใช่ผู้ช่วยให้รอดได้ยังไง?
ในเมื่อเจ้ารู้ความลับมากมายปานนี้?”
บุรุษผมงูพบว่าเขาไม่สามารถกินตับมังกรได้อีกต่อไป ถ้าเข้าอยู่ในความฝันที่เครื่องจักรถักทอสร้างขึ้นมาจริงๆ ถ้าโลกเป็นความฝันจริงๆ อย่างนั้นสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดก็ไม่มีอะไร...
เขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
บุรุษผมขาวจู่ๆ
ก็ปรบมือขึ้นทันที “ยอดเยี่ยม
เป็นความเห็นที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ข้าไม่เคยพยายามสงสัยเลยว่าข้าใช้ชีวิตในความฝันที่คนอื่นจัดให้ สหายน้อย!
เจ้าคิดว่าในความเป็นจริง อาจเป็นความฝันที่คนอื่นจัดให้อย่างนั้นหรือ? นานมาแล้วที่ข้าได้ยินตำนานเรื่องหนึ่ง นั่นคือตำนานที่ไม่มีทางเป็นจริง
กล่าวกันว่าทั่วทั้งหอทงเทียนคือกฎสวรรค์ดั้งเดิมของเทพ ตามปกติแล้วไม่มีการยกเว้น
เราไม่สามารถกระโดดข้ามขอบเขตของเทพเจ้าไปได้”
บุรุษผมงูเพิ่งใช้ส้อมจิ้มตับมังกรขึ้นมาชิ้นหนึ่งและกำลังลังเลว่าจะใส่ปากดีหรือไม่
เมื่อเขาได้ยิน ร่างของเขาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ซ่อมที่จิ้มตับมังกรและถืออยู่ร่วงตกพร้อมกัน
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนค่อนข้างประหลาดใจ หอทงเทียนและแดนสวรรค์เป็นโลกที่ใหญ่โต
จะมีกฎเทพดั้งเดิมได้อย่างไร?
เย่ว์หยางไม่รู้สึกแปลกใจมากเท่าใดนัก อย่างไรก็ตามมีการพูดไปถึงว่าหอทงเทียนคือคัมภีร์เทพก็ไม่น่าประหลาดใจมากนัก
ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์เทพหรือไม่ก็ตามแดนสวรรค์และหอทงเทียนเป็นโลกที่แตกต่างกันแน่นอน
ในระดับที่สูงขึ้นไปอาจมีโลกที่ใหญ่กว่าก้าวหน้ายิ่งกว่าแดนสวรรค์และหอทงเทียนแท้จริง เย่ว์หยางยังไม่ไปศึกษาตรงนั้น อย่าว่าแต่พลังในปัจจุบันของเขาในตอนนี้ยังไม่พอจะไปเรียนรู้ตรงนั้นได้
“ทุกท่าน,
ดื่มฉลองให้กับการอยู่รอดในคัมภีร์เทพ ดื่ม”
ชายชราผมหงอกชูแก้วเหล้าและเชิญให้ทุกคนดื่มอย่างกระตือรือร้น
“ใช่แล้ว,
แม้ว่าทั้งชีวิตนี้จะไม่สามารถทำสัญญากับคัมภีร์เทพได้
แต่สามารถมีชีวิตอยู่ในคัมภีร์เทพได้ย่อมไม่เลว”
บุรุษผมงูหัวเราะและทิ้งความคิดที่ควบคุมไม่ได้ในใจเขาออกไป
ดวงตาของเขาฟื้นฟูความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง
“.......” เย่ว์หยางยังคงนั่งไม่แสดงอารมณ์
“????”
ครั้งนี้แม้แต่เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกแปลกไปบ้าง เจ้าเด็กนี่วันนี้ผิดปกติไปเล็กน้อย
“ใช่แล้ว, ข้าก็อยากถาม
ไม่ว่าเราจะอยู่ในคัมภีร์เทพหรืออยู่ในความฝัน
ก็ต้องมีกฎสวรรค์ในวิหารปีศาจดินที่คล้ายกับกฎจ้าวนรกใช่ไหม?” เย่ว์หยางถามเรื่องนี้
“กฎที่ลึกซึ้งน่ะหรือ?” บุรุษผมขาวย้อนถาม และเขาพบว่ามีกฎที่เขายังไม่รู้
“กล่าวกันว่าจ้าวนรกเห็นเทพธิดาตนหนึ่งและเกิดรักชอบพอรูปลักษณ์ที่สวยงามของเทพธิดานั้น
เขาจึงพาตัวนางไปยังวังของตนเองและพยายามเกลี้ยกล่อมนางทุกวัน แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ตามเทพธิดานั้นไม่ชอบเขา
นางจะกลับออกไปให้ได้ และมารดาของเทพธิดานั้นเป็นผู้รับผิดชอบความอุดมสมบูรณ์ของโลกและการเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร
นางร้องกล่าวโทษกับมหาเทพว่าเทพนรกฉุดคร่าธิดานางไป
และกักขังธิดาของนางเอาไว้
เพราะความเศร้าโศกของเทพธิดาผู้รับผิดชอบความอุดมสมบูรณ์ ดอกไม้พืชพันธุ์ธัญญาหารจึงไม่ผลิดอกออกผลอีกต่อไป พืชพันธุ์ธัญญาหารไม่สามารถเติบโตได้และกำลังจะตาย
เมื่อจ้าวสวรรค์เห็นเช่นนี้
เขาได้ขอให้เทพจ้าวนรกนำธิดาของเทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์กลับมาคือ แต่เขาอาศัยช่องโหว่
และเมื่อเขาบอกข่าวดีกับเทพธิดาผู้งดงาม
เขาจัดเตรียมโต๊ะอาหารโอชะเพื่อนาง
นางตื่นเต้นกินผลไม้ที่เทพจ้าวนรกส่งให้นาง
ผลก็คือตามกฎของจ้าวนรก
แม้นางจะสามารถจากไปได้
แต่เพราะกินของของเทพจ้าวนรกลงไป
ในทุกปีนางจะต้องใช้เวลาสองสามเดือนเพื่ออยู่กับจ้าวนรกในทุกปี...”
