วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 816 ขอบเขตปราณราชันย์ที่สมบูรณ์แบบ


ตอนที่  816  ขอบเขตปราณราชันย์ที่สมบูรณ์แบบ
บันไดสวรรค์ชั้นห้า
แม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดก็แทบทรงตัวไม่อยู่ เขานั่งอยู่บนโขดหินอย่างอ่อนแรง
 
ในระยะร้อยเมตรรอบตัวเขา จักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพ จอมปีศาจบารุธ ฮาซินและนักสู้ชาวหอทงเทียนทุกคนนอนแผ่หรากับพื้นหมดเรี่ยวแรงโดยไม่สนใจภาพพจน์  มารแค้นฟ้า  มารฟ้าวิบัติ มารอาญาฟ้า มารฟ้าพิโรธ มารฟ้าสังหาร มารกระบี่ฟ้าและพวกจากตำหนักมารฟ้านอนแผ่หอบหายใจซี่โครงบานราวกับสุนัขหอบแดด มีแต่มารเคราะห์ฟ้าสาวน้อยผู้ฉลาดขอให้เย่ว์หยางพานางเข้าบันไดสวรรค์ไปฝึกกับมารกฎฟ้า นางไม่ได้ฝึกมาเพื่อการต่อสู้แบบนี้  แม้ว่าด้วยพลังของมารเคราะห์ฟ้าเองนางต้องการจะฝึกไล่ตามมารกฎฟ้าให้ทันแบบก้าวกระโดด  แต่ด้วยพลังภูมิรู้ของนางระดับต่ำกว่าห้าพันขั้นไม่น่าเป็นปัญหา
ผู้เฒ่าเต่ามังกรและผู้เฒ่าหนานกงก็อยู่ที่นี่ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะสองคนนี้ มารสัมฤทธิ์ฟ้าอาจจะต้องใช้ความพยายามมากเป็นพิเศษกว่าจะฆ่าผู้อาวุโสตำหนักได้
ความท้าทายในขั้นสูงนี้ไม่มีใครจำได้ว่าต้องใช้เวลาต่อสู้ไปเท่าใด
สุดยอดนักสู้ทั่วทั้งหอทงเทียนถูกระดมออกมา
ทั้งที่ไม่มีวี่แววของสงคราม
เป็นการต่อสู้ที่สิ้นเปลืองเรี่ยวแรง
นี่แค่ฆ่าผู้อาวุโสตำหนักกลางแดนสวรรค์พลังปราณฟ้าระดับห้า... ถ้าผู้อาวุโสนี้แข็งแกร่งมากกว่านี้อีกเล็กน้อยหรือแข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนที่จะเสียสติ คาดกันว่าผลที่ออกมาจะกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง
 “น่ากลัวเหลือเกิน ไม่มีขีดจำกัดอยู่เลย ปราณฟ้าระดับห้าทรงพลังมากมายจริงๆ!  จอมปีศาจบารุธยังคงรู้สึกหวั่นเกรง
 “เจ้าเด็กนี่จับผู้อาวุโสตำหนักตามาลำพังได้ยังไง?”  จักรพรรดิมังกรนึกไม่ออกว่าเย่ว์หยางมีพลังขนาดไหน
 “เขามันตัวประหลาดอยู่แล้ว!  จักรพรรดิใต้พิภพไม่อาจอธิบายได้
 “เจ้าคิดว่าเป็นยังไงบ้าง?”  ผู้เฒ่าหนานกงถามขณะที่ช่วยรักษามารสัมฤทธิ์ฟ้า
 “เฮอะ” เขาแค่นเสียงเย็นชา
ความจริงเขารู้ว่าผู้เฒ่าหนานกงไม่ได้ถามเรื่องความรู้สึกในการต่อสู้  แต่ถามถึงผลได้ในการต่อสู้ครั้งนี้เป็นไปได้ว่าจะมีความรุดหน้า  อย่างไรก็ตามมารสัมฤทธิ์ฟ้ารู้สึกว่าการต่อสู้นี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเช่นกัน ความท้าทายสูงสุดที่อาจถูกศัตรูฆ่าได้ทุกเมื่อเหมือนเดินบนแผ่นน้ำแข็งบางๆ เป็นประสบการณ์ในชีวิตที่ล้ำค่า  เทียบกันกับครั้งสุดท้ายที่สู้กับเฮยอวี้และจ้าวปีศาจโบราณ นั่นเรียบง่ายและไร้สาระ.. แม้แต่จักรพรรดินีฟ้าและการรุกรานของเผ่าเก้าแสงก็ไม่ใช่การรบที่ยากลำบาก
