วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 888 สมบัติวิเศษทั้งหก


ตอนที่  888 สมบัติวิเศษทั้งหก
เย่ว์หยางได้ฟังแล้วลอบเหงื่อตก

ภูตไหมฟ้านี้ไม่ได้จมอยู่กับข้อมูลที่ยุ่งเหยิงในหอทงเทียน และตัดสินใจได้ชัดเจนยิ่งกว่านักรบธรรมดาเสียอีก  แน่นอนไม่ว่านางจะคาดเดายังไงเย่ว์หยางไม่ยอมรับ  และไม่ว่านางจะออกไปได้หรือไม่ก็ตามการยึดติดกับความลับสุดท้ายเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  จากจุดนี้เองเย่ว์หยางเริ่มตื่นตัว ถ้านักรบของแดนสวรรค์และคนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ไม่สับสนสถานะของคุณชายสามตระกูลเย่ว์จะทำให้เกิดการสืบสวนเขาเองหรือไม่?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพวกเขาคิดจะตรวจสอบบางอย่างในแดนสวรรค์ย่อมเป็นเรื่องสะดวก
ดูเหมือนว่าต่อไปในอนาคตเขาต้องระมัดระวังมากขึ้น  และจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องสถานะนี้อีก
จ้าวปีศาจโบราณจะไม่ก่อปัญหาแน่นอน  แต่ยังมีจักรพรรดิชื่อตี้
ถ้าจักรพรรดิชื่อตี้ปกปิดชื่อซ่อนตนใช้ชีวิตสันโดษ ไม่ปล่อยให้ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์พบเจอย่อมดีกว่า  เย่ว์หยางกังวลว่าเสี่ยวโฉ่วจะรู้เรื่องเขาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยวโฉ่วและเผ่าพันธุ์ที่เป็นกบฎของหอทงเทียนอย่างเช่นเผ่ามนุษย์นกแห่งทวีปกวงหมิง
หากเป็นจริง ปัญหาสถานะตัวตนของเขาอาจถูกเปิดเผยได้ในเวลาไม่นาน
เมื่อสถานะถูกเปิดเผย
นั่นเท่ากับประกาศว่าหอทงเทียนเริ่มโดดเด่นขึ้นมา เขาเชื่อว่าคนจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะต้องมาฆ่าชาวหอทงเทียนทั้งหมดและทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
ดูเหมือนว่าจำเป็นต้องแข่งกับเวลา ก่อนตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะให้ความสนใจกับหอทงเทียน ก่อนที่เขายังไม่ผ่านการฝึกทั้งสิบด่าน และก่อนที่เขาจะช่วยนางพญาเฟ่ยเหวินหลีออกมาจากผนึกหลุมดำ  เย่ว์หยางไม่ต้องการให้ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์พบเจอสถานะของเขาและความลับนี้ แม้ว่าหอทงเทียนกำลังจะรุ่งเรือง แต่ก็เหมือนต้นไม้อ่อนที่งอกอยู่บนพื้นแข็ง ก่อนจะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ ยังไม่สามารถต้านพายุลมแรงได้ 
 “ข้าเป็นลูกหลานของตระกูลเย่ว์  หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของทวีปมังกรทะยาน”  เย่ว์หยางพยายามยกย่องตระกูลเหมือนกับที่เด็กในตระกูลทั่วไปพึงทำ
 “สี่ตระกูลใหญ่ของทวีปมังกรทะยาน?  ข้าเคยแต่ได้ยินสี่ตระกูลใหญ่จากแดนสวรรค์เท่านั้น”  สตรีถือร่มยิ้ม
 “....” เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นอึกอักพูดไม่ออก
ความจริงภูตไหมฟ้านี้ไม่เคยได้ยินชื่อสี่ตระกูลใหญ่ของทวีปมังกรทะยาน  คงเป็นเรื่องแปลกถ้านางได้ยินมา
บางทีนางเห็นสีหน้าลำบากใจของเย่ว์หยาง สตรีผู้ถือร่มโบกมือกล่าวขอโทษ  “ข้าไม่ได้ตั้งใจดูแคลนตระกูลของเจ้า พวกเขาสามารถฝึกคนอย่างเจ้าขึ้นมาได้ ต่อให้ตระกูลเจ้าไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับสี่ตระกูลใหญ่ในแดนสวรรค์ แต่ก็เป็นเรื่องพิเศษมาก  หนุ่มน้อย!  บอกให้ข้าทราบได้บ้างไหมว่าเจ้ามาจากไหน ทำไมเจ้าถึงมายังโลกนาฬิกาทรายนี้ได้?”
เย่ว์หยางฟังแล้วเกิดแรงบันดาลใจ
ธุรกิจสำคัญกำลังจะมา
อย่างน้อยผู้อาวุโสนี้เชื่อว่าเขาเป็นลูกหลานของทวีปมังกรทะยาน  ถ้านางเชื่อว่าเขาเป็นคนของแดนสวรรค์  อาจเป็นเรื่องน่ากลัว ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากนางคงเป็นเรื่องน่าอายแน่นอน
เย่ว์หยางคารวะและพูดด้วยเสียงจริงใจ  “ผู้อาวุโส!  เรื่องเป็นเช่นนี้ ข้ามาตามคำแนะนำของผู้อาวุโสหลายท่านที่ตั้งใจตามหาหมู่บ้านฝังดาบ ข้าสงสัยว่าผู้อาวุโสจะรู้จักแม่เฒ่าซาบ้างไหม? ชื่อเต็มคือแม่เฒ่าซาลามันด์, ผู้เฒ่าฟงป๋อ, ผู้เฒ่าอวี่ป๋อ”
สตรีถือร่มส่ายหน้าและโบกมือ “ข้าไม่รู้จัก บางทีสามคนที่เจ้าพูดถึงอาจเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของข้า!
นางพูดถึงเรื่องสั้นๆ ในปีนั้นเกี่ยวข้องกับจ้าวอัคคีปีศาจ
 “ในอดีตตลอดชีวิตของบัณฑิตฝังดาบ เขาได้สร้างสมบัติเทพขึ้นมาหกชิ้น จ้าวอัคคีปีศาจได้นำเหล่านักสู้จากแดนสวรรค์บุกฝ่าแนวป้องกันที่แข็งแกร่งของหมู่บ้านและรุกเข้าหมู่บ้านฝังดาบ เพื่อจะขับไล่ให้ศัตรูล่าถอย  สามีของข้าสละชีวิตใช้พลังสมบัติเทพชิ้นที่ห้า นาฬิกาวิเศษ และผนึกเทพซึ่งเป็นสมบัติชิ้นที่หกฆ่าหัวหน้าของศัตรูได้สองคนและขับไล่ศัตรูออกไปได้  ข้าจับจ้าวอัคคีปีศาจที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้สำเร็จ  ในเวลานั้นจ้าวอัคคีปีศาจเหมือนจะสำนึกผิด แต่เขาหลอกลวงข้ากับพันธมิตรบ้านภูเขา  เพื่อคลี่คลายความแค้นชิงชังนี้  ข้าปล่อยจ้าวอัคคีปีศาจและเนรเทศเขาออกไป  คาดไม่ถึงเลยว่า เขากลับมาในเวลาไม่นาน  ในเวลานั้นนอกจากสามีของข้าที่ตายไปในการรบก่อนนี้ไม่มีใครใช้สมบัติวิเศษทั้งหกได้  นอกจากนี้หลังจากสามีของข้าตายไป นาฬิกาวิเศษสมบัติเทพชิ้นที่ห้าไม่สามารถสร้างพลังป้องกันโจมตีจากศัตรูได้แข็งแกร่งที่สุด”
 “นักสู้เทียนอี้และจีอู๋ลี่ศิษย์ของเขาจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้เกราะวิเศษสมบัติเทพชิ้นที่สี่ และนักสู้จากแดนสวรรค์ที่ไม่ปรากฏชื่ออีกคนชิงเอากระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สามไป เมื่อศัตรูเตรียมตัวมามาก ดาบวิเศษสมบัติเทพชิ้นที่หนึ่ง คทาวิเศษสมบัติเทพชิ้นที่สองและตราผนึกเทพสมบัติเทพชิ้นที่หก นักสู้ฝีมือดีจากหอทงเทียนคนหนึ่งโกรธจัด เขาใช้แสงเทพห้าสีซึ่งเป็นสมบัติที่เหนือกว่าสมบัติเทพทั้งห้าชิ้นฆ่าศัตรูที่ทรงพลังไปเกือบถึงสามพันคน ในที่สุดด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถอธิบายได้ แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีปะทะกับแสงของยอดฝีมือชั้นสูงแตกกระจัดกระจายออกไปทั่วทุกแห่ง...”
 “แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีแตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วทวีปมังกรทะยานหรือ?”  เย่ว์หยางถามด้วยความกังวล ข่าวนี้สำคัญมากสำหรับเขา
 “ตรงนี้ข้าก็ไม่แน่ใจ บางทีแสงศักดิ์สิทธิ์บางส่วนอาจถูกนักสู้แดนสวรรค์ชิงไป  แต่ข้าเห็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์กระจัดกระจายกลายเป็นสายแสง  เพราะเหตุนั้นเทพโบราณจึงตื่นตัว นี่เป็นเรื่องอันตรายร้ายแรงถึงกับทำลายล้างโลกได้ เทพโบราณจึงตัดหมู่บ้านหุบเขาทิ้งดาบแยกออกไปในมิติต่างๆ และสลายพลังพวกเขาออกไป  ข้าไม่รู้ว่าสถานการณ์นักรบอื่นจะเป็นเช่นไร  แต่จ้าวอัคคีปีศาจกับข้าถูกผนึกไว้ในโลก หลังจากสังเกตดูหลายปี ในที่สุดข้าจึงเข้าใจว่าโลกนี้เหมือนกับนาฬิกาทรายที่มีสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นไฟ อีกด้านหนึ่งเป็นน้ำ และจะมีการแปลงพลังกันในเดือนมีนาคม”  ภูตไหมฟ้าผู้ถือร่มยิ้ม  “ข้ามีความคิดจะทำลายภาคพื้นทั้งหมดและฆ่าจ้าวอัคคีปีศาจ ถ้าไม่ถูกแยกออกจากกันก่อน หลายอย่างคงไม่เป็นแบบนี้”
 “ข้าเข้าใจ อย่าว่าแต่ทวีปมังกรทะยานไม่ได้ถูกทำลาย”  เย่ว์หยางกลับปลอบอีกฝ่ายหนึ่ง  ความจริงเขาเข้าใจว่าทวีปมังกรทะยานถูกทำลายมามากกว่าครั้งหนึ่ง  แต่หลังจากการทำลายแต่ละครั้ง จะมีนักสู้บังเกิดใหม่และกลับไปสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง
 “เพราะข้าถูกกักขังอยู่ที่นี่มาหลายหมื่นปี ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโลกภายนอก  และเวลานั้นร่างและสมบัติวิเศษของข้าก็ถูกกำจัดไปแล้ว เหลืออยู่เพียงร่มทำมือชิ้นนี้เท่านั้น” ร่มของภูตไหมฟ้าสีฟ้างดงามเป็นรองแค่สมบัติเทพเท่านั้น นางส่งให้เย่ว์หยาง  “พ่อหนุ่ม!  ร่มนี้ข้ามอบให้เจ้า, แม้ว่าจะไม่ใช่สมบัติระดับเทพ แต่ก็ไม่ใช่สมบัติขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด  เก็บเอาไว้ที่นี่จะเสียของเปล่า  เจ้ามอบให้กับผู้เยาว์ที่คล้ายกับเจ้า จะมีประโยชน์มากกว่า”
 “ไม่, ข้าไม่กล้ารับร่มของท่านไว้” เย่ว์หยางรีบปฏิเสธ
 “เมี้ยว เมี้ยว?”  ฮุยไท่หลางอยู่ข้างๆ มันสงสัยว่าวันนี้เจ้านายเปลี่ยนไปได้อย่างไร? มีสมบัติมาส่งถึงหน้าประตูแท้ๆ ทำไมเขาไม่รับไว้?
 “ร่มนี้จะเสียเปล่าเมื่ออยู่กับข้า  ข้าจะให้เจ้า เพราะข้าต้องการมองหาผู้สืบทอดพลังของข้า  ในชีวิตของข้า ข้าไม่สามารถไปจากโลกนี้ได้ ถ้าไม่มีผู้สืบทอด ใครจะรับมรดกนี้ ในใจข้าไม่มีอะไรต้องเสียใจ  ข้าหวังว่าเจ้าจะทำหน้าที่แทนข้าได้ ช่วยหาสตรีรุ่นเยาว์เหมือนเจ้าและให้นางรับตกทอดพลังของข้า”  ภูตไหมฟ้าส่งร่มสมบัติให้เขาเป็นครั้งที่สอง
เย่ว์หยางโบกมือ “ค้นหาผู้รับสืบทอด ข้าจะช่วยหาให้ ข้ากลัวว่าจะกลายเป็นหาคนที่ท่านไม่พอใจเอาได้  เอาอย่างนี้เมื่อข้าหาผู้รับสืบทอดที่เหมาะสม ข้าจะพานางมาอีกครั้ง ยังไม่สายเกินไปที่พานางมาพบท่าน”
ภูตไหมฟ้าพยักหน้าเข้าใจ  “ข้าเข้าใจความคิดของเจ้า  แต่ข้าไม่ต้องการให้ทายาทรับมอบวิชาของข้าเข้ามาในมิตินาฬิกาทราย  ถ้านางกลายเป็นทายาทของข้า นางอาจจะถูกกักอยู่ในนี้ตลอดไป นี่เท่ากับทำงานเสียเปล่า  ความจริงข้าบันทึกทุกอย่างไว้ในร่มชี่หลัวนี่แล้ว  ถ้าร่มชี่หลัวยอมรับคนผู้นั้น  อย่างนั้นนางจะกลายเป็นทายาทรับมอบวิชาของข้า ไม่จำเป็นต้องพานางมาที่นี่ ข้าไม่จำเป็นต้องพบกับทายาทของข้า  พิธีกรรมทางโลกเป็นเรื่องของภาพพจน์ ตราบเท่าที่นางรับตกทอดพลังและความรู้ และมีความสำเร็จในอนาคต นั่นก็ทำให้ข้าสมหวังอย่างยิ่งใหญ่ได้แล้ว”
เย่ว์หยางถามด้วยความประหลาดใจ  “ท่านไม่ต้องการให้นางเข้ามาในนี้หรือ?”
ภูตไหมฟ้ายิ้มเล็กน้อย  “หลังจากเจ้าออกไปแล้ว ข้าต้องเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งหนึ่ง หลับครั้งนี้อาจกินเวลาถึงพันปี หรือหมื่นปี ทุ ข้าไม่อะไรต้องห่วงทุกอย่างในโลกนี้ ตราบเท่าที่ในฝันข้าได้อยู่กับสามีของข้า ข้าก็รู้สึกพึงพอใจแล้ว”
นางเป็นสตรีที่โชคร้ายและงมงายในความรัก
นี่คือมุมมองที่เย่ว์หยางมีต่อภูตไหมฟ้า
แน่นอนว่าความโชคร้ายนี้ไม่ได้มาจากตัวนางเอง แต่มาจากสมบัติเทพทั้งหกที่บัณฑิตฝังดาบได้ทิ้งเอาไว้
เย่ว์หยางลังเลอยู่นานเขารับร่มที่ล้ำค่าของภูตไหมฟ้าไว้พร้อมกับความรับผิดชอบที่หนักหน่วง  เขาไม่รู้ว่าร่มชี่หลัวจะยอมรับใคร แต่มีสตรีผู้โดดเด่นหลายคนที่เหมาะอยู่เสมอ
ขณะที่เขาคิดชั่วขณะ
เมื่อเย่ว์หยางเห็นภูตไหมฟ้ากำลังจะลงไปในน้ำเพื่อเข้าสู่ห้วงนิทราต่อ เขายื่นมือห้าม  “ข้ามาที่นี่มีเรื่องสำคัญอยู่สองเรื่อง  แต่เดิมมีเพียงเรื่องเดียว  แต่หลังจากได้ยินความจริงเกี่ยวกับหุบเขาฝังดาบแล้วข้ารู้สึกว่าเป็นเรื่องจำเป็น โปรดช่วยข้าประเมินด้วยเถิด ข้ามีสมบัติเทพอยู่สามชิ้น โปรดตรวจดูด้วย นี่ใช่เป็นหนึ่งในหกสมบัติวิเศษของหมู่บ้านฝังดาบหรือไม่?”
เสี่ยวเหวินหลีรู้ใจเย่ว์หยางและรู้ว่าเย่ว์หยางยังไม่ได้รับการยอมรับจากตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้อย่างแท้จริง
 “ตราผนึกเทพ สมบัติวิเศษชิ้นที่หก?”  ภูตไหมฟ้าชำเลืองมองแล้วผงะถอยไปก้าวหนึ่ง
 “นี่คือตราผนึกเทพ หนึ่งในหกสมบัติวิเศษของใช่หรือไม่?” เย่ว์หยางอยู่ในท่ามกลางความสว่าง
 “ข้าไม่รู้ว่าหลายพันปีที่แล้วมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น  สมบัติเทพนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย  บางทีหลังจากการสู้รบที่มิอาจคาดเดาได้หลายครั้ง  บางทีอาจมีการวิวัฒนาการและกลายสภาพไปอย่างสิ้นเชิง นี่แตกต่างไปจากเมื่อก่อน” ภูตไหมฟ้ายื่นมือน้ำของนางออกมาลูบเหมือนกับมารดาลูบไล้บุตรรัก นางลูบตราผนึกเทพอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรัก  “ไม่ว่าจะกลายสภาพไปอย่างไร ข้าแน่ใจว่านี่เป็นหนึ่งในหกสมบัติวิเศษ  ในอดีตสามีของข้าเคยใช้สังหารผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์!
 “เราเรียกสิ่งนี้ว่าตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้,  ผู้อาวุโสที่เรียกว่าจักรพรรดิอวี้ผู้นี้ใช้สิ่งนี้และของศักดิ์สิทธิ์อีกสองอย่างเอาชนะศัตรูผู้แข็งแกร่งเมื่อหอทงเทียนตกอยู่ในสภาพเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย  หอทงเทียนจึงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้”  เย่ว์หยางเพิ่งเปิดเผยว่าตราผนึกจักรพรรดิอวี้ยังไม่เพียงพอ และยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงของมัน
ตราผนึกเทพนี้ใช้ฆ่าผู้ยิ่งใหญ่จากแดนสวรรค์ได้
ต่อมาจักรพรรดิอวี้ใช้สมบัติวิเศษผนึกสามจอมภพแดนสวรรค์ไว้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ในประวัติศาสตร์
ถ้าได้รับการยอมรับจากสมบัติวิเศษนี้อย่างแท้จริง เพื่อให้มันสำแดงพลังได้เต็มร้อย อย่างนั้นผู้ยิ่งใหญ่ในแดนสวรรค์จะเป็นอย่างไร?  จีอู๋ลี่คงได้กลิ่นว่าความกลัวเป็นเช่นไร?
เนื่องจากตราผนึกจักรพรรดิอวี้เป็นหนึ่งในหกสมบัติวิเศษ หลายอย่างก็คงรับมือได้ง่ายขึ้น
เย่ว์หยางเรียกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียออกมาจากโลกคัมภีร์เพื่อคารวะผู้อาวุโสภูตไหมฟ้าจากยุคก่อน

11 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

เริ่มหลอกอีกแล้วนะเจ้าเย่ว์หยาง....ครั้งดาบก็หลอกไปครั้งแล้ว..ครั้งนี้จะเอาคทาเลย

Numton กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สนุกมาก ๆ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณหลายๆ

zen zen กล่าวว่า...

ดาบเทพจักรพรรดิอวี้จะเป็นสมบัติวิเศษด้วยรึปล่าวนะ

takanari กล่าวว่า...

ดาบอยู่ที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน คทากับผนึกอยู่ที่เยว์หยางนานแล้วครับ คทาตอนแรกเต่ามังกรเอาไปรักษาตัวหลังจากนั้นก็เอามามอบให้เยว์หยาง

Mickey กล่าวว่า...

กระจกทนทุกข์ที่องค์เชี่ยนเชี่ยนชิงมาจากคุณชายฉางฟงผมงูจาก4ตระกูลใหญ่แดนสวรรค์ก็น่าจะใช่รึเปล่าครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

คฑายกให้เสวี๋ยอู่เสียแล้วไหมครับ

แสดงความคิดเห็น