เมื่อเย่ว์หยางเล่าเรื่องนี้
เหล้าเพลิงในมือของบุรุษผมงูกระฉอกทันที
มืออีกข้างที่กำลังเอื้อมไปหยิบแอปเปิลแดนสวรรค์หดกลับมาราวกับกลัวงูฉก
เขากลืนน้ำลายเอื๊อกและมองไปทางบุรุษชราอย่างกระวนกระวาย
ถ้าในวิหารปีศาจดินมีสิ่งที่เหมือนกับกฎจ้าวนรก
การกินอาหารและออกไปแล้วจะต้องกลับมารั้งอยู่อย่างน้อยสองสามเดือนในทุกปี อย่างนั้นก็จบกัน
หลังจากได้ยินคำนี้แล้วชายชราสงบใจได้ทันที
เขาเปิดคัมภีร์โบราณ
เขาขยับแว่นตาเดียวมองดูอย่างระมัดระวัง
เหมือนกับต้องการจะค้นหาตัวอย่างยืนยันคำพูดของเย่ว์หยาง
เขาไล่ดูตามระหว่างบรรทัดในหนังสือโบราณและส่ายศีรษะ
“สหายน้อย! ด้วยเกียรติของตัวข้าเอง
ข้าไม่สามารถพบเจอสิ่งที่เรียกว่าความฝันของเมทริกซ์
หรือกฎจ้าวนรกในแดนสวรรค์แห่งนี้เลย
นี่ไม่ใช่บันทึกในประวัติศาสตร์ของหอทงเทียนด้วย! เจ้าไปได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ใด?”
“นั่นไม่สำคัญ,
สิ่งที่สำคัญก็คือมีอยู่จริงไหม?”
เย่ว์หยางยิ้มเล็กน้อย ดวงตาเปล่งประกายปัญญา
“นี่....” ชายชราผมขาวลังเลอยู่เล็กน้อย
และพูดด้วยความมั่นใจ “ใช่แล้ว”
“ว่าไงนะ?”
บุรุษผมงูร้องลั่นทันที “เรื่องแบบนี้เคยมีที่ไหนกันเล่า? หมายความว่าแดนสวรรค์ไม่ได้มีบันทึกอย่างนั้นไว้ไม่ใช่หรือ?”
“มีอยู่ที่นี่ วิหารปีศาจดิน!”
บุรุษผมขาวปิดหนังโบราณและลุกขึ้นยืนเผยให้เห็นรอยยิ้มที่น่ากลัว “ในวิหารปีศาจดิน ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา
แต่คนที่สับสนกับภาพลวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีเลือดของข้าจอมปีศาจลี่ตี้
จะต้องอยู่ด้วยกันกับข้า ทนต่อกฎการทรมานวิญญาณไม่รู้จบ ยินดีต้อนรับ แต่พวกเจ้าไม่ต้องกลัว พวกเจ้าไม่ใช่เพียงคนเดียวแน่...”
บุรุษผมงูเพิ่งจะดื่มเหล้าเลือดไตตันลงไป
ตลอดทั้งแข็งค้างราวกับถูกแช่แข็ง
แม้ว่าเย่ว์หยางไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
แต่เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกได้ว่าอากาศควบแน่นอย่างต่อเนื่อง
และเชื่อว่าการแช่แข็งเป็นเรื่องของเวลา
พอถึงจุดนี้บุรุษผมงูพบว่าทุกอย่างหายไป
ทั่วทั้งวิหารปีศาจดินทั้งหมดมีแต่เพียงถ้ำน้ำแข็งที่ว่างเปล่า
บุรุษชราผมขาวที่เหมือนกับบัณฑิตผู้ทรงภูมิรู้ถูกล่ามไว้ด้วยโซ่น้ำแข็งเก้าเส้น ร่างมนุษย์ไฟฟ้าที่สร้างขึ้นด้วยพลังกฎฟ้าแข็งแกร่งมากกว่าพลังสายฟ้าของมารสัมฤทธิ์ฟ้าและมารกฎฟ้า
เป็นที่คาดกันว่าร่างของจอมปีศาจลี่ตี้ได้รับทัณฑ์ทรมานตลอดเวลา
สิ่งที่ทำให้บุรุษผมงูกลัวที่สุดมีรูปปั้นมนุษย์นับสิบที่คล้ายกับตัวเขาเอง
เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นบรรพบุรุษรุ่นก่อน...
เย่ว์หยางรับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับมานั่งบนไหล่ทั้งสอง
เขายิ้มไม่เปลี่ยนแปลง
เหมือนกับว่าเขาไม่เห็นความเย็นที่กัดกร่อนร่างกาย
เขาไม่เห็นว่าผนึกน้ำแข็งเริ่มลามมาที่ขาทั้งสองและเขาถามจอมปีศาจลี่ตี้เหมือนกับนักเรียนถามครู “ขออภัย เราไม่ได้สับสน เราไม่ได้กินอะไร
แต่เราติดอยู่ในข้อจำกัดของวิหารปีศาจดินได้ยังไง? ท่านอธิบายให้เราฟังได้ไหม?”
8 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ สนุกมาก
ขอบคุณคร้าบ
ตาเยาว์นี่ลึกลับตลอด
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
เพิ่งจะเข้าใจหนังเมตทริกก็เพราะอ่านตอนนี้ 555
แสดงความคิดเห็น