จักรพรรดินีฟ้านำเผ่าเก้าแสงเข้ารุกราน ส่วนที่หนักหนาที่สุดเป็นจื้อจุน จักรพรรดินีราตรีและเย่ว์หยางรับมือให้
ตอนนี้จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีไปบันไดสวรรค์ และเย่ว์หยางไปฝึกฝนในแดนสวรรค์ ภาระหนักอึ้งกดทับมารสัมฤทธิ์ฟ้าจนแทบหายใจไม่ออก
ผู้เฒ่าหนานกงยิ้มและมองดูกระบวนการต่อสู้ขณะที่คอยช่วยเหลือทุกคน   เขาหวังว่าไม่เพียงแต่สุดยอดนักสู้เท่านั้น แต่ผู้เยาว์รุ่นหลังจะได้มีประสบการณ์ท้าทายและมีความก้าวหน้า
คนอย่างเย่ว์หยางไม่รู้อีกเมื่อไหร่จะปรากฏในสนามรบอีก
มีเสียงดังเบาๆ  และทุกคนพบว่าเขากลับมาแล้ว  เย่ว์หยางยิ้มให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจู่ๆ เขาโยนเงาร่างสองคนลงบนพื้น  “สนุกตื่นเต้นหรือเปล่า? ถ้าต้องการตื่นเต้นมากขึ้นกว่านี้ ผู้อาวุโสตำหนักสองคนนี้แข็งแกร่งกว่าคนอื่น!  คนหนึ่งเรียกว่าฟลามิงโกและอีกคนเรียกว่าฉีฟง  พวกเขามีความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร  พวกท่านคงต้องสนุกกันต่อ!
มารสัมฤทธิ์ฟ้าแทบลมจับ
มารแค้นฟ้าและมารฟ้าวิบัติกลัวจนหน้าซีดขาว เพิ่งจะฆ่าผู้อาวุโสตำหนักไปหยกๆ นี่เอามาเพิ่มอีกสอง?
จอมปีศาจบารุธล้มตึงกับพื้นหิน เขาอยากจะฆ่าตัวตายนัก  ตั้งแต่เขารู้จักกับเย่ว์หยางเจ้าเด็กคนนี้แล้ว ชีวิตที่สงบสุขของเขาจบสิ้นลงแล้ว!
แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกงก็คิดว่าเย่ว์หยางกำลังดำเนินการตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือไม่เพื่อให้ได้ผลที่รวดเร็ว  การกดดันเป็นเรื่องดี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกดดันด้วยความตาย ซึ่งทำให้คนมีความก้าวหน้ามากขึ้น
แต่ตอนนี้ทุกคนยังถูกกดดันมากยิ่งกว่าความตาย และไม่มีพลังต่อสู้มากนัก
ที่สำคัญ ทุกคนถึงขีดจำกัดของตนเองแล้ว
 “ผู้อาวุโสตำหนักไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย  ในแดนสวรรค์ต้องใช้นักสู้ปราณฟ้าระดับห้าถึงห้าคนและนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ชั้นสูงอีกหนึ่งคนทำงานร่วมกันและทุ่มเทกันจริงๆ จึงจะเอาชนะได้”  เย่ว์หยางยิ้มเฉิดฉายเหมือนดวงอาทิตย์ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นี่อย่าว่าแต่บารุธ ฮาซินและจอมปีศาจอื่นๆ เลย แม้แต่คนระดับสูงอย่างจักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพอยากจะต่อยเขาสักหมัด เย่ว์หยางเห็นแววตาอำมหิตของคนทั้งกลุ่มประเมินว่าบรรยากาศไม่ดี ก่อนจะเทเลพอร์ตจากไป เขาฝากประโยคให้คิด “ยังไงก็ตาม ผู้อาวุโสตำหนักฉีฟงและฟลามิงโกฟื้นตัวได้เร็วมาก  อย่างน้อย ไม่มีใครช้ากว่าพวกท่าน”
 “เจ้าเด็กตัวร้ายนี่ ข้าจะฆ่ามัน!” ปีศาจบารุธหลุดปากสบถ
 “น่ากลัวจริงๆ!” จักรพรรดิมังกรรู้สึกเกลียดจนขบกราม
 “แล้วจะเอายังไงดี?”  มารแค้นฟ้า มารฟ้าวิบัติ ทุกคนแตกตื่นมองดูพี่ใหญ่ มารสัมฤทธิ์ฟ้า
 “ลุยกันต่อ!  มารสัมฤทธิ์ฟ้าพูดแค่นี้ แต่เห็นได้ชัดว่าเสียงเขาสั่นเล็กน้อย ไม่มีความเยือกเย็นตามปกติเหมือนเคย
บนพื้น ผู้อาวุโสตำหนักสองคนโกรธแค้นแทบตายรีบอัญเชิญอสูรออกมาปกป้องร่างอย่างรวดเร็วและใช้พลังวิเศษฟื้นฟูพลัง  ทุกคนสบถด่าอีกครั้ง สองคนนี้ถูกเย่ว์หยางลักลอบนำเข้ามาบางทีทั้งสองคนอาจจะแกล้งทำเป็นเสียชีวิต
แม้ว่าฟลามิงโกและฉีฟงจะไม่สามารถขยับนิ้วได้ในตอนนี้  แต่พวกเขามีความมั่นใจมาก  เพราะกลุ่มคนฝ่ายตรงกันข้ามก็เหน็ดเหนื่อยมากเหมือนกัน
พวกเขาไม่รู้อนาคตชะตาของเขา
แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือการต่อสู้เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้
มารสัมฤทธิ์ฟ้าเทยาเม็ดพลังยุทธอีกเม็ด จ่อริมฝีปากและกลืนช้าๆ ยาเม็ดพลังยุทธไม่ใช้ตอนนี้ แล้วจะใช้เมื่อไหร่ ไม่ต้องไปใส่ใจว่าจะเกิดอะไรชั่วคราว ก่อนอื่นฟื้นพลังให้ได้ก่อนจะถูกผู้อาวุโสตำหนักฆ่า และจากนั้นเจ้าจึงจะสามารถฆ่าผู้อาวุโสตำหนักสองคน  ถ้าสามารถฆ่าผู้อาวุโสตำหนักทั้งสองแล้ว การบรรลุความก้าวหน้าย่อมแตกต่างกันไป
จักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพ และจอมปีศาจบารุธหยิบยาเม็ดพลังยุทธออกมาทีละคน
ไม่ว่ายังไงก็ต้องโค่นฟลามิงโกและฉีฟง ฟื้นฟูกำลังให้ได้
มิฉะนั้นคงไม่ได้ชัยชนะแน่นอน
นี่เป็นการแข่งขันกับเวลาและปณิธานและจากนั้นจึงจะเข้าถึงพลังได้
บันไดสวรรค์
เมื่อเย่ว์หยางมาถึงที่ด้านล่างบันไดสวรรค์ เขาปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดในร่างกาย รวมทั้งแหล่งพลังกฎสวรรค์ดิบของวิหารปีศาจดินซึ่งเป็นแหล่งพลังที่ยังไม่ดูดซับเต็มที่  และตั้งใจจะดำเนินการต่อเพื่อความรู้แจ้งขอบเขตปราณราชันย์อย่างสมบูรณ์แบบด้วยตนเอง  เขามีเหตุผลสามประการที่ทำเช่นนี้ ประการแรกเขาต้องการก้าวหน้าด้วยตนเอง  ประการที่สองส่งสัญญาณบอกจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนบอกพวกนางว่าเขากำลังจะไต่บันไดสวรรค์  พวกเขาถึงระดับปราณราชันย์แล้ว  ประการที่สามเขาหวังว่าหลังจากเข้าสู่ระดับปราณราชันย์อย่างสมบูรณ์แบบ เขาจะสามารถอัญเชิญ คัมภีร์เทพ ของเขาที่ไม่เคยเรียกออกมาได้เลย
ก่อนเข้าถึงระดับปราณราชันย์คัมภีร์เทพไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
หลังจากเย่ว์หยางเข้าถึงระดับปราณราชันย์แล้ว คงจะมีการตอบสนอง
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางก็ยังไม่สามารถเรียกออกมาได้
ความรู้สึกนั้นเหมือนกับว่ายังขาดพลังในอดีตไม่สามารถอัญเชิญคัมภีร์เทพออกมาได้ทันที....  เย่ว์หยางมั่นใจว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาจะอัญเชิญคัมภีร์ได้  แต่วิธีการไม่ถูกต้องหรือยังขาดทักษะ หรืออาจต้องใช้พลังงานมหาศาล คัมภีร์เทพจึงไม่ตอบสนอง
แน่นอนว่าเขาหวังจะรู้แจ้งปราณราชันย์ที่สมบูรณ์แบบ จึงดูดซับพลังกฎสวรรค์และเก็บกักปราณก่อกำเนิดไว้เป็นจำนวนมาก
นี่ไม่ใช่ยักษ์ทองที่เกิดมาจากไพ่ชะตา  แต่เป็นพลังปราณราชันย์ปะทุออกมาจากตัวเย่ว์หยาง  พลังงานสีทองฉีดพุ่งเป็นลำแสงสูงถึงหนึ่งกิโลเมตรโดยมีเพลิงอมฤตเป็นแกนกลาง เพลิงบัวแดงและเกล็ดน้ำแข็งพ่นอยู่เต็มท้องฟ้าเหมือนกับจะแบ่งบันไดสวรรค์ออกเป็นสองส่วน และพลังสายฟ้าสีม่วงรายล้อมรอบลำแสงดูดซับพลังงานดิบเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับการระเบิดพลังของเย่ว์หยางครั้งมีอักษรรูนสวรรค์ปรากฏขึ้นสองสามแถว
เครื่องหมายลวดลายลึกลับนับล้านๆ ประกอบกันเป็นใจกลางทางช้างเผือกเกิดเป็นกลุ่มแสงไร้ที่สิ้นสุดค่อยๆ หมุนโดยมีเย่ว์หยางเป็นศูนย์กกลาง
พลังกดดันจากสำนึกเทพของเย่ว์หยางแผ่ออกไปโดยไม่รู้ตัว แม้แต่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีที่ไต่อยู่ในขั้นที่สองแสน...
เสี่ยวเหวินหลีให้กำเนิดภาพรูปปีศาจอสรพิษทอง เธอตะโกนทางใจบอกให้เย่ว์หยางสร้างสนามพลัง ใจของเธอเชื่อมโยงได้รับผลสะท้อนจากเย่ว์หยาง จึงช่วยให้เย่ว์หยางดูดซับพลังกฎสวรรค์ได้เร็วขึ้น และรู้แจ้งพลังระดับสูงๆ ได้พร้อมกันอย่างสมบูรณ์
ระดับปราณราชันย์สมบูรณ์แบบที่เธอได้มีส่วนร่วม
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็เหมือนกัน คนหนึ่งมีสนามพลังสำนึกศักดิ์สิทธิ์  อีกคนหนึ่งมีสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังช่วยเย่ว์หยางส่งเสริมให้ได้พลังสุดยอดและอาศัยจากความสัมพันธ์ในการฝึกพลังคู่รัก ทั้งสามคนจึงทำความเข้าใจผลสะท้อนที่สมบูรณ์ของปราณราชันย์ แม้ว่าพวกนางจะเป็นผู้ช่วยก็ตาม  แต่พวกนางก็ไม่อ่อนแอสามารถช่วยให้เย่ว์หยางเพิ่มพลังได้เช่นกัน
ในสถานที่ปลอดภัยอย่างบันไดสวรรค์ เย่ว์หยางไม่มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากสภาพแวดล้อมรอบด้าน และสามารถรู้แจ้งได้โดยไม่ถูกกวนใจ
 “เป็นพี่สามแน่ๆ!  เย่ว์ปิงซึ่งมีความอ่อนไหวต่อการรับรู้ถึงใจเย่ว์หยางรู้ตัวได้เร็วที่สุด และนางกระโดดโลดเต้นทันทีด้วยความตื่นเต้น  แม้ว่านางจะไม่เห็นเย่ว์หยาง แต่จิตสำนึกที่คุ้นเคยนี้นางตัดสินใจได้โดยง่ายว่าเป็นพี่ชายของนาง
 “ลงไปกันเถอะ”  เย่ว์หวี่ตัดสินใจได้โดยไม่ต้องคิด
 “เร็วเข้า ไปทางใต้ รอไม่ไหวแล้ว” เย่ว์ปิงวิ่งลงบันไดสวรรค์ทันที แม้ว่าพวกนางจะรู้ว่าพวกนางกว่าพบเห็นพวกเขาได้ก็ต้องใช้เวลาสองสามชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่พวกนางแทบไม่อาจรอได้แม้แต่วินาทีเดียว
 “เด็กคนนี้มีพลังมากจนน่ากลัว ทำให้ข้าในตอนนี้ได้แต่ถอนใจ.. นี่ทุกครั้งที่เขากับเสวี่ยอู๋เสียอยู่ด้วยกัน พวกเขาจะต้องบรรลุพลังระดับใหม่ทุกที เป็นความจริงที่ว่าเสวี่ยอู๋เสียจะส่งเสริมเขาได้ดียิ่งขึ้น  ดูเหมือนว่าสถานะนางยากจะสั่นคลอนได้จริงๆ”  นางเซียนหงส์ฟ้าไต่บันไดสวรรค์อยู่ในระดับสูงก็ชะงักเท้าเช่นกัน
หลังจากรู้สึกได้ถึงพลังงานของเย่ว์หยาง สาวๆ ของเขาพยายามกลับไปหาเขา
แม้แต่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีในตอนนี้ได้แต่มองหน้ากันเอง
จื้อจุนลังเลเล็กน้อย
นางส่ายศีรษะ
จักรพรรดินีราตรีไม่กลับตามลำพัง แต่รอและมองดูจื้อจุนเปลี่ยนใจเงียบๆ
หลังจากนั้นชั่วขณะ จื้อจุนถาม “เจ้าคิดว่าเขามีพลังสมบูรณ์พร้อมจะเป็นนักสู้ปราณราชันย์หรือยัง?”
เงาร่างเลือนรางในสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรีดูเหมือนจะยกมือขึ้นและพูดหยอกล้อ “ถ้าเจ้ายินดีจะช่วยเขา  ข้ารับรองว่าเขาจะต้องทำได้สำเร็จแน่นอน!

9 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เจ๊ช่วยมันเลย ทั้ง 2 คนนั่นแหละ อิอิ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่เย่วมีหวังจะได้ครูแล้วววว^^

แอบอ่าน กล่าวว่า...

กินตับครูหรอ

ulomzx กล่าวว่า...

แหม...ไม่ใช่ครูนะ...แค่เป็นผู้ปกครองเท่านั้น

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

nutzido กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Lex กล่าวว่า...

ไอ้สามคิดจะขึ้นครู

บักซาดซัว กล่าวว่า...

เมื่อไหร่จะดูดซับอุทกพระแม่ธรณีสักที

chay กล่าวว่า...

ได้ จารย์ช่วย ผ่านสบาย

แสดงความคิดเห็น