วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 810 ความเร็ว ขอบเขตของปราณราชันย์


ตอนที่  810  ความเร็ว ขอบเขตของปราณราชันย์
เย่ว์หยางไม่ได้ใช้กระบี่ดำกุยจ้างและกระบี่ขาวซวงหัวโจมตีจอมปีศาจลี่ตี้  แต่กลับเปลี่ยนทิศทางใช้กระบี่ทั้งสองแทงใส่หัวใจและระหว่างคิ้วของบุรุษชราผมขาว

บุรุษผมขาวไม่คิดว่าเย่ว์หยางจะโจมตีใส่เขาจริงๆ  เขาตกใจร่างสั่นเล็กน้อย
เขาสะท้านเฮือกด้วยความเจ็บปวดภายใต้การสังหารของกระบี่ทั้งสอง
เขาเป็นอสูรพิทักษ์ร่างมนุษย์ และจะไม่ตายอย่างแท้จริง  อย่างไรก็ตามถ้าเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรงหรือถูกลงโทษตามกฎสวรรค์ เป็นไปไม่ได้ที่จอมปีศาจลี่ตี้จะใช้กระจกทนทุกข์ถ่ายเทความเจ็บปวดส่งมาที่เขา  เย่ว์หยางสังเกตเห็นข้อนี้ ก่อนที่จะโจมตีจอมปีศาจลี่ตี้ เขาใช้กระบี่ดำกุยจ้างและกระบี่ขาวซวงหัวเพื่อตรึงชายชราผมขาว....
จอมปีศาจลี่ตี้เคลื่อนไหวช้ามาก เขาบังคับร่างให้เคลื่อนไหวทั้งพันธนาการพยายามหลบคลื่นพลังโจมตีครั้งที่สองของเย่ว์หยาง
เขาไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่จะโจมตียังไง  แต่เขารู้ว่ามิใช่จะรับมือได้ง่ายๆ
เป๊าะ
เย่ว์หยางสะบัดมือดึงเกราะหมวกของจอมปีศาจลี่ตี้ออก
พลังระเบิดคราวนี้ไม่มีพลังโจมตีอยู่เลย ไม่เป็นการต้านพลังของเกราะปีศาจฟ้า  นอกจากนี้พลังนี้ยังหลอกล่อเกราะปีศาจ และถอดเกราะหมวกออกได้
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบเทพฟันศีรษะของจอมปีศาจลี่ตี้จากด้านบน
ดาบเทพผ่าศีรษะเขาจนถึงปาก และปราณกระบี่ทะลุตัดเข้าไปในพื้น
อสูรจักรกลขนาดเล็กตัวหนึ่งปรากฏอยู่ใต้เท้าของจอมปีศาจลี่ตี้  กระจกทนทุกข์ที่อยู่กับร่างของจอมปีศาจลี่ตี้ข้างหนึ่งถ่ายเทความเสียหายของร่างกายไปที่อสูรจักรกลขนาดเล็กทันที และอสูรจักรกลขนาดเล็กนั้นกลายสภาพเป็นผุยผง หลังจากส่งความเสียหายไปที่อสูรจักรกลน้อยแล้ว จอมปีศาจลี่ตี้จึงได้รับอิสรภาพ  เมื่อเขาหลบพลังโจมตีครั้งที่สองของเสวี่ยอู๋เสีย เขาพบว่าที่ด้านหลังของเขาไม่ทราบว่ามีปีศาจอสรพิษน้อยมาอยู่ตั้งแต่เมื่อใด
 “ไม่เพียงแต่ทักษะแฝงเร้นเท่านั้น  แต่ยังคงรวมถึงสนามพลังที่จับเป้าหมายและมีปณิธานปราณราชันย์เปลี่ยนเป็นความเสียหายได้”  เสวี่ยอู๋เสียให้ข้อสังเกตถึงรายละเอียดของความสามารถของจอมปีศาจลี่ตี้
 “จุดอ่อนอยู่ตรงนี้!” เย่ว์หยางสนองตอบแพราะเห็นจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามในขณะต่อสู้
เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนควงดาบเทพและตัดคอของจอมปีศาจลี่ตี้อีกครั้ง  อสูรจักรกลน้อยตัวที่สองก็ปรากฏอีก แต่เย่ว์หยางใช้เท้าเหยียบมันไว้
จอมปีศาจลี่ตี้แค่นเสียง และมีอสูรจักรกลอยู่ด้านหลังเขาอีกตัวหนึ่งคอยรับพลังโจมตีของดาบเทพ
เขาควงขวานยักษ์เพื่อบีบให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถอยหนีออกไป และใช้ขวานฟันใส่เสี่ยวเหวินหลี
เสี่ยวเหวินหลีเบิกตากว้างด้วยความโกรธ
ทักษะแฝงเร้นพันธนาการถูกปล่อยออกมาอย่างรุนแรง  ร่างของจอมปีศาจลี่ตี้เคลื่อนไหวซวนเซขณะควงขวานอยู่ในอากาศ พลังปณิธานของอสูรเทพนี้ยังอยู่เหนือทักษะแฝงเร้น อาวุธสมบัติ สนามพลังและจิตใจ เย่ว์หยางกับเสี่ยวเหวินหลีมีความคิดที่สอดคล้องกัน มีประกายระยิบระยับอยู่ใต้เท้าพวกเขา ปรากฏว่าวงจักรนิรันดรมาอยู่ใต้เท้าของพวกเขา... เสี่ยวเหวินหลีคลายพันธนาการทักษะแฝงเร้นของเธอ และกระโดดใช้ดาบคู่ฟันใส่ขวาน  ขวานปีศาจดินสั่นสะท้านทันที ภายใต้การหมุนตัวที่แยบยลของเสี่ยวเหวินหลี ฝ่ามือของเขาขาดกระเด็นลอยในอากาศ
ในท้องฟ้า องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเกร็งพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์รออยู่แล้ว
เสวี่ยอู๋เสียโจมตีเร็วกว่าความเร็วในตอนนี้สิบเท่า  นางพุ่งจากด้านบนลงมาข้างล่าง ใช้พลังสายฟ้าและพลังเยือกแข็งตบใส่หูของจอมปีศาจลี่ตี้
เย่ว์หยางกดหน้าของจอมปีศาจลี่ตี้ เพลิงอมฤตระเบิดใส่จมูกและปากของจอมปีศาจลี่ตี้
 “ส่งเจ้าสู่ปรภพ!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนควงดาบเทพจักรพรรดิอวี้และตัดศีรษะของจอมปีศาจลี่ตี้ เย่ว์หยางหลบหลีกปราณกระบี่วิเศษ ไล่ตามแม่เสือสาวมาอย่างกระชั้นเตะศีรษะของจอมปีศาจลี่ตี้ออกไปนอกวิหารปีศาจดิน
 “....” บุรุษผมขาวซึ่งกำลังทุกข์ทรมานจากกระบี่ดำกุยจ้างและกระบี่ขาวซวงหัวไม่เข้าใจภาพที่เขาเห็น
แม้จะตัดศีรษะจอมปีศาจลี่ตี้  ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขา
ทำเช่นนี้มีประโยชน์อะไร?
นอกจากนี้ ต่อให้เตะศีรษะออกไปนอกห้องโถงใหญ่ แต่เพราะผนึกของกฎสวรรค์ จอมปีศาจลี่ตี้ก็ยังไม่สามารถแยกพ้นไปจากพลังกฎสวรรค์ได้  และจะกลับมายังวิหารโดยอัตโนมัติไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไกลเพียงไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายอสูรพิทักษ์บาดเจ็บสาหัส หรือตัดศีรษะของจอมปีศาจลี่ตี้ ล้วนไม่ใช่การสร้างอาการบาดเจ็บสาหัส
ทำไมเย่ว์หยางและสองสาวจึงตั้งใจทำเช่นนี้?
ชายชราผมขาวไม่เข้าใจ
ศีรษะพุ่งกระเด็นออกไปข้างนอกราวกับกระสุน และแสดงอาการเจ็บปวดบนใบหน้า  นี่ไม่ใช่ฝีมือของคมดาบเทพของจักรพรรดิอวี้ในมือขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอย่างเดียว  แต่เป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากพลังกฎสวรรค์ประจำวิหารปีศาจดินทำให้ความเจ็บปวดทับทวีคูณเกินขีดจำกัดและเป็นผลให้ระเบิดออกมา ศีรษะของจอมปีศาจลี่ตี้ระเบิดพลังเหมือนกับไอพ่นดันศีรษะกลับไปที่ห้องโถงด้วยพลังกฎสวรรค์
ร่างที่ไร้ศีรษะหลังจากวงจักรนิรันดรหายไปแล้วก็โซซัดโซเซหลบหลีกเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับไปหาศีรษะทันที
แม้ว่าจะเป็นปีศาจที่ตายยาก แต่ความรู้สึกที่ถูกตัดศีรษะย่อมไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี
หลังจากเข้ามาในห้องโถงใหญ่เสวี่ยอู๋เสียยื่นมือออกทันที
ลูบหน้าเขาอย่างแผ่วเบา
พลังน้ำแข็งสายฟ้าที่ฝังอยู่ในหูก่อนนั้นระเบิดออกทันที... กะโหลกศีรษะของจอมปีศาจลี่ตี้ระเบิดกระจาย และหูซ้ายมีน้ำแข็งแตกกระจาย ซึ่งเป็นผนึกของวิหารปีศาจดินที่อยู่บนกะโหลก  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบเทพ พลังของเต่าดำศักดิ์สิทธิ์ ตอนแรกใช้พลังมังกรฟ้าทำลายขาของร่างไร้ศีรษะจอมปีศาจลี่ตี้ขาดจนถึงเข่าและผนึกด้วยพลังน้ำแข็ง ยิ่งทำให้ร่างไร้ศีรษะยิ่งเดินก็ยิ่งช้าลง... เสี่ยวเหวินหลีเลื้อยมาถึงใช้ดาบคู่ฟันใส่ร่างที่ไร้ศีรษะ แม้จะทำอะไรได้ไม่มากเพราะลำตัวของปีศาจลี่ตี้มีเกราะปีศาจฟ้า  แต่ร่างของจอมปีศาจลี่ตี้ถูกแช่แข็งไปส่วนหนึ่ง
 “พวกเจ้าจะทำอะไร? คิดว่าแค่นี้จะสามารถฆ่าข้าได้อย่างนั้นหรือ?  เป็นไปไม่ได้  ข้าเป็นคนตายแล้ว!  จอมปีศาจลี่ตี้โกรธ
 “เพลิงอมฤตสามารถชำระทุกอย่างได้”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดถึงความเป็นไปได้
 “แต่กฎสวรรค์ของวิหารปีศาจดินผนึกข้าเอาไว้ ทำให้ข้าต้องทนเจ็บปวดทรมานไม่มีที่สิ้นสุด เพลิงอมฤตสามารถฆ่าปีศาจได้ แต่ข้าจะหลบหลีกได้ภายใต้การป้องกันของกฎสวรรค์ในที่สุด  ตราบใดที่วิหารปีศาจดินยังคงอยู่ ข้าก็ยังอยู่  ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรก็ตาม มีแต่สิ้นเปลืองพลังงานเปล่าๆ”  จอมปีศาจลี่ตี้แค่นเสียง  เขาไม่มีอะไรต้องกลัว นี่คือกฎสวรรค์ที่ลงโทษได้ไม่มีสิ้นสุด เขามีอสูรพิทักษ์มารับโทษแทนจึงเหมือนเป็นการรับประกันความอมตะของเขา
 “อย่างนั้นเราต้องทำลายวิหารปีศาจดินแห่งนี้...”  เย่ว์หยางพูดว่าเขาตั้งใจมาที่วิหารปีศาจดิน “ผู้อาวุโส การฆ่าท่านเป็นแค่ภารกิจรองของข้า เป้าหมายหลักของข้าคือดูดซับพลังกฎสวรรค์ที่นี่”
 “เจ้าว่ายังไงนะ?”  จอมปีศาจลี่ตี้ไม่อยากจะเชื่อหู  คนที่ไม่มีพลังปราณราชันย์กล้าบอกว่าเขากำลังจะดูดซับกฎสวรรค์ของเทพหรือ?
 “พวกเราที่กำลังยืนอยู่ในที่นี้ล้วนแต่ยอมรับว่าตกอยู่ใต้การควบคุมของกฎสวรรค์  ถ้าเราไปได้ไกลกว่านั้นจนล่วงพ้นกฎสวรรค์ ด้วยการดูดซับพลังกฎก็จะพ้นไปจากการควบคุมของพลังกฎสวรรค์ของวิหารปีศาจดินได้ และได้พลังของวิหารปีศาจดินไว้ในมือ?”  เย่ว์หยางมีความคิดที่บ้าระห่ำ
 “เจ้าบ้าไปแล้ว!  จอมปีศาจลี่ตี้เห็นคนมามากมายตลอดชีวิต  แต่คนบ้าอย่างนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
 “ข้าจะเปิดโลกทัศน์ให้ท่าน.. พลังกฎสวรรค์ที่นี่คืออาหารบำรุงเพื่อเลื่อนระดับปราณราชันย์ที่ดีที่สุดของข้า  เจ้าคิดว่าข้าโลดแล่นมาที่นี่เพื่อต่อสู้กับเจ้าด้วยเรื่องเล็กน้อยเพราะอะไร?  ความจริงการฆ่าเจ้าเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เจ้าถูกลงโทษไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด ข้าต้องการพลังเพื่อเลื่อนระดับพลัง  การมาที่นี่ก็เพื่อดูดซับพลังกฎสวรรค์ ขณะที่ช่วยเผื่อแผ่ฆ่าเจ้า ปิดฉากความผิดที่เลวร้ายที่สุดของเจ้า ซึ่งเหมือนกับจะเป็นไปไม่ได้”  เย่ว์หยางกางแขนทั้งสองข้าง  พลังกฎสวรรค์เล็กๆ เริ่มปรากฏอยู่บนร่างของเขา กลายเป็นแสงดาวระยิบระยับเหมือนกับสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรี
ภาพมายากลุ่มดาวแกะ ดาววัวทอง ฯลฯ ปรากฏทีละกลุ่มดาว
คัมภีร์อัญเชิญและอสูรโลกได้รับพลังสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันกำลังดูดซับพลังรอบด้านอย่างบ้าคลั่ง  ไม่ว่าจะเป็นพลังน้ำแข็ง เพลิงหรือสายฟ้า ส่วนพลังงานใดๆ ก็ตาม ผู้มาใหม่ล้วนไม่ปฏิเสธกำลังดูดซับอาหารเพื่อการวิวัฒนาการ
กฎสวรรค์ของวิหารปีศาจดินถูกพลังกฎสวรรค์ของเย่ว์หยางท้าทายและมีการเปลี่ยนแปลงไปทันที ไม่มีการซ่อนความลึกลับเหมือนก่อนอีกต่อไป
เหมือนกับเทพที่มาเยือนในโลก
พลังที่สง่างามยากจะนึกภาพออก  ที่วิหารปีศาจพลังกฎสวรรค์กำลังกดดันใส่เย่ว์หยาง ด้วยความตั้งใจจะเอาชนะความตั้งใจของเขาทั้งหมด ทั้งจะกำจัดฆ่าเขาให้กลายเป็นศพภายใต้กฎสวรรค์  ขณะเดียวกันโซ่น้ำแข็งเก้าสิบเก้าเส้น เหมือนกับอสรพิษสีขาวพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางโดยอัตโนมัติและแยกกันป้องกันพลังกฎสวรรค์ของศัตรูที่มาท้าทายนี้...  เมื่อตอนสร้างวิหารปีศาจดินในตำนาน ได้มีการตั้งกฎนี้ไว้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการสั่นสะเทือนวิหารปีศาจดินหรือท้าทายพลังกฎของมัน ก็จะต้องรับพลังสะท้อนกลับถึงสิบเท่า
จอมปีศาจลี่ตี้ที่ตอนแรกประหลาดใจ กลับดีใจทันที  “หลังจากเจ้าถูกจัดการ เจ้าก็ยังจะอยู่กับข้าต่อไปในอนาคต ฮ่าฮ่าฮ่า
รอยยิ้มของเขาคงอยู่ได้เพียงสองวินาที องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตัดลิ้นของเขาด้วยดาบเทพ
แขนที่ร่างกายไร้ศีรษะยังคงถือกระจกทนทุกข์ และถ่ายเทพลังไปที่อสูรจักรกลอยู่ข้างหน้าไม่ไกล  อสูรจักรกลถูกกระแทกพัง และลิ้นของจอมปีศาจลี่ตี้หายจากอาการบาดเจ็บทันที  และริมฝีปากที่ถูกตัดไปด้วยก็ฟื้นฟูเป็นปกติ  “ไม่มีประโยชน์  ไม่ว่าเจ้าจะใช้พลังทำร้ายข้าแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์!  นอกจากนี้ ข้าสามารถส่งเจ้าออกจากวิหารปีศาจดินได้  เพราะเด็กหนุ่มนี้พยายามใช้กลยุทธ์สู้กับวิหารปีศาจดิน  วิหารปีศาจดินจึงปิดผนึกอีกครั้ง  และจะได้พบกับเจ้าทั้งสองอีกครั้งหลังจากผ่านไปพันปี  พวกเจ้าทั้งสองบอกลาคนรักได้ในอีกสามวินาที...”
รัศมีแสงสองช่องปรากฏอยู่รอบตัวเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
กระจกทนทุกข์ฉายแสงเปล่งปลั่ง
จอมปีศาจลี่ตี้มองดูสตรีทั้งสอง และกล่าวเย้ยหยัน  “ลาก่อน เชิญไสหัวไปได้แล้ว!
สตรีทั้งสองเปล่งรัศมีและหายไปทันที และในวินาทีเดียวกัน  แต่เสี่ยวเหวินหลีหลบไม่ยอมให้จอมปีศาจลี่ตี้ใช้ทักษะแฝงเร้นส่งกลับ ร่างที่ไร้ศีรษะเดินเข้าไปในวิหารปีศาจดินแล้วเก็บศีรษะมาต่อที่คออีกครั้ง รอให้เลือดและเนื้อผสานเป็นเนื้อเดียวกันจนไม่มีช่องว่าง จากนั้นเขาส่ายศีรษะเมื่อพบว่าไม่ค่อยสะดวกสบายนัก  เย่ว์หยางต่อสู้กับกฎสวรรค์ที่คงอยู่เก้าสิบเก้าสายที่เป็นด้วยเพลิงอมฤต   เย่ว์หยางยังคงยิ้ม “คนโง่อย่างเจ้ากล้าเรียกข้าว่าคนบ้าด้วยท่าทางที่หยิ่ง  ข้าไม่เคยพูดกับมนุษย์ด้วยคำหยิ่งอย่างนั้น  ข้าสามารถผนึกจอมปีศาจลี่ตี้ได้ด้วยพลังของข้า  โอวข้าไม่คิดว่าเป็นความฝันหรอก  โลกนี้มีเจ้าแต่คนเดียว!  แต่น่าเสียดายจริงๆ   เจ้าแพ้แล้วเป็นความกล้าที่น่าเบื่อจริงๆ”
 “เพราะข้าคือข้า และเพราะเจ้าไม่ใช่ข้า  เจ้าไม่สามารถเข้าใจขอบเขตของข้าได้”  เย่ว์หยางไม่โกรธ ได้แต่หัวเราะ
 “ข้าจะคอยดู เจ้าจะทนต่อได้อีกนานแค่ไหน เจ้าจะอยู่ได้นานอีกแค่ไหน? ข้าไม่ต้องการให้ความสุขยินดีเช่นนี้หายไปจากตัวได้” จอมปีศาจลี่ตี้หัวเราะอยู่ในกลางอากาศ
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหลบหนีไปอยู่ด้านนอกอย่างรวดเร็ว
ราวกับว่าพวกนางรู้ว่าจะมีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้น
พวกนางเพิ่งหลบออกมาจากทางผ่าน
ข้างหลังพวกนางมีพลังที่ไม่อาจบรรยายได้กดดันลงมาบนร่างจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้ แม้แต่เหลือบตาดูก็ยังแทบทำไม่ได้
ในวิหารปีศาจดิน พอรู้ว่าพวกเสวี่ยอู๋เสียหนีออกไปโดยปลอดภัย  พลังกฎสวรรค์จากไพ่ชะตาเริ่มทำงานทันที พลังกฎสวรรค์ที่หลุดพ้นจากการควบคุมของเขาโดยสิ้นเชิง.. เป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินความสูงของยักษ์ทองเหนือหัวเย่ว์หยางว่าสูงเพียงไหน แม้แต่นิ้วเท้าก็ยังสูงกว่าเย่ว์หยางถึงสิบเท่า  เมื่ออยู่ต่อหน้ายักษ์ทองนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเล็กน้อย จอมปีศาจลี่ตี้ที่กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งคุกเข่าลงกับพื้น มือทั้งสองค้ำอยู่ข้างหน้า แม้แต่การเต้นของหัวใจก็ถูกบังคับให้หยุดนิ่ง หายใจแทบไม่ออก ไม่ต้องว่ากันถึงเรื่องพูด
บางทีวิหารปีศาจดินอาจถูกเทพเจ้าสร้างขึ้นทำให้มีแรงระเบิดน่ากลัว และกฎสวรรค์ที่ผนึกจอมปีศาจลี่ตี้ไม่อาจจะเทียบเคียงกับยักษ์ทองได้ ในพริบตายักษ์ทองก็ระเบิดพลังทั้งหมด วิหารปีศาจดินทั้งหมดไม่สามารถต้านรับพลังเท้าเดียวของยักษ์ทองได้
โซ่น้ำแข็งเก้าสิบเก้าเส้นแตกสลาย
โซ่น้ำแข็งที่ฝังเข้าไปในร่างของเย่ว์หยางถูกเพลิงอมฤตทำลายจนเป็นผุยผงไม่เหลือสำนึกพลังใดๆ อยู่เลย และปล่อยให้อสูรโลกคัมภีร์และเย่ว์หยางดูดซับพลังทั้งสองไว้
แหล่งพลังเทียมเทพที่อยู่ในวิหารปีศาจดินเป็นเหมือนคนแคระเมื่อเทียบกับยักษ์ทอง
แหล่งเก็บกักพลังงานกฎสวรรค์สูงเพียง 200-300  ยังไม่อาจเทียบได้แค่เพียงระดับเข่าของยักษ์ทอง และยักษ์ทองเมื่อมีผู้แหงนหน้ามองก็ยังมองไม่เห็นศีรษะไม่เห็นอก สูงชะลูดขึ้นไปในท้องฟ้า  ห่างออกไปสิบกิโลเมตร เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่นที่อยู่ในระหว่างต่อสู้  เมื่อเห็นยักษ์ทองปรากฏออกมา พวกเขาทั้งหมดไม่มีพลังเคลื่อนไหว  และต้นไม้ปีศาจโดยรอบและสัตว์ประหลาดบริวารต่างร่วงลงกับพื้นในทันที หลายตนกลายสภาพเป็นหมอกดำและควันหายไป...
ภาพที่สง่างามดุจเทพเจ้าสลายหายไป
บางทียักษ์ทองอาจถูกปราบ บางทีอาจสูญเสียพลังสนับสนุนของปราณราชันย์
พลังงานเหล่านี้ถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงานอิสระที่ไม่สูญเสียสำนึก อยู่ด้วยกันกับพลังของผนึกเหมือนกับจักรวาลทางช้างเผือกลอยอยู่รอบตัวเย่ว์หยางและคัมภีร์อัญเชิญ
ยักษ์ทองหายไปแล้ว
ร่างของเย่ว์หยางเปล่งแสงสว่างทรงพลังมากกว่าแต่ก่อนถึงสิบเท่า  และแฝงไว้ด้วยพลังเทพในตำนานหลายชนิด
ในขณะนี้เองพลังที่แท้จริงของเขาพุ่งขึ้นจนถึงระดับสุดท้ายบรรลุเข้าสู่ระดับปราณราชันย์

15 ความคิดเห็น:

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ

Yukio กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Yukio กล่าวว่า...

พลังจะเองจะอัพเร็วไปไหม

เดือนดับ กล่าวว่า...

มีของดีก็ต้องใช้ ไม่เหมือนพระเอกบางเรื่อง พันกว่าตอนไปก็ยังกากเหมือนร้อยตอนแรก

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

สำเร็จแล้ว

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

Unknown กล่าวว่า...

มาแล้วๆๆ

Rondion กล่าวว่า...

อืม ตั้งแต่อ่านนิยายพระเอกเรื่องนี้ชอบสุด

Unknown กล่าวว่า...

เติมทรู แพ้ค99999999

Emptiest กล่าวว่า...

จัดเลยพี่ ดูถูกดีนัก

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

อัพเวลแล้วจ้า

แสดงความคิดเห็น