วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 806 ความฝัน? กฎและความจริง


ตอนที่  806  ความฝัน? กฎและความจริง
สำหรับบุรุษผมงูและชายชราผมขาวได้แต่คาดเดาถึงจักรพรรดิอวี้ เย่ว์หยางได้แต่ยิ้ม แต่ไม่ตอบ
 
รอยยิ้มของเขายังคงเป็นรอยยิ้มที่สงบ
และนี่เป็นพลังกดดันทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง
สีหน้าของบุรุษผมงูและชายชราผมขาวเปลี่ยนไป  ดวงตาของพวกเขาทอประกายวูบตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทันใด โดยพลังของเย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสามคน สามารถผ่านพลังบดขยี้ในทางผ่านแดนสวรรค์ที่ใช้ผนึกสิ่งมีชีวิต ผ่านผู้เฝ้าประตูทางเข้าแดนสวรรค์ของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เข้ามาได้ นั่นเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำได้
สามคนสามารถเข้าแดนสวรรค์ได้เป็นเพราะมีนักรบหอทงเทียนที่แข็งแกร่งใช้คัมภีร์อัญเชิญนำมาด้วยพร้อมกัน  จักรพรรดิอวี้นักสู้ในตำนานที่มีความสำเร็จบุกได้ถึงเก้าด่านคงตายในการรบ
ถ้าจักรพรรดิอวี้ไม่ตาย ดูเหมือนว่าแดนสวรรค์คงต้องปั่นป่วน
สำหรับบุรุษผมงู เขาไม่ได้หวังผลสูงส่งอะไร  ส่วนบุรุษผมขาวหวังไว้ว่ายิ่งวุ่นวายก็ยิ่งดี โดยเฉพาะโจมตีแดนสวรรค์ให้ล่มสลายไปเลย
 “อาจารย์มีชื่อ ย่อมมีศิษย์ที่สูงส่ง”  บุรุษชราผมขาวชูแก้วเหล้าไปทางวิหารมองออกไปในที่ไกลในทำนองว่าให้เกียรติจักรพรรดิอวี้
 “นอกจากนี้ต้องขอบคุณน้ำใจเลี้ยงต้อนรับของท่านเจ้าภาพด้วย”  บุรุษผมงูยังคงชูแก้วเหล้าเช่นกัน
 “....”  เย่ว์หยางมองดูแก้วอยู่นานและไม่ได้ถือแก้วขึ้นมา
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองดูเย่ว์หยางก่อน
ชายชราผมขาวพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “สหายน้อย, เจ้าคงรู้สึกว่าความบันเทิงเล็กน้อยที่จัดให้นี้ยังไม่เพียงพอกระมัง?”
บุรุษผมงูหัวเราะและใช้มีดทองคำขาวหั่นอาหารร้อนในจานตักใส่ปาก  “บางทีการได้รับการศึกษามาดีแต่ไม่ต่อเนื่องก็ทำให้กังวลมากเกินไป แต่ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย อยู่ต่อหน้าเหล้าชั้นเลิศอาหารชั้นดี มารยาทความเกรงใจของข้าจะถูกดีดส่งไปถึงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ดูตับมังกรที่สดใหม่ และนุ่มนี้สิข้าไม่ได้กินมานานแล้ว นี่เหล้าเลือดไตตัน ของอย่างนี้ต่อให้มีพิษข้าขอฝืนกินอย่างมีความสุข”
เย่ว์หยางมองดูอาหารชั้นดีบนโต๊ะ แล้วดูเหล้าในแก้ว
จากนั้นถอนหายใจทันที
ภาพนี้แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ยังรู้สึกลึกลับยากหยั่งถึง ถอนหายใจมีอะไรดี?
แม้ว่าจะรอสู้ศึก แต่ก็ควรกินก่อนแล้วค่อยว่ากัน พูดกันตามจริงก็คือคนอย่างเย่ว์หยางแค่ก้มหน้าก้มตากิน ใครจะเอาผิดได้
เสวี่ยอู๋เสียยิ้มแล้วถาม “มีอะไรหรือ?”
เย่ว์หยางส่ายศีรษะ “ข้านึกถึงภาพยนตร์เรื่องเดอะเมทริกซ์...”
ภาพยนตร์คืออะไร?
สำหรับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคำศัพท์แปลกใหม่ ที่ออกมาจากปากของเย่ว์หยางทำให้พวกนางสับสน  พวกนางไม่เห็นว่าแปลก ถ้าเขาไม่พูดถึงที่มาให้ชัดเจน พวกนางจะไม่ไล่เบี้ยจนเกินไป  แต่ชายชราผมขาวและบุรุษผมงูสงสัยเล็กน้อย ภาพยนตร์คืออะไร?  คือภาพที่มีแสงฉายไม่มีการประสานงาน? หรือว่าเป็นสิ่งของโบราณ?
 “สหายน้อย เชิญเล่ารายละเอียดให้เราฟังสักเล็กน้อยได้ไหม?”  ชายชราผมขาวยังอารมณ์ดี ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะเขาคือจอมปีศาจลี่ตี้ อย่างนั้นเชื่อได้ว่าคนเกือบทั้งหมดคงคิดว่าเขาเป็นบัณฑิตผู้คงแก่เรียน
 “เรื่องเป็นอย่างนี้ ในโลกมหัศจรรย์แปลกประหลาด ที่ซึ่งมนุษย์ทุกคนถูกควบคุมโดยเครื่องจักรกลประดิษฐ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ร่างหยาบของพวกเขาทุกคนหลับลึกอยู่ในเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง พลังความคิดต่างๆ จะถูกส่งออกไป และเครื่องจักรนั้นจะรวบรวมพลังเหล่านั้นเอาไว้อย่างสมบูรณ์กลายเป็นพลังงานหล่อเลี้ยงเครื่องจักรนั้นโดยผ่านวิธีการพิเศษในขณะที่ผู้คนหลับลึก แต่พวกเขาจะไม่รู้ความจริง เครื่องจักรจะถักทอสร้างความฝันให้พวกเขาเหมือนกับการใช้ชีวิตจริงในความฝัน  พวกเขากินสิ่งที่ให้ความรู้สึกละเอียดอ่อน ทำงานพอรู้สึกลำบากก็พักผ่อน  ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะดูเหมือนเป็นจริงไปหมด  แต่ว่านั่นเป็นความฝันที่ถูกหมอกแห่งความชั่วร้ายควบคุมไว้ เพื่อให้ผลิตสร้างพลังงาน....”  เย่ว์หยางยิ่งอธิบายชัดเจนมากขึ้น  เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ตาของบุรุษผมขาวก็เริ่มเป็นประกาย รอยยิ้มเดิมค่อยๆ เริ่มเครียดจริงจัง
 “ไม่มีใครสามารถเห็นความจริงหรือ?” เสวี่ยอู๋เสียถาม
 “ถูกแล้ว มีน้อยคนนักที่รู้ความจริง  พวกเขาหนีออกมาจากตัวจักรกลนั้นโดยมีวัตถุประสงค์จะปลุกผู้คนให้ตื่นรู้มากขึ้น  อย่างไรก็ตามเมื่อความคิดพวกเขาถูกส่งเข้าไปในถูกส่งเข้าไปในเครื่องจักรกล  พวกเขาพยายามปลุกและบอกคนอื่นว่าโลกนั้นก็คือความฝัน  ไม่มีใครเชื่อ นอกจากนั้นยังคิดว่าเขาผิดปกติ เครื่องจักรภูมิปัญญานั้นบางครั้งก็จับกระแสความคิดนี้ได้ และส่งนักฆ่ามาไล่ล่าพวกเขา เมื่อพวกเขาถูกฆ่า ร่างที่อยู่ข้างนอกก็จะตาย  เว้นแต่ปณิธานของพวกเขาแข็งแกร่งมากเพียงพอ พวกเขาจึงจะละเลยความตายทางวิญญาณนี้ได้อย่างสมบูรณ์” เย่ว์หยางอธิบายพร้อมกับยิ้ม
 “ในท้ายที่สุดผู้กล้าเหล่านี้พยายามจะปลุกชาวโลกให้ตื่นขึ้น พวกเขาทำสำเร็จหรือไม่?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถามอีกครั้ง
 “ข้าไม่ได้ดูภาคจบ ก็เลยไม่รู้ว่าการช่วยเหลือทำได้สำเร็จหรือไม่”  เย่ว์หยางโบกมือ  แม้ว่าเขาจะปฏิเสธ แต่ทุกคนสงสัยว่าเขาคงรู้ตอนอวสาน
 “เจ้าบอกว่ามีความเป็นไปได้เช่นนั้น เราทุกคนอยู่ในความฝันที่คล้ายกันกับโลกนั้นหรือ? ในความฝันนี้ เราจะรู้สึกความสวยงาม รู้สึกพอใจเมื่อเราได้กิน เมื่อทำงานหนักก็รู้สึกเพลีย และต้องการพักผ่อนอย่างสบาย?”  เสวี่ยอู๋เสียถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง
 “ข้าไม่รู้  ข้าไม่ใช่ผู้ช่วยให้รอด”  เย่ว์หยางไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้
 “เจ้าไม่ใช่ผู้ช่วยให้รอดได้ยังไง? ในเมื่อเจ้ารู้ความลับมากมายปานนี้?” บุรุษผมงูพบว่าเขาไม่สามารถกินตับมังกรได้อีกต่อไป  ถ้าเข้าอยู่ในความฝันที่เครื่องจักรถักทอสร้างขึ้นมาจริงๆ  ถ้าโลกเป็นความฝันจริงๆ  อย่างนั้นสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดก็ไม่มีอะไร...
เขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
บุรุษผมขาวจู่ๆ ก็ปรบมือขึ้นทันที  “ยอดเยี่ยม เป็นความเห็นที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ข้าไม่เคยพยายามสงสัยเลยว่าข้าใช้ชีวิตในความฝันที่คนอื่นจัดให้  สหายน้อย! เจ้าคิดว่าในความเป็นจริง อาจเป็นความฝันที่คนอื่นจัดให้อย่างนั้นหรือ?  นานมาแล้วที่ข้าได้ยินตำนานเรื่องหนึ่ง  นั่นคือตำนานที่ไม่มีทางเป็นจริง กล่าวกันว่าทั่วทั้งหอทงเทียนคือกฎสวรรค์ดั้งเดิมของเทพ  ตามปกติแล้วไม่มีการยกเว้น เราไม่สามารถกระโดดข้ามขอบเขตของเทพเจ้าไปได้”
บุรุษผมงูเพิ่งใช้ส้อมจิ้มตับมังกรขึ้นมาชิ้นหนึ่งและกำลังลังเลว่าจะใส่ปากดีหรือไม่
เมื่อเขาได้ยิน ร่างของเขาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ซ่อมที่จิ้มตับมังกรและถืออยู่ร่วงตกพร้อมกัน
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนค่อนข้างประหลาดใจ  หอทงเทียนและแดนสวรรค์เป็นโลกที่ใหญ่โต จะมีกฎเทพดั้งเดิมได้อย่างไร?
เย่ว์หยางไม่รู้สึกแปลกใจมากเท่าใดนัก  อย่างไรก็ตามมีการพูดไปถึงว่าหอทงเทียนคือคัมภีร์เทพก็ไม่น่าประหลาดใจมากนัก ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์เทพหรือไม่ก็ตามแดนสวรรค์และหอทงเทียนเป็นโลกที่แตกต่างกันแน่นอน  ในระดับที่สูงขึ้นไปอาจมีโลกที่ใหญ่กว่าก้าวหน้ายิ่งกว่าแดนสวรรค์และหอทงเทียนแท้จริง  เย่ว์หยางยังไม่ไปศึกษาตรงนั้น อย่าว่าแต่พลังในปัจจุบันของเขาในตอนนี้ยังไม่พอจะไปเรียนรู้ตรงนั้นได้
 ทุกท่าน, ดื่มฉลองให้กับการอยู่รอดในคัมภีร์เทพ ดื่ม”  ชายชราผมหงอกชูแก้วเหล้าและเชิญให้ทุกคนดื่มอย่างกระตือรือร้น
 “ใช่แล้ว, แม้ว่าทั้งชีวิตนี้จะไม่สามารถทำสัญญากับคัมภีร์เทพได้  แต่สามารถมีชีวิตอยู่ในคัมภีร์เทพได้ย่อมไม่เลว”  บุรุษผมงูหัวเราะและทิ้งความคิดที่ควบคุมไม่ได้ในใจเขาออกไป ดวงตาของเขาฟื้นฟูความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง
 “.......” เย่ว์หยางยังคงนั่งไม่แสดงอารมณ์
 “????”  ครั้งนี้แม้แต่เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกแปลกไปบ้าง  เจ้าเด็กนี่วันนี้ผิดปกติไปเล็กน้อย
 “ใช่แล้ว, ข้าก็อยากถาม ไม่ว่าเราจะอยู่ในคัมภีร์เทพหรืออยู่ในความฝัน ก็ต้องมีกฎสวรรค์ในวิหารปีศาจดินที่คล้ายกับกฎจ้าวนรกใช่ไหม?”  เย่ว์หยางถามเรื่องนี้
 “กฎที่ลึกซึ้งน่ะหรือ?”  บุรุษผมขาวย้อนถาม  และเขาพบว่ามีกฎที่เขายังไม่รู้
 “กล่าวกันว่าจ้าวนรกเห็นเทพธิดาตนหนึ่งและเกิดรักชอบพอรูปลักษณ์ที่สวยงามของเทพธิดานั้น เขาจึงพาตัวนางไปยังวังของตนเองและพยายามเกลี้ยกล่อมนางทุกวัน  แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ตามเทพธิดานั้นไม่ชอบเขา นางจะกลับออกไปให้ได้  และมารดาของเทพธิดานั้นเป็นผู้รับผิดชอบความอุดมสมบูรณ์ของโลกและการเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร นางร้องกล่าวโทษกับมหาเทพว่าเทพนรกฉุดคร่าธิดานางไป และกักขังธิดาของนางเอาไว้  เพราะความเศร้าโศกของเทพธิดาผู้รับผิดชอบความอุดมสมบูรณ์  ดอกไม้พืชพันธุ์ธัญญาหารจึงไม่ผลิดอกออกผลอีกต่อไป  พืชพันธุ์ธัญญาหารไม่สามารถเติบโตได้และกำลังจะตาย เมื่อจ้าวสวรรค์เห็นเช่นนี้ เขาได้ขอให้เทพจ้าวนรกนำธิดาของเทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์กลับมาคือ  แต่เขาอาศัยช่องโหว่ และเมื่อเขาบอกข่าวดีกับเทพธิดาผู้งดงาม  เขาจัดเตรียมโต๊ะอาหารโอชะเพื่อนาง นางตื่นเต้นกินผลไม้ที่เทพจ้าวนรกส่งให้นาง  ผลก็คือตามกฎของจ้าวนรก  แม้นางจะสามารถจากไปได้  แต่เพราะกินของของเทพจ้าวนรกลงไป ในทุกปีนางจะต้องใช้เวลาสองสามเดือนเพื่ออยู่กับจ้าวนรกในทุกปี...”
เมื่อเย่ว์หยางเล่าเรื่องนี้ เหล้าเพลิงในมือของบุรุษผมงูกระฉอกทันที
มืออีกข้างที่กำลังเอื้อมไปหยิบแอปเปิลแดนสวรรค์หดกลับมาราวกับกลัวงูฉก
เขากลืนน้ำลายเอื๊อกและมองไปทางบุรุษชราอย่างกระวนกระวาย
ถ้าในวิหารปีศาจดินมีสิ่งที่เหมือนกับกฎจ้าวนรก การกินอาหารและออกไปแล้วจะต้องกลับมารั้งอยู่อย่างน้อยสองสามเดือนในทุกปี  อย่างนั้นก็จบกัน
หลังจากได้ยินคำนี้แล้วชายชราสงบใจได้ทันที
เขาเปิดคัมภีร์โบราณ
เขาขยับแว่นตาเดียวมองดูอย่างระมัดระวัง เหมือนกับต้องการจะค้นหาตัวอย่างยืนยันคำพูดของเย่ว์หยาง
เขาไล่ดูตามระหว่างบรรทัดในหนังสือโบราณและส่ายศีรษะ “สหายน้อย! ด้วยเกียรติของตัวข้าเอง ข้าไม่สามารถพบเจอสิ่งที่เรียกว่าความฝันของเมทริกซ์ หรือกฎจ้าวนรกในแดนสวรรค์แห่งนี้เลย นี่ไม่ใช่บันทึกในประวัติศาสตร์ของหอทงเทียนด้วย!  เจ้าไปได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ใด?”
 “นั่นไม่สำคัญ, สิ่งที่สำคัญก็คือมีอยู่จริงไหม?”  เย่ว์หยางยิ้มเล็กน้อย  ดวงตาเปล่งประกายปัญญา
 “นี่....” ชายชราผมขาวลังเลอยู่เล็กน้อย และพูดด้วยความมั่นใจ “ใช่แล้ว”
 “ว่าไงนะ?”  บุรุษผมงูร้องลั่นทันที “เรื่องแบบนี้เคยมีที่ไหนกันเล่า? หมายความว่าแดนสวรรค์ไม่ได้มีบันทึกอย่างนั้นไว้ไม่ใช่หรือ?”
 “มีอยู่ที่นี่ วิหารปีศาจดิน!  บุรุษผมขาวปิดหนังโบราณและลุกขึ้นยืนเผยให้เห็นรอยยิ้มที่น่ากลัว  “ในวิหารปีศาจดิน ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา แต่คนที่สับสนกับภาพลวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีเลือดของข้าจอมปีศาจลี่ตี้ จะต้องอยู่ด้วยกันกับข้า ทนต่อกฎการทรมานวิญญาณไม่รู้จบ ยินดีต้อนรับ  แต่พวกเจ้าไม่ต้องกลัว  พวกเจ้าไม่ใช่เพียงคนเดียวแน่...”
บุรุษผมงูเพิ่งจะดื่มเหล้าเลือดไตตันลงไป ตลอดทั้งแข็งค้างราวกับถูกแช่แข็ง
แม้ว่าเย่ว์หยางไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ แต่เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกได้ว่าอากาศควบแน่นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าการแช่แข็งเป็นเรื่องของเวลา
พอถึงจุดนี้บุรุษผมงูพบว่าทุกอย่างหายไป
ทั่วทั้งวิหารปีศาจดินทั้งหมดมีแต่เพียงถ้ำน้ำแข็งที่ว่างเปล่า  บุรุษชราผมขาวที่เหมือนกับบัณฑิตผู้ทรงภูมิรู้ถูกล่ามไว้ด้วยโซ่น้ำแข็งเก้าเส้น  ร่างมนุษย์ไฟฟ้าที่สร้างขึ้นด้วยพลังกฎฟ้าแข็งแกร่งมากกว่าพลังสายฟ้าของมารสัมฤทธิ์ฟ้าและมารกฎฟ้า  เป็นที่คาดกันว่าร่างของจอมปีศาจลี่ตี้ได้รับทัณฑ์ทรมานตลอดเวลา  สิ่งที่ทำให้บุรุษผมงูกลัวที่สุดมีรูปปั้นมนุษย์นับสิบที่คล้ายกับตัวเขาเอง เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นบรรพบุรุษรุ่นก่อน...
เย่ว์หยางรับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับมานั่งบนไหล่ทั้งสอง
เขายิ้มไม่เปลี่ยนแปลง
เหมือนกับว่าเขาไม่เห็นความเย็นที่กัดกร่อนร่างกาย เขาไม่เห็นว่าผนึกน้ำแข็งเริ่มลามมาที่ขาทั้งสองและเขาถามจอมปีศาจลี่ตี้เหมือนกับนักเรียนถามครู  “ขออภัย เราไม่ได้สับสน เราไม่ได้กินอะไร แต่เราติดอยู่ในข้อจำกัดของวิหารปีศาจดินได้ยังไง? ท่านอธิบายให้เราฟังได้ไหม?”

8 ความคิดเห็น:

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Paradin กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สนุกมาก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคร้าบ

Emptiest กล่าวว่า...

ตาเยาว์นี่ลึกลับตลอด

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

nutzido กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

เพิ่งจะเข้าใจหนังเมตทริกก็เพราะอ่านตอนนี้ 555

แสดงความคิดเห็น