ตอนที่ 807
เจ้าคือเจ้าถิ่นที่นี่!
“นี่เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้
ตราบใดที่กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง เจ้าจะใช้เวลาคิดถึงปัญหานี้ได้อย่างไม่จำกัด
ข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะไม่เสียเวลาหลับแม้แต่นาทีเดียว วันละยี่สิบสี่ชั่วโมง
ทุกนาที ทุกวินาที”
ชายชราผมขาวที่แขวนอยู่บนโซ่น้ำแข็งไฟฟ้าถูกพลังไฟฟ้าระเบิดจนควันสีน้ำเงินคุกรุ่นจากผิวของเขา
อย่างไรก็ตามชายชราผมขาวมีท่าทางเหมือนกับยินดี
ราวกับว่าเขาไม่เจ็บปวด
แต่ดูมีความสุข
เย่ว์หยางขมวดคิ้วมองดูน้ำแข็งที่ขาของเขา
เขาใช้มือพยายามยกเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย
แม้ว่านี่จะไม่ได้ป้องกันสองสาวจากการถูกแช่แข็ง แต่ก็ทำให้กระบวนการชะลอตัวช้าลง
นั่นคือความต้องการของเขา
นิ้วที่งดงามราวกับลำเทียนหยกของเสวี่ยอู๋เสียเปิดคัมภีร์แห่งสัจจะมองหาคำตอบ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชักดาบเทพจักรพรรดิอวี้มาถือในมือ
เหมือนกับว่าจะใช้สายฟ้าโจมตี ถ้ามีเป้าหมายนางคงโจมตีไปแล้ว
แต่ตอนนี้ศัตรูถูกพลังผนึกเอาไว้ซึ่งเป็นพลังกฎที่นักสู้รุ่นก่อนทิ้งเอาไว้
ทำให้แม้ว่านางจะถือดาบเทพไว้ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่านางจะทำอะไรไม่ได้
“ไอ้พลังบ้านี่, สลายไปซักทีสิโว้ย!” บุรุษผมงูพยายามดิ้นรน
และน้ำแข็งในร่างของเขาแตกกระเด็นออกไปไกล
ร่างของบุรุษผมงูมีพลังเพียงพอทำลายโลกและสวรรค์ได้
รูปร่างของเขาเหมือนเทพปีศาจ
เขาขับสลายพลังเยือกแข็งออกไปทีละชิ้นๆ
ในเวลาอันรวดเร็วเขาหันส่องกระจกทนทุกข์
กระจกวิเศษที่มีพลังรองจากสมบัติเทพฉายไปทางบุรุษผมขาว บุรุษผมขาวปล่อยให้กระจกทนทุกข์ฉายใส่
ร่างเขาระเบิด
เกิดบาดแผลและเลือดกระเซ็นนับไม่ถ้วนแทนตัวของบุรุษผมงูเป็นพลังสะท้อนกลับ
เลือดเหล่านั้นที่กำลังกระเด็นอยู่ที่พื้นหรือที่อากาศเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง
พอกระทบถึงพื้นก็กลายเป็นกระสวยน้ำแข็งที่ทรงพลัง
มีกระสวยน้ำแข็งบางชิ้นกระเด็นไปถึงบุรุษผมขาว
กระจกทนทุกข์ส่งพลังอีกครั้ง
กระสวยน้ำแข็งกระทบใส่ร่างและร่วงตกพื้นโดยไม่มีพลังใดๆ อย่างไรก็ตามในตำแหน่งเดียวกับบุรุษชราผมขาว
มีบาดแผลที่ดูแปลกคล้ายกับรูปกระสวยน้ำแข็งที่ทะลุผ่านตัวของบุรุษชราอย่างช่วยไม่ได้
บุรุษผมงูเปลี่ยนอาวุธชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ให้กลายเป็นกระสวยบิน
เขากระโดดขึ้นไปในท้องฟ้า
ไวกว่าสายฟ้า
พุ่งตรงออกไปจากห้องโถงใหญ่...สำหรับเย่ว์หยางและเสวี่ยอู่เสีย
พวกเขาประหลาดใจที่บุรุษผมงูดูเหมือนจะสามารถหนีได้ตั้งแต่แรก แต่กลับแข็งค้างลอยอยู่ในอากาศ
เกล็ดน้ำแข็งเกาะเต็มตัวบุรุษผมงูเว้นแต่ศีรษะของเขา
เขาไม่สามารถดิ้นรนได้อีกต่อไป
จึงพยายามใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายสะบัดกระจกทนทุกข์เพื่อให้ฟื้นจากการแช่แข็ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร
ไม่มีทางที่พวกเจ้าจะเดินออกไปจากวิหารปีศาจดินได้ พลังของผนึกที่นี่อนุญาตให้เข้าได้อย่างเท่านั้น
ไม่มีใครได้รับการยกเว้น
อย่าว่าแต่เจ้าดื่มเหล้าที่ทำขึ้นจากเลือดของข้าไปด้วย ตามกฎเจ้าคือสหายของข้า อย่างน้อยต้องร่วมรับโทษไปหนึ่งในสิบ
และนี่คือมาตรฐานตลอดไป!” บุรุษผมขาวไม่หัวเราะอีก
“ยังมีอีกทางหนึ่ง” บุรุษผมงูที่เริ่มถูกแช่แข็งแค่นเสียงออกจากลำคอ
และเปล่งเสียงด้วยความเจ็บปวด “พวกเจ้าทั้งสาม
ถ้าพวกเจ้าไม่ต้องการตาย พูดอะไรบ้างสิ เร็วเข้า!”
“ทำยังไง?”
เย่ว์หยางถาม
“หยิบกระจกทนทุกข์ขึ้นมา จากนั้นส่องน้ำแข็งบนตัวเจ้ามาที่ข้าหรือไปที่ปีศาจเฒ่า
เจ้าใช้ดาบเทพฆ่าเขา ต่อเมื่อเขาตาย ผนึกจะได้รับการปลดปล่อย...
ดาบเทพสามารถฆ่าเขาได้ มีแต่อาวุธเทพเท่านั้นจึงจะทำได้...”
บุรุษผมงูกระอักโลหิตออกมาเป็นน้ำแข็งอย่างคาดไม่ถึง น้ำแข็งเริ่มลามมาถึงคอเขาจนคลุมหน้าผากกระจายไปที่ตัวงูบนศีรษะ งูบนศีรษะนั้นรู้สึกกลัวแต่มันหนีไม่ได้เพราะหางมันถูกตรึงกับศีรษะเขาไม่ว่าจะหลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น
“เราไม่สามารถใช้กระจกทนทุกข์ของเจ้าได้ สมบัติวิเศษของเจ้าเป็นของชั้นสูงเกินไปแค่เป็นรองสมบัติเทพเท่านั้น” เย่ว์หยางพูดความจริง
“เจ้าไม่ต้องใช้ ข้าจะควบคุมเอง ตราบเท่าที่เจ้าถือให้ได้” บุรุษผมงูยังคงใช้พลังจิตควบคุมกระจกทนทุกข์ได้ แต่เขาใช้มือไม่ได้
ภายใต้พลังกฎสวรรค์เขากลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
“มันจะได้ผลจริงๆ หรือ?” เย่ว์หยางไม่เห็นด้วย
เขายังมีความรู้สึกลังเล
“ข้าไม่รู้ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำ” บุรุษผมงูกระอักเลือดด้วยความเจ็บปวด
และน้ำแข็งเริ่มลามมาถึงแก้มของเขา
“ข้ามีเวลาไม่มาก เร็ว รีบหน่อย!”
ชายชราผมขาวเห็นท่าไม่ดีรีบใช้เท้ากระตุ้นน้ำแข็งที่เท้าทั้งสองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
น้ำแข็งระเบิดใส่
เป็นประกายจุดๆ
เหมือนประกายไฟฟ้า
ความตั้งใจของเขาคือเร่งความเร็วแช่แข็งบุรุษผมงูซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ประการแรกสุดเพื่อขัดขวางเย่ว์หยางไม่ให้หยิบกระจกทนทุกข์ซึ่งจะถ่ายเทความเจ็บปวดมาที่เขาแทน
เขาไม่ต้องการลองอีกครั้ง เกี่ยวกับเย่ว์หยาง
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทั้งสามคนนี้ แม้ว่าเขาจะถือว่ามีความสำคัญแต่ยังไม่น่ากลัวเหมือนกับบุรุษผมงู
ที่สำคัญคือบุรุษผมงูเป็นคนรุ่นหลังของสี่ตระกูลใหญ่
แตกต่างจากเย่ว์หยางที่เป็นตัวปลอม
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนควงดาบเทพจักรพรรดิอวี้และฟันใส่น้ำแข็งที่โจมตีใส่ราวกับสายฝน
เย่ว์หยางได้รับพลังสนับสนุนจากพลังหยินของเสวี่ยอู๋เสียก้าวขาทั้งสองที่ถูกแช่แข็งไปทางกระจกทนทุกข์อย่างยากลำบาก
เสวี่ยอู๋เสียเปิดคัมภีร์แห่งสัจจะ
พลังจิตที่มองไม่เห็นเผชิญกับชายชราผมขาวที่เปิดคัมภีร์โบราณเช่นกัน...
เทียบกับพลังป้องกันขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ต้านทานพลังน้ำแข็ง
พลังจิตของนางยังอันตรายมากกว่า
หากปล่อยให้ศัตรูโจมตีได้สำเร็จ นางจะตกอยู่ในสภาพสูญเสียจิตใจ อาจได้รับผลกระทบจากพลังงานของศัตรูจนกลายเป็นคนโง่
“เร็วเขา รีบหน่อย!” ร่างของบุรุษผมงูเริ่มมีน้ำแข็งเกาะแน่น
และจมูกกับปากของเขาไม่สามารถหายใจได้
คาดว่าภายในหนึ่งนาทีเขาคงกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
“อย่าส่งเสียงดัง” เย่ว์หยางเดินอย่างยากลำบาก
ความจริงถ้าไม่ใช่เพราะพลังน้ำแข็งของเสวี่ยอู๋เสีย
เขาก็คงไม่สามารถทำพลังผนึกน้ำแข็งชั่วคราว อย่าว่าแต่เดินหน้าเลย
แค่ก้าวทีก้าวเย่ว์หยางยังรู้สึกลำบากอย่างหนัก
เหมือนกับว่าทุกย่างก้าวต้องใช้พลังทั้งตัว
เขาก้าวเท้าอย่างหนักหน่วง
ระยะทางสิบกว่าเมตรเหมือนเป็นอุปสรรคใหญ่
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ช่วยป้องกัน ส่วนเสวี่ยอู๋เสียลอบใช้พลังวิญญาณโจมตี
ในที่สุดก่อนมาถึงรูปที่แข็งเป็นน้ำแข็งของบุรุษผมงู
เย่ว์หยางพบว่าการงอตัวมีปัญหา
ความเคลื่อนไหวของเขาช้ามากเหมือนเครื่องจักรกลที่ขึ้นสนิท...
ขณะนั้นคนที่ชายชราผมขาวกังวลก็คือบุรุษผมงูอยู่ในระหว่างรีบเร่ง
ฝ่ายหนึ่งต้องการหยุดความสิ้นหวัง
ฝ่ายหนึ่งต้องการลงมือให้สำเร็จ
แน่นอนว่าเพราะความสัมพันธ์ของพลังผนึก
ไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงได้โดยตรง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางเอื้อมมือขวาออกไปทีละนิดๆ
จนจวนจะถึงกระจกทนทุกข์
แค่เพียงอีกเล็กน้อยจะสัมผัสถึงกระจกนั้น
“เร็วเข้า, ข้าจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
บุรุษผมงูใช้พลังจิตอึดสุดท้ายเพื่อให้หน้าพ้นจากน้ำแข็ง
ขณะที่บุรุษผมขาวยิงน้ำแข็งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งกลายเป็นคลื่นพลังพุ่งเข้าหาเย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
“ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป
ตราบใดที่พวกเจ้าไม่แตะมัน” ชายชราผมขาวเสนอเงื่อนไข
“อย่าไปฟังเขา...”
บุรุษผมงูกระตุ้นเย่ว์หยางให้หยิบกระจกทนทุกข์ให้เร็วขึ้น ไม่ว่ายังไงก็ตามการเก็บกระจกทนทุกข์ขึ้นมาเป็นการกระทำที่สำคัญที่สุด
นั่นคือกุญแจพลิกสถานการณ์การต่อสู้ทั้งหมด
บุรุษผมขาวกระวนกระวายเรียกอสูรจักรกลที่ไม่ธรรมดาออกมาจากหนังสือโบราณออกมาช่วย
แต่ไม่ได้ออกมาทำร้ายเย่ว์หยาง แต่มุ่งโจมตีที่กระจกทนทุกข์ที่เขากำลังจะเก็บขึ้นมา
แม้แต่คนตาบอดก็เห็นได้ว่าเย่ว์หยางต่อต้านพลังน้ำแข็งจนถึงขีดจำกัดแล้ว
ถ้ากระจกทนทุกข์ถูกโจมตีกระเด็นไปอีกสิบเมตร
เขาคงไม่มีแรงพอเดินไปอีกสิบเมตรอีกครั้ง
เย่ว์หยางค่อยๆ
ยื่นมือขวาที่สั่นเทาเพื่อแข่งความเร็วกับอสูรจักรกล
ผู้ใดเร็วกว่าผู้นั้นจะสามารถพลิกสถานการณ์การต่อสู้!
แม้ว่าอสูรจักรกลจะรวดเร็ว
แต่ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันใส่ตัดร่างของมันขาดครึ่งอย่างแม่นยำ แต่ร่างท่อนบนของมันบินต่อไปได้
ส่วนล่างท่อนล่างตกร่วงกับพื้นน้ำแข็ง
ถ้าไม่ใช่เพราะมือที่จับดาบขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีน้ำแข็งเกาะแน่นแล้ว
มิฉะนั้นอสูรจักรกลคงจะถูกทำลายโดยตรงภายใต้พลังปราณกระบี่เทพ
หลังจากผ่านอุปสรรคนี้ไปได้
เป็นมือของเย่ว์หยางที่เร็วกว่า...
อย่างไรก็ตามในขณะที่นิ้วสัมผัสเข้ากับกระจกทนทุกข์
เย่ว์หยางชะงักทันที
จากนั้นพยายามดิ้นรนถอย และค่อยๆ
ยืดตัวตรงภายใต้สายตาของบุรุษผมงูและชายชราผมขาว
“เจ้าจะทำอะไร?” สีหน้าของบุรุษผมงูเหมือนกับคนจะเป็นลม
“สิ่งที่เจ้าทำก็คือเรื่องความฝันในก่อนหน้านั้นที่ข้าเล่าให้ฟังไม่ใช่หรือ?
จำได้ไหมเมื่อข้าพูดถึงกฎของจ้าวนรก? ทั้งหมดนั้นเป็นการทดสอบของข้า! ถ้าข้าแตะต้องกระจกทนทุกข์นี้
ข้าเองนั่นแหละที่เป็นเจ้าหน้าโง่ตัวจริง!” เย่ว์หยางยิ้มกว้างทำให้ศัตรูหงุดหงิดและทำอะไรไม่ถูก
เขายังโอบเอวบางของเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
สตรีทั้งสองประกบคัมภีร์แห่งสัจจะกับดาบเทพจักรพรรดิอวี้เข้าด้วยกัน เกิดคลื่นสั่นสะเทือนทางจิตวิญญาณ
ทำให้น้ำแข็งนับล้านมารวมกัน.. ดูเหมือนทั้งสามคนจะไม่รู้สึกตัว
ร่างของพวกเขากลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งที่ไม่มีการป้องกันใดๆ
จากนั้นครู่ต่อมาฉากภาพน้ำแข็งทั้งหมดแตกกระจายเหมือนกับแก้ว
แตกกระจายเป็นชิ้นส่วนขนาดต่างๆ
นับพันชิ้น
ปราสาทน้ำแข็งยังคงเหมือนเดิม โซ่น้ำแข็งยังคงเดิม
ชายชราผมขาวที่ถูกแขวนห้อยหัวลงและบุรุษผมงูที่ถูกแช่แข็งยังคงเหมือนกัน แต่สามคนนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
รูปปั้นน้ำแข็งข้างหน้ากระจกทนทุกข์หายไป เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทอง
ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ขยับเปลี่ยนท่าทางมาก่อน
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?” เมื่อชายชราผมขาวเห็นเช่นนี้
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมากมาย
“ฮ่าฮ่า, แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้” เย่ว์หยางยิ้มมีความสุข
เหมือนกับคนแปลกถิ่นในบ้านเกิด แล้วจู่ๆ ก็พบเห็นสหายที่หายหน้าไปนาน
รอยยิ้มของเขาเป็นกันเอง เขาใช้นิ้วค่อยๆ
แตะเก้าอี้ทอง และเสียงเหมือนโลหะดังขึ้น
“เป็นยังไงบ้าง, ภาพลวงตาที่เราสร้างขึ้น
เหมือนจริงยิ่งกว่าที่เจ้าสร้างมาหรือเปล่า? ก่อนที่จะไปแดนสวรรค์
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีบอกข้าว่าในแดนสวรรค์ไม่สามารถเชื่อถือใครได้
ไม่ว่าเป็นสหายหรือศัตรูก็ไม่อาจเชื่อได้!”
“เฟ่ยเหวินหลียังมีชีวิตอยู่อีกหรือ?” ชายชราผมขาวและบุรุษผมงูได้ยินแล้ว
ทุกคนรู้สึกตกใจเล็กน้อย
“ปัญหานั้นเราคงไม่พูดถึงก่อน
เรากลับไปที่ปัญหาของการต่อสู้ในตอนนี้
เพราะมีข้อสงสัยสำหรับทุกคน
ดังนั้นเจ้าที่อ้างว่ามาจากตระกูลใหญ่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!”
เย่ว์หยางชี้ไปที่บุรุษผมงูและอธิบายพร้อมกับยิ้ม
“ตอนนี้ข้าเป็นพันธมิตรเจ้าอยู่แล้ว ตราบใดที่เราร่วมมือกัน เราสามารถสู้กับจอมปีศาจลี่ตี้ได้!” บุรุษผมงูร้องตวาดด้วยความโกรธ
“ใช่แล้ว ข้าทำอย่างนี้ ข้าพยายามจะสู้กับเจ้า
เพราะเจ้าคือจอมปีศาจลี่ตี้ตัวจริง”
เย่ว์หยางสบตากับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและในที่สุดก็ตอบคำตอบนี้ด้วยความมั่นใจ
“พวกเจ้าพูดอะไร? พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือ?” บุรุษผมงูโมโห
“ว่ากันตามจริงเจ้านั่นแหละคือจอมปีศาจลี่ตี้
และข้ามีหลักฐานจริงๆ” เย่ว์หยางชี้ไปที่ชายชราผมหงอกผู้ถูกแขวนอยู่ในอากาศด้วยโซ่น้ำแข็งทั้งเก้าและถูกพลังกฎสวรรค์ลงโทษอยู่ตลอดเวลา “เขาไม่ใช่จอมปีศาจลี่ตี้ที่แท้จริง
แต่เป็นอสูรพิทักษ์ของเจ้า!
เจ้าใช้ทักษะแฝงเร้นและใช้อสูรพิทักษ์รับโทษแทนร่างกายที่แท้จริงของเจ้า
แต่เจ้ากลับหนีการลงโทษครั้งนี้ หรือบางทีเจ้าอาจต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด
แต่อย่างน้อยเจ้าไม่ต้องถูกโซ่ทั้งเก้าล่ามเอาไว้ อย่างน้อยก็ยังฟื้นฟูพลังบางส่วนได้...
ส่วนพลังของผนึก เจ้าไม่อาจท้าทายได้
เจ้าไม่อาจหลบหนีออกไปได้ ขอบเขตการกระทำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเจ้าก็คือวิหารปีศาจดิน ดังนั้นเจ้าจึงมาปรากฏอยู่ที่ด้านหลังเราโดยบังเอิญ”
เย่ว์หยางยิ้มด้วยความมั่นใจเฉิดฉายเหมือนดวงอาทิตย์
“บอกความลับเจ้าอย่างหนึ่งก็ได้ ตาของข้าและคัมภีร์แห่งสัจจะของนาง
อย่างน้อยก็เทียบเท่าเทพ แม้แต่เจ้าประมุขตำหนักกลางจีอู๋ลี่ที่มีพลังแทบใกล้เคียงกับเทพก็ยังใช้ไม่ได้ เจ้าสามารถผ่านสายตาข้าไปได้
นี่เป็นการพิสูจน์ความจริงว่าเจ้ามีพรสวรรค์ ใช่แล้วในนี้เจ้าคือเจ้านาย”
เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของเย่ว์หยางหน้าของบุรุษผมงูเปลี่ยนไป
ตาของเขาแหลมคมเหมือนดาบ
รังสีฆ่าฟันทะลักออก
หลังจากผ่านไปนาน
บุรุษผมงูเบือนสายตาจากเย่ว์หยางและมองดูคัมภีร์แห่งสัจจะในมือของเสวี่ยอู๋เสีย
เสวี่ยอู๋เสียพลิกเปิดคัมภีร์แห่งสัจจะเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่สนใจสายตาของฝ่ายตรงข้าม ราวกับว่าบุรุษผมงูเป็นคนตาบอด บุรุษผมงูมองดูดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและพยักหน้าในที่สุด
“นี่ถือเป็นเกียรติที่ได้เปิดหูเปิดตา ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ เด็กสมัยนี้ฉลาดมาก! เยี่ยมมาก..ข้าประมาทไปเล็กน้อยคิดว่าพวกเจ้ายังเป็นเด็กที่ไม่รู้ความ
สามารถมีคัมภีร์แห่งสัจจะที่เป็นรองสมบัติระดับเทพได้ มีดาบเทพจักรพรรดิอวี้ของจักรพรรดิอวี้นับว่าพวกเจ้าไม่ธรรมดาแน่นอน
และอย่างไรก็ตามส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือเจ้ากับเด็กสาวทั้งสองมีความสามารถ มีสมบัติเทพที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างสมบูรณ์หรือ?
จะไม่มีปัญหากับภาพลวงตาหรือ?”
“ความสามารถของข้า ท่านจะได้รู้ในอีกไม่ช้า!
ถ้าท่านคิดว่าเราไม่มีทักษะสักเล็กน้อย
เราจะกล้ามาท้าทายท่านถึงวิหารปีศาจดินหรือ จอมปีศาจลี่ตี้, ถ้าเป็นอย่างนี้
ท่านก็เข้าใจผิดแล้ว”
เย่ว์หยางยิ้มอีกครั้ง
ครั้งนี้รอยยิ้มของเขาไม่เพียงแต่ทำให้บุรุษผมงูรู้สึกเหมือนกับดวงอาทิตย์เท่านั้น
แต่ยังส่งผลต่อจิตใจเหมือนกับว่ารอยยิ้มนี้เป็นรอยยิ้มแห่งความตาย!
9 ความคิดเห็น:
หลอกกันสุดๆ
ขอบคุณคับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ตบมันสักที
หักมุมมาก
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
รู้เลยใครหลอกเก่งกว่ากัน
แสดงความคิดเห